NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรงสูง

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    I'm Dictator - ไอ้ขี้แพ้ครองอำนาจ [ปิดรับสมัครตัวละคร]

    ลำดับตอนที่ #1 : ประวัติศาสตร์ยาดิวา

    • อัปเดตล่าสุด 8 มิ.ย. 66


    ประวัติศาสตร์แห่งดินแดนยาดิวา ประเทศแห่งหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 

    ดินแดนอันกว้างใหญ่ในทะเลจีนใต้

    อากาศที่แสนจะอบอุ่น หาดทรายและธรรมชาติที่สวยงาม เป็นที่น่าดึงดูดของนักท่องเที่ยว แผ่นดินอุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติมากมาย ทั้งป่าไม้และสินแร่ต่างๆ

    โดยไทม์ไลน์ประวัติศาสตร์จะเป็นดังนี้ (เอาเฉพาะช่วงสำคัญๆ)

     

    ช่วงปี ค.ศ. 1286-87 

    จักรวรรดิมองโกลโจมตีเวียดนามล้มเหลว พวกเขาเลยเดินทางมาเพื่อพิชิตดินแดนข้างเคียงนั่นก็คือยาดิวา แต่ก็ล้มเหลว ชาวยาดิวาขับไล่มองโกลออกไปได้

     

    ค.ศ. 1601

    ชาวยาดิวารู้จักกับชาวตะวันตกครั้งแรก นั่นก็คือชาวดัชต์ จากนั้นก็มีการค้าขายกับชาวตะวันตกมาเรื่อยๆ ชาวยาดิวาชื่นชอบปืนไฟและอาวุธตะวันตกมาก ทำให้มีการซื้อปืนไฟกันมากขึ้น

     

    ค.ศ. 1789 

    กษัตริย์ยาดิวานามว่าเจราซัส เป็นพวกนิยมขงจื้อ เลยสั่งห้ามติดต่อค้าขายกับตะวันตก สร้างความไม่พอใจกับชาวยาดิวาส่วนใหญ่ พวกเขาเลยทำการสนับสนุนเจ้าชายเซดีนทำการโค่นบัลลังก์ ทางตะวันตกก็สนับสนุนด้วย

     

    ค.ศ. 1802 

    เจ้าชายเซดีนยึดบัลลังก์ได้สำเร็จและยึดครองบัลลังก์เป็นของตน

     

    ค.ศ. 1868 

    สหรัฐอเมริกาเดินทางมาถึงยาดิวาเป็นครั้งแรก ทั้งสองฝ่ายเปิดการค้าขายอย่างชื่นมื่น กษัตริย์ราฟัลในยุคนั้นทำการปฏิรูปประเทศให้ทันสมัยในชั่วข้ามคืน หนึ่งในนั้นคือการแบ่งเขตมณฑลต่างๆ ทั้งหมด 13 มณฑล 

     

    ค.ศ. 1914

    สงครามโลกครั้งที่ 1 ยาดิวาเข้าร่วมกับฝ่ายสัมพันธมิตร เนื่องจากเป็นฝ่ายชนะสงคราม ยาดิวาจึงได้สิทธิพิเศษตามสนธิสัญญากับผู้ชนะ เศรษฐกิจดีสวนทางกับยุคสงคราม

     

    ค.ศ. 1929

    วันอังคารทมิฬ เศรษฐกิจสหรัฐฯ พังทลาย ตามมาด้วยความพังทลายของเศรษฐกิจทั่วโลก ยาดิวาเองก็ไม่รอด เกิดเศรษฐกิจตกต่ำไปทั่วประเทศ

     

    ค.ศ. 1930 

    นายพลเดฟฟายา นายทหารและขุนศึกผู้ยิ่งใหญ่ กล่าวโทษกษัตริย์ในยุคนั้นว่าเป็นต้นเหตุของปัญหาทั้งหมด และทำการประกาศสงครามต่อกษัตริย์

     

    ค.ศ. 1930 – 1941

    สงครามกลางเมืองดำเนินมานานกว่า 10 ปี ยาดิวาในตอนนั้นกลายเป็นประเทศหยุดพัฒนาในบันดล และในตอนนั้น จักรวรรดิญี่ปุ่นกำลังเถลิงอำนาจในเขตเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กษัตริย์คาร์เลสผู้ขี้ขลาดที่ครองราชย์ต่อจากพ่อ พระองค์ได้ไปขอความช่วยเหลือจากญี่ปุ่นที่กำลังมีอำนาจให้ช่วยสนับสนุนเขาปราบปรามกลุ่มกบฏ ทำให้สหรัฐอเมริกาทำการสนับสนุนกลุ่มของนายพลเดฟฟายา

    (ในช่วงนั้นมีการค้นพบน้ำมันในยาดิวาด้วย แต่เนื่องจากช่วงสงครามเลยไม่ได้มีการตรวจสอบอะไรมากนัก)

     

    ค.ศ. 1945 

    สงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง กษัตริย์คาร์เลสและราชวงศ์หนีไปสวิตเซอร์แลนด์ นายพลเดฟฟายาตั้งตนเป็นประธานาธิบดี เริ่มต้นยุคสาธารณรัฐ

