ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Sorova - เมื่อประเทศฉันมันบัดซบ

    ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 1 : จุดเริ่มต้นหลังหายนะ

    • อัปเดตล่าสุด 25 ก.ย. 63


    08:00 น. 

    “บันทึกวีดีโอ สถานะ ออนไลน์!!”

    “สวัสดี ชาวโซโรวา 100 กว่าคนที่กำลังดูผมอยู่ตอนนี้ พบกับผมคนเดิม เนวิส 778 คุณรู้มั้ยว่าผมโชคดีแค่ไหนที่ยังรอดมาถึงวันนี้ได้ สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ผมจะเล่าให้พวกคุณฟังก็แล้วกัน”

    “14 มิถุนายน 2024”

    “เงินเฟ้อสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 1 ดอลล่าห์สหรัฐเท่ากับ 3 ล้านโซโรร่า”

    “กองทัพของเราพ่ายแพ้คอสตาริก้า”

    “แถมนายพลปราฟยาฟตัวปัญหาหนีออกนอกประเทศ ทิ้งให้โซโรวาอยู่ในความมืดมิด”

    “ตอนนี้ผมเหลืออาหารสำหรับพอกินอยู่ได้ 3 วัน หลังจากนั้นคงต้องไปเผชิญโชคต่อที่ด้านนอก เงินที่มีก็เหลือแค่ 20 ดอลล่าห์ พร้อมกับปืนลูกโม่ 1 กระบอกที่ผมซื้อมานานแล้ว”

    “ขอให้สู้กันต่อไปครับ!!”

    “ปิ๊บ!!”

    เสียงสัญญาณบันทึกดับลง ชายหนุ่มเนวิสก็นอนบนเตียงของเขาต่อในทันที โดยที่เขาไม่รู้ว่า วันข้างหน้าจะเป็นอย่างไรต่อ

     

    3 วันต่อมา

    ชายหนุ่มเนวิสตื่นขึ้นมาจากเตียงตัวเดิมของเขาอีกครั้ง เขาไม่รอช้าเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อล้างหน้าให้สดชื่นเสียหน่อย แต่เมื่อเขาเปิดก๊อกน้ำ กลับไม่มีน้ำไหลออกมาเลย

    “ระยำเอ้ย ให้มันได้อย่างงี้!!”

    เนวิสเอามือทุบอ่างล้างหน้าดังปัง จากนั้นตัวเขาก็เดินออกมาด้านนอก มาเปิดตู้เก็บอาหารของเขา แต่เมื่อเขาเปิดออกมา ก็พบว่ามันว่างเปล่า ตอนนี้ไม่มีอาหารเหลืออีกแล้ว ทำเอาเนวิสถึงกับหน้าจ๋อย

    “บ้าเอ้ย ต้องไปหาอาหารด้านนอกสินะ!!”

    เนวิสในตอนนั้นดูราวกับคนสิ้นหวัง แต่สุดท้ายก็ต้องทน และดื่มน้ำขวดสุดท้ายในบ้านและล้างหน้าด้วยน้ำที่เหลือ จากนั้นเขาก็เดินไปแต่งตัวที่ห้องนอนของเขา และเดินออกไปที่นอกห้องพร้อมกับปืนของเขา และเงิน 10 ดอลล่าห์เพื่อหาซื้อของ 

    “ขออย่าเจอใครมาปล้นนะเว้ย!!” เนวิสพูดขึ้น จากนั้นตัวเขาก็เดินออกมาจากอพาร์ทเม้นท์ของเขา เขาเดินไปตามถนนเรื่อยๆ แต่ไม่อยากเปิดเผยตัวมากนัก ซึ่งบนถนนตอนนี้ก็แทบไม่ต่างอะไรจากนรกบนดิน ความระยำทุกอย่างมีรวมอยู่กันบนถนนเส้นนี้

    “เฮ้ย ค่าผ่าน 2 ดอลล่าห์ จ่ายมาซะดีๆ!!” กลุ่มนักเลงกลุ่มหนึ่งตั้งด่านรีดไถชาวบ้านแถวนั้น แต่เนวิสหนีไปอีกทางหนึ่ง และอีกด้านหนึ่ง

    “เฮ้อ แบบนี้ประจำ แต่ถ้าถามว่าตำรวจอยู่ที่ไหนเหรอ จะบอกให้นะ อย่าไปถามหาพวกนั้นเลย ตำรวจตอนนี้น่ากลัวกว่าพวกนักเลงซะอีก แถมยังต้องจ่ายเงินเพื่อให้พวกนั้นทำงาน ถ้าคุณไม่เชื่อ ผมจะพาไปดูก็ได้!!” 

    เนวิสคิดในใจ จากนั้นก็เดินต่อไปเรื่อย จนกระทั่งมีเด็กกลุ่มหนึ่งมาเดินเกาะแข้งเกาะขาเขา

    “ขอขนมปังให้พวกเราด้วยครับ/ค่ะ!!”

    “เฮ้อ พี่ก็อยากจะให้นะ แต่พี่ก็ต้องหาเหมือนกัน” เนวิสคิดในใจ จากนั้นก็เดินผ่านเด็กพวกนั้นไป และภาพต่อมาที่พวกเขาเห็น พวกเขาเห็นชายกลุ่มหนึ่งกำลังยืนเรียงคิวเพื่อซื้อบริการหญิงสาวคนหนึ่ง โดยที่มีป้ายเขียนด้วยว่า

    “1 อาหารกระป๋อง = 1 ยก!!”

    ผมรู้จักผู้หญิงคนนั้นนะ เธอเป็นดาวคณะของมหาลัยที่ผมเคยเรียน เอาจริงๆเงินที่ผมมีนี่ผมซื้อตัวเธอได้ 3 วันเลยนะ แต่ว่า ตอนนี้ตัวเองยังไม่มีจะกินเลย จะไปห่วงเรื่องนั้นทำไม

    เนวิสเดินต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งตัวเขาเดินมาถึงสถานีตำรวจแห่งหนึ่ง ซึ่งด้านหน้ามีป้ายเขียนว่า

    “5 ดอลล่าห์ ต่อ 1 คดี!!”

