คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : จุดเริ่มต้น
“ยิง!!”
“ตู้ม!!”
เสียงปืนและระเบิดดังสลับกันไปมา ในดินแดนที่ดูสงบ ป่าเขียวเมกไม้สวยงาม ราวกับสวรรค์บนดิน แต่ในตอนนี้ สวรรค์แห่งนี้กำลังเจอสงคราม ท่ามกลางพื้นที่ราบอันอุดมสมบูรณ์ ยังมีเมืองใหญ่ตั้งตระหง่าน เมืองที่ดูภายนอกราวกับมาจากยุคกลาง ยังไม่มีตึกสูงๆ เหมือนยุคสมัยใหม่
“โฮก!!”
เสียงสัตว์ร้ายร้องคำรามอยู่บนฟากฟ้า มันคือเสียงของมังกรตัวใหญ่มหึมาที่กำลังบินวนไปมา ก่อนที่มันจะพุ่งตรงเข้ามา แล้วพ่นไฟใส่กองกำลังทหารหมวกสีฟ้าถืออาวุธครบมือ มาพร้อมกับยานเกราะมากมาย
“ซู้ม!!”
เปลวไฟพวยพุ่งเผาทหารและยานเกราะเสียหายไปมาก แต่บางส่วนเองก็ยังยืนหยัดได้
“อีเกิ้ล 1 อีเกิ้ล 2 จัดการมังกรบ้านั่นที!!” เสียงวิทยุดังขึ้น ก่อนที่ไม่นานนัก เครื่องบินขับไล่ 2 ลำก็บินเข้ามา ก่อนที่จะยิงมิสไซต์ใส่มังกรตัวนั้น
“ตู้ม!!”
มิสไซค์สองลูกโดนมังกรตัวนั้น แต่มันก็ยังบินได้ และพยายามจะบินโฉบไปมาเพื่อป้องกันตัว
“เฮ้!!”
ภาพที่สองที่กองกำลังหมวกสีฟ้าได้เห็นก็คือกลุ่มคนที่กำลังขี่ม้าประหลาด ซึ่งไม่สามารถพบเห็นได้ในโลกมนุษย์ปกติ ราวกับว่ามันมาจากโลกแฟนตาซี พยายามเข้าจู่โจมพวกเขา
“ทุกหน่วย Fire At Will”
เสียงวิทยุดังขึ้น ก่อนที่พวกเขาจะตั้งปืนและยิงสกัดคนพวกนั้นเอาไว้ แต่มันคนหนึ่งก็ใช้คฑาอะไรบางอย่างชูขึ้นฟ้า ก่อนที่มันจะปล่อยแสงสีทองเป็นบาเรียออกมา สกัดกระสุนเอาไว้ได้
“ทุกหน่วย ใช้กระสุนทองแดง!!” เสียงวิทยุดังขึ้นต่อ ก่อนที่ไม่นานนัก ทหารหมวกฟ้าทุกคนจะเปลี่ยนกระสุนตับใหม่ จากนั้นก็ระดมยิงต่อ
"ปังๆๆๆๆๆๆๆ!!"
คราวนี้กระสุนของพวกทหารหมวกฟ้าทะลุผ่านเข้าบาเรีย และโดนกลุ่มผู้ใช้เวทย์มนต์บางส่วน แต่กลุ่มใช้เวทย์มนต์ก็ยังคงบุกเข้ามาเรื่อยๆ
“บ้าเอ้ย พวกเรา ยิงปูพรมเลย!!”
“ครับ XR เตรียมยิงปูพรม พิกัดที่แจ้งก่อนหน้านี้!!” ทหารคนหนึ่งได้วิทยุบอกหน่วยอะไรบางอย่าง ก่อนที่ไม่นานนัก ห่าฝนปืนใหญ่จะระดมยิงใส่กองกำลังผู้ใช้เวทย์มนต์
“ตู้มๆๆๆๆๆ!!”
ระเบิดมากมายตกใส่กลุ่มผู้ใช้เวทย์ ทำให้พวกเขาตายกันไปมากมาย มังกรที่อยู่บนฟ้าเองพยายามจะช่วย มันหันหัวกลับมา จากนั้นก็เผาเครื่องบินลำหนึ่งจนไหม้
“พรึ่บ!!”
