คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่ 2 : ปล้นธนาคาร
“ปังๆๆๆๆๆๆ!!”
ในตอนนี้กลุ่มของจินและกลุ่มโจรปล้นธนาคารได้ยิงปะทะกันอย่างดุเดือด ทุกคนส่วนใหญ่ยังอยู่ในรถ มีแต่จินที่ลงไปจากรถแล้ว
“จิน ขึ้นรถมาก่อน!!” สการ์เล็ตตะโกนออกมา จินตอนนั้นที่เหลือบไปเห็นคนเป็นแม่ได้อุ้มเด็กหนีไปแล้ว ตัวของเขาก็รีบขึ้นรถในทันที
“เฮ้ย ทำบ้าอะไรของนายเนี่ย??” ชิดจันทร์ตะโกนถามจิน
“ก็แค่ซื้อเวลาให้เด็กปลอดภัยหน่ะ ตอนนี้เด็กไปแล้ว รีบขับออกไปดีกว่า” จินตอบ แต่พวกมันก็ระดมยิงรถกลุ่มของจินอย่างดุเดือด
“ปังๆๆๆๆๆๆ!!”
“แม่งเอ้ย” ไอรีนสบถออกมา จากนั้นเธอก็บรรจุกระสุนปืนลูกโม่ แล้วยิงสวนพวกมัน
“ปัง!!”
ไอรีนยิงเข้ากบาลของมันจนล้มลง แม่นราวกับจับวาง ส่วนอิชมาเอลเองก็ยิงกดพวกมันเอาไว้
“ดูเหมือนพวกมันจะหมดแล้วนะ” โอ้พูดขึ้น
“ไม่หรอก พวกมันอาจจะหลบในธนาคารก็ได้” มายด์พูดต่อ แต่ในขณะเดียวกัน พวกเขาเห็นตัวของซิกส์หายไปจากรถ ทุกคนในรถที่จินอยู่งงมากกว่าซิกส์ไปไหน
“เฮ้ย เจ้าซิกส์ไปไหนหล่ะ??” เคนตะถามไป และในขณะเดียวกัน พวกเขาทุกคนก็มองออกไปนอกรถ ก็พบว่าซิกส์กำลังใช้มีดปาดคอของมันคนหนึ่งนอนแน่นิ่ง พวกมันจะมาช่วยเพื่อนของมันโดยการเล็งปืนใส่ที่หลังของซิกส์ แต่จินที่เห็นก่อนก็ยิงใส่มัน
“ปัง!!”
มันถูกยิงจนล้มลง ซิกส์เองตกใจเล็กน้อย แต่จินเองก็ออกจากรถและไปหาซิกส์
“ระวังหน่อยสิ พวกมันอาจจะอยู่แถวนี้อีก” จินตอบ
“คงต้องลุยแล้วหล่ะ” ลุงบุญช่วยพูดขึ้น
“เดี๋ยวฉันช่วยยิงคุ้มกันเอง” ครูหนาพูดกับลุงบุญช่วย
“ทุกคน พอฉันให้สัญญาณ กระจายกำลังออกไปเลยนะ” อิชมาเอลพูดขึ้นก่อนที่เธอจะใส่กระสุนตับใหม่ จากนั้นไม่นานนัก เธอก็ยิงใส่พวกมัน
“ปังๆๆๆๆ!!”
ทุกคนในรถทั้งสองคันรีบลงไปในทันที ก่อนที่พวกเขาจะแยกกระจายกำลังกันออกไปเพื่อป้องกันไม่ให้โดนพวกมันล้อม ตัวของจินรีบวิ่งไปที่ร้านที่แม่ลูกคู่เดิมหลบอยู่
“ป้า รีบพาลูกหนีไปนะครับ” จินพูดขึ้น จากนั้นไม่นานนัก จินก็ช่วยยิงสกัดพวกมันเอาไว้ แต่กระสุนของจินก็หมดพอดี
“แชะ!!”
ตัวของจินตกใจ มันคนหนึ่งจะยิงใส่จิน แต่ซิกส์ก็วิ่งเข้าไปและจ้วงมันเข้าที่ชายโครงด้วยมีด
“ฉึก!!”
“ปังๆๆๆๆๆๆๆ”
“ไปครับ!!” จินบอกกับแม่ลูกคู่นั้น แม่ลูกคู่นั้นรีบหนีไปตามที่จินบอก และในขณะเดียวกัน อิชมาเอลก็วิ่งมาที่ร้านที่จินอยู่ เนื่องจากมันเป็นจุดตั้งกำลังป้องกันที่ดี
“ระวัง พวกมันอาจจะอยู่ในธนาคารก็ได้” อิชมาเอลบอกกับจิน
“ถ้าอย่างงั้นก็ต้องบุกเข้าไป” ลุงบุญช่วยพูดขึ้น
“เฮ้ย โอ้ ปิดกล้องวงจรปิดแถวนี้ได้หรือเปล่า??” มายด์สะกิดถามโอ้ที่ตอนนี้กำลังกดไอแพดของเขาอยู่
“ฉันดับตั้งนานแล้ว แต่คงได้ไม่เกินชั่วโมง” โอ้ตอบ
“ชิดจันทร์ เธอไปหลบกับครูหนาก่อนดีกว่า” ไอรีนบอกกับเธอ ในขณะที่ยิงปืนลูกโม่ใส่พวกมันที่อยู่ในธนาคาร ในตอนแรกชิดจันทร์ก็ไม่อยากจะไป แต่เมื่อโดนยิงกดมากขึ้น เธอก็รีบวิ่งหนีไปหาครูหนาที่กำลังนั่งถือปืนอยู่ในทันที
“มาหลบหลังฉันนี่ ใช้ปืนเป็นหรือเปล่า??” ครูหนาถามชิดจันทร์ไป
“หนูยิงเป็นที่ไหนหล่ะคะ??” ชิดจันทร์ถามกลับไป
และที่ด้านนอก
“พวกมันเหลือไม่กี่คนแล้วหล่ะ” สการ์เล็ตพูดขึ้น
“ก็บุกเข้าไปเลย..” เคนตะยังพูดไม่ทันจบ ในตอนนั้น พวกมันคนหนึ่งก็จับเอาคนในธนาคารออกมา จากนั้นก็ตะโกนออกมา
“พวกมึงถอยไปให้หมด ไม่งั้นตัวประกัน ตาย!!”
“ระยำเอ้ย” ตัวของจินตอนนั้นที่กระสุนหมดก็ได้แต่หาที่หลบก่อน แต่ไม่นานนัก
“ปัง!!”
