คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : พ่อม่ายชานยอล l ตอนที่ 10
พ่อม่ายชานยอล l ตอนที่ 10
:: ไดอารี่แบคฮยอน ::
เสียงฝีเท้าก้าวเดินอย่างขวักไขว่
ภายในห้องสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาดเล็ก คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันแน่น
ความกังวลสุมล้นอยู่เต็มอก มือบางเปิดนู่นยกนี่ขึ้นสูง พลางกวาดสายตามองไปรอบๆเพื่อหาสิ่งที่ต้องการ
"อยู่ไหนวะ?"
"หาอะไรอยู่?"
"ป๋าครับ เห็นไดอารี่ผมไหม?"
"ไดอารี่?"
"ครับ เล่มหนาประมาณนี้ สีดำ ผมหาทั่วบ้านแล้วยังไม่เจอเลย"
"วางลืมไว้ตรงไหนรึป่าว?"
"ไม่รู้สิครับ..อืม ถ้าจำไม่ผิดมันต้องอยู่แถวนี้ดิ" ประโยคหลังหันมาพูดพึมพำกับตัวเอง ผมเดินง่วนไปทั่วส่วนปาร์คชานยอลก็ได้แต่ส่ายหน้าเบาๆแทนคำตอบ เสียงทุ้มพูดให้กำลังใจกันเล็กน้อย ก่อนเจ้าตัวจะเดินจากไป ผมถอนหายใจหนักพลางทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงหลังเล็ก ถ้ามันหายไป ผมต้องเป็นบ้าแน่ๆ นั่นมันครึ่งชีวิตของผมเลยนะ
‘ไดอารี่แบคฮยอน’ น่ะ ..
03.00 pm. @ home sweet home
เห้อมม กว่าจะแกะคอร์ดเพลงใหม่อย่าง Photograph ของ Ed Sheeran เสร็จ ก็เล่นเอาเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวไปหมด ผมเงยหน้าขึ้นมองนาฬิกา อ่า ได้เวลาไปรับสองแฝดแล้วสินะ
มือหนาประสานกันแล้วชูแขนขึ้นเหนือศีรษะก่อนจะออกแรงบิดขี้เกียจไปมาขับไล่ความเมื่อยล้าทั้งหมดที่มี
แก้วหูหิ้วเซรามิกถูกยกขึ้นจรดริมฝีปากอิ่ม หึ พูดแล้วก็น่าขำ
ว่าฝีมือการทำอาหารไม่เอาไหนอย่างบยอนแบคฮยอน จะชงกาแฟออกมาได้กลมกล่อมขนาดนี้ ผมลุกขึ้นยืนจนเต็มความสูง
ขายาวก้าวพาร่างสูงเดินลงบันไดไปอย่างเนิบนาบ
จนเมื่อมาหยุดอยู่ที่บันไดขั้นสุดท้าย กลับพบว่าบริเวณโซฟาตัวยาวถูกจับจองโดยมนุษย์สั้นที่กำลังนั่งกอดอกตีหน้ายุ่งอยู่ตรงนั้น
"นี่ ยังหาไม่เจอรึไง?" เอ่ยถามออกไปเพราะรู้ดีว่าอะไรคือสิ่งที่อีกคนพยายามตามหามาตลอดช่วงเช้า
"ไม่ครับ"
"แล้วจะตะเบ็งทำไม?"
"ไม่รู้!" เห้ยๆ
แบบนี้เขาเรียกพาลแล้วปะวะ อย่ามาทำตัวนักเลงแถวนี้แบคฮยอน กูขอเตือน
"นี่ ถามจริงเหอะ
ไอไดอารี่เล่มนั้นมันมีอะไรสำคัญนักหนา ห้ะ ถึงได้หาจนแทบจะพลิกบ้านขนาดนี้?"
"ก็ครึ่งชีวิตของผมอยู่ในนั้น.."
"..."
"..ช่างเถอะครับ
คงจะหายไปแล้วจริงๆนั่นแหละ" อีกคนถอนหายใจอย่างสิ้นหวังพลางมองมาทางนี้
"..."
"ขอโทษที่ขึ้นเสียงใส่ ผมขอตัวก่อนนะครับ"
แบคฮยอนลุกขึ้นยืนก่อนจะมุ่งหน้าไปหยิบกระเป๋าสะพายใบเก่งขึ้นมาพาดบ่าไว้
และในขณะที่อีกฝ่ายกำลังจะเดินสวนออกไปนั่นเอง ที่มือหนาของผมเคลื่อนขึ้นจับต้นแขนเล็กๆนั่นไว้เสียก่อน
"จะไปไหน?"
