คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : [SF] Spa (LuLay) 100%
ปล.ขอบคุณเซียมากมายที่มาช่วยให้ตอนจบสปามันดูแหล่มขึ้น อีกทั้งยังมาช่วยแก้และเพิ่มเติมเนื้อหาให้ด้วย ขอบคุณมากมายคร้าบบ
เมื่อยกันมั้ยครับ!!! ปวดเมื่อยตามตัว เครียดกับงานที่หนัก เครียดกับการเรียน เศรษฐกิจย่ำแย่ แม่บ่น(?????) มาผ่อนคลายกันดีมั้ย…
.
.
.
EXO Spa ยินดีต้อนรับครับ!!!
.
.
.
.
.
“เห้ย เฮีย มีแขกมาหาอ่ะ” เสียงสดใสของน้องผู้ร่วมเป็นหุ้นส่วนสปาแห่งนี้ดังขึ้นเรียกสติผู้เป็นพี่ชาย ให้เงยหน้าขึ้นมาจากการจัดการบัญชีของเมื่อเดือนที่แล้วที่กองอยู่เต็มโต๊ะทำงาน
ใช่แล้วครับ ที่นี่คือสปา เป็นสปาที่บริการทุกอย่างตั้งแต่ซาวน่า นวดตัว อโรมา และบลาๆๆ อีกมากมาย เป็นหุ้นส่วนที่เกิดจากสามพี่น้อง ซิ่วหมิน แบคฮยอน ดีโอ และผู้สนับสนุนสำคัญผู้อยู่เบื้องหลังอีกหนึ่ง
“ใครมาวะแบค” เสียงของผู้เป็นพี่ชายคนโตของสปาแห่งนี้เอ่ยขึ้นมาพร้อมกับลุกออกไปดูบริเวณโซนรับแขกของสปาที่ขณะนี้มีน้องชายผู้ร่วมเป็นหุ้นส่วนทั้งสองนั่งรออยู่ และแขกผู้มาใหม่ที่ทุกคนคุ้นหน้ากันดี
“ไหนแขกวะแบค เฮีย แม่งเห็นแต่หมวยหน้ากระต่าย ฮ่าๆๆ” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นทันทีหลังจากที่ได้เห็นเพื่อนรักหน้าหวานผู้มาเยือนครั้งนี้ เรียกเสียงหัวเราะจากทุกคนได้เป็นอย่างดี แต่เจ้าตัวที่ถูกแซวนั้นได้แต่ทำแก้มพองลมและบู้ปากอย่างงอนๆ เท่านั้น
“พี่หมินเค้าล้อเล่นน้าพี่อี้ชิง” ดีโอน้องชายคนเล็กของที่นี่เอ่ยปลอบผู้เป็นแขกที่ยังคงทำแก้มพองลม ทำหน้างอนอย่างน่ารัก
“ชิ อย่าให้เอาคืนบ้างแล้วกันไอ้แก้มป่อง แม่งชอบทำหน้าซาลาเปาคุยกับเพื่อน” อี้ชิงเอ่ยตอบกลับอย่างงอนๆ พร้อมกับตอกกลับผู้เป็นเพื่อนที่แซวเค้าไปเมื่อกี้นี้
“กูหน้าซาลาเปาแล้วไง ถ้าอยากให้เลิกทำหน้าซาลาเปาคุยกะมึง มึงก็เลิกทำหน้ากระต่ายแบ๊วคุยกะกูก่อนดิ” ทั้งคู่ถกเถียงกันอย่างไม่มีใครยอมใคร จนน้องๆทั้งสองที่นั่งอยู่ด้วยต้องรีบร้องห้ามอย่างเร็ว
“พอแล้วเว้ย หยุดทั้งเฮียหมิน ทั้งพี่อี้ชิงนั่นแหละ แม่ง” แบคฮยอนน้องชายคนกลางเอ่ยสวนขึ้นมากลางวงเพื่อห้ามทัพพี่ๆทั้งสองอย่างทันท่วงที ก่อนที่ทั้งคู่จะถกเถียงกันไปมากกว่านี้ ไม่งั้นนะกว่าจะคุยกันดีๆได้คงจะอีกนานทีเดียว
“ว่าแต่มาหามีไรป่ะวะ” ชายหนุ่มเอ่ยถามร่างเล็กผู้เป็นเพื่อนด้วยความสงสัยใคร่รู้ เนื่องจากวันนี้ไอ้เพื่อนรักของเค้ามีท่าทีแปลกๆอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“เอ่อ คือว่า......”
“……..”
“เอ่อ คือ.....” ร่างเล็กเอ่ยออกมาอย่างลังเล ทำเอาคนที่รอฟังลุ้นกันจนตูดแทบจะไม่ติดกับเก้าอี้
“เอ่อ อะไรวะอี้ชิง” ซิ่วหมินเอ่ยท้วงขึ้นเมื่ออี้ชิงยังไม่ยอมพูดออกมาสักที
“เอ่อ คือ กู” ร่างเล็กยังคงสติลอ้ำอึ้งพร้อมทำหน้าลำบากใจส่งไปให้เพื่อน และน้องชายอีกสองคนที่ทำหน้าลุ้นอย่างกะรอฟังหวยรางวัลที่หนึ่ง
“พี่อี้ชิง พี่จะเอ่ออีกนานมั้ย ถ้าจะเอ่ออีกนานนะ ผมจะไปกินข้าวรอ” คราวนี้แบคฮยอนเริ่มจะทนไม่ไหวจึงเอ่ยทักท้วงออกมาบ้าง
“นั่นดิพี่อี้ชิง จะพูดอะไรก็พูดสักที ลุ้นจนเมื่อยแล้วนะ” น้องชายคนเล็กเอ่ยสบทบขึ้นมาอีกที
“โอเค คราวนี้ถ้ามึงยังเอ่ออีก พวกกูไม่ฟังแล้วแม่ง มึงคิดออกค่อยโทรมาบอกกูล่ะกัน” ซิ่วหมินเองก็จะเริ่มทนไม่ไหวกับการอ้ำอึ้งของเพื่อนรักจึงเอ่ยตัดบทออกมา แม่ง ถ้ายังไม่พูดอีกนะ กูจะลุกไปทำงานต่อแล้วนะเว่ย
“โอเค มึง ฟังกูก่อนนะ” อี้ชิงบอกเพื่อนรักที่ตอนนี้เริ่มทำหน้าหงุดหงิดขึ้นมาแล้ว
“ก็ว่ามาดิวะ” ร่างอวบบอกพร้อมกลับมาทำหน้าลุ้นกับเรื่องที่เพื่อนรักหน้าหวานกำลังจะพูดให้ฟัง
“คือ มึง กูมีเรื่องอยากจะขอให้มึงช่วยหน่อยวะ” ร่างเล็กเอ่ยบอกพร้อมกับทำหน้าวิ้งอย่างมีความหวังว่าเพื่อนรักต้องช่วยเค้าได้แน่
“เรื่องไรวะว่ามา ถ้าช่วยได้กูช่วยมึงแน่” ผู้เป็นเพื่อนเอ่ยออกมาอย่างหนักแน่นไม่มีแววล้อเล่นเหมือนอย่างเคย ก็นะ เวลาไอ้เพื่อนรักคนนี้ลำบากก็มีเค้าคอยช่วยเหลือ และเช่นกันเวลาที่เค้าลำบากก็มีไอ้เพื่อนรักคนนี้ช่วยมาตลอดเช่นกัน เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะมีปัญหาอะไรทั้งคู่จึงเป็นเหมือนที่พึ่งที่พึ่งได้ที่สุด เพราะเหตุนี้ไงถึงทำให้เป็นเพื่อนรักกันมาจนถึงทุกวันนี้
“มึงช่วยกูได้แน่ เพราะว่ากูจะขอมาทำงานกะมึงที่สปาอ่ะ” เมื่อได้ยินคำพูดจากปากของร่างเล็ก บุคคลทั้งสามผู้เป็นเจ้าของสปาได้แต่ทำหน้าอึ้งและมองหน้ากันไปมา เนื่องจากก่อนหน้านั้นพวกเค้าเคยชวนร่างเล็กมาทำงานด้วยกันหลายต่อหลายครั้ง และร่างเล็กตรงหน้าก็ปฏิเสธอย่างเด็ดขาดว่า ‘ไม่’ แล้ววันนี้ทำไมถึง...???