    “ผมบอกแล้วไง ตำรวจพวกนี้ ถ้าเงินไม่มางานไม่เดิน แต่คงเอาผิดอะไรไม่ได้แล้วหล่ะ เราไม่มีรัฐบาลมานานแล้ว ก็ไม่แปลกใจนะ ที่ใครจะทำอะไรตามใจก็ได้ ที่ผมเดินผ่านมาเนี่ย มีจุดไหนบ้างที่ไม่มีขยะมาทิ้ง ทุกคนทิ้งขยะกันเกลื่อน ใครอยากจะทำอะไรก็ทำ!!” เนวิสคิดในใจต่อ จากนั้นเขาก็เดินมาเรื่อยๆ จนมาถึงโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ซึ่งชายคนหนึ่งกำลังนั่งร้องไห้อยู่ด้านหน้าโรงพยาบาลพร้อมศพเด็กคนหนึ่ง โดยมีหมอและพยาบาลมาคอยดูเขา

    “ไอ้ระยำเอ้ย แกเป็นหมอยังไงวะ ทำไมถึงไม่ช่วยลูกฉัน??” ชายคนนั้นตะโกนด่าพวกหมอไป

    “พวกเราก็อยากช่วย แต่พวกเราไม่มียาเหลือแล้ว!!” หมอคนนั้นตอบกลับไป

    “สภาพชีวิตคนเมืองก็เป็นแบบนี้แหละครับ โรงพยาบาลไม่สามารถรักษาใครได้ ไม่แปลกใจเลยที่คนตายนอนเกลื่อนถนนแบบนี้!!” เนวิสพูดขึ้น จากนั้นตัวเขาก็เดินต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึงร้านค้าแห่งหนึ่ง ซึ่งขายของทั่วไป ทั้งของอุปโภคบริโภค แต่ร้านนี้มีการจำกัดเกรด เกรดดีหน่อยจะใช้เงินดอลล่าห์ซื้อ แต่ถ้าเกรดแย่จนไปถึงขั้นของบูดของเน่า ก็ราคาไม่กี่โซโรร่า แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีใครซื้อ ส่วนตัวเนวิสก็เดินไปยังของเกรดดีที่เขาพอจะใช้เงินดอลล่าห์ซื้อได้ แต่ภาพที่เขาเห็นที่โซนของเกรดแย่ เขาเห็นหญิงสาวสองคนกำลังตบตีกันแย่งน้ำดื่มขวดเดียว

    “นั่นน้ำของฉัน!!”

    “ของฉันต่างหาก!!”

    เนวิสได้แต่มองอย่างน่าเวทนา ไม่น่าเชื่อว่าประเทศนี้จะมาถึงจุดนี้ได้ เขารีบเดินซื้อของจากนั้นก็เดินไปจ่ายเงินในทันทีอย่างรวดเร็ว พนักงานคิดเงินแล้วบอกราคากับเนวิสในทันที

    “2 ดอลล่าห์ครับ!!”

    เนวิสรีบวางเงินจากนั้นก็รีบขนของเดินออกไปด้านนอก เขารีบเดินกลับบ้านในทันทีก่อนที่เขาจะเจอโจรปล้นเขากลางทาง และเมื่อเขาเดินมาซักพัก เขาก็พบกับชายหญิงกลุ่มหนึ่งที่กำลังถือทั้งไม้และมีดปรี่เข้ามาล้อมชายหญิงกลุ่มหนึ่ง ซึ่งชายหญิงกลุ่มนั้นทำท่าดูเหมือนพยายามร้องขอชีวิต เนวิสเห็นดังนั้นจึงแอบเข้าไปดูใกล้ๆเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น

    “ไอ้พวกลูกกระเป๋งปราฟยาฟ ไอ้ขี้ข้าทรราชย์!!”

    “ได้โปรด พวกเราเป็นข้าราชการ แค่ทำตามหน้าที่เท่านั้น!!” คนพวกนั้นพูดขึ้น

    “หุบปาก ฉันยังจำได้พวกแกยังชี้หน้าด่าคนชั้นต่ำอย่างพวกเราอยู่เลย มาวันนี้ พวกเราก็คนชั้นต่ำทั้งนั้น ทำไมไอ้ปราฟยาฟไม่พาแกไปอยู่ด้วยหล่ะ??”

    “ใช่!!” คนที่อยู่รอบข้างตะโกนขึ้น

    “อย่าๆๆ พวกเรายอมแล้ว เราสัญญาว่าจะไม่สนับสนุนเขาอีก!!” พวกนั้นพยายามร้องขอชีวิต

    “พวกแกมันก็ดีแต่เอาตัวรอดนั่นแหละ ทีอย่างงี้กลัวตาย ตอนที่พวกทหารล้อมปราบพวกเราพวกแกหายหัวไปไหนหล่ะ อ้อ ตอนนี้พวกมันหนีไปหมดแล้ว ทิ้งพวกแกให้กับเรา พวกเรา!! จะเอายังไงกับมันดี??”

    “ฆ่ามันๆๆๆ”

    “ก็อย่างที่เห็นนั่นหล่ะครับ ดูภายนอกคุณอาจจะสงสารพวกเขา แต่ถ้าคุณเห็นตอนที่เขาสนับสนุนนายพลปราฟยาฟฆ่าล้างโคตรศัตรูทางการเมือง คุณคงจะสงสารพวกเขาไม่ลง ช่างเถอะ ผมกลับบ้านดีกว่า!!” 

    “ปัง!!”

    ในขณะที่เนวิสกำลังจะเดินกลับบ้าน แต่ในตอนนั้นเอง เขาเห็นกองกำลังติดอาวุธชุดแดงกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาในเมือง จากนั้นก็ตะโกนประกาศผ่านโทรโข่งให้ชาวเมืองได้รู้ เนวิสในตอนนั้นก็ฟังอย่างตั้งใจ

    “จงสยบต่อ Khorne เรามาเพื่อปลดปล่อยพวกคุณทุกคน เราจะสร้างประเทศใหม่ เราจะสร้างทุกอย่างให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม!!