"ไปธุระกับเพื่อน กลับไม่ดึกหรอกครับ เอาไว้ถ้าดึก เดี๋ยวผมจะโทรหาเอง ไม่ต้องโทรตาม"
ว่าจบก็รีบสะบัดแขนแล้วเดินจากไปทันที โอ้โห..เหนือคาด ปกติบยอนแบคฮยอนมันเป็นคนแบบนี้ซะเมื่อไหร่ กะอีแค่สมุดไดอารี่เล่มนึงหายไป ทำไมถึงเปลี่ยนพฤติกรรมของเด็กคนนี้ให้กลายเป็นคนละคนได้เลยวะ?
เหอะ ยิ่งเขาแสดงออกมากเท่าไหร่ ผมก็ยิ่งสงสัยเจ้าสมุดปกแข็งที่นอนแน่นิ่งอยู่ในห้องมากขึ้นเท่านั้น
ใช่ครับ ไดอารี่ของแบคฮยอนไม่ได้หายไปไหนหรอก มันอยู่ในห้องของผมเอง
baekhyun’s
ว่าด้วยเรื่องของไดอารี่แบคฮยอน สมุดบันทึกเล่มสีดำ ปกแข็ง ที่รวบรวมความเป็นบยอนแบคฮยอนทั้งหมดเอาไว้ภายในนั้น
แล้วไหนจะเรื่องราวความรักที่ไม่มีวันเป็นจริงนั่นอีก..
ฟืดดดด.. ฟืดดดดด
มือเรียวจัดการบังคับกระป๋องสเปรย์ให้เคลื่อนไปในทิศทางที่ต้องการ
ละอองสีกระจายฟุ้งไปหมด นั่นเสริมให้อารมณ์ที่ไม่ค่อยดีของผมมันเผลอติดลบอย่างไม่ได้ตั้งใจ
ผมถอนหายใจออกเฮือกใหญ่ ก่อนเลือกที่จะเดินเบี่ยงไปอีกทาง พื้นคอนกรีตต่างระดับถูกใช้เป็นที่นั่งเพื่อสงบสติอารมณ์
แบบนี้ไม่ดีแน่ นี่มันเวลางานนะแบคฮยอน แยกแยะด้วย..
"อู้งานหรอแบคฮยอน?" จู่ๆร่างสูงโปร่งของพี่อี้ฟานก็มาปรากฏให้เห็นอยู่ในกรอบสายตาซะงั้น เขานั่งยองๆลงตรงหน้าผม สายตาที่มองมามันเต็มไปด้วยรอยยิ้มและความอบอุ่น นับว่าเป็นความโชคดีของผมแล้วจริงๆ ที่แถวนี้ไม่ค่อยมีคนมากนัก ไม่งั้นคงโดนหาว่าเป็นเด็กเส้นชัวร์ ที่บังอาจมาตีสนิทกับประธานคณะได้มากขนาดนี้
"...."
"หน้าบึ้งอีกแล้ว"
"ผมทำของสำคัญหายน่ะ.."
"บอกพี่ได้ไหนว่าอะไร?" จบประโยคนั้นผมได้แต่เงียบใส่เป็นการปฏิเสธ พี่อี้ฟานคลี่ยิ้มบางๆ ก่อนจะตัดสินใจเลื่อนตัวมานั่งข้างๆผม
"อ่า..ไม่ต้องพูดก็ได้ ดูเหมือนมันจะมีคุณค่าทางจิตใจมากเลยสินะ" ผมพยักหน้ารับ พี่อี้ฟานหลุดยิ้ม มือหนาเลื่อนขึ้นมาลูบหัวผมเบาๆ
"ว่าแต่เด็กดื้อของพี่ไปวางลืมไว้ตรงไหนรึเปล่า หื้ม?"
"ไม่รู้สิครับ..ฮื่ออ เมื่อคืนยังอยู่เลยแท้ๆ"
ผมเอามือลูบหน้าตัวเองอย่างหมดหวัง คิดแล้วก็อยากจะร้องไห้ออกมาให้มันรู้แล้วรู้รอด
"เมื่อก่อนพี่ก็เคยทำของสำคัญหายนะ..แย่กว่านั้นหน่อย
มันเป็นของสำคัญของแม่น่ะ"
"..."
"ความรู้สึกแรกหลังจากรู้ว่ามันหายไป ตัวพี่ชาไปหมด
ความรู้สึกผิดถาโถมเข้ามาจนได้แต่ก่นด่าตัวเองที่สะเพร่า เดาได้ไม่ยากเลยว่าจะต้องโดนดุแน่ๆ"
"..."
