ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : [SF] Happy New Year
SF : Happy New Year
Couple : Minho x Jonghyun
Rate : PG-13
Writer : tontaan
Talk : ฟิคต้อนรับปีใหม่จ้า แต่งไว้นานแล้วแต่เพิ่งมีโอกาสได้ลง ไม่ว่ากันน้าา เนื้อหาสาระไม่มี กรุณาทำใจก่อนอ่าน 555+ ยังไงก็ฝากด้วยนะคะ ปีใหม่นี้ขอให้ทุกคนมีความสุขมากๆน้า
29 December 2010
ท่ามกลางอากาศหนาวและหิมะที่ปกคลุมไปทั่วกรุงโซล ณ หอพัก SHINee ถ้ามองเข้าไปข้างในจะเจอกับลีดเดอร์อนยูที่กำลังดูตารางงานในปีหน้าที่ได้มาจากผู้จัดการอยู่ในมุมหนึ่งของห้องทำงาน ขยับออกมาที่ห้องนั่งเล่นจะเจอกับสองร่างของออมม่าคีย์และลูกเห็ดน้อยแทมินที่กำลังสนุกสนานกับการดูซี่รี่ย์เกาหลีเรื่องโปรด
“กลับมาแล้วคร้าบบบ” อ่า ข้างนอกหนาวมากๆเลยล่ะครับ นี่ถ้าแม่ไม่โทรมาตามให้กลับบ้านเพราะคิดถึงลูกชายเนี่ย เชื่อได้เลยครับว่าผมจะไม่ยอมออกไปจากหอพักเป็นอันขาด หนาวเป็นบ้า
“อ้าว พี่จงฮยอนกลับมาแล้วเหรอ” ออมม่าของวงทักขึ้นทั้งที่ดวงตาสวยยังคงจ้องมองที่หน้าจอทีวีอย่างตั้งใจ (เอ่อ ตั้งใจเกินไปมั้ยวะ - -;)
“พี่จงฮยอนของฝากๆขนมของน้องแทมล่ะฮะ” น้องเล็กเอ่ยขึ้นด้วยความเริงร่าที่จะได้กินขนมที่พี่รองรับปากว่าจะเอากลับมาฝากพร้อมกับเดินเข้าไปหาพี่รองที่ตอนนี้นั่งอยู่ตรงโต๊ะกินข้าวของพวกเค้า
“ฮะๆ พี่เอาขนมมาฝากแทมินเยอะแยะเลยล่ะ มาดูสิ” เจ้าเห็ดน้อยดีใจใหญ่เลยล่ะครับที่เห็นถุงขนมถุงใหญ่ ผมว่าปล่อยแทมินให้อยู่กับถุงขนมไปก่อนล่ะกันแล้วผมก็เดินมานั่งกับคีย์ที่โซฟาที่ห้องนั่งเล่น แล้วมองไปรอบๆหอพักก็เห็นพี่อนยูกำลังนั่งดูอะไรสักอย่างอยู่ที่ห้องทำงาน ทำไมเฮียไม่ยอมปิดประตูห้องเนี่ย รึว่าเป็นห่วงเจ้าตัวแสบสองคนนี้ อย่างงี้แหละครับพี่ใหญ่คนนี้อบอุ่นเสมอ แต่ผมว่ามันมีไรแปลกๆนะครับเหมือนขาดอะไรไปสักอย่างนะ อ๋อ ผมรู้แล้ว
“คีย์ แล้วมินโฮไปไหนอ่ะ” ผมถามหาอีกหนึ่งสมาชิกของวงและเป็น เอ่อ คนรักของผมเองครับ^^
“ออกไปข้างนอกกับพี่ทงเฮหนะ มันไม่ได้บอกพี่ไว้เหรอ”
“ไม่นิ เฮ้อ เดี๋ยวพี่เอาของไปเก็บก่อนแล้วกัน” ผมเดินออกมาจากห้องนั่งเล่นแล้วคว้ากระเป๋าเดินเข้าไปในห้องนอน
อีกแล้วครับรีดเดอร์ มินโฮออกไปข้างนอกกับพี่ทงเฮอีกแล้วนี่มันสี่วันแล้วนะที่มินโฮเป็นอย่างนี้ ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองรึเปล่าแต่ผมรู้สึกว่าช่วงนี้มินโฮทำตัวห่างเหิน ไม่ค่อยมีเวลาอยู่กับผมเหมือนแต่ก่อน ไม่เข้ามาคุยและเล่นด้วยกันเหมือนอย่างเคย พูดแล้วผมก็อยากจะร้องไห้อ่ะ
“ไม่รักกันแล้วใช่มั้ยวะไอ้สูง” ได้แต่พูดกับตัวเองเบาๆพร้อมกับล้มตัวลงนอนเอาหน้าซบกับหมอนเพื่อให้หมอนซับน้ำตาที่กำลังไหลรินลงมาอาบแก้มสวย พร้อมกับเสียงสะอื้นที่เปล่งออกมากับความน้อยใจในตัวคนรัก สักพักร่างบางก็หลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อนซึ่งหารู้ไม่ว่าทุกการกระทำของตนนั้นได้อยู่ในสายตาของออมม่าคนสวยตลอดเวลา
-----------------------*********************************--------------------------
30 December 2010
วันนี้พวกเราออกมาถ่ายแบบต้อนรับปีใหม่กันครับ วันนี้อากาศดี สดใสกว่าทุกๆวัน ทุกคนก็ร่าเริงมีความสุขกับการทำงานในวันนี้ แต่คงยกเว้นผมคนนึงก็จะให้ยิ้มออกได้ไงล่ะครับก็ไอ้สูงอ่ะดิมันไม่ยอมคุยกับผมเลยอ่ะ พอผมเดินไปจะนั่งด้วยมันก็เดินไปนั่งที่อื่น ผมทำไรผิดเหรอครับ หรือว่ามันไม่รักผมแล้วจริงๆ อย่านะจงฮยอน อย่าร้องไห้นะ อดทนไว้สิ เชื่อใจมินโฮสิ เค้าก็แค่เครียดกับการทำงานไม่มีไรหรอก แกมันคิดมากไปเอง เฮ้อ แต่มันก็อดคิดไม่ได้นี่นา
ขณะที่ร่างบางกำลังคิดเรื่องของเค้ากับมินโฮอยู่คีย์ก็ได้มาเดินมายืนข้างๆพร้อมกับยื่นมือมาจับตรงไหล่เหมือนตั้งใจจะปลอบให้หายจากความเศร้า
“ไม่มีไรหรอกพี่อย่าคิดมาก ยังไงไอ้มินโฮมันก็รักพี่คนเดียวแหละ เชื่อผม” คีย์พูดปลอบผมพร้อมทั้งให้กำลังใจจนผมอดยิ้มออกมาไม่ได้ที่อย่างน้อยก็ยังมีน้องที่คอยอยู่เคียงข้างผม
“อือ ก็หวังว่ามันจะเป็นงั้นนะ” ผมได้แต่ภาวนาขอร้องกับพระเจ้าให้สิ่งที่คีย์พูดเป็นเรื่องจริงทีเถอะ อย่าให้เป็นเหมือนที่ผมคิดเลย ผมยังไม่อยากเสียเค้าไป ผมขาดเค้าไม่ได้จริงๆ ขอร้องเถอะนะครับ
“เฮ้ย กลับกันได้แล้ว” แล้วเสียงของพี่ใหญ่ก็เอ่ยเรียกสติของทั้งสองคนให้กลับมา