ไอรีนยิงใส่โจรคนนั้นจนล้มลงกับพื้น ในขณะเดียวกัน มอเตอร์ไซค์คันหนึ่งก็ขี่เข้ามาและชักปืนจะยิงกลุ่มของจิน อิชมาเอลเห็นเลยยิงใส่มันก่อนจนมันร่วง
“โคร้ม!!” หลังจากนั้นไม่นานนัก สถานการณ์ทุกอย่างก็ดูเหมือนจะสงบลงแล้ว ตัวของจินเดินออกมาดูเหตุการณ์ด้านนอกในทันที
“เป็นยังไงกันบ้างทุกคน??” จินถามไป
“โห ถามมาได้พี่ชาย เกือบตายเพราะพี่เลยนะเนี่ย” โอ้ตอบแบบกวนๆ แต่ซิกส์เองจะมองหน้าโอ้แบบหาเรื่อง ทำเอาโอ้เงียบไป แต่ในตอนนั้นเอง
“เฮ้ ทุกคน ดูนี่ เรารวยแล้ว!!” มายด์ตะโกนออกมา จากนั้นก็ลากเอากระเป๋าที่พวกมันใส่เงินที่ปล้นมาได้เอาไว้ และในขณะเดียวกัน ครูหนากับชิดจันทร์ก็รีบลงมาจากรถอย่างรวดเร็ว
“มีอะไรกันเหรอทุกคน??” ครูหนาถามไป
“โห นี่เงินจริงๆเหรอคะ เรารวยแล้ว” ชิดจันทร์พูดอย่างตื่นเต้น
“ผมไม่ได้มาปล้นเงินคนบริสุทธิ์นะครับ” จินพูดขึ้นมา
“แต่ว่า ถึงยังไงโลกมันก็จะแตกอยู่แล้ว นายจะกลัวอะไรหล่ะ??” เคนตะถามจินไป
“แต่ถ้าเราทำแบบนี้ มันก็ไม่ต่างอะไรจากโลกแตกหรอก และเราก็จะได้ชื่อว่ามีส่วนทำให้โลกแตกด้วย จะเอาแบบนั้นเหรอ??” จินตอบอย่างหนักแน่น
“ฉันเห็นด้วยหว่ะ” ซิกส์พูดขึ้นมา ทำเอาทุกคนถึงกับหันไปมองหน้าซิกส์
“ฉันเองก็ไม่อยากจะปล้นเงินคนไม่รู้อิโหน่อิเหน่หรอกนะ” ไอรีนพูดเสริม
“เอาเถอะ ว่าแต่ ไอ้พวกนี้มันเป็นใครกันหล่ะ??” อิชมาเอลถามขึ้นมา
“เราลองสืบอะไรจากพวกมันได้หรือเปล่า??” ลุงบุญช่วยถามขึ้นมา
“ไม่แน่นะ ต้องลองค้นตัวพวกมันก่อน” สการ์เล็ตพูดต่อ และในตอนนั้น ตัวของโอ้ก็รีบหยิบเอาโทรศัพท์ในร่างของมันคนหนึ่งขึ้นมา จากนั้นก็ลองหาดึงข้อมูลทุกอย่างของมันขึ้นมา
“ไปเอาเครื่องพวกมันมาให้หมดได้มั้ย??” โอ้ถามขึ้น ไม่นานนัก ทุกคนก็เดินไปค้นหาโทรศัพท์ในตัวของพวกมัน บางคนก็มีกระเป๋าตังค์ด้วย ก็หยิบเอากระเป๋าตังค์ของพวกมันมา เพื่อสืบหาความลับของพวกมันเพิ่มเติม ตัวของจินค้นกระเป๋าตังค์ของคนที่จับตัวประกันไว้ พบว่าข้างในมีเงินราว 1 หมื่นกว่าๆ พร้อมกับบัตรประชาชนของมัน
“อะไรวะเนี่ย มีเงินตั้งเยอะ ยังจะมาปล้นเขากินอีก แล้วนี่อะไรเนี่ย คนในบัตรนี่อายุยังไม่ถึง 18 เลยนะ??” จินถามขึ้นมา
“เหมือนกันเลย ไอ้นี่ก็อายุ 16 เอง” สการ์เล็ตพูดเสริมหลังจากที่ค้นกระเป๋าตังค์ของมัน
“โอ้ แล้วนี่นายจะยังไงต่อ??” มายด์ถามโอ้ไป
“ฉันจะรวบรวมข้อมูลของพวกมัน แล้วหาดูว่าเป็นใคร” โอ้ตอบ หลังจากที่ได้โทรศัพท์ของพวกมันมามากแล้ว และในตอนนั้น มายด์ก็เห็นมอเตอร์ไซค์ที่ล้มของมัน โอ้รีบไปยกขึ้นมาในทันที และพบว่ามันเป็นรุ่นท็อปมากๆ มายด์รีบขี่มันมาหาทุกคนในทันที
“โห อะไรเนี่ย ได้ของเล่นใหม่เหรอพวก??” เคนตะถามไป
“ดูเหมือนว่า ไอ้พวกนี้มันน่าจะมีทุนหนาดีแหะ” อิชมาเอลพูดขึ้น
“ก็อย่างที่บอก พวกมันอาจจะทำเอาสนุกก็ได้” ไอรีนพูดเสริม
“เราต้องรู้ให้ได้ว่าไอ้พวกนี้เป็นใคร พวกนี้ยังวัยรุ่นทั้งนั้นเลย” ครูหนาพูดขึ้น
“จะใครก็ช่างเถอะค่ะ หนูอยากไปทะเลแล้ว” ชิดจันทร์พูดอย่างออดอ้อน
“งั้นเธอไปรอบนรถก่อนก็ได้นะ” สการ์เล็ตบอกกับชิดจันทร์
“แล้วของของไอ้พวกนี้จะว่าไงหล่ะ??” ลุงบุญช่วยถามไป
“ผมว่า เงินกับของของพวกมัน เราเอามาดีกว่า แต่อย่าเอาเงินธนาคารไปเลย ถือว่าเป็นค่าเหนื่อยพวกเรา” จินตอบ และในขณะเดียวกัน ตัวของโอ้เองก็ทำอะไรบางอย่างกับโทรศัพท์ของพวกมัน จากนั้นก็พูดขึ้น
“ทุกคน ฉันแฮ็กเงินในบัญชีของพวกมันมาได้ รวมๆแล้ว 5 แสนเลย ฉันจะเอาไปเปลี่ยนเป็นเหรียญคริปโตก่อนแล้วกัน” โอ้บอกกับทุกคน
“อยากทำอะไรก็ทำเลย ฉันได้ของเล่นใหม่แล้ว BMW Motorrad 1600 ซะด้วย แสดงว่าไอ้พวกนี้มันต้องรวย” มายด์พูดขึ้น
“เออ เอาไปเปลี่ยนทะเบียนด้วยหล่ะ ฉันมีทะเบียนปลอมอยู่ด้านหลังรถ” เคนตะบอกกับมายด์
“แล้วไอ้พวกนี้เอาไงต่อหล่ะ??” ซิกส์ถามทุกคนไป
“ทิ้งไว้แบบนี้หล่ะ ให้พวกตำรวจมาจัดการ” ครูหนาตอบ
“แล้วนี่ พวกตำรวจยังไม่มาอีกเหรอ??” ลุงบุญช่วยถามไป ในขณะที่ตอนนี้ชาวบ้านแถวนั้นก็เริ่มทยอยออกมาดูเหตุการณ์กันแล้ว
“เรารีบไปกันดีกว่า” ไอรีนพูดขึ้น
“โอ้ เอาของของพวกมันไปให้หมด ไปทำลายที่อื่น พวกเรารีบไป” อิชมาเอลพูดขึ้น
“นั่นสิคะพี่ เราไปกันดีกว่า” ชิดจันทร์พูดขึ้นพลางเกาะแกะสการ์เล็ตไปด้วย
“โอเค เก็บของที่เราเอามาได้ทั้งหมดไป อย่าทิ้งหลักฐานหล่ะ” สการ์เล็ตตอบ จากนั้นไม่นานนัก ทุกคนก็รีบไปขึ้นรถในทันที ส่วนมายด์นั้นก็ขี่มอเตอร์ไซค์ใหม่ของเขาออกไป
บนทางหลวงซึ่งกำลังจะไปยังภาคตะวันออก จุดพักรถแห่งหนึ่ง กลุ่มของจินขับเข้ามาจอดกันชั่วคราวเพื่อพักรถ จากนั้นไม่นานนัก ตัวของโอ้ก็หยิบเอาปิ๊บใบหนึ่งออกมา จากนั้นก็เอาของทุกอย่างของพวกมัน ทั้งกระเป๋าตังค์และมือถือของพวกมันที่ฉกมาได้มาใส่ปิ๊บ จากนั้นก็เอาน้ำยาอะไรบางอย่างราดลงไปอย่างรวดเร็ว ตัวของจินก็ได้แต่ยืนมอง