“อีเกิ้ล 1 เสร็จแล้ว อีเกิ้ล 2 จัดการต่อที!!” เสียงวิทยุห้องนักบินพูดขึ้น ก่อนที่เครื่องบินอีกลำจะบินไปด้านหลังมังกร จากนั้นก็ยิงปืนกลใส่
“ปังๆๆๆๆๆ!!”
“โดนกระสุนทองแดงซะ!!” นักบินสบถออกมา ก่อนที่มังกรตัวนั้นจะเริ่มบาดเจ็บ และค่อยๆบินต่ำลงมา กระแทกกับพื้นอย่างแรง
“โคร้ม!!”
“เฮ้!!” เหล่าทหารหมวกฟ้าที่อยู่ด้านล่างพากันดีใจยกใหญ่
“พวกเรา บุกเลย!!” ทหารคนหนึ่งตะโกนออกมา ก่อนที่กองกำลังทั้งหมดจะเดินหน้าเพื่อเข้าเมือง พวกเขาจัดการยิงกลุ่มผู้ใช้เวทย์มนต์ที่เหลือ แม้ว่าจะมีการตอบโต้กลับบ้าง แต่ก็ไม่เป็นผลมากนัก ดูเหมือนว่าในศึกครั้งนี้ กลุ่มกองกำลังหมวกสีฟ้าจะชนะได้อย่างไม่ยากเย็น
“ในนามของสหประชาชาติ ขอให้กลุ่มผู้ใช้เวทย์มนต์ยอมแพ้แต่โยดี พวกเราไม่อยากใช้ความรุนแรง!!” เสียงประกาศออกมาตามโทรโข่งที่ติดกับยานเกราะ แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรตอบสนองเลย ไม่นานนัก กองกำลังหมวกฟ้าก็บุกเข้าไปในเมืองในทันที
“ซู่!!”
“ปังๆๆๆๆๆ!!”
“อ๊าค!!”
เสียงสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนักหน่วง ประกอบกับเสียงปืนและเสียงกรีดร้องของมนุษย์ที่ดังสลับกัน ในโกดังหลังหนึ่ง
“วอ 2 ตอบด้วย!!”
“ช่วยด้วย พวกมันกำลังเผาผม อ๊าค!!”
ตำรวจนายหนึ่งที่กำลังถือวิทยุและเรียกเพื่อนคนหนึ่งของเขา ได้แต่แปลกใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น และพยายามเรียกปลายสายให้ตอบกลับ
“วอ 3 ตอบด้วย!!”
“พวกเขาคงเสร็จไปแล้วครับ” ตำรวจนายหนึ่งที่เดินตามหลังตำรวจที่ถือวอพูดขึ้น
“บ้าเอ้ย ทุกคน เตรียมกระสุนทองแดงให้พร้อม ของมีจำกัด เพราะฉะนั้นใช้ประหยัดๆ แล้วเสื้อเกราะทองแดงอย่าให้หลุดจากตัวด้วย” ตำรวจคนที่ถือวอพูดขึ้น ทุกคนเองก็ดูเหมือนว่าจะฟังทุกคำที่เขาพูดอย่างตั้งใจ แล้วก็เหมือนกันตำรวจหนุ่มคนหนึ่ง ซึ่งอยู่ท้ายแถวเลย
“เฮ้ย เด็กใหม่ ฟังอยู่นะ??” ตำรวจแถวหน้าถามไป ซึ่งตำรวจใหม่คนนั้นก็คือผมเอง
“ครับ” ผมตอบกลับไปสั้นๆ
“เตรียมพร้อม ลุยเลย!!” ตำรวจแถวหน้าพูดขึ้น ก่อนที่ตัวของเขาจะบุกออกไป และคนอื่นๆตามไปบ้าง รวมถึงตัวของผมที่ตอนนี้เองก็ถือปืน Glock ในมือ
“จึก!!”
ในระหว่างที่พวกเขากำลังบุก ในตอนนั้นพวกเราก็เห็นสิ่งที่พวกเราไม่อยากจะเชื่อสายตา กระแสไฟฟ้ามันก็โผล่ออกมาจากเต้ารับไฟ และมันยิงเข้าใส่หน้าของตำรวจแถวหน้า
“เอื๊อก!!”