     

    ค.ศ. 1950 

    ช่วงเริ่มต้นยุคสงครามเย็น แม้นายพลเดฟฟายาจะพยายามประคับประคองสถานการณ์ แต่ดูเหมือนว่ามีหลายฝ่ายพยายามจะชิงอำนาจ ทั้งฝ่ายนิยมกษัตริย์ ฝ่ายสาธารณรัฐ รวมถึงฝ่ายคอมมิวนิสต์ด้วย

     

    ค.ศ. 1953 

    นายพลนาจี อันตาร์ นายทหารการเมืองหนุ่มวัย 19 ผู้มีฝีมือ ไต่เต้าขึ้นมาจากการปราบคอมมิวนิสต์ จนได้กลายมาเป็นผู้คุมกองทัพที่มีอาวุธที่ค่อนข้างทันสมัย รวมถึงอเมริกาเองก็สนับสนุนเขาด้วย

     

    ค.ศ. 1960 

    ฝ่ายคอมมิวนิสต์ถูกปราบอย่างหนักจนต้องกระจายไปแฝงตัวตามเขตชนบทต่างๆ

     

    ค.ศ. 1970 

    นายพลเดฟฟายาป่วยเป็นมะเร็งตับและตาย นายพลนาจีในตอนนี้เป็นคนที่มีอำนาจที่สุด เลยตั้งตัวขึ้นเป็นใหญ่

     

    ค.ศ. 1972 

    นายพลนาจีตั้งตนเป็นประมุขแห่งรัฐ โดยมีสหรัฐฯ และ CIA สนับสนุนทั้งเงินทุนและอาวุธ 

    นายพลนาจีมีแนวการปกครองโดยการให้ชนชั้นกลางเติบโต และปลูกฝังลัทธิบูชาตัวบุคคลและประเทศ เพื่อให้ชนชั้นกลางเป็นกันชนให้รัฐ และมีแบ่งปันให้ชนชั้นล่างบ้างเพื่อป้องกันการลุกฮือ

     

    ค.ศ. 1973

    นายพลนาจีได้ลูกชายคนแรก และตั้งชื่อว่า นาดิวา และเขาก็เป็นลูกชายคนเดียวที่จะสืบอำนาจได้ 

    นาดิวาได้รับการศึกษาอย่างดี รวมถึงถูกฝึกการเรียนรู้เพื่อที่จะเป็นผู้นำ แต่บังเอิญว่าตัวของเขาป่วยเป็นโรคประหลาดตอนอายุ 9 ชวบ บรรดาหมอให้ความเห็นว่าเขาอาจจะตายก่อน 40 นายพลนาจีทำทุกอย่างเพื่อหายามารักษาเขา

     

    ค.ศ. 1987

    นายพลนาจีถึงแก่อสัญกรรม ทั้งๆที่นาดิวายังไม่มีทายาทสืบอำนาจ ตัวของนาดิวาได้ขึ้นดำรงตำแหน่งโดยไม่พร้อมเท่าไหร่ แต่เขาก็พยายามประคับประคองสถานการณ์ให้ดีที่สุด 

     

    ค.ศ. 2004

    นาดิวามีลูกได้สำเร็จ แต่ในตอนนั้นเมื่อนายพลบูกัสรู้ว่าใช้แผนรอให้นาดิวาตายแล้วชิงอำนาจไม่ได้ผล เขาเลยได้รวบรวมผู้สนับสนุนพยายามจะโค่นล้มเขา นายพลบูกัสส่งมือสังหารบุกฆ่าภรรยาของนาดิวาจนตาย แต่พยาบาลเอาตัวของทารกน้อยหนีออกมาได้ นาดิวาเห็นว่าลูกอาจจะไม่ปลอดภัย เลยส่งลูกของเขาไปที่อเมริกา 

     

    ค.ศ. 2007

    มีการค้นพบพืชชนิดหนึ่ง ยาดิวาเรียกมันว่า ฟูรีน พืชชนิดนี้สารสกัดของมันเรียกได้ว่าเป็นสเตมเซลล์จากธรรมชาติ ช่วยยืดชีวิตมนุษย์ รวมถึงฟื้นฟูโครงสร้างต่างๆในร่างกาย และแน่นอนว่าช่วยบรรเทาโรคมะเร็งได้ แต่กว่าจะเห็นผลจริงๆจังๆ ก็ปาเข้าไปกลางปี 2022 แล้ว และเมื่อมันสำเร็จ พืชตัวนี้ก็กลายเป็นที่หมายปองของใครหลายๆคนทั่วโลก 

     

    ค.ศ. 2012 

    นาดิวารบชนะนายพลบูกัส นายพลบูกัสฆ่าตัวตาย นายทหารที่มีส่วนในการก่อกบฏถูกประหารไปตามๆกัน ส่วนทหารที่ช่วยนาดิวารบต่างก็ได้รับตำแหน่งกันถ้วนหน้า ในตอนนี้ ตัวของนาดิวาก็ครองประเทศนี้อย่างสมบูรณ์ 