"แต่รู้อะไรไหม..แม่ไม่ได้ดุพี่เลย แถมยังรับสารภาพว่าเป็นคนเอาไปซ่อนซะเอง” อีกคนหลุดหัวเราะออกมา เมื่อนึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ในอดีต
“ตอนนั้นพี่ทั้งรู้สึกโล่งใจและหงุดหงิด แม่เลยบอกกับพี่ว่า อี้ฟาน..ไว้วันนึง ลูกจะมีของสำคัญที่สุดในชีวิตเหมือนกัน ถึงเวลานั้นแล้ว จงรักษามันให้ดีที่สุด การสูญเสียจะทำให้เราเข้มแข็งและเติบโตขึ้นไปพร้อมๆกัน"
“...”
“ยื่นมือมานี่สิ” ผมทำตามที่อีกฝ่ายบอกอย่างว่าง่าย
มือใหญ่เคลื่อนเข้ามาทาบทับกับฝ่ามือของผมแผ่วเบา
“...”
“อย่าบั่นทอนความเชื่อของตัวเองนะแบคฮยอน
ขอแค่เชื่อมั่น อะไรๆก็เกิดขึ้นได้” ทันทีที่อีกฝ่ายผละมือออก
ก็เผยให้เห็นอมยิ้มกลิ่นแตงโมแสนโปรดที่วางอยู่บนฝ่ามือ
ผมเบิกตากว้างเล็กน้อยด้วยความตกใจ ไม่จริงน่า ผมมองเขาอยู่ตลอด
ก็เห็นอยู่ว่าพี่อี้ฟานไม่ได้หยิบอะไรขึ้นมาเลย
“อะไรกัน
ไหนเขาบอกว่ามายากลจะทำให้เด็กๆยิ้มได้..แล้วไหงไอดื้อของพี่ยังไม่ยอมยิ้มสักทีล่ะครับ?”
“...”
“อ่าาา..นี่เราปล่อยให้พี่พูดคนเดียวมานานแล้วนะ
ไม่คิดจะตอบโต้บ้างรึง..” ไม่รอให้อีกคนพูดจบประโยคผมก็โถมร่างทั้งร่างเข้าหาอีกฝ่ายทันที
พี่อี้ฟานนิ่งไปพักนึงเพราะยังไม่ทันตั้งตัว แต่สุดท้ายเขาก็รับตัวผมเข้ามาในอ้อมกอดแล้วลูบหัวเบาๆด้วยความเอ็นดู
“ขอบคุณมากนะครับ
ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง..” ริมฝีปากเล็กได้แต่พึมพำคำเดิมๆออกมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า
“หึ..
กินอมยิ้มแล้วก็ต้องยิ้มเยอะๆด้วยนะ เข้าใจที่พูดปะ?”
“เข้าใจแล้วครับ”
07.30 pm.
มรสุมช่วงบ่ายผ่านไปได้อย่างยากเย็น
ฉากบ้านบนกระดานผ้าใบเสร็จสมบูรณ์ท่ามกลางความภาคภูมิใจ ของคนทั้งคณะ
จะเหลือก็แต่ฉากวังงานหยาบที่ทุกคนลงมติว่าจะเริ่มทำมันทันทีหลังจากพักเบรก
ภายในโถงคณะเต็มไปด้วยบรรดานักศึกษามากมายทั้งปีสามและปีสี่
นั่งกองรวมกันอยู่ บ้างก็แยกตัวออกไปนั่งกันเป็นกลุ่มๆ จะมีก็แต่กลุ่มของผมนี่แหละ
ที่นั่งกันแทบเรียกได้ว่าครบองค์ประชุมมากที่สุด
ผมนั่งติดคยองซูและจุนมยอน ฝั่งตรงข้ามมีพี่อี้ฟานและพี่ปีสี่อีกสองถึงสามคนที่กำลังดื่มด่ำกับมื้อค่ำสุดพิเศษอย่างต็อกโบกี ที่ประธานคณะอุตส่าห์ฝ่าความหนาวเย็นยามค่ำคืนออกไปซื้อมาเลี้ยงคนทั้งเอก เพราะไม่อยากให้อดตายกันไปเสียก่อน โดยได้ตั้งปณิธานอันแน่วแน่ไว้ว่า..
‘ ต่อให้หัวเด็ดตีนขาดยังไง ฉากทั้งหมดก็จะต้องเสร็จภายในคืนนี้ ไม่เสร็จก็ไม่ต้องกลับ ถ้าหิวหรือขาดเหลืออะไรก็มาบอก เราจะรับผิดชอบชีวิตของพวกคุณเอง! ’
“เอ้า แล้วนี่ไอจินมันหายไปไหนวะเนี่ย?”