    “พวกนั้นเป็นใครวะ??” เนวิสนึกในใจ แต่ในระหว่างที่เขากำลังมองไปนั้นเอง จู่ๆก็มีมือข้างหนึ่งกระชากเขามา แล้วก็ลากเขาเข้าไปด้านในบ้านหลังหนึ่ง

    “เฮ้ย ปล่อยกูนะเว้ย!!” เนวิสร้องและดิ้นต่อสู้ และจากนั้นเองมือนั้นก็ลากเขาเข้าไปในห้องใต้ดิน จากนั้นก็เหวี่ยงตัวเนวิสลงไปบนพื้นในทันที

    “ไอ้ระยำเอ้ย พวกแกเป็นใครวะ??” เนวิสตะโกนถามไป

    “เป็นคนที่ไม่อยากเห็นนายโดนมันฆ่าไงหล่ะ” ชายผิวขาวร่างสูงที่ลากเขามาพูดขึ้น

    “ทำไม พวกมันเป็นใครกันเหรอ??” เนวิสถามไป

    “เป็นพวกอันตรายที่แกไม่ควรไปยุ่งไงหล่ะ” ชายคนนั้นพูดต่อ

    “เฮ้ ฟรอนเทียร์ นายไปพาใครมาเนี่ย??” ผู้หญิงคนหนึ่งในห้องถามเขาไป

    “ไอ้หมอนี่ไปแอบดูพวก Khorne หาเรื่องตายแล้วไหมหล่ะ” ฟรอนเทียร์ตอบไป

    “โห นี่นายไม่รู้เรื่องอะไรเลยเหรอเนี่ย อ่านข่าวบ้างเปล่า??” หญิงสาวคนหนึ่งที่กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้เกมมิ่งสุดหรูถามเขาไป แต่ในตอนนั้นเอง เนวิสรู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตาเธอ เขาเลยถามไป

    “คุณคือ เรนิต้า อาร์เวียนทิสใช่หรือเปล่า คุณเป็นนักกีฬา E - Sport ชื่อดังนี่ ผมเชียร์คุณนะตอนคุณไปแข่งกับเกาหลีใต้หน่ะ” เนวิสพูดขึ้น ทำเอาเรนิต้าถึงกับยิ้มแก้มปริ

    “”นี่ นายยังไม่ตอบคำถามเราเลยนะ นายไม่รู้เรื่องโลกภายนอกเลยเหรอ?? หญิงสาวอีกคนหนึ่งถามเนวิสไป

    “โธ่ ตอนนี้มีใครรู้บ้างหล่ะครับ สถานีโทรทัศน์ วิทยุก็ไม่มี แถมอินเทอร์เน็ตผมก็เพิ่งจะหมด ว่าแต่พวกคุณเป็นใครกันแน่ ดูเหมือนพวกคุณจะไม่เดือดร้อนเท่าไหร่นะ??” เนวิสถามไปบ้าง

    “ฉันชื่อลูซิน่า แล้วนี่น้องสาวฉันวาลิน่า เราเป็นกลุ่มใต้ดินหน่ะ” หญิงสาวคนนั้นพูดขึ้น

    “แหม่พี่ เจอหล่อๆหน่อยไม่ได้เลยนะ!!” คนน้องพูดปรามพี่เธอไป

    “อ่า แล้วพวกคุณตอนนี้รู้ด้วยเหรอครับว่าโลกภายนอกเกิดอะไรขึ้น??” เนวิสถามไป

    “แน่นอนสิ นายอยากจะมาดูหรือเปล่า??” ลูซิน่าถามเนวิสไป แต่ในระหว่างที่กำลังคุยกัน จู่ๆเรนิต้าก็อ่านอะไรบางอย่าง จากนั้นก็รีบบอกกับคนอื่นๆในทันที

    “นี่ๆ ทุกคน ดูข่าวนี่สิ ยืนยันมาแล้ว มีข่าวว่าคุณโดนาทอร์กำลังเปิดทางมาที่เกาะบูริลทางใต้ และตอนนี้เราเจอตัวคุณปาโบล ดิเอโก้ด้วย นี่เขายังไม่ตายเหรอ??” เรนิต้าถามไป

    “จริงเหรอ ติดต่อกับกลุ่มของเราทางใต้ด่วนเลย!!” ลูซิน่าพูดขึ้น

    “ห่ะ คุณโดทานอร์กับคุณปาโบลยังไม่ตายเหรอครับ ผมคิดว่าเขาโดนนายพลปราฟยาฟเก็บไปซะแล้ว” เนวิสพูดขึ้น

    “เขาอาจจะกลับมาเคลื่อนไหวในเกาะทางใต้ก็ได้นะ” วาลิน่าพูดขึ้น

    “แบบนี้สนุกแน่ๆ ไอ้พวกทางเหนือคงจะนั่งไม่ติดเก้าอี้แล้วหล่ะ”  ฟรอนเทียร์พูดขึ้น

    “อ่า ผมอยากจะกลับบ้านหน่อย ผมจะไปเอาของหน่ะ” เนวิสพูดขึ้น

    “งั้นเหรอ แล้วนายจะกลับมาหรือเปล่า??” วาลิน่าถามไป

    “ถ้าพวกคุณจะเคลื่อนไหวเพื่อคุณโดนาทอร์ ผมขอร่วมด้วยสิครับ!!” เนวิสพูดขึ้น

    “อืม เอาเป็นว่า ถ้านายกลับมา ให้นายชูบัตรนี่ให้เราดูแล้วกัน” ลูซิน่าพูดขึ้น จากนั้นเธอก็ยื่นบัตรใบหนึ่งให้กับเขาไป

    “รีบกลับมาแล้วกันนะ ด้านนอกพวก Khorne เต็มไปหมดเลย!!” เรนิต้าพูดขึ้น จากนั้นเนวิสก็รีบวิ่งเปิดออกไปที่ด้านนอกในทันที เขาพยายามวิ่งหลบพวก Khorne ที่เดินไปเดินมาแถวนั้น หลบในซอยนั้นทีซอยนี้ที และเมื่อเขาวิ่งมาถึงหน้าคอนโดของเขา เขาก็รีบไขกุญแจแล้วเปิดเข้าไป เมื่อเขาเข้าไปเรียบร้อยแล้ว เขากับพบกับอะไรบางอย่าง ซึ่งนั่นคือชายสองคนกำลังนั่งทำแผลอยู่ในห้องของเขา ในตอนนั้นเองเนวิสก็รีบชักปืนออกมาในทันที

    “เฮ้ย แกเป็นใครวะ??”