“ครับ/ครับ” ทั้งสองขานรับในสิ่งที่พี่ใหญ่บอกพร้อมทั้งเดินไปขึ้นรถที่รอรับพวกเค้าอยู่แล้วที่หน้าสตูดิโอ บรรยากาศในรถถูกปกคลุมไปด้วยความเงียบตอนนี้ที่นั่งด้านข้างคนขับถูกจับจองด้วยผู้จัดการวง ถัดมาเป็นลีดเดอร์เต้าหู้กับแร๊ปเปอร์ของวงมินโฮ ส่วนหลังรถนั้นมีน้องเล็กที่กำลังหลับซบอยู่ที่ไหล่ของออมม่าคีย์และคนสุดท้ายคือจงฮยอนที่นั่งข้างๆคีย์
“เฮ้ย มินโฮไม่สงสารไอ้เป็ดไงวะเล่นไรของแกเนี่ย ดูมันดิทำหน้าอย่างกับจะร้องไห้แล้วนะ” อนยูกระซิบเบาๆพอได้ยินกันสองคนกับคนตัวสูงที่อยู่ข้างๆ
“เอาน่าพี่ ช่วยผมหน่อยเถอะ” มินโฮเอ่ยตอบพร้อมกับหันหน้าไปมองคนรักที่ขณะนี้ผล็อยหลับไปเพราะความเหนื่อยอ่อนจากการทำงาน ใบหน้าสวยนั้นแลดูอิดโรยเหมือนกับคนที่พักผ่อนน้อย ไม่ใช่ว่าเค้าไม่รักพี่จงฮยอนนะ เค้ารักมากต่างหากล่ะ พี่รู้มั้ยผมต้องอดทนมากมายแค่ไหนที่จะไปเข้าไปกอดพี่เหมือนเดิม แต่ได้โปรดอย่าคิดว่าผมไม่รักพี่เลยนะ ผมรักพี่นะครับ รอผมหน่อยนะ
-----------------------**********************************-------------------------
31 December 2010
วันนี้พวกผมไม่มีงานกันล่ะครับ ได้หยุดพักผ่อนกันอยู่ที่บ้านสบายๆ ตอนนี้พี่อนยูกับคีย์กำลังเล่นเกมส์ด้วยกันอย่างเมามันส์เลยครับ ส่วนเจ้าน้องเล็กนะเหรอนั่งกินขนมพร้อมกับส่งเสียงเชียร์อยู่ข้างๆเลยล่ะ ส่วนไอ้โย่งนั้นออกไปตั้งแต่เช้าแล้วล่ะครับไม่รู้ไปไหนไม่บอกใครไว้ด้วย จะไปไหนของเค้านะ
“เฮ้ย คีย์ยิงพี่เหรอ” เสียงของลีดเดอร์ร้องโวยวายเมื่อโดนน้องชายยิงใส่ในเกมส์
“ฮ่าๆๆ พี่แพ้ผมแน่ๆล่ะ” คีย์พูดด้วยความมั่นใจว่าคราวนี้เค้าต้องเป็นฝ่ายชนะแน่
“พี่อนยูสู้ๆ พี่คีย์สู้ตาย ^^” ส่วนเจ้าตัวเล็กที่นั่งอยู่ข้างๆก็ส่งเสียงเชียร์ด้วยความน่ารักน่าเอ็นดู
“ตกลงว่าเชียร์ใครเนี่ยน้องแทม” พี่ใหญ่เอ่ยถามพร้อมลูบหัวทุยนั้นด้วยความหมั่นเขี้ยว
“นั่นสิ ตกลงคุณลูกชายจะเชียร์ใครเนี่ย” ออมม่าคีย์หันมาถามเจ้าลูกชายตัวดีของเค้าบ้าง
“เชียร์ทั้งสองคนเลยฮะ ก็แทมินเลือกไม่ถูกนี่รักพี่ทั้งสองคนเลย” พอพูดจบก็โดยพี่ทั้งสองของเค้ากอดด้วยความเอ็นดูในความน่ารักของน้องเล็ก
“แต่น้องแทมสงสารพี่จงฮยอนอ่ะ” น้องเล็กเอ่ยขึ้นหลังจากที่ผละออกมาจากอ้อมกอดของพี่ๆทั้งสองแล้ว ทำให้ทั้งสามคนต้องหันไปมองจงฮยอนที่นั่งเหม่ออยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ที่หน้าจอยังมืดสนิทไม่ได้เปิดใช้แต่อย่างใด เห็นแล้วก็อดที่จะสงสารไม่ได้
“เฮ้อ เมื่อไหร่เรื่องมันจะจบซะทีเนี่ย เห็นไอ้พี่เป็ดมันเศร้าแล้วผมใจไม่ดีเลยแฮะ” คีย์เอ่ยขึ้นมาด้วยสีหน้าเหนื่อยใจ
“เอาน่าคีย์ เดี๋ยววันนี้ไอ้มินโฮมันก็จัดการของมันเองแหละ” อนยูได้แต่บอกน้องๆของเค้าไปอย่างนั้นเพราะไม่อยากให้คิดมากไปกว่านี้ ก็จะคิดมากไปทำไมล่ะครับก็วันนี้หนะไอ้มินโฮมันมีเซอไพร์ไอ้เป็ดมัน ที่จริงมันเตรียมการมาหลายวันแล้วล่ะ มันบอกพวกผมไว้แล้วว่าให้เนี่ยนไปก่อนอย่าไปบอกไอ้เป็ดมัน แต่อย่างว่าล่ะครับเห็นเป็ดหงอยแล้วมันก็อดจะสงสารไม่ได้ ปล่อยให้เค้าเคลียร์กันเองแล้วกันเนอะ
เย็นวันนั้นสมาชิกทั้งสี่คนได้ช่วยกันจัดเตรียมของเพื่อเค้าดาวน์ต้อนรับปีใหม่กันที่หอพัก อ๊ะ ไม่สงสัยหรอกครับรีดเดอร์ว่าทำไมถึงได้มีกันสี่คนทั้งที่จริงแล้วควรจะมีห้าคนใช่มั้ยครับ ก็ไอ้สุงน่ะสิตั้งแต่ออกไปตอนเช้าตอนนี้ก็ยังไม่ยอมกลับมาเลยครับ มือถือก็ติดต่อไม่ได้ ผมเองว่าจะออกไปตามหาอยู่หลายครั้งเพราะกลัวว่าจะเป็นอะไรไป แต่ก็โดนพี่อนยูห้ามไว้ทุกครั้งด้วยคำพูดที่ว่า ‘ไอ้มินโฮมันไม่เป็นไรหรอกน่า มันดูแลตัวเองได้ไม่ต้องห่วงหรอก เดี๋ยวมันก็กลับมาเองแหละ’ ถึงพี่อนยูจะบอกว่าอย่างงั้นก็เถอะ แต่มันก็อดห่วงไม่ได้นี่ครับ ก็ผมรักเค้านี่นา ถึงแม้ว่าเค้าจะไม่ได้รักผมแล้วก็ตาม T T
หลังจากที่เตรียมของอะไรกันเสร็จทุกอย่างแล้วพวกเราก็ทานข้าวเย็นกันครับ พออิ่มแล้วก็นั่งเล่นเกมส์กันเพื่อรอเวลาที่จะเค้าดาวน์ พี่อนยูกับคีย์ยังคงเล่นเกมส์กันด้วยความสนุกสนานโดยที่มีน้องเล็กนั่งเชียร์เหมือนเดิม จะมีแต่ผมเนี่ยแหละที่แยกตัวออกมานอนคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยที่ห้องนอนของผมเอง นี่มันสามทุ่มแล้วนะไอ้สูงกลับมาซะทีสิ เฮ้อ เหนื่อยจังครับรีดเดอร์ ผมเหนื่อยจริงๆ
23.40 น.
