คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : 01 ' ตัดสินใจ
Chapter 1
“บัง!!”
“บังมึงสิ เรียกชื่อได้มั้ยว่ะ” อดด่าเสียไม่ได้ ก็ใครใช้ให้คนหน้าตาเหมือนกัน ใช้นามสกุลเดียวกัน เรียนห้องเดียว นอนด้วยกัน พ่อแม่เดียวกัน มาเรียกนามสกุลละครับ เรียกอย่างกับตัวเองไม่ได้ใช้ ‘บัง’
“กูแค่อยากลองบ้างนี่หว่า แต่ตั้งแต่อยู่กันมาเรียกชื่อกันนับครั้งได้เลยนะ” ถึงหน้าจะเหมือนกันแค่ไหน แต่นิสัยก็ต่างกันอย่างเห็นได้ชัด แฝดผู้พี่ที่ร่าเริงตลอดเวลา อัธยาศัยดี แต่ยังคงความเป็นพี่ถึงจะห่างกันสิบนาทีก็เถอะ ต่างกับแฝดน้องแค่นิดเดียว ใช่ว่าแฝดน้องจะเงียบขรึมตลอด แค่แฝดน้องพูดตามพี่ไม่ทันเท่านั้นเอง
‘บังยงนัม’และ’บังยงกุก’
แต่ถึงยังไงสองคนนี้ก็เหมือนคนๆเดียวกันอยู่แล้ว มองตาก็รู้ว่าอีกคนต้องการ หรือแม้บางทีก็คิดตรงกันมากเกินไปจนน่ากลัว
แฝดผู้พี่สัมผัสได้ถึงลางบางอย่างเลยหันไปมองหน้าอีกคน แฝดน้องก็เช่นเดียวกันทั้งสองรู้สึกเหมือนกัน ไม่มีคำพูดแค่ยิ้มออกมาแล้วก็...
“เห้ยยย!!! หลบให้พ่อมึงหรอไอแฝดนรก” ผู้มาเยือนที่หวังจะแกล้งแฝดสองตัวนี้กลับกลายไปนอนกองอยู่กับพื้น ก็ไอแฝดมันอยู่ดีๆก็ลุกพรวดออกกันคนละทางเลยเนี่ยสิ
“ใครใช้ให้มึงแผ่รังสีทำร้ายซะชัดเจนขนาดนั้นละ เอ้าลุกขึ้นมา” แฝดพี่ หรือ ยงนัมยื่นมือไปดึงเพื่อนที่ตัวดีให้ขึ้นมาก่อนจะอายคนไปมากกว่านี้
“มึงสองตัวโตขนาดนี้ยังไม่คิดจะแยกๆกันมั่งหรอว่ะ อยู่ด้วยกันเหมือนจะเป็นคนเดียวกันอยู่แหละ น่ากลัวชิบ” ไม่พูดเปล่ายังทำท่าทางน่าขนลุก ถ้าได้มาเป็นเพื่อนกับสองคนนี้ก็คงคิดแบบเดียวกันแหละนะ
แฝดทั้งสองคนไม่ได้พูดอะไรแค่หันมองกันแล้วก็ต้องลอบขำเบาๆ
“ยงกุก เมื่อวานมึงลืมสมุดเพลงไว้ที่กูอ่ะ แต่กูลืมเอามา มึงจ..”
