คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : The feeling : 4 [100%]
THE FEELING IN MY HEART
................เพื่อนเก่า 2............
..
“นี้คิบอมเก็บของเสร็จรึยังเนี้ยะ อย่ามัวแต่เล่นเกมส์จะได้มั๊ย”
“แล้วนายจะรีบเก็บไปทำไมเล่า เราจะไปตอนไหนก็ไม่มีใครว่าหรอกน่า” คิบอมละสายตาจากเกมส์หันมามองซองมินแปบนึ่งแล้วกับไปสนใจเกมส์ในมืออีกครั้ง
“นี้คิบอมทำไมพูดอย่างนั้นล่ะ ไม่รู้ล่ะยังไงก็มาเก็บของเดี๋ยวนี้เลยนะไม่งั้นงอนจริงด้วย” ซองมินงัดไม้ตายที่ใช้ประจำกับมาใช้อีกครั้งและไม้ตายก็ยังเป้นไม้ตาย เพราะตอนนี้คิบอมวางเกมส์ในมือลงแล้ว
“ง่ามินมินนะเล่นไม้นี้อีกแล้วนะครับ เก็บก็เก็บแต่ต้องแลกกับการจูบมินมินที่นึ่ง” คิบอมที่เดินมาโอบกอดซองมินจากด้านหลังยื่นข้อเสนอแบบตัวเองได้กำลังทันที
“ไม่ต้องมาลูกไม้เลยนะ อ้อนี้คิบอมฉันถามไรนายหน่อยสิ” ซองมินหันกลับมาหาคิบอมอย่างที่ร่างสูงไม่ทันได้ตั้งตัวอะไรเลย คำถามนี้เค้าอย่างจะถามคิบอมมานานแล้วแต่ก็ไม่กล้าถามสักทีแต่ต้องนี้เค้ากล้าเค้ากล้าที่จะถามลแล้ว
“อะไรหรอครับ หือ” คิบอมยิ้มรอคำถาม
“คือทำไมนายถึงเลือกฉันล่ะทั้งๆที่นายกับดงเฮก็รักกันออกซะขนาดนั้นนะ” ใช่คำถามคำนี้แหละที่ซองมินอยากจะรู้คำตอบ เพราะตั้งแต่คบกับดงเฮไม่ตั้งนานและก็เป็นคนช่วยดงเฮจีบคิบอมซะด้วยซ้ำแล้วดูแล้วทั้งสองคนก็รักกันดีนิ
“ก็ไม่มีอะไรมากหรอกก็แค่ฉันไม่เคยรักดงเฮเลยยังไงล่ะ แต่คนที่ฉันรักมาตลอดนะมันคือนาย”
“คือฉันแล้วทำไมตอนนั้นนายถึงตกลงคบกับดงเฮล่ะ”
“ฉันก็แค่ไม่อยากทำลายความหวังของใครก็เท่านั้นเอง” คิบอมพูดออกมาอย่างหน้าตาเฉยโดนไม่สนเลยว่าที่พูดออกมานั้นมันทำให้คนที่รักเพื่อนอย่าง ลี ซองมิน นั้นรู้สึกโกรธเค้าขึ้นมานิดๆที่ทำกับเพื่อนอย่างนั้น(แล้วที่แกทำกับดงเฮล่ะ.....ไร้เตอร์)
“นี้ตกลงว่าที่นายคบกับดงเฮมันไม้ใช่ความรักแต่มันเป็นความสงสารว่างั้น ถ้ายังงั้นแล้วที่นายคบกับฉันล่ะคิบอมมันคือความรักรึเปล่า” ซองมินซักจะไม่มั่นใจแล้วสิว่าผู้ชายที่ชื่อ คิม คิบอม คนที่อยู่ตรงหน้านี้จะจริงใจกับเค้าจริงรึเปล่า
