คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : CHAPTER 7 INNOCENT II 100%
CHAPTER 7 INNOCENT II
“ ถ้าพามินฮวานมาด้วยก็คงดี” ผมถอดรองเท้าผ้าใบก่อนจะพับขากางเกงขึ้น
อย่างระมัดระวัง หลังจากที่คว้าจักรยานหนึ่งคันเที่ยวเล่นริมทะเลสาบ ทว่านั่งลง
ได้ไม่เท่าไหร่ผมจึงรู้สึกผวาตกใจสุดขีด เมื่อดันมีผู้ชายที่น่าจะรู้จักเขาเป็นอย่าง
ดีนั่งลงตรงข้ามกัน
“ มองหน้าหาเรื่องรึไง ”
“ แค่คิดว่าพี่จะแอบตามผมมารึเปล่า ”
“ ฮ่าๆ ที่นี้อากาศดีจังนะ ” พี่มินโฮหัวเราะก่อนสีหน้าจะเรียบนิ่งเหมือนเคย
“ พี่มีเรื่องอะไรรึเปล่า ”
“ ไม่นิ ก็แค่เบื่อๆ ”
“ เพราะพี่สาวสิใช่มั้ย ”
“ ถ้าเป็นเพราะเธอ ฉันก็กลายเป็นคนไม่มีศักดิ์ศรีน่ะสิ แม้ว่าฉันยังจะรู้สึกกับเธอ
แบบนั้น ในเมื่อทุกอย่างมันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว ฉันควรจะรักษาระยะห่าง
กับเธอไม่ใช่หรือแทมิน ” พี่มินโฮพับขากางเกงแล้วเดินลงไปยืนเล่นในทะเลสาบ
มีผมคนเดียวล่ะที่รู้ว่าเขาคิดอะไร เขามักจะแสร้งทำว่าไม่เป็นไร ดังนั้นการจะตัด
ใจจากใครซักคนมันยากสำหรับเขา
“ ทำไมน้ำเย็นเงี่ย เป็นตะคริวได้เลยนะเนี่ย “ ผมนั่งมองพี่มินโฮอยู่ห่างๆ เขา
กระโดดโลดเต้นไปมา ทันใดนั้นดวงตาเราประสานกันด้วยความบังเอิญ ผมรีบๆ
เบนสายตาไปทางอื่น ถึงกระนั้นเสียงล้อเลียนก็ทำให้ผมนึกโมโหเขาอยู่ได้ทุกทีสิน่า
“ รู้นะว่าแอบมอง งั้นเอามาห้าร้อยวอน ”
“ ห้าร้อย ฮะ!! ใครจะให้”
“ ก็ค่ามองไง สมัยนี้อะไรๆมันเป็นเงินเป็นทองไปหมดแล้ว ” เขาแบมือมาข้างหน้า
ผมกลอกตามองเขาขึ้นๆลงๆ ปัดมือออกห่างตัดสินใจลุกขึ้นไปคว้าจักรยานที่จอด
ด้านหลังขี่กลับ เขาบอกให้ผมลงไปนั่งแต่ผมทำเป็นไม่สนใจเขาแล้วปั่นจักรยานออก
จากบริเวณนั้นทันที
>>>>>>>>>>>>>><<<<<<<<<<<<<<<<<<<<
“ คุณผู้หญิงจะดีหรือครับ คุณผู้ชายสั่งไว้ว่าแม้แต่คนในครอบครัวก็ห้ามเข้าน่ะ ”
ฉันตบหน้าผากตัวเอง นี่มันอะไรกัน!! แม้แต่คนในครอบครัวก็ห้ามเข้างั้นหรือ จะ
บ้าตาย เขาคิดจะทำอะไรของเขาอีก ธุระสำคัญอะไรถึงได้คุยกันสองต่อสองใน
ห้องทำงานล่ะเนี่ย
“ แบคฮยอน! ส่งถาดไวน์มาให้ฉัน ”
“ อ๋อ ครับ ” ฉันรับถาดไวน์มาจากมือแบคฮยอน ก่อนจะเดินตรงไปยังห้องทำงาน
พลางสูดอากาศบริสุทธ์เข้าปอดลึกๆ มือผลุนผลันเลื่อนประตูเข้าไปข้างใน ฉัน
ได้ยินเสียงหัวร่อต่อกระซิกใกล้ๆนี้ และจึงพบว่าหนุ่มสาวคู่หนึ่งกำลังสวีตหวานอยู่ข้างๆ
เราต่างอยู่ใกล้กันแค่เอื้อมฉันเห็นคุณจงฮยอนใช้มือยันกำแพง โน้มใบหน้าจะจูบ
ริมฝีปากหล่อนพอดิบพอดี และแล้วสิ่งที่ทำให้ตกใจยิ่งกว่าปรากฏการสึนามิ ..
