คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Special SF 01 ' เคียงข้าง
- ตอนพิเศษนะคะ ไม่เกี่ยวข้องกับฟิคใดๆทั้งสิ้น -
Short Story. เคียงข้าง
Bang Yongguk x Kim Himchan
“บังๆ แกดูนี่ดิ” ร่างอวบเดินออกมาจากห้องนอนแล้วพุ่งตรงยื่นไอแพดให้กับหัวหน้าวง
“ห้ะ?” วางมือจากกระดาษที่กำลังเขียนเพลงอยู่ รับไอแพดจากร่างอวบมาดูด้วยความสงสัย
“แกว่ามันไม่ตลกหรอ?” นิ้วอวบๆขาวๆชี้ไปที่รูปที่ต้องการให้อีกคนดู
“อะไรตลก รูปมันก็ปกติดีนี่” ส่ายหน้าพร้อมส่งไอแพดคืน มันไม่เห็นมีอะไรแปลกสักนิด ก็แค่รูปแคปจากรายการที่พวกเค้าไปออก แฟนคลับก็แคปแทบทุกวินาทีหน้าอออกมาตลกก็ไม่แปลกนี่ จริงมั้ย
“ย๊า ไม่ใช่สิ แกไม่เห็นที่เค้าเขียนแล้วเอามาต่อกันเป็นเรื่องหรือไง มันก็ตลกนะ แต่ทำไมถึงมีของฉันกับแกเยอะจังว่ะ” ฮิมชานเปลี่ยนอิริยาบถจากยืนมานั่งลงข้างๆหัวหน้าวงแทน
“ของผมไม่ตลกกว่าเหรอฮยอง” ผู้มาใหม่ที่ออกมาจากห้องน้ำเหมือนจะได้ยินบทสนทนาเลยเข้ามาร่วมวงด้วยคน ก็ภาพของเค้านั้นทั้งถูกทำร้าย แถมเรื่องก็อยู่กับคำว่า ‘ ดำ’ คนอย่างจองแดฮยอนก็น้อยใจนะ
“แต่ของนายยังไม่น่าสงสัยนี่ แล้วทำไมของฉันต้องเป็นบทเมียขี้โวยวายด้วยว่ะ” ฮิมชานทำหน้ายู่ ยังคงเลื่อนดูรูปแต่งนั้นไปเรื่อยๆ
“มันก็เหมือนนะฮยอง ผมว่า..โอ้ยย” แดฮยอนยังไม่ทันจะออกความเห็นจบก็โดนฝ่ามืออวบๆฟาดเข้าเต็มที่
“นายอยากโดนแม่องค์ลงหรือไงแดฮยอน ไปนอนได้แล้วไป ขอบตานายจะดำกว่าผิวนายแล้วนะ” เป็นยงกุกที่ไล่ไปนอน เป็นห่วงว่าถ้าน้องคนนี้ปากหมากว่านี้ได้เกิดศึกแน่ และอีกเหตุผล เค้าอยากอยู่กับเพื่อนรุ่นเดียวกันสองคนบ้างหล่ะนะ
“ถ้าปากนายยังเป็นอย่างนี้วันหลังอดข้าวไปนะ จองแดฮยอน!” ฮิมชานยังหันมาพูดไล่ตามหลังน้องที่เดินคอตกเข้าห้องนอนไป
“นายก็เลิกว่าน้องได้มั้ยว่ะ น้องมันเลยชอบแกล้งนายเวลาออกรายการเพราะงี้ไง” ยงกุกทำหน้าเอือม ดึงไอแพดจากมือฮิมชานมาดู
“นายสงสัยอะไร?” ยงกุกถาม มือค่อยๆเลื่อนดูรูปตัดต่อไปเรื่อยๆ จริงๆมันก็ตลกหล่ะนะ แต่มันก็ช่วยไม่ได้ เพราะมันก็เหมือนเรื่องจริงหล่ะนะ
คิมฮิมชานจะ ขี้โวยวาย
คิมฮิมชาน โมโหง่าย
คิมฮิมชาน ขี้งอน
คิมฮิมชาน เหมือนแม่
และคิมฮิมชานก็เหมือน.......เมียยงกุก
“หึหึ”
“เดี๋ยวนะ แกขำอะไรบังยงกุก” ฮิมชานที่เริ่มนั่งไม่สงบเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะของยงกุก ชะเง้อหน้ามองว่ายงกุกดูรูปไหนอยู่