“ซองมินฟังฉันนะ คิม คิบอมคนนี้รักลี ซองมินคนที่อยู่ตรงหน้านี้มากและรักมานานแล้วรัก” ซองมินโผเข้ากอดคิบอมทันทีตอนนี้ถึงแม้จะทำร้ายใครยังไงเค้าก็ไม่สนแล้วเพราะตอนนี้เค้าสนแค่ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเค้าเท่านั้น
“นี้คิบอมจอดตรงร้านสะดวกซื้อข้างหน้าแบบนึ่งนะ”
“นายจะซื้ออะไรหรอ”
“ก็ฉันลืมของนิดหน่อยนะ รอฉันแปบนึ่งนะ”
ข้างในร้านสะดวกซื้อ
“อยู่ตรงไหนน่า” ซองมินที่เดินหาของที่ต้องการอยู่นานแต่หายังไงก็หาไม่เจอรึว่าที่นี้มันจะไม่มีก็ไม่รู้
“ไม่รู้ว่าคนสมัยนี้คิดอะไรกันอยู่ แฟนเพื่อนตัวเองแท้ๆยังแย่งได้ลงคอไม่รู้ว่ายังมีจิตสำนึกของการเป็นเพื่อนอยู่ก็ไม่รู้ ฮึ” อยู่ดีๆผู้ชายคนที่ซื้อของอยู่ข้างๆเค้าก็พูดขึ้น เค้าไม่รู้หรอกนะว่าที่ผู้ชายคนนี้พูดนะมันเป็นตัวเค้ารึว่าคนที่เค้ากำลังพูดโทรศัพท์ด้วยกันแน่
“เค้าคงไม่ได้ตั้งใจหรอกมั้งคุณ เพราะความรักนะมันเป็นอะไรที่ห้ามไม่ได้” อยู่ดีๆซองมินก็พุดขึ้น ใช่ที่ซองมินพูดออกมานะเป็นความรู้สึกของเค้าเอง
“ฮึ ห้ามไม่ได้ยังงั้นหรอครับ แต่ถึงยังไงผมว่ามันก็เลวอยู่ดีล่ะครับที่ แย่งแฟนเพื่อน นะครับยังไงคุณก็เก็บคำพูดของผมไปคิดหน่อยก็ดีนะครับไปนะครับ” พูดจบเค้าก็เดินหนีไปทันที แล้วตกลงที่เค้าพูดนะเค้าว่าให้ซองมินจริงหรอเนี้ยะ แล้วเค้าเป็นใครกันถึงได้รู้เรื่องนี้ เค้าเป็นใครล่ะ
“ดงเฮวันนี้พี่มีเซอร์ไพรท์ให้นายด้วยนะ” ในขณะที่กำลังวุ่นอยู่กัยการจัดการโต๊ะอาหารอยู่นั้น
ฮันกยองก็พูดขึ้นและหลังฮันกยองไม่นานนักฮยอกแจก็พูขึ้นแลละคำพูดของทั้งสองคนก็ไม่ต่างกัน
มากนะ
“ฉันเองก็มีเซอร์ไพรท์ให้นายเหมือนกันนะ”
“นี้นายเองก็มีเซอร์ไพรท์เหมือนกันหรอเนี้ยะ ว่าแต่เซอร์ไพรท์ของนายนะคืออะไรหรอ ฮึ” ฮันกยอง
แทบไม่เชื่อหูตัวเองฮอยกแจเองก็มีเซอร์ไพรท์เพราะเค้านึกว่าจะมีแค่เค้าเท่านั้นที่คิดจะเซอร์ไพรท์
ดงเฮ
“ขืนบอกไปก็ไม่เซอร์ไพรท์อะดิ แล้วพี่ละเอาอะไรมาเซอร์ไพรท์ด้องอ่ะ”
“ขืนบอกไปก็ไม่เซอร์ไพรท์อ่ะดิ” เหมือนกับว่าฮันกยองจะกอปปี้ฮยอกแจมาอย่างไม่ผิดเพี้ยนแม้แต่