“มึงว่าไงนะ..” ซิ่วหมินเอ่ยถามผู้เป็นเพื่อนอีกสักครั้งเพื่อความแน่ใจว่าสิ่งที่ได้ยินมาเมื่อสักครู่นั้นไม่ได้หูฝาดไป เอ่อ มึงช่วยพูดให้กูฟังอีกทีชัดๆได้มั้ยวะ ว่ากูได้ยินไม่ผิด
“กูบอกว่า กูจะขอทำงานที่ร้านมึงด้วย ชัดมั้ย” ร่างเล็กเอ่ยบอกเพื่อนรักด้วยเสียงที่หนักแน่น ชัดเจน โดยเฉพาะคำที่ว่า ‘ขอทำงาน’ ร่างเล็กเน้นเสียงดังเป็นพิเศษอีกด้วย
แม่ง ชัดเจน งั้นเมื่อกี้ก็ไม่ได้หูฝาดไป อะไรดลใจสิงไส้ให้มึงมาขอทำงานกะกูวะ=[]=
“นะ น้า มึงนะ ไอ้คุณเพื่อนที่รัก น้องชายที่น่ารักทั้งสอง รับผมเข้าทำงานด้วยคร้าบบ *w*” เมื่อเห็นผู้เป็นเพื่อนและน้องชายทั้งสองยังคงเงียบ ร่างเล็กจึงเอ่ยขอร้องเสียงอ่อนพร้อมกับอ้อนผู้เป็นเจ้าของสปาทั้งสามคนด้วยสีหน้าที่น่ารักสุดๆในสายตาของผู้ที่ได้พบเห็น ไม่มีรายไหนที่เจอลูกอ้อนของจางอี้ชิงแล้วจะไม่ใจอ่อน แต่ในระหว่างที่ร่างเล็กกำลังอ้อนผู้เป็นเจ้าของสปาอย่างมีความหวังอยู่นั้น ก็มีเสียงดังขัดจังหวะขึ้นมาซะก่อน
“Careless, careless. Shoot anonymous, anonymous.” เสียงเรียกเข้าของมือถือเครื่องน้อยดังขึ้นมาขัดกลางวง และเมื่อมองเห็นหน้าจอว่าใครเป็นคนโทรมา ผู้เป็นพี่ชายคนโตของสปาจึงลุกขึ้นและกำลังจะเดินไปคุยธุระในที่ที่เป็นส่วนตัว แต่ก่อนที่จะไปยังไม่ลืมหันมากำชับน้องๆทั้งสองและคุยกะเพื่อนรักให้เสร็จสรรพ
“แบค โด้ เดี๋ยวเฮียมานะ……อี้ชิงคุยกะน้องก่อนละกันเดี๋ยวมา แปปเว่ย” ประโยคแรกซิ่วหมินหันมาเอ่ยกับน้องชายทั้งสอง ก่อนที่จะหันไปบอกเพื่อนรักที่นั่งอยู่ถัดกันไปไม่มากนัก เมื่อเอ่ยจบก็เดินออกไปคุยโทรศัพท์ที่ห้องทำงานของตนทันที เหลือไว้แต่น้องชายทั้งสอง และไอ้เพื่อนรักให้ตกลงกันเอาเอง
“นะแบค โด้ ให้พี่ทำงานด้วยนะ” เมื่อสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติร่างเล็กก็รีบเอ่ยอ้อนผู้เป็นน้องชายทั้งสองต่อทันที
“ว่าไงดีล่ะพี่แบค” ดีโอกระซิบถามผู้เป็นพี่ชายด้วยใบหน้าที่ลังเลไม่น้อย อันที่จริงเค้าก็อยากให้พี่ชายร่างเล็กตรงหน้ามาทำงานด้วย แต่สปาที่นี่ใช่ว่าจะมีแต่พวกเค้าสามพี่น้องที่เป็นหุ้นส่วน มันยังมีหุ้นส่วนใหญ่อีกคนนี่นา จึงไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี
“ไม่รู้วะโด้ รอเฮียหมินก่อนล่ะกัน แล้วเราค่อยมาช่วยกันตัดสินใจ เฮียหมินต้องมีทางออกแน่” แบคฮยอนเองก็กระซิบตอบผู้เป็นน้องชายเหมือนจะมั่นใจไม่น้อยว่าพี่ชายคนโตของเค้านั้นจะต้องมีคำตอบที่ดีกลับมาให้ เพราะอะไรนะเหรอ ก็เมื่อกี้เค้าแอบเห็นสายที่โทรเข้ามาน่ะสิ หึหึหึ
เมื่อยังหาคำตอบที่พึงพอใจให้กับร่างเล็กไม่ได้ ทั้งคู่จึงตัดสินใจนั่งคุยกันเล่นกับอี้ชิงเพื่อรอเวลาที่พี่ชายคนโตจะมาช่วยกันตัดสินใจ
.
.
.
.
.
อีกด้านหนึ่ง ซิ่วหมินเมื่อเดินเข้ามาถึงห้องทำงานแล้ว ปุ่มแป้นรูปโทรศัทพ์สีเขียวถูกกด ตามด้วยตัวเครื่องที่ถูกยกขึ้นแนบหู “ยอโบ...”
“ทำอะไรอยู่? ทำไมเพิ่งรับสาย??” เสียงทุ้มราบเรียบลอยมาตามสายตามด้วยประโยคคำถาม ชายหนุ่มแทบจะกลอกตาขึ้นฟ้า แม้น้ำเสียงที่ใช้จะราบเรียบก็จริง แต่ก็สัมผัสได้ว่าติดจะไม่พอใจอยู่นิดๆ
“ขอประทานโทษนะครับคุณพี่ที่เคารพรัก คือแบบว่าคนเค้ามีการมีงานทำนะเว่ย วันๆยุ่งจะตายไป ใครจะไปมีเวลาว่างทั้งวันเหมือนลูกชายเจ้าของบริษัทยักษ์ใหญ่ไม่ทราบ” เจ้าตัวตอบกลับ ก็แหม่...ตัวเองเป็นถึงลูกชายคนเดียวของตระกูลที่เป็นว่าที่ท่านประธานคนต่อไป แค่นั่งเซ็นเอกสารอยู่บนเก้าอี้นวมอย่างหรูก็ได้เงินเป็นล้าน สบายกว่าเขาเป็นไหนๆ
“อ้อ จะบอกว่าฉันโทรมารบกวนการทำงานของแกงั้นสิ” ลู่หานย้อนถาม...ประชด
“เยส...รบกวนมาก ถ้าไม่มีไรจะวางไปเลยก็ดีว่ะครับ”
ถ้ากล่าวกันตามความเป็นจริง ใครก็ตามที่ได้ยินแบบนี้ก็คงจะรีบขอโทษแล้ววางสายไป
แต่ ทฤษฏีนี้ ใช้ไม่ได้กับคนที่ชื่อ เสี่ยวลู่หาน...“งั้นก็ดี รบกวนแก แกจะได้ไม่มีเวลาไปทำงาน แลดูเข้าท่าอยู่”
“เหอๆ ทานโทษเหอะเฮีย ได้ข่าวว่าสปานี่เฮียเป็นหุ้นส่วนอยู่สี่สิบเปอร์เซ็นต์อ่ะ” เอ่ยแบบโคตรจริงจัง เบ้หน้าเมื่อนึกถึงส่วนแบ่งที่มีมากที่สุดของญาติผู้พี่ ได้กำไรรึก็มากกว่า แต่โผล่หัวมาดูแลความเรียบร้อยของร้านนี่แทบจะนับครั้งได้ ทีพวกเขาที่มีหุ้นแค่ยี่สิบเปอร์เซ็นต์ละใช้งานแทบตาย น่าสมควรยกรางวัลพี่ชายดีเด่นแห่งชาติให้ซะจริง>w<!
“รู้แล้วก็สำนึกซะด้วยว่าแกอยู่ใต้อำนาจฉัน”
“โอ้โห่....ได้ทีขี่แพะไล่นะคุณพี่” พูดจบก็แอบแลบลิ้นลับหลัง “ว่าแต่ที่โทรมานี่มีปัญหาอะไรรึเปล่าอ่ะ?”
แทนที่จะตอบดีๆ “มีสาระกะเขาก็เป็นเหมือนกันนี่...”
“ไม่มีอะไรงั้นวางละนะ” คนอุตส่าห์ถามดีๆ แม่งตอบมาแบบนี้เลิกนับถือกันเหอะว่ะครับ ถึงแม้ความจริงจะไม่ค่อยนับถืออยู่แล้วก็ตามเถอะนะ =____________=
“ถ้าแกตัดสาย ฉันจะบุกไปฆ่าแกตอนนี้ทันที=__=;”
“ขู่เข้าไป เออ...ไม่วางหรอก สรุปมีไรวะครับ” ไอ้กวางหน้าโหด!!! ซิ่วหมินแอบประณามในใจ ไอ้ที่บอกว่าถ้าวางจะตามมาฆ่านี่คือมันเอาจริงนะครับ เพราะงั้นตอนนี้ยอมเป็นเบี้ยล่างมันไปก่อนละกัน
“จำเมื่อวันก่อนได้มั้ย?” ลู่หานถาม ใบหน้าเริ่มมีรอยยิ้มน้อยๆปรากฏเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ครั้งนั้น
หากก็ต้องหุบยิ้มแล้วหน้านิ่งทันควัน
เพราะเสียงน้องชายตัวดีที่ตอบกลับมา...
“อืม จำได้ วันที่ฝนตก..ไหลลงที่หน้าต่าง~~ โอ๊ยเฮีย>w< วันก่อนมันมีหลายวันนะเว่ยครับ จะถามอะไรก็ช่วยระบุให้ชัดเจนหน่อยดิ ถามมาแบบนี้ใครจะไปรู้เล่า!”
