คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : DMHP V.2 [1]
หลังจากข่าวการตายของผู้นำแห่งความมืด ลอร์ดโวลเดอมอร์ได้ตายลงเพราะฝีมือของเด็กชายผู้รอดชีวิตผู้มีนามว่า "แฮร์รี่ พอตเตอร์"
ผู้คนในโลกเวทมนตร์ต่างก็ดีใจอย่างออกนอกหน้า บางคนถึงกับจัดงานเลี้ยงแล้วชวนพวกเพื่อนๆมาสนุกด้วยกัน แต่จะมีใครรู้บ้างไหมว่า เด็กชายผู้ที่กระทรวงเวทมนตร์ และทุกคนโนโลกเวทมนตร์ต่างก็สรรเสริญ และยกย่องนั้น
กลับไม่มีความสุขเลยแม้แต่น้อย เพราะการต่อสู้กับโวลเดอมอร์นั้นถึงแม้จะได้ชัยชนะกลับมาก็ตาม แต่ผลที่ได้ออกมามันทำให้แฮร์รี่เสียคนที่รักไปตั้งมากมาย ที่สำคัญตอนนี้ เขากลายเป็นคนที่ไม่มีความสุขเลยแม้แต่น้อย จากเด็กชายที่เคยมีแต่เสียงหัวเราะ บัดนี้เสียงหัวเราะนั้นกลับไม่ปรากฏอยู่บนใบหน้าเนียนสวยเลยซักครั้งเดียวหลังจากวันนั้น
เขากลายเป็นคนที่เงียบเฉย ใครถามก็ตอบ พูดคำก็ตอบคำ กริยาอาการของแฮร์รี่นั้นทำให้หลายคนเป็นห่วงไม่น้อยโดยเฉพาะ สองเกลอ ที่คอยอยู่ข้างแฮร์รี่อยู่เสมอ ทั้งสองคนพยายามที่จะพูดคุยกับแฮร์รี่ด้วยท่าทางที่สนุกสนาน แต่ไม่ว่าจะทำเท่าไหร่ หรือทางไหน แฮร์รี่ก็ไม่เคยที่จะหัวเราะหรือ ร่าเริงอย่างเมื่อก่อนนี้อีกแล้ว
"แฮร์รี่ นายยิ้มสิ นายอย่าเป็นอย่างนี้เข้าใจมั้ย นายต้องร่าเริงเข้าไว้"รอนพูดปลอบด้วยความเป็นห่วงเพื่อนสนิทคนสำคัญของเค้า แฮร์รี่คงไม่รู้ว่า ท่าทางที่ร่าเริงของแฮร์รี่และรอยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้า แววตาที่บ่งบอกได้ว่าไม่พูดโกหก และแววตาขี้เล่นนั้น มันทำให้หลายๆคนพลอยมีความสุขไปกับแฮร์รี่ด้วย แต่ตอนนี้ เขากลับกลายเป็นคนที่ไม่ค่อยพูด แววตาเศร้าๆอยู่ตลอดเวลา มันทำให้คนรอบข้างนึกเป็นห่วงอยู่ไม่น้อย รวมถึง ศ.ทุกคนที่พยายามทำให้แฮร์รี่มีความสุข แต่มันก็ไม่ได้ผล
"อืม"แฮร์รี่มักตอบด้วยคำๆนี้เสมอ ไม่ว่าใครจะถามอะไร ไม่ตอบอืม ก็ตอบว่า ไม่ จนทำให้รอนคิดอยากที่จะต่อยหน้าแฮร์รี่ให้กลับมาเป็นคนเดิมซักครั้ง แต่รอนก็ไม่กล้า เพราะเค้าไม่อยากทำร้ายเพื่อนคนสำคัญของเค้า
"แฮร์รี่ ชั้นขอร้อง นายกลับมาเป็นอย่างเดิมเถอะนะ อย่าทำให้พวกชั้นต้องเป็นห่วงนายไปมากกว่านี้ได้มั้ย"เฮอร์ไมโอนี่พูดพร้อมกับน้ำตาคลอ เธอไม่อยากที่จะเห็นเพื่อนคนสำคัญของเธอเป็นอย่างนี้เลย เธอรู้ รู้ว่าแฮร์รี่เจ็บปวดมากแค่ไหน แต่การกระทำของแฮร์รี่มันเหมือนกับการหลบหนีมากกว่า ถ้าเป็นอย่างนี้ เธอสู้ขอให้แฮร์รี่ไม่ต้องสู้กับโวลเดอมอร์ตั้งแต่แรกยังจะดีซะกว่า
".........."แฮร์รี่ไม่ตอบอะไรเพียงแต่มองหน้าเฮอร์ไมโอนี่พร้อมกับปล่อยให้น้ำตา ที่อัดอั้นมานานแสนนาน นับจากวันที่เค้าเสียทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นลูปิน หรือคนที่เค้าคิดว่าเค้าไว้ใจมากที่สุด นั่นก็คือ ซีเรียส ทั้งสองคนเข้ามาขวางแฮร์รี่ตอนที่ลำแสงพิฆาตพุ่งตรงมาหาตัวเขา ทั้งสองคนที่แฮร์รี่รัก ทั้งสองคนที่แฮร์รี่ต้องการอยู่เสมอ ตอนนี้แฮร์รี่กลับไม่เหลือใครอีกแล้ว
