ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    SHinee JONGKEY INNOCENT XX รักร้ายคุณชายตัวเเสบ18+ part I

    ลำดับตอนที่ #14 : CHAPTER 11 INNOCENT ( ผู้หญิงโง่ๆ…)

    • อัปเดตล่าสุด 23 พ.ย. 54


    CHAPTER 11   INNOCENT  (  ผู้หญิงโง่ๆ…) 

    “ ตอนนี้บริษัทก็ยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่นักหรอกครับ    จะมีบ้างบริษัทเท่านั้นที่พวกเขายอมเซ้นต์สัญญาด้วย

    ช่วงนี้ราคาไวน์ข้าวค่อนข้างจะแพงกว่าเดิม และพนักงานก็หมดกำลังใจที่ เงินเดือนของพวกเขา

    ลดลงเหลือครึ่งหนึ่ง 

     

     

    ยังไงคุณหนู..ต้องผ่านมันไปได้  ไม่มีอะไรยากเกินความสามารถของเราหรอกนะคะ !” 

     

     

    แต่ผมเหนื่อยแทยอน  รู้มั้ยว่าพนักงานในบริษัท  ที่มีตำแหน่งหน้าที่การงานที่ดีได้เพราะใคร  เป็นผมนั่นแหละที่คอยช่วยเหลือพวกเขา   แต่ตอนนี้มีใครช่วยผมได้บ้างล่ะ    

     

     

     

    ช่างเขาเถอะค่ะคุณหนู  ยังไงคนที่ทำอะไรดีหรือไม่ดีย่อมรู้แก่ใจอยู่แล้ว  ทำดีเข้าไว้ ทำดีโดยไม่หวังสิ่งอื่น  เท่านี้มันก็น่าจะมีความสุขพอแล้วไม่ใช่เหรอ   คุณจงฮยอนเปรียบเสมือนดอกกุหลาบ ที่มีหนามแหลมคมไว้สำหรับใช้ป้องกัน     ภายนอกอาจดูแข็งแกร่งหากทว่าข้างในนั้นมันช่างเปราะบางยิ่งนัก 

     

     

     

       ฉันไม่รู้จะพูดอะไรดี นอกเสียจากว่าอยากจะร้องไห้มากกว่า  ผู้ชายคนนี้มักจะว่าฉัน หรือไม่ก็หาเรื่องแกล้งกันบ้างล่ะ   คิมจงฮยอนที่ฉันเคยรู้จัก กลับเป็นเด็กน้อยผู้ที่แสนจะอ่อนโยนไปซะได้  เขาช่างเป็นคนที่เก็บความรู้สึกได้ดีจริงๆเลย  .... 

     

     

    ไอ้คุณชายหน้าเกรียน! คืนนี้แกกับฉันต้องนอนห้องเดียวกันเข้าใจป่ะ 

     

     

     

    “ ผมเป็นพวกที่ชอบรักความสะอาด  จะให้นอนห้องสกปรกๆอย่างกับรังหนูเนี่ย   ผมนอนไม่ได้หรอก   

     คืนนี้ฉันจะนอนหลับได้อย่างสบายใจรึเปล่าเนี่ย  เสียงเอะอะโวยวายของพี่ดังมาถึงห้องครัวข้างล่าง  
    บ้าเอ๊ย
    !  ถ้าไม่ขึ้นไปดู เห็นทีจะไม่ได้ซะแล้ว….  -_-^^^  

     

     

    “ รังหนูเหรอ! นี่อย่ามาทำเป็นเรื่องมาก  นอนไม่ได้แกก็ออกไปนอนนอกบ้านเลยไป     ดูเหมือนว่าพี่ชายฉันจะกักตัวเขาเอาไว้   

     

     

    คุณคิดว่าตัวเองอายุเท่าไหร่   ผมเป็นใครคุณควรจะพูดจากับผมให้มันดีๆหน่อยนะ 

     

     

     

    ไอ้บ้านี่  ไปต่อยกันข้างนอกเลยมา! ” 

     

     

     

     นั่นพี่จะทำอะไรเขา

     