“มันถือสารทำลายลายนิ้วมือหน่ะ” สการ์เล็ตบอกกับจิน
“โอเคครับ ว่าแต่ เรารู้หรือเปล่าว่าพวกมันเป็นใคร??” จินถามทุกคนไป
“ฉันลองสืบดูแล้ว ดูเหมือนว่าพวกมันจะเป็นนักเรียนโรงเรียนเดียวกันหมดเลย มีบางส่วนที่ไม่ใช่ ไอ้พวกนี้มันต้องรับคำสั่งใครบางคนแน่ๆ เพราะฉันดูประวัติการโทรของพวกมันหมดแล้ว แต่ฉันไม่รู้ว่าปลายสายของมันเป็นใคร แต่มันต้องไม่ใช่ตัวการใหญ่ เพราะมันคงไม่ลงมาติดต่อลูกน้องเอง” โอ้ร่ายยาวตอบ
“แต่เรายังไม่รู้สินะว่าพวกมันเป็นใคร” มายด์ถามในขณะที่กำลังเปลี่ยนป้ายทะเบียนรถมอเตอร์ไซค์ รวมถึงพ่นสีเพื่อซ่อมแซมรถเพิ่มเติม
“แต่ถ้าให้ฉันเดา ไอ้พวกห่านี่มันต้องมั่นใจว่ามันเส้นใหญ่ระดับนึงแน่ๆ” เคนตะพูดต่อ
“เฮ้อ นี่ไม่กี่วันเองนะเนี่ยที่มีข่าววันโลกแตกออกมา” ครูหนาพูดขึ้น
“และหลังจากนี้ ผมว่ามันจะมากขึ้นอีก” ลุงบุญช่วยพูดเสริม
“ไม่รู้ว่าที่พัทยาจะเจอกับอะไรอีกนะเนี่ย” ไอรีนพูดขึ้น
“หนูกลัวจังเลยค่ะพี่” ชิดจันทร์พูดขึ้น
“ถ้าพวกมันมาก็เล่นกับพวกแม่งซะ” ซิกส์พูดขึ้นอย่างน่ากลัว
“เอาเถอะ ตอนนี้เราไปถึงโรงแรมก่อนค่อยว่ากัน จิน ฉันหวังว่านายจะไม่ทำอะไรเสี่ยงๆอีกนะ” อิชมาเอลพูดกับจิน ตัวของจินก็ได้แต่นิ่งไป
ณ โซนคิวรถตู้แห่งหนึ่งในกรุงเทพ คิวรถตู้ซึ่งมีรถตู้เข้าออกมากมายเพื่อเดินทางไปยังจังหวัดอื่น ตัวของมุกเองตอนนี้ก็เดินทางมาถึงคิวรถตู้ โดยที่ตัวของมุกเองก็ยังคิดไม่ออกเลยว่าจะไปที่ไหน
“พัทยา เหลืออีก 2 ที่สุดท้ายแล้วคร้าบ!!” เสียงของพนักงานคิวรถตู้พูดขึ้น ตัวของมุกเองยืนคิดอยู่นานสองนาน กระเป๋าที่เธอสะพายก็ค่อนข้างหนักอึ้งพอสมควร เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เพื่อเช็คเงินในบัญชี ซึ่งมีอยู่ประมาณ 3 หมื่นกว่าๆ มันเป็นเงินเก็บทั้งชีวิตของเธอที่ทำงานพยาบาลมา
“น้องๆ จะไปด้วยหรือเปล่าครับ??”
เสียงของพนักงานคิวรถตู้ตะโกนบอกกับมุกที่กำลังยืนคิดอยู่นานสองนานตรงนั้น มุกเองได้สติ เธอเลยตัดสินใจเดินเข้าไปหาพนักงานคิวรถตู้ในทันที
“พี่คะ ไปพัทยานี่เท่าไหร่คะ??” มุกถามเขาไป
“150 บาทครับน้อง”
“อ่า คือว่า” มุกเองดูลังเลเล็กน้อย แต่เธอก็พูดขึ้นมา
“สแกนจ่ายได้หรือเปล่าคะ??”
“ได้อยู่แล้วครับ” พนักงานคิวรถตู้ตอบ ก่อนที่ไม่นานนัก มุกจะเอาโทรศัพท์มาสแกนจ่ายเงินกับพนักงานคนนั้น จากนั้นเธอก็ขึ้นรถตู้ในทันที ซึ่งรถตู้ในตอนนี้ก็เต็มไปด้วยผู้โดยสารมากหน้าหลายตา เนื่องจากว่าวันนี้เป็นวันหยุดและพ่วงวันหยุดยาวด้วย
ณ ห้องเช่าเล็กๆห้องหนึ่งในกรุงเทพ ห้องเช่าของโฮม ที่ตอนนี้อยู่กับน้องสาวของเขา เขาขี่มอเตอร์ไซค์มาจอดที่หน้าห้องเช่า ก่อนที่เขาจะรีบเดินเข้าไปที่ห้องของเขา ซึ่งน้องสาวของเขากำลังรออยู่ น้องสาวเขาเมื่อเจอกับเขากับเขาก็ทักทายเขา
“กลับมาแล้วเหรอคะพี่??”
“อืม วันนี้มีอะไรหรือเปล่า??” โฮมถามไป
“ที่โรงเรียนเริ่มทวงค่าเทอมแล้วค่ะ” น้องสาวของโฮมที่ชื่อเทียนตอบ
“อืม เอานี่” โฮมพูดขึ้นและยื่นเอาเงินให้กับเทียนไป
“พี่ไปเอาเงินมาจากไหนคะ??” เทียนถามอย่างสงสัย แต่โฮมก็ทำเป็นเหมือนไม่ได้ยิน จากนั้นเขาก็ถามน้องสาวของเขา
“นี่ เราอยากไปเที่ยวทะเลหรือเปล่าหล่ะ ไหนๆก็หยุดยาวแล้ว ไปวันนี้เลย??” โฮมถามเทียนไป
“โหพี่ ไปรวยมากจากไหนเนี่ย ถึงชวนหนูเที่ยวเนี่ย หนูไม่อยากไปหรอก” เทียนตอบ
“เอาน่า พี่อยากชวนเราเที่ยวมานานแล้ว อย่ามัวแต่อิดออดเลย ไปเก็บเสื้อผ้าเถอะ” โฮมพูดขึ้น เทียนเองแปลกใจเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะรีบไปเก็บกระเป๋าของเธอในทันที ความจริงแล้วโฮมมีจุดประสงค์อื่นมากกว่า เขาหยิบโทรศัพท์มือถืออ่านแชทของเพื่อนเขาที่ได้เสียชีวิตไปแล้วดู นั่นก็ทำให้รู้ว่าโฮมเองก็เป็นคนที่รู้ความลับว่าโลกกำลังใกล้จะถึงจุดจบ
“อ้าว แล้วพี่ไม่เก็บของเหรอ??” เทียนถามโฮมไป โฮมเองก็วางมือถือแล้วเก็บของในทันที ความจริงแล้วตัวโฮมเองก็ไม่ได้มีเงินอะไรมากขนาดนั้น แต่ไหนๆโลกก็ใกล้จะถึงจุดจบแล้ว ได้ทำอะไรก่อนที่เขาจะทำซักหน่อยก็ดี ไม่นานนัก ตัวของเทียนก็เก็บกระเป๋าเสร็จเรียบร้อย
“เสร็จแล้วค่ะพี่” เทียนบอกกับโฮม โฮมเองก็ใช้เวลาไม่กี่นาทีก็เก็บของเสร็จเหมือนกัน
“โหพี่ ไปแค่ไม่กี่วันเองนะพี่ ทำอย่างกะจะไปเป็นเดือน??” เทียนเห็นของเยอะแยะที่โฮมเอาไปก็พูดขึ้นมา
“เอาน่า ไหนๆก็ได้ไปทั้งทีอ่ะนะ” โฮมบอกกับน้องสาวของเขา
ณ ร้านอาหารร้านหนึ่ง ตัวของชิริวลากสังขารตัวเองมาหาอะไรกินช่วงเช้า หลังจากที่ฟัดกับกลุ่มวัยรุ่นขี้ยาในพื้นที่ เขาเดินเข้าไปในร้าน ในระหว่างที่เสียงไซเรนรถตำรวจก็ขับผ่านร้านอาหารของเขา ชิริวไปนั่งโต๊ะตัวหนึ่งซึ่งเป็นที่นั่งสำหรับคนเดียว และพนักงานของร้านก็เดินเข้ามาหาเขา เพื่อมารับออเดอร์จากเขา
“สวัสดีค่ะ รับอะไรดีคะ??”