ตำรวจแถวหน้าคนนั้นถึงกับนอนดิ้นลงไปกับพื้น อาการเหมือนคนกำลังโดนไฟช็อต ทุกคนอึ้งกับภาพที่เห็น
“ผู้กองครับ!!” ตอนนั้นผมตะโกนออกมา แต่ยังไม่ทันที่ทุกคนรวมถึงผมจะตั้งสติ
“ฟึ้บ!!”
ในตอนนั้นสิ่งที่พวกเราเห็นคือผึ้งมากมายนับร้อยที่บินเข้าใส่พวกเรา พวกเราถึงกับแตกกระเจิงกันคนละทาง ผมเองตอนนั้นก็รีบกำสร้อยทองแดงตามที่ได้รับการอบรมมา แต่ตำรวจคนอื่นๆที่ไม่ได้โชคดีก็โดนผึ้งพวกนั้นเล่นงานจนแน่นิ่ง
“เฮ้ย เด็กใหม่ รีบวอบอกหน่อยอื่น เราต้องการคนเพิ่ม!!” ตำรวจคนหนึ่งบอกกับผม ตัวของผมตอนนั้นที่เห็นวิทยุสื่อสารก็รีบวิ่งไปหยิบ แต่ยังไม่ทันจะหยิบ ผมเห็นชายคนหนึ่งกำลังยืนอยู่ตรงหน้าผม และซัดฝ่ามือใส่ผมจนกระเด็น
“ซู้ม!!”
ตัวของผมกระเด็นไปไกล ถึงแม้ว่าผมจะใส่เกราะทองแดง แต่พลังของมันก็ทำให้ตัวของผมกระเด็นจนติดกับเสาแถวนั้นจนนิ่งไปเลย
“อ๊าค!!”
“ปังๆๆๆๆ”
ตัวของผมในตอนนั้นสติก็เริ่มลางเลือนเต็มที แต่ภาพสุดท้ายที่ผมเห็นในตอนนี้ คือภาพที่บรรดาเพื่อนร่วมทีมของผม กำลังกรีดร้องอย่างทรมาน รวมถึงพยายามเอาตัวรอดจากสิ่งที่เหนือธรรมชาติ และไม่นานนัก เสียงความวุ่นวายก็เงียบลง พร้อมกันนั้นก็แทนที่ด้วยเสียงฝีเท้าของใครบางคน ซึ่งเดินเข้ามาใกล้ผม
“แก..” ตอนนั้นตัวของผมพยายามจะรวบรวมแรงเพื่อหยิบปืนของผมที่ตกอยู่ที่พื้น แต่ยังไม่ทันที่มือจะถึงปืน เท้าปริศนาก็เตะปืนออกไป
“ตุ๊บ!!”
เท้าปริศนาก็ยังเตะเข้าที่หน้าของผมอีกรอบ ทำเอาผมถึงกลับกลิ้งไป แต่ในตอนนั้นเอง
“พรึ่บ!!”
จู่ๆก็มีอะไรบางอย่างโผล่มาที่หน้าของผม แต่ผมไม่มีสติมากพอที่จะมองแล้วว่ามันคืออะไร ไม่นานนัก ผมก็หลับไปโดยไม่รู้เรื่องว่าเกิดอะไรขึ้น
.
.
“เฮือก!!”
ตัวของผมตื่นขึ้นมาอีกที ก็พบว่าตอนนี้กำลังอยู่บนฟูกนอนที่ไม่หรูมากนัก แต่มันก็นุ่มพอให้ผมนอน ผมฟื้นขึ้นมา แล้วก็พบกับชายคนหนึ่งที่กำลังหันหลังให้ผม
“อย่าเพิ่งขยับดีกว่า”
เสียงของชายแก่มีอายุคนนั้นได้พูดกับผม ตัวของผมตอนนั้นก็ค่อยๆลุกขึ้นมา แม้ว่าจะบาดเจ็บอยู่นิดหน่อย
“นี่ผมอยู่ที่ไหนครับเนี่ย แล้วคุณเป็นใคร??”