     

     

    “ ก็มันไม่ยอมนอนห้องนี้น่ะสิ   ทำเป็นเรื่องมาก  แกอย่าคิดสะเออข้ามไปห้องน้องสาวฉันเข้าใจมะ” 

     

     

     

     พี่หยุดพูดจาทุเรศๆซักทีเถอะ  คิดอะไรไม่เห็นจะเข้าท่า   คุณจงฮยอนเขาแพ้ฝุ่น พี่ยังจะให้เขานอนห้องพี่งั้นเหรอ  คุณจงฮยอนคืนนี้ฉันให้คุณนอนห้องฉันนะ ” 

     

     

    “ อ้าว  แล้วเธอล่ะ ”

     

     

     

    “ คืนนี้ฉันจะนอนห้องแม่ฉัน ”

     

     

     

    “ เอางั้นก็ได้    ทันใดนั้นคุณจงฮยอนก็ส่งยิ้มหวาน ขยิบตาข้างหนึ่งให้ฉัน  เดินหอบผ้าห่มและที่นอนไปนอกห้องอย่างไม่รอช้า 

     

     

     

       ฉันหยิบฟูกนอนออกมาจากตู้ คว้าหมอนกับผ้าห่มเพื่อเตรียมจะไปนอนในห้องแม่     ทว่าคุณจงฮยอนกลับคว้าข้อมือฉันไว้  ดึงหมอนและผ้าห่มโยนกลับไปที่เดิม  

     

     

      ไม่ต้องไปหรอก   นอนด้วยกันที่นี่แหละ ”

     

     

     

      พรุ่งนี้เราต้องกลับโซลแต่เช้านะ  คุณนอนห้องนี้ไปเถอะ ” 

     

     

     

    แต่ฉันไม่อยากนอนคนเดียว    

     

     

     

    พูดเป็นเล่น คุณไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ  นอนคนเดียวบนเตียงสบายดีออก     

     

     

     

    “ แล้วเธอไม่ชอบที่ได้นอนกอดหลังฉันรึไง   มาเถอะน่า ”   เขาพูดอย่างกับว่าเขารู้ทางฉัน   ขณะดึงฉันขึ้นมานอนบนเตียงด้วย     พอเขาเผลอฉันก็ปูที่นอนมันข้างล่าง    ทันใดนั้นคุณจงฮยอนแทรกตัวเข้ามาในผ้าห่มผืนเดียวกับฉัน      

     

     

    คุณจะมาเบียดฉันทำไม ไปนอนบนนั้นดีแล้ว    ฉันลุกขึ้นนั่งด้วยความตกใจ

     

     

     

    “ งั้นเธอก็ไปนอนบนเตียงกับฉันสิ  อย่าห่วงไปเลย ฉันจะมาคิดเรื่องนอนกับเธอที่นี่ได้ยังไง พี่ชายเธอ

    เล่นงานฉันตายเลย  เขาเอ่ยเขยิบตัวติดพลางส่งสายตาหวานๆราวกับเจ้าแมวจอมแสบในหนังเรื่อง

    เชร็ค 2นั่น  แล้วคืนนั้น  ฉันก็ยอมใจอ่อนขึ้นไปนอนบนเตียง ซ้ำยังนอนน้ำลายยืดหกใส่เสื้อเขาอีก

    ต่างหาก -.,-....

     

     

     

       ความหวาดกลัวเกาะกลุ่มรวมกัน   ฉันนั่งกัดเล็บมาตลอดทางกลับมาโซล  หวั่นวิตกกับเรื่องพินัยกรรม

    มากกว่าเจ้านายฉันซะอีก  พินัยกรรมนั่นมันเกี่ยวอะไรกับฉันกันแน่  ต้องรู้ได้ว่ามันอยู่ที่ไหน! 