“พี่จงฮยอนฮะ หลับรึยัง” น้องเล็กเอ่ยขึ้นมาเรียกสติผมหลังจากที่คิดอะไรไปเรื่อยๆและร้องไห้ไปหลายรอบแล้ว
“มีไรรึเปล่าหึตัวแสบ” ผมหันหน้ามาหาน้องเล็กที่ยืนอยู่ข้างเตียงของผม
“คือมีคนฝากไอ้นี่มาให้พี่หนะฮะ” น้องบอกพร้อมกับยื่นสิ่งนั้นให้กับผม มันคือโพทอิทสีชมพูที่มีข้อความอะไรบางอย่างเขียนไว้
“ของใครเหรอแทมิน” ผมเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“เค้าบอกว่าพี่อ่านแล่วก็รู้เองแหละ” แทมินบอกพร้องกับเดินออกไปจากห้องนอน พอผมได้ยินที่แทมินบอกก็รีบอ่านข้อความในโพทอิทนั้นทันที
‘ออกมาหาผมหน่อยสิครับ’
ถึงจะเป็นข้อความสั้นๆแค่นั้นแต่ผมจำมันได้ว่าเป็นลายมือของมินโฮแน่ๆ ผมอ่านแล้วรีบเดินออกจากห้องนอนเพื่อไปหาเจ้าของโพทอิทนั้นตามที่บอกถึงผมไม่รู้ว่าจะไปหาที่ไหนก็เถอะ ผมรู้แค่ว่าผมต้องไป
“ผมออกไปข้างนอกเดี๋ยวมานะครับ” ผมตะโกนบอกทุกคนขณะที่ใส่เสื้อโค้ชเตรียมตัวจะออกไปเจอกับอากาศที่หนาวเหน็บข้างนอก หลังจากนั้นก็เดินมาถึงหน้าประตูใส่รองเท้าเรียบร้อยกำลังจะเปิดประตูออกสายตาของผมก็เหลือบไปเห็นโพทอิทสีชมพูอีกแผ่นที่ติดอยู่ที่หน้าประตู
‘ผมจะรอที่สนามเด็กเล่นในสวนสาธารณะนะ รีบมาล่ะ ^^’
พอผมได้อ่านก็รีบออกไปหาด้วยความเร็วเพราะสวนสาธารณะที่ว่านั้นมันอยู่ใกล้ๆหอพักนี่เองเดินไปสิบห้านาทีก็ถึงแล้ว ผมชักจะตื่นเต้นแล้วสิครับ
---------------------------********************************------------------------
หลังจากที่จงฮยอนออกไปทั้งสามคนก็รีบโทรหาใครบางคนทันที
“ฮาโหล ไอ้มินโฮไอ้เป็ดมันออกไปแล้วนะเว่ย” เสียงพี่ใหญ่เอ่ยกรอกผ่านเครื่องมือสื่อสารเพื่อบอกข่าวกับมินโฮ
“อ่า ครับ ขอบคุณนะครับพี่” พอพูดจบมินโฮก็ตัดสายทันที
ทั้งสามคนมองหน้ากันพร้อมกับอมยิ้มให้กันอย่างมีความสุข ช่างเป็นปีใหม่ที่น่าตื่นเต้นจริงๆ ขอให้โชคดีนะเว่ยจงฮยอน ไอ้มินโฮ
--------------------------*******************************--------------------------
00.01 น.
1 January 2011
ผมเดินออกมาได้สักพักก็ถึงที่สวนสาธารณะที่ว่าแล้วครับกำลังจะเดินเข้าไปในส่วนที่เป็นสนามเด็กเล่นแต่ผมก็หันไปเห็นโพทอิทสีชมพูคุ้นตาที่ติดไปกับป้ายข้างหน้าสวนสาธารณะนั้น ผมรีบหยิมมันขึ้นมาก็ได้เห็นลายมือคุ้นตานั้นอีกผมรีบอ่านมันทันที
'ผมจะนั่งรอที่ชิงช้านะ รีบมาหาเร็วๆนะครับ'
ผมรีบวิ่งไปที่สนามเด็กเล่นทันทีหลังจากที่อ่านข้อความนั้นจบ พอมาถึงผมก็ถึงกับยืนงงเพราะตอนนี้สนามเด็กเล่นนั้นได้ถูกตกแต่งด้วยแสงไฟระยิบระยับมากมาย และที่ชิงช้าตัวนึงก็ถูกแต่งแต้มด้วยดอกไม้สวยเหมือนอยู่ในนิยายเลยล่ะ ผมรีบเดินไปที่ชิงช้าตัวนั้นทันทีแต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของคนที่เรียกผมออกมาเลยด้วยซ้ำ
แต่ เอ๊ะ เดี๋ยวก่อนนะที่ชิงช้ามีอะไรอยู่หนะ มันเป็นกระดาษแผ่นเล็กๆแผ่นหนึ่งที่มีโพทอิทสีชมพูติดอยู่ด้วย ผมหยิมมันขึ้นมาอ่านทันที
‘อ่านสิครับ’ พออ่านข้อความที่โพทอิทแล้วผมก็รีบอ่านข้อความในแผ่นกระดาษนั้นทันที
‘เหนื่อยมั้ยครับคนดีกว่าจะเดินมาถึงเนี้ย หนาวมากมั้ย อ่า ผมไม่รู้จะพูดว่าไงดี แต่ผมแค่อยากบอกว่าผมขอโทษนะครับที่หลายวันที่ผ่านมาผมทำตัวห่างเหินกับพี่ ไม่ได้ดูแลพี่เหมือนอย่างเคย แต่ได้โปรดอย่าคิดว่าผมไม่รักพี่เลยนะครับ เพราะผมไม่เคยหยุดรักพี่แม้แต่นาทีเดียว ไม่ว่าจะปีไหนๆผมก็ยังรักพี่เหมือนเดิม Happy new year ครับที่รักของผม’
เห็นข้อความนั้นแล้วผมก็อยากจะร้องไห้ซะงั้น นี่แหละครับสิ่งที่ผมรอมาหลายวัน รอเพื่อจะให้มินโฮกลับมาหาผม แล้วผมก็รู้สึกได้ถึงแรงกอดรัดจากด้านหลังของผม อ้อมกอดที่คุ้นเคยและอบอุ่นพร้อมกับเสียงกระซิบแผ่วเบาข้างหูของผม
“Happy new year นะครับที่รักของผม” แค่เสียงแผ่วเบาแต่ตอนนี้มันกลับดังก้องอยู่ในหัวของผม แค่เพียงประโยคสั้นๆแต่อบอุ่นไปถึงหัวใจ ผมหันหน้าไปหาคนที่ผมรักที่สุดสวมกอดเค้าด้วยความรักและโหยหา