    “เดี๋ยวๆๆ ใจเย็นๆ พวกเราแค่มาทำแผลหน่ะ เพื่อนฉันบาดเจ็บ” ชายคนหนึ่งที่มีตาข้างเดียวพูดขึ้น

    “บ้าเอ้ย ฉันต้องเย็บแผลเดี๋ยวนี้เลยเนี่ย นายมีเข็มหรือเปล่า??” ชายที่กำลังบาดเจ็บพูดขึ้น

    “ผมมีเข็มเย็บผ้า รอแป๊ปนึงนะ” เนวิสพูดขึ้น จากนั้นเขาก็วิ่งเข้าไปด้านในห้องของเขา รีบไปหยิบของอย่างหนึ่งที่แม่ของเขาเหลือไว้ก่อนตาย ก่อนตายแม่ของเนวิสชอบเย็บผ้ามากๆ เขารีบวิ่งไปหยิบมาให้ชายสองคนในทันที

    “พอได้นะ??” เนวิสถามไป

    “ได้เลย ขอบใจมากนะ!!” ชายคนนั้นพูดขึ้น จากนั้นเขาก็เอาเข็มมาลนกับไฟแช็ค เมื่อเสร็จแล้วเขาก็เย็บแผลให้กับเพื่อนของเขาในทันที

    “พวกคุณเป็นใครมาจากไหนกันเนี่ย??” เนวิสถามทั้งคู่ไป

    “ผมชื่อแจ๊คกี้ เพื่อนผมดิมิทรี เราหนีจากพวกข้างนอกมาหน่ะ ผมอาจจะหลบในนี้ซักพักนะ” แจ๊คกี้พูดขึ้น

    “พวกคุณอยู่ไปเลย ผมคงไม่อยู่ที่นี่แล้วหล่ะ” เนวิสพูดขึ้น

    “เฮ้ นายจะไปไหนหล่ะ ข้างนอกวุ่นวายใหญ่เลยนะ??” ดิมิทรีถามเนวิสไป

    “ฉันมีที่ไปของฉันหน่ะ พวกนายอยากจะอยู่ที่นี่ก็ได้ ฉันไปเก็บของหล่ะ” เนวิสพูดขึ้น จากนั้นตัวเขาก็เดินไปเก็บกระเป๋าของเขา และยัดเสื้อผ้าและของสำคัญที่เขาคิดว่าจะเอาไปได้ เมื่อเสร็จแล้ว เขาก็จะเดินออกจากห้องในทันที

    “เฮ้ เดี๋ยวก่อนสิ นายชื่ออะไรหล่ะ??” แจ๊คกี้ตะโกนถามไป

    “ผมเนวิส ฟาริด้า” เนวิสพูดขึ้น จากนั้นตัวเขาก็เดินออกจากบ้านของเขาไป ถึงเวลาที่เขาต้องตัดใจจากบ้านหลังนี้เพื่ออนาคตที่ดีกว่าสินะ แม่ครับ ผมขอโทษนะครับที่ต้องจากบ้านมา แต่วันหนึ่งผมจะเอาทุกอย่างมาคืนแม่ให้ได้ครับ

    เนวิสเดินทางกลับไปยังรังลับของกลุ่มใต้ดิน เมื่อเขามาถึง เขาก็เคาะที่ประตูหน้า จากนั้นก็โชว์บัตรที่เขาได้มาให้คนด้านในดูทันที จากนั้นคนด้านในก็เปิดประตูต้อนรับเนวิสและพาเขาเข้าไปก่อนที่พวก Khorne จะมาเจอตัวเขา

     

    ณ หมู่เกาะบาราริล ทางตอนใต้ของโซโรวา ซึ่งเป็นหมู่เกาะที่สวยงามเหมาะสำหรับจะมาท่องเที่ยว แต่วันนี้ชาวเมืองทุกคนต่างก็มารออะไรบางอย่างที่ท่าเรือ และกำลังรอเรือลำหนึ่งซึ่งกำลังเทียบท่า และในไม่กี่อึดใจหลังจากที่เรือเทียบท่า ชายหนุ่มในชุดสูทคนหนึ่งก็เดินลงจากเรือ และเมื่อชายคนนั้นลงจากเรือ เขาก็ได้ยินเสียงชาวบ้านตะโกนต้อนรับเขาในทันที

    “คุณโดนาทอร์!!”

    ชายหนุ่มที่ชื่อโดนาทอร์คุกเข่าลงจากนั้นก็ก้มหน้าจูบพื้นดิน หลังจากที่เขาเงยหน้าขึ้นมา ชายวัยกลางคนคนหนึ่งก็เดินมาหาโดนาทอร์ จากนั้นก็มากอดโดนาทอร์ในทันที

    “ขอต้อนรับกลับสู่มาคตุภูมิ คุณโดนาทอร์ นานมากเลยที่ไม่ได้เจอคุณ!!”

    “คุณปาโบล ผมนึกว่าคุณไปจากที่นี่แล้วซะอีก”

    “ผมไม่ไปไหนทั้งนั้น จนกว่าประเทศนี้จะกลับมารุ่งเรืองเหมือนเดิมหน่ะ”

    “ผมเข้าใจ แต่ว่าตอนนี้ผมมีกำลังในมือไม่เท่าไหร่ แต่พวกกองกำลังติดอาวุธบนแผ่นดินใหญ่มีมากกว่าเราโขอยู่” โดนาทอร์พูดขึ้น

    “ไม่ต้องห่วงครับ ผมพอจะมีเส้นสายคนรู้จักบนแผ่นดินใหญ่ น่าจะพอช่วยได้นะครับ”

    “ผมคงต้องหวังพึ่งคุณแล้วหล่ะ แผ่นดินของเราตกต่ำมานานเกินไปแล้ว ผมจะใช้ทุกอย่างเพื่อทำให้มันกลับมาเหมือนเดิม” โดนาทอร์พูดขึ้น

    “แน่นอนครับ เอาเป็นว่า คุณไปพักที่บ้านผมก่อนก็แล้วกัน ผมจะคุยเรื่องสิ่งที่เกิดขึ้นบนแผ่นดินใหญ่ เผื่อคุณอยากได้ข้อมูลหน่ะ” ปาโบลพูดขึ้น จากนั้นตัวเขาก็เชิญโดนาทอร์ไปพักที่บ้านของเขาในทันที 

     

    ณ ที่ไหนซักแห่ง ชายฝั่งคอสตาริก้า บ้านพักหลังหนึ่ง ซึ่งมองจากภายนอกดูคล้ายจะเป็นบ้านพักธรรมดา แต่ด้านในนั้น มีทหารกลุ่มหนึ่งกำลังนั่งฟังชายหนุ่มคนหนึ่งอธิบายอะไรบางอย่างกับพวกเขาอย่างตั้งใจ และชายคนนั้นท่าทางจะจริงจังกับงานๆนี้ด้วย

    “สวัสดีทหาร ยังจำผมได้สินะ ผมจ่าสิบเอกปีเตอร์ ดับเบิ้ลยู นิมิตซ์ Delta Force 007 แล้วนี่ก็ผู้ช่วยของผม สิบเอกหญิงซาโตะ เมสัน!!” จ่าสิบเอกคนนั้นแนะนำทหารหญิงเอเชียคนหนึ่งให้ลูกน้องคนอื่นๆ

    “ฝากเนื้อฝากตัวด้วยค่ะทุกคน!!”