“ฉันก็คนที่ช่วยชีวิตนายไว้ไง” ชายแก่คนนั้นตอบผมไป
“เดี๋ยว แล้วเพื่อนผมหล่ะ??” ผมรีบถามในทันที
“พวกนั้นคงไปพบเทพเจ้าแล้วหล่ะ นายห่วงตัวเองเถอะ” ชายแก่คนนั้นตอบไป ตัวของผมทำอะไรไม่ได้นอกจากร้องไห้ออกมาอย่างไม่อายใคร
“โตป่านนี้ยังจะร้องไห้อีก เฮ้อ” ชายแก่คนนั้นพูดกับผม ก่อนที่เขาจะลุกขึ้น แล้วเดินเข้ามาหาผม โดยในมือถือกิ่งไม้อะไรบางอย่าง จากนั้นเขาก็ชี้มาที่ผม
“ฟริ้ง!!”
ลำแสงสีทองออกมาจากกิ่งไม้นั้น มันเข้ามาในร่างของผม ตัวของผมพยายามจะเอามือบัง แต่มันก็ไม่ได้ผล
“เอาหล่ะ ฉันช่วยให้นายหายช้ำในแล้ว”
“หะ นี่ลุงทำอะไรของลุงเนี่ย??” ผมถามลุงคนนั้นไป
“ก็รักษาเอ็งไง เวทย์มนต์หน่ะ” ผมได้ยินคำนั้นก็ถึงกับขำพราดออกมา
“ฮ่าๆๆๆ ลุง เดี๋ยว เรื่องหลอกเด็กแบบนั้นมีที่ไหนหล่ะ??” ผมถามลุงคนนั้น แต่ลุงคนนั้นทำหน้านิ่ง ก่อนที่จะเสกอะไรบางอย่างออกมา มันเป็นเค้กช็อคโกแลตก้อนหนึ่ง สีสันดูน่ากินมาก
“ลองจับมันสิ” ลุงแกพูดกับผม ผมเองตกใจและค่อยๆลองจับเค้กก้อนนั้น และปรากฏว่ามันสามารถจับได้ด้วย ผมไม่รอช้ารีบหยิบมันเข้าปาก และพบว่ามันสามารถกินได้ด้วย
“เหี้ยเอ้ย ฝันแน่ๆ!!” ผมคิดในใจ ก่อนที่ผมจะตบหน้าตัวเองอย่างแรงที่สุด แต่ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นผลอะไรเลย
“คิดว่าฝันงั้นเหรอ นี่ ไอ้หนุ่ม แกคิดว่าทุกอย่างที่แกเห็น เพื่อนๆแกตาย นั่นคือฝันงั้นเหรอ??” ลุงแกคนนั้นถามไป ตอนนั้นผมเองก็แทบจะทำอะไรไม่ได้ แม้แต่จะเคี้ยวเค้กที่ผมเพิ่งกินไป ถึงมันจะอร่อยมากก็เถอะ ผมพยายามฝืนกินมันจนหมด และไม่นานนัก ชายแก่คนนั้นก็ทิ้งหนังสืออะไรบางอย่างเอาไว้ให้ผม จากนั้นแกก็ลุกขึ้น
“อ้าวลุง จะไปไหน??” ผมถามลุงแกไป
“มันถึงเวลาของฉันแล้ว รีบอ่านมัน ทำความคุ้นเคยกับเวทย์มนต์ที่ฉันมอบให้เอ็งซะ ว่าแต่ เอ็งชื่ออะไรวะ??”
“เคนนี่ เคนนี่ จินหน่ะลุง” ผมตอบลุงแกไง
“เคนนี่ เออ เอาไว้ถ้าสวรรค์เห็นใจ เราคงได้เจอกัน” ลุงแกตอบผม ก่อนที่เขาจะหายไปอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
“อ้าวเฮ้ย ลุง อะไรกันวะ แล้วเวทย์มนต์อะไรของลุง??” ผมตะโกนออกมาดังลั่น แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรตอบสนองเลย ผมไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อ รีบมองรอบตัวเพื่อหาของของผม และเมื่อหาเจอ ผมก็พบว่าของๆผมยังอยู่ครบ ผมรีบหยิบนาฬิกาข้อมือของผมขึ้นมาดู
“จะเช้าแล้วเหรอวะเนี่ย??” ผมพูดขึ้นในขณะที่มองนาฬิกาตอนนี้ก็เกือบจะ 6 โมงเช้าแล้ว ผมเองลุกขึ้นและเก็บของของผมทุกอย่าง และเดินออกไปจากที่นั่น ผมต้องรีบกลับไปที่สถานีของผม เพื่อรายงานเรื่องที่เกิดขึ้น
“นายถูกไล่ออก!!”