“คนบ้า นึกว่าจะทิ้งกันแล้วซะอีก ฮือๆ” อ่า ในที่สุดผมก็อดที่จะร้องไห้ออกมาไม่ได้ ก็ผมดีใจนี่นา ในที่สุดเค้าก็กลับมาหาผมแล้ว
“อย่าร้องนะครับคนดี มีแฟนน่ารักแบบนี้ใครจะกล้าทิ้งล่ะหึ” มินโฮพูดพร้อมกับจูบซับน้ำตาที่เปลือกตาของผมแผ่วเบาเหมือนจะปลอบให้ผมหายเศร้า ผ่านไปสักพักมินโฮก็นั่งลงที่ชิงช้านั่นแล้วดึงผมให้นั่งลงที่ตักของเค้า ซึ่งผมเองก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร ก็ตอนนี้ผมอยากอยู่ใกล้ๆมินโฮนี่นา คิดถึง คิดถึงมากเหลือเกิน
“ผมมีอะไรจะให้พี่ด้วยนะ” มินโฮบอกผมพร้อมกับคว้าหาอะไรบางอย่างในกระเป๋าเสื้อโค้ช มันเป็นกล่องกำมะยี่สีน้ำเงินสวยกล่องเล็ก พอมินโฮเปิดออกผมก็ต้องตกใจเพราะข้างในนั้นมีแหวนทองคำขาวที่รูปแบบคล้ายคลึงกันอยู่สองวง มันคือแหวนคู่เหรอ สวยจัง หลังจากนั้นมินโฮก็หยิบแหวนวงนึงขึ้นมาใส่ที่นิ้วนางข้างซ้ายของผมพร้อมกับประทับจูบลงไปแผ่วเบา
“สวมให้ผมบ้างสิ” ผมรีบหยิบแหวนอีกวงสวมให้มินโฮหลังจากที่มินโฮเอ่ยบอกผม
“ชอบมั้ยครับคนดี”
“ชอบสิ ชอบมากด้วย ขอบคุณนะมินโฮ”
“รู้มั้ยกว่าจะได้มันมาผมกับพี่ทงเฮต้องเดินหามันอยู่ตั้งหลายวันแหนะ” อะไรนะที่หายไปกับพี่ทงเฮเนี่ยเพราะไปซื้อเจ้านี่ให้ผมหรอกเหรอ ปล่อยให้คิดมากอยู่ได้ตั้งหลายวัน ไอ้อ๊อดบ้า ได้ยินแบบนั้นผมก็โผเข้ากอดมินโฮทันที ซึ่่งมินโฮก็กระชับกอดตอบกลับมาแนบแน่น รู้อะไรมั้ยครับถึงอากาศตอนนี้จะหนาวสักแค่ไหนแต่ผมกลับไม่รู้สึกหนาวเลยสักนิดคงเพราะอ้อมกอดนี้ล่ะมั้งอ้อมกอดอุ่นๆของผู้ชายคนนี้ มันทำให้ผมอบอุ่นไปถึงหัวใจเลยล่ะ
“มินโฮ พี่มีไรจะให้ล่ะ หลับตาก่อนนะ” ผมบอกมินโฮหลังจากที่ผละออกจากอ้อมกอดนั้น
“หึ อะไรครับทำไมต้องหลับตาล่ะ”
“น่า หลับตาก่อนสิ”
“คร้าบบบบบ” อันที่จริงผมไม่ได้เตรียมของขวัญไว้ให้มินโฮหรอกนะครับ นอกจาก
จุ๊ฟ..
นอกจากความรักที่ผมส่งผ่านให้เค้าด้วยการจุ๊บที่แก้มสากนั้น มินโฮลืมตาขึ้นมามองผม เราสองคนมองตากันเหมือนต้องการบอกอะไรบางอย่าง
“เป็นของขวัญที่ดีที่สุดของผมเลยล่ะ”
“>/////<” อ่า มาเขินไรตอนนี้วะผม ตอนทำล่ะไม่เขิน
“พี่ครับ ผมรักพี่นะ ชเวมินโฮรักคิมจงฮยอนครับ” อ่า ดีใจจังที่ได้ยินคำนี้ รู้สึกเหมือนผมมั้ยครับว่าปีใหม่ปีนี้เป็นปีแห่งความสุขจริงๆ ก็ปีใหม่ปีนี้หนะผมได้ของขวัญสุดวิเศษด้วยนี่นา ผมมีความสุขมากๆเลยล่ะ มีความสุขกับบรรยากาศแสนหวาน มีความสุขกับอ้อมกอดอบอุ่น มีความสุขที่ถูกรัก และมีความสุขที่ได้รักกับผู้ชายคนนี้ ชเวมินโฮ
“คิมจงฮยอนก็รักชเวมินโฮเหมือนกัน รักมากด้วย”
THE END
แถมดีมั้ย
อ่ะ แถมนิดนึง
“ไม่รู้ว่าคู่นั้นจะเป็นไงบ้างอ่ะ” เสียงบ่นของออมม่าดังขึ้นมา
“ก็คงจะมีความสุขดีล่ะมั้ง ดูสิไม่ยอมกลับมาเลย ไปเที่ยวต่อแล้วแน่เลย” ลีดเดอร์อนยูพูดขึ้นมาในขณะที่ยกน้ำส้มขึ้นดื่ม
“เราต้องรอพี่จงฮยอนกับพี่มินโฮมั้ยฮะ น้องแทมอยากกินขนมแล้วอ่ะ” น้องเล็กบ่นงุ้งงิ้งอยากกินขนมแล้ว
“ไม่ต้องรอหรอกกินได้เลยนะ” อนยูบอกน้องๆทั้งสองคนด้วยรอยยิ้ม ไม่ต้องรอหรอกเพราะป่านนี้คู่นั้นเค้าคงกำลังสวีทกันอยู่ล่ะมั้ง มีความสุขก็ดีแล้วล่ะ งั้นผมขอไปฉลองต้อนรับปีใหม่ก่อนนะครับ ปีใหม่นี้ยังไงก็ขอให้รีดเดอร์ทุกคนมีความสุขมากๆนะครับ ^^
---------------------------------******จบแล้วเน้อ*****---------------------------
อ่า กว่าจะปั่นจบ มันเป็นฟิคชั่ววูบจริงๆ ยังไงก็ฝากติชมด้วยนะคะ
Rate : PG-13
Writer : tontaan
Talk : ฟิคต้อนรับปีใหม่จ้า แต่งไว้นานแล้วแต่เพิ่งมีโอกาสได้ลง ไม่ว่ากันน้าา เนื้อหาสาระไม่มี กรุณาทำใจก่อนอ่าน 555+ ยังไงก็ฝากด้วยนะคะ ปีใหม่นี้ขอให้ทุกคนมีความสุขมากๆน้า
29 December 2010
ท่ามกลางอากาศหนาวและหิมะที่ปกคลุมไปทั่วกรุงโซล ณ หอพัก SHINee ถ้ามองเข้าไปข้างในจะเจอกับลีดเดอร์อนยูที่กำลังดูตารางงานในปีหน้าที่ได้มาจากผู้จัดการอยู่ในมุมหนึ่งของห้องทำงาน ขยับออกมาที่ห้องนั่งเล่นจะเจอกับสองร่างของออมม่าคีย์และลูกเห็ดน้อยแทมินที่กำลังสนุกสนานกับการดูซี่รี่ย์เกาหลีเรื่องโปรด