"เฮอร์ไมโอนี่......รอน.......ชั้นสบายดี"แฮร์รี่พูดพร้อมรอยยิ้มที่ฝืนอย่างเห็นได้ชัด ก่อนที่จะลุกขึ้นจากโซฟาพร้อมกับเดินไปเรียนในคาบแรกของวันนี้ พร้อมกับเพื่อนๆของเค้า
"นี่เฮิร์ม แฮร์รี่ พวกนายเห็นมะตอนที่สเนปตกบันไดนะ 555 5หน้าเอย ปากเอยเจ๋อไปหมดจนศ.ลูปินต้องหามไปห้องพยาบาลน่ะ55555 อุ๊ เจ็บนะเฮิร์ม เธอทำอะไรของเธอน่ะ"รอนต้องรีบร้อง
โอ้ยทันที ก็สาวเจ้าอย่างเฮอร์ไมโอนี่ ที่นับว่าติดอันดับของคนที่มือหนักที่สุดใน Hogwarts ใช้ศอกเข้าที่สีข้างของรอนเข้าน่ะสิ เจออย่างนี้ก็จุกเหมือนกันนะ เฮิร์มอ่าทำกันได้ลง
"เธอกำลังทำให้แฮร์รี่ไม่สบายใจนะ"เฮอร์ไมโอนี่ตวาดรอนทันทีพร้อมกับส่งสายตาให้รอนหันไปมองแฮร์รี่ ที่ตอนนี้หยุดเดินพร้อมกับก้มหน้าเหมือนจะร้องไห้ รอนรู้สึกว่าตัวเองผิดขึ้นมาทันที เมื่อนึกถึงคำพูดที่เค้าพูดออกไป ก็แหมเค้านึกว่าแฮร์รี่จะหัวเราะนี่นาตอนนั้นเค้าพูดเรื่องนี้ทีไร
แฮร์รี่ก็จะหัวเราะทันที แต่พอลองมาคิดดูแล้ว การที่จะพูดชื่อซีเรียสหรือลูปินในตอนนี้มันคงจะเป็นเรื่องยาก ที่แฮร์รี่จะยอมรับได้
"เอ่อ แฮร์รี่ชั้นขอโทษนะ ไม่ได้ตั้งใจทำให้นายนึกถึง เอ่อ..."รอนไม่พูดต่อไป เพราะคิดว่าหากพูดต่อไปแฮร์รี่ต้องอาการหนักกว่าเดิมเป็นแน่ แต่รอนก็ขอทำหน้าที่เป็นพี่คอยปลอบแฮร์รี่ละกัน โดยการวางมือบ่นบ่าที่สั่นไหวเล็กน้อยของแฮร์รี่ เมื่อนึกถึงสาเหตุการตายของลูปินและซีเรียส หากตอนนั้นเค้าไม่ได้สู้กับโวลเดอมอร์ หากตอนนั้นเค้าไม่ไปที่นั่น หรือถ้าหากเค้าห้ามไม่ให้ลูปินและซีเรียสหรือทุกคนไปกับเค้า เค้าก็จะได้ไม่ต้องเสียคนที่รักไปถึงสองคน และพวกสมาชิกภาคีนับไม่ถ้วนที่ต้องตายลง
"ไม่เป็นไรรอน เราไปเรียนกันเถอะนะ"ว่าแล้วแฮร์รี่ก็เดินจ้ำเอ้าจ้ำเอ้าไปตามทางเดินทันที ปล่อยให้เพื่อนๆทั้งสองคนคอยมองแผ่นหลังที่สั่นไหวเพราะกำลังร้องไห้ อย่างเห็นได้ชัด รอนและเฮอร์ไมโอนี่ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรให้แฮร์รี่กลับมาเป็นอย่างเดิมได้แล้ว ได้แต่หวังว่าซักวัน แฮร์รี่จะกลับมาร่าเริงเหมือนเดิม
ระหว่างทางที่เดินไปคุกใต้ดิน แฮร์รี่ก็เดินก้มหน้าก้มตาโดยที่ไม่มองทาง ทำให้แฮร์รี่เดินชนกับคนๆคนหนึ่งเข้าอย่างจังโดยที่คนคนนั้นเป็นคนที่เขาไม่อยากที่จะเจอเป็นอันดับ 1 เลยทีเดียว
"โอ๊ย!!!พอตตี้ เดินมองทางซะบ้างสิ มัวแต่เหม่อลอยคิดถึงเจ้าพวกนั้นอยู่หรือยังไง"เด็กหนุ่มเรือนผมสีทอง ผู้ที่มีแววตาสีเทาและเป็นคู่อริตลอดกาลของแฮร์รี่ นับว่าเจอกันทีไรเป็นต้องชวน
แฮร์รี่ทะเลาะทุกที และครั้งนี้เดรโกก็หวังว่า แฮร์รี่จะหันมาด่าเค้าเหมือนอย่างเคย แต่มันกลับไม่ใช่ ไม่เลยซักนิด
