คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : CHAPTER 13 INNOCENT II 100 %
Chapter 13 innocent jongkey
‘เพล้งง~’ เสียงเศษแก้วแตกกระจายบนพื้นกระเบื้องภายในบ้านตระกูล
คิม พ่อบ้านใหญ่ซึ่งยืนรักษาการ เพราะเสียงอันน่าตกใจนั้น ชายชราจึง
รีบวิ่งมายังห้องโถงด้วยความตกใจสุดตัว ก่อนสั่งให้เด็กรับใช้เก็บกวาด
เศษแก้วออกไปโดยเร็ว
“ แล้วอย่างงี้ฉันจะยกอนาคตของซองวอนให้กับแกได้ยังไง!!! ”
“ พ่อก็รู้นี่ครับ ว่าสังคมสมัยนี้มันเปลี่ยนไปมากแล้ว การแต่งงานครั้ง
ที่สองของผมมันก็ไม่ได้มีผลกระทบต่อภาคธุรกิจสักเท่าไหร่ แต่ถึงคน
ในแวดวงธุรกิจเขาจะรู้ ยังไงพวกเขาก็ไม่สนใจมันหรอกครับ นอก
จากว่าบริษัทนั้นๆจะเติบโตขึ้นหรือว่าล้มทลายลงไม่เป็นท่า ”
ชิ้นส่วนหนึ่งกระเด็นเฉียดหน้าผาก แม้จะเจ็บจากการที่แก้วน้ำเหวี่ยง
ใส่ไปทางด้านหลัง ทว่าคิมจงฮยอนกลับหยิบผ้าขนหนูสีขาวซับเลือด
บนบาดแผลราวกับไม่รู้สึกเจ็บแต่อย่างใด
คนหลายคนกำลังนั่งรับประทานอาหารร่วมด้วย และเด็กชายตัว
น้อยวัยสี่ขวบกว่าๆ เลิกคิ้วขึ้นสูงสองขากระโดดลงจากเก้าอี้ ก่อนจะ
กลับมาพร้อมกับพลาสเตอร์ยาส่งให้กับคิมจงฮยอน
“ นี่ฮะพลาสเตอร์ยา ”
“ อ้อ~ขอบใจนะ ” การกระทำของเด็กน้อย ชินเซคยอง ถึงกับสูดลม
หายใจเข้าลึกๆ เธอรู้เรื่องพ่อของเพื่อนสนิทคนนี้เพียงคร่าวๆ แต่ก็ไม่เคย
เจอท่านประธานใหญ่เป็นการส่วนตัวเท่าวันนี้มาก่อน ท่านประธานปาร์ค
เป็นคนใจดีและปกป้องลูกน้องก็จริง ถ้าจะให้โมโหร้ายหรือเห็นสิ่งที่ตรงกัน
ข้ามก็เห็นจะมีแต่เพื่อนของเธอนี่แหละ
“ แกควรจะเชื่อฟังลีโบยองแม่เลี้ยงของแกบ้างนะ แม่มินโฮจะเสื่อมเสียชื่อ
เสียงแค่ไหนหากข่าวนี้แพร่กระจายออกไป ”
“ หนูคิดว่าเรื่องนี้มันก็ไม่ได้โหญ่โตอะไรนักหรอกค่ะ คุณพ่ออย่าโกรธ
จงฮยอนเลยนะคะ ตอนนี้เพื่อธุรกิจของซองวอน ยังไงเราไม่ควรจะเอา
เรื่องพวกนี้มามีอิทธิพลต่อการทำงานจะดีกว่า ” คิมจงฮยอนเงยหน้ามอง
เพื่อนสาวคนสนิทด้วยสายตาขอบคุณ สลับกับแม่เลี้ยงที่เขาแอบรู้สึก
สะใจหล่อนนิดๆ
“ นั่นสินะครับ ก็แค่ข่าวว่าใครจะเป็นผู้สืบทอดกิจการ พ่อหม้ายลูกติด
คิมจงฮยอน หรือจะเป็นลีโบยองแม่เลี้ยงสาวสวยของผมที่ทำทุกอย่าง
เพื่อลูกชายของเธอเอง ” พูดจบ คิมจงฮยอนก็เดินจูงมือหญิงสาวข้าง
กายออกไปนอกห้องอาหาร
ดูเหมือนคนโกรธเป็นฝืนเป็นไฟ ไม่ใช่คนใหญ่คนโตของบ้าน สายตา
โจ่งแจ้งเหลือบไปทางหญิงวัยกลางคนก่อนหน้า ทำให้มือที่กำลังวาง
อยู่บนตักของเธอใต้โต๊ะไม้สี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ ได้แต่กำหมัดตัวเองไว้
จนเส้นเลือดสีดำคล้ำปูดโปนขึ้นตามผิวหนัง
“ กรี๊ดด….”
หนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งถูกฉีกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย หลังจากเสียงกรีด
ร้องดังออกมาด้วยความคับแค้น ไม่คิดว่ามันจะทำให้หญิงวัยกลางคน
ที่มีชีวิตงดงามจนน่าเกรงขาม กลับถูกเด็กสารเลวคนนั้นดูหมิ่นเหยียดหยาม
เธอไม่เหลือดี
“นั่นใช่คิมจงฮยอนจริงๆเหรอ ทำไมเด็กเลวนั้นมันถึงได้ร้ายกาจอย่างงี้นะ ”
ลีโบยองทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้หนัง เสียงฝีเท้าอันคุ้นเคยหยุดยืนอยู่ตรงหน้า
ดวงตาเรียวสวยกลับเงยหน้าขึ้นมองผู้มาเยือนด้วยแววตาอาฆาต หวั่นกลัว
หวาดผวาและไร้อารมณ์
“ ผมบอกคุณแล้ว ว่าคุณไม่ควรจะปล่อยให้มันเข้ามาในแผนการ
ของเรา ” ร่างสูงโปร่งในชุดสูธหย่อนตัวลงนั่งเช่นเดียวกับหล่อน ไม่รอช้า
ที่ชายกลางคนจะหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเอง โทรหาใครสักคนโดย
ไม่ต้องเสียเวลาคิดให้สูญเปล่า
“ เลขาซอง เรายืดเวลาออกไปไม่ได้อีกแล้ว ก่อนอื่นภายในเดือนสองเดือน
นี้ต้องหาทางจัดการฆ่ามันซะ ยังไงก็ต้องจัดการปาร์คยูซอนหรือทำให้
มันเกิดอุบัติเหตุก็ได้ ฉันมีเงินชดใช้ค่าเสียหายให้คนของนาย ส่วนไอ้
เด็กนั่นก็ทำให้มันขว้างทางเราไม่ได้ ”
“ นี่คุณไม่รุนแรงไปหน่อยหรือ ”
“ เชื่อผม การเซ้นต์สัญญากับบริษัทเวสลี่คุณต้องให้คิมคีซุนรีบจัดการ
โดยเร็วที่สุด ทางเดียวที่เราจะได้ซองวอนมาเป็นของเรา ดังนั้นอย่า
ให้ใครรู้เด็ดขาด เพราะเราจะใช้วิธีที่แนบเนียน ถึงจะช้าไปหน่อยแต่ก็
ได้ผลแน่ๆ ” ลีโบยองตกใจกับความคิดชั่วร้ายนั้น เธอแค่เพียงจะ
หลอกใช้คิมคีซุนในวิธีที่ดีที่สุดของเธอเอง ไม่คิดหรอกว่า สามีเก่าของ
เธอจะใช้วิธีที่แตกต่างมากกว่าเธอเสียอีก
ฉันได้รับข้อความจากพ่อสามี หลังจากทำธุระเสร็จฉันก็นั่งรถกลับเข้ามา
บ้าน และได้ยินเสียงหัวเราะดังมาไกลจนถึงประตูทางเข้า มินฮวานเหมือน
จะได้เพื่อนเล่นใหม่ ออกอาการดีใจขณะที่เจ้าสี่ขาสองตัววิ่งไปคาบลูก
บอลยางกลับมาให้
“ โฮ่งๆๆ เหมี้ยวๆ ”
“ ขาหน้าๆ ใช้ขาหน้า อย่างนั่นแหละ”
“ ปรื้น~”
“ โอ๊ะ นั่นแม่นี่!! ” ฉันตั้งใจจะยืนดูอีกสักหน่อย แต่เพราะรถเก๋งสีดำใหม่
เอี่ยมส่งเสียงบีบแตรใส่อยู่ข้างหลัง จึงทำให้ฉันรีบหลบรถคันนั้นโดยเร็ว
จังหวะนั้นมินฮวานก็ถึงกับโผล่เข้ากอดฉันทันใด
“ แม่ฮะ~” มินฮวานยกไม้ยกมือเช็ดน้ำมูกน้ำตาที่ไหลย้อยเปรอะเปื้อนเต็ม
ใบหน้าจนเผยเห็นรอบดวงตาที่แดงกร่ำ
“ แม่ฮะ~ ผมนึกว่าจะไม่ได้อยู่กับแม่แล้วซะอีก ผมคิดถึงแม่ที่สุดเลยนะ
ยังไงผมก็ไม่อยากได้คุณน้าคนนั้นมาเป็นแม่ของผมหรอก แม่เป็นแม่ของ
ผม อย่าทิ้งผมไปอีกเลยนะฮะ ” ฉันพูดอะไรไม่ออกเลยจริงๆ
“ แม่จะไม่ไปไหนแล้วใช่มั้ยฮ่ะ~”
“ เออจ้ะๆ แม่จะไม่ไปไหนอีกแล้ว แม่ให้สัญญาว่าแม่จะไม่ทิ้งหนูไป นี่!