    “เอาหล่ะ ผมจะขอขานชื่อทุกคนในทีมก่อนนะ 

    สิบโทเบ็กเก็ตต์ ทอดด์ พลจู่โจม// ครับ!!

    สิบโทคัตเตอร์ วินนี่ พลซุ่มยิง// ครับ!!

    สิบโทหญิงมิคาเอล วารีนี่ หน่วยต่อสู้รถถัง// ค่ะ!!

    สิบตรีจอห์น เมสัน หน่วยปืนกล// ครับ!!

    สิบตรีโจอี้ เจสัน พลวิทยุ// ครับ!!

    สิบตรีหญิงการ์เซีย วาเลเรีย แพทย์สนาม// ค่ะ!!"

    “ยินดีที่ได้พบกับทุกคนครับ เอาหล่ะ ผมได้รับคำสั่งจากวอชิงตันให้ปฏิบัติการในพื้นที่โซโรวาหน่ะ” ปีเตอร์พูดขึ้น

    “ท่านครับ โซโรวาตอนนี้ทาง UN ถอนกำลังแล้วไม่ใช่เหรอครับ??” เบ็กเกตต์ถามไป

    “นั่นสิคะ แล้วทำไมพวกเราต้องไปที่นั่นอีกหล่ะ??” มิคาเอลถามเสริม

    “ค่ะ หน่วยข่าวกรองของเรารายงานมาว่า โดนาทอร์ จาราริก้า นักการเมืองชื่อดังได้กลับมาแล้ว ตอนนี้เขาเพิ่งจะขึ้นบกที่หมู่เกาะบาราริล พร้อมกับกองกำลัง 500 นายที่ตามมาด้วยค่ะ” ซาโตะพูดขึ้น

    “ใช่ครับ ภารกิจของพวกเราก็คือจับตามองเขา สังเกตการณ์สงครามที่กำลังจะเกิดขึ้นหน่ะ” ปีเตอร์พูดขึ้น

    “แล้วเรามีกำลังเสริมหรือเปล่าครับ??” คัตเตอร์ถามไป

    “นั้นสิครับ เขาไม่ส่งกำลังมาช่วยเราเหรอครับ??” จอห์นถามเสริม

    “งานของเราคือสังเกตการณ์ เพราะฉะนั้น ก็แค่สังเกตการณ์ไปหน่ะ” ปีเตอร์พูดขึ้น

    “แล้วกฎการปะทะหล่ะครับ??” โจอี้ถามไป

    “พวกคุณทุกคนมีสิทธิ์ปกป้องตัวเองได้ แต่ห้ามโจมตีก่อนค่ะ” ซาโตะพูดขึ้น

    “ค่ะ พวกเรารับทราบค่ะ!!” การ์เซียพูดขึ้น

    “โอเคครับ พรุ่งนี้เราทุกคนจะได้ไปที่โซนเขต 4 ของโซโรวา ซึ่งใกล้กับเมืองหลวง เรามีสายอยู่ที่นั่น เอาหล่ะ เลิกประชุมได้ครับ!!” ปีเตอร์พูดขึ้น จากนั้นลูกน้องคนอื่นๆก็แยกย้ายกันไปในทันที

     

    ณ เขตชายแดนระหว่างเมืองหลวงกับเขต 4 เขตกาชาดสากล ซึ่งหน่วยกาชาดสากล UN ยังคงตั้งที่มั่นไว้ที่นั่นเพื่อช่วยเหลือประชาชนชาวโซโรวาที่แทบจะไม่เหลืออะไรเลยในชีวิต ชาวโซโรวานับแสนต้องต่อแถวรอรับอาหารจาก UN เพื่อประทังชีวิตไปวันๆ และในแต่ละวันก็มีชาวบ้านมากมายเดินทางมาพึ่งใบบุญของหน่วยงานนี้ และบนน่านฟ้าของเขต เฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งก็ค่อยๆลงจอดบริเวณนั้น และในตอนนั้นเอง หญิงสาวในชุดรัดรูปสุดเซ็กซี่คนหนึ่งก็เดินลงมาจากฮอ ทหาร UN แถวนั้นเห็นถึงกับกลืนน้ำลายเอือก และในตอนนั้นเอง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งก็มาต้อนรับเธอในทันที

    “คุณมารีนเนอร์ ขอต้อนรับสู่โซโรวาครับ!!”

    “สวัสดีค่ะ ที่นี่อากาศดีนะคะ” มารีนเนอร์ตอบไป

    “อ่า คุณใส่ชุดแบบนี้มาจะดีเหรอครับ??”

    “ฉันว่าคุณเอาเวลาไปสนใจชาวบ้านพวกนี้ ดีกว่ามาสนเรื่องเสื้อผ้าของฉันดีกว่านะคะ” มารีนเนอร์ตอบไป

    “ครับ ขอโทษครับ ตอนนี้ชาวบ้านโซโรวาอพยพมีราวๆ 1 แสนกว่าคนได้ และจะหลั่งไหลมาไม่หยุดครับ”

    “ฉันเข้าใจ ตอนนี้มีใครไม่อดอยากบ้างหล่ะ” มารีนเนอร์ตอบไป ทำเอาเจ้าหน้าที่คนอื่นๆไม่กล้าพูดต่อเลย

    “ตอนนี้อาหารที่มีพอเลี้ยงพวกเขาได้นานแค่ไหนกัน??” มารีนเนอร์ถามไป

    “1 อาทิตย์ครับ!!”