"ขอโทษ"แฮร์รี่พูดด้วยเสียงที่แผ่วเบาพร้อมกับน้ำตาที่หยดลงมาบนตัวของเดรโก เพราะตอนนี้แฮร์รี่กำลังนั่งทับอยู่บนตัวของเดรโก เดรโกอึ้งไปซักพัก ขอโทษอย่างนั้นหรอ หมอนี่เคยพูดคำนี้ด้วยหรอ แล้วเป็นไปไม่ได้ที่หมอนี่คนที่ไม่เคยให้ใครได้เห็นน้ำตา แต่ตอนนี้ใบหน้าที่หวานของหมอนี่กลับเต็มไปด้วยน้ำตา หึ คงเป็นเพราะเจ้าสองคนนั้นสินะ
"เชอะ เจ้าขี้แย เพราะเจ้าสองคนนั้นน่ะสินะ นายนี่ขี้แยอย่างกับเด็กชะมัด"ขอโทษแฮร์รี่ ชั้นขอโทษ จริงๆแล้วชั้นไม่อยากที่จะพูดแบบนี้ออกมาหรอกนะ แต่นี่คือการแสดงความเป็นห่วงของชั้น นายรู้มั้ย ตั้งแต่วันที่นายไม่ทะเลาะกับชั้น วันที่นายไม่ทำแววตากวนตีนใส่ชั้น วันที่นายไม่ต่อล้อต่อเถียงกับชั้นแล้วยิ้มให้ชั้นแบบที่กวนตีนๆ นับจากวันนั้น ชั้นก็ไม่มีความสุขเลย นายจะรู้มั้ย ท่าทางของนายตอนที่ยิ้ม ตอนที่ทะเลาะกับชั้น มันทำให้ชั้นยิ่งรักนายมากยิ่งขึ้น นายมาเป็นแบบนี้ มันทำให้ชั้นเจ็บปวดยิ่งกว่านายรู้มั้ย
"ขอโทษ"ว่าแล้วแฮร์รี่ก็รีบลุกออกจากตัวของเดรโกพร้อมๆกับที่รีบวิ่งไปที่ไหนซักแห่ง โดยมี
เดรโก รอน และเฮอร์ไมโอนี่ตะโกนตามหลังเพื่อหวังว่าคนร่างบางที่เอาแต่วิ่งไปข้างหน้าโดยที่ไม่หันมามองข้างหลังต้องหยุดวิ่งบ้าง แต่มันกลับตรงกันข้าม แฮร์รี่ ยิ่งวิ่งเร็วมากขึ้นกว่าเดิมแล้วในวินาทีต่อมาก็หายลับไปกับตาทั้งสามคนที่ได้แต่ยืนมองแผ่นหลังของแฮร์รี่ค่อยๆหายไป เหลือไว้แต่เพียงเส้นทางที่ยาวไกลที่ไม่อาจมองเห็นได้ว่า แฮร์รี่ไปที่ไหน
"แฮร์รี่จะไปไหนของเค้านะ จริงสิ มัลฟอย!!!!นายใช่มั้ยที่ทำให้แฮร์รี่วิ่งไปอย่างนั้นน่ะ"รอนหันหน้ามาต่อว่าเดรโกทันที หลังจากที่งงกับการกระทำของแฮร์รี่ เดรโกไม่พูดอะไรเพียงแต่วิ่งตามแฮร์รี่ไปเท่านั้น ปล่อยให้ทั้งรอนและเฮอร์ไมโอนี่ต้อง งงอย่างที่ไม่เคย งง มาก่อน
แฮร์รี่ นายไปอยู่ที่ไหน ชั้นขอโทษ ชั้นไม่น่าพูดคำที่สะกิดใจนายเลย แต่มันก็ช่วยไม่ได้ นายก็รู้ว่าชั้นมันเป็นคนปากเสีย นายจะลองคิดดูบ้างมั้ย ว่าในคำด่าของชั้น มันมีความเป็นห่วงปนอยู่ด้วยเสมอ แฮร์รี่ นายอยู่ที่ไหน
ระหว่างที่เดรโกกำลังวิ่งตามหาแฮร์รี่โดยที่ไม่คิดจะเข้าห้องเรียนเลยแม้แต่น้อยพอๆกับแฮร์รี่ที่ตอนนี้ไม่สามารถที่จะไปนั่งเรียนกับเพื่อนๆได้ เพราะตอนนี้เค้าไม่มีกะจิตกะใจที่จะเรียนเลยแม้
แต่น้อย แฮร์รี่วิ่งมาตามทางจนมาถึงทะเลสาบ เมื่อถึงทะเลสาบ ที่ ที่แฮร์รี่คิดว่าจะไม่มีใครมารบ กวนเค้าได้ แฮร์รี่ก็นั่งลงบนพื้นหญ้าทันทีเพื่อหวังให้สายลมช่วยพัดพาความทุกข์ของเค้าไปได้บ้าง เค้าได้แต่คิดว่าทำไม ทำไมเค้าต้องมาเจอกับเรื่องแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ของเค้า ที่เค้าไม่อาจจะที่จะได้รับอ้อมกอดและความอบอุ่นอย่างเด็กทั่วไป เพราะต้องพรากจากกันตั้งแต่เค้ายังเป็นเด็ก