“ขอข้าวผัดหมูจานนึงครับ” ชิริวตอบเป็นภาษไทยที่ไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ แต่พนักงานก็พอจะฟังเข้าใจ
“พูดอังกฤษก็ได้นะคะ” พนักงานพูดขึ้น
“ไม่ดีกว่าครับ ผมอยากได้น้ำด้วยครับ” ชิริวพูดขึ้น ก่อนที่พนักงานจะเดินเข้าไปในครัว ส่วนตัวของชิริวเองก็นั่งรอไปเรื่อย ในระหว่างนั้นเขาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูด้วย
“เกิดเหตุก่อการร้ายในโอซาก้า..”
“โตเกียวเกิดเหตุระเบิด..”
“อะไรวะเนี่ย ขนาดนี้เลยเหรอ??” ชิริวสบถออกมาเล็กน้อย ในขณะเดียวกัน เขาก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นแถวนั้นด้วย
“ปัง!!”
ชิริวตกใจเล็กน้อย เขาเกือบจะหยิบปืนพกของเขาขึ้นมาแล้ว แต่ก็ต้องเก็บไปก่อน เพราะแถวนั้นมีคนเยอะ และไม่นานนัก ข้าวผัดของเขาก็มาพอดี
ณ สตูดิโอชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงเทพ ในตอนนี้น้ำฝนมาถึงกองถ่ายรายการโทรทัศน์ ซึ่งวันเสาร์ช่วงเช้าจะเป็นช่วงพีคสำหรับรายการโทรทัศน์ น้ำฝนเองก็ทำงานของเธอไปตามปกติ และในตอนนั้นเอง ลูกน้องของเธอคนหนึ่งก็รีบวิ่งมาเรียกเธออย่างรวดเร็ว
“พี่น้ำฝนคะ คุณดาว โปรดิวเซอร์เราเรียกค่ะ”
“อ้อ เดี๋ยวฉันไป” น้ำฝนพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ จากนั้นเธอก็เดินออกจากพื้นที่กองถ่ายไป ไม่นานนัก เธอก็เจอกับหญิงวัยกลางคนคนหนึ่งกำลังยืนคุยกับเด็ก Staff ของรายการ เมื่อเธอเจอกับน้ำฝน เธอก็รีบเดินมาคุยกับน้ำฝนในทันที
“เฮ้ ฝน ฉันได้ข่าวว่าเธอจะลาออก จะไปไหนหล่ะ??”
“ก็ มีเรื่องต้องไปทำนิดหน่อย เหตุผลส่วนตัวค่ะ” น้ำฝนตอบ
“อ้อ ฉันไม่อยากให้เธอไปเลย เอางี้ ฉันให้เธอไปพักก่อนก็ได้นะ”
“โอ๊ย ไม่เป็นไรหรอกค่ะ รบกวนคุณดาวเปล่าๆ” น้ำฝนพูดต่อ
“เอาน่า ไม่เป็นไร..” ยังไม่ทันที่คุณดาวจะพูดจบ จู่ๆ พวกเธอก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นแถวสตูดิโอ
“เออ ที่นี่มีถ่ายละครด้วยเหรอคะ??” น้ำฝนถามไป
“ไม่นะ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เอาเถอะ ฉันให้เวลาเธอไปตัดสินใจก่อนแล้วกัน ไม่ต้องรีบนะ เดี๋ยวฉันจะไปคุยกับคุณศิลาก่อนนะ” คุณดาวพูดขึ้น จากนั้นเธอก็เดินออกไป ปล่อยให้ตัวน้ำฝนยังยืนงงงวยอยู่ตรงนั้น ในขณะที่เสียงปืนก็ดังขึ้นเรื่อยๆ
“ถ่ายละครเรื่องอะไรกันเนี่ย??” น้ำฝนสบถออกมาอย่างสงสัย
กลับมายังพัทยา ตึกที่ทำการของมูลนิธิ AFW ตัวของอดาเลนเองกำลังนั่งตรวจสอบเอกสารอยู่ในห้อง ในขณะเดียวกัน พนักงานของมูลนิธิก็เดินเข้ามาหาเธอในห้อง
“คุณอดาเลนคะ คุณสมเกียรติเดินทางมาถึงแล้วค่ะ”
“อืม เชิญเข้ามาเลย” อดาเลนตอบ จากนั้นไม่นานนัก พนักงานของมูลนิธิก็เชิญชายคนหนึ่งเข้ามาในห้องทำงานของอดาเลน ตัวของอดาเลนก็ลุกขึ้นต้อนรับผู้ชายคนนั้น
“คุณอดาเลน เดินทางมาถึงไทยเลยเหรอครับเนี่ย??” สมเกียรติถามอดาเลน
“ก็มีธุระนิดหน่อยค่ะ เชิญนั่งก่อนสิคะ” อดาเลนพูดขึ้น และนายสมเกียรติก็นั่งลงตามที่อดาเลนบอก และพนักงานมูลนิธิก็รีบเอาน้ำชามารินให้กับนายสมเกียรติในทันที
“ช่วงนี้การระดมทุนเป็นยังไงบ้างคะ??” อดาเลนถามไป
“ช่วงนี้เศรษฐกิจแย่ แต่เงินบริจาคก็ยังทรงตัวครับ ตั้งแต่มีข่าวลือเกี่ยวกับ แบบว่า โลกแตกหน่ะครับ ตอนนี้ทางรัฐบาลก็กำลังจัดการคนที่ปล่อยเฟคนิวส์พรรคนี้อยู่ครับ” สมเกียรติตอบ
“ฉันเข้าใจ แต่เรื่องโลกแตกเนี่ย เอาจริงๆ เราต้องยืดระยะเวลามันออกปให้ได้มากที่สุด ไม่อย่างงั้นทุกอย่างบรรลัยหมดแน่” อดาเลนพูดขึ้น
“เออ แล้วเราจะทำยังไงหล่ะครับ??”
