ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SHINee Fiction]::❤Forever or never [Onkey x 2min]

    ลำดับตอนที่ #3 : CHAPTER 1 : 100%

    • อัปเดตล่าสุด 6 ธ.ค. 52


     
    Forever or Never