    โครงสร้างรัฐบาลนี้ก็คือ ประมุขประเทศ (ซึ่งก็คือนาดิวา และนาสโตรในอนาคต) จะอยู่บนจุดสูงสุดของประเทศ ซึ่งตัวของเขาสามารถทำอะไรก็ได้โดยไม่ผิดกฎหมาย แล้วก็มีนายกรัฐมนตรีเป็นผู้บริหาร การเลือกตั้งก็มีบ้าง แต่ไม่บ่อย และทุกเรื่องในประเทศ สภาอนุมัติได้ แต่ถ้าประมุขแห่งรัฐไม่เห็นชอบก็ทำอะไรไม่ได้ นี่คือแนวคิดบูชาตัวบุคคลที่นายพลนาจีสร้างไว้

     

    ประเทศนี้มีทั้งหมด 13 เขต ไม่มีชื่อ ทุกเขตมีเขตเมืองรวมถึงเขตกสิกรรม (เขตอุตสาหกรรมส่วนใหญ่จะอยู่เขต 5 6 7) และจะมีเขตเมืองหลวงแยกอีกที เรียกว่า เขตพระราชวัง ซึ่งเป็นเขตที่กษัตริย์และประมุขของรัฐอาศัยมานานนับหลายร้อยปี (เขต 1 2 3 4 จะเป็นเขตที่อยู่อาศัย) (เขต 8 9 10 เป็นเขตกสิกรรม) (เขต 11 12 13 เป็นเขตสินแร่และน้ำมัน)

     

    แต่ละเขตก็มีชื่อเมืองของตัวเอง ทุกท่านสามารถคิดชื่อเมืองหรือหมู่บ้านอะไรที่คุณอยู่ได้ 

     

    ขอสรุปกองกำลังของฝ่ายต่างๆ

     

    ฝ่ายรัฐบาล

    กองทัพบก, เรือ, อากาศ, ตำรวจ

    A.I.R.T.S สำหรับใครที่ยังงงๆ ถ้าเป็นกับจักรวรรดินาซี A.I.R.T.S ก็คือหน่วย SS นั่นหล่ะครับ เพียงแต่หน่วยนี้รับคำสั่งจากนายกรัฐมนตรีโดยตรง รองลงมาก็รัฐมนตรีกลาโหม และลดหลั่นลงมาเรื่อยๆ (แต่บางทีก็รับคำสั่งจากตัวนาสโตรที่เป็นประมุขโดยตรง แต่เอาจริงๆ นาสโตรก็มีหน่วยที่คอยทำงานสกปรกให้อยู่แล้ว)

    https://docs.google.com/document/d/1fAYWVxPfWrOium9pO1cZkLDOEminzpWayA8GuqpPT44/edit

    กรมป้องกันเมืองหลวง (ของลูซี่)

    S.T.O.P.N.C กองกำลังที่แยกออกมาจาก A.I.R.T.S ซึ่งรับคำสั่งจากประมุขของรัฐโดยตรง ทำทุกอย่างที่ประมุขสั่งไม่ว่าจะเรื่องสกปรกแค่ไหน (ผู้บังคับบัญชาหน่วยคือโซดิน)

    https://docs.google.com/document/d/1RJvHIC5kTjSjPCuvePs6I4cLm8hGzbzaLbDvPqxskxM/edit

    แก๊ง The Thumb 

    https://writer.dek-d.com/dekdee/writer/viewlongc.php?id=2329056&chapter=8

    แก๊งตระกูลจ้าว คุมชาวจีนในยาดิวา

    https://writer.dek-d.com/dekdee/writer/viewlongc.php?id=2329056&chapter=9

     

    ฝ่ายต่อต้าน

    คณะปฏิวัติ (กลุ่มกบฏ) ลินีโชตุ (นำโดยอัลเทียร์ ลินี) กระจายอยู่ทั่วทุกที่ในยาดิวา

    สมาคมเกรต้า สมาคมที่เคลื่อนไหวในเชิงลับ ไม่ได้เข้าปะทะโดยตรง

    แก๊งยามิคาเบะ

    สหภาพแรงงาน (ไม่ได้ติดอาวุธ)

    กองกำลังมาติกาสถาน - กองกำลังเดียวที่มีศักยภาพพร้อมบวกรัฐบาลกลางมากที่สุด (พื้นที่ระหว่าง เขต 6 ,7 , 8 และเขต 9 บางส่วน)

    กองกำลังคนงานเหมือง เกิดขึ้นจากเหล่าคนงานเหมืองที่ถูกกดขี่ พวกเขาสะสมอาวุธและสร้างเครือข่ายใต้เหมืองมานาน

    กองกำลัง Deltagear ว่าจ้างเป็นงานๆไป 

    และมีฝ่ายที่รอเสียบ คือองค์กร THE DIRECTER ซึ่งขายข้อมูลให้กับทั้งสองฝ่าย พวกนี้อาจเป็นตัวพลิกเกมได้ทุกเมื่อ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×