พี่คยูฮยอน สายรหัสของซอกจินเอ่ยขึ้นทันที เมื่อมองไปรอบวงแต่กลับไม่พบร่างของน้องชายคนสนิท
“กูเห็นมันนั่งเป่าฉากอยู่ข้างสวนนู่น”
พี่เยซองเสริม
“เอ้า แล้วไมมึงไม่ชวนมันมาแดกต็อกวะ
กูเห็นมันนั่งเป่ามาตั้งแต่บ่าย หน้าซีดแล้วมั้งน่ะ?”
“กูเรียกแล้ว
แต่แม่งไม่มาว่ะ มันบอกว่ารอให้ฉากแห้งก่อน”
“รอฉากแห้ง? งั้นคงชาติหน้า”
“งั้นเดี๋ยวผมไปตามให้เองครับ” หลังจากที่นั่งฟังอยู่นาน ผมก็เอ่ยปากออกอาสา เล่นเอาพี่อี้ฟานที่กำลังจะคีบคิมบับใส่ปากถึงกับชะงักไปเล็กน้อย
สายตาคมเพ่งมองมาที่ผมราวกับจะถามความแน่ใจ ซึ่งผมก็ทำได้แค่สื่อสารผ่านแววตากลับไปเท่านั้น
“เออๆ ฝากด้วยนะแบคฮยอน ตามมาให้ได้ล่ะ”
“แน่นอนครับ”
หลังจากได้รับอนุญาตจากส่วนกลางให้เป็นตัวแทนกลุ่มออกมาตามซอกจิน ผมก็รีบวิ่งไปที่สวนหลังโถงกลางคณะทันที ไฟนีออนหลอดยาวที่ติดอยู่ใกล้กับห้องเก็บของถูกเปิดค้างเอาไว้ ไหนจะเสียงไดร์เป่าผม ที่มาพร้อมด้วยร่างของบุคคลที่กำลังตามหา ผมใช้เวลารวบรวมความกล้าไม่นานก่อนจะค่อยๆสาวเท้าเข้าไปใกล้อีกฝ่าย คงเพราะเหตุการณ์วันนั้นล่ะมั้งที่ทำให้เราเข้าหน้ากันไม่ค่อยติดเท่าที่ควร
“..ซอกจิน”
“เอ้า ออกมาทำไมอะ กินอิ่มแล้วหรอ?”
“อื้มม..พี่ๆเขาให้มาตามไปข้างในน่ะ
นายยังไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่บ่ายใช่ไหม?”
“อ่าฮะ แต่ไม่หิวนะจะบอกให้” อีกฝ่ายยิ้ม และนั่นทำให้ผมรู้สึกว่าความอึดอัดระหว่างเรากำลังถูกทำลายลงทีละน้อย
“หรอ แล้วถ้ามีนี่อะ?” ว่าจบ ต็อกโบกีเสียบไม้ก็ถูกโชว์หราขึ้นมาเบื้องหน้า ผมหลุดขำออกมาเล็กน้อย หลังจากเห็นปฏิกิริยาโต้ตอบของอีกฝ่าย โกหกหน้าตายเลยสินะคิมซอกจิน จ้องตาเป็นมันขนาดนี้คงไม่ค่อยหิวเลยมั้ง
“โอเคยอม หิวก็ได้..”
เขาว่าเสียงอ่อน
“เออแค่นั้นแหละ..คราวนี้แลกเวรกับฉัน
นายเข้าไปข้างในได้แล้ว เดี๋ยวฉากนี่ฉันดูแลต่อเอง”
"เอางั้นหรอ?"
"งั้นสิ" ผมว่าอย่างเป็นมิตร ก่อนจะยื่นต็อกโบกีเสียบไม้ให้อีกฝ่าย มือเล็กฉวยเอาไดร์เป่าผมมาถือไว้ในครอบครอง แล้วจัดการย้ายตัวเองมานั่งตรงตำแหน่งของคิมซอกจินแทน
"นี่"
"หื้ม?"
"ถ้าไม่รังเกียจก็ใส่ซะสิ" แจ็คเก็ตสีดำถูกยื่นมาเบื้องหน้า
ผมมองหน้าซอกจิน สลับกับของกลางดังกล่าวด้วยความงุนงง
"มืดกว่านี้แล้วอากาศจะยิ่งหนาวน่ะ ใส่ไว้ก่อนสบายใจกว่านะ"
ผมยิ้มเมื่อรับรู้ได้ถึงความหวังดีของใครอีกคน ก่อนมือเรียวจะยื่นไปรับเสื้อหนาวตัวดังกล่าวมาสวมใส่อย่างว่าง่าย
"ขอบใจนะ" ซอกจินพยักหน้าให้เบาๆ
ก่อนเขาจะค่อยๆหมุนตัวกลับหลังเพื่อเดินจากไป แต่เพียงเสี้ยววินาทีต่อมา ผมกลับได้ยินเสียงของเขาดังแว่วขึ้นมาอีก
"นี่ รู้อะไรไหม.."