“รูปพวกนี้ไง” ยงกุกตอบไปเฉยๆ
“แกไม่น้อยใจบ้างหรอว่ะ ดูของแกดิต้องเป็นผัวกลัวเมียตลอดเวลา มันเหมือนแกซะที่ไหน”
“แฟนคลับก็ทำไปเล่นๆ อย่าคิดมากหน่า” ยงกุกหันไปมองฮิมชานที่ตอนนี้นั่งกอดอกพิงไปกับโซฟา หน้าตานี่แบ๊วใช้ได้เลย นี่แหละนะคิมฮิมชานของยงกุก
“ป่าวคิดมากสักหน่อย”
“แต่ฉันว่ารูปพวกนี้ก็มีเรื่องจริงนะ” ยงกุกส่งไอแพดคืน ฮิมชานรับมาลุกขึ้นนั่งตัวตรงรอฟังสิ่งที่ยงกุกจะพูดต่อไป
“ถึงรูปจะทำร้ายไปหน่อย แต่นิสัยที่เอามาใส่ก็เหมือนนายนะ...” ยงกุกพูดเว้นวรรคดูปฏิกิริยาของอีกคน แต่ฮิมชานยังนิ่งอยู่เค้าเลยพูดต่อ
“และก็...นายกับฉัน เหมือนผัวเมียกันมั้ยหล่ะ” ประโยคนี้เล่นเอาฮิมชานอึ้งไปสักสิบวิ ก่อนจะยันเท้าใส่อีกคน แต่คนอย่างยงกุกทนแรงแบบนี้ได้อยู่แล้วหน่า
“ไม่อายที่พูดบ้างหรือไงห้ะ ตบปากเลยไอบ้า!” ฮิมชานที่ถีบอีกคนไม่สำเร็จพยายามตะเกียดตะกายจะตบปากอีกคนให้ได้ แต่มันไม่ถึงเพราะยงกุกรวบขาที่ฮิมชานใช้ยันไปเมื่อกี้อยู่หน่ะสิ
“นี่ แรงไม่ใช่น้อยๆ เจ็บนะเว้ย” ยงกุกจัดการปล่อยขาแล้วรวบมือแทน
“ใครใช้ให้แกพูดแบบนั้นห้ะ จริงๆเลย” ฮิมชานกระชากข้อมือออกจากการจับกุมเมื่อกี้ แล้วนั่งกอดอกแบบเดิม
“ยอมรับความจริงเหอะหน่า แต่ว่า ฉันไม่กลัวแกเหมือนในรูปพวกนั้นนะ” ยงกุกพยายามกวนประสาทอีกคนต่อ ยังมีหน้ามายิ้มเหงือกบานใส่ฮิมชานซะด้วย
“ก็นั่นนะสิ ฉันไม่ได้กลัวขนาดนั้น เฮ้อ เมื่อไหร่ฉันจะน่ากลัวจริงๆบ้าง” เสียงเริ่มแผ่วเบา ร่างอวบเริ่มไหลกลายเป็นท่านอนเอาหัววางบนหน้าตักยงกุก นั่นทำเอายงกุกแปลกใจไม่น้อย ลักษณะแบบนี้คงน้อยใจสินะ
“ฉันไม่น่ากลัวหรอว่ะ ทั้งที่ขี้โวยวาย ชอบตีพวกน้องๆ” ฮิมชานหลับตาพูด มือของเค้าไม่อยู่สุข ไล่วาดอากาศไปเรื่อยๆ
อาการแบบนี้ไม่ค่อยมีใครได้เห็นนัก แม้แต่ยงกุกเอง
คิมฮิมชานไม่ชอบแสดงความรู้สึกจริงๆออกมาให้ใครเห็นก็รู้ๆกันอยู่
แต่วันนี้คิมฮิมชานแสดงมันออกมาให้ยงกุกเห็น
ยงกุกชอบมัน ชอบที่ฮิมชานแสดงและพูดมันออกมาให้เค้าเห็นและฟัง
เพราะบังยงกุกอยากจะเป็นคนนำเรื่องต่างๆออกจากหัวของฮิมชานเอง
บังยงกุกอยากให้ฮิมชานเชื่อใจเค้า และยอมพูดเรื่องที่มันหนักหนาเกินไป ระบายมันให้เค้าฟัง
บังยงกุก อยากดูแลผู้ชายคนคนนี้
“แกไม่จำเป็นน่ากลัว เป็นแบบนี้ก็ดีแล้ว ยังไงน้องๆมันก็เคารพนะ” ยงกุกพูดปลอบแบบเบาๆ อยากจะเอามือไปลูบผมนั่น
“หักหน้าฉันต่อหน้ากล้องนี่หรอว่ะ เคารพ?”