     

      คิมคีซุน   เธอนั่งเฉยๆไม่ได้รึไง ” 

     

     

     

      ฉันจะบ้าตายเพราะ ไอ้พินัยกรรมนั่น   แม่ฉันป่วยเป็นมะเร็งให้ฉันมาดูแลคุณ    อาา ฉันไม่อยากคิดแล้ว  ไม่อยากคิด!    ฉันเอามือกุมขมับพลางกระแทกศีรษะกับกระจกด้านข้าง เขาซึ่งเอาแต่นั่งขับรถอยู่นาน ถอนหายใจออกมาอย่างหนักหน่วง

     

     

     

     เธอจะให้ฉันทำยังไง   ฮือ  ที่สำคัญเราต้องรู้ให้ได้ว่าพินัยกรรมฉบับนั้นอยู่ที่ไหน   ทำไมฉันถึงชะล่าใจได้ขนาดนี้นะ ”

     

     

    “ คุณพอจะรู้ใช่มั้ยว่าเป็นฝีมือใคร   เขาจะรู้เรื่องพินัยกรรมนั่นรึเปล่า    

     

     

     

      จะบ้าตายคงไม่ต้องทำอะไรกินดีหรอก!  ไม่เคยจำเลยรึไง ” 

     

     

     

      คุณ!อย่ามาพูดจาตะคอกกับฉันนะ ”  

     

     

     

      ….ลีโบยอง   ยัยปีศาจนั่นไงล่ะที่ฉันสงสัย ”  =_=  

     

     

     

    บ้านหรูหราหลังโตแม้จะดูเงียบสงบ   แต่ฉันกลับรู้สึกว่ารอบๆกายฉัน  ช่างไม่น่าไว้วางใจ   กว่าจะกลับมา

    ถึง  คนในบ้านก็เข้านอนกันหมดแล้ว    สองวันที่ฉันไปแดกู  ฉันปิดโทรศัพท์มือถือและไม่ได้ติดต่อกับใคร

    เลย   กลับมาถึงห้องฉันก็รีบค้นหาที่ชาร์ตแบตแล้วเปิดเครื่อง

     

     

    ข้อความจาก  เจ้านายบาโร    ฉันกดปุ่มดูข้อความที่ฉันได้รับเป็นข้อความแรก

     

     

    นายอยู่ไหน….รีบๆกลับมานะ >_<  

     

     

      อาาา  นี่นายไม่ได้เอาโทรศัพท์ไปด้วยสินะ    ฉันว่าแล้ว.. -_-^

     

     

    คิมคีย์บอม  ฉันจะทำยังไงดี  ถ้าหากว่า ช่างเถอะ  อ่านข้อความฉันแล้วโทรกลับด้วยนะ ฉันเตรียมตัวเข้านอนกะว่าจะโทรคุณมินโฮพรุ่งนี้เช้า   คำถามในหัวมันช่างมีมากมายก่ายกองนัก  ข้อความที่เขาส่งแต่ละอัน แต่ไอ้ประโยคหลังๆนี่   ฉันไม่รู้จริงว่าเขาตั้งใจจะเขียนว่าอะไร       

     

     

     

    “ ขอบใจนะ  สำหรับน้ำชา ”    คุณมินโฮเอ่ยทักฉัน  ขณะลูบขนฟูฟ่องเจ้าบาโรขึ้นๆลงๆอยู่ในสวน   เขาเล่นกับมันได้ไม่นาน สักพักก็เงยหน้าส่งยิ้มให้  

     

     

    “ หายไปตั้งสองวัน   โทรศัพท์ก็ไม่ยอมรับเลย แต่ว่าฉันจะไม่โกรธนายเพราะเรื่องแค่นี้หรอก  ไปเถอะ  วันนี้มีเรียนกี่โมงฉันไปส่ง ”

     

     

     

    “ ไม่ต้องหรอกฮะ ผมนั่งรถโดยสารไปเองดีกว่า ฮันกุกเองก็ไม่ได้ไกลจากนี่เท่าไรนักหรอก ” 

     

     

     

    “ จะไปส่งก็ไม่เอา เกรงใจฉันใช่เปล่า  อย่าลืมสิว่าพวกเราเคยดื่มด้วยกัน  มิตรภาพฉันกับนายมันแน่นเเฟ้นแค่ไหน  ฉันกลับชอบซะอีกนะที่มีเพื่อนอย่างนายน่ะ    