เสียงของชายคนหนึ่งดังขึ้น ในขณะที่ตัวของผมกำลังยืนตรงต่อหน้าเขา ชายคนนั้นก็คือผู้กำกับของสถานีที่ผมอยู่ หลังจากที่ผมรอดไปได้และกลับไปรายงานสถานการณ์ จู่ๆ คำแรกที่เขาพูดกับผมก็คือคำนี้
“ทำไมกัน นี่ผมรอดกลับมาได้นะ??” ผมถามเขากลับไป
“แล้วทำไมถึงรอดกลับมาคนเดียวหล่ะ ละทิ้งหน้าที่หล่ะสิ”
“ผมไม่ได้ทิ้ง!!” ผมตอบกลับไปอย่างหนักแน่น
“แล้วแกหายไปไหน ตอนที่หน่วยเสริมของเราไปถึงที่นั่นหล่ะ??” ผู้กำกับถามผมกลับไป ตอนนั้นเองผมก็ได้แต่ใบ้กินไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไง แต่ผมก็พยายามตอบกลับไป
“มีคนช่วยผมเอาไว้”
“อย่ามาโกหกเลย ทุกคนยืนยันว่าแกหายตัวไป!!” ผู้กำกับตอบผมไป ก่อนที่ไม่นานนัก เขาจะให้ผมถอดเครื่องแบบตำรวจทั้งหมดออกมา จากนั้นก็คืนให้กับเขา
“ผมต้องแก้แค้นแทนคนอื่นๆให้ได้” ผมพูดกับผู้กำกับ
“นี่แกอยากติดคุกเหรอ ฉันไม่เอาเรื่องสั่งจำคุกแกก็ดีแค่ไหนแล้ว แกจะไปไหนก็ไป!!” ผู้กำกับตะคอกใส่หน้าผมอย่างรุนแรง ผมได้แต่เก็บงำความโกรธเอาไว้และเดินออกไปในทันที ตัวของผมเดินออกมาจากสถานี หันหลังกลับไปมองซักพัก ก่อนที่ผมจะกลับบ้านของตัวเอง
ที่บ้านของผม ความจริงมันคืออพาร์ทเม้นท์เล็กๆ ไม่หรูหรา แค่พอจะนอนได้ ผมกลับมาที่ห้อง อยากจะขึ้นไปนอนบนเตียง แต่สายตาของผมก็เหลือบไปเห็นหนังสือเล่มที่ตาแก่คนนั้นเคยให้ผม ผมที่ไม่มีอะไรจะเสียตอนนั้นก็ลองหยิบมันมาอ่าน
“อะไรเนี่ย การฝึกใช้เวทย์??”
ตัวของผมแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง ข้างในหนังสือมันอัดแน่นไปด้วยวิธีการใช้เวทย์มนต์แขนงต่างๆ ราวกับว่ามันหลุดมาจากนิยายแฟนตาซี
“อะไรวะเนี่ย แฮรี่พอตเตอร์เหรอ หรือว่าที่พวกรุ่นพี่เขาพูดกันจะเป็นเรื่องจริง??” ผมถามตัวเองไป แต่ผมเองก็อยากลองทำมัน ถ้ามันจะช่วยอะไรผมได้
2 อาทิตย์ผ่านไป ณ สนามยิงปืนแห่งหนึ่ง
“ปัง!!”
ผมยิงปืนและหลบอยู่หลังที่กำบัง โดยการยื่นปืนออกไปและไม่ได้โผล่หน้าออกไปดู กระสุนพุ่งออกไป จากนั้นผมก็เดินไปดูผลงานที่เป้าซ้อมยิงของผม และเมื่อเดินออกไปดู ผมก็พบว่ากระสุนของผมเข้าเป้า ซึ่งอีกแค่นิดเดียวมันก็โดนตรงกลางแล้ว ผมเองยิ้มออกมาในทันที
“เยี่ยม พัฒนามากกว่าเมื่ออาทิตย์ก่อนซะอีก!!”