แล้วยังต้องมาเจอกับครอบครัวเดอร์ลีสที่ไม่ต้องการเค้า คอยแต่จะใส่ร้ายเค้า หรือแม้กระทั่งคนที่เค้าไว้ใจทั้งสองคน ที่คิดจะรับเค้าเป็นลูกบุญธรรม กลับต้องมาตายจากเค้า ทำไมชีวิตของเค้ามันช่างน่าเศร้าเหลือเกิน เค้าอยากจะมีชีวิตแบบเด็กทั่วไปที่ไม่ใช่เด็กชายรอดชีวิต เป็นเด็กที่มีความสุขโดยที่ไม่ต้องรับรู้กับเรื่องราวพวกนี้ ทุกครั้งที่แฮร์รี่คิดถึงเรื่องพวกนี้ น้ำตาของเค้าก็จะคอยไหลลงมาอาบแก้มของเค้าอยู่เสมอ
สายลมยามเช้า ทะเลสาบที่มีฝูงปลาว่ายไปมา เสียงนกร้องจิ๊บ จิ๊บ ต้นไม้ต้นใหญ่ที่สั่นไหวเพราะแรงลมพัด ใบไม้ที่ร่วงหล่นบนพื้นหญ้าอย่างแผ่วเบา บรรยากาศอย่างนี้มันช่างเป็นใจให้แฮร์รี่เคลิ้มหลับเพื่อลืมความทุกข์ต่างๆซะจริง
เดรโกวิ่งหาแฮร์รี่ในทุกๆที่ที่คิดว่าแฮร์รี่จะไป ไม่รวมแม้กระทั่งสนามควิชดิช แต่แล้วเดรโกก็นึกขึ้นได้ว่าเวลาที่แฮร์รี่มีเรื่องทุกใจที่ไม่สามารถบอกใครได้ แฮร์รี่ก็มักที่จะไปนั่งสงบสติอารมณ์ที่ริมทะเลสาบอยู่เสมอ เมื่อคิดได้ดังนั้น เดรโกก็รีบวิ่งไปที่ทะเลสาบทันที แล้วก็เป็นดังคาด แฮร์รี่กำลังนอนหลับอยู่ใต้ต้นไม้ต้นใหญ่โดยที่หางตายังคงมีคราบน้ำตาติดอยู่ เดรโกเดินเข้าไปหาแฮร์รี่พร้อมกับนั่งลงข้างๆเพื่อคอยปลอบใจแฮร์รี่อยู่ห่างๆ
เดรโกมักทำอย่างนี้เสมอ ในทุกเวลาที่รู้ว่าแฮร์รี่มีเรื่องทุกข์ใจแล้วมักมานั่งที่นี่ เดรโกค่อยๆเลื่อนมือของตนเองไปปาดน้ำตาที่ติดอยู่ที่หางตาของแฮร์รี่อย่างแผ่วเบา ด้วยความกลัวที่ว่าแฮร์รี่จะตื่นขึ้นมาซะก่อน
"แฮร์รี่ นายจะรู้บ้างมั้ยว่า นายเป็นแบบนี้มันทำให้ชั้นเจ็บปวดมากแค่ไหน ลืมเรื่องที่ทำให้เป็นทุกข์ซะบ้างสิ กลับมาเป็นคนที่ร่าเริงและสดใส เหมือนอย่างเคยจะได้มั้ย"เดรโกพูดด้วยเสียงที่เบาแผ่วที่เหมือนกับจะให้สายลมในที่นี้ช่วยพาคำพูดของเค้าให้แฮร์รี่ได้รับรู้ แต่แฮร์รี่ตอนนี้คงตื่นขึ้นมารับรู้กับคำพูดของเค้าไม่ได้ เพราะเดรโกรู้ว่าแฮร์รี่เหนื่อยใจมามากพอแล้วตอนนี้คงกำลังพักฟื้นอยู่
เดรโกเลือกที่จะนั่งข้างๆแฮร์รี่อยู่อย่างนี้ตลอดไป และคิดว่าซักวันแฮร์รี่คงจะทำใจยอมรับกับเรื่องทั้งหมดได้อย่างง่ายดาย และกลับมาเป็นเหมือนเดิม เดรโกนั่งจ้องมองใบหน้ายามหลับของ
แฮร์รี่อยู่เงียบๆ พร้อมกับเผลอยิ้มออกมาอย่างที่ไม่เคยยิ้มให้ใครมาก่อนด้วยความรัก
เวลาผ่านไปนานกว่า ชั่วโมง ทั้งแฮร์รี่และเดรโกนั้นต่างก็ไม่ได้เข้าเรียนเลย ด้วยเหตุที่แฮร์รี่กำลังหลับโดยที่ไม่รู้ว่าเวลานั้นผ่านไปนานหลายชั่วโมงแล้ว ส่วนเดรโกก็คอยแต่มองหน้ายามหลับของแฮร์รี่จนเพลินไม่รู้เวลา จนเวลาผ่านไปแฮร์รี่ลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจ ที่อยู่ๆเดรโกก็มานั่งอยู่ข้างๆเค้า
"มะ...มัลฟอย"แฮร์รี่เอ่ยปากถามด้วยความงุนงง เค้าจำได้ว่าตอนที่เค้ามานั่งที่นี่มัลฟอยไม่ได้อยู่ที่นี่นี่นา แล้วทำไม ทำไมมัลฟอยถึงมานั่งข้างๆเค้าได้หล่ะ
"หืม มีไรพอตตี้ขี้แย"เดรโกพยายามใช้น้ำเสียงที่เป็นปกติ แฮร์รี่คงไม่รู้ว่าตอนนี้ในใจของเค้านั้นสั่นไหวไม่เป็นท่า ที่อยู่ๆแฮร์รี่ก็ลืมตาตื่นขึ้นมาทำเอาเค้าเกือบจะหลบสายตาของตนเองที่จ้องมองแฮร์รี่อยู่ไม่ทัน เกือบไปแล้วมั้ยหล่ะ