คำเดียว
“ซิส์” เมื่อเห็นฮันกยองตอบอย่างนั้นฮยอกแจก็เลยไม่มีอะไรจะพูด (เพราะจุกคำตอบตัวเองอ่ะ)
ก่อนจะเดินไปหาดงเฮที่ยืนจัดนั้นจัดนี้อยู่คนเดียว “นี้ก็ยิ้มอยู่ได้คนเค้าทะเลาะกันนะไม่ใช่บอกรัก
กัน” ด้วยความที่พูดไม่ทันคิด ทำให้คำตอบนั้นมันเป็นเหมือนดาบสองคม ทั้งดงเฮและฮันกยองต่าง
มองมาที่ฮยอกแจเป็นตาเดียว สายตาของดงเฮนั้นพอจะอ่านออกอยู่หรอกว่าเพื่อนนะกำลังคิดอะไร
แต่กับสายตาของฮันกยองนี้สิที่ทำให้ฮยอกแจอ่านไม่ออก
‘ก็บอหรักกันซะสิฉันจะได้ยิ้มกว้างกว่านี้ คริ คริ’ ดงเฮเขียนอะไรบ้างอย่างแล้วส่งให้ฮยอกแจอ่าน
แต่พอฮยอกแจอ่านจบเท่านั้นแหละสิ่งที่ดงเฮเขียนไปนั้นก็เป็นเหมือนดาบสองคมอีกเช่นกัน
“บ้า!” ฮยอกแจเขินกับสิ่งที่ดงเฮเขียนให้เลยพลักดงเฮซะเติมแรง(เขินมากแรงที่พลักก็มาก) จนทำ
ให้ดงเฮเกิดการเสียหลักล้มไปด้านหลังแต่โชคยังดีที่มีคนช่วยไว้ทัน แต่ดูท่าคนคนนั้นจะไม่ใช่ฮัน
กยองเพราะฮันกยองคงจะกระโดดข้ามโต๊ะมาไม่ทันหรอก
“ดงเฮนายไม่เป็นไรใช่มั๊ย” คนที่ช่วยดงเฮพูดขึ้นแต่เสียงนี้มันคุ้นหูมากและเหมือนกับวว่าได้ฟังที
ไรก็อบอุ่นทุกที และเสียงแบบนี้ก็มีอยู่แค่คนคนเดียวเท่านั้นเป็นเสียงที่ไม่เคยพุดจาทำร้ายและก็เป็น
เสียงที่ค่อยปลอบโยนเค้าอยู่เสมอดงเฮเงยหน้าขึ้นมามองคนที่มาช่วยเค้าไว้และนั้นเป็นอีกครั้งที่ดง
เฮพูดได้
“คะ คยู” เสียงนี้ไม่ได้เกิดจากการตกใจหรืออย่างใดแต่กับเป้ฯเสียงที่อยากจะพูดอยากจะเรียกชื่อชื่อนี้ ดงเฮโผเข้ากอดคยูไว้แน่ก่อนที่อีกฝ่ายจะพูดอะไรบ้างอย่างออกมาก
“ฉันกับมาทวงสัญญาของฉันแล้วนะดงเฮ”
:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::
ข้อความจากไร้เตอร์
ขอโทษที่ทำให้รอนานนะค่ะ
พอดีคอมที่บ้านก่อนมันพัง แล้วเสาร์-อาทิตย์เมื่อกี่พี่ก็เอารถไปใช่กรเลยไปร้านเน็ตไม่ได้
เลยต้องมาอัพที่ รร. ช่วงพักเที่ยงที่ รร. กรเปิดให้เข้าห้องคอมเลยต้องอัพวันนี้
ยังไงก็อย่าเพิ่งว่าอะไรกรนะค่ะ
เย้ๆ ในที่สุดพี่กี้ก็โผ่มาซะที
ปล. อย่ายุคยูเฮมากนักนะ เดี๋ยวก็เป็นจริงหรอก 555+
ปล1. เด๊ยวคิมคิมันน้อยใจนะ
ความคิดเห็น