     

     

     

      ใช่ ถึงจะรู้จักกันได้ไม่นาน เจ้านายบาโรก็เป็นคนที่ดื่มเก่งสุดยอด อ้อ และก็..รู้ใจคนอื่นได้ดีอีกด้วย  เรื่องเกรงอกเกรงใจคนเนี่ยผมไม่มีหรอกฮะ  สำหรับผมกับคุณ กลัวว่าคนอื่นจะมองไม่ดี ” 

     

     

      เพราะแทมินสินะ   แทมินไม่ใช่คนอย่างงั้นหรอก ” 

     

     

     

    “ จะยังไงก็ช่าง  คุณไม่กลัวแต่ผมกลัว~  ผมก็มีจรรยาบรรณความเป็นมนุษย์นะ และไม่ชอบแย่งแฟน

    คนอื่นด้วย 

     

     

    “ ฉันเคยบอกนายเหรอ  หา   สเปคฉันสูงนะไม่รู้เหรอ ผู้ชายผิวขาวๆอม ชมพูๆ  ตาโตๆหุ่นเล็กๆเอวคอด หน้าตาสวยอย่างกับผู้หญิง  นั่นล่ะสเปคฉันเลย   อย่างนายเนี่ยนะเลิกเป็นไอ้บ้าหลงตัวเองซักทีเหอะ  ขอฉันดื่มน้ำชาอึกหนึ่งก่อน..เดี๋ยวไปส่ง”  

     

     

        นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันรู้ว่าเขา  ชอบฟังเพลงแดนซ์มันส์ๆฝั่งอเมริกา    ฉันนั่งเงียบหน้าตาตื่น   มาตลอดทาง เพราะเสียงเพลงแดนซ์ดังกระหึ่มภายในรถที่พอฟัง   ฉันก็นึกถึงไนท์คลับแถวฮงแด  -.,-

     

     

    “ ฉันรักเกาหลี~ ฟังเพลงเกาหลี~  เกาหลีสู้ๆ เกาหลีจงเจริญ~ เกาหลีของฉัน  วู้วว์ๆ ”  ฉันตบมือแพละๆ เอียงศีรษะซ้ายขวาไปอย่างช้าๆ ชูกำปั้นขึ้นมาข้างหนึ่ง   คุณมินโฮอยู่ในท่าขับ  เบรครถดังเอี้ยดกระทันหัน

     

     

       นั่นเพลงบ้าอะไร  =_=    

     

     

     

    “ ไม่รู้สิ..  ไม่มีชื่อเพลงหรอก ”

     

     

     

    “ ปัญญาอ่อน!

     

     

     

     ดีกว่าคุณนะ ฟังเพลงอะไรไม่รู้ผมฟังไม่ออก  เป็นคนเกาหลีฟังเพลงเกาหลีผิดตรงไหน อิๆ     

     

     

     

      ลงไปจากรถฉันซะ     ฉันยิ้มออกมาจนน้ำตาแทบเล็ด  หันไปมองข้างทางอีกครั้ง และพบว่ารถจอดอยู่ข้างมหาลัยฮันกุกเรียบร้อยแล้ว    ฉันหวาดผวากับเสียงขบเคี้ยวเคี่ยวฟันดังกร่อดของคุณมินโฮอยู่
    ข้างหลังฉันไม่น้อย   รีบๆเปิดประตูลงจากรถอย่างไม่รอช้า   วิ่งตามจุงกูเพื่อนที่ฉันไม่ค่อยได้เจอเขา  สะพายกระเป๋าหนังใบสีน้ำตาลเข้มไว้บนไหล่วิ่งผ่านประตูรั้วเข้ามหาลัยด้วยความรีบเร่ง.....   

