คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : SF II I'm Sorry
'I'm sorry'
-Bang Yongguk & Kim Himchan
Short Fiction By Mayooku
คนหนึ่งคนกับคนอีกหนึ่งคน
มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง ห่วงหา ต้องการ หวงแหน
จนกลายเป็นความรัก
เรื่องแบบนี้เป็นธรรมชาติของคนสองคนที่จะเกิดมาเพื่อคู่กัน
ไม่ว่าจะต่างเพศ หรือ เพศเดียวกัน
ปัจจุบันเรื่องแบบนี้ยอมรับกันได้อยู่แล้ว
แต่คงไม่ใช่ทุกคู่หรอกนะ.......
“ขอบคุณครับ ทำงานกันหนักมากครับ!!!!”
เป็นปกติเหมือนทุกวัน หลังอัดการแสดงเสร็จ วันนี้เป็นไลฟ์หนึ่งของเพลง crash เพลงสบายๆ น่ารักๆ เพื่อตอบแทนแฟนๆเบบี้ของพวกเรา
“ยงกุกฮยอง” รองมักเน่ร่างล่ำจงออบ เรียกลีดเดอร์ที่ยืนเหม่อรอเมมเบอร์คนอื่นๆอยู่
“ว่า?”
“ฮยองรังเกียจผมหรอฮะ”
“เฮ้ย จะบ้าเรอะ จะรังเกียจนายทำไม” ยงกุกถึงกับหน้าเหวอ อยู่ดีๆเมมเบอร์มาหาว่าเค้ารังเกียจตัวเอง เค้าทำอะไรผิดหรอ
“ก็ท่อนจบวันเนี่ย ผมต้องคู่กับฮยองใช่มั้ย”
“เอ้อ แล้วไง”
“พี่ไม่ยอมเอาหัวชนผม แถมยังมองผมด้วยสายตาแปลกๆด้วยอ่า” จงออบทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ เค้ารู้สึกเสียหน้านิดๆ ที่ยงกุกทำแบบนั้น
“ห้ะ อ้อ ฉันแค่เล่นๆไง ให้มันดูตลก อย่าคิดมากเลย กลับหอกัน” ยงกุกทำหน้านึกสักนิดก่อนจะแก้ตัว จงออบจะไม่ได้คิดมาก พอดีกับเมมเบอร์คนอื่นๆที่เตรียมจะขึ้นรถกลับหอกัน
จริงๆแล้ว ยงกุกไม่ได้รังเกียจจงออบนะ แต่แค่มันแปลกไป ปกติท่อนจบของเค้าจะต้องคู่กับฮิมชานเสมอ แล้วเค้าจะได้มองหน้าฮิมชานใกล้ๆแบบนั้นตลอด แต่วันนี้เค้าแอบตกใจเล็กๆที่จะต้องทำกับจงออบ เค้าเลยแสดงหน้าแบบนั้นออกไป
.
.
.
.
รถตู้ของ B.A.P
“ยงกุกอ่า” ท่ามกลางความเงียบเพราะเมมเบอร์คนอื่นหลับหมดแล้ว ฮิมชานทักยงกุก เห็นว่ายงกุกยังคงทำหน้าที่ลีดเดอร์ที่ดี ไม่ยอมหลับทั้งๆที่หน้าก็ง่วงขนาดนั้น
“หืม” ยงกุกไม่ได้เงยหน้าขึ้นจากไอแพด เค้ามักจะเช็คข่าว กระแสตอบรับเสมอ
“จงออบมาฟ้องฉัน ว่านายไม่ยอมเอาหัวชนด้วย แถมมองแปลกๆ”
“อื้ม”
“ทำกับน้องแบบนั้นได้ไงว่ะ น้องเสียหน้าหมด” ฮิมชานอดหมันไส้ยงกุกไม่ได้ เลยฟาดไปที่แขนยงกุกเต็มๆ
“รุนแรงว่ะอ้วน เรื่องของแกหรอมาตีฉันเนี่ย” ยงกุกทำหน้าหาเรื่อง ปิดไอแพดแล้วหันหน้ามาคุยกับฮิมชาน
“เออ เบบี้จะคิดว่าวงเราไม่ค่อยสนิทกันนะเว้ย” ฮิมชานทำหน้าบูดบึ้ง ฮิมชานเป็นคนที่ห่วงภาพลักษณ์ของวงเสมอ ชอบเซอร์วิสแฟนๆ ไม่ชอบให้แฟนๆเบบี้ของพวกเค้าผิดหวัง
“ทียองแจกับจุนฮงล่ะ”
“ก็นั่นมัน..” โดนสวนมาทำฮิมชานเถียงกลับไม่ออก ก็จริงยองแจกับจุนฮงไม่สนิทกันสักเท่าไหร่ แต่นั่นก็เพราะยองแจอ่ะแหละชอบแกล้งไปทั่ว จนน้องไม่อยากเข้าใกล้นี่นา
“ถึงแล้ว!! ไปอาบน้ำแล้วไปนอนเถอะ” ยงกุกเห็นฮิมชานต่อไม่ถูกก็ลอบยิ้มเล็ก พอดีกับถึงหอ เค้าทำการปลุกคนอื่นๆก็ลงรถก่อนใคร
.