"...."
"ถ้าไม่ใช่เพราะนาย ฉันคงไม่ยอมลุกไปไหนแน่ๆ"
"อืม รู้แล้ว..ถึงได้ออกมาตามนี่ไง"
"ขอบใจนะแบคฮยอน"
"ด้วยความยินดี"
ปึง!
เสียงประตูรถโดยสารถูกปิดลงอย่างแผ่วเบา
ผลอันเนื่องมาจากการเดินทางที่แสนยาวนานสู่ใจกลางเมืองทงแดมุน เอาล่ะแบคฮยอน สิ้นสุดการเดินทาง..
ผมสาวเท้าเดินไปข้างหน้าอย่างอิดโรย
ทุกๆย่างก้าวเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าและอ่อนเพลีย เปลือกตาหนักอึ้งจนมันแทบจะปิดแหล่ไม่ปิดแหล่
เนื้อตัวมอมราวกับโดนผลักตกถังสี ผมเผ้าสีน้ำตาลเข้มชี้ฟูจนยุ่งเหยิงไปหมด พูดง่ายๆคือตอนนี้สภาพผมดูแย่มาก
หลังจากผ่านประตูรั้วด่านแรกของบ้านมาได้
ก็มาสู่ด่านประตูที่สอง ผมเอื้อมมือไปจับลูกบิดแล้วจัดการเปิดมันออก
ทันทีที่ภาพตรงหน้าเผยให้โซฟาตัวยาว เสียงเกากีต้าร์ซึ่งมาพร้อมกับเสียงเพลงเบาๆก็ดังแว่วเข้ามาในโสตประสาท
“나의 얘기가 끝나기 전에 너는 꿈을 꿀 거야..”
สายตาหลุบมองนาฬิกาข้อมือที่กำลังบอกเวลาเที่ยงคืนห้าสิบนาทีแล้วก็ได้แต่ขมวดคิ้วด้วยความสงสัย ดึกป่านนี้แล้ว ปาร์คชานยอลยังไม่นอนอีกหรือไง? แต่แล้วอะไรบางอย่างกลับผลักดันให้ผมพาร่างอันไร้เรี่ยวแรงของตัวเองเดินไปจนถึงหน้าประตูห้องนอนของสองแฝดซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดเสียงดังกล่าว
“little star.. haa~ tonight.. haa~ 밤새 내가 지켜줄 거야..”
เสียงทุ้มนุ่มนวลของชายเจ้าของบ้าน
ที่ยิ่งฟังก็เหมือนยิ่งตกอยู่ในมนต์สะกด จนทำให้ผมเผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว
รู้สึกเคลิ้บเคลิ้มไปกับท่วงทำนองอันแสนหวานที่อีกคนเป็นผู้บรรเลง
และนี่คงเป็นอีกครั้งที่บทเพลงของปาร์คชานยอล ทำให้โลกทั้งใบของผมหยุดหมุน..
กรึ่ก แอ๊ดด..
"!!!!" เรียกได้ว่าสะดุ้งสุดตัวเมื่อจู่ๆประตูที่คิดว่าควรจะปิดอยู่อย่างนั้นกลับเปิดออกอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
อย่าว่าแต่ผมเลยที่ตกใจ ปาร์คชานยอลเองก็เช่นกัน
แต่รายนั้นดูจะเก็บอาการได้ดีกว่าผมหน่อยนึง
"มาทำอะไรตรงนี้?"