“กลับมาแล้วคร้าบบบ” อ่า ข้างนอกหนาวมากๆเลยล่ะครับ นี่ถ้าแม่ไม่โทรมาตามให้กลับบ้านเพราะคิดถึงลูกชายเนี่ย เชื่อได้เลยครับว่าผมจะไม่ยอมออกไปจากหอพักเป็นอันขาด หนาวเป็นบ้า
“อ้าว พี่จงฮยอนกลับมาแล้วเหรอ” ออมม่าของวงทักขึ้นทั้งที่ดวงตาสวยยังคงจ้องมองที่หน้าจอทีวีอย่างตั้งใจ (เอ่อ ตั้งใจเกินไปมั้ยวะ - -;)
“พี่จงฮยอนของฝากๆขนมของน้องแทมล่ะฮะ” น้องเล็กเอ่ยขึ้นด้วยความเริงร่าที่จะได้กินขนมที่พี่รองรับปากว่าจะเอากลับมาฝากพร้อมกับเดินเข้าไปหาพี่รองที่ตอนนี้นั่งอยู่ตรงโต๊ะกินข้าวของพวกเค้า
“ฮะๆ พี่เอาขนมมาฝากแทมินเยอะแยะเลยล่ะ มาดูสิ” เจ้าเห็ดน้อยดีใจใหญ่เลยล่ะครับที่เห็นถุงขนมถุงใหญ่ ผมว่าปล่อยแทมินให้อยู่กับถุงขนมไปก่อนล่ะกันแล้วผมก็เดินมานั่งกับคีย์ที่โซฟาที่ห้องนั่งเล่น แล้วมองไปรอบๆหอพักก็เห็นพี่อนยูกำลังนั่งดูอะไรสักอย่างอยู่ที่ห้องทำงาน ทำไมเฮียไม่ยอมปิดประตูห้องเนี่ย รึว่าเป็นห่วงเจ้าตัวแสบสองคนนี้ อย่างงี้แหละครับพี่ใหญ่คนนี้อบอุ่นเสมอ แต่ผมว่ามันมีไรแปลกๆนะครับเหมือนขาดอะไรไปสักอย่างนะ อ๋อ ผมรู้แล้ว
“คีย์ แล้วมินโฮไปไหนอ่ะ” ผมถามหาอีกหนึ่งสมาชิกของวงและเป็น เอ่อ คนรักของผมเองครับ^^
“ออกไปข้างนอกกับพี่ทงเฮหนะ มันไม่ได้บอกพี่ไว้เหรอ”
“ไม่นิ เฮ้อ เดี๋ยวพี่เอาของไปเก็บก่อนแล้วกัน” ผมเดินออกมาจากห้องนั่งเล่นแล้วคว้ากระเป๋าเดินเข้าไปในห้องนอน
อีกแล้วครับรีดเดอร์ มินโฮออกไปข้างนอกกับพี่ทงเฮอีกแล้วนี่มันสี่วันแล้วนะที่มินโฮเป็นอย่างนี้ ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองรึเปล่าแต่ผมรู้สึกว่าช่วงนี้มินโฮทำตัวห่างเหิน ไม่ค่อยมีเวลาอยู่กับผมเหมือนแต่ก่อน ไม่เข้ามาคุยและเล่นด้วยกันเหมือนอย่างเคย พูดแล้วผมก็อยากจะร้องไห้อ่ะ
“ไม่รักกันแล้วใช่มั้ยวะไอ้สูง” ได้แต่พูดกับตัวเองเบาๆพร้อมกับล้มตัวลงนอนเอาหน้าซบกับหมอนเพื่อให้หมอนซับน้ำตาที่กำลังไหลรินลงมาอาบแก้มสวย พร้อมกับเสียงสะอื้นที่เปล่งออกมากับความน้อยใจในตัวคนรัก สักพักร่างบางก็หลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อนซึ่งหารู้ไม่ว่าทุกการกระทำของตนนั้นได้อยู่ในสายตาของออมม่าคนสวยตลอดเวลา
-----------------------*********************************--------------------------
30 December 2010
วันนี้พวกเราออกมาถ่ายแบบต้อนรับปีใหม่กันครับ วันนี้อากาศดี สดใสกว่าทุกๆวัน ทุกคนก็ร่าเริงมีความสุขกับการทำงานในวันนี้ แต่คงยกเว้นผมคนนึงก็จะให้ยิ้มออกได้ไงล่ะครับก็ไอ้สูงอ่ะดิมันไม่ยอมคุยกับผมเลยอ่ะ พอผมเดินไปจะนั่งด้วยมันก็เดินไปนั่งที่อื่น ผมทำไรผิดเหรอครับ หรือว่ามันไม่รักผมแล้วจริงๆ อย่านะจงฮยอน อย่าร้องไห้นะ อดทนไว้สิ เชื่อใจมินโฮสิ เค้าก็แค่เครียดกับการทำงานไม่มีไรหรอก แกมันคิดมากไปเอง เฮ้อ แต่มันก็อดคิดไม่ได้นี่นา
ขณะที่ร่างบางกำลังคิดเรื่องของเค้ากับมินโฮอยู่คีย์ก็ได้มาเดินมายืนข้างๆพร้อมกับยื่นมือมาจับตรงไหล่เหมือนตั้งใจจะปลอบให้หายจากความเศร้า
“ไม่มีไรหรอกพี่อย่าคิดมาก ยังไงไอ้มินโฮมันก็รักพี่คนเดียวแหละ เชื่อผม” คีย์พูดปลอบผมพร้อมทั้งให้กำลังใจจนผมอดยิ้มออกมาไม่ได้ที่อย่างน้อยก็ยังมีน้องที่คอยอยู่เคียงข้างผม
“อือ ก็หวังว่ามันจะเป็นงั้นนะ” ผมได้แต่ภาวนาขอร้องกับพระเจ้าให้สิ่งที่คีย์พูดเป็นเรื่องจริงทีเถอะ อย่าให้เป็นเหมือนที่ผมคิดเลย ผมยังไม่อยากเสียเค้าไป ผมขาดเค้าไม่ได้จริงๆ ขอร้องเถอะนะครับ
“เฮ้ย กลับกันได้แล้ว” แล้วเสียงของพี่ใหญ่ก็เอ่ยเรียกสติของทั้งสองคนให้กลับมา
“ครับ/ครับ” ทั้งสองขานรับในสิ่งที่พี่ใหญ่บอกพร้อมทั้งเดินไปขึ้นรถที่รอรับพวกเค้าอยู่แล้วที่หน้าสตูดิโอ บรรยากาศในรถถูกปกคลุมไปด้วยความเงียบตอนนี้ที่นั่งด้านข้างคนขับถูกจับจองด้วยผู้จัดการวง ถัดมาเป็นลีดเดอร์เต้าหู้กับแร๊ปเปอร์ของวงมินโฮ ส่วนหลังรถนั้นมีน้องเล็กที่กำลังหลับซบอยู่ที่ไหล่ของออมม่าคีย์และคนสุดท้ายคือจงฮยอนที่นั่งข้างๆคีย์