.
.
.
01.25 น.
เวลานี้กลางห้องโถงเงียบสนิท น้องๆเข้านอนกันหมดแล้ว ยังจะเหลือแค่สองพี่ใหญ่ที่ยังไม่ยอมหลับ ไม่ยอมนอน ยงกุกมัวแต่นั่งแต่งเพลงเล่นๆไปเรื่อย ส่วนฮิมชานก็เช็คข่าวในไอแพดบนโซฟากลางห้อง
“เพราะมันไม่ใช่นาย” อยู่ดีๆยงกุกก็โพร่งคำพูดแปลกๆขึ้นมา ทำเอาฮิมชานสะดุ้ง ตามมาด้วยอาการงงๆ ว่ามันพูดอะไร
“เนื้อเพลงหรือว่าไง พูดในใจก็ได้นะ” ฮิมชานคิดว่าอาจจะเป็นเนื้อเพลงที่ยงกุกพยายามคิดอยู่
“วันนี้ ตอนจบเพลงที่ฉันไม่เอาหัวชนกับจงออบ เป็นเพราะนาย”
“พูดอะไรกำกวม งง”
“ปกติจะเป็นนาย ฉันชอบที่จะมองนายใกล้ๆแบบนั้น”
“อย่ามาล้อฉันเล่น ยงกุก” ฮิมชานเปลี่ยนโหมดจากสบายๆ มานั่งจ้องหน้ายงกุก ยงกุกต้องการบอกอะไรเค้ากันแน่
“ไม่รู้ดิ แค่คิดว่าฉันอยากทำท่อนจบแค่กับนาย” ยงกุกพูดตามความรู้สึก อะไรก็ไม่รู้ดลใจให้เค้าพูดแบบนั้น มันออกมาจากใจ มันไม่มีเหตุผลเลยจริงมั้ย
“....” ไร้คำพูดออกจากปากฮิมชาน ยงกุกสงสัยเลยลองเงยหน้าขึ้นมา ฮิมชานร้องไห้?!
“ฮิมชาน..” ยงกุกลองเรียกฮิมชาน เค้าตกใจไม่ใช่น้อยที่อยู่ดีๆฮิมชานก็ร้องไห้ เค้าพูดอะไรผิดอีกแล้วหรอ
“ทำไมนายต้องชอบแกล้งฉันอยู่เรื่อยเลยนะ” ฮิมชานสะอึกสะอื้น ฮิมชานไม่เคยร้องไห้ให้ใครเห็นมาก่อน เค้าไม่ชอบแสดงความรู้สึกจริงๆออกมาให้ใครเห็น แต่ตอนนี้เค้าทนไม่ไหวแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างถาโถม และเรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ทำให้เค้าอ่อนแอลง บังยงกุก
ฮิมชานแอบเปิดใจให้ยงกุก ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ เค้าสองคนสนิทกันมาก อาจเพราะทำงานด้วยกันมานาน อายุเท่ากัน นอนด้วยกัน แต่แล้วฮิมชานก็รู้สึกว่าเค้ามักจะคิดถึงยงกุกเป็นที่หนึ่งเสมอ ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม เค้าไม่รู้ว่แบบนี้เรียกว่าเค้าแอบชอบยงกุกรึป่าว หรืว่าแค่เพื่อนสนิทมากๆคนนึง ยิ่งยงกุกมาพูดแบบนี้กับเค้า ฮิมชานก็แอบหวังว่ายงกุกจะรู้สึกแบบเดียวกันมั้ย
“ร้องไห้ทำไม และอีกอย่างฉันยังไม่ได้แกล้งนาย” ยงกุกขยับเข้าไปนั่งยองหน้าฮิมชาน จ้องเข้าไปในดวงตานั้น ยงกุกอยากให้ฮิมชานพูดเรื่องที่ทำให้ร้องไห้ออกมา
“ฉัน... ฉันไม่รู้” ฮิมชานพยายามหยุดร้อง ที่เค้าพูดออกมาแต่ละคำไม่เป็นเรื่องสักนิด มันแค่เป็นความรู้สึกที่อยู่ดีๆก็อยากร้อง เค้าจะบอกยงกุกดีมั้ย ถึงความรู้สึกแปลกๆนี้
“ฉันมีเรื่องจะบอกนาย” ยงกุกตัดสินใจจะบอกเรื่องที่เค้านั่งคิดมาหลายชม. เค้าไม่ได้นั่งแต่งเพลงนะ แต่เค้านั่งคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น แล้วมันก็ชัดเจนขึ้น
“....” ฮิมชานมองหน้ายงกุก ตอนนี้เค้าหยุดร้องไห้แล้ว แล้วก็คิดแล้วว่า จะไม่บอกยงกุก ยังไงถ้าบอกไป ความสัมพันธ์ทุกๆอย่างจะเปลี่ยนไป ทั้งการแสดงออก ความอึดอัดจะก่อตัวขึ้น ไม่ว่ายงกุกจะคิดยังไง
“ฉันว่า ฉันอาจจะรักนายมากกว่าเพื่อน”
น้ำตาของฮิมชานกลับมาเอ่ออีกครั้ง ทำไมกัน เกิดอะไรขึ้น ทุกอย่างผิดไปหมด พอเค้าตัดสินใจว่าจะไม่บอก แต่ยงกุกกลับมาบอกเค้าแบบนี้ เค้าควรทำยังไงดีนะ...