"เอ่อ..คือ"
"ไม่ต้องพูดละ ขี้เกียจฟัง แล้วนี่ไปตกถังสีที่ไหนมาสภาพดูไม่ได้เลย" ปาร์คชานยอลว่าเสียงเรียบ นัยน์ตาสีดำสนิทนั้นกำลังจ้องมองมาที่ผม
“ว..วันนี้พี่ปีสี่เขานัดทำฉากที่คณะน่ะครับ พอดีเพิ่งเสร็จ เลยเพิ่งกลับ..ขอโทษนะครับที่ไม่ได้โทรมาบอกว่าจะกลับดึก”
“เออๆ ช่างมันเถอะ” จบประโยค มือหนาอีกข้างที่ไม่ได้ทำหน้าที่ถือเครื่องสายคู่ใจก็เอื้อมไปจับลูกบิดก่อนจะค่อยๆปิดประตูลงอย่างแผ่วเบา
"แฝดตื่นกลางดึกหรอครับ?" เอ่ยถามเสียงแผ่ว
พลางมองตามอีกคนที่กำลังเดินหายเข้าไปในครัว
"เปล่า พวกเขางอแงว่าวันนี้นายกลับช้าน่ะ บอกว่าจะรอเจอแบคยอนลูกเดียว
เลยไม่ยอมนอนกัน นี่ฉันก็เพิ่งกล่อมหลับไป” อ่า สุดท้ายก็ปล่อยให้สองแฝดรอเก้อจนได้
ให้มันได้แบบนี้สิแบคฮยอน
“อ่า..พวกเขารอผมงั้นสินะ..”
“เหอะ ไม่ต้องทำหน้ารู้สึกผิดขนาดนั้นหรอก
มอมแมมจะแย่แล้ว ไปอาบน้ำไป”
“ครับ..” ผมรับคำเสียงอ่อน และในขณะที่กำลังจะหมุนตัวกลับหลังไปนั้นเอง ที่เสียงทุ้มของเจ้าบ้านหยุดการกระทำของผมเอาไว้อีกครั้ง
“เออเกือบลืม..นี่ใช่ของนายรึเปล่า?” ประโยคคำถามที่อิงโยงไปถึงสิ่งของเป็นตัวการสั่งให้ผมหันหน้าไปมองยังต้นเสียงจนคอแทบเคล็ด และอะไรบางอย่างในมือคู่กรณีกำลังทำให้ผมต้องเบิกตากว้างอย่างช่วยไม่ได้ ไดอารี่!!!! ไดอารี่แบคฮยอนจริงๆด้วย!!!! มือบางรีบคว้าของกลางดังกล่าวไปกอดไว้แนบอกทันที ทำไมมันถึงไปอยู่ที่เขาล่ะ?
อย่าบอกนะว่า...
"ป..ป๋า"
"อะไร ก็ฉันเจอมันในห้องสองแฝด"
"แต่เมื่อเช้าผมหาแล้วนี่ครับ.."
"จะไปรู้ได้ไง มันอาจจะเพิ่งเดินมาก็ได้"
บ้าเถอะ ไดอารี่บ้านใครมีขาเดินได้บ้างครับคุณ ตรรกะไหนของเขาวะเนี่ย โธ่.. ผมก้มมองไดอารี่ในอ้อมอกอย่างชั่งใจ
ริมฝีปากบางเม้มแน่นจนเป็นเส้นตรง ก่อนจะสูดหายใจเข้าลึกเพื่อรวบรวมความกล้าแล้วเอ่ยถามออกไป
"ย...ยังไม่ได้เปิดอ่านใช่ไหมครับ?"
"เอออสิ เห็นฉันเป็นคนขี้เสือกขนาดนั้นเชียว?"
"แน่ใจนะครับ?"
"พูดงี้หมายความว่าไง อยากให้อ่านมากใช่ปะ?"
"ป..เปล่านะครับ!" ตอบปฏิเสธเสียงแข็งทันที
เมื่ออีกฝ่ายทำท่าจะเข้ามาแย่งของสำคัญในมือไป สมองสั่งการให้สองเท้าออกวิ่งสี่คูณร้อยขึ้นชั้นสองของบ้านไปอย่างรู้งาน
ปัง!!
ประตูห้องถูกปิดอย่างแรงโดยไม่มีความเกรงใจเจ้าบ้านแต่ประการใด
แสงจากหลอดนีออนกลางห้องถูกเปิดจนสว่างโร่ กระเป๋าเป้ใบเก่งถูกโยนลงบนพื้นห้อง
ก่อนที่ร่างทั้งร่างจะถลาลงบนเตียงหลังเล็ก
มือบางคว้าหมอนหนุนขนาดกลางมาปิดหน้าไว้ก่อนจะร้องตะโกนออกมาด้วยความดีใจทั้งหมดที่มี
โชคดีแค่ไหน..ที่มันไม่ได้หายไปอย่างที่ใจคิด
โชคดีแค่ไหนแล้วที่ปาร์คชานยอลยังไม่ได้อ่านมัน
ทั้งที่เมื่อกี้ก็อยู่ใกล้มือคู่กรณีมากขนาดนั้น
ได้แต่ลอบยิ้มที่อย่างน้อยวันนี้ก็ยังมีเรื่องดีๆเยือนเข้ามาก่อนจะผ่านข้ามอีกวันไปอย่างหมองหม่น
ผมยันตัวเองให้ลุกขึ้นนั่งดีๆ ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบปากกาเมจิกหัวเล็กด้ามประจำที่ใช้สำหรับการเขียนไดอารี่ขึ้นมาแล้วเปิดฝาออก
ปึก!