“ฉันมีแผนไว้แล้วค่ะ ฉันเลยเดินทางมาเมืองไทยหน่ะ งานนี้คุณคงต้องช่วยฉันหน่อย” อดาเลนบอกกับเขาไป
กลับมายังโบสถ์ของกลุ่มกางเขนดำ ในวันนี้ตัวของคาลลาฮานกำลังยืนแต่งตัวอยู่ในห้อง ในขณะเดียวกัน บาทหลวงซึ่งเป็นลูกน้องของเขาก็เดินเข้ามาและรายงานอะไรบางอย่างกับเขา
“ขออนุญาตครับ”
“มีอะไรหล่ะ??” คาลลาฮานถามกลับไป
“เราจับพวกนอกรีตกลับมาได้อีกแล้วครับ”
“ดี พาฉันไปดูพวกมัน” คาลลาฮสานพูดขึ้น ก่อนที่ลูกน้องของเขาจะพาคาลลาฮานออกจากห้อง และเดินลงไปที่ชั้นล่าง ไปที่หน้าโบสถ์ ซึ่งตอนนั้น พวกเขาก็พบกับกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่ถูกจับมัดเอาไว้ มีทั้งผู้ชาย ผู้หญิง และเด็ก ส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติ มากกว่าจะเป็นชาวไทย
“มีคนท้องถิ่นน้อยแหะ” คาลลาฮานพูดขึ้น
“ครับ เราพยายามจะยุ่งกับคนท้องถิ่นให้น้อยที่สุด ไม่อย่างงั้น ทางการไทยอาจจะมาที่นี่แน่ครับ”
“ทำไมเราต้องกลัวพวกนอกศาสนาด้วยหล่ะ อย่าลืมสิ เรากำลังทำสงครามศักดิ์สิทธิ์อยู่นะ ใครก็ตามที่อยู่ตรงข้ามกับพระเจ้า มันต้องไม่รอด” คาลลาฮานตอบ
“ผมเข้าใจครับ แต่ตอนนี้กองกำลังของเรายังไม่พร้อมจะรบกับทางการไทยนะครับ”
“แค่ตอนนี้ แต่อีกไม่นานหรอก” คาลลาฮานตอบ
“ปล่อยพวกเราไปเถอะ ฮือๆ” ผู้หญิงคนหนึ่งร้องไห้ออกมา
“เฮ้ย กูเป็นคนไทยนะเว้ย ปล่อยพวกกูไป ไม่งั้นชีวิตพวกมึงไม่ได้ตายดีแน่!!” ชายอีกคนตะโกนออกมา
“เอาพวกมันไปตรึงกางเขนไว้ เตรียมพิธีเผาด้วยไฟล้างบาปของเรา” คาลลาฮานพูดขึ้น
“ฮือๆๆ ได้โปรด ไว้ชีวิตพวกเราเถอะ!!”
“ไม่มีการไว้ชีวิตพวกนอกรีตหน้าไหนทั้งนั้น!!” คาลลาฮานพูดย้ำ และในขณะเดียวกัน ลูกน้องของคาลลาฮาคานคนหนึ่งก็เดินเข้ามาหาเขา โดยที่เอาไอแพดเครื่องหนึ่งมาด้วย
“ท่านครับ ท่านวลาเดียสติดต่อมาครับ” คาลลาฮานได้ยินดังนั้นก็รีบติดต่อกับวลาเดียสในทันที
“ท่านครับ”
“ว่าไงหล่ะ กำลังประหารพวกนอกรีตอยู่เหรอ??” วลาเดียสถามไป
“ก็นิดหน่อยครับท่าน ว่าแต่ท่านมีอะไรหรือเปล่าครับ??” คาลลาฮานถามไป
“ตอนนี้ฉันได้ยินมาว่าทางการเริ่มระแคะระคายการมีอยู่ของพวกนายแล้ว”
“ไม่ต้องห่วงครับท่าน กระผมรับรองว่าจะไม่เหลือร่องรอย” คาลลาฮานตอบ
“อืม แล้วก็ระวังด้วยหล่ะ พวกมันอาจจะส่งกำลังมาป่วนก็ได้” วลาเดียสพูดขึ้น
“ไม่ต้องห่วงครับท่าน” คาลลาฮานตอบ ก่อนที่สัญญาณภาพจะตัดไป และเขาก็หันไปคุยกับลูกน้องของเขา
“ฉันเปลี่ยนใจแล้ว เก็บคนที่เป็นคนไทยไว้ก่อน ที่เหลือจัดการตามเดิม” คาลลาฮานพูดขึ้น
“รับทราบครับ”
“อืม แล้วเตรียมกองกำลังของเราให้พร้อมหล่ะ ตอนนี้ไอ้พวกนอกรีตมันเริ่มรู้การมีอยู่ของพวกเราแล้ว เราจะสู้กับพวกมัน” คาลลาฮานตอบ ก่อนที่ตัวของเขาจะเดินกลับเข้าไปในโบสถ์ ส่วนบาทหลวงคนอื่นๆก็พากันเอาตัวคนที่พวกเขาจับมาได้ไปเตรียมตรึงกางเขนเอาไว้
กลับมายังที่ทำการเมืองในท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมาร์ ตอนนี้คิวชูและกองกำลังของเธอได้ควบคุมเมืองเอาไว้ กองกำลังของเธอได้ตั้งอาวุธและแนวรับเอาไว้ เผื่อว่ากองกำลังของเมียนมาร์จะนำกำลังกลับมายึดคืน คิวชูเดินออกมาด้านนอกที่ทำการ เพื่อพบกับนายทหารของเธอที่กำลังยืนรออยู่แถวนั้น
“ท่านครับ”
“อืม ตอนนี้สถานการณ์เป็นยังไงบ้าง??” คิวชูถามไป
“ตอนนี้เราติดตั้งอาวุธ และวางแนวรับเอาไว้แล้ว แต่เรื่องทางฝั่งประเทศไทยจะเอายังไงต่อล่ะครับ??” นายทหารของเธอถามไป
“เบื้องต้นก็เปิดชายแดนให้ทางฝั่งไทยซื้อขายก่อน แค่พวกเราต้องเก็บซื้อขายหน่ะ” คิวชูตอบ
“แต่ทางการไทยจะยอมหรือเปล่าไม่ทราบเหมือนกันนะครับ??” นายทหารคนนั้นพูดขึ้น
“เอาน่า ตอนนี้สถานการณ์ในประเทศไทยเองก็ยังวุ่นวาย พวกนั้นคงไม่มีเวลามาจับตามองเราหรอก แล้วนี่ เราจัดการตามแผนการของเราหรือยัง??” คิวชูถามไป
“ตอนนี้เราเริ่มให้คนของเราในประเทศไทยเคลื่อนไหวแล้วครับ แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้ รัฐบาลไทยเริ่มมีการระแคะระคายเรื่องวันสิ้นโลกแล้วครับ”
“พวกนั้นคงต้องปิดข่าวแน่ๆ ไม่อย่างงั้นจะวุ่นวายกันทั้งประเทศ แล้วนี่ มีอะไรเพิ่มเติมหรือเปล่า??” คิวชูถามไป
“ตอนนี้คุณอดาเลนเดินทางมาถึงประเทศไทยแล้วครับ”
“อ้อ อย่างงั้นเหรอ นายพอจะหาวิธีให้ฉันข้ามไปฝั่งไทยได้หรือเปล่า??” คิวชูถามคนของเธอ
“ได้ครับ ผมจะเตรียมพาสปอร์ตเอาไว้ให้ด้วยครับ”
“ดี ฉันว่าจะข้ามไปฝั่งไทยซักหน่อย เตรียมความพร้อมด้วยแล้วกัน” คิวชูสั่งลูกน้องของเธอ
กลับมายังคฤหาสน์ของลี่หยาง ในตอนนี้ตัวของเธอได้นัดพบกับใครบางคน โดยการชวนเขามาที่บ้าน ทั้งคู่พูดคุยกันในห้องรับแขกของคฤหาสน์ โดยที่คนของเธอก็คอยคุ้มกันเธอไปด้วย
“ตอนนี้ยอดจองสินค้าของเรามากขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็นั่นหล่ะครับ ตอนนี้พวกเรากำลังโดนกวาดล้างครับ”
“แปลว่า ตอนนี้พวกเรากำลังโดนเจ้าถิ่นเล่นงาน พอจะรู้หรือเปล่าว่ามันเป็นใคร??” ลี่หยางถามไป
“นี่เลยครับ ครอบครัวพวกพุทธกัลยา”
“ครอบครัวงั้นเหรอ??” ลี่หยางถามไป
“พวกมันคุมเครือข่ายยาเสพติดใหญ่ในเมืองไทยมานาน หน้าฉากเป็นนักธุรกิจถูกกฎหมาย ลูกชายมันก็เป็นตำรวจกองปราบด้วยครับ” ชายคนนั้นตอบ
“อ้อ ก็พอเข้าใจได้ แล้วนี่ แปลว่ามันต้องจ่ายแพงมากๆ ถึงอยู่มาได้ขนาดนี้” ลี่หยางพูดขึ้น
“ใช่ครับ พวกมันมีอิทธิพลมาก และสร้างเครือข่ายมานานหลายปีมาก เอาจริงๆ เราจะโค่นพวกมัน คงต้องใช้เวลาหน่อยครับ” ชายคนนั้นพูดกับลี่หยาง
“ฉันไม่กลัวพวกมันหรอก ของของฉันดีกว่า ถึงยังไงคนก็ต้องการของๆฉัน” ลี่หยางพูดขึ้น
“แล้วคุณลี่หยางจะเอายังไงต่อครับ??”