ไม่ต้องร้องไห้แล้วนะ หยุดร้องงอแงแล้วไปทานข้าวด้วยกันข้างในนะ”
มินฮวานยิ้มอย่างดีอกดีใจกับคำตอบ ไม่ลืมที่จะหยิบสารานุกรมติดมือมา
ด้วย คุณมินโฮที่ก้าวเท้าลงมาจากรถคันนั้นก็เดินตามหลังพวก
ข้างในโดยเร็ว
“ มากันครบแล้วใช่มั้ย ”
“ มินฮวาน!! ทานข้าวทำไมจะต้องให้พ่อคอยบอกอยู่เรื่อย เก็บสารานุกรม
ลงไปเดี๋ยวนี้เลยนะ ”
“ ฮะ~ ” มินฮวานทำหน้าหงุดหงิดกระโดดลงจากเก้าอี้ ก่อนจะย้ายที่นั่ง
ของตัวเองใหม่ คงจะเป็นอย่างที่เขาคิดไว้สินะ เมื่อผู้หญิงคนนั้นเดินเข้า
มาเขาก็จัดการเลื่อนเก้าอี้ให้กับหล่อน ฉันซึ่งนั่งข้างคุณเชวมินโฮไปเงียบๆ
ก็ยังคงถูกประเมินด้วยสายตาคาดโทษเหมือนอย่างเคย
“โทษทีนะที่นัดพวกเธอมาทานข้าวด้วยกันที่นี่ ” ไม่มีใครกล้าปริปากพูด
อะไรทั้งนั้น ทันทีที่ท่านประธานพับหนังสือพิมพ์แล้ววางไปข้างๆ อาหาร
จานโตต่างก็ทยอยเข้ามาเสริฟ์บนโต๊ะจนเสร็จสิ้น
“ เด็กกี่ขวบแล้วล่ะ ”
“ สี่ขวบกว่าครับ ”
“ คงไม่ต้องบอกนะว่าที่ฉันนัดแกมา ต้องการจะพูดเรื่องอะไร ”
“ งั้นผมก็ไปได้ใช่มั้ยครับ ”
“ ว่าไงนะ!! ”
“ ถ้าจะเป็นเรื่องที่ผมประกาศไปในงานเลี้ยงล่ะก็ ผมขอตัวกลับ
ก่อนดีกว่า ”
“ อย่างน้อยๆแกก็ควรจะรู้จักหัดคิดซะบ้าง ”
“ เรื่องของผมพ่อจะสนใจทำไมครับ ผมเองก็เหมือนกับพ่อนั่นล่ะ แต่ผม
ไม่รู้หรอกว่าผู้หญิงคนนั้นยั่วยวนพ่อยังไง ขนาดว่าแต่งเมียครั้งสองครั้งก็ไม่
เห็นจะมีใครว่าอะไรเลยไม่ใช่รึไงครับ”
“ ฉันไม่ได้ให้แกมายอกย้อนฉันนะ!!!! ไอ้เด็กสารเลว~” เพราะเสียงแตก
กระจายบนผืนกระเบื้อง สายตาทุกๆคนหันไปทางเดียวกันหมด ก่อนที่
ฉันจะพบว่าหยดเลือดค่อยๆไหลออกจากบาดแผลและถูกซับไว้ด้วยผ้าขน
หนูผืนนั้น
“ แล้วอย่างงี้ฉันจะยกอนาคตของซองวอนให้กับแกได้ยังไง!!! ”