ยงกุกสัมผัสได้ถึงความอุ่นบนตัก หยดน้ำตาของฮิมชาน? คิมฮิมชานกำลังปลดปล่อยความรู้สึกออกมา
- บังยงกุกควรจะเริ่มยังไงดี? -
“แกเอาความคิดพวกนี้ใส่หัวตลอดแบบนี้ เมื่อไหร่จะมีความสุขกัน” ยงกุกเริ่มใช้มือกดลงขมับของอีกคนเบาๆ รอดูการตอบสนอง แต่ก็ไม่มีอะไร เลยเปลี่ยนจากขมับมาลูกหัวอีกคนแทน
“….” ไร้คำพูดจากอีกคน แต่น้ำตาที่ไหลอย่างต่อเนื่องบอกได้ว่า ฮิมชานไม่สามารถกลั้นมันได้อีกต่อไปแล้ว
“พวกเราอยู่ในโลกที่ต้องใส่หน้ากากมากกว่าเมื่อก่อน ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราต้องทำในทุกวันนี้คือสิ่งที่เราเลือกเอง พวกเราอยากทำให้ทุกคนมีความสุข มีความสุขที่ได้เห็นพวกเรา มีความสุขเมื่อเห็นพวกเราในทีวี และพวกเราอยากให้แฟนคลับหัวเราะ จริงมั้ย?”
“...”
“อย่างน้อยที่น้องๆแสดงออกมาหน้ากล้องแบบนั้นเพื่ออยากให้คนดูได้หัวเราะ นายลืมไปแล้วหรอว่าน้องจะขอโทษทุกครั้งที่ถ่ายเสร็จ คิมฮิมชานปล่อยมันออกมา แค่คืนนี้ ลืมเรื่องที่มันรกหัวนาย อย่าลืมสิ ” มือยงกุกจากเดิมลูบหัวเปลี่ยนไปจับมือฮิมชานมากุมไว้แทน ไม่มีการตอบสนองใดๆจากฮิมชาน ฮิมชานยังคงปล่อยให้น้ำตาไหลเรื่อยๆ แต่เหมือนว่าจะร้องหนักกว่าเดิมนะ ถึงจะไม่มีเสียง แต่ร่างอวบเริ่มสั่นมากขึ้น
ยงกุกแทบไม่เชื่อเลยว่า น้ำตาของฮิมชาน จะมีอิทธิพลต่อหัวใจเค้า
ยงกุกรู้สึกจุกที่อกเมื่อได้เห็นร่างของฮิมชานสั่นเพราะแรงสะอื้น พยายามจะกลั้นเสียงไม่เล็ดลอดออกมา
ยงกุกไม่อยากเห็นฮิมชานร้องไห้
อยากจะปกป้อง ดูแล คอยอยู่เคียงข้าง…. ตลอดไป
“นายอย่าลืม ฉันสิ” ยงกุกเริ่มรู้สึกอุ่นในดวงตาเค้า น้ำตากำลังเอ่อ น้ำตาของยงกุกตอบสนองต่อน้ำตาของฮิมชานหรอ?