ยังไม่ทันจะพูดจบ ยงกุกก็เดินผ่านหน้าไปอย่างรวดเร็ว ไม่แม้แต่จะเอ่ยปากบอกว่าจะไปไหนซะด้วยซ้ำ
“มันไปเอาสมุด มึงก็รู้ว่ามันอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีสมุด เฮ้อ” แฝดผู้พี่บอกแทนเสร็จสับ ยงกุกชอบแต่งเพลง วันๆก็นั่งนั่งแต่งไปเรื่อย ถ้าไม่มีมัน เค้าก็ไม่รู้ว่ายงกุกจะทำอะไร
“กูรู้ ก็เลยจะขอโทษมัน แต่ไม่เคยทันสักที ฝากขอโทษมันด้วย กูไปแหละมีนัด”
“มีนัด เดี๋ยวนี้หาแฟนได้แล้วหรอมึง เจ๋งว่ะ”
“แฟนอะไรไม่มี๊ ว่าแต่มึงเหอะ ทั้งคู่เลยหาแฟนได้ยังหรอก กูไปแหละ” ปฏิเสธแบบไม่น่าเชื่อ ก่อนจะทิ้งประโยคเจ้าปัญหาเอาไว้ แล้ววิ่งไปยังจุดหมายทิ้งแฝดพี่อย่างยงนัมครุ่นคิด
นั่นสิ เราไม่เคยคิดถึงเลย ถ้าวันหนึ่งต้องมีคนที่รักขึ้นมาละ ถ้าวันนั้นมาถึงเราสองคนจะชอบเหมือนกันมั้ย คนคนนั้นจะเป็นคนเดียวกันมั้ย ถ้าเป็นคนเดียวกันแล้วจะต้องทำยังไง ใครจะได้ไป แล้วใครจะต้องเสียสละ เรื่องแบบนี้มันทุกข์ทรมานกันทั้งคู่ แค่คิดก็ไม่อยากให้มันเกิดขึ้น
.....แล้วคิดว่ามันจะไม่เกิดขึ้นได้เหรอ
.
.
.
.
หอพักชาย
“บัง มึงกินข้าวยังเนี่ย ตั้งแต่ไปเอาสมุดก็หายไปเลยนะ” ยงนัมเอ่ยถามแฝดน้อง ตั้งแต่เมื่อบ่ายเค้าก็ไม่เจอยงกุกอีกเลย ก็คิดว่าคงกลับหอไปแต่งเพลงเหมือนกับทุกๆวัน และก็น่าจะกลับมานานแล้วจริงๆ
“กินแล้ว อย่างกูไม่ปล่อยให้หิวจนป่านนี้หรอก” พูดไปก็นั่งก้มหน้าก้มตาเขียนเพลงไปพลาง กดคีย์บอร์ดไปพลาง คนแต่งเพลงนี่มันอินดี้จริงๆ
“วันนี้ชานฮยอกมันถามมาเว้ย ว่าเมื่อไหร่พวกเราจะมีแฟน..” ยงนัมพูดเปิดแบบลอยๆ เค้าแค่อยากรู้ความคิดของอีกคน เผื่อเรื่องนั้นมาถึงจะได้ตั้งรับทัน.. สักนิดก็ยังดี
“..”
“กูแค่คิดว่า กูกับมึงเหมือนมีสายเชื่อมระหว่างหัวใจกับร่างกาย ”
“..”
“แล้วถ้าเกิดเจอคนคนนั้นขึ้นมา ถ้ากูกับมึงจะ..”
“ชอบคนเดียวกันหน่ะหรอ”
ยังไม่ทันจะพูดจบ ยงกุกก็พูดแทรกประโยคนั้นพอดี ใช่ ยงนัมต้องการจะพูดแบบนั้นจริงๆ ยงนัมไม่พูดอะไรต่อ เค้าแค่ต้องการจะฟังว่าอีกคนจะทำยังไงถ้าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
“กูก็ไม่เคยคิดเลยนะ แต่พวกเราก็ยังไม่เจอทั้งคู่ เมื่อถึงเวลาจริงๆ ความรู้สึกนั้นจะออกมาเอง”
“...”
“ว่ากูจะ แย่ง หรือ ให้” จบประโยคยงกุกก็ลุกไปคว้าผ้าขนหนูก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป
ประโยคสุดท้ายที่ยงกุกพูดมันสะกิดใจไม่ใช่น้อย ก็จริงแหละ ถึงเค้าจะเป็นพี่ก็เถอะ แต่เรื่องความรักมันก็ต้องคอยดู ว่าตัวยงนัมเองนั้นจะ แย่ง หรือ ให้
.
.
.
.