“เฮ้ย มินโฮไม่สงสารไอ้เป็ดไงวะเล่นไรของแกเนี่ย ดูมันดิทำหน้าอย่างกับจะร้องไห้แล้วนะ” อนยูกระซิบเบาๆพอได้ยินกันสองคนกับคนตัวสูงที่อยู่ข้างๆ
“เอาน่าพี่ ช่วยผมหน่อยเถอะ” มินโฮเอ่ยตอบพร้อมกับหันหน้าไปมองคนรักที่ขณะนี้ผล็อยหลับไปเพราะความเหนื่อยอ่อนจากการทำงาน ใบหน้าสวยนั้นแลดูอิดโรยเหมือนกับคนที่พักผ่อนน้อย ไม่ใช่ว่าเค้าไม่รักพี่จงฮยอนนะ เค้ารักมากต่างหากล่ะ พี่รู้มั้ยผมต้องอดทนมากมายแค่ไหนที่จะไปเข้าไปกอดพี่เหมือนเดิม แต่ได้โปรดอย่าคิดว่าผมไม่รักพี่เลยนะ ผมรักพี่นะครับ รอผมหน่อยนะ
-----------------------**********************************-------------------------
31 December 2010
วันนี้พวกผมไม่มีงานกันล่ะครับ ได้หยุดพักผ่อนกันอยู่ที่บ้านสบายๆ ตอนนี้พี่อนยูกับคีย์กำลังเล่นเกมส์ด้วยกันอย่างเมามันส์เลยครับ ส่วนเจ้าน้องเล็กนะเหรอนั่งกินขนมพร้อมกับส่งเสียงเชียร์อยู่ข้างๆเลยล่ะ ส่วนไอ้โย่งนั้นออกไปตั้งแต่เช้าแล้วล่ะครับไม่รู้ไปไหนไม่บอกใครไว้ด้วย จะไปไหนของเค้านะ
“เฮ้ย คีย์ยิงพี่เหรอ” เสียงของลีดเดอร์ร้องโวยวายเมื่อโดนน้องชายยิงใส่ในเกมส์
“ฮ่าๆๆ พี่แพ้ผมแน่ๆล่ะ” คีย์พูดด้วยความมั่นใจว่าคราวนี้เค้าต้องเป็นฝ่ายชนะแน่
“พี่อนยูสู้ๆ พี่คีย์สู้ตาย ^^” ส่วนเจ้าตัวเล็กที่นั่งอยู่ข้างๆก็ส่งเสียงเชียร์ด้วยความน่ารักน่าเอ็นดู
“ตกลงว่าเชียร์ใครเนี่ยน้องแทม” พี่ใหญ่เอ่ยถามพร้อมลูบหัวทุยนั้นด้วยความหมั่นเขี้ยว
“นั่นสิ ตกลงคุณลูกชายจะเชียร์ใครเนี่ย” ออมม่าคีย์หันมาถามเจ้าลูกชายตัวดีของเค้าบ้าง
“เชียร์ทั้งสองคนเลยฮะ ก็แทมินเลือกไม่ถูกนี่รักพี่ทั้งสองคนเลย” พอพูดจบก็โดยพี่ทั้งสองของเค้ากอดด้วยความเอ็นดูในความน่ารักของน้องเล็ก
“แต่น้องแทมสงสารพี่จงฮยอนอ่ะ” น้องเล็กเอ่ยขึ้นหลังจากที่ผละออกมาจากอ้อมกอดของพี่ๆทั้งสองแล้ว ทำให้ทั้งสามคนต้องหันไปมองจงฮยอนที่นั่งเหม่ออยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ที่หน้าจอยังมืดสนิทไม่ได้เปิดใช้แต่อย่างใด เห็นแล้วก็อดที่จะสงสารไม่ได้
“เฮ้อ เมื่อไหร่เรื่องมันจะจบซะทีเนี่ย เห็นไอ้พี่เป็ดมันเศร้าแล้วผมใจไม่ดีเลยแฮะ” คีย์เอ่ยขึ้นมาด้วยสีหน้าเหนื่อยใจ
“เอาน่าคีย์ เดี๋ยววันนี้ไอ้มินโฮมันก็จัดการของมันเองแหละ” อนยูได้แต่บอกน้องๆของเค้าไปอย่างนั้นเพราะไม่อยากให้คิดมากไปกว่านี้ ก็จะคิดมากไปทำไมล่ะครับก็วันนี้หนะไอ้มินโฮมันมีเซอไพร์ไอ้เป็ดมัน ที่จริงมันเตรียมการมาหลายวันแล้วล่ะ มันบอกพวกผมไว้แล้วว่าให้เนี่ยนไปก่อนอย่าไปบอกไอ้เป็ดมัน แต่อย่างว่าล่ะครับเห็นเป็ดหงอยแล้วมันก็อดจะสงสารไม่ได้ ปล่อยให้เค้าเคลียร์กันเองแล้วกันเนอะ
เย็นวันนั้นสมาชิกทั้งสี่คนได้ช่วยกันจัดเตรียมของเพื่อเค้าดาวน์ต้อนรับปีใหม่กันที่หอพัก อ๊ะ ไม่สงสัยหรอกครับรีดเดอร์ว่าทำไมถึงได้มีกันสี่คนทั้งที่จริงแล้วควรจะมีห้าคนใช่มั้ยครับ ก็ไอ้สุงน่ะสิตั้งแต่ออกไปตอนเช้าตอนนี้ก็ยังไม่ยอมกลับมาเลยครับ มือถือก็ติดต่อไม่ได้ ผมเองว่าจะออกไปตามหาอยู่หลายครั้งเพราะกลัวว่าจะเป็นอะไรไป แต่ก็โดนพี่อนยูห้ามไว้ทุกครั้งด้วยคำพูดที่ว่า ‘ไอ้มินโฮมันไม่เป็นไรหรอกน่า มันดูแลตัวเองได้ไม่ต้องห่วงหรอก เดี๋ยวมันก็กลับมาเองแหละ’ ถึงพี่อนยูจะบอกว่าอย่างงั้นก็เถอะ แต่มันก็อดห่วงไม่ได้นี่ครับ ก็ผมรักเค้านี่นา ถึงแม้ว่าเค้าจะไม่ได้รักผมแล้วก็ตาม T T
หลังจากที่เตรียมของอะไรกันเสร็จทุกอย่างแล้วพวกเราก็ทานข้าวเย็นกันครับ พออิ่มแล้วก็นั่งเล่นเกมส์กันเพื่อรอเวลาที่จะเค้าดาวน์ พี่อนยูกับคีย์ยังคงเล่นเกมส์กันด้วยความสนุกสนานโดยที่มีน้องเล็กนั่งเชียร์เหมือนเดิม จะมีแต่ผมเนี่ยแหละที่แยกตัวออกมานอนคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยที่ห้องนอนของผมเอง นี่มันสามทุ่มแล้วนะไอ้สูงกลับมาซะทีสิ เฮ้อ เหนื่อยจังครับรีดเดอร์ ผมเหนื่อยจริงๆ
23.40 น.