คุณคิมจงฮยอนจูบเธอต่อหน้าฉัน
“ เอ่อ คุณคะ ”
“ อะไร ทำไม ” เขาผละจูบหล่อน พร้อมกับหันมายิ้มให้ ฉันซึ่งยืนถือถาด
ไวน์รักษาความนิ่งไว้อย่างมีสติ
“ หวัดดี ฉันเเค่จะเอาไวน์มาให้หวังว่าคุณจะดื่มมันอย่างมีความสุขนะ ”
“ ขอบใจ ” เขาหยิบแก้วไวน์ไปถือ ก่อนจะหยิบอีกใบให้เธอได้ดื่ม ฉันรีบออก
เดินออกมาจากห้องพร้อมกับถาดเปล่าๆ ก้าวเท้าให้ไวที่สุด ถ้าเขารู้ฉันโกหก
ว่าไวน์ที่เขาดื่มฉันแอบใส่เกลือลงไปสองช้อนจะเป็นไงนะ คิกๆ ^_^
“ คิดจะฆ่ากันเลยรึไงว่ะเนี่ย!!!!! ”
++บ่อน้ำอันดง++
คืนนั้นฉันเอนศีรษะพิงลงไปกับขอบบ่อ เอามือปิดตาทั้งสองข้างขณะนอนแช่ใน
อ่างน้ำ เพียงลำพัง ฉันทั้งรู้สึกโมโหและโกรธเขากับยัยจอนฮโยซองอยู่เนื่องๆ
มาคราวนี้คุณสามีดันพาสาวน้อยที่ไหนโผล่มาอีกก็ไม่รู้ มาวันนี้สามีก็มาจูบกับ
หญิงอื่นๆ ปวดหัว!!!! ฉันเป็นเสาอิฐเสาปูนรึไงถึงคิดว่าฉันจะไม่รู้สึกอะไรเลย
“ ให้ตายเหอะ!!! ”
“ เดี๋ยวก็ไม่สบายเอาหรอก ” =_= คนอะไร!!ช่างตายยากตายเย็นจริงๆเลย เขายืน
พิงกับประตูก่อนหน้า ฉันทำเป็นไม่สนใจสายตาคู่นั้นแล้วพยุงตัวขึ้นจากบ่อ คว้า
ชุดคลุมอาบน้ำแบบญี่ปุ่นสวมใส่อย่างรู้ทันความหมาย
“ จะไปไหนล่ะ อยู่ด้วยกันก่อนสิ ” คุณคิมจงฮยอนรั้งข้อศอกฉันไปทางเขา
“ คุณคิดจะฆ่าผมด้วยไวน์สุดห่วยแตกนั่นรึไง ”
“ ฉันพอใจจะทำ คุณจะทำไม ”
“ ทำไมน่ะเหรอ ผมก็มีวิธีจัดการยัยแม่มดแถวๆนี้น่ะสิ ”
“ ขอโทษนะ บังเอิญว่าฉันไม่ใช่ยัยแม่มดน่ะ ฉันชื่อ..คิมคีซุนน้องสาวฝาแฝด
คิมคีย์บอม เชิญคุณจัดการกับยัยแม่มดที่ว่านั่นไปแล้วกัน บ้ายบาย~ ” ฉันยิ้ม
หวานจับมือเขาออกจากแขนฉัน เหนือฟ้ายังมีฟ้า TOT ขณะที่ฉันเปิดประตูเลื่อน
กำลังจะเดินออกไปอยู่นั่นเอง ทันใดนั้นเขากับรั้งสะโพกถือโอกาสนี้โอบกอดเสีย
“ ทำไงดีล่ะ บังเอิญว่ายัยแม่มดหน้าตาเหมือนคุณซะด้วยสิ ”
“ อย่ามากอดฉันนะ !! ”
“ โกรธผมอยู่เหรอ ”
“ ฉันจะโกรธไม่โกรธมันก็เรื่องของฉัน!!ไม่ใช่รึไง ” ฉันจัดการกระทุ้งศอกกระแทก
เข้ากับหน้าท้องเขาด้วยความรู้สึกโกรธ ตาคนนี้กลับยื่นหน้าเข้ามาได้หน้าตาเฉย
“ รุนแรงขนาดนี้สงสัยคงโกรธผมจริงๆสินะ ”
“ ไปให้พ้นนะ ถ้าไม่อยากให้ฉันฟ้องเรื่องคุณกับแม่สาวน้อยคนนั้นกับคุณตาล่ะก็
เพราะงั้น .รีบๆปล่อยฉันซะ”
“ ดุจริง!โทษทีนะ ผมเป็นพวกยิ่งว่าเหมือนยิ่งยุน่ะ ” ให้มันได้อย่างงี้สิ ถึงจะเรียก
ว่าเป็นคิมจงฮยอน ง่าา ฮือๆ เขาจับใบหน้าฉันหันไปทางเขาด้วยแรงทั้งหมด
นิ้วแต่ละนิ้วแตะลงบนใบหน้าค่อยๆสอดเข้าไปในชุดคลุมฉันทีละนิด รสจูบนุ่ม
ละมุนจากช้าๆผ่อนขึ้นจนฉันหายใจแทบไม่ทัน ทว่ากลับหนักหน่วงด้วยแรง
ปรารถนา ความโกรธจึงอันตรธานหายไปจากหัวสมองสายฟ้าแลบ
คุณคิมจงฮยอนจูงมือฉันกลับไปยังห้องพัก ท่ามกลางแสงจันทร์บนท้องฟ้าที่มืด
สลัว ฉันโกหกไม่ค่อยเก่งโดยเฉพาะกับเขา ทันทีที่เสียงประตูเลื่อนปิดลง เขายืน
กอดอกระบายยิ้ม ถึงจะมองไม่ชัดแต่ฉันกลับรู้สึกได้ว่าดวงตาคู่นั้นเป็นประกายขึ้น
มาก
“ ยิ้มอะไร ” ฉันยืนมองเขาจนหัวคิ้วย่น
“ หึๆ .เห็นๆอยู่ว่าคุณออกจะชอบมันมาก ”
“ เอาอะไรมาพูด! ”
“ เหรอ แต่ผมสงสัยจริงๆเลยนะว่าไอ้ที่สองสามวันต่อสัปดาห์นี้ มันคืออะไร
กันแน่ ถ้าไม่ชอบแล้วจะให้เรียกว่าอะไร ”
“ คุณนี่มันประสาทแดกรึไงเนี่ย คุณขืนใจฉันแล้วยังจะมีหน้ามาพูดอีกเหรอ! ” ฉัน
กำหมัดแน่นขบเคี้ยวเขี้ยวฟันด้วยความคับแค้นใจ แต่ดูเหมือนว่านั่นจะเป็นข้อเท็จ
จริงที่ปฏิเสธยังไงก็ปฎิเสธไม่หลุดซะด้วย
“ คุณเองก็สมยอมไม่ใช่เหรอ แค่ผมหยอกล้อคุณนิดเดียวคุณก็ไปแล้ว เรื่องอย่างว่า
นี้ คุณยังจะบอกให้ผมเปลี่ยนมันด้วยรึเปล่าล่ะคิมคีซุน ” เขาก้มหน้าลงต่ำกระตุก
ยิ้มร้ายพร้อมกับก้าวเท้าขวามาข้างหน้า ซ้ำร้ายฉันยังถูกเขาไล่ต้อนจนมุมติดกับขอบ
โต๊ะเครื่องแป้ง และพื้นที่ว่างๆนั้นจึงกลายเป็นพื้นที่สำหรับฉันและเขา
“ อื้อ ฮะ อืมม ฮื้อ ” เสียงหอบหายใจของเขาดังกว่าทุกๆครั้ง ทันทีที่ปลายจมูก
โด่งก้มต่ำลงมายังเนินอก ส่งผลให้ชุดคลุมอาบน้ำเลิ่กออกจากตัวครึ่งหนึ่งก่อนจะ
หล่นไปกองอยู่ที่พื้น เมื่อริมฝีปากคู่สวยและปลายลิ้นอุ่นยึดครองยอดอกส่วนไวต่อ
สัมผัสเป็นการชั่วคราว
“ นั่นอะไรน่ะ ~” ฉันสะดุ้งตื่นทันทีที่บางอย่างหยดลงบนหลังฉัน ตามด้วยกลิ่น
หอมอ่อนๆคล้ายกับเบบี้ออยส์สำหรับเด็กทารกมันเยิ้มทั่วทั้งแผ่นหลังด้วยฝีมือที่
แสนจะร้ายกาจ
“ อย่าบอกนะว่า .คุณจะใช้มัน ” ฉันไม่ได้ยินเสียงเขา นอกจากเสียงหอบหาย
ใจถี่ระรัวนี้เท่านั้น เขารวบผมฉันขึ้นขณะพรมจูบด้านหลังลำคอ มือซ้ายลูบขึ้นมา
ตามเรียวขาขยับไปมาไม่หยุดนิ่ง
“ หันหน้ามาหน่อยสิ ” ความวาบหวามพพลันก่อเกิดขึ้นในใจฉัน ยังไม่ทันได้
หันไปด้วยซ้ำเขากลับยื่นริมฝีปากประกบจูบลงมาเป็นอันดับแรก ปลายนิ้วสอด
เข้ามาสำรวจภายใต้ผ้าลูกไม้ จนกระทั่งมันเปียกชื้นไปทั้งผืนจัดการพลิกร่างฉัน
หันกลับ
“ หมดฤทธิ์แล้วสิ .ค่อยง่ายหน่อยผมจะได้ไม่เหนื่อย ” ถึงตอนนี้สติฉันหลุดลอย
ไปไกลพอสมควร ทำได้แค่มองเขาถอดชุดคลุมบนตัวไปเงียบๆ และความรู้สึกที่ว่านี้แทบ
จะไม่มีใครปฏิเสธลงได้ นอกจากจะแค่รอการปลดปล่อยจากเขาเท่านั้น
“ อ้าาา~
” เสียงคำรามเบาๆในลำคอดังขึ้นเป็นระยะ และเสียงของฉันจึงถูกปิดด้วยจูบ
ที่เร่าร้อนนั่นเหมือนเคย ตามจังหวะบทรักซึ่งมันกำลังแผดเผาร่างเราทั้งคู่เข้าไว้ด้วยกัน
“ ที่รักคะ~ อ๊ะ อาา อ้าาา ที่รัก~ ” ฉันโอบกอดรอบๆคอเขาไว้หลวม รู้สึกว่าตัวเอง
กำลังหมุนลอยเคว้งคว้างกลางอากาศ มองเห็นขอบสายปลายรุ้งหลากสีเด่นมาแต่
ไกลลิบ เขาขยับสะโพกหนักๆส่งเสียงคำรามดังก้องไปทั่วห้องนอน แม้แอร์ภายใน
ห้องซึ่งดูเหมือนจะเย็นช่ำ ทว่ามันกลับร้อนอบอ้าวสุดๆ
‘ วันนี้ผมมีธุระที่โซล แล้วจะรีบกลับ ’
กระดาษโน้ตสีเหลืองถูกแปะไว้หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ฉันหยิบมันออกมาอ่านก่อนจะ
หากล่องเก็บมันแล้วทิ้งตัวลงนั่งเช็ดผมให้แห้ง เหตุการณ์เมื่อคืนนี้ฉันจำได้แม่น
คุณสามีอาบน้ำแต่งตัวเนี้ยบออกไปแต่เช้าทิ้งกระดาษโน้ตกับข้อความสั้นๆไว้ให้
“ กู๊ด มอร์นิ่งฮะ แม่ ” มินฮวานโผล่หน้าเข้ามาทางประตูด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม วิ่งขึ้น
มานั่งบนเตียงโผล่เข้ากอดคอฉันแต่เช้า
“ ไงจ๊ะ มาอ้อนถึงที่แสดงว่าลูกต้องมีอะไรแน่ๆใช่มั้ย ”
“ แฮะๆ ไปปั่นจักรยานกันนะฮะ ”
“ งั้นแม่ขอทานข้าวเช้าก่อนแล้วกันนะจ๊ะ แม่ท้องร้องจะแย่อยู่แล้ว ”
“ ไม่ต้องห่วงหรอกนะฮะ ผมให้พี่แบคฮยอนยกข้าวเช้ามาให้แล้ว ” มินฮวานเดินไปยก
ถาดอาหารมาวางบนตัก ซาบซึ้งใจได้ไม่นานแต่ก็ต้องหุบยิ้มแยกเขี้ยวใส่เด็กน้อยอย่าง
นางมาร เพราะน้อยครั้งมากที่เด็กแสบจะเอาใจแม่แท้ๆ ถ้าไม่เป็นเพราะว่าหาเรื่อง
ออกไปเที่ยวข้างนอก
ฉันพามินฮวานและแมวจอมแสบที่ไม่ทราบว่าตามมาตั้งแต่เมื่อไหร่ เดินขึ้นเขาไปวัด
พุลกุกซาที่ตั้งอยู่บนเนินเขาสวนกับพวกเด็กๆซึ่งพากันเดินกลับลงมา กระทั่งถึงปากทาง
เข้ามินฮวานจึงเลิกเก็บเต่าทองตามข้างทางปล่อยมันลงบนพื้นด้านหน้าวัด
“ มินฮวานเข้าไปข้างในกันเถอะ” ฉันจูงมือมินฮวานเข้าไปข้างใน ทำไมฉันถึงรู้สึกแปลกๆ
เหมือนกับมีใครบางคนกำลังจ้องมองฉันอยู่ เมื่อพบว่าไม่มีใครเราสองคนจึงเดินไปต่อ
ชายกลางคนซึ่งอยู่ในชุดสีดำสนิทท่าทางไม่น่าไว้ใจเท่าไหร่ พวกเขาทำเป็นกระซิบกัน
แล้ว ทันใดนั้นเองตัวฉันจึงเป็นจุดศูนย์รวมสายตาของคนพวกนั้นเข้าให้ซะแล้ว
“ มินฮวานแม่ว่า .ไว้วันหลังเราค่อยมาดีกว่านะ ”
“ ทำไม่ล่ะฮะ”
“ อย่าถามมากได้มั้ย เราต้องวิ่งกันแล้วล่ะ ”
“ วิ่งเหรอ ทำไมเราสองคนต้องวิ่งเร็วขนาดนี้ด้วยล่ะฮะแม่ ” แล้วคนพวกนั้นก็วิ่งตามฉัน
มาในที่สุด นี่มันเรื่องบ้าอะไรเนี่ย คุณจงฮยอนทำไมคุณต้องไปโซลวันนี้ด้วยนะ!!
ฝีมือใครกัน สงสัยจังว่าคนเดียวที่คิดทำเรื่องแบบนี้ มีคนเดียว
“ จะหนีไปไหนไม่ทราบ ”
“ว๊าย!!! นายหญิง อ๊ะ ” ฉันล้มหัวเข่ากระแทกพื้น ผวาตกใจกลัวทันทีที่หญิงวัยกลาง
คน ใบหน้าที่ซึ่งมีแต่ความเหี้ยมเกี้ยมคุ้นหน้าคุ้นตาฉันเป็นอย่างดี ยืนปรากฏกายอยู่
ตรงหน้า ฉันเวียนหัวอย่างแรงไม่คิดว่าจะโดนเธอตบหน้ากะทันหันเช่นนั้น ทันใดนั้น
มินฮวานผู้ไม่ประสีประสาจึงวิ่งเข้ามาขว้าง
>>>>>> ต่อ <<<<<<
“ อย่ามายุ่งกับแม่ผมนะ ”
“ มินฮวานถอยออกไปก่อน ” ฉันคว้าตัวมินฮวานไปด้านหลัง แม้ไม่อาจหลี่กเลี่ยง
แต่ฉันก็ไม่อยากจะเห็นหน้าผู้หญิงคนนี้เลยจริงๆ
“ นึกไม่ว่าถึงว่าจะเจอเธอที่นี่นะคิมคีซุน ” เธอหัวเราะกลอกตามองฉันขึ้นลงแล้วขยับมา
ข้างหน้า สี่ปีที่ฉันยังจำได้เสมอมา นับตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ฉันก็ยังไม่เคยจะถูก
ชะตากับเธอเลยสักครั้ง
“ ตกใจที่เห็นฉันมากเลยเหรอ ”
“ คุณต้องการอะไร ”
“ เธอพอจะมีเวลาคุยกับฉันมั้ย ” ฉันตัดสินใจคิดอยู่นานทีเดียว ผู้หญิงคนนี้ฉัน
กลับไม่ไว้ใจเธอเท่าไหร่ ดีไม่ดีเธออาจจะคิดไม่ซื่อก็เป็นได้ เธอชวนฉันมายังร้าน
กาแฟแถวๆนั้น ก่อนจะเปิดประเด็นเรื่องที่ว่าพร้อมกับยื่นซองสีน้ำตาลให้
“ นี่อะไรค่ะ ”
“ เธอก็ดูเอาเองสิ ” ฉันเงยหน้ามองเธอครู่หนึ่ง เทสิ่งที่อยู่ในซองสีน้ำตาลออก
จนหมด บัตรพนักงาน เอกสารการสมรส และเอกสารอื่นๆที่ฉันไม่คิดว่าจะ
ไปอยู่ในมือเธอเล่นเอาฉันอึ้งไปชั่วขณะ
“ นี่มันอะไร ”
“ถึงเธอจะไม่ได้แต่งงานกับลูกชายฉันแต่ฉันก็เตรียมเรื่องนี้ไว้นานแล้ว เอกสารการ
สมรส บัตรพนักงาน เอกสารที่รับรองว่าโอนเงินให้เธอหนึ่งร้อยล้านวอนอยู่ในบัญชี
นี้เรียบร้อย ต่อแต่นี้เธอจะปฎิเสธฉันไม่ได้เหมือนเมื่อก่อน ต่อให้เธอหนีฉันก็แจ้งเธอใน
ข้อหาทุจริตหรือไม่”
“ ทำไมคุณถึงต้องคอยมาบงการชีวิตฉัน ทำแบบนี้ทำไม ฉันไม่เคยขอร้องคุณเลย
นะ ”
“ เธอน่าจะดีใจนะ ที่ฉันไม่คิดฆ่าเธอก็บุญแล้ว อาทิตย์หน้าฉันจะให้เธอเริ่มงานใน
บริษัทได้ และอีกเรื่องที่ฉันจะบอก ฉันไม่รู้ว่าทำไมคนถึงได้ชอบ เข้าใจผิดๆไม่สงสัย
บ้างเหรอว่าทำไมเขาถึงใช่นามสกุลคิมแทนที่จะเป็นปาร์คน่ะ เธอไม่สงสัยเลยใช่มั้ย ”
“ คุณต้องการจะบอกอะไรฉันกันแน่ ถ้าคุณจะมาคุยอะไรไร้สาระกับฉัน งั้นฉัน
ลาล่ะ ”
“ ปาร์คยูซอนไม่ใช่พ่อของเขา ” ทันทีที่ฉันตัดสินใจลุกออกจากเก้าอี้ คุณนายลีโบยอง
จึงพูดมันออกมาในที่สุด จนโต๊ะข้างๆถึงกับหันมามองด้วยความอยากรู้อยากเห็น ฉัน
ส่ายหน้าปฎิเสธราวกับสิ่งที่ฉันได้ยินเป็นเรื่องโกหก เมินเฉยต่อคำพูดไร้สาระตัดสินใจ
พาคิมมินฮวานกลับบ้าน
เย็นวันนั้น ฉันรีบซ่อนซองสีน้ำตาลที่ดันถือติดมือมาด้วยอย่างหวุดหวิด แต่ใคร
จะคิดล่ะว่าระหว่างที่ฉันจัดการหาที่ซ่อนมัน คุณเชวมินโฮดันเปิดประตูเข้ามาพอดี
ซวยแล้วมั้ยล่ะ สงสัยไม่พอยังสอดรู้สอดเห็นอีกต่างหาก =_=
“ นั่นอะไร ”
“ ไม่มีอะไรหรอกน่า ”
“ เธอดูแปลกๆตั้งแต่เมื่อกี้แล้วนะ ”
“ ก็บอกแล้วไงว่าไม่มีอะไร ” เขาเอื้อมมือมาด้านหลังก้าวเท้ามาข้างหน้า ในระยะ
ประชั้นชิด ฉันจึงเบี่ยงตัวหลบไปอยู่ด้านหลังเขาเดินเปิดประตูออกมาโดยเร็ว และ
เหมือนว่าฉันจะเดินชนใครเข้าอย่างจัง เขาคนนั้นถึงได้มีริ้วรอยบนใบหน้าเพิ่มขึ้น
เป็นจำนวนมาก
“ จงฮยอน!!”
“ กลับมา แล้วเหรอคะ ”
“ ”
“ ฉันดีใจจังที่คุณกะ.. ”
“ นี่คุณกำลังดูถูกผมอยู่รึไง!!! ”
“ ว่าไงนะ~ ดะ..ดูถูก งั้นเหรอ ” ชั่ววินาทีนั้นแผ่นหลังคุณจงฮยอนค่อยๆไกลออก
ไปเรื่อยๆ ฉันวิ่งตามเขาไปติดๆ ยิ่งเดินเข้าไปใกล้เขาเท่าไหร่ รู้สึกว่าตัวเขาแทบจะเล็ก
ลงทุกๆที แล้วบานประตูเลื่อนจึงส่งเสียงอึกทึกคึกโครมชุดใหญ่ เรื่องอะไรฉันจะ
ยอมให้คุณทิ้งฉันไว้ข้างนอกโดยไม่มีเหตุผลแบบนี้ล่ะ!!!
“ คุณจงฮยอน~ เปิดประตูให้ฉันเข้าไปเดี๋ยวนี้นะ ”
ปังงงๆๆๆ ปังงงๆๆๆๆ
“ นี่~ ฉันบอกให้เปิดไงล่ะ คุณกำลังเข้าใจฉันผิดอยู่นะ ”
“ เสียใจนะ แต่ผมไม่มีอะไรจะพูด ไปให้พ้นๆจากหน้าห้องซะที!! น่ารำคาญ ”
“ ว่าไงนะ น่ารำคาญเหรอ!! คุณพูดแบบนี้กับฉันได้ยังไงฮะ จงฮยอน!!! ” ทัน
ใดนั้นประตูเลื่อนจึงเปิดออกพร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตา เล่นเอาฉัน
ถึงกับอึ้งไปสนิท
“ คุณก็รู้นี่ว่าผมรู้สึกยังไง ผมอึดอัดมากต่อไปนี้เราก็ต่างคนต่างอยู่กันดีกว่า
คุณจะไปคบกับไอ้เลวที่ไหนก็เชิญเลยผมอนุญาต ดีซะอีกนะที่ผมจะได้ทำในสิ่งที่
ผมอยากทำบ้าง ” เขายิ้มกว้างปิดงับประตูใส่หน้าฉันจัดการล็อคมันทันที ฉันเคาะ
บานประตูนั้นอีกครั้งทว่าบานประตูยังคงนิ่งเงียบไม่ขยับ
ป.ล เอาเเล้วสิเรื่องมันชักจะมีปมซ่อนเงื่อนเกิ้น
จะบอกว่าเพลง I knew it - beast ได้โหมด
อีเป็ดจงกะม่าพอดีเเดะ!!! ติดตามๆ หุ หุ
ความคิดเห็น