“ช่วงนี้สินค้าจีนกำลังตีเข้าตลาดไทย เราจะใช้โอกาสนี้ แทรกของๆเราเข้าไปในสินค้าที่มาจากจีนก็สิ้นเรื่อง ฉันมีพรรคพวกส่งออกที่จีน ฉันจะจัดการเรื่องนี้เอง” ลี่หยางตอบ
ณ โรงแรมหรูแห่งหนึ่งในกรุงเทพ รถหรูคันหนึ่งก็ขับเข้ามาที่หน้าโรงแรม และเมื่อรถจอด พนักงานโรงแรมก็เปิดประตูรถคันนั้น ซึ่งคนในรถก็คือไม้และโรสนั่นเอง พวกเขาทั้งสองคนควงกันเดินเข้าไปในโรงแรม แต่ก็ไม่ลืมที่จะควักเงินออกมาเป็นทิปให้กับพนักงานโรงแรมด้วย และเมื่อทั้งคู่เดินเข้ามาในโรงแรม ชายใส่สูทคนหนึ่งก็เดินเข้ามาหาไม้และโรส
“สวัสดีครับ”
“ท่านติวัฒน์มาหรือยัง??” ไม้ถามชายคนนั้นไป
“ท่านกำลังรออยู่เลยครับ”
“ดี พาไปเลย” ไม้พูดจบ ชายคนนั้นก็พาไม้และโรสเดินเข้าไปในห้องอาหาร VIP ห้องหนึ่งในโรงแรม ในโรงแรมตอนนี้ยังมีคนไม่มาก ส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าชาวต่างชาติ และไม่นานนัก เมื่อไม้และโรสเดินเข้ามาในห้อง VIP พวกเขาก็เจอกับชายอ้วนคนหนึ่งที่กำลังนั่งอยู่ในห้อง ชายอ้วนคนนั้นลุกขึ้นและไปหาไม้ในทันที
“อ้าว คุณนิชาภัทร”
“ท่านติวัฒน์ครับ” ไม้พูดทักทายเขา ไม่นานนัก พวกเขาทั้งคู่ก็นั่งลงในทันทีทั้งสองฝ่าย
“เออ ท่านคะ ท่านช่วยให้ลูกน้องของท่านออกไปก่อนได้หรือเปล่าคะ??” โรสถามติวัฒน์ไป
“เอ้ย พวกลื้อออกไปก่อน!!” ติวัฒน์พูดกับลูกน้องของเขา จากนั้นลูกน้องของเขาก็เดินออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว คราวนี้ก็เหลือแต่ไม้ โรส และติวัฒน์ที่อยู่ในห้อง
“หวังว่าจะไม่มีใครอัดเสียงพวกเราไว้นะครับ??” ไม่พูดขึ้น
“แน่นอนครับ ผมเข้าเรื่องเลยนะ เรื่องไอ้กลุ่มลับที่คุณว่า คุณพูดจริงหรือเปล่า??” ติวัฒน์ถามไม้ไป
“ถูกต้องแน่นอนครับ ผมติดตามมาเป็นปี กลุ่มนั้นทายอะไรไม่เคยพลาดครับ” ไม้ตอบ
“ถึงผมจะไม่ค่อยอยากเชื่อเท่าไหร่ แต่จะว่าไป ช่วงนี้ก็เกิดเหตุวุ่นวายในไทยแล้วก็ต่างประเทศบ่อยๆ ขนาดชายแดนไทย ยังมีกองกำลังปริศนายึดท่าขี้เหล็กของพม่าไว้ได้เลย แล้วมันจะไม่รบกวนเส้นทางขนส่งของพวกคุณเหรอ??” ติวัฒน์ถามไม้ไป
“เรื่องนั้นพวกเราเตรียมพร้อมแล้วค่ะท่าน เราสร้างเส้นทางขนส่งใหม่เอาไว้เตรียมพร้อมแล้ว เจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่ก็เป็นคนของเราด้วยค่ะ” โรสตอบ
“อืม แบบนั้นก็ดีเลยครับ” ติวัฒน์ตอบ
“ช่วงนี้ท่านก็ต้องระวังหน่อยนะครับ อีกไม่นานเทศกาลปล่อยผีก็คงจะออกมาแล้ว” ไม้พูดขึ้น
“ผมไม่กลัวหรอก ถ้าใครมีปัญหาผมจะยิงมันทิ้งให้” ติวัฒน์ตอบ
“แล้ว สส. ที่ท่านรู้จัก จะอยู่ข้างพวกเราหรือเปล่าคะ??” โรสถามไป
“ไม่ต้องห่วง ไอ้พวกนั้นมันล็อบบี้ได้อยู่แล้ว ถ้าเงินถึง แต่กับพวกข้าราชการ กองทัพ ตำรวจ มันอาจจะยากหน่อยนะ” ติวัฒน์ตอบ
“เรื่องนั้นผมจะจัดการเองครับ” ไม้ตอบ
“ถ้าอย่างงั้น ก็ถือว่างานของเราเป็นไปได้ด้วยดีนะคะ” โรสพูดขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน ลูกน้องของติวัฒน์ก็รีบเดินเข้ามาในห้อง VIP อย่างรวดเร็ว
“อะไรของลื้อวะ??” ติวัฒน์ถามอย่างไม่สบอารมณ์
“ข้างนอกมีคนยิงกันครับท่าน!!”
“ดูเหมือนจะหนักกว่าที่ผมคิดนะเนี่ย เอาเป็นว่า ท่านรักษาเนื้อรักษาตัวให้ดีนะครับ” ไม้พูดกับติวัฒน์ไป
ณ ถนนเส้นหนึ่งซึ่งกำลังเดินทางไปยังภาคตะวันออก รถ SUV คันหรูที่โซ่นั่งไปพร้อมกับตำรวจที่เขาซื้อตัวเอาไว้ ในขณะเดียวกัน เขาก็พยายามโทรหาคอปเปอร์ น้องชายของเขาไปด้วย แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่รับสายเลย
“ผู้กองครับ น้องชายยังไม่รับสายเหรอครับ??”