น้ำใสๆหยดลงบนหน้าของฮิมชาน นั่นทำให้ฮิมชานลืมตาขึ้น พอฮิมชานเห็นว่าน้ำนั่นมาจากน้ำตาของยงกุก ร่างทั้งร่างลุกขึ้นสวมกอดอีกคนทันที
“บัง..ยงกุก ฮึก..” ฮิมชานร้องไห้หนักกว่าเดิม เสียงที่พยายามกลั้นไว้เริ่มเล็ดลอดออกมา
“ขอร้องละ...อย่าเก็บมันไว้คนเดียวแบบนี้อีกนะ” กระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น อยากให้คืนนี้ทำให้เค้าสองคนเชื่อใจกันมากขึ้น อยากให้คืนนี้ทำให้คิมฮิมชานนึกถึงยงกุกเป็นคนแรกเมื่อทุกข์ และยงกุกคนนี้จะนำความทุกข์นี้ออกให้เอง
“ขอโทษ.. ” ฮิมชานค่อยๆผละออกจากอ้อมกอด ประจันหน้ากับยงกุก
คิมฮิมชานอยากเห็นหน้ายงกุกตอนนี้สุดๆ
อยากเห็นหน้าคนคนแรกที่เค้ากล้าจะร้องไห้ต่อหน้า
คนคนแรกที่เค้ากล้าจะแสดงความรู้สึกจริงๆออกมา
คนคนแรกที่อยากให้อยู่เคียงข้างคิมฮิมชานตรงนี้ตลอดไป
“หน้าบวมแย่แล้ว” ยงกุกเช็ดคราบน้ำตาบนหน้าฮิมชาน นั่นทำให้ฮิมชานยิ้มเล็กๆ
รอยยิ้มนั้นก็ทำให้ยงกุกยิ้มตามได้
“แกจะอยู่ให้ฉันร้องไห้ให้ฟังตลอดมั้ยว่ะ” ฮิมชานถามออกไป คาดหวังในคำตอบนั้น ยงกุกจะตอบเหมือนที่เค้าหวังมั้ยนะ
“นายจะให้ฉันทนฟังเสียงนายบ่นยังไม่พออีกหรอไง” คำตอบนี้เล่นเอาฮิมชานใจเสีย
“ใครจะทนนายได้ ก็มีแค่ฉันแหละ ฉันทนนายได้ทุกอย่าง เพราะฉันชอบทุกย่างที่เป็นนาย”
“พูดอะไรไม่เข้าหูเลย” ฮิมชานยกมือเกาท้ายทอยแก้เขิน บังยงกุกกล้าพูดคำพวกนี้ได้ไงนะ
“บังยงกุกจะอยู่ฟังคิมฮิมชานร้องไห้ตลอดไป!” ยงกุกเห็นว่าฮิมชานเริ่มดีขึ้นแล้ว ก็แกล้งสักหน่อยด้วยการรับคำสั่งแบบเตรียมทหารซะเลย
“ย๊า เสียงดังไปแล้ว ไปนอนแล้ว ตาฉันบวมแน่เลย ทำไงดีเนี่ย..” ฮิมชานเดินงุ่นง่านเข้าห้องไป ปากก็ยังคงบ่นไปเรื่อยๆ เมื่อกี้เพิ่งจะระเบิดน้ำตาออกมาแท้ๆ นี่แหละนะ คิมฮิมชาน
เค้าก็ควรจะนอนได้แล้วเหมือนกัน อีกไม่กี่ชั่วโมงก็เช้าแล้ว ว่าแล้วก็พาร่างล้าๆเดินตรงตามฮิมชานที่เดินเข้าไป ก็พวกเค้าเป็นรูมเมทกันนี่ แต่เอ๊ะ
แก๊กๆๆ
ยงกุกพยายามบิดลูกบิดประตูให้แน่ใจว่าตัวเองหมุนไม่ผิด
คิมฮิมชานล็อคประตู!!
คืนนี้ลีดเดอร์อย่างเค้าต้องนอนโซฟาเรอะ
“ย๊า คิมฮิมชาน!!”
สบถดังๆใส่ประตู แต่ไร้เสียงตอบรับ ลีดเดอร์คนนี้คงต้องนอนโซฟาจริงๆ
‘ชีวิตหัวหน้าวงไม่ลำบากกว่าหรือไงนะ’
-----------------------------------------------End------------------------------------------------
ไรท์เตอร์กะจะเอาตอนพิเศษหรือ SF มาลงไว้ในนี้เลย จะได้อ่านง่ายๆดีมั้ยเอ่ย
อ่านแก้ขัดไปก่อนนะ ไรท์เตอร์แอบงอนคนเม้นท์ไม่ค่อยมีเลย
อย่าเพิ่งว่าฟิคไรท์เตอร์นะ มันแทบจะดราม่าทุดเรื่อง เหอๆ
ถ้าชอบก็อ่านได้จริงมั้ย รอดูเม้นท์แล้วไรท์เตอร์จะลงตอนต่อให้น้า
ความคิดเห็น