"ใครขี้แย มัลฟอย"แฮร์รี่เริ่มที่จะหมดความอดทนกับคนที่อยู่ตรงหน้า ที่ขึ้นชื่อว่าเจ้าชายน้ำแข็งซะแล้ว อะไร อะไรก็เจ้าขึ้แย ขี้แยแล้วมันผิดตรงไหนฟะ เดรโกเห็นว่าแฮร์รี่เริ่มที่จะต่อล้อต่อเถียงกับตนก็ยิ้มที่มุมปากทันที ก่อนที่จะสรรหาคำมาทำให้แฮร์รี่ต้องโกรธและว่าเค้าอีกไม่รู้กี่ครั้ง
"ก็นายไงเจ้าพอตตี้ หรือว่าไม่จริง"แฮร์รี่ยอมรับว่าเค้าไม่มีกะจิตกะใจที่จะมาต่อล้อต่อเถียงกับเจ้าบ้าตรงหน้า แต่มันก็ทนไม่ไหวแล้วจริงๆ
"คงจะไม่เหมือนนายหรอกที่ตายด้านซะจริง"ดีแล้ว แฮร์รี่ดีแล้ว นายด่าชั้นสิ ว่าชั้น อย่างที่นายเคยเป็นอย่างที่นายเคยเถียงกับชั้นอยู่เสมอ นายเป็นอย่างนี้ยังจะดูเป็นนายมากว่าตอนที่นายทำหน้าเศร้าหรือร้องไห้ ดีแล้วแฮร์รี่
"งั้นหรอ ก็ดีกว่าขี้แยหล่ะนะ"เดรโกยังคงกวนประสาทแฮร์รี่ต่อไป จนแฮร์รี่เริ่มนึกออกว่าเค้าต้องไปเรียนวิชาต่อไป เค้าจึงหันมาทำหน้าตาที่กวนตีนใส่เดรโกพร้อมๆกับรีบวิ่งเข้าปราสาทเพื่อไปเรียนในคาบของศ.มักกอนนากัล โดยการปล่อยให้เดรโกหัวเราะกับท่าทางของแฮร์รี่ที่เริ่มกลับมาเป็นปกติทีละนิด แม้จะไม่มากก็ตาม เดรโกไม่รอช้ารีบเดินไปเรียนวิชาต่อไปของตนเหมือนกัน
ห้องเรียนวิชาแปลงร่าง
"แฮร์รี่ นายไปไหนมาน่ะ"รอนรีบทักท้วงทันทีที่เห็นว่าแฮร์รี่วิ่งเข้ามานั่งในห้อง แฮร์รี่ไม่เงียบไปซักพักก่อนที่จะตอบด้วยน้ำเสียงขุ่นมัวเพราะจากการยั่วโมโหของเดรโก
"ไปกัดกับหมามันมา ไอ้เจ้าบ้านั่น คอยดูนะเจอกันอีกโดนแน่ ฮึ่ม!!!~"รอนยิ้มออกทันที ถึงแม้ว่าจะเป็นคำด่า แต่มันก็เป็นคำด่าที่ทำให้เค้าดีใจได้ จากวันนั้น วันที่แฮร์รี่ปะทะกับโวลเดอมอร์และได้ชัยชนะมันก็ผ่านมาแล้ว 1 เดือน จนวันนี้ แฮร์รี่เริ่มที่จะกลับกลายมาเป็นคนเดิมแล้ว
จากการที่แฮร์รี่กลายเป็นคนที่ไม่พูดอะไรเลย และไม่เคยบ่นว่าใคร แต่ตอนนี้กลับมีท่าทางแบบนั้นกลับคืนมาแล้ว
"ยิ้มไร รอน"แฮร์รี่ถามรอนทันที ยิ้มเล็กยิ้มน้อยทำไมเนี่ยเฮ้อ เพื่อนเราชักแปลกๆ รอนเมื่อได้ยินคำถามนี้ก็ต้องยิ้มแก้มปริอีกรอบ แต่คราวนี้เฮอร์ไมโอนี่และทุกคนต่างก็ยิ้มด้วยกันทั้งนั้น ทำเอาแฮร์รี่ถึงกับงง มันเป็นอะไรของพวกมันเนี่ย
"แฮร์รี่ นายด่าคนได้แล้ว นายโมโหได้แล้ว พวกเราดีใจจริงๆ"เฮอร์ไมโอนี่พูดพร้อมกับโผเข้ากอดแฮร์รี่ แฮร์รี่งงนิดนึงก่อนที่จะยิ้มนิดๆที่มุมปากพร้อมๆกับโอบกอดเฮอร์ไมโอนี่เหมือนเป็นการปลอบโยน
"อืม ขอบคุณที่เป็นห่วงนะเฮอร์ไมโอนี่ ชั้นไม่เป็นไรแล้วหล่ะ"แฮร์รี่ตอบพร้อมยิ้ม แม้ในใจยังไม่อยากที่จะยิ้มตอนนี้ก็ตาม ซึ่งในข้อนี้เฮอร์ไมโอนี่ก็ยังคงรู้ดี
"ไม่เป็นไรแล้วแน่นะ กลับมาสดใสเหมือนเดิมแล้วนะ"แฮร์รี่ไม่ตอบอะไรเพียงแต่พยักหน้าเป็นคำตอบ แต่ถึงอย่างนั้นเฮอร์ไมโอนี่และทุกคนก็ยังไม่อยากวางใจอยู่ดี เพราะดูยังไง ยังไง แฮร์รี่ก็ยังฝืนยิ้มอยู่ดี