ยังไงซะ เหตุการณ์โชคดีๆแบบนี้ ก็จะต้องถูกบันทึกลงไปเป็นความทรงจำส่วนหนึ่งในไดอารี่แบคฮยอน
มือเรียวรีบเปิดไดอารี่แบคฮยอนไปยังหน้าล่าสุดที่เขียนไว้ทันทีอย่างไม่รอช้า แต่เมื่อหน้าล่าสุดของสมุดถูกเปิดออก หน้าถัดไปกลับไม่ได้ว่างเปล่าเหมือนอย่างเคย ข้อความบนกระดาษโพสอิทแผ่นเล็กกำลังทำให้บยอนแบคฮยอนคนนี้รู้สึกร้อนวาบไปทั้งหัวใจ
ลายมือหวัดๆที่แสนคุ้นตา แทบไม่ต้องเดาให้เสียเวลาเลยว่าใครเป็นเจ้าของกระดาษโพสอิทแผ่นนี้ หัวใจดวงน้อยเริ่มเต้นแรงไม่เป็นส่ำ มือเล็กจัดการเปิดไปไล่อ่านข้อความจากไดอารี่ของตนเองตั้งแต่หน้าแรกจนถึงหน้าล่าสุดแล้วก็อยากจะโขกหัวตัวเองให้มันตายๆไปซะ เวิ่นเว้ออะไรมากมายวะเนี่ย?!
22.xx.15
วันนี้พ่อกับแม่กลับปารีส ต้องอยู่บ้านคนเดียวอีกแล้ว พี่แทฮีก็ลากลับต่างจังหวัด เหงาจะแย่แล้วแบคฮยอน..
Σ(´д`;)
24.xx.15
วันนี้พี่อี้ฟานนัดคุยเรื่องละครเวทีที่คอฟฟี่ดีไลท์ล่ะ เป็นร้านกาแฟที่พี่อี้ฟานชอบไปนั่งบ่อยๆเวลาว่าง บรรยากาศในร้านดีสุดๆไปเลย แต่มันไกลจากกังนัม เพราะงั้นไปมาคงไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ แต่ใครจะรู้ ว่าผมจะได้เจอรักแท้ที่นี่ แต่เขาเป็นผู้ชายอะ...ชื่อคุณแฮปปี้ไวรัส อืมมม หลังจากประเมินแล้วก็..เล่นดนตรีเก่ง ยิ้มก็เก่ง เสียงเขาก็ทุ้มน่าฟัง แถมหน้าตาน่ารักอีกต่างหาก งื่อออ เผลอใจเต้นแรงอีกแล้ว ทำไงดีอะ ผมไม่เคยมีอาการแบบนี้กับผู้ชายที่ไหนมาก่อนเลยนะ (´;ω;`)
01.xx.15
อ่าา วันนี้ก็มาหมกตัวที่คอฟฟี่ดีไลท์อีกแล้วว อุดหนุนนมสดของที่ร้านประจำจนสนิทกับพี่จีซูจนได้ ㅋㅋㅋ
พี่จีซูบอกว่าคุณมือกีต้าร์ของร้านชื่อ
'ปาร์คชานยอล'
ล่ะ อ่าา ชื่อดูดีจังครับ
"เห็นแบบนั้นลูกสองแล้วนะ" ผมนี่เงิบไปเลย คิดว่ายังโสดซะอีก หน้าคุณเด็กมากกกกครับปาร์คชานยอล! (#゚Д゚)
16.xx 15
พี่อี้ฟานใจร้าย จู่ๆก็จะให้ไปเล่นเป็นจูเลียต ทำไมไม่ถามความเห็นกันบ้างครับบบ ;_; คอยดูเถอะ จบงานเมื่อไหร่ ผมสูบพี่หมดตัวแน่! อ่า..ขากลับผมเจอคุณด้วยแหละ เรื่องลูกสองที่พี่จีซูว่าดันเป็นเด็กแฝดซะด้วย น่ารักเหมือนพ่อเขาไม่มีผิดเลย ผมแอบถ่ายรูปคุณมาด้วยนะ เก็บคุณไว้ในโทรศัพท์แบบนี้ จะได้ไม่ฟุ้งซ่านเวลาคิดถึงไง ฮื่ออ..เอาเป็นว่าตอนนี้ผมเป็นแฟนคลับคุณแล้วนะ (///▽///)
21.xx.15