“พี่จงฮยอนฮะ หลับรึยัง” น้องเล็กเอ่ยขึ้นมาเรียกสติผมหลังจากที่คิดอะไรไปเรื่อยๆและร้องไห้ไปหลายรอบแล้ว
“มีไรรึเปล่าหึตัวแสบ” ผมหันหน้ามาหาน้องเล็กที่ยืนอยู่ข้างเตียงของผม
“คือมีคนฝากไอ้นี่มาให้พี่หนะฮะ” น้องบอกพร้อมกับยื่นสิ่งนั้นให้กับผม มันคือโพทอิทสีชมพูที่มีข้อความอะไรบางอย่างเขียนไว้
“ของใครเหรอแทมิน” ผมเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“เค้าบอกว่าพี่อ่านแล่วก็รู้เองแหละ” แทมินบอกพร้องกับเดินออกไปจากห้องนอน พอผมได้ยินที่แทมินบอกก็รีบอ่านข้อความในโพทอิทนั้นทันที
‘ออกมาหาผมหน่อยสิครับ’
ถึงจะเป็นข้อความสั้นๆแค่นั้นแต่ผมจำมันได้ว่าเป็นลายมือของมินโฮแน่ๆ ผมอ่านแล้วรีบเดินออกจากห้องนอนเพื่อไปหาเจ้าของโพทอิทนั้นตามที่บอกถึงผมไม่รู้ว่าจะไปหาที่ไหนก็เถอะ ผมรู้แค่ว่าผมต้องไป
“ผมออกไปข้างนอกเดี๋ยวมานะครับ” ผมตะโกนบอกทุกคนขณะที่ใส่เสื้อโค้ชเตรียมตัวจะออกไปเจอกับอากาศที่หนาวเหน็บข้างนอก หลังจากนั้นก็เดินมาถึงหน้าประตูใส่รองเท้าเรียบร้อยกำลังจะเปิดประตูออกสายตาของผมก็เหลือบไปเห็นโพทอิทสีชมพูอีกแผ่นที่ติดอยู่ที่หน้าประตู
‘ผมจะรอที่สนามเด็กเล่นในสวนสาธารณะนะ รีบมาล่ะ ^^’
พอผมได้อ่านก็รีบออกไปหาด้วยความเร็วเพราะสวนสาธารณะที่ว่านั้นมันอยู่ใกล้ๆหอพักนี่เองเดินไปสิบห้านาทีก็ถึงแล้ว ผมชักจะตื่นเต้นแล้วสิครับ
---------------------------********************************------------------------
หลังจากที่จงฮยอนออกไปทั้งสามคนก็รีบโทรหาใครบางคนทันที
“ฮาโหล ไอ้มินโฮไอ้เป็ดมันออกไปแล้วนะเว่ย” เสียงพี่ใหญ่เอ่ยกรอกผ่านเครื่องมือสื่อสารเพื่อบอกข่าวกับมินโฮ
“อ่า ครับ ขอบคุณนะครับพี่” พอพูดจบมินโฮก็ตัดสายทันที
ทั้งสามคนมองหน้ากันพร้อมกับอมยิ้มให้กันอย่างมีความสุข ช่างเป็นปีใหม่ที่น่าตื่นเต้นจริงๆ ขอให้โชคดีนะเว่ยจงฮยอน ไอ้มินโฮ
--------------------------*******************************--------------------------
00.01 น.
1 January 2011
ผมเดินออกมาได้สักพักก็ถึงที่สวนสาธารณะที่ว่าแล้วครับกำลังจะเดินเข้าไปในส่วนที่เป็นสนามเด็กเล่นแต่ผมก็หันไปเห็นโพทอิทสีชมพูคุ้นตาที่ติดไปกับป้ายข้างหน้าสวนสาธารณะนั้น ผมรีบหยิมมันขึ้นมาก็ได้เห็นลายมือคุ้นตานั้นอีกผมรีบอ่านมันทันที
'ผมจะนั่งรอที่ชิงช้านะ รีบมาหาเร็วๆนะครับ'
ผมรีบวิ่งไปที่สนามเด็กเล่นทันทีหลังจากที่อ่านข้อความนั้นจบ พอมาถึงผมก็ถึงกับยืนงงเพราะตอนนี้สนามเด็กเล่นนั้นได้ถูกตกแต่งด้วยแสงไฟระยิบระยับมากมาย และที่ชิงช้าตัวนึงก็ถูกแต่งแต้มด้วยดอกไม้สวยเหมือนอยู่ในนิยายเลยล่ะ ผมรีบเดินไปที่ชิงช้าตัวนั้นทันทีแต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของคนที่เรียกผมออกมาเลยด้วยซ้ำ
แต่ เอ๊ะ เดี๋ยวก่อนนะที่ชิงช้ามีอะไรอยู่หนะ มันเป็นกระดาษแผ่นเล็กๆแผ่นหนึ่งที่มีโพทอิทสีชมพูติดอยู่ด้วย ผมหยิมมันขึ้นมาอ่านทันที
‘อ่านสิครับ’ พออ่านข้อความที่โพทอิทแล้วผมก็รีบอ่านข้อความในแผ่นกระดาษนั้นทันที
‘เหนื่อยมั้ยครับคนดีกว่าจะเดินมาถึงเนี้ย หนาวมากมั้ย อ่า ผมไม่รู้จะพูดว่าไงดี แต่ผมแค่อยากบอกว่าผมขอโทษนะครับที่หลายวันที่ผ่านมาผมทำตัวห่างเหินกับพี่ ไม่ได้ดูแลพี่เหมือนอย่างเคย แต่ได้โปรดอย่าคิดว่าผมไม่รักพี่เลยนะครับ เพราะผมไม่เคยหยุดรักพี่แม้แต่นาทีเดียว ไม่ว่าจะปีไหนๆผมก็ยังรักพี่เหมือนเดิม Happy new year ครับที่รักของผม’
เห็นข้อความนั้นแล้วผมก็อยากจะร้องไห้ซะงั้น นี่แหละครับสิ่งที่ผมรอมาหลายวัน รอเพื่อจะให้มินโฮกลับมาหาผม แล้วผมก็รู้สึกได้ถึงแรงกอดรัดจากด้านหลังของผม อ้อมกอดที่คุ้นเคยและอบอุ่นพร้อมกับเสียงกระซิบแผ่วเบาข้างหูของผม