    “ตอนนี้อาหารล็อตใหม่กำลังจะมาในอีก 1 เดือน แบบนี้ไม่พอแน่ๆ” มารีนเนอร์พูดขึ้น

    “ครับ แต่ไม่รู้ว่าจะทันหรือเปล่านะครับ”

    “ถ้าอย่างงั้น ไปกว้านซื้อจากพ่อค้าแถวนี้มา ราคาฉันไม่เกี่ยง” มารีนเนอร์พูดขึ้น

    “รับทราบครับผม!!”

    “ตอนนี้ต้องระวังด้วย กองกำลังหลายฝ่ายกำลังช่วงชิงความเป็นใหญ่กัน เราไม่รู้ว่าจะอยู่ที่นี่ได้อีกนานหรือเปล่านะ” มารีนเนอร์พูดไป 

     

    และอีกด้านหนึ่งของเขต 4 ในค่ายทหารร้างแห่งหนึ่งในโซโรวา ในตอนนี้ไม่มีทหารเหลืออยู่แล้วเพราะทหารโซโรวาก็ได้หนีหายกันไปคนละทิศละทาง ในตอนนี้ก็เหลือแค่กลุ่มคนหนึ่ง ซึ่งพวกเขาก็ได้แต่หาอยู่หากินไปวันๆ ทั้งปลูกพืช เลี้ยงสัตว์เท่าที่กำลังจะมี และที่ริมแม่น้ำ ชายคนหนึ่งก็เดินถือปลาที่ตกมาได้เดินเข้ามาในค่าย เขาเดินมาเรื่อยๆจนมาเจอกับหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งกำลังยืนรอเขาอยู่ที่หน้าประตู และเมื่อทั้งคู่เจอกันก็ทักทายกันในทันที

    “ไง บาร์ม โชคดีบ้างเปล่า??”

    “ไม่เลยเคนนี่ ดูเหมือนปลาใกล้จะหมดหนองน้ำแล้วหล่ะ” บาบามัสตอบเธอไป

    “เฮ้อ ไม่รู้ว่ามันฝรั่งที่เราปลูกจะโตหรือเปล่า เสบียงที่มีก็ไม่รู้จะเลี้ยงพวกเราได้นานแค่ไหนนะ” เคนนี่พูดขึ้น

    “อืม แต่ไม่เป็นไร ฉันจะพยายามหาเสบียงเพิ่มเอง” 

    “แล้วจะไปหาที่เขตไหนหล่ะ กระสุนตอนนี้เราก็แทบไม่เหลือแล้วเนี่ย” เคนนี่ถามไป

    “เห็นทีคงต้องรุกล้ำไปเขต 2 แล้วหล่ะ” บามามัสพูดขึ้น

    “เฮ้ย มันฆ่าตัวตายชัดๆ ที่นั่นพวก Khorne คุมอยู่นะ” เคนนี่พูดขึ้น

    “ยังไงก็ต้องลองเสี่ยงหล่ะ ไม่อย่างงั้นเราตายหมดแน่” บามามัสพูดขึ้น

    “ก็แล้วแต่นายแล้วกัน งั้นคืนนี้ฉันไปด้วย” เคนนี่พูดขึ้น

    “ได้เลย คืนนี้ฉันจะไปที่เขต 2 ตอนที่พวกมันเผลอ ขโมยของพวกมันมา”

    “ได้ๆ ถ้างั้นฉันจะไปเตรียมของให้แล้วกัน” เคนนี่บอกกับบามามัสไป

     

    ณ เขตท่าเรือของเมืองโซโรวาซิตี้ ซึ่งตอนนี้ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มมาเฟียติดอาวุธ บ้านเมืองไร้ขื่อไร้แป การอาชญากรรมพบเห็นได้ทั่วไปตามท้องถนน สภาพชาวเมืองตอนนี้ดูน่าเวทนายิ่งนัก และบนถนนในเมือง หญิงสาวคนหนึ่งกำลังเดินไปตามท้องถนน โดยใช้ผ้าคลุมปกปิดร่างกายของเธอเอาไว้ และพยายามหลีกเลี่ยงกลุ่มติดอาวุธในเมืองด้วย เธอเดินไปเคาะประตูโกดังแห่งหนึ่ง เธอเคาะสามครั้งเป็นสัญญาณ และประตูโกดังก็เปิดออก จากนั้นเธอก็เดินเข้าไปในโกดังทันที 

    “สวัสดีคุณฟรานเชสก้า มาแต่หัววันเลยนะครับ!!”

    อเล็กซานเดอร์ นึกว่าคุณออกจากเมืองไปแล้วซะอีก”

    “ผมยังไปไหนไม่ได้เลยตอนนี้ เข้ามาก่อนสิครับ!!” อเล็กซานเดอร์พาเธอเข้ามาในร้านของเขา ซึ่งเป็นร้านเพทช็อปขนาดใหญ่ในเมือง แต่หลังจากเกิดเรื่อง ร้านนี้ก็ปิดตัวลงชั่วคราว เพื่อรอโอกาสอะไรบางอย่าง แต่เขาก็ยังเลี้ยงสัตว์ไว้มากมายเพื่อเอาไว้ใช้งานด้วย

    “นี่ นายยังเลี้ยงหมาป่าเหมือนเดิมหล่ะ นายมีเนื้อให้กินเหรอ??” ฟรานเชสก้าถามเขาแล้วชี้ไปที่หมาป่าของเขาที่ล่ามอยู่แถวนั้น

    “อ้อ ผมพอหาได้น่า คุณก็รู้ว่าลูกๆของผมเก่งแค่ไหน” อเล็กซานเดอร์ตอบไป

    “อืม คุณได้ข่าวอะไรเพิ่มเติมจากโลกภายนอกหรือเปล่าตอนนี้??” 

