คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : CHAPTER 12 INNOCENT ( ผู้ชายสองคนกับหัวใจหนึ่งดวง )
CHAPTER 12 INNOCENT ( ผู้ชายสองคนกับหัวใจหนึ่งดวง )
ฉันเอื้อมไปจับมือคุณจงฮยอน โผล่เข้ากอดเขาไว้หลวมๆ คำพูดเธอเมื่อสักครู่ อาจฟังดูผิว
เผินไม่มีอะไร แต่ลึกๆแล้วมันช่างเป็นคำพูดที่แสนจะร้ายกาจยิ่งนัก
“ แปลกนะที่ผมเข้าข้างคุณ ”
“
..”
“ ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรนะฮะเจ้านาย ” ฉันผละตัวออกห่าง ยิ้มให้ใบหน้าเศร้าหมอง
ของเขา
“ ถ้าไม่ได้เห็นรอยยิ้มน่ารักๆ นี่ ฉันคงจะบ้าตายแน่ๆ ขอบคุณนะ..ขอบคุณมากๆ ”
เขาเอ่ยทั้งๆที่น้ำตาคลอเบ้า ฉันพูดอะไรไม่ออกก่อนจะยิ้มและเช็ดน้ำตาให้กับเขา
หลังจากอาบน้ำเตรียมตัวเข้านอน ฉันจึงนั่งแหงนมองท้องฟ้าสวยงามในยามค่ำคืน ที่ไม่แพ้
กับภาพวาดสีน้ำมันที่ประดับไว้อยู่ในห้องนอนห้องนี้มาตั้งแต่หัวค่ำ คิดๆอยู่ว่า จะเริ่มหาพินัย
กรรมนั่นที่ไหนก่อนดี
“ ก๊อกๆ ก๊อกๆ
”
ดึกดื่นปานนี้แล้วยังจะเรียกใช้กันอีกหรือ .. ฉันหันหน้าไปทางประตูอย่างหัวเสีย ลุกจากที่
นอนเดินไปเปิดประตูทันที
“ หวัดดี
ฮึก~ ” คุณจงฮยอนยืนโบกไม้โบกมือให้ฉันอยู่หน้าห้อง มืออีกข้างพยุงขอบ
ประตู ทำท่าว่าจะล้มลงเสียเเละดวงตาคู่สวยแทบจะปิดลงมาอยู่รอมร่อ
“ นี่คุณดื่มอีกแล้วเหรอ ” ฉันเอามือปิดจมูก กลิ่นไวน์ซึ่งผสมกับกลิ่นกายของเขา ทำเอาฉัน
เกือบคลื่นไส้ไปพร้อมๆกัน เมื่อฉันจัดการปิดประตูพยุงเขาเข้ามานั่งข้างในห้อง คุณจงฮยอน
ก็ยังพูดไม่หยุดปาก
“ รู้มั้ยว่า
ฮึก คนเราต้องร้องไห้เสียใจ..กี่ครั้ง
”
“ ฉันไม่รู้หรอก ...นี่! ฉันคิดว่าคุณจะนอนแล้วซะอีก คุณนี่ใช้ไม่ได้เลยนะคุณจงฮยอน ”
“ ฉันเเค่ดื่มไปสองสามเเก้วเอง
ไม่ถึงกับเมาหรอก "
" รอก่อนนะฉันจะไปชงชาน้ำผึ้งมาให้ " พูดจบ ฉันก็รีบลงไปชงชาน้ำผื้งมาให้เขาทันที
พอกลับขึ้นมาฉันก็เห็นเขานั่งบนปลายเตียง สายตาทอดมองที่ไหนสักเเห่ง เเล้วเลื่อนหยุดอยู่
ตรงกรอบรูปภาพบนหัวนอนของฉัน
" ทั้งพ่อเเม่เเละพี่ชายเธอ ช่างเป็นครอบครัวที่อบอุ่นจังเลยนะว่ามั้ย " เขาเอ่ย พลางเดินไปหยิบ
กรอบรูปไม้มาดูใกล้ เเล้วยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน ก้าวเท้าลงจากเตียง คว้าแก้วชาน้ำผึ้งไปดื่ม
หมุนตัวกลับไปนั่งที่เดิม
" เด็กผู้หญิงคนนี้เเหละที่ฉันนึกถึงเสมอ ยัยแม่มดน้อยที่ชอบตามฉันเหมือนเงา ไม่ว่าฉันจะดุด่า
ไล่เธอยังไง ยัยแม่มดน้อยของฉันก็ไม่ร้องไห้สักกะเเอะ " ฉันทรุดตัวลงไปนั่งข้างๆ น้ำตาเจ้า
กรรมไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว นั่นเป็นเพราะ
ฉันอยากที่จะ อยู่ข้างๆคุณไม่รู้เหรอ ..
" เธอรู้มั้ยว่า เราน่ะควรร้องไห้ครั้งแรกตอนเกิด
ครั้งที่สองแฟนทิ้ง ครั้งที่สามพ่อตายและครั้ง
สุดท้ายแม่ที่ให้กำเนิด รวมทั้งหมดก็คือสี่ครั้ง ”
“ คนที่แสนจะเย็นชาและชอบบงการคนอื่น สำหรับคุณแล้ว
ทั้งหมดมันกี่ครั้งกันล่ะ ฮือ ”
“ มันมากกว่านั้น มากกว่าที่เธอคงคาดไม่ถึงแน่ ”
“ เล่าให้ฉันฟังนะ ได้โปรดเล่าให้ฉันฟัง ”
“ หลังจากที่แม่เลิกกับพ่อไม่นาน แม่ฉันก็ตายอย่างโดดเดี่ยว ฉันจึงกลายเป็นไอ้เด็กขอทาน
ข้างถนน อยู่อย่างอดๆอยากๆ โดยที่ไม่มีใครรู้ว่าฉันอยู่ที่ไหน ต้องถูกไอ้พวกบ้าซ้อมไม่รู้ตั้งกี่
ครั้ง สภาพเนื้อตัวมีแต่รอยแผลเป็นสกปรกๆที่ใครๆเขาก็รังเกียจ 7 ปี เธอคิดว่าฉันจะต้อง
ร้องไห้อย่างน้อยกี่ครั้งล่ะ ” ฉันส่ายหน้าเป็นคำตอบ ไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน สรุปที่เขาหายไปก็
เป็นเพราะเหตุนี้งั้นเหรอ ช่วงระยะเวลา 7 ปีที่เหลืออันน่าเศร้า
“ ใครที่เป็นคนพาคุณกลับมา คุณตาหรือว่าพ่อของคุณ ”
" คนที่พาฉันกลับมาก็คือยายของเธอไง พอฉัน14 พ่อก็รู้ว่าฉันอยู่กับยายเธอ ท่านจึงรีบมารับฉัน
กลับ ชีวิตฉันมันน่าสมเพศมาตั้งเเต่ไหนเเต่ไรเเล้ว เเค่เห็นรอยยิ้มของเธอ ฉันก็รู้สึกอบอุ่นหัวใจ
อย่างบอกไม่ถูก ถ้าเธอยิ้มให้กับคนอื่นหรือว่าเชวมินโฮ บางทีฉันอาจจะทวงสัญญาของฉันอีก
ก็ได้ "
" คุณนี่มันจริงๆเลยนะ .." เขายิ้มหวานในขณะที่ฉันเอื้อมมือกำลังจะผลักหัวไหล่ ภายใต้ดวง
ตากลมโตสีน้ำตาลขลับคู่นั่นก่อกวนจิตใจฉันไปชั่วขณะ ฉันเถิบตัวเองออกห่างจากเขาเล็กน้อย
คุณจงฮยอนรั้งท้ายทอยดึงฉันเข้าไปใกล้ ๆ โน้มตัวลงมามือข้างหนึ่งกดหัวไหล่ไม่ให้ฉันขยับ
แล้ว ริมฝีปากเขาจึงประกบลงบนริมฝีปากฉัน
“ อืมม.. ฮะ ” ร่างกายฉันแทบตอบสนองเขาในทันที คุณจงฮยอนจัดการปลดกระดุมฉันทีละเม็ด
ขณะริมฝีปากจูบฉันอย่างนุ่มนวล เขาจัดการถอดชุดนอนฉันออกเสียเกือบหมด เหลือเพียงเสื้อชั้นใน
ลูกไม้และชั้นในผืนเล็กจิ๋ว
“ พรุ่งนี้ฉันมีเรียนนะ ” ฉันจับมือเขาไว้ซึ่งสอดเข้ามาในชั้นในของฉัน พอรู้ว่าตารางเรียนเริ่มเก้าโมงเช้า
คุณจงฮยอนถึงกับหยุดชะงัก หรี่ตาลงพลางถอนหายใจด้วยความขุ่นเคือง
“ ฉันรู้แล้วน่า ปล่อยให้เป็นหน้าที่ฉันเถอะ ” ร่างกายเปล่าเปลือยช่วงท่อนบนของเขา เล่นเอาฉันรู้สึกชา
วาบไปทั้งตัว ฉันมองลึกเข้าไปในดวงตาคู่นั้นได้ไม่นาน หัวใจเต้นระรัวและไม่กล้าสบตา ไม่นานใจ
ฉันแทบจะหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม กรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
“ ไม่นะ
อ๊ะ อือ ฮะ ..อ๊าา.. ” ฉันหลับตาลงบิดกายไปมาเพราะสัมผัสอันแสนจะร้อนเร่าของเขา ยามที่
ข้อนิ้วกดลึกขยับเข้าออกช้าๆ
“ คุณไปรู้เรื่องพวกนี้จากไหนกัน อือ
ร้ายนักนะ~ ”
“ ชอบล่ะสิ
ฮือ รู้สึกดีมั้ย
. ฉันน่ะรู้สึกดีกับเธอที่สุดเลยนะ ”
“ หมาย..ความว่าไง ”
“ ฉันเคยนอนกับผู้หญิงยี่สิบครั้ง แต่ไม่เคยรู้สึกดีแบบนี้มาก่อนเลย ” ฉันแอบโกรธเขานิดๆ ยี่สิบครั้งO_O
งั้นก็ยี่สิบคนน่ะสิ
“ ฉันจะฆะ
อือ~ ” ฉันจะด่าว่าเขา ทว่าลมหายใจอุ่นๆเป่ารดบริเวณซอกคอ ทำให้สติฉันค่อยๆลอยไป
ไกลทุกที ไม่นานริมฝีปากขบไล้ต่ำลงมายังเนินอก มืออีกข้างบีบคลึงความอวบอิ่ม ก่อนเลื่อนไปปลดตะขอ
จนเสื้อชั้นในหลุดติดมือ
“ คุณจงฮยอน ~ อ๊า.. อือ
อ๊ะๆ ” ยามนี้ร่างกายฉันบิดเกร็ง ภายใต้แรงปรารถนาที่ฉันไม่อาจปฎิเสธ
ลมหายใจวาดผ่านลงมายังท้องน้อย ไม่ทันไรเขาก็ระรัวปลายลิ้น ดูดดึงความหวานไปจากตัวฉัน
มันกำลังปลุกทุกส่วนให้เต่งตึงพร้อมกับข้อนิ้วทั้งสองเข้ามาอยู่ในตัวฉัน ขยับขึ้นๆลงๆเป็นจังหวะ
ด้วยความเร็วที่เพิ่มเป็นสองเท่า
“ อ๊ะ..อือ
อ๊ะ อาา สุดยอดไปเลย~ ” เสียงลมหายใจถี่กระชั้น สลับกับเสียงคำรามภายในลำคอ
ของเขา
“ อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ
” ฉันปรือตาเงยหน้ามองเขาอย่างยากลำบาก ใบหน้าแดงกร่ำ มือไม้สั่นหาที่จับเอาไว้ไม่ได้
ถึงจะไม่ใช่ครั้งแรกก็เถอะ แต่ทุกๆครั้งมันมักจะเจ็บแบบนี้อยู่เสมอเลย ช่างเป็นสัมผัสที่แสนจะเนินนาน
และเร่าร้อนดีจริงๆเลย -.,-
“ อือ.. ฉันไม่ไหวแล้วนะ อ๊ะ..อ้าาา.. อื้อ~ อืมมม ” เขาประกบริมฝีปากฉัน เพื่อกลบเสียงครวญ
ครางของเราทั้งคู่ แต่สิ่งที่อยู่ภายในนั้นจากบทรัก เมื่อเขาแรงจังหวะให้เร็วขึ้น มันร้อนระอุดั่งเปลว
เพลิงปรารถนาที่ฉันจะกระอักเพราะสัมผัสเขาเสียให้ได้ สัมผัสที่ฉันหลงใหลมากที่สุด หากเขายืด
เวลาออกไป ฉันคงต้องกักตัวเขาเอาไว้ โดยไม่ปล่อยให้หลุดมือไปง่ายๆเด็ดขาด
เช้าวันรุ่งขึ้นสภาพของฉันไม่ต่างจากผีดิบ เดินกะเผลกตามหลังจุงกูเข้าห้องเรียนมา เพราะความละโมบของ
คุณจงฮยอนฉันจึงมีสภาพทุเรศตาเช่นนี้ จุงกูเหลือบมองฉันเล็กน้อย วางชีทรายวิชายื่นให้ฉันบนโต๊ะ
“ เฮ้เพื่อน
.วันนี้หน้าใสนะไปทำอะไรมา ”
“ ไม่ได้ทำอะไรสักน้อย
ชีทนี่แกถ่ายให้ฉันใช่มั้ย เท่าไรอะ ” ฉันเปลี่ยนเรื่อง หยิบเหรียญสองร้อย
วอนให้ทันที
“ เอ่อ พอดีเลย ” จุงกูหยิบเหรียญใส่กระเป๋า หันหน้าไปทางกระดานไวท์บอร์ด จุงกูนี่ยอดเยี่ยมสุดๆ
ไปเลย ไม่ขี้สงสัยเหมือนใครบางคน เอาละคราวนี้ฉันจะเรียนได้อย่างสบายใจสักที ^ ^
“ คีย์บอมฉันจะไปเล่นดนตรีแถวฮงแดนะ นายสนใจจะไปด้วยมั้ย ”
“ ฮงแดเหรอ
ฉันไปไม่ได้อะ.. ”
“ จุงกู เร็วๆ หน่อยสิ ” เสียงนั้นดังมาจากข้างหลังจุงกุ เป็นเสียงของผู้หญิง เธอคนนั้นมีใบหน้า
ที่งดงาม ดวงตากลมโตราวกับหยกชั้นดี แฟนเหรอ
“ นั่นพี่สาวฉันน่ะ เธอสวยระเบิดไปเลยใช่มะ เธอชื่อยุนอา ไว้ฉันจะแนะนำเธอ เจอกันพรุ่งนี้นะ
พี่สาวรอผมด้วย ” จุงกูวิ่งไปหาเธออย่างไม่รอช้า เธอคนนั้นหรี่ตามองฉันสลับกับจุงกูแปลกๆ
ญาติห่างๆเหรอฉันว่าไม่ใช่นะ
“ จุนฉันอยากนายช่วยสืบเรื่องนี้โดยด่วน ก่อนที่ท่านผู้อาวุโสจะขายหุ้นในบริษัททั้งหมดออกไป
นายได้เรื่องเมื่อไร โทรบอกฉันแล้วกัน ” เลิกเรียนฉันก็รีบมาหาเขาที่นี่ทันที พนักงานซึ่งเคย
ทำงานอยู่ทางด้านนอกหายไปเกือบครึ่งหลังจากที่บริษัทเกิดวิกฤต
“ เย็นนี้ ไปหาอะไรกินกันมั้ย ” ฉันพูดไปได้ไม่เท่าไร เสียงโทรศัพท์จึงดังขึ้นอยู่ในกระเป๋ากางเกง
ฉันกะจะไม่รับสุดท้ายก็ตัดสินใจลุกออกมารับโทรศัพท์ เลี้ยวเข้าไปยังบันไดหนีไฟทางซ้ายมือ
“ ฮัลโหล ”
‘ ตอนนี้ฉันอยู่ฮันกุก เลิกเรียนหรือยัง ฉันเดินเข้ามาแล้วเนี่ย นายอยู่ไหนล่ะ ’
“ คุณคงจะไปรับผมที่นั่นสินะ ขอโทษนะฮะ พอดีว่าตอนนี้ผมอยู่ที่ ซองวอน ”
‘ นายไปทำอะไรที่นั่น ฉันเข้าใจแล้ว ออกมาข้างนอกสักแปปหนึ่งได้มั้ย ”
“ ทำไมฮะ ”
‘ มาเจอฉันที่สตาร์บัคส์แถวกังนัมนะ ตู้ด ตู้ด ตู้ด ’ แล้วเขาก็วางสายไปเรียบร้อย ฉันทำอะไรไม่ถูก
มือข้างหนึ่งกำโทรศัพท์ อีกมือกัดนิ้วโป้ง ไม่รู้ว่าเขามีธุระอะไรกับฉันนะ ชักจะทำตัวประหลาดๆ
แต่ยังไงก็ไม่มีความจำเป็นที่ฉันจะต้องออกไปหาเขานี่นา
.
“ ขอฉันทำงานเสร็จก่อนนะ แล้วค่อยไปหาอะไรกิน ” คุณจงฮยอนลุกขึ้น ตั้งหน้าตั้งตาจัดเอกสารบนโต๊ะให้เป็นระเบียบ อีกไม่กีนาทีข้างหน้านี่แล้วนะ งั้นส่งข้อความไปบอกแล้วกัน ฉันคว้าโทรศัพท์พิมพ์ข้อความฉับ ๆ ‘ ขอโทษนะฮะงานผมยุ่งจริงๆ ต้องขอโทษด้วย ’ ทีนี้จัดการส่งมันซะ ^_^
“ ส่งข้อความหาใคร พี่เธอเหรอ ”
“ ไม่ใช่นะ! ”
“ แล้วถ้าไม่ใช่จะเป็นอะไรไปได้ล่ะ ” ยังอุตสาห์เห็นอีก =_=
“ ฉันไม่อยากเถียงกับคุณแล้วนะ รีบๆทำงานให้เสร็จเถอะ รู้มั้ยว่าท้องไส้ฉันดังโครกครากจะแย่อยู่แล้ว ”
“ รู้แล้วน่า! ” เขายิ้มสดใสทั้งๆที่ในใจเขาย่ำแย่ยิ่งกว่าฉัน ไม่ถึงสิบนาที เขาก็พาฉันออกมาหาข้าวเย็นกิน
หม้อรามฮยอนร้อนๆส่งกลิ่นหอมอบอวลอยู่ตรงหน้าฉันและเขา หลายวันมานี้ช่างผ่านไปเร็วมาก อีกหนึ่งอาทิตย์กับอีกสองวันก็จะถึงวันเกิดฉันแล้ว ฉันจะไม่บอกเรื่องวันเกิดของฉันกับเขา เพราะสถานการณ์ตอนนี้ ล้วนแล้วแต่น่าอึดอัดใจทั้งสิ้น
“ เจ้านายฮะ คุณจะไปเยี่ยมคุณตาของคุณเมื่อไหร่ ”
“ ไม่รู้สิ ก็คงจะเร็วๆนี้แหละ ”
“ ผมพอจะช่วยคุณได้บ้างมั้ย ”
“ อย่าเลยมันเสี่ยงมาก ให้เจ้าจองชินจัดการเถอะ เจ้านั่นรอบคอบกว่านายเยอะเลย ถ้านายอยากช่วยฉันจริงๆล่ะก็ ” เขาหยุดพูดโน้มริมฝีปากเข้าใกล้ใบหู แล้วกระซิบคำๆนั้น ‘ ช่วยทำให้ฉันมีความสุขตอนนอนบนเตียง..กับเธอก็พอ’ ว่าไงนะ! ฉันถึงกลับมานั่งหลังตรงในท่าเดิม ถลึงตามองเขาด้วยความขุ่นเคือง
“ ไปตายซะ ” เขาทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ใบหน้าเผยเห็นลักยิ้มน้อยๆ ขณะคีบเส้นบะหมี่จากหม้อใส่ในถ้วย ช่วงเวลาแห่งความสุขมันช่างผ่านไปเเล้วจริงๆ มันจะเป็นครั้งสุดท้ายระหว่างเราหรือเปล่า ฉันได้แต่กลัวว่าวันนั้นจะมาถึงในไม่ช้า
“ ฉันจะจัดงานแต่งงานให้แกกับหนูซอฮยอน ”
“ เอ่อคุณลุงคะ พี่คะฉันไม่ได้ ”
“ ยังไงผมก็ไม่มีทางแต่งงานกับซอฮยอน ”
“ แกกล้าพูดแบบนี้ได้ยังไงกัน ”
“ เพราะผมไม่ได้รักเธอ ”
“ เวลานี้แกจะปล่อยให้บริษัทต้องปิดกิจการไปเฉยๆโดยไม่ที่ไม่ทำอะไรเลยอย่างงั้นใช่มั้ย แกยังสติดีอยู่หรือเปล่า ฉันทำเพื่อแกนะจงฮยอน ฉันต้องทิ้งงานที่นั่นมาที่นี่ก็เพราะแก ”
“ ทำเพื่อผมเหรอ ผมคิดว่าคุณทำเพื่อตัวคุณเองซะอีก หย่ากับเธอซะ ถ้าคุณหย่า ผมจะยอมทำทุกอย่างและ
.ยอมเรียกคุณว่าพ่อ ” ฉันยืนแข็งทื่ออยู่ทางด้านนอก หัวใจของฉันถูกแช่แข็งไปเพราะคำพูดของเขา ถ้าท่านประธานปาร์คหย่า คุณจงฮยอนก็ต้องแต่งงานกับเธอจริงๆสินะ ทางเดียวที่จะช่วยให้บริษัทกลับคืนสู่สภาวะปกติ
หลังจากนั้นฉันไม่ๆได้ยินเสียงอะไรอีกนอกจากความเงียบสงบ และเสียงลมหายใจของคนทั้งสามคน
วันที่ 22 กันยายน 2009
ช่วงที่ใบไม้เปลี่ยนสี ทำให้อากาศในตอนกลางวันค่อยดีขึ้นมาหน่อย ฉันซึ่งเปิดหน้าต่างทุกบาน ตรงทางเชื่อมระหว่างตึกทั้งสอง สายลมเย็นๆจึงปะทะเข้ามายังใบหน้าของฉัน ระหว่างนั้นฉันก็บังเอิญสบสายตาคนๆนั้นเข้า
“ คุณมินโฮ...” เขาส่งยิ้มบางๆมาให้ ฉันจึงส่งยิ้มตอบกลับและเบนสายตาไปทางอื่น จัดการฉีดน้ำยาลงบนกระจก ใช้กระดาษเช็ดมันให้สะอาด ผ่านไปแค่ไม่กี่นาทีเขาก็ไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว
“ คิมคีย์บอม ” เสียงคุ้นๆดังมาทางซ้ายมือ คุณมินโฮยืนห่างจากฉันพอสมควร บริเวณลำคอนั้นพบว่าลูกกระเดือกขยับขึ้นลง ระหว่างเลื่อนสายตาออกไปข้างนอก ก่อนจะหันกลับมามองฉันเงียบๆ
“ คุณมินโฮ คุณมีอะไรให้ผมรับใช้มั้ยฮะ ”
“
ไม่มีอะไรมากหรอก ตอนนี้เขาเป็นยังไงบ้างล่ะ ” เขาถามสั้นๆ แลดูไม่ค่อยใส่ใจเท่าไร
“ นายอยู่กับเขาตลอดไม่ใช่เหรอ ”
“ ก็
ยังไม่ดีเท่าไรนักหรอกฮะ วันนั้น ผมต้องขอโทษด้วยนะฮะ ”
“ ไม่เป็นไรฉันเข้าใจ ต่อไปไม่ต้องดูแลบาโรแล้วก็ได้นะ..”
“ ทำไมฮะ มีอะไรเหรอ ”
“ ฉันจะให้นายดูแลรับใช้ฉันช่วงเสาร์อาทิตย์ เช็ดกระจกเสร็จก็รีบๆลงไปข้างล่างนะฉันจะรอ ” เขาหันหลังกลับทันที ชั่วขณะนั้น ฉันกลับรู้สึกแปลกๆว่า แววตาคู่นั้นราวกับจะบอกอะไรฉันสักอย่าง แต่เขาก็ไม่สามารถ
พูดมันออกมาได้ เขามีอะไรปิดบังฉันอยู่งั้นเหรอ
.
ร้านรวงนับร้อยตั้งวางขายของเต็มสองฝั่งข้างทาง พื้นที่ตรงกลางคลาคล่ำไปด้วยผู้คนที่มาจับจ่ายซื้อของ บ้างก็มาเที่ยวชมความงามภายในถนนอินซาดงแห่งนี้
“ วันเสาร์เนี่ยคนเยอะจริงๆเลยนะ ”
“ นั่นสินะ ส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวทั้งนั้นเลย คุณมินโฮอย่าเดินเร็วสิฮะผมตามไม่ทันนะ ” ฉันกลัวว่าจะหลงจึงเกาะชายเสื้อเขาไว้ เขาหันกลับมาจูงมือฉันฝ่าผู้คนไปพร้อมๆกัน และฉันกับเขาก็ได้มีโอกาสดื่มด้วยกันอีกครั้ง
“ เราไม่ได้มาดื่มด้วยกัน อย่างนี้นานแล้วนะ ”
“ อืมม ”
“ ถ้าเรายังเป็นเพื่อน สัญญาได้มั้ยว่านายจะเชื่อใจฉัน แค่เชื่อใจฉันก็พอ และฉันสัญญาว่าฉันจะปกป้องนายให้ถึงที่สุด.. ”
“ สัญญาอะไร คุณนี่พูดเป็นการตูน์ไปได้ ”
“ เปล่านะ
ฉันรู้สึกอิจฉาคิมจงฮยอนมากแค่ไหนนายรู้มั้ย ฉันอยากจะแยกนายกับเขาออกจากกัน ทว่าฉันก็ทำไม่ได้ ” ฝ่ามืออุ่นๆเอื้อมมือวางทาบทับบนใบหน้า หัวใจฉันกลับพลอยรู้สึกอบอุ่นไปด้วย
“ ผมมันแค่คนรับใช้ ไม่มีค่าพอที่คุณจะต้องทำแบบนั้น แทมินจะรู้สึกยังไงถ้า ”
“ ฉันรู้ เราถึงคบกันไม่ได้ยังไงล่ะ ความรู้สึกดีๆที่ควรจะมอบให้ในฐานะคนรัก
ไม่ใช่เพื่อน ให้ฉันได้ปกป้องนายเถอะนะ อย่างน้อยก็ในฐานะเพื่อน ” ถ้าเขายังแสดงความรู้สึกโดยที่ไม่ข้อกังขาใดๆ ทั้งสิ้น คุณจงฮยอนและเขาต่างก็เป็นคนที่ฉันให้ความไว้วางใจมากที่สุด ฉันไม่กล้าบอกคุณมินโฮว่าฉันไม่ใช่ผู้ชาย เพราะงั้นฉันจึงรู้สึกผิดมากขึ้นไปอีก เมื่อถึงตอนนั้นเขาจะต้องเกลียดฉันเอามากๆ เขาจะต้องเสียใจไปกับความลับของฉัน
.
ความคิดเห็น