“Happy new year นะครับที่รักของผม” แค่เสียงแผ่วเบาแต่ตอนนี้มันกลับดังก้องอยู่ในหัวของผม แค่เพียงประโยคสั้นๆแต่อบอุ่นไปถึงหัวใจ ผมหันหน้าไปหาคนที่ผมรักที่สุดสวมกอดเค้าด้วยความรักและโหยหา
“คนบ้า นึกว่าจะทิ้งกันแล้วซะอีก ฮือๆ” อ่า ในที่สุดผมก็อดที่จะร้องไห้ออกมาไม่ได้ ก็ผมดีใจนี่นา ในที่สุดเค้าก็กลับมาหาผมแล้ว
“อย่าร้องนะครับคนดี มีแฟนน่ารักแบบนี้ใครจะกล้าทิ้งล่ะหึ” มินโฮพูดพร้อมกับจูบซับน้ำตาที่เปลือกตาของผมแผ่วเบาเหมือนจะปลอบให้ผมหายเศร้า ผ่านไปสักพักมินโฮก็นั่งลงที่ชิงช้านั่นแล้วดึงผมให้นั่งลงที่ตักของเค้า ซึ่งผมเองก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร ก็ตอนนี้ผมอยากอยู่ใกล้ๆมินโฮนี่นา คิดถึง คิดถึงมากเหลือเกิน
“ผมมีอะไรจะให้พี่ด้วยนะ” มินโฮบอกผมพร้อมกับคว้าหาอะไรบางอย่างในกระเป๋าเสื้อโค้ช มันเป็นกล่องกำมะยี่สีน้ำเงินสวยกล่องเล็ก พอมินโฮเปิดออกผมก็ต้องตกใจเพราะข้างในนั้นมีแหวนทองคำขาวที่รูปแบบคล้ายคลึงกันอยู่สองวง มันคือแหวนคู่เหรอ สวยจัง หลังจากนั้นมินโฮก็หยิบแหวนวงนึงขึ้นมาใส่ที่นิ้วนางข้างซ้ายของผมพร้อมกับประทับจูบลงไปแผ่วเบา
“สวมให้ผมบ้างสิ” ผมรีบหยิบแหวนอีกวงสวมให้มินโฮหลังจากที่มินโฮเอ่ยบอกผม
“ชอบมั้ยครับคนดี”
“ชอบสิ ชอบมากด้วย ขอบคุณนะมินโฮ”
“รู้มั้ยกว่าจะได้มันมาผมกับพี่ทงเฮต้องเดินหามันอยู่ตั้งหลายวันแหนะ” อะไรนะที่หายไปกับพี่ทงเฮเนี่ยเพราะไปซื้อเจ้านี่ให้ผมหรอกเหรอ ปล่อยให้คิดมากอยู่ได้ตั้งหลายวัน ไอ้อ๊อดบ้า ได้ยินแบบนั้นผมก็โผเข้ากอดมินโฮทันที ซึ่่งมินโฮก็กระชับกอดตอบกลับมาแนบแน่น รู้อะไรมั้ยครับถึงอากาศตอนนี้จะหนาวสักแค่ไหนแต่ผมกลับไม่รู้สึกหนาวเลยสักนิดคงเพราะอ้อมกอดนี้ล่ะมั้งอ้อมกอดอุ่นๆของผู้ชายคนนี้ มันทำให้ผมอบอุ่นไปถึงหัวใจเลยล่ะ
“มินโฮ พี่มีไรจะให้ล่ะ หลับตาก่อนนะ” ผมบอกมินโฮหลังจากที่ผละออกจากอ้อมกอดนั้น
“หึ อะไรครับทำไมต้องหลับตาล่ะ”
“น่า หลับตาก่อนสิ”
“คร้าบบบบบ” อันที่จริงผมไม่ได้เตรียมของขวัญไว้ให้มินโฮหรอกนะครับ นอกจาก
จุ๊ฟ..
นอกจากความรักที่ผมส่งผ่านให้เค้าด้วยการจุ๊บที่แก้มสากนั้น มินโฮลืมตาขึ้นมามองผม เราสองคนมองตากันเหมือนต้องการบอกอะไรบางอย่าง
“เป็นของขวัญที่ดีที่สุดของผมเลยล่ะ”
“>/////<” อ่า มาเขินไรตอนนี้วะผม ตอนทำล่ะไม่เขิน
“พี่ครับ ผมรักพี่นะ ชเวมินโฮรักคิมจงฮยอนครับ” อ่า ดีใจจังที่ได้ยินคำนี้ รู้สึกเหมือนผมมั้ยครับว่าปีใหม่ปีนี้เป็นปีแห่งความสุขจริงๆ ก็ปีใหม่ปีนี้หนะผมได้ของขวัญสุดวิเศษด้วยนี่นา ผมมีความสุขมากๆเลยล่ะ มีความสุขกับบรรยากาศแสนหวาน มีความสุขกับอ้อมกอดอบอุ่น มีความสุขที่ถูกรัก และมีความสุขที่ได้รักกับผู้ชายคนนี้ ชเวมินโฮ
“คิมจงฮยอนก็รักชเวมินโฮเหมือนกัน รักมากด้วย”
THE END
แถมดีมั้ย
อ่ะ แถมนิดนึง
“ไม่รู้ว่าคู่นั้นจะเป็นไงบ้างอ่ะ” เสียงบ่นของออมม่าดังขึ้นมา
“ก็คงจะมีความสุขดีล่ะมั้ง ดูสิไม่ยอมกลับมาเลย ไปเที่ยวต่อแล้วแน่เลย” ลีดเดอร์อนยูพูดขึ้นมาในขณะที่ยกน้ำส้มขึ้นดื่ม
“เราต้องรอพี่จงฮยอนกับพี่มินโฮมั้ยฮะ น้องแทมอยากกินขนมแล้วอ่ะ” น้องเล็กบ่นงุ้งงิ้งอยากกินขนมแล้ว
“ไม่ต้องรอหรอกกินได้เลยนะ” อนยูบอกน้องๆทั้งสองคนด้วยรอยยิ้ม ไม่ต้องรอหรอกเพราะป่านนี้คู่นั้นเค้าคงกำลังสวีทกันอยู่ล่ะมั้ง มีความสุขก็ดีแล้วล่ะ งั้นผมขอไปฉลองต้อนรับปีใหม่ก่อนนะครับ ปีใหม่นี้ยังไงก็ขอให้รีดเดอร์ทุกคนมีความสุขมากๆนะครับ ^^
---------------------------------******จบแล้วเน้อ*****---------------------------
อ่า กว่าจะปั่นจบ มันเป็นฟิคชั่ววูบจริงๆ ยังไงก็ฝากติชมด้วยนะคะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น