“ก็ใช่ แบบนี้ไม่ดีแน่ๆ” โซ่ตอบ
“ทำไมล่ะครับ??” ตำรวจของโซ่ถามไป
“ปกติมันติดมือถือมากหน่ะ” โซ่ตอบ และในขณะเดียวกัน วิทยุของตำรวจก็ดังขึ้นมา
“ขณะนี้ มีเหตุปล้นธนาคารกันอย่างอุกอาจ บริเวณบางนา คนร้ายมีอาวุธครบมือ ต้องการกำลังเสริมด่วน..”
“อะไรกันครับเนี่ย เหตุร้ายเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อวานแล้ว??” ลูกน้องของโซ่คนหนึ่งถาม ตัวของโซ่ที่รู้ความจริงก็ไม่ได้ตอบอะไรมากนัก
“ไปที่ธนาคารนั่นก่อน ค่อยว่ากัน” โซ่ตอบ
“รับทราบครับ” คนขับรถพูดขึ้น ก่อนที่เขาจะรีบบึ้งรถไปในทันที
“หวังว่าจะไม่ใช่แกนะ” โซ่คิดในใจไปด้วยความกังวล
“เฮ้ เตรียมอาวุธให้พร้อมแล้วกัน” โซ่บอกกับลูกน้องทุกคน
“รับทราบครับ!!”
ณ ที่ไหนซักแห่งบริเวณถนนสายตะวันออก กลุ่มของคอปเปอร์มาจอดรถบริเวณจุดพักรถแห่งหนึ่ง ในขณะเดียวกันก็นั่งหาอะไรกินกันด้วย
“ลูกพี่ กาแฟพี่”
“เออ ขอบใจ” คอปเปอร์ตอบและรีบหยิบกาแฟถ้วยนั้นมา จากนั้นก็ดื่มมันในทันที
“เฮ้ย แล้วพวกเราเป็นไงกันบ้าง??” คอปเปอร์ถามลูกน้องของเขา
“ไม่รู้เหมือนกันพี่ มันน่าจะต้องโทรมาได้แล้วนะ??”
“เฮ้ย หรือว่ามันจะเชิดเงินหนีไปแล้วพี่??” ลูกน้องอีกคนของคอปเปอร์ถามไป
“ถ้ามันทำงั้นจริง ฉันจะให้พี่ฉันเล่นมันแน่” คอปเปอร์ตอบ และในขณะเดียวกันนั้นเอง โทรศัพท์ของลูกน้องของคอปเปอร์ก็ดังขึ้น เขารีบรับสายในทันที
“ฮัลโหล??”
“เฮ้ย ไอ้ตี๋ พวกเราชิบหายแล้ว!!”
“ชิบหายเหี้ยอะไรของมึงวะ??”
“มีไอ้พวกเหี้ยที่ไหนไม่รู้มาปล้นเราซ้ำหน่ะ??”
“ปล้นพวกมึงซ้ำ พวกมึงก็มีปืนนี่ ทำไมไม่สู้พวกมันวะ??”
“พวกมันฆ่าพวกเราตายหมดเลย เอาไงต่อหล่ะ??”
“เออ มึงหลบไปก่อน เดี๋ยวกูบอกคอปเปอร์ให้” ตี๋พูดจบก็วางสายไป
“เฮ้ย เกิดอะไรขึ้นวะ??” คอปเปอร์ถามคนของเขาไป
“มีไอ้บ้าที่ไหนไม่รู้มันมาปล้นพวกเราซ้ำหน่ะ มันบอกว่า พวกมันฆ่าพวกเราเหี้ยนเลย ตอนนี้ฉันบอกให้พวกเราที่รอดหนีไปแล้วหล่ะ” ลูกน้องของคอปเปอร์ตอบ นั่นทำเอาคอปเปอร์ถึงกับตกใจมาก
กลับมายังโรงแรมเดิมที่แฮปปี้ได้ทำการแสดงโชว์ของเธอ ตัวของเธอได้เดินเข้ามาหาอะไรกินในไลน์บุฟเฟ่ต์อาหารเช้า เธอเดินไปหยิบภาชนะ และเดินเข้าไปที่ไลน์อาหารอย่างรวดเร็ว
“กินอะไรดีนะวันนี้??” แฮปปี้นึกในใจ แต่ในขณะเดียวกัน หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งก็มาเจอกับแฮปปี้เข้า จากนั้นก็เดินเข้ามาหาเธออย่างรวดเร็ว
“คุณนักมายากลคนนั้นนี่”
“ค่ะ ว่าไงคะ??” แฮปปี้ถามกลับไป
“ฉันขอลายเซ็นหน่อยได้หรือเปล่าคะ??” หญิงคนนั้นยื่นสมุดโน้ตกับปากกาให้เธอ แฮปปี้เองก็วางภาชนะของเธอไว้แถวนั้น จากนั้นก็เซ็นลายเซ็นให้ไป แล้วก็ยื่นสมุดโน้ตกับหนังสือคืนให้กับหญิงคนนั้น
“ขอบคุณมากค่ะ” ผู้หญิงคนนั้นพูดขึ้นและเดินออกไปในทันที ส่วนตัวของแฮปปี้ก็เดินไปหยิบอาหารต่อ จากนั้นก็เดินไปนั่งที่โต๊ะทานอาหารในทันที
“ไปที่ไหนต่อดีนะ??” ตัวของแฮปปี้นั่งนึกในใจ ในขณะเดียวกัน เธอก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและเข้าไปอ่านข่าวในกลุ่มลับของเธอด้วย เธอลองอ่านข่าวนั่นนี่ไป ก็พบว่าตอนนี้แทบจะเกิดความวุ่นวายไปทั่วโลกแล้ว แม้กระทั่งที่ไทยเอง ก็มีเหตุร้ายขึ้นต่อเนื่อง
“โห สาหัสเหมือนกันนะเนี่ย” แฮปปี้พูดขึ้น ก่อนที่เธอจะวางโทรศัพท์ และตักไข่ดาวเข้าปากของเธอ
“อืม ไข่ดาวที่นี่ดีแหะ” แฮปปี้นึกในใจ
อีกด้านหนึ่งของกรุงเทพ ตัวของอเล็กซ์เดินไปเรื่อยๆไม่มีจุดหมาย ท่ามกลางช่วงสายๆวันเสาร์ ที่ผู้คนพากันเดินออกมาเที่ยวข้างนอก แต่ตัวของอเล็กซ์นั้นดูจะไม่ค่อยอภิรมย์เท่าไหร่ ในขณะเดียวกัน เขาก็ดันไปเดินชนกับตำรวจคนหนึ่งเข้า
“ตุ๊บ!!”
“โอ๊ย!!”
ตำรวจคนนั้นหันมาหาอเล็กซ์ และพบว่าอเล็กซ์เป็นฝรั่ง ตำรวจก็พูดกับเขา
“เฮ้ยยู ระวังๆหน่อยดิ!!” ตำรวจคนนั้นพูดเป็นภาษาไทย อเล็กซ์เองก็ได้แต่ก้มหน้ารับไป จากนั้นเขาก็รีบเดินหนีออกไปอย่างรวดเร็ว
“ดีที่ตำรวจประเทศนี้ไม่ยุ่งกับเรา” อเล็กซ์คิดในใจ และในตอนนั้นเอง เขาก็เดินมาเจอกับร้านข้าวเหนียวหมูปิ้งร้านหนึ่ง
“ซื้อมั้ยจ้ะพ่อคุณ??”