“นายจะเกลียดฉันมั้ย” ยงกุกมองหน้าฮิมชาน เค้าอยากให้ฮิมชานพูดออกมา แต่ว่าตอนนี้มจยงกุกเริ่มกลัว กลัวว่าฮิมชานจะไม่ยอมรับมัน
“ขอบคุณนะบัง” ฮิมชานร้องไห้อีกครั้ง ฮิมชานโผลกอดยงกุก
“…” ยงกุกตกใจเล็กน้อยแต่ก็กอดตอบ เค้าเริ่มใจชี้นขึ้นมา ฮิมชานกอดเค้า นั่นอาจจะใช่ ฮิมชานอาจจะรู้สึกเหมือนกัน
“ขอโทษ” ฮิมชานค่อยผละอ้อมกอดออก เค้าตัดสินใจแล้ว
“ขอโทษ?”
“เราเป็นศิลปิน คนของประชาชน พ่อแม่เค้าคงไม่อยากให้ลูกเลียนแบบสิ่งผิดๆใช่มั้ย”
“แต่ความรักมันไม่ผิดนะฮิมชาน เรื่องนี้ใครๆก็กำหนดไม่ได้” ยงกุกเริ่มขึ้นเสียงนิดๆ ตอนนี้เค้าเริ่มกลัว
“ยังไงมันก็เป็นไปไม่ได้ ขอให้เป็นแบบเดิมดีแล้ว”
“แต่นายก็รักฉัน ไม่ใช่หรอ” ยงกุกเถียง
“รัก แต่ก็รักแบบเดิมได้” ฮิมชานตอบแผ่วลง เค้าก็ไม่มั่นใจว่าเค้าจะรักแบบเดิมได้จริงหรอ
“แต่ฉันทำไม่ได้! ฉันรักนายคิมฮิมชาน” ยงกุกโกรธ โกรธที่ฮิมชานรักเค้า แต่ปฏิเสธความรักของเค้า มันเป็นเรื่องที่บ้ามาก
“เราอยู่กันมากี่ปีแล้ว อยู่ต่อไปอีกแบบเดิมต่อไปก็ไม่เห็นเป็นไรนี่”
“นายทำฉันโกรธ” ยงกุกเดินวนรอบห้อง อารมณ์ของเค้าครุกครุ่น มันผิดคาดที่เค้าคิดไว้
“ขอโทษ ” น้ำตาเจ้ากรรมก็ไหลจริง หน้าของฮิมชานเต็มไปด้วยตราบน้ำตา บางทีเค้าก็คิดว่า เค้าเห็นใจแฟนคลับมากไปมั้ย
“...” ยงกุกเลิกที่จะเถียง ร่างสูงเดินเข้าไปหาฮิมชาน ห่างกันแค่นิดเดียว ยงกุกจับมือฮิมชานมาทำท่าจบของเพลง crash แต่รอบนี้ยงกุกเป็นคนเอาหัวชน
“พรุ่งนี้นายต้องทำท่านี้กับฉัน แล้วนายต้องคู่กับฉัน..” ยงกุกจ้องตาอย่างอ่อนโยน เค้าควบคุมอารมณ์ได้แล้ว เค้าจะไม่ทำให้เรื่องนี้แย่ลงอีก และนี่คงเป็นสิ่งสุดท้ายที่จะได้ใกล้ชิดกันแบบนี้
“ฉันสัญญา” ฮิมชานยิ้ม อย่างน้อยยงกุกก็ยังเข้าใจง่ายนะ
“ฉันรักนาย” ยงกุกพูดเบาๆ ก่อนจะประกบริมฝีปากลงบนปากบางๆแผ่วเบา ไม่มีมากกว่านั้น เรื่องนี้เค้าและฮิมชานเท่านั้นที่รู้
.
.
.
ความคิดเห็น