    “ตอนนี้ได้ข่าวแค่ว่าคุณโดนาทอร์ เพิ่งกลับมาจากอเมริกา ตอนนี้เขาเดินทางมาถึงหมู่เกาะบาราริลแล้วหล่ะ” อเล็กซานเดอร์ตอบเธอไป 

    “จริงเหรอ ถ้าคุณโดนาทอร์มาที่นี่จริงๆ พวกเราก็รอดแล้วสิ”

    “ใช่ๆ คุณอาจจะได้กลับบ้านก็ได้” อเล็กซานเดอร์พูดขึ้น จากนั้นกระต่ายตัวหนึ่งก็วิ่งมาหาเขา เขาอุ้มมันขึ้นมาในทันที

    “เฮ้อ ถ้าเสบียงเราไม่พอ ผมคงต้องกินมันหน่ะ” อเล็กซานเดอร์พูดขึ้น

    “อย่ากินมันเลย ฉันสงสารมันหน่ะ” ฟรานเชสก้าพูดขึ้น

    “อืม ก็คงงั้น แต่ไม่ต้องห่วง คุณก็รู้ว่าลูกๆของผมช่วยเหลือผมได้ดีแค่ไหน” 

    “เอาเถอะค่ะ ถ้าได้ข่าวเพิ่มก็บอกฉันนะคะ!!” ฟรานเชสก้าพูดขึ้น จากนั้นเธอก็วางเหรียญทองเหรียญหนึ่งไว้บนโต๊ะของเขา จากนั้นเธอก็เดินกลับออกไปในทันที

     

    ณ ที่ไหนซักแห่งในเขต 7 โซโรวา ซึ่งเขตนี้เป็นเขตเหมืองแร่ของประเทศโซโรวา เป็นเขตความมั่งคั่ง แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะไม่มีชีวิตชีวาเท่าไหร่ ชาวเหมืองในตอนนี้ก็ทำงานไปตามปกติ ในระหว่างที่คนงานกำลังทำงานอยู่นั้นเอง เฮลิคอปเตอร์สัญชาติจีนลำหนึ่งบินเข้ามาในเขตเหมือง และเมื่อเฮลิคอปเตอร์ลงจอด ชายในชุดนายทหารจีนคนหนึ่งก็เดินลงจากฮอ โดยที่มีชายติดอาวุธสองคนมารอต้อนรับอยู่แล้ว

    “ท่านนายพลจางครับ เชิญทางนี้ครับ!!” 

    ชายคนนั้นพานายพลจางเดินทางเข้าไปในเหมือง ซึ่งมีเต้นท์ที่กำลังกางรอต้อนรับเขาอยู่ นายพลจางเข้าไปในเต้นท์แล้วเจอกับหญิงสาววัยกลางคนผิวขาวคนหนึ่งกำลังรอเขาอยู่ เธอต้อนรับเขาในทันที

    “เดินทางเป็นยังไงบ้างคะ ท่านนายพล??”

    “สวัสดีคุณบาร์บาร่า ยินดีที่ได้เจอคุณครับ” นายพลจางบอกเธอไป

    “ยินดีเช่นกันค่ะท่าน!!”

    “อืม ขอเข้าเรื่องเลยแล้วกัน คุณเรียกผมมาในวันนี้มีอะไรหล่ะ??” นายพลจางถามไป

    “คือดิฉันต้องการกองกำลังของท่านในการปกป้องเหมืองนี้ แล้วส่วนแบ่งของเหมือง ฉันจะยกให้ท่านนายพลด้วยค่ะ” 

    “อืม น่าสนใจแค่ไหนหล่ะ??” นายพลจางถามไป

    “ก็ไม่มากไม่น้อย ฉันให้คุณ 50 เปอร์เซ็นต์ค่ะ กำไรของเหมืองนี้ คำนวณได้แล้วมีถึงเดือนละ 3 ล้านดอลล่าห์เลยค่ะ” บาร์บาร่าตอบไป

    “อืม คุณคิดว่าจะหากำไรจากเหมืองพวกนี้ได้จริงๆเหรอครับ??” นายพลจางถามไป

    “เมื่อก่อนนี้ โซโรวาไม่ได้คิดจะลงทุนในเหมืองพวกนี้เท่าไหร่ ตั้งแต่ค้นพบน้ำมัน ทำให้เทคโนโลยีการทำเหมืองด้อยไปมาก แต่ตอนนี้ เรามีทั้งเทคโนโลยี และคนงานอย่างที่โซโรวาไม่มี ฉันรับรองว่าที่นี่ต้องทำกำไรให้เราแน่นอน”

    “แล้วพวกทหาร UN จะไม่สังเกตอย่างงั้นเหรอครับ??” นายพลจางถามไป

    “ฉันพอมีคนของ UN ที่คอยส่งข่าวให้ฉันอยู่หน่ะ รับรองว่าไม่มีใครสาวถึงตัวเราได้แน่นอน” บาร์บาร่าตอบไป

    “อืม ถ้าอย่างงั้นก็ดี ผมจะได้รายงานปักกิ่งไปว่าผมมีภารกิจในนามของ UN ที่นี่ แล้วที่เหลือเราค่อยว่ากันอีกทีแล้วกันนะครับ” นายพลจางตอบเธอไป จากนั้นตัวเขาก็เดินออกไปในทันที

     

    กลับมายังบ้านพักของกลุ่มลึกลับ หลังจากที่เนวิสเข้ามาได้แล้ว ฟรอนเทียร์ก็พาเนวิสลงมาชั้นใต้ดินเพื่อไปหลบภัย เนวิสแบกของมาเยอะมาก ทำเอาคนในบ้านถึงกับตกใจเล็กน้อย

    “โห นี่นายจะมาลงหลักปักฐานที่นี่เลยเหรอ??” เรนิต้าถามไป

    “ก็ใช่ ฉันอยากไปหาคุณโดนาทอร์ ไปช่วยเหลือเขาหน่ะ” เนวิสพูดขึ้น

    “โห เลือดร้อนรุนแรงเหมือนกันนะนายเนี่ย” ฟรอนเทียร์พูดขึ้น

    “โอเค ถ้านายอยากช่วยเรา ก็อยู่กับพวกเราก็ได้นะ” ลูซิน่าพูดขึ้น

    “ว่าแต่ นายเอาของอะไรมาบ้างหล่ะ??’ วาลิน่าถามไป

    “ก็เสื้อผ้า โน๊ตบุ๊ค แล้วก็เงินเก็บอีกนิดหน่อย เงินดอลล่าห์ด้วยนะ” เนวิสพูดขึ้น และในขณะเดียวกันนั้นเอง เรนิต้าก็ขอคอมของเนวิสมา ซึ่งเธอจะเอามาปรับแต่งให้สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ และในตอนนั้นเอง วาลิน่าก็ไปเจอข่าวอะไรบางอย่างในอินเทอร์เน็ต เธอรีบมาบอกกับคนอื่นในทันที