     

     

      

     คุณซอจูฮยอน เธอมาในชุดเดรสกระโปรงสีขาวตัวยาวคลุมเข่า   เส้นผมดัดเป็นลอนยาว พัดไปตามกระแสลมอ่อนๆ    ใบหน้าแสนจะอ่อนโยนราวกับเด็กเเรกเกิด ทำให้รอยยิ้มอ่อนหวานของผู้หญิงคนนี้ช่างสวยจับใจ เธอรับประทานอาหารมื้อเย็นร่วมกับท่านประธาน   แม้ว่าฉันจะทำงานอยู่ข้างนอกก็อดมองผู้หญิงสวยๆคนนั้นไม่ได้

     

     

       ผมกลับมาแล้ว      เสียงคุ้นหู ทำให้คนสองคนภายในห้องอาหารกินอาหารช้าลงโดยเฉพาะเธอ

     

     

     

    “ มากินข้าวด้วยกันสิ ” 

     

     

     

    “ ผมกินข้างนอกมาแล้วเธอ..มาที่นี่ทำไม ” 

     

     

     

    ….

     

     

    “ ใครใช้ให้แกพูดกับหนูซอฮยอนอย่างงั้น   

     

     

     

    “ ผมไม่สน  กลับไปซะ     

     

     

     

      พี่ทำงี้ได้ไง  คุณลุงกำลังแย่นะ  พี่มันใจร้ายที่สุดในโลกรู้ตัวมั้ย    คุณลุงคะถ้าคุณลุงไม่สบาย คุณลุงก็โทรเรียกฉันได้นะค่ะ  ฉันมีงานต้องกลับไปทำด่วน   ลาล่ะค่ะ ”   คุณจงฮยอนมีสีหน้าตกใจเล็กน้อย หันไปมองพ่อของเขาด้วยความรวดเร็ว    สีหน้าของท่านประธานเหนื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัด  ท่านนั่งกินไปได้ไม่กี่คำก็ลุกจากโต๊ะกระทันหัน     

     

     

     มีเรื่องอะไร  

     

     

     

      รีบๆไปอาบน้ำนอนเถอะ  พรุ่งนี้เรามีประชุมตอนเก้า 

     

     

     

    “ พ่อบ้านคัง!   เสียงตวาดดังกึกก้องภายในห้องอาหาร   แม้แต่ฉันเองก็ยังตกใจ  

     

     

     

     “ เอ่อ  พอดีว่า ”      พ่อบ้านคังออกอาการละล้าละลัง ให้กับสายตาคมจ้องมองมาที่เขาอย่าง

    ห้ามปราม

     

     

     

    “ หยุดเถอะ  พ่อบ้านคัง ถ้าไม่มีอะไรเชิญออกไปได้แล้ว ”

     

     

     

    “ แม่มักจะคอยพูดเสมอว่าถึงผมจะเกลียดคุณมากแค่ไหน ยังไงคุณก็คือพ่อของผม  รู้มั้ยว่ามันยาก
    มากเลย
    ที่ผมจะอดเป็นห่วงคุณไม่ได้  ที่ซอฮยอนพูดน่ะมันเป็นเรื่องจริงใช่มั้ย ”   

     

     

     

      ได้โปรด..อย่ายกโทษให้กับพ่อที่ไม่เอาไหนเลยนะจงฮยอน แกไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอก  สิ่งสำคัญตอนนี้คือ ซองวอน กรุ๊ป 

     

     

     

      ซองวอนกรุ๊ปทำไม! 

     

     

     

      ซองวอนกรุ๊ปกำลังจะโดนยึด..นอกจากจะไม่มีออร์เดอร์เข้ามาในเย็นนี้  ก็ไม่มีวัตถุดิบพอที่จะผลิตได
    ้อีกแล้ว   บริษัทรายใหญ่ก็ยกเลิกสัญญาไปแล้วด้วย  คุณตาของแกก็กำลังป่วย ”   แววตาคู่นั่นดูเลื่อน
    ลอย จะมีเรื่องไหนที่ร้ายแรงไปกว่านี้อีกมั้ย   ฉันควรจะทำหน้าแบบไหนดีนะ   ตกใจ   หวาดกลัว 
    หรือว่าจะร้องไห้ดี
          

     

     

     

    ความเศร้า  และ ความเจ็บปวด  เข้าปกคลุมพื้นที่ในหัวใจฉันไปชั่วขณะ  เสียงร้องไห้ดังระงมไปทั่วห้อง