วันนี้คุณดูดีมากเลย ร้องเพลงโปรดของผมอีกแล้ว ผมเห็นคุณกลับดึกทุกวัน
ดูแลสุขภาพด้วยนะครับ ♡
25.xx.15
วันนี้มีจรวดกระดาษบินมาร่วงตรงหน้า พอคลี่ดูเท่านั้นแหละ... งื่อออ มันคือใบประกาศหาพี่เลี้ยงเด็กของปาร์คชานยอล!! บ้าไปแล้วแน่ๆ พรหมลิขิตรึไงล่ะ?? โอ้ยยเขินนนโว่ยยย (*´>д<)
27.xx.15
ไปเจอเขาตัวจริงแบบใกล้ๆมาแล้ว ดูดีกว่ามองไกลๆตั้งหลายเท่า นิสัยน่ะหรอ ก็น่าจะเป็นคนอารมณ์ร้อนน่าดู แต่พออยู่กับลูกแล้วเปลี่ยนเป็นคนละคนเลย น่ารักเนอะ พ่อม่ายลูกสองเนี่ย.. และข่าวดี เขารับผมเข้าทำงานแล้ววด้วยย ヾ(*´∀`*)ノ
# จำให้ได้ล่ะ คนโตชื่อแดเนียล > คนพี่เรียบร้อย
คนเล็กชื่อเดนนิส > คนน้องขี้อ้อน
02.xx.15
โดนปาร์คชานยอลลบงานซะวอดเลย นี่ตีหนึ่งกว่าแล้ว แต่ผมต้องนั่งเขียนบทใหม่ทั้งหมดตั้งแต่ต้น.. ทั้งที่เรื่องเมื่อเช้าก็ขอโทษไปแล้วแท้ๆ ก็เขานั่นแหละ เล่นอะไรก็ไม่รู้ ฮื่อออออ ไม่เข้าใจเลย ทำไมต้องทำแบบนี้ด้วย คนใจร้าย นิสัยไม่ดี!! ไม่รักแล้วโว้ยยยย ( #`Д´)
11.xx.15
ป่วยแล้วมีคนดูแลมันก็รู้สึกดีเหมือนกันแฮะ ขอบคุณมากนะครับป๋า
ที่อย่างน้อยคุณก็ยังเป็นห่วงผมอยู่บ้าง
25.xx.15
จะกลับเมื่อไหร่ครับ? เห้อมม ลืมเขาไม่ได้ก็ยังไม่แย่เท่าในตอนนี้ ! ปาร์คชานยอลไปเดท ส่วนผมต้องนั่งเฝ้าบ้านไปตามระเบียบ ส่งสองแฝดเข้านอนเรียบร้อย คุณก็ยังไม่มา ผมรอแล้วรอเล่า คุณก็ยังไม่มา นี่เดินวนรอบบ้านแล้วนะ ก็ยังไม่มาอีก กลับดึก ทำไมไม่โทรมาบอกบ้างล่ะครับ บอกให้คนอื่นโทรหา แต่ดันเอา "ตัวเอง" เป็นข้อยกเว้นซะงั้น นี่จะไม่หงุดหงิดเลยถ้าผมไม่ได้กำลังรอคุณอยู่.. กลับบ้านได้แล้วครับชานยอล ผมรอนานแล้วนะ ~!
โอ้ยยย แล้วแบบนี้จะไปกล้าสู้หน้าเขาได้ไงเนี่ยแบคฮยอน (;_;)
TBC
- . - . - . - . - . - . - . - . - . - . - . - . - . - . - . - . -
27/11/15 - chan's day
หลังจากรอฤกษ์ดีมานาน ความก็แตก 5555555
ถ้าจะถามว่าหายไปไหนมา คงต้องบอกว่า..
' พาพระรองไปอัพสกิลมาค่ะ '
ไม่ว่าจะเป็นสกิลการอ่อยแบบแยบยลของซอกจิน
หรือมุกมายากลของพี่ฟาน าสเ่หำพรวเ้
ทีมใครขอให้พูด
#ทีมโรมิโอ #ทีมพี่ประธาน #ทีมพ่อม่าย
( to. พ่อม่าย #ระวังพระรองเขาคาบไปแดก )
ต่อตอนหน้าโน้ะะ ผิดพลาดตรงไหนขออภัยด้วยนะคะ
เริ้บๆๆ เอ็นจอยรีดดิ้งจย้าา
- . - . - . - . - . - . - . - . - . - . - . - . - . - . - . - . -
ความคิดเห็น