    “ทุกคน มีข่าวว่าคุณโดนาทอร์เดินทางกลับมาแล้ว ตอนนี้เขาอยู่ที่หมู่เกาะบาราริลหน่ะ!!” วาลิน่าพูดขึ้น

    “จริงเหรอ แสดงว่าเขาต้องติดต่อกับอดีตนักการเมืองฝ่ายค้านอยู่แน่ๆ อย่างคุณปาโบลหน่ะ” ลูซิน่าพูดขึ้น

    “ตอนนี้เขามีกำลังอยู่ในมือเท่าไหร่หล่ะ??” ฟรอนเทียร์ถามไป

    “เท่าที่รู้ ไม่น่าจะเกิน 500 คนหน่ะ” วาลิน่าพูดขึ้น

    “แค่นั้นไม่พอหรอก คงต้องปลุกระดมคนในเมืองให้สู้ด้วยนะ” เรนิต้าพูดขึ้น

    “เออใช่ พอจะรู้หรือเปล่าครับว่าตอนนี้เขตอื่นๆเป็นยังไงบ้างครับ??” เนวิสถามคนอื่นๆในห้องไป

    “เออใช่ นายต้องรู้ก่อนสินะ ฟรอนเทียร์ เล่าให้เขาฟังหน่อย” ลูซิน่าพูดขึ้น

    “ได้เลย หลังจากนายพลปราฟยาฟหนีออกนอกประเทศ และไม่มีพรรคไหนส่งคนมาลงเลือกตั้ง ประเทศก็แบ่งแยก กลุ่มผู้มีอิทธิพลหลายกลุ่มแย่งชิงความเป็นใหญ่กัน ตอนนี้ประเทศของเราแบ่งเป็น 7 เขต แถมยังมีกลุ่มย่อยอีกมากมาย

    เขตที่ 1 เขตเมืองหลวง ไปจรดท่าเรือ เขตนี้มีหลายแก๊งค์ พยายามคุมแต่ละถนน แต่ตอนนี้พวก Khorne เริ่มส่งคนมาแย่งชิงอิทธิพลในพื้นที่แล้ว

    เขตที่ 2 อยู่ไม่ห่างจากเมืองหลวงเท่าไหร่นัก พวก Khorne คุมหมดทุกที่ และตอนนี้มันพยายามส่งกำลังไปยึดเขตต่างๆอยู่

    เขตที่ 3 เขตของสิรานิส โจนิสต้า อดีตนักการเมืองรัฐบาล ขี้ข้าชั้นดีของปราฟยาฟ หลังจากนายพลปราฟยาฟหนีออกนอกประเทศ เขาก็รวบรวมเงินที่มีตั้งชุมนุมของเขา แต่ดูเหมือนสถานการณ์ไม่ค่อยเป็นใจเท่าไหร่ เพราะมีการก่อกบฏอยู่เรื่อยๆ

    เขตที่ 4 หลายคนคิดว่าเป็นเขตปลอดภัย เพราะสหประชาชาติตั้งมั่นที่นั่น แต่มีกลุ่มอิทธิพลคอยช่วงชิงพื้นที่อยู่ แก๊งค์หลักที่คุมคือพวกของไอ้แก่มาร์ชิน ซึ่งไอ้หมอนี่มีส่วนสำคัญในการร่างกฎหมายให้ปราฟยาฟ

    เขตที่ 5 ตอนนี้ไอ้ชาร์ลีมันคุมอยู่ มันใช้เงินพ่อมันซื้อเขตนั้นไว้ทั้งหมดเลย” 

    “ชาร์ลี ที่เคยมีข่าวสร้างโรงแรมริมเกาะสงวน กับทำร้ายร่างกายดาราหรือเปล่าครับ??” เนวิสถามไป

    “ใช่ๆ โคตรหมั่นไส้มันเลยตอนนั้น ต่อมาก็เขตที่ 6 เขตนี้ยังเป็นพื้นที่เกียร์ว่าง หลายแก๊งค์พยายามแย่งชิงมันอยู่ แล้วก็เขตที่ 7 เขตนี้เป็นเขตทรัพยากร ตอนนี้ไอ้โบริสมันคุมทั้งเขต ได้ยินว่ามันมีนายทุนต่างชาติหนุนหลังอยู่ด้วย” ฟรอนเทียร์พูดขึ้น

    “งานนี้คุณโดนาทอร์อาจจะลำบากก็ได้ แต่ผมจะช่วยเขาให้ถึงที่สุด” เนวิสพูดขึ้น

    “ดูท่านายจะอยากร่วมมือกับเขามากเลยนะเนี่ย!!” เรนิต้าพูดขึ้น

    “มีแค่เขาคนเดียวที่จะฟื้นฟูโซโรวาที่ผมรักได้ ประเทศนี้มันบัดซบมามากพอแล้ว เราสูญเสียกันมามากเท่าไหร่กับความสงบแบบปลอมๆที่พวกปราฟยาฟมันให้ สุดท้ายพอเกิดเรื่องมันก็หนีหางจุกตูดไป คอยดูเถอะ ถ้าผมเจอมัน ผมจะฆ่ามันให้ดู!!” เนวิสพูดอย่างเคียดแค้น ทำเอาทุกคนที่อยู่ในห้องไม่กล้าพูดอะไรต่อเลย

    “เอาเถอะ ตอนนี้นายอยู่ที่นี่ก็พักผ่อนก่อนแล้วกัน” ลูซิน่าพูดขึ้น

    “ผมยังไม่เหนื่อยหน่ะ ขอลุยก่อนก็แล้วกันครับ” เนวิสพูดขึ้น จากนั้นเขาก็อยู่กับพรรคพวกใหม่ของเขาที่จะร่วมกันกู้ประเทศนี้ให้กลับคืนมา

    ============================================================

    ชีวิตของเนวิสจะเป็นอย่างไรต่อไปในรัฐล้มเหลวแห่งนี้ อย่าลืมติดตามชมต่อในตอนหน้าจ้า

    เป็นยังไงบ้างกับเนื้อเรื่อง

    ตัวละครมีแค่นี้ เดี๋ยวหาเพิ่มเรื่อยๆจ้า

    ขอคนละเม้นท์ด้วยเน้อ แหะๆ

    https://www.youtube.com/channel/UCEzIY9j4fuPDx4Ofz8U0Fig ซับแนลหนูด้วย

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×