ครืนนนนนนน
แสงแดดตอนสายๆที่พร้อมจะเผาไหม้ทุกอย่างสาดส่องเข้ามาในห้อง ยิ่งมีเสียงรถที่เหมือนจะมาจอดข้างหน้าหอนี่ซะด้วย ทำให้คนอย่างยงกุกต้องเดินทั้งหลับตาอยู่อย่างนั้นชะโงกหน้าออกไปดู เป็นรถเมล์ปกติ แต่ทำไมถึงมีอะไรสะกิดใจให้เค้าจะมาดูนะ ครุ่นคิดอยู่สักพักก็สายตาจะเหลือบไปเห็นสิ่งขาวๆ ผมดำๆ ดุ๊กดิ๊กอยู่หน้าหอ
‘เด็กใหม่’
ความรู้สึกบ่งบอก และยังมีอีกอย่างที่บอกเค้า หัวใจเค้าเต้นแรงขึ้น และนั่นคงเป็นจุดเปลี่ยนจริงๆซธแล้ว มุมปากที่กำลังกระตุกยิ้มชะงักไปทันทีที่เห็นชายอีกคนที่หน้าตาเหมือนตัวเองเป๊ะๆ ช่วยผู้ชายผิวขาวคนนั้นแบกของเข้าหอ
จริงสินะ. พวกเค้ามันเป็นแฝดที่หัวใจแทบจะเหมือนกันทุกอย่าง และนี่เป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้อีกอย่าง ขนาดรักแรกยังคนเดียวกันเลย น่ากลัวจริงๆด้วย ชีวิตของแฝดอย่างเค้ามันน่ากลัว
แต่ขอโทษนะ..ครั้งนี้จะไม่เหมือนครั้งไหนๆ
ฉันจะต้องได้คนนี้มาเป็นของฉัน
ฉันจะ ‘แย่ง’
.
.
.
เป็นปกติทุกเช้า ยงนัมจะตื่นเช้าเสมอแล้วเดินไปซื้อของ และอาหารเช้า ตอนเดินกลับ หน้าหอมีรถเมล์จอดอยู่ มีตัวอะไรไม่รู้ขาวๆ หัวดำๆ ดุ๊กดิ๊กภายใต้กระเป๋าสัมภาระมากมายกำลังลงรถ ยงนัมเฝ้ามองอยู่สักพัก กำลังคิดอยู่ว่าจะช่วยดีมั้ย เหมือนจะเป็นเด็กใหม่เลย ยงนัมผู้แสนดียังไงก็แสนดี เค้าเดินเข้าไปไม่ได้พูดอะไรแต่ดึงของในมือเด็กใหม่มาถือเอง
“เห้ยย” เด็กใหม่ร้องเสียงหลง ตกใจที่อยู่ดีๆกระเป๋าก็โดนดึงไป มองหน้าอีกคนอย่างหาเรื่อง
“โทษที แค่จะช่วย เด็กใหม่หรอ” ยงนัมกล่าวขอโทษ หลังจากที่ยืนอึ้งไปสักพัก
ปกติเค้าไม่ใช่คนไร้มารยาทขนาดนั้น แต่เค้าแค่รู้สึกว่าเข้าใกล้ผู้ชายคนนี้แล้วใจเต้นแรงขึ้น เลยถือวิสาสะดึงกระเป๋าออกเพื่อจะได้เห็นหน้า และนั่นทำเค้าแทบบ้า คนตรงหน้า คนนี้น่ารักมากจริงๆ
“ใช่.. ใช่มั้ง นายอยู่หอนี้หรอ” เด็กใหม่พูดจาแบบงงๆ มองหน้ายงนัมสลับกับมองขึ้นไปบนหอ
“แน่นอนสิ ฉันช่วยถือของขึ้นไปส่ง อยู่ห้องไหนหล่ะ” ยงนัมยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ คนนี้เค้าคงไม่ปล่อยไว้แน่ยังไงก็ไปส่งถึงห้องเลยแล้วกัน
“เห้ยไม่ต้องหรอก ฉันไปเองได้ ขอบใจ”
“ยังไงฉันก็ต้องขึ้นไปอยู่แล้ว มาเหอะหน่า” ยงนัมดันร่างเล็กๆขาวๆให้เดินเข้าไปในหอ ดูเหมือนว่าคนตัวเล็กนี่ยังกล้าๆกลัวๆอยู่เลย เหมือนลูกหมาไม่มีผิด