"แฮร์รี่ นายไม่เป็นไรแน่นะ อีกไม่กี่วันก็ปิดเทอมแล้วไปบ้านชั้นมั้ย"รอนถามอย่างเป็นห่วง แฮร์รี่หันมามองหน้ารอนทันที
"ได้หรอ ชั้นไปบ้านนายได้หรอ"แฮร์รี่แทบจะอดถามด้วยความดีใจไม่ได้ เพราะเค้าไม่อยากจะกลับไปอยู่บ้านเดอร์ลีส หรือแม้กระทั่งที่กริมโม เพราะไม่ว่าทางไหน ที่แห่งไหนก็ทำให้เค้านึกถึงความเจ็บปวดอยู่เสมอ จะมีก็แต่ที่บ้านโพรงกระต่าย ที่เค้าไปทีไรมีแต่ความสุขอยู่เสมอ รอนยิ้มให้กับแฮร์รี่พร้อมกับพยักหน้าทันที
"ได้สิ ทำไมจะไม่ได้นายเป็นเพื่อนคนสำคัญของชั้นนะ"แฮร์รี่ยิ้มเป็นการขอบคุณให้รอนทันที แล้วทั้งหมดก็กลับไปนั่งที่เดิม เพราะศ.มักกอนนากัลบัดนี้ได้เข้ามาในห้องเรียนแล้ว
"เอาหล่ะทุกคน วันนี้เราจะมาเรียนการแปลงร่างเพศตรงข้ามกันนะ"ศ.มักกอนนากัลพูดขึ้น ทุกๆคนต่างตื่นเต้นยินดีกันทั้งนั้น ยกเว้นแฮร์รี่ อาจจะเป็นเพราะในเรื่องหลายด้านที่ถาถมเข้ามาใส่ตัวเค้า ทำให้เค้าไม่อยากที่จะยิ้ม ไม่อยากที่จะหัวเราะ หรือร่าเริงแล้วทำเป็นไม่รู้อะไรเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว จึงทำให้แฮร์รี่ไม่สนุกกับเรื่องที่ทุกคนกำลังสนุกอยู่ ศ.มักกอนนากัลสังเกตุเห็นแล้วก็รู้ถึงเหตุผลของแฮร์รี่จึงไม่ได้ต่อว่าอะไร ได้เพียงแต่ส่งแววตาปลอบใจให้ก็เท่านั้น
"เอาหล่ะ มิสเตอร์วีสลีย์คุณเริ่มก่อน"รอนก้าวขาออกมาอย่างกล้าๆกลัวๆพร้อมกับร่ายคาถา
"อานีอัส รูเบอัส"เมื่อร่ายคาถาเสร็จ ร่างกายของรอนก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นตัวเล็กลงกว่าหน่อยนึง กลายเป็นเด็กผู้หญิงที่มีเรือนผมสีแดงในชุดของนักเรียนผู้หญิง หน้าตาพอไปวัดไปวาได้ หน้าก็ยังคงตกกระกะอยู่จึงทำให้ทุกคนไม่ค่อยฮือฮาซักเท่าไหร่
"เอาหล่ะๆๆพอได้แล้ววีสลีย์ ต่อไปเกรนเจอร์"เฮอร์ไมโอนี่เดินออกมาด้วยความมั่นใจพร้อมกับร่ายคาถา "อานีอัส รูเบอัส"เมื่อร่ายเสร็จ เฮอร์ไมโอนี่ก็กลายเป็นเด็กผู้ชายหน้าใสที่ตัวสูงใหญ่และดูภูมิฐานอย่างเห็นได้ชัดทำเอาทุกคนอึ้งไปในเวลาเดียวกัน
"เอาหล่ะ ดีมากเกรนเจอร์ ต่อไป พอตเตอร์"แฮร์รี่เดินออกมาอย่างธรรมดาเรียบง่าย ไม่มีอาการตื่นเต้นอะไรเลยแม้แต่น้อย ในระหว่างที่แฮร์รี่กำลังร่ายคาถา เดรโกก็เดินเข้ามาในห้องพอดีกลับที่แฮร์รี่ร่ายคาถาพอดีเลย "อานีอัส รูเบอัส"แฮร์รี่ในชุดเสื้อแขนกุดสีชมพูกระโปรงสีชมพู ประกอบกับเรือนผมสีดำยาวสลวยที่ปล่อยเอาไว้ให้ยาวถึงกลางหลัง แววตากลมโตสีมรกต รูปร่างลักษณะของแฮร์รี่นั้นสามารถที่จะสะกดทุกสายตาให้มองได้อย่างไม่มีใครคิดที่จะตำหนิเลยแม้แต่น้อย โดยเฉพาะเดรโกที่บังเอิญศ.สเนปขอร้องให้มาพาศ.มักกอนนากัลไปประชุมด่วนพอดี
เดรโกคิดในใจอยู่เล็กน้อยดีนะที่เค้าขออาจารย์มาเป็นธุระให้ เค้าไม่คิดไม่ฝันว่าจะเห็นแฮร์รี่ในสภาพของผู้หญิงที่น่ารักอย่างนี้เลยแม้แต่น้อย