“อยากได้สปาต้าร์รึเชือกรัดคอดีซิ่วหมิน?” เอ่ยตอบกลับน้องชายด้วยเสียงเย็นๆบ่งบอกให้รู้ว่าถ้ากวนกันอีกทีมีเรื่องแน่ๆ
“โอเคครับ ไม่กวนแล้ว เชิญพูดต่อได้เลยครับ^^”
“วันก่อน ที่ฉันไปรับพวกแกสามคนที่มหา’ลัยตอนเลิกเรียน”
ชายหนุ่มนิ่งไปสักพักอย่างใช้ความคิด “อ่อ...จำได้ ที่เฮียมารับกลับบ้านช้ะ? มีไรเหรอ”
“วันนั้นมีเพื่อนแกนั่งอยู่ด้วยคนนึงด้วยนี่” เสียงทุ้มกล่าวต่อ ซิ่วหมินเลิกคิ้ว....เพื่อน??? อี้ชิงเหรอ
“อี้ชิงอ่ะนะ?” กรอกเสียงลงไปแบบไม่แน่ใจ แต่ถ้าพูดถึงวันนั้น คนที่นั่งรออยู่ด้วยกันกับพวกเขาก็มีแค่อี้ชิงคนเดียว เพราะไอ้เฮียบ้านี่มันดันมารับสายไปสองชั่วโมง ไม่ทราบว่าคนรวยนี่มันไม่พกนาฬิกากันรึอย่างไร? อุตส่าห์ย้ำแล้วว่าบ่ายสองเลิกเรียน แต่กว่าที่บีเอมดับบิวสีดำของเฮียแกจะโผล่มาก็ล่อไปสี่โมงเย็น ลำบากเพื่อนตัวเล็กที่อาสานั่งเป็นเพื่อนทั้งๆที่บอกว่าให้กลับบ้านก่อน แต่เจ้าตัวก็ยังยืนยันจะอยู่คอย เกรงใจใช่เล่นเลยนะนั่น
“ผู้ชายคนที่ตัวเล็กๆ ผิวขาว ผมซอยสีน้ำตาล ตาหวานๆใสๆสีน้ำตาลอ่อน ปากแดงๆเล็กๆ...ชื่ออี้ชิงรึเปล่าล่ะ?” ข้อมูลที่ได้ยินจากญาติผู้พี่ทำเอาแปลกใจไม่น้อย ทำไมมันจำแม่นจังวะ? เพิ่งเคยเห็นครั้งแรกไม่ใช่เหรอOwO
“ก็...ใช่อ่ะ นั่นแหละจางอี้ชิง”
“ชื่อน่ารักดีนิ่” ร่างสูงเผลอชมออกมาเบาๆ เป็นเหตุให้ปลายสายได้ยินไม่ถนัด “ห่ะ??? ว่าไรนะเฮีย”
“ฉันถามว่า รู้จักกันมานานแล้วเหรอ?” เปลี่ยนเรื่องได้อย่างแนบเนียน หนึ่งในความสามารถพิเศษเฉพาะตัวของเสี่ยวลู่หานที่ห้ามลอกเลียนแบบ ก็เหมือนกับเวลาที่อีกัวน่ามันเปลี่ยนสีไปตามสภาพแวดล้อมล่ะมังนะ(???)
“นานมั้ยอ่อ??? ก็พอสมควรแหละ เล่นกันมาตั้งแต่ประถม มัธยม ยันมหา’ลัยก็ตามมาอยู่ที่เดียวกัน แบคกะโด้ติดมันจะตาย” พูดไปก็ยิ้มไป ก็นะ เพื่อนตัวเล็กของเขามันน่ารักจริงๆนั่นแหละ น้องชายอีกสองคนนี่ติดแจเชียว~~~
“เออใช่...” จู่ๆซิ่วหมินก็โพล่งขึ้นมาเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ “พูดถึงอี้ชิงแล้วนึกขึ้นได้ มันมาขอทำงานที่ร้านด้วยอ่ะเฮีย ทั้งๆที่เมื่อก่อนชวนแทบตายแม่งดันใจแข็ง วันนี้ไม่รู้คิดอะไรอยู่ดีๆมาขอเป็นพนักงานร้าน เฮียคิดว่า....”
“รับซะ...” ร่างสูงตอบทันทีแบบไม่คิดโดยไม่รอให้ญาติผู้น้องพูดสาธยายจบ
“โอเค เฮียจะรับมะ....ฮ๊ะ!!!” เพราะกำลังเม้าท์เพื่อนเพลิน เลยไม่ทันได้ไตร่ตรองคำตอบที่ได้รับ พอกลับมาคิดดูอีกทีก็ต้องร้องเสียงดัง เบิกตากว้างเหมือนเห็นจิ้งหรีดน้ำค้างกำลังเต้นมาม่าอยู่ตรงหน้า “เฮียจะรับอี้ชิงเข้าทำงานเหรอ???”
“เมื่อกี้ฉันพูดภาษาเกาหลีนะ ไม่ยักกะรู้ว่าหลักสูตรนักศึกษามหาวิทยาลัยเดี๋ยวนี้ไม่บรรจุลงในวิชาเรียน” นีคือจะด่าว่ากูไม่เข้าใจภาษามนุษย์ทางอ้อมใช่มั้ยวะ=_________________________=;;
“เอาจริงอ่ะเฮีย?” ร่างอวบถามย้ำเพื่อความมั่นใจ ทีกะพนักงานคนอื่นเห็นสัมภาษณ์ขุดคุ้ยประหนึ่งวู้ดดี้เกิดมาคุย ล้วงไส้ล้วงพุงชนิดตัวต่อตัว แถมหน้าตาที่นิ่งเฉยยามสัมภาษณ์ที่เหมือนฆาตกรกินศพเด็กนั่นอีกล่ะ(สรุปลู่หานเป็นตัวอะไรวะ= =^) ทำให้น้อยคนนักที่จะผ่านการทดสอบจากหุ้นส่วนใหญ่....
แต่กับจางอี้ชิงกลับให้ผ่านได้โดยไม่ต้องเจาะประเด็นเด็ด(อะไร?)
หมายความว่าไงแว๊??? มันชักยังไงยังไงอยู่นะเฮ่ย...
“ทำไมรับง่ายจังวะเฮีย” ชายหนุ่มถาม น้ำสียงติดล้อเลียนในประโยคหลัง “คิดไรกะเพื่อนผมอยู่รึเปล่าอ่ะ?”
คือแบบว่าถามกะจะแซวเล่นๆ ไม่ได้คิดอะไร...
แต่ดูท่าอีกฝ่ายมันจะคิดจริงอ่ะ “ถ้าตอบว่าใช่แล้วจะว่าไง?”
“พูดจริงO_O!” คราวนี้ได้ฤกษ์เบิกตาให้กว้างขึ้นเท่าที่จะทำได้ เฮ่ย...เพื่อนกูขายออกแล้วเหรอวะ
“จริง และฉันมีเรื่องจะให้พวกแกสามคนช่วยด้วย”
“มันต้องไม่ใช่เรื่องที่ดีแหงๆ=____=^” ซิ่วหมินเอ่ยดักอย่างระแวง ก็นะ ความคิดดีๆมีหรือจะออกมาจากหัวสมองของคนชื่อลู่หาน แถมเสียงหัวเราะกดต่ำที่ดังขึ้นจากปลายสายเบาๆนั่นก็ทำเอาเจ้าตัวมั่นใจทันทีเลยว่าสิ่งที่พี่ชายต่างพ่อแม่จะให้ช่วยเนี่ย มันต้องมีอะไรพิสดารชัวร์ป้าบ! หมอหมินฟันธง~~~
“หึหึหึ...พรุ่งนี้ฉันจะไปใช้บริการสักหน่อย”
“แค่เนี้ย???” คนเป็นน้องทวน อิโธ่...ไอ้เราก็นึกว่ามันจะทำอะไรที่เป็นการอกุศล กะอิแค่แขกโคตะระวีไอพีจะมาเข้าร้าน เรื่องจิ๊บจ๊อยมากพี่น้องเอ้ยยยยยยยย
“แต่...” เสียงทุ้มดังขึ้นขัด เรียกให้ร่างอวบต้องหันกลับมาสนใจในสิ่งที่ร่างสูงกำลังจะพูด
“แต่อะไรเฮีย?” ถามกลับ และไม่รู้ว่าทำไม เขารู้สึกว่าไอ้เรื่องที่พี่ชายกำลังจะบอกครั้งนี้มันดูน่าหวาดระแวงชอบกล
“แกต้องจัดพนักงานใหม่แกมาให้ฉัน” ลู่หานเฉลย และ....ห๊ะ!!!!
“OwO...อะไรนะเฮีย???” กูว่าแล้วแม่งมันต้องไม่ชอบมาพากล และมันก็เป็นจริงๆด้วย “บ้าเหรอ พนักงานใหม่ เฮียหมายถึง....”
“เออ...คนนั้นแหละ”
“แต่เฮีย....ไอ้นั่นมัน....”
“ไม่มีแต่ พรุ่งนี้สิบโมง จองห้องวีไอพีให้ฉันด้วย”
ลู่หานยื่นคำขาด ซิ่วหมินแทบอยากจะกุมขมับตัวเองแรงๆ หาเรื่องมาให้กูอีกละสิเนี่ย แม่งเอ้ย>w<!!!
แต่เครียดอยู่เพียงครู่ก็ต้องคลายปมคิ้วที่ขมวดกันแน่นออก
พร้อมกับรอยยิ้มถูกใจกับประโยคสั่งท้ายของปลายสาย......
+++++++++
เมื่อคุยธุระกับผู้เป็นพี่ชายเสร็จสรรพเรียบร้อยหนุ่มน้อยก็เดินออกมาหาเพื่อนรักและน้องชายที่กำลังคุยกันรอเค้าอยู่ที่โซนรับแขกที่เดิม แต่ไม่ทันที่จะได้เดินไปนั่งก็ต้องกวักมือเรียกผู้เป็นน้องทั้งสองออกมาคุยด้วยกันข้างนอกทันที
“มีไรเฮีย เรียกมาไมอ่ะ” เมื่อเห็นว่าอยู่ห่างไกล ปลอดภัยจากผู้คนที่จะสามารถได้ยินสิ่งที่พวกเค้าคุยกันได้แล้วน้องชายคนกลางจึงเอ่ยถามออกมาด้วยความสงสัยทันที
“นั่นดิพี่หมิน มีไรอ่ะ” น้องชายคนเล็กเองก็เอ่ยถามกลับมาด้วยความสงสัยไม่น้อยเช่นกัน
“คืองี้ เมื่อกี้เฮียลู่โทรมา มีเรื่องให้พวกเราช่วยหน่อย” พี่ชายคนโตเอ่ยบอกน้องๆด้วยใบหน้าที่แฝงไปด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์อยู่ไม่น้อย
“เรื่องไรวะเฮีย แล้วทำไมต้องทำหน้างั้นอ่ะ” เมื่อเห็นรอยยิ้มที่เหมือนมีแผนอะไรสักอย่างของพี่ชาย แบคฮยอนจึงอดที่จะถามออกมาไม่ได้
“เรื่องอี้ชิงน่ะ เฮียเค้าอยากให้ช่วยหน่อย เอียงหูมานี่มา.........” หลังจากนั่นผู้เป็นพี่ชายจึงเอ่ยบอกสิ่งที่ได้วางแผนไว้เมื่อครู่กับญาติผู้พี่ให้น้องชายทั้งของคนได้รับรู้ และร่วมมือกันปฏิบัติการในครั้งนี้ด้วย
.
.
.
เมื่อทั้งสามตกลงกันเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้วจึงเดินกลับมาหาร่างเล็กที่นั่งรออยู่ก่อนหน้านี้ ก่อนที่จะเริ่มเปิดการสนทนาอีกครั้งโดยที่ไม่ให้ร่างเล็กได้ตั้งตัวเลยทีเดียว
“พี่อี้ชิง พี่ยังยืนยันว่าจะทำงานที่นี่มั้ย” แบคฮยอนเอ่ยถามในสิ่งที่ร่างเล็กนั้นได้ขอไว้ตั้งแต่แรกที่เข้ามาภายในร้านแห่งนี้ เหมือนต้องการความมั่นใจอีกสักครั้งว่าร่างเล็กตรงหน้านั้นยังคงแน่วแน่กับความตั้งใจเดิมหรือไม่
“อื้อ ทำสิทำ” เมื่อได้ยินคำถามที่น้องชายถามมาร่างเล็กก็รีบตอบกลับไปทันทีพร้อมรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความหวังเต็มเปี่ยม ก็นะเสียงที่แบคฮยอนถามเค้าเมื่อกี้นี่มันเหมือนจะบอกเค้ากลายๆแล้วนิว่าจะให้เค้าเข้ามาทำงานด้วย
“งั้นก็ยินดีด้วยครับพี่อี้ชิง พวกเรารับพี่เข้าทำงานที่นี่ เริ่มงานตั้งแต่พรุ่งนี้เลยครับ” สิ่งที่ได้ยินจากน้องชายคนเล็กเมื่อสักครู่นั้นทำให้ร่างเล็กยิ้มกว้างออกมาทันทีด้วยความดีใจพร้อมกับกระโดดโลดเต้นไปมารอบๆ เหมือนเด็กได้ของเล่นถูกใจก็มิปาน
“แต่...มีข้อแม้ว่าต้องเชื่อฟังพวกเราทุกอย่างนะเว่ย” ซิ่วหมินเอ่ยขัดบอกเพื่อนรักออกไปถึงเงื่อนไขที่ร่างเล็กต้องปฏิบัติตามในเวลาที่ทำงานอยู่ที่นี่ โดยที่ร่างเล็กนั้นไม่ทันได้สังเกตถึงรอยยิ้มเจ้าเล่ห์บนใบหน้าของเพื่อนแม้แต่น้อย จึงตอบตกลงไปอย่างง่ายดาย
“โอเค จะทำตามทุกอย่างเลยคร้าบ งั้นเดี๋ยวกลับแล้วนะ พรุ่งนี้จะมาทำงานแต่เช้านะครับคุณเจ้าของร้าน” เมื่อได้สิ่งที่ปรารถนาแล้วร่างเล็กก็ลาชายหนุ่มทั้งสามทันที ก่อนที่จะเดินออกไปจากร้านพร้อมรอยยิ้มเต็มหน้า
“ขอให้โชคดีนะเว่ยกระต่ายน้อย” ซิ่วหมินเอ่ยขึ้นมาเสียงไม่ดังมากนักก่อนที่จะหันไปมองหน้าน้องชายอีกสองคนด้วยสีหน้าที่บ่งบอกว่ากำลังจะมีอะไรสนุกๆให้ทำแล้วสิ แล้วเรื่องสนุกที่ว่าคืออะไรน่ะเหรอ ถ้าจะให้บอกก็คงไม่พ้นเรื่องที่ได้คุยกันไว้กับญาติผู้พี่เมื่อสักครู่นี้ หึหึหึ
‘ส่งอี้ชิงมาให้ฉัน...แล้วไปเตรียมจัดงานรับขวัญพี่สะใภ้ได้เลย~~~’
.
.
.
“มาทำงานแล้วครับ” เสียงหวานใสของร่างเล็กเอ่ยเจื้อยแจ้วมาตั้งแต่หน้าประตูร้าน แล้วดูสิเสียงสดใสมาเชียวไม่ได้รู้ตัวเล้ยว่าวันนี้ตัวเองจะต้องมาเจอกะอะไรบ้าง
“หวัดดีครับพี่อี้ชิง มาแต่เช้าเชียวนะครับ” ดีโอที่กำลังเช็คของอยู่ที่หน้าฟร้อนท์เอ่ยตอบรับพี่ชายร่างเล็กด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“หวัดดีโด้ แล้วไอ้สองคนนั้นล่ะ” เมื่อเอ่ยทักทายน้องชายคนเล็กเสร็จก็ถามหาผู้เป็นเพื่อนและน้องชายอีกคนทันที
“อ่อ พี่หมินกะพี่แบคเตรียมของอยู่ข้างในน่ะครับ” แล้วเตรียมอะไรน่ะเหรอ หึหึหึ อย่าเพิ่งรู้เลย เพราะของที่ทั้งสองคนกำลังเตรียมการไว้นั้นทำตามคำสั่งของญาติผู้พี่ทั้งนั้น และสิ่งที่เค้าได้รับมอบหมายมาก็เพียงแค่มาต้อนรับพี่ชายตัวเล็กที่กำลังจะมาติดกับ เอ้ย!! ที่กำลังจะมารายงานตัวทำงานวันแรกเพียงเท่านั้น
แต่นี่ก็นานมากแล้วพี่ชายทั้งสองของเค้าน่าจะออกมาสักที
ยังไม่ทันที่จะได้คิดอะไรไปมากกว่านั้นเสียงทักทายของพี่ชายทั้งสองก็ดังออกมาจากข้างในร้านที่แบ่งเป็นโซนตามการบริการลูกค้า
“หวัดดีครับพี่อี้ชิง” แบคฮยอนเอ่ยทักเสียงสดใส ก่อนที่พี่ชายคนโตจะเอ่ยทักออกมาบ้าง “มาแต่เช้าเชียวนะอี้ชิง”
“ไปไหนมาวะ” เมื่อเห็นเพื่อนรักและน้องชายอีกคนเดินมาถึงก็รีบถามถึงสิ่งที่ทำให้เพื่อนรักไปทำมาทันที
“ก็ไปเตรียมของนิดหน่อยวะ วันนี้จะมีแขกวีไอพีมา กะจะให้มึงต้อนรับให้ซะหน่อย” ร่างอวบเอ่ยบอกไอ้เพื่อนรักด้วยรอยยิ้มที่แผงแววเจ้าเล่ห์อยู่ไม่น้อย ทางฝ่ายอี้ชิงเองเมื่อได้ยินสิ่งที่เพื่อนรักบอกมาถึงกับทำตาโต อะไรนะ มึงว่าไงนะ แขกวีไอพี ให้กูต้อนรับ เอาแล้วไงไอ้ชิงมาทำงานวันแรกก็เจองานยักษ์แล้วมั้ยล่ะ
“มึงว่าไงนะ แขกวีไอพี ให้กูต้อนรับ บ้ารึเปล่ามึง กูเพิ่งมาทำงานวันแรกนะเว่ย” เมื่อประมวลผลคำพูดของเพื่อนเสร็จสรรพปากอิ่มแดงนั้นก็บ่นร่ายยาวออกมาเพื่อทักท้วงเพื่อนรักของตนทันที จะบ้ารึไงกันเค้าเพิ่งมาทำงานนะ
“ไม่บ้าเว่ย แล้วกูก็เอาจริง แล้วที่สำคัญมึงก็ต้องทำ ชัดมั้ย” ซิ่วหมินตอบกลับด้วยเสียงจริงจัง บ่งบอกให้เพื่อนตัวเล็กรู้มันทีว่างานนี้ห้ามปฏิเสธเด็ดขาด
ร่างเล็กเองเหมือนจะรับรู้ในเจตนาที่เพื่อนส่งมาตามคำพูดนั้นดี เค้าเองก็คงปฏิเสธไม่ได้สินะ เอาวะ ลองดูสักตั้ง “โอเค กูทำก็ได้ แต่มีอะไรเกิดขึ้นอย่ามาว่ากูนะเว่ย”
เมื่อพูดจบร่างเล็กก็เดินเข้าไปในห้องแต่งตัวเพื่อไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นเครื่องแบบของร้านทันที โดยที่ไม่ทันได้ฟังเสียงบ่นตามหลังของเพื่อนเลยแม้แต่น้อย
“ถ้าจะเกิดอะไรขึ้นจริง มึงต่างหากที่จะมาว่ากูอี้ชิง”
.
เมื่อถึงเวลาสายของวันสปาที่นี่ก็เปิดให้บริการตามปกติ แต่ที่จะไม่ปกตินั้นคงจะเป็นคนตัวเล็กที่กำลังเดินวนไปมารอบๆโซฟาที่โซนรับแขกด้วยสีหน้ากะวนกระวายและตื่นเต้นอยู่ไม่น้อยกับการทำงานวันแรกที่ไม่ธรรมดาของเค้า ซึ่งการกระทำนี้ก็เรียกรอยยิ้มจากเจ้าของสปาทั้งสามที่นั่งอยู่ด้วยไม่น้อย จึงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยทักออกไป
“พี่อี้ชิงมานั่งเหอะ พี่เดินจนผมปวดหัวไปหมดแล้ว” แบคฮยอนเอ่ยดึงสติของคนตัวเล็กให้กลับมาสนใจบุคคลทั้งสามอีกครั้ง
“แม่ง จะตื่นเต้นไรนักหนาวะ” คราวนี้ซิ่วหมินอดที่จะพูดออกมาบ้างไม่ได้ ก็นะ เพื่อนรักของเค้ามันเดินวนไปมานานแล้ว จนพวกเค้าเองเริ่มจะเหนื่อยแทน
“แม่ง ไม่ตื่นเต้นได้ไงวะ แขกวีไอพีเลยนะมึง” ร่างเล็กเอ่ยตอบกลับมาและเดินวนต่อไปเรื่อยๆ โดยที่ไม่สนใจคำเอ่ยชวนให้นั่งเลยแม้แต่น้อย
“ไม่ต้องตื่นเต้นมึง เดี๋ยวก็มาแล้ว หึหึหึ …… โด้ ออกไปดูหน้าร้านให้พี่หน่อยสิ ถึงเวลาแล้วน่าจะมาถึงล่ะ” ประโยคแรกนั้นร่างอวบเอ่ยบอกเพื่อนรัก ก่อนที่จะหันมาบอกให้น้องชายคนเล็กเตรียมตัวออกไปรอต้อนรับแขกวีไอพีที่ว่าถึง เดี๋ยวก็คงมาถึงแล้วล่ะ ก็นะ เรื่องแบบนี้เฮียแกตรงเวลานักล่ะ
“ได้ครับพี่หมิน” น้องชายคนเล็กตอบรับก่อนที่จะเดินออกไปรอต้อนรับแขกวีไอพีที่ทุกคนรอคอยที่หน้าร้านทันที และโดยที่ทุกคนยังไม่ทันได้เตรียมใจ เอ่อ ถ้าจะพูดให้ถูกคือ ร่างเล็กคนเดียวที่ยังไม่ทันได้เตรียมใจไว้ รถบีเอ็มดับบิวสีดำก็เข้ามาจอดในร้านทันที
เมื่อเห็นรถคันหรูที่คุ้นเคยมาจอดหน้าร้านแล้ว ร่างอวบก็แอบยกนาฬิกาขึ้นมามองทันที พร้อมกับค่อนแคะพี่ชายอยู่ในใจ เหอๆ ทีอย่างงี้ล่ะมาตรงเวลาเชียวนะ ทำไมตอนไปรับน้องเนี่ยไปมาตรงเวลาแบบนี้มั้งวะ ยังไม่ทันที่จะได้คิดอะไรไปมากกว่านี้ไอ้พี่ชายที่เค้าเพิ่งเอ่ยบ่นอยู่ในใจก็เดินเข้ามาภายในร้านกับน้องชายคนเล็กที่เดินตามเข้ามาด้วย
ร่างสูงในชุดสูทสีดำนั้นดูดีไม่น้อยเลย ถ้าจะเอาตามตรงร่างสูงดูหล่อเหลาและภูมิฐานมากทีเดียว
“ว่าไง...ไอ้พวกนั้นอยู่ไหนซะล่ะ” เมื่อเข้ามาภายในร้านร่างสูงไม่รอช้ารีบถามหาเป้าหมายที่เค้าต้องการพบพร้อมกับกวาดสายตาไปรอบๆร้านทันที
“อยู่ที่โซนรับแขกครับพี่ลู่” ดีโอเอ่ยบอกญาติผู้พี่ที่เป็นหุ้นส่วนใหญ่ถึงสิ่งที่พี่ชายกำลังถามถึง เมื่อได้ยินสิ่งที่ต้องการรู้แล้ว ร่างสูงก็รีบก้าวขายาวๆของตัวเองไปที่เป้าหมายทันที
“โอ๊ะ มาแล้ว สวัสดีครับคุณลู่หาน” ซิ่วหมินเอ่ยทักทายลูกค้าวีไอพีที่รอคอยด้วยน้ำเสียงสุภาพพร้อมกับโค้งตัวให้อย่างมีมารยาท แสร้งทำเป็นไม่รู้จักร่างสูงที่เดินเข้ามาได้อย่างแนบเนียน ซึ่งร่างสูงเองก็รับมุขได้อย่างแนบเนียนเช่นกัน
“สวัสดีครับ ห้องเดิมนะครับ” เมื่อเอ่ยจบร่างสูงก็รีบเดินไปที่รอที่ห้องที่ว่าทันที และห้องเดิมที่ร่างสูงเอ่ยสั่งไว้นั่นก็คือห้องวีไอพีที่รวบรวมเอาบริการทุกอย่างของร้านไปในห้องนั้นและที่สำคัญมันมีเพียงห้องเดียว ซึ่งร่างสูงสร้างไว้เพื่อใช้ในการผ่อนคลายความเครียดหลังจากการทำงานของตนโดยเป็นส่วนตัว
เมื่อร่างสูงเดินลับสายตาไป พี่ชายคนโตของร้านจึงรีบหันมาเอ่ยสั่งเพื่อนตัวเล็กของเค้าทันที
“นั่นแหละแขกวีไอพีกู อย่าทำให้กูเสียหน้านะมึง ตามใจเค้าหน่อยล่ะกัน …… แบคเดินไปส่งอี้ชิงมันหน่อยนะ มันคงไม่รู้ทาง” เมื่อเอ่ยบอกเพื่อนรักตัวเล็กเรียบร้อยแล้วก็หันไปสบตาน้องชายอย่างมีเลศนัยก่อนที่จะบอกน้องชายของตนให้เดินไปส่งเพื่อนรักให้ถึงที่
“ได้เลยเฮีย ไม่ต้องเป็นห่วง.......ป่ะ พี่อี้ชิง” เมื่อรับรู้ถึงสิ่งที่พี่ชายต้องการจะสื่อแล้ว แบคยอนก็ลุกขึ้นเดินไปหาพี่ชายตัวเล็กก่อนที่จะชักชวนกันให้ไปสักที โดยที่ร่างเล็กก็ไม่ได้มีทีท่าขัดขืนแต่อย่างใด ลุกตามหลังน้องชายไปโดยง่าย
“สู้ๆนะครับพี่อี้ชิง รายนี้น่ะถ้าขัดใจเค้าจะโกรธมาก ยอมๆเค้าหน่อยล่ะกันนะพี่” เมื่อมาถึงหน้าห้องวีไอพีแล้ว แบคฮยอนก็เอ่ยบอกถึงสิ่งที่ร่างเล็กควรจะทำตามอีกสักครั้ง ก่อนที่จะเปิดประตูให้พร้อมกับดันร่างเล็กเข้าไปภายในห้อง ก่อนที่จะปิดประตูห้องทันทีโดยที่ไม่ลืมล็อคประตูจากภายในให้อีกด้วย
.
.
.
“มาแล้วเหรอ ชื่อไรล่ะ” ร่างสูงเอ่ยถามทันทีที่เห็นร่างเล็กเดินเข้ามาภายในห้องที่ตนนั่งรออยู่
“เอ่อ...จางอี้ชิงครับ” เสียงหวานเอ่ยตอบอย่างกล้าๆกลัวๆก็ร่างสูงตรงหน้าเค้านั้นถึงแม้จะหล่อแต่ก็แอบน่ากลัวอยู่ไม่น้อย และเหมือนอี้ชิงจะแสดงออกมากไปว่ากลัวคนตรงหน้าทำให้ร่างสูงที่ได้เห็นร่างเล็กตรงหน้ากำลังก้มหน้าหลบสายตาเค้าอยู่ถึงกลับยิ้มออกมากับความน่ารักของร่างเล็ก
น่ารักกว่าที่คิดไว้นะอี้ชิง หึหึหึ
“กลัวฉันรึไง ไม่ต้องกลัวหรอก มานี่สิอี้ชิง” ร่างสูงเอ่ยบอกเสียงนิ่งเรียบตามสไตล์ และยังเอ่ยสั่งคนตัวเล็กให้เดินเข้าไปใกล้ๆอีกด้วย ซึ่งคนตัวเล็กเองในตอนแรกก็ลังเลอยู่ไม่น้อยแต่พอเผลอเงยหน้าขึ้นมาสบตาคมโตนั้นก็เหมือนมีแรงดึงดูดให้ขาเรียวเดินเข้าไปหาได้อย่างไม่ยากเย็น
“ฉันอยากเข้าซาวน่าซะหน่อย...แล้วนายก็ต้องไปเป็นเพื่อนฉัน” เมื่อร่างเล็กเดินเข้ามาใกล้ในระยะที่มือเอื้อมถึงแล้วร่างสูงจึงเอ่ยบอกในสิ่งที่เค้าต้องการออกไปทันที
“ตะ แต่ว่า” ร่างเล็กยังคงตอบกลับไปอย่างตะกุกตะกัก แต่ก็ปฏิเสธได้ไม่เต็มเสียงนัก
“ไม่มีแต่ ไปเปลี่ยนชุดซะ” เสียงสั่งเรียบๆแต่เฉียบขาดลอยเข้ามากระทบโสตประสาท เสียงที่ติดจะดุเล็กน้อยนั้นทำให้อี้ชิงไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าร่างสูงแม้แต่น้อย ได้แต่ยอมทำตามในสิ่งที่ร่างสูงต้องการเท่านั้น
ไม่นานนักร่างเล็กก็เปลี่ยนเสื้อผ้าสำหรับเข้าซาวน่าเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่พอร่างสูงได้เห็นร่างเล็กก็ถึงกลับอึ้งไปชั่วขณะ ก็ตอนนี้ทั้งเนื้อทั้งตัวร่างเล็กมีเพียงแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเล็กที่ห่อหุ้มท่อนล่างไว้และชั้นในตัวน้อยเท่านั้น และที่น่าสะดุดตาคือผิวขาวเนียนนุ่มเหมือนเด็กที่กำลังเรียกร้องให้ผู้ได้พบเห็นลองสัมผัสดูสักครั้ง อีกทั้งตุ่มไตสีชมพูสวยนั่นอีกเหมือนมีแรงดึงดูดมหาศาลให้อยากเข้าไปลิ้มลองมันเหลือเกิน
สวยมากจริงๆ อี้ชิงของฉัน!!!!!
“ไปได้แล้ว” เมื่อเชยชมร่างเล็กตรงหน้าด้วยสายตาเสร็จเรียบร้อยร่างสูงก็เอ่ยเรียกให้ร่างเล็กเดินตามตนไปทันที ซึ่งตอนนี้ร่างสูงเองก็อยู่ในสภาพที่ไม่ต่างจากร่างเล็กเลย นั่นคือมีผ้าเช็ดตัวห่อหุ้มร่างกายเพียงผืนเดียว เปิดโชว์แผ่นอกแกร่งให้ได้เห็น ซึ่งนั่นก็เรียกริ้วสีระเรื่อขึ้นมาแต่งแต้มบนใบหน้าหวานได้ไม่น้อย
เมื่อทั้งคู่เดินเข้ามาถึงภายในห้องซาวน่าที่ร้อนระอุแล้ว ลู่หานก็เดินไปนั่งที่ม้านั่งที่ตั้งอยู่มุมห้องทันที ก่อนที่สายตาคมจะเหลือบไปเห็นอี้ชิงที่กำลังยืนอยู่ที่หน้าประตูอย่างหวั่นๆไม่กล้าจะขยับไปไหนด้วยซ้ำ
“มานั่งนี่” เมื่อได้ยินเสียงสั่งแบบดุๆ ของร่างสูง ร่างเล็กถึงกับสะดุ้งด้วยความตกใจ ก่อนที่จะหันไปมองที่ที่ร่างสูงกำลังชี้ไปนั่งข้างๆตัวของเค้าเหมือนกับต้องการจะบอกร่างเล็กให้รีบไปนั่งตรงนั้นเร็วๆ อีกทั้งสายตาดุๆนั่นอีกล่ะ มันน่ากลัวนะ
ในที่สุดร่างเล็กก็เดินไปถึงที่ม้านั่งที่ร่างสูงกำลังนั่งอยู่ แต่ยังไม่ทันที่จะได้นั่งลงตามที่สั่งมาเมื่อครู่ ก็ถูกมือหนาเกี่ยวรัดเอวเล็กให้ล้มลงมานั่งบนตักแกร่งซะก่อนแล้ว
“เอ่อ คุณลู่หาน ปะ ปล่อยเถอะครับ” เมื่อรู้ถึงสถานภาพที่เป็นอยู่อี้ชิงจึงรีบท้วงออกมาทันที แต่ด้วยยังเกรงกลัวคนตรงหน้าไม่น้อยจึงทำได้เพียงเอ่ยท้วงแบบขัดๆไปเท่านั้น แต่ท่าทีของร่างเล็กก็เรียกรอยยิ้มมาประดับบนใบหน้าคมได้ไม่ยากนัก นี่คงกลัวเค้ามากสินะ
“ถ้าบอกว่าไม่ปล่อยมีอะไรมั้ย” นอกจากจะไม่ปล่อยตามที่ร่างเล็กร้องขอแล้วยังกอดรัดแน่นยิ่งกว่าเดิม ไม่พอมือหนาเองก็เริ่มจะซุกซนด้วยการนวดคลึงที่เอวคอดสวยนั้นไปด้วย
“แต่ว่า คุณลู่หาน มัน.....”
“ไม่แต่อะไรทั้งนั้น ไม่ปล่อยก็คือไม่ปล่อย” ยังไม่ทันที่ร่างเล็กจะพูดปฏิเสธได้จบประโยคร่างสูงก็รีบสวนขึ้นไปทันที และก่อนที่จะได้พูดอะไรมากไปกว่านี้ ลู่หานก็จัดการอุ้มร่างเล็กให้หันหน้าเข้าหาตนทันที เมื่ออยู่ในท่าทางที่พอใจแล้วมือหนาก็เริ่มทำงานอย่างต่อเนื่องด้วยการลูบไล้จากเอวคอดไล้ไปถึงแผ่นหลังบางจนมาหยุดอยู่ที่ท้ายทอยสวย ส่วนอีกมือนั้นกำลังเค้นคลึงเอวบางอย่างมันส์มือเลยทีเดียว
เมื่อเห็นการกระทำนั้นของร่างสูง อี้ชิงได้แต่นั่งหน้าแดง ทำตัวไม่ถูกเหมือนคนสติหลุดลอย และพอเมื่อตั้งสติได้กำลังจะเอ่ยทักท้วงออกมา ก็ต้องกลืนคำท้วงนั้นลงคอไปเมื่อริมฝีปากอิ่มสวยของเค้าถูกจู่โจมด้วยริมฝีปากบางของร่างสูงซะแล้ว ลู่หานค่อยๆไล้ชิมความหวานของริมฝีปากอิ่มตรงหน้าอย่างใจเย็น ลิ้นร้อนถูกส่งออกมาไล้เลียเก็บกวาดความหอมหวานทั่วทุกบริเวณของริมฝีปากสวย จนเมื่อพอใจร่างสูงจึงผละริมฝีปากออกมา ก่อนที่จะมองร่างเล็กที่ตอนนี้ยังคงอึ้งนั่งนิ่งกับเหตุการณ์ที่เกิดไปเมื่อสักครู่
เมื่อเห็นปฏิกิริยาตอบรับจากร่างเล็ก ร่างสูงได้แต่ยิ้มมุมปากอย่างพอใจ ก่อนที่จะกดจมูกโด่งสูดดมความหอมจากแก้มเนียนใสจนชุ่มปอด แล้วจึงค่อยไล่ริมฝีปากบางไปกดจูบที่ขยับที่ชื้นเหงื่อเนื่องจากความร้อนของห้องซาวน่า ไล้ลงมาเรื่อยๆตั้งแต่หน้าผากมน จมูกโด่งรั้น และริมฝีปากสวย กดจูบแบบบางเบาและละออกมาเท่านั้น
“อ้าปาก” ร่างสูงเอ่ยสั่งร่างเล็กในอ้อมกอดโดยที่ริมฝีปากยังไม่ยอมห่างจากริมฝีปากอิ่มสวยเลยแม้แต่น้อย
“ฮะ..” เมื่อได้ยินสิ่งที่ร่างสูงพูดก็ได้สติและไม่เข้าใจในสิ่งที่ร่างสูงบอกด้วยเช่นกัน ทะ ทำไมต้องอ้าปาก
“บอกให้อ้าปากไง…เดี๋ยวนี้” เมื่อเห็นว่าคนน่ารักตรงหน้ายังคงไม่เข้าใจและไม่ยอมทำตามที่พูดไปเมื่อสักครู่ ร่างสูงจึงเอ่ยสั่งอีกครั้งคราวนี้เพิ่มออฟชั่นด้วยการขบริมฝีปากล่างของร่างเล็กเหมือนเป็นการเตือนให้ทำตามที่เค้าบอกเดี๋ยวนี้
อี้ชิงที่ตอนนี้ทำอะไรไม่ถูก เมื่อได้ยินลู่หานเอ่ยสั่งเสียงดุกลับมาอีกครั้ง ก็ได้แต่จำยอมอ้าปากออกตามที่ร่างสูงต้องการ เมื่อริมฝีปากอิ่มตรงหน้าเริ่มเผยอขึ้นเล็กน้อยร่างสูงก็ส่งลิ้นร้อนเข้าไปสำรวจภายในโพรงปาก พร้อมกับไล้ลิ้นกวาดต้อนน้ำหวานดูดดุนลิ้มรสทุกหยาดหยดจนไล้ลิ้นมาหยุดที่ลิ้นเล็กก่อนที่จะแตะสัมผัสที่ลิ้นเล็กบางเบา เพียงแค่นั้นร่างเล็กก็ถึงกับสะดุ้งน้อยๆ และเผลอครางออกมาอย่างลืมตัว
ร่างสูงค่อยๆเกี่ยวกระหวัดชักพาให้ลิ้นเล็กตอบสนองกลับอย่างแผ่วเบา จนเมื่ออารมณ์เริ่มทะยานสูงขึ้นลิ้นร้อนจึงเกี่ยวรัดลิ้นเล็กหนักหน่วงมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งเอียงปรับองศาใบหน้าคมให้กดจูบได้อย่างดูดดื่มและเร่าร้อนมากยิ่งขึ้น ร่างเล็กเมื่อถูกปรนเปรอให้อย่างเร่าร้อนก็ทนต่อความต้องการไม่ไหวจึงเกี่ยวกระหวัดลิ้นเล็กกลับไปอย่างเก้ๆกังๆ หลับตาพริ้มยอมรับสัมผัสหวานหอมที่กำลังได้รับ และครางเสียงหวานออกมาเพียงเท่านั้น
ปฏิกิริยาที่ร่างเล็กตอบสนองกลับมาเป็นที่น่าพอใจไม่น้อย ร่างสูงจึงกดจูบพร้อมเกี่ยวกระหวัดลิ้นให้หนักหน่วงและเร่าร้อนมากยิ่งขึ้นไปอีก
“อะ อื้อ” จนเมื่อคนตัวเล็กเริ่มขาดอากาศหายใจจึงร้องท้วงออกมา มือเล็กเองก็ท้วงด้วยการทุบลงที่อกแกร่งสองสามทีเพื่อต้องการบอกให้ร่างสูงปล่อยริมฝีปากของเค้าให้เป็นอิสระสักที เมื่อรับรู้ถึงความต้องการก็ค่อยๆละริมฝีปากออกมาอย่างเสียดาย เมื่อริมฝีปากอิ่มเป็นอิสระอี้ชิงจึงรีบกอบโกยอากาศเข้าปอดทันที รู้สึกร้อนรุ่มไปหมด ห้องซาวน่าก็ร้อน ริมฝีปากของคุณลู่หานก็ร้อน ร้อนไปหมด คิดอะไรไม่ออกแล้วนะ
เมื่อจังหวะหายใจของร่างเล็กกลับมาเป็นปกติ ร่างสูงก็ไม่ปล่อยให้ได้คิดอะไรนานนัก ริมฝีปากบางเข้าประกบจูบริมฝีปากอิ่มอีกครั้งทันที ไล้เลียละเลียดชิมอย่างใจเย็นก่อนจะดูดดึงเร่าร้อนมากขึ้นเรื่อยๆตามแรงอารมณ์ ลิ้นร้อนถูกส่งเข้าไปสำรวจภายในปากหวานอีกครั้งเมื่อร่างเล็กเผลอเผยอริมฝีปากขึ้นด้วยความเสียวซ่านที่ได้รับ ตอนนี้ร่างเล็กเหมือนตกอยู่ในภวังค์ หัวสมองขาวโพลนไปหมดรับรู้ได้เพียงความอุ่นร้อนจากริมฝีปากร่างสูงที่กำลังมอบสัมผัสเสียวซ่านให้เท่านั้น มือเล็กที่เกาะอยู่ที่อกแกร่งเริ่มเลื่อนขึ้นไปประสานกันที่ท้ายทอยร่างสูงโดยที่เจ้าตัวก็ยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ
พอได้รับการตอบสนองที่น่าพอใจลู่หานจึงเอียงหน้าปรับองศาให้บดจูบได้แนบแน่นมากยิ่งขึ้น มือหนาเองก็เริ่มไม่อยู่สุข ไล้ขึ้นไปบดขยี้ยอดอกสีสวยทั้งสองข้างอย่างแผ่วเบา ปัดป่ายกระตุ้นอารมณ์อี้ชิงให้มีมากขึ้นไปอีก
อ่านต่อที่นี่นะคะ เปิดอ่านทั้งสองอันเลยน้า >>> http://twiffo.com/1DHm // http://twiffo.com/1DHq
.
.
.
.
.
.
.
เอิ่ม มีต่อเถอะเนาะ เอิ้กๆๆ
~แถมคร้าบบบ~
“เห้ย อย่าเบียดดิวะ มันไม่ชัด” เสียงของพี่ชายคนโตเอ่ยบอกน้องชายทั้งสองที่กำลังนั่งเบียดกันอยู่ในช่องแอร์ด้านบน
“เฮียนั่นแหละ อย่าเพิ่งเบียดมา เดี๋ยวภาพไม่ชัดนะเว่ย” น้องชายคนกลางโวยกลับเช่นกัน ก็นะมันแคบก็รู้ยังจะเบียดกันอีก
“หยุดเถียงกันก่อนพี่ เสียงไม่ชัด” คราวนี้น้องชายคนเล็กเริ่มทนไม่ไหวจึงร้องขึ้นมาเตือนพี่ชายทั้งสองคนให้เงียบซะที ก็นะในช่องแอร์ถึงแม้ภาพจะชัด แต่ถ้าเสียงดังกันมันก็ไม่ค่อยได้ยินนะสิ
เอิ่ม =___=;; ฟังไม่ผิดหรอกครับทุกคน มันคือช่องแอร์จริงๆ ก็นะด้วยความอยากรู้อยากเห็นมันก็มีบ้างใช่มั้ยครับ และนั่นก็เป็นต้นเหตุที่ทำให้ตอนนี้พวกเราสามคนจึงมานั่งกระจุกอยู่ในช่องแอร์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เริ่มจากน้องชายคนเล็กที่นั่งอยู่มุมซ้ายสุดที่นั่งจ้องแบบตาไม่กระพริบ ถัดมาเป็นน้องชายคนกลางที่กำลังถือกล้องอัดวิดีโออย่างดี ระบบซูมแปดร้อยหกสิบห้าล้านพิกเซล ตามเก็บบันทึกสถานการณ์สดแบบเกาะติดกลางสนามทุกช็อตไม่ให้พลาด และสุดท้าย เหอๆๆ ผมเอง
และที่กำลังนั่งเถียงกันอยู่เนี่ย เพราะว่าในช่องแอร์แม่งก็โคตรเล็กแต่มันดันเข้ามาพร้อมกันทั้งสามคน แหม อยากรู้กันจริงนะว่าเวลากวางกินกระต่ายจะเป็นยังไง แลดูเป็นห่วงอี้ชิงกันเหลือเกิน...ห่วงว่าจะไม่เสร็จกวางอ่ะนะ สาบานได้ว่าผมรักเพื่อน TT^TT
“ลงมากันได้แล้วไอ้ตัวดี” ในขณะที่ทั้งสามกำลังถกเถียงกันอย่างเมามันส์ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาขัดซะก่อน โอ้ววว เสียงสวรรค์ ไม่ใช่สิ เสียงทุ้มๆดุๆ แบบนี้แทบจะไม่ต้องเดาก็รู้ว่าใคร งานเข้าแล้วไง พ่อแก้วแม่แก้วช่วยลูกด้วย
“ยังอีก” เมื่อเห็นว่าน้องชายตัวดีทั้งสามยังไม่ลงมาตามคำสั่ง ร่างสูงจะเอ่ยบอกอีกครั้งถึงแม้เสียงที่ใช้จะไม่ได้ดังมากเพราะไม่อยากรบกวนคยตัวเล็กที่กำลังพักผ่อน แต่มันก็น่ากลัวมากสำหรับทั้งสาม และเมื่อได้ยินเสียงสั่งแบบดุๆของญาติผู้พี่อีกครั้งทั้งสามไม่รอช้าแทบจะกระโดดลงมาจากช่องแอร์กันเลยทีเดียว
เมื่อลงมากันเป็นที่เรียบร้อยแล้วทั้งสามตั้งท่าจะชิ่งกันทันที แต่ช้าไปเพราะตอนนี้ลู่หานได้ยืนดักรอหน้าทางลงจากช่องแอร์เพื่อเตรียมตัวสั่งสอนน้องชายตัวดีทั้งสามอยู่นานแล้ว
“เฮีย...อะ...เอ่อ มาตั้งแต่เมื่อไหร่” เสียงสั่นๆของพี่ชายคนโตเอ่ยถามพี่ชายแบบตะกุกตะกัก อ้ากกก อยากจะบ้าตาย ทำไงดีวะ ตายแน่ๆ ตอนนี้แม่งรู้สึกเหมือนมีรถแอมบูแลนซ์วิ่งวนวี๊หว่อๆอยู่ในหัวเลยเหอะTT^TT
“แล้วพวกแกไปทำไรกันมา” เสียงทุ้มติดจะดุเอ่ยถามกลับมาอีกครั้ง งื้อ ดุจังวะ จะร้องไห้จริงๆแล้วนะ
“ก็...เอ่อ”
“ไม่ต้องโกหก รู้ทัน....แล้วก็รู้ว่าทำอะไรมา” เอาแล้วไงกู งานเข้าอย่างแรง จะรอดกลับไปมั้ยเนี่ย
“ก็ เฮีย”
“ไม่ต้องพูด เอามาดูดิ” ยังไม่ทันที่ซิ่วหมินจะได้เอ่ยแก้ตัวให้พวกเค้าพ้นผิด ร่างสูงก็เอ่ยสวนกลับมาพร้อมแย่งกล้องจากมือน้องชายคนรองมาเปิดดูทันที
“ชัดดีนี่ ซื้อต่อเอาเท่าไหร่” ห้ะ!!! เมื่อกี้เฮียแกว่าไงนะ? จะซื้อต่อ...จริงอ่ะ OwO แม่งที่แอบมาดักรอเพราะเรื่องนี้ใช่ม้าย ทำเอาน้องตกอกตกใจหมด คอยดูเถอะจะเรียกเงินให้หมดตัวเลย หึหึหึ
“โหย เฮีย อี้ชิงมันเพื่อนรักผมนะ มันก็ต้องขอแพงหน่อยสิ” เสียงของซิ่วหมินตอบกลับร่างสูงไปเมื่อเริ่มคิดอะไรดีๆออก ก่อนจะหันไปมองที่น้องชายทั้งสองด้วยรอยยิ้มที่เข้าใจกันดี
“เอาเท่าไหร่ว่ามา อย่าลีลา”
พี่ใหญ่ยิ้ม “ก็...ไม่มีไรมากหรอกเฮีย แค่ออดี้อาร์แปดรุ่นออกใหม่ล่าสุดคันนึงก็เท่านั้นเอ๊งงงง~”
พูดจบก็รีบหันไปทำตาแบบรู้กันให้น้องชายอีกสองคนที่เหลือทันที ทั้งแบคฮยอนและดีโอเมื่อได้เห็นความนัยที่แฝงมาของผู้พี่ก็แอบยิ้มร้าย ก่อนน้องชายคนเล็กจะหันไปยิ้มหวานให้ร่างสูงที่ยังนิ่ง
“งั้นผมขอห้องคาราโอเกะวีไอพีสำหรับพวกเราสามคนนะครับ^^”
“แล้วของแกจะเอาอะไร?” ร่างสูงหันมาถามน้องชายคนกลางด้วยสีหน้าเรียบเฉย
ก่อนจะสำเหนียกได้ว่าไม่น่าไปถามมันเลยยยย..
เพราะไอ้ที่ตอบกลับมานี่แทบอยากจะกระโจนไปบีบคอถ้าไม่ติดว่าเป็นน้อง
“สิทธิในการแตะเนื้อต้องตัวและลวนลามพี่อี้ชิงได้อย่างถูกต้องและไม่มีบทลงโทษ”
ตาคมโตจ้องน้องชายคนรองเขม็ง ส่วนเจ้าตัวก็เอาแต่ยิ้มหน้าระรื่นลูกเดียว ไม่ใช่แค่แบคฮยอนที่ยิ้ม ซิ่วหมินและดีโอก็ยิ้มด้วยเช่นกัน ทั้งหมดหันหน้ามาหาผู้เป็นพี่ชาย เอียงคอทำตาแป๋วเพื่อขอคำตอบ
แต่.....
“โป๊ก!โป๊ก! โป๊ก!.....โอ๊ยยยยย!!!>o<” ทุกเสียงดังขึ้นในเวลาไล่เลี่ย เริ่มด้วยมะเหงกหนักๆอันเท่าควายของเสี่ยวลู่หานเคาะลงกลางกะบาลของสามแสบทีละคน และเสียงร้องโอดโอยเพราะความเจ็บที่ไอ้พี่บ้ามันไม่ออมแรงซะมั่งเลย
“พี่ลู่อ่ะ...พวกผมเจ็บนะครับ” น้องนุชสุดท้องต่อว่าหน้ามุ่ย ส่วนอีกสองคนที่เหลือได้แต่ส่งสายตาอาฆาตไปให้คนลงมือที่จนป่านนี้มันก็ยังสติลทำหน้านิ่งอยู่นั่นแหละ
“เขกให้เจ็บ ไม่ได้เขกให้รู้สึกดี...หนอยไอ้เด็กพวกนี้ พอใจดีด้วยแล้วเล่นหัว ของแต่ละอย่างที่พวกแกขอนี่มันฟังดูมีสาระมากเลยเนอะ” ลู่หานร่ายยาวใส่ สามพี่น้องเบ้หน้าแล้วลอบมองคนสูงกว่าด้วยแววตาจิกกัด หากร่างสูงไม่สนใจ เดินมาซ้อนหลังทั้งสามแล้วลากไปที่ประตูห้องท่ามกลางเสียงโวยวายของคนถูกบังคับ
“อะไรวะเฮีย จะลากไปไหนเนี่ย แม่งเบาดิวะ เจ็บนะว้อยยยยยย!!!” เสียงโวยวายดังลั่นมาตลอดทางจนถึงหน้าประตู มือหนาข้างหนึ่งจีบลูกบิดและหมุนมันเปิดออกแล้วจัดการโยนพี่น้องสามใบเถาออกไปข้างน้องแบบไม่ปรานีปราศรัย ใบหน้าหล่อแสยะยิ้มร้ายเจ้าเล่ห์ให้เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะปิดประตูไล่หลังเสียงดัง!
“เฮ้ย....เล่นงี้เลยเหรอวะ” ซิ่วหมินสบถออกมาอย่างหัวเสีย ชิชะ...ไอ้เฮียบ้า คนเค้าอุตส่าห์ช่วยให้ได้กินกระต่ายยังจะมาทำแบบนี้ใส่อีก แม่งเนรคุณมากมายอ่ะ
“อ่อย...ฮะ เฮีย ลุกว่อย เฮียทับผมอยู่” เสียงพูดอู้อี้จากด้านล่าง ร่างอวบก้มลงมองก็พบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่บนพื้นที่มีน้องชายเป็นเบาะรองให้ และข้างล่างของแบคฮยอนก็มีดีโออีกทีทำเอาต้องรีบกระเด้งตัวขึ้นอย่างกะทันหันพร้อมกับขุดซาก(???)น้องอีกสองคนขึ้นมา
“เราจะเอาไงดีวะเฮีย...” แบคฮยอนเปิดประเด็นหลังจากลุกขึ้นมาได้ ตอนนี้สามพี่น้องกำลังยืนจ้องประตูห้องวีไอพีเขม็งชนิดแทบจะแผดเผามันให้ไหม้เป็นจุลไปเลยก็ไม่ปาน
“นั่นสิพี่ นอกจากจะไม่ทำตามข้อเสนอแล้ว ยังยึดวีดีโอไปอีกอ่ะ โถถถ...อุตส่าห์เบียดไปอัดแทบตาย” ดีโอพูดอย่างเสียดายเมื่อนึกถึงกล้องวีดีโอที่ลู่หานยึดเอาไป กว่าจะเข้าไปนั่งเบียดแล้วบันทึกภาพมันไม่ใช่สบายๆเลยนะ สรุปที่ทำทั้งหมดพเพื่ออะไรเนี่ยTwT??? ซิ่วหมินเองก็จิ๊ปากเสียดายเช่นกัน แต่ในระหว่างที่พี่ใหญ่และน้องเล็กกำลังโศกเศร้า(?)อยู่นั้น หนุ่มน้อยอีกคนกลับยิ้มเฉ่งพร้อมกับกำมือยื่นออกมาตรงหน้าแล้วแบออกให้อีกสองคนดู สิ่งที่ได้เห็นทำเอาซิ่วหมินและดีโอเบิกตากว้างอย่างมีความหวัง จ้องหน้าพี่คนรองอย่างปลื้มปิติสุดๆ
“...นึกว่ากล้องนั้นใส่เมมการ์ดได้แค่อันเดียวเหรอ”
.
.
.
ภายในห้อง~
หลังจากที่จัดการกำจัดตัวน่ารำคาญ(?)ออกไปแล้ว ลู่หานก็หมุนตัวกลับเดินตรงไปที่เตียงนวด หวังจะล้มตัวลงนอนและคว้าคนตัวเล็กมากอดให้หนำใจ แต่ยังไม่ทันจะได้ขึ้นนั่งก็มีเสียงข้อความเข้าจากโทรศัพท์มือถือ ร่างสูงหยิบมาเปิดดูด้วยความสงสัย สักพักตาคมที่มันโตอยู่แล้วก็ยิ่งโตมากขึ้นไปอีก ร่างสูงหันขวับมองกลับไปที่ประตูห้องทันควัน มือหนากำโทรศัพท์แน่นด้วยความเจ็บใจ
ไอ้พวกตัวแสบ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
ข้อความเข้าใหม่ :
ซิ่วหมิน :
“...ถ้าสิ่งที่ขอไม่ได้ล่ะก็ เตรียมตัวเห็นภรรยาตัวเองเป็นนางเอกหนังเอวีในเนตได้เลยนะครับคุณพี่ชาย^^...”
~End~
แงๆๆ มันมีบางส่วนที่เค้าแก้ไม่หมดน้า พยายามดูให้บ้างแล้วนะคร้าบ แต่ดูท่าจะไม่ไหวจริงๆ จะพยายามมาแก้ๆให้อีกน้า TT^TT
ความคิดเห็น