“ห้องไหนหรอ” ยงนัมถามซ้ำเป็นรอบสอง
“1651 ในกระดาษนี้เขียนไว้” ร่างเล็กพูดแล้วยื่นกระดาษไปให้ยงนัมดู
“1651 เสียดายเลย อยู่คนละชั้น ห้องฉัน 1751” ยงนัมแสดงหน้าผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด แต่ยังไงเค้าก็วิ่งขึ้นลงได้อยู่แล้วนิ และอีกอย่างเค้าพบผู้ชายคนนี้เป็นคนแรกด้วย
“ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่ ไม่ได้อยู่ไกลขนาดนั้น ฉัน ฮิมชาน คิมฮิมชาน” ร่างเล็กแนะนำตัวแล้วหันไปยิ้มตาปิดให้อีกคน
‘น่ารักเป็นบ้า’
หัวใจเต้นแรงกว่าเดิมเยอะเลย ใจเย็นๆสิยงนัม
“นายยิ้มนี่น่ารักดีเนอะ ฉันบัง ยงนัม ยินดีที่ได้รู้จัก” ยงนัมเป็นคนคิดยังไงก็พูด ก็มันเรื่องจริง เค้าอยากชมคนตรงหน้าจะตาย ยิ่งตอนนี้ฮิมชานหัวเราะแก้เขินยิ่งน่ารัก
“ห้องนี้แหละ..” ยงนัมพาจนถึงห้อง น้ำเสียงปนเสียดายเปล่งออกมา ยังอยากอยู่กับฮิมชานต่อ หัวใจของเค้าอยากอยู่ที่นี่
“ขอบคุณมากนะยงนัม นายจะมาช่วยฉันจัดมั้ยหล่ะ ฮ่าๆ แต่ฉันว่านายไปกินข้าวก่อนดีกว่านะ” ฮิมชานว่าพลางชี้ไปที่ถุงกับข้าวที่เห็นยงนัมถือมาตั้งนานแล้ว
“จริงๆนะ ฉันจะรีบไปกินข้าวแล้วลงมาช่วยนายเลย แล้วเจอกันนะฮิมชาน”
.
.
ฮิมชานอดหัวเราะกับท่าทีของอีกคนที่ดูจะกระตือรือร้นไปหมดไม่ได้ ถึงจะเพิ่งย้ายเข้ามาแต่ก็ไม่เหงาแล้วแหละ ร่างเล็กกำลังจะหันกลับเข้าห้อง สายตาก็เป็นเห็นอะไรบางอย่างที่ทำเค้าแทบช็อค
“หน้าเหมือนยงนัมเลยนี่..” กลางวันแสกๆอย่างนี้ยังไงก็คนแหละ ฮิมชานมองอยู่นาน จนผู้ชายคนนั้นเดินเข้ามาถึงตัว
“บัง ยงกุก แฝดหน่ะ” แนะนำตัวเสร็จสับ ก่อนจะยกของบางส่วนที่คิดว่าฮิมชานคงยกไม่ไว้เข้าห้องไป
“เห้ย เดี๋ยวสิ นายสองคนนี่จริงๆเลย จะช่วยไม่เคยบอกก่อนเลยนะ” ฮิมชานพอตั้งสติประมวลผลได้ก็โวยวายเข้ามาในห้อง สองรอบแล้วนะ ของพวกนี้ก็ของๆเค้ามายกกันดื้อๆเลย
“โทษที ฉันแค่จะช่วย”
“เหมือนเป๊ะเลย คำพูดยังเหมือนเลยหรอเนี่ย ย๊า พวกนายนี่นากลัวจริง” ฮิมชานทำท่าทางขนลุกก่อนจะยกกล่องหนึ่งเข้าห้องนอนไป
ยงกุกยิ้มให้กับท่าทางนั่น และก็ต้องกระตุกยิ้มให้ตัวเอง
เค้าจะต้องทำยังไงถึงจะไม่เหมือนกันนะ ...
ฉันเริ่มเกลียดนายแล้วสิ.. ยงนัม
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สำหรับตอนแรกเป็นยังไงกันบ้าง สองคนนี้คงต้องสู้กันอีกนาน
ยังไม่ต้องกลัวดราม่านะคะ
เป็นกำลังใจให้ไรเตอร์ด้วยน้า
ความคิดเห็น