“อ่า ขายยังไงครับ??” อเล็กซ์ถามกลับไปเป็นภาษาไทย
“ไม้ละ 6 บาท 7 ไม้ 40 ข้าวเหนียวห่อละ 10 บาทจ้า”
“กินยังไงครับ??” อเล็กซ์ถามอย่างซื่อๆ
“อ่า กินข้าวเหนียวก่อนแล้วค่อยกินหมูปิ้งนี่ตามก็ได้จ้า”
“งั้นก็ตามนั้นครับ” อเล็กซ์ ก่อนที่แม่ค่าจะหยิบเอาหมูปิ้ง 7 ไม้ใส่ถุงให้กับอเล็กซ์ แล้วก็เอาข้าวเหนียว 1 ห่อให้ จากนั้นก็ยื่นให้กับอเล็กซ์
“นี่จ้ะ 50 บาทจ้ะ”
อเล็กซ์หยิบเอากระเป๋าตังค์ออกมา จากนั้นก็ยื่นแบงค์ 50 ให้กับแม่ค้า และรับหมูปิ้งมา อเล็กซ์รีบยัดข้าวเหนียวเข้าปากในทันที จากนั้นก็กินหมูปิ้งตาม
ณ ถนนเส้นหนึ่งซึ่งกำลังจะเข้าสู่จังหวัดปทุมธานี ในตอนนี้รถของสามสาวก็ออกจากอยุธยามาเรียบร้อยแล้ว พวกเธอขับมาเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึงปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นปั๊มใหญ่และมีร้านอาหารมากมาย ทีนมาจอดรถเทียบที่จุดเติมน้ำมันในทันที
“เฮ้ พวกเธอ จะไปร้านอาหารก่อนมั้ย??” ทีนถามไป
“อืม ก็ดี เดี๋ยวไปจองโต๊ะให้นะ” เอมตอบ
“รีบตามมาแล้วกัน” รินบอกกับทีน ก่อนที่ตัวของเธอจะลงจากรถอย่างรวดเร็ว และเดินไปที่ร้านอาหารร้านหนึ่ง ซึ่งตอนนี้ร้านเปิดเรียบร้อยแล้ว
“เปิดพอดีเลยแหะ” เอมพูดขึ้น
“อืม ไปจองโต๊ะให้ทีนก่อน” รินตอบ และไม่นานนัก พวกเธอสองคนก็เดินเข้ามาในร้าน โดยที่พนักงานคนหนึ่งก็เดินเข้ามาหาพวกเธอ
“สวัสดีค่ะ กี่คนคะ??”
“3 ค่ะ” รินตอบ
“ทางนี้เลยค่ะ” พนักงานพูดกับพวกเธอ ก่อนที่ไม่นานนัก พนักงานจะพาพวกเธอไปยังโต๊ะตัวหนึ่ง ซึ่งมีที่นั่ง 4 ตัว จากนั้นพวกเธอสองคนก็นั่งเก้าอี้ในทันที
“เดี๋ยวจะเอาเมนูมาให้นะคะ” พนักงานพูดขึ้น ก่อนที่ตัวของเธอจะเดินไป ส่วนตัวของทีนก็เดินเข้ามาในร้านด้วย
“เฮ้ ทางนี้” เอมชูมือเรียกทีน ทีนเองเดินไปนั่งตามพวกเธอในทันที
“เฮ้ สั่งไรกันยังอ่ะ??” ทีนถามไป
“ยังเลย รอเมนูก่อน” รินตอบ
“ว่าแต่ พวกเธอจะไปไหนกันต่อหล่ะ??” ทีนถามไป
“อืม ไปภูเขากันแล้ว ไปทะเลกันบ้างสิ” เอมพูดขึ้น
“ก็ดีเหมือนกัน พัทยาดีมั้ย??” รินถามไป และในขณะเดียวกัน พนักงานก็เอาเมนูมาให้กับพวกเธอทั้งสามคน
“เอาอะไรดีคะ??”
“ข้าวกระเพราหมูกรอบไข่ดาว 1 ค่ะ” เอมพูดขึ้นมาก่อน
“เอาด้วยค่ะ ไข่ดาวไม่สุกนะคะ” ทีนพูดต่อ
“ด้วยค่ะ ขอปีกไก่ทอดด้วยนะคะ” รินพูดคนสุดท้าย
“น้ำเอาอะไรดีคะ??” พนักงานถามต่อ
“ขอน้ำเปล่าก่อนแล้วกันค่ะ” รินตอบ
“มีน้ำแตงโมปั่นมั้ยคะ??” เอมถามไป
“ขอน้ำมะนาวด้วยค่ะ” ทีนพูดต่อ
“ได้ค่ะ รอซักครู่นะคะ” พนักงานพูดขึ้นและเดินกลับเข้าไปในครัวทันที
“ไปพัทยางั้นเหรอ ก็ดีนะ” ทีนพูดขึ้น
“อืม แต่เส้นตะวันออกน่าจะติดแน่ๆ” รินพูดขึ้น
“แต่ก็น่าจะติดไม่เยอะเท่าไหร่หรอกนะ” เอมพูดต่อ
“ก็นะ เดี๋ยวเราไปหาเงินเพิ่มต่อแล้วกัน” รินตอบเอมไป
ณ ถนนเส้นตะวันออก ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากพัทยานัก ตอนนี้การจราจรเริ่มจะดีมากขึ้นแล้ว กลุ่มของจินขับรถเข้าไปยังร้านอาหารทะเลแห่งหนึ่ง พวกเขาขับรถไปจอดที่ลานจอดรถของร้านอาหาร จากนั้นพวกเขาทุกคนก็ลงจากรถในทันที และมารวมตัวเพื่อคุยกัน
“เฮ้อ ดีที่ไม่มีตำรวจตามมา” มายด์พูดขึ้น
“โอ้ ตอนนี้มีอะไรเพิ่มเติมหรือเปล่า??” เคนตะถามโอ้
“ลองดูแล้ว ตำรวจเพิ่งจะเข้าไปกันเอง” โอ้ตอบ
“นี่ เพราะนายคนเดียวเลย” ชิดจันทร์บ่นกับจิน
“ไม่เอาน่าจันทร์ พวกเราไม่เป็นไรก็โอเคแล้ว” สการ์เล็ตพูดปรามเธอไป ตัวของซิกส์เองก็พยักหน้าเห็นด้วยกับจิน
“เอาเถอะ ก็หวังว่าอย่าทำอะไรบุ่มบ่ามอีกแล้วกัน” อิชมาเอลพูดขึ้น
“ปัญหาก็คือ ไอ้พวกที่ปล้นธนาคารมันเป็นใคร??” ครูหนาถามขึ้น
“ดูจากอาวุธและรถที่พวกมันใช้ น่าจะต้องมีทุนหนักเลย” ลุงบุญช่วยพูดขึ้น
“ไม่รู้ว่าเป็นพวกลูกเศรษฐีมีตังค์หรือเปล่าด้วยนะ” ไอรีนพูดเสริม
“เฮ้อ แล้วไอ้พวกนี้ไม่มีอะไรทำกันหรือไง ถึงได้มาปล้นเขากิน??” จินถามไป
“ไม่รู้สิ แต่เดี๋ยวเราไปหาอะไรกินกันก่อนดีกว่า” สการ์เล็ตพูดขึ้น จากนั้นพวกเขาทุกคนก็รีบเดินเข้าไปในร้านอาหารทันที
==================================================================
เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป อย่าลืมติดตามชมกันเน้อ
ขอคนละเม้นท์ด้วยเน้อ แหะๆ
https://www.youtube.com/channel/UCEzIY9j4fuPDx4Ofz8U0Fig ซับแนลหนูด้วย
ให้ของขวัญเป็นกำลังใจกันได้ครัช ไหว้หล่ะ
ความคิดเห็น