    นอนของเขา  ไหล่กว้างๆมันกำลังไหวสั่น  เขานั่งก้มหน้ายกมือกุมศีรษะราวกับไม่อยากรับรู้สิ่งใด  ฉันพยายามบังคับไม่ให้น้ำตาของฉันต้องไหลตามไปด้วย     นั่งลงข้างๆโผล่เข้ากอดรัดเขาแนบแน่น

     

     

     

      ….เจ้านายของฉัน เจ็บปวดมากขนาดนี้เลยเหรอ อย่าร้องไห้นะฉันเองก็เสียใจไม่แพ้คุณหรอก   คุณจงฮยอนที่ฉันรู้จัก ไม่ได้เป็นแบบนี้สักหน่อย    คนที่กล้าหาญทะเยอทะยาน ชอบวางอำนาจกับฉัน 
    ไปไหนแล้วนะ ”  

     

     

     

    “ ฉันไม่รู้..  ไม่รู้เหมือนกัน ฉันเสียใจจริงๆฮือ~ ทั้งหมดมันเป็นเพราะฉัน  เพราะฉันทุกคนถึงได้เป็นแบบนี้..ฮือ~

     

     

     

    “ ไม่ใช่นะ  มันไม่ใช่ความผิดของคุณซะหน่อย       

     

     

    “ ทำอะไรไม่ได้เลย   หลักฐานที่ว่าเธอทำมันก็ไม่มีด้วย  ฉันจะฆ่าผู้หญิงคนนั้นด้วยน้ำมือฉันดีมั้ยนะ!      น้ำเสียงของเขาเหี้ยมเกรี้ยมขึ้นมาทันใด   ฉันผละตัวออกห่าง ดวงตาคู่สวยคู่นั้น โหดเหี้ยมขึ้นมาในพริบตา  

     

     

         สงสัยว่าเราสองคนคงต้องเลื่อนวันเข้าไปอยู่อพาร์ทเม้นต์ด้วยกันออกไปก่อน แม้ว่าจะขนของไปหมด
    แล้วก็ตาม  แต่สถานการณ์เช่นนี้ไม่ควรจะนั่งนิ่งเฉยได้อยู่   คุณนายลีโบยองเธอมันนังปีศาจเห็นๆ เธอหายหน้าไปหลายวัน พอกลับมาเธอก็ยังแสดงละครได้ยอดเยี่ยม

     

     

    “ เป็นฝีมือคุณอีกแล้วใช่มั้ย”   

     

     

    “ ฉันไม่รู้  มันไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน   ซองวอนกรุ๊ปจะเป็นยังไงฉันไม่รู้    ในเมื่อไอ้เด็กเหลือขออย่างแก
    ทำให้บริษัทต้องพังลง  แกต้องเป็นคนรับผิดชอบเรื่องทั้งหมดเข้าใจมั้ย
    ! 

     

     

      พูดง่ายจังเลยนะ  ไม่สนใจว่าซองวอนกรุ๊ปจะเป็นตายร้ายดียังไง   ผู้บริหารระดับซีอีโอ  ฮึ!แมร่งโคตรจอมปลอม! 

     

     

      ต้องการจะพูดแบบนี้ใช่มั้ย   ได้!  จำได้มั้ยที่เธอพูดกับฉันว่ายังไง อีกหน่อย ซองวอน กรุ๊ป ก็จะตกเป็นของผมในไม่ช้า  แต่ดูเหมือนว่านั่นคงจะไม่ใช่ฉันแล้วล่ะนะจงฮยอน ”    ลำคอฉันมันกลับตีบตันไปหมด  พูดอะไรก็ไม่ได้  เมื่อเป็นแค่คนอาศัยและมาที่นี่เพื่อดูแลเขาเท่านั้น  ฉันกลับไม่ได้ทำอะไรเพื่อเขาเลยสักอย่าง   ผู้หญิงคนนี้  ช่างโง่เง่าอะไรอย่างงี้นะ..          

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×