สิ่งที่ผมกำลังทำตอนนี้คือพยายามปรับใช้เวทย์มนต์ของผมกับอาวุธปืนที่ผมมี ด้วยหนังสือที่ตาแก่คนนั้นให้มา ทำให้ผมสามารถใช้กระสุนพลังเวทย์ธาตุต่างๆ รวมถึงควบคุมกระสุนได้ แต่เอาจริงๆ ผมเคยลองใช้กับกระสุนทองแดงแล้ว แต่มันไม่ได้ผลเลย
“โอเค ถือว่าเริ่มต้นได้ดี แต่ยังไงก็ต้องฝึกต่อ” ผมพูดต่อ ก่อนที่ไม่นานนัก ผมจะเดินออกจากสนามยิงปืนไป โดยที่มีชายร่างอ้วนคนหนึ่งกำลังทำความสะอาดพื้นอยู่ข้างหน้าห้องยิงปืน
“เฮ้จิน”
“ดอฟฟิน มีอะไรหล่ะ??” ผมทักทายกับชายอ้วนคนนั้นไป
“ใช้เวทย์อะไรระวังด้วยนะ ช่วงนี้พวกรัฐบาลมันกำลังตามล่าอยู่”
“ไม่ต้องห่วง ขนาดคนในรัฐบาลยังใช้เวทย์ซะเองเลย” ผมตอบเจ้าดอฟฟิน ก่อนที่จะเดินทางกลับไปที่ห้องพักของผมเพื่อพักผ่อน หลังจากที่ฝึกเวทย์มนต์มานาน แม้ว่าตอนนี้มันจะยังไม่เก่งกาจเท่าไหร่
กลับมาที่ห้องพักของผม ยังไม่ทันที่ผมจะได้เข้าห้อง ในตอนนั้นเด็กส่งพิซซ่าคนหนึ่งก็เดินเข้ามาหาผมอย่างรวดเร็ว
“พิซซ่าครับ!!”
“ผมไม่ได้สั่งนะ” ผมตอบกลับไป
“มีคนจ่ายให้แล้วครับ” เด็กส่งพิซซ่าตอบ จากนั้นเขาก็ยื่นถาดพิซซ่าให้ผม ผมเองก็รับมา เอาเถอะ ไม่ได้กินพิซซ่ามานานแล้ว ผมรีบเอาพิซซ่ากลับไปที่ห้อง จากนั้นก็เอาวางไว้บนโต๊ะ และไม่นานนัก เมื่อผมเปิดกล่องพิซซ่า ผมก็พบว่ามันมีกระดาษอะไรบางอย่างอยู่ข้างใต้ฝาบนของกล่อง ผมรีบหยิบมันมาดูในทันที พบว่าด้านในมีข้อความเขียนไว้ด้วย ผมลองอ่านมันในทันที
“จิน ฉันและพวกเราขอโทษที่ช่วยนายไว้ไม่ได้ ไอ้ผู้กำกับเซนทอร์มันกล้าไล่นายออกได้ยังไง ความจริงมันควรจะให้เหรียญกล้าหาญนายด้วยซ้ำที่รอดมาได้ แต่ความจริงแล้วมันก็เป็นอย่างที่พวกเราคิด เมื่อ 2 วันก่อน พวกเราไปสืบมาแล้วเจอว่าไอ้ผู้กำกับมันแอบไปติดต่อกับสมาชิกแก๊งผู้ใช้เวทย์ที่นายไปถล่มรังของพวกมัน ที่บาร์เฮดิส นายรู้ว่ามันอยู่ที่ไหน เอาเป็นว่า ถ้านายคิดจะทำ ฉันฝากนายทำแทนพวกเราด้วย มีอะไรก็ติดต่อพวกเราได้ พิซซ่าถาดนั้นพวกเราเลี้ยงนายเอง..”
“ขอบใจจริงๆ” ผมคิดในใจไป ในขณะที่ผมก็หยิบพิซซ่าขึ้นมาชิ้นหนึ่ง จากนั้นก็กินมันไปหนึ่งคำ
“ผู้กำกับ ผมอยากรู้เหมือนกัน ว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่” ผมคิดในใจ ในขณะที่ในหัวตอนนี้ก็ได้แต่มีคำถามมากมาย มันเกิดอะไรขึ้น ผมเองต้องลุกขึ้นมาทำอะไรซักอย่างแล้ว
========================================
เอาไปอ่านกันก่อน เกริ่นๆ ตอนหน้าจะออกกันมาทุกคนเน้อ
ความคิดเห็น