"น่ารักจัง"เดรโกเผลดหลุดปากออกมาแต่ดีที่ใครแถวๆนั้นกำลังอึ้งอยู่กับสภาพของแฮร์รี่ในตอนนี้คำพูดของเดรโกเลยไม่เข้าหูใครเลยซักคนเดียว แฮร์รี่ที่ถูกคนทั้งห้องจ้องมองก็ถึงกับเขินอายเล็กน้อยก่อนที่จะเปลี่ยนกลับมาเป็นผู้ชายเหมือนเดิมแล้วเข้าไปนั่งที่อย่างอายๆ โดยมีสายตาทุกคนยังคงจับจ้องไปที่แฮร์รี่ไม่วางตา สร้างความหึงหวงให้กับเดรโกไม่ใช่น้อย
"อ้าวมิสเตอร์มัลฟอย มีธุระอะไรหรือ"ถึงศ.มักกอนนากัลจะพูดอย่างนี้ สายตาของทุกคนก็ไม่มีทีท่าว่าจะละเลยจากแฮร์รี่เลยแม้แต่น้อย เดรโกที่ตอนนี้กำลังหงุดหงิดเลยไม่วายที่จะส่งสายตาเย็นชาและเยือกเย็นให้กับคนทั้งห้องได้รู้สึกหนาวๆร้อนๆกัน
"ศ.สเนปให้มาตามไปประชุมด่วนครับ"เดรโกตอบด้วยน้ำเสียงเย็นๆด้วยความโมโหก่อนที่จะเดินมาหาแฮร์รี่พร้อมกับกระซิบที่ข้างหูโดยที่แฮร์รี่ไม่รู้ตัว
"นายนี่เหมาะกับผู้หญิงดีนะ"ว่าแล้วเดรโกก็รีบเดินออกจากห้องทันที ปล่อยให้แฮร์รี่นั่งกำหมัดก่อนที่จะตะโกนออกมาด้วยความเหลืออด
"ไอ้เจ้าหัวลีบเอ้ย !!!!!ไอ้บ้า!!!!!!! ฮึ่ย"เมื่อระบายออกมาจนหมดแล้ว แฮร์รี่ก็รู้สึกว่าตัวเองสบายใจขึ้น ในทางกลับกันเดรโกก็ได้ยินเสียงตะโกนของแฮร์รี่เหมือนกันแล้วก็ได้แต่หัวเราะและยิ้มอยู่อย่างนั้น
ส่วนทางแฮร์รี่ ทุกคนก็ไม่พูดอะไรที่แฮร์รี่ตะโกนซะเสียงดังลั่นกลับดีใจซะมากกว่าที่แฮร์รี่โกรธได้ ทั้งรอน เฮอร์ไมโอนี่ และทุกคนต่างนึกขอบคุณเดรโกที่ทำให้แฮร์รี่โกรธได้ ความกวนตีนของเดรโกเพิ่งจะมามีประโยชน์กับแฮร์รี่ก็คราวนี้แหละ
"เจ้ามัลฟอยนี่ยั่วโมโหแฮร์รี่ได้ถูกเวลาจริงๆ ถ้าให้เจ้านั่นยั่วโมโหแฮร์รี่บ่อยๆอาจจะทำให้
แฮร์รี่กลับมาเป็นคนร่าเริงเหมือนเดิมก็ได้นะ เธอว่าไง"รอนกระซิบกระซาบกับเฮอร์ไมโอนี่ทันที เฮอร์ไมโอนี่ก็พยักหน้ากับความคิดของรอนเหมือนกัน
"อืม อาจจะใช่ เอางี้ให้แฮร์รี่เจอกับมัลฟอยบ่อยๆดีมั้ย"เฮอร์ไมโอนี่เสนอความคิดเห็น รอนคิดซักพักก่อนที่จะตอบตกลง
"พวกนายกระซิบกระซาบอะไรกันอยู่มิทราบ"เห็นได้ชัดว่าแฮร์รี่ในตอนนี้ยังคงมีอารมร์
ตกค้างจากมะตะกี้อยู่ เลยปล่อยรังสีเย็นๆออกมา ทั้งรอนและเฮอร์ไมโอนี่ต่างปฏิเสธเป็นเสียงเดียวกัน
"ไม่มีจ๊ะ ไม่มี"แฮร์รี่ทำหน้าไม่เชื่อแต่แล้วก็ต้องเชื่อเพราะเห็นท่าทางของทั้งสองแล้วมันก็ไม่มีอะไรมากมาย ใจจริงตัวเค้าเองก็นึกขอบคุณเดรโกอยู่เหมือนกัน ไม่รู้ทำไมเค้ารู้สึกว่า เวลาที่เค้าทุกข์ใจ คนอย่างเดรโก มัลฟอย มักมาอยู่ใกล้ๆเค้าอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเวลาใดก็ตาม หรือแม้กระทั่งเวลาที่เค้าอยากให้ใครซักคนมาอยู่เคียงข้าง คนที่เค้าเห็นเป็นคนแรกมักเป็นเดรโกอยู่เสมอ ทำไมนะ
"นี่รอน ชั้นไปบ้านนายได้จริงๆนะ"แฮร์รี่เปรยๆขึ้นเพื่อเอาคำตอบจากรอนด้วยความหวัง รอนยิ้มก่อนที่จะเอื้อมมือมากอดคอแฮร์รี่ด้วยความเคยชิน
"ได้สิเจ้าบ้า เอาหล่ะร่าเริงเข้าไว้นะแฮร์รี่"แฮร์รี่รู้ว่าการกระทำของรอน เฮอร์ไมโอนี่และทุกคนล้วนแต่อยากให้เค้ากับมาเป็นแบบเดิมทั้งนั้น แต่เค้าขอเวลาหน่อย ขอเวลาให้เค้าทำใจกับเรื่องทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น ให้เค้าได้ใช้เวลาคิดกับเรื่องราวต่างๆซะก่อน แล้วเค้าถึงจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมเมื่อลืมหมดทุกอย่างแล้วนะ ขอบคุณพวกนายจริงๆ
ในระหว่างที่พวกแฮร์รี่กำลังปรึกษากันอยู่ ศ.มักกอนนากัลก็เดินเข้ามาในชั้นเรียนก่อนที่จะบอกให้ทุกคนไปเรียนคาบต่อไปได้
"เดี๋ยวก่อน พอตเตอร์เธอมากับชั้นแป็ปนึง"แฮร์รี่บอกให้รอนและเฮอร์ไมโอนี่ไปเรียนวิชาต่อไปก่อน เดี๋ยวตนจะตามไป ก่อนที่จะรีบเดินตามศ.มักกอนนากัลเข้าไปที่ห้องอาจารย์ใหญ่
"แฮร์รี่ ปิดเทอมนี้ชั้นขอให้เธอไปอยู่กับครอบครัวมัลฟอยได้มั้ย"ดัมเบิลดอร์พูดทำเอาแฮร์รี่ถึงกับอ้าปากค้างเลยทีเดียว บ้านมัลฟอยเนี่ยนะ ศ.คิดยังไงของเค้ากันนะ
"แต่ว่า ศ.ครับ ศ.ก็รู้ว่าผมกับมัลฟอยเข้ากันไม่ได้"แฮร์รี่เถียงขึ้นมาทันที ความคิดที่ว่าเค้าจะต้องไปอยู่ที่บ้านของมัลฟอยในปิดเทอมนี้ มันก็แสนจะเบื่อหน่ายแล้ว
"ชั้นรู้แฮร์รี่ ชั้นรู้ แต่เธอไปอยู่กับครอบครัวมัลฟอยน่ะดีแล้ว เพราะชั้นเชื่อว่าครอบครัวมัลฟอยจะทำให้เธอสบายใจขึ้น เชื่อชั้นสิแฮร์รี่"แฮร์รี่แทบอยากจะเอาหัวชนฝาผนังห้องให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย แฮร์รี่คิดว่าอาจจะทำให้เค้าไม่สบายใจหนักขึ้นกว่าเดิมอีกเป็นร้อยเท่าเลยทีเดียว
"แต่...."ยังไม่ทันที่แฮร์รี่จะได้พูดอะไร ดัมเบิลดอร์ก็รีบห้ามแฮร์รี่เอาไว้ซะก่อน ก่อนที่จะส่งแววตาให้แฮร์รี่ได้รับรู้ว่า สิ่งที่เค้าพูดนั้นแฮร์รี่ต้องทำตามอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
"เฮ้อ ก็ได้ครับ ศ."แฮร์รี่พูดอย่างปลงๆพร้อมกับเดินออกมาด้วยความรู้สึกที่เศร้ายิ่งกว่าเดิมอีก ทำไมนะ ทำไมเค้าต้องไปอยู่กับไอ้เจ้าปากเสียนั่นด้วย อยู่กับรอนไม่ดีกว่างั้นหรอ อยู่กับเจ้านั่นมีหวังเค้าต้องเป็นบ้าตายเข้าซักวันแน่ๆ
แฮร์รี่เดินไปคิดไปจนมาถึงหน้าห้องเรียนวิชาปรุงยา บรรยากาศที่นี่ช่างไม่หน้าเรียนในความคิดของแฮร์รี่ตอนนี้เลยแม้ซักนิดเดียว แฮร์รี่เดินเข้าไปในห้องพร้อมๆกับโดนหักคะแนนบ้าน 10 คะแนนอย่างเคย
"แต่ผมถูกศ.ดัมเบิลดอร์เรียกพบกระทันหันนะครับ ศ."สเนปทำท่าคิดว่าสิ่งที่แฮร์รี่พูดมามันเป็นจริงหรือเปล่า สเนปพยายามจ้องเข้าไปในตาของแฮร์รี่แล้วก็ค้นพบว่ามันไม่ใช่เรื่องโกหกจึงยอมให้ 20 คะแนนกับบ้านกริฟฟินดอร์ ในฐานที่กล้าบอกตามความเป็นจริง ทำเอาบ้านกริฟฟินดอร์ยิ้มทันที นานๆทีจะได้คะแนนจากอาจารย์จอมลำเอียงคนนี้
แฮร์รี่เดินไปนั่งที่โดยเร็ว โดยมีสายตาของสเนปมองมาที่แฮร์รี่อย่างยิ้มแวบนึง ก่อนที่จะหันไปสนใจกับการสอนโดยที่แฮร์รี่ไม่รู้ตัว มีเพียงแต่เดรโกเท่านั้นที่เห็นกริยาของสเนปที่มองแฮร์รี่ มันทำเอาเค้าเกือบทนไม่ได้ ที่สเนปใช้สายตาอย่างนั้นกับแฮร์รี่ นี่แสดงว่าเสนปก็เป็นคู่แข่งของเค้าสินะ
(มารีเรื่องใหม่ แหะๆๆ)
ความคิดเห็น