“ พ่อก็รู้นี่ครับ ว่าสังคมสมัยนี้มันเปลี่ยนไปมากแล้ว การแต่งงานครั้ง
ที่สองของผมมันก็ไม่ได้มีผลกระทบต่อภาคธุรกิจสักเท่าไหร่ แต่ถึงคนใน
แวดวงธุรกิจเขาจะรู้ ยังไงพวกเขาก็ไม่สนใจมันหรอกครับ นอกจากว่า
บริษัทนั้นๆจะเติบโตขึ้นหรือว่าล้มทลายลงไม่เป็นท่า ”
“ นี่ฮะ พลาสเตอร์ยา ”
“ อ้อ~ขอบใจนะ ”
“ แกควรจะเชื่อฟังลีโบยองแม่เลี้ยงของแกบ้างนะ แม่มินโฮจะเสื่อมเสีย
ชื่อเสียงแค่ไหนหากข่าวนี้แพร่กระจายออกไป ”
“ หนูคิดว่าเรื่องนี้มันก็ไม่ได้โหญ่โตอะไรนักหรอกค่ะ คุณพ่ออย่าโกรธ
จงฮยอนเลยนะคะ ตอนนี้เพื่อธุรกิจของซองวอน ยังไงเราไม่ควรจะเอา
เรื่องพวกนี้มามีอิทธิพลต่อการทำงานจะดีกว่า ”
“ นั่นสินะครับ ก็แค่ข่าวว่าใครจะเป็นผู้สืบทอดกิจการ พ่อหม้ายลูกติด
คิมจงฮยอน หรือจะเป็นลีโบยองแม่เลี้ยงสาวสวยของผมที่ทำทุกอย่าง
เพื่อลูกชายของเธอเอง”
“ ไม่ต้องตาม!! ไอ้สารเลวนั้น ปล่อยมันไปซะ ” พูดจบท่านประธานก็
เดินไปอีกทาง ฉันที่เตรียมจะลุกออกไปเช่นเดียวกันกับคุณจงฮยอน
ได้แต่ก้มหน้านิ่งอย่างคนรู้สึกผิด และเพราะมืออุ่นๆเลยรู้สึกโล่งใจขึ้น
มาหน่อย
“ ไม่เป็นไรนะ เธอไม่ได้เป็นฝ่ายผิดซะหน่อย ท่านก็แค่เป็นห่วงจงฮยอน
ไม่มีพ่อคนไหนที่ไม่อยากปกป้องลูกตัวเองหรอกนะคีซุน รีบหาอะไรตุน
ท้องก่อนเถอะ ทานเสร็จแล้วเดี๋ยวฉันจะขับรถไปส่ง อาหารอร่อยพวก
นี้ถ้าไม่ทานน่าเสียดายแย่ ” แล้วผู้หญิงคนหนึ่งก็พยักหน้าให้กับเจ้า
ของรอยยิ้มแสนหวานนั่น และนั่งทานอาหารกลางวันร่วมกันกับเขาต่อ
มินฮวานรับไก่ทอดจากคุณมินโฮนั่งทานอย่างเอร็ดอร่อย ไม่สนใจกับ
เรื่องที่เกิดแม้เพียงเล็กน้อย นี่ฉันเป็นอะไรไปแล้ว!! ทำไมถึงได้ตอบ
ตกลงง่ายๆอย่างงี้ล่ะ O_O!!!!
*****************
“ โปรดให้สิทธิแก่เรา!! ไม่เอานายทุน!! จงยุติการเลิกจ้าง!!”
“ ไม่เอานายทุน ! โปรดให้สิทธิแก่เรา ”
“ ท่านครับ ดูเหมือนว่าตอนนี้เรื่องมันจะบานปลายกันใหญ่แล้วนะครับท่าน”
“ ให้ตายสิ พวกมันรู้ได้ยังไง เรื่องนายทุน ฉันว่าฉันยังไม่ได้ให้นังเด็กนั่น
ลงมือจัดการกับพวกมันเลย ”
“ ไม่ทราบครับ ผมคิดว่าท่านประธานก็ไม่รู้ไม่เห็นเรื่องนี้ด้วยเหมือนกัน นี่
อย่าบอกนะครับว่าท่านจะลงไปเจรจาแทน กับท่านหัวหน้าเชวดองซูข้างล่าง
นั่น ”
พนักงานจำนวนหนึ่งต่างชูป้ายขึ้นเหนือศรีษะ ทำให้การประท้วงเจรจาต่อ
รองยืดเยื้อไปนานพอสมควร ยามรักษาการด้านล่างพากันยืนประจันหน้ากับ
กลุ่มผู้ชุมนุมหน้าบริษัท ฉันเลยอาศัยช่วงชุลมุนไม่มีใครจับสังเกตุเห็นถอด
คอนเท็คเลนส์ออก สวมเสื้อไหมพรมลายทางใส่เสื้อสีดำแขนยาวคลุมทับ
คล้องบัตรพนักงานของซองวอนเพื่อค้นหาพินัยกรรมและเอกสารการทุจริตต่อ
อีกครั้งหนึ่ง
“ อยู่ไหนนะ ว่าเคยหาตรงนี้นี่ โอ๊ะนี่อะไร แฟ้มกำมะหยี่เล่มหนา ลายเซ็นต์
ผู้รับมรดกคิมจงฮยอน พินัยกรรมเล่มนี้อยู่ในมือเธอได้ไง!!! ”
“ เฮ้ย!! คนส่งเอกสาร ฉันไม่เคยเห็นหน้าแกเลย ท่านผ.อไม่อยู่
แกเข้าไปไม่ได้ ”
“ พอดีท่านผ.อ ให้ผมมาเอาเอกสารไปส่งนะครับ”
“ แกมีใบอนุญาตมั้ย ”
“ ใบอนุญาตอย่างงั้นหรือ….ผมไม่มีครับ”
“ ออกไปซะ ที่นี่ไม่ใช่ที่ๆคนอย่างแกจะเข้าไปเมื่อไหร่ก็ได้ ”
“ ถึงจะไม่มีใบอนุญาต ถ้าเป็นผมล่ะคุณจะว่ายังไง”
“ คุณหนูมินโฮ!! ”
ทันใดนั้นการต่อสู้ก็เกิดขึ้นระหว่างคนพวกนั้นและสมุนของแม่เลี้ยง
ฉันตัดสินใจหยิบพินัยกรรมใส่ไว้ในเสื้อคลุมเป็นการด่วน ก่อนจะวิ่งวุ่น
หาที่หลบซ่อนอย่างหวุดหวิด ไม่คิดจะมีสักที่ให้หลบเลยรึไงกันเนี่ย!!
เดี๋ยวก่อนนะ…เมื่อกี้ใครเรียกใครว่าไงO_O…..
“ …แล้วแกจะอยากรู้ไปทำไมว่ะไอ้เวรระยำ!!!!! ฉันน่าจะจับแก
ถ่วงน้ำตั้งแต่ตอนนั้นนะ ฝีมือแกใช่มั้ยที่ลงมือเปลี่ยนสินค้าไปที่อื่น
แทนที่จะส่งไปให้กับคนญี่ปุ่น เป็นแกใช่มั้ยไอ้ชั่ว!เอ้ย ”
“ ทท…ท่าน ปล่อยผมเถอะครับ!!!! ”
“ พวกเราไม่ฆ่าแกหรอก ขืนคิดไม่ซื่อกับเราเมื่อไหร่ฉันก็อาจจะยิงแกตรง
นี้ไปเลยก็ได้ ก่อนอื่นคงต้องพากันไปสอบปากคำที่โรงพักคงเข้าท่าดีเหมือน
กัน เพราะตอนนี้เเกต้องไปกับฉันก่อน "
ครืด!!!!! และแล้วประตูด้านหน้าก็เปิดออกกระทัน ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่
ภายใต้ชุดแจ็กเก็ตสีดำสนิท หน้ำซ้ำชายคนนั้นยังปิดหน้าตาตัวเองไว้ ยืน
ตัวแข็งค้างจนปืนกระบอกสีดำมันวาวร่วงหล่นลงบนพื้นไปในที่สุด
“ อะไรกัน!! ช่างไม่รักตัวกลัวตายจังเลยนะ คุณคิมคีย์บอม!!!”
“ นั่นพี่ชายคิมคีซุนไม่ใช่หรือ เขาเข้ามาในนี้ได้ยังไงเนี่ย”
ฉันว่าแบบนี้มันน่าตกใจยิ่งกว่าถูกคนของแม่เลี้ยงจับเอาได้ซะอีก ได้แต่ร้องไห้
คร่ำครวญอยู่ในใจ ขณะที่ดวงตาแข็งกร้าวหลังผ้าสีดำผืนนั้นกลับมองมาด้วย
ความสงสัย
“ เชวมินโฮ นายช่วยเอาไอ้เลวนี้ออกไปไกลหูไกลตาฉันทีสิ พอดีว่าฉัน
อยากจะคุยอะไรกับพี่เมียสักหน่อย..”
“ งั้นฉันกับแทมินจะไปกันก่อน แล้วตามไปล่ะ”
“ มินโฮ!! แล้วเรื่องนี้ขอร้องล่ะนะ ห้ามบอกคีซุนเป็นอันขาดเลย”
สองคนนี้ดีกันตั้งแต่เมื่อไหร่ พอได้เห็นพวกเขาสองคนจับมือและยิ้มให้กัน
แบบนั้น แทมินผู้ที่ได้แต่มองแววตาปลาบปลื้มปิติ ยินดี แล้วทำไม...ถึงมี
แค่ฉันที่รู้สึกไม่ดีอยู่คนเดียวล่ะ..
“ มองตาเป็นมันเลย หึ! ยังไงเขาก็ไม่สนใจคุณหรอก ”
“ นี่คุณจงฮยอน!! ”
“ ไม่กลัวถูกจับรึไง นี่ถ้าผมไม่บังเอิญขึ้นมาที่นี่ล่ะก็นะ คุณก็ไม่รอดแน่ๆ”
“ จะบอกให้ผมขอบคุณคุณรึไง ฝันไปเถอะ ”
“ เอาเถอะ! เห็นว่าเป็นพี่เมียหรอกเลยยอม นึกไงถึงได้เข้ามาในห้องนี้น่ะ ”
“ แล้วทีคุณล่ะ“
“ คุณจะตอบผมดีๆ…” ไม่ทันได้พูดจบ ข้อมือของเขาก็ฉุดฉันไปยังหลัง
ผ้าม่านสีครีมภายในห้อง ฉันถลึงตามองและตั้งท่าจะขัดขืน เพราะเสียง
ที่ดังใกล้เข้ามานั้นเอง จึงทำให้เราต่างก็ปิดปากเงียบด้วยกันทั้งคู่
“ คุณไม่ได้บอกเรื่องนี้กับใครหรอกใช่มั้ย”
“มันไม่ใช่ความผิดฉัน คุณจะโทษฉันก็ไม่ได้หรอก ฉันอาจจะยังไม่ได้บอกให้นัง
เด็กนั้นลงมือจัดการเรื่องนี้ให้เด็ดขาดก็ได้ พวกมันถึงพากันมาประท้วงให้วุ่นวาย
แบบนี้ ”
“ สงสัยคุณคงต้องบอกให้ลูกสะใภ้ของคุณเข้าใจอะไรสักอย่างแล้วล่ะ!! ”
“ ท่านครับ!! ท่านประธานปาร์คขอพบคุณนายที่ห้องด่วน ”
“ ว่าไงนะ ตอนนี้เลยรึไง ”
“ ครับคุณนาย ” สิบห้านาทีให้หลัง ฉันก็พบว่าดวงตาของเขามันกำลัง
แดงกร่ำ หลังจากได้ยินและได้รับรู้อะไรไป ฉันกลับไม่กล้าที่จะเงยหน้า
มองเขาตรงๆได้เลยสักนิดเดียว
“ เงยหน้าขึ้น!”
“ ประสาทรึไง”
“ ผมบอกให้คุณเงยหน้าขึ้นมาเดี๋ยวนี้!”
“ แล้วทำไมผมต้องเงยหน้ามองคุณด้วยฮะ หลบไป!! ”
“ คุณหยุดโกหกผมซะทีเถอะ!! ” แค่ฟังน้ำเสียงเอาก็รู้ว่าเขา
กำลังโกรธฉัน เอามากๆ เรื่องบางเรื่องยังต้องยอมพ่ายแพ้ให้
กับคำโป้ปดที่ไม่สามารถอยู่ได้ตลอดรอดฝั่ง สุดท้ายตัวฉันก็ยัง
ถูกเขาจับได้คาหนังคาเขาอยู่ดีอีกนั่นหล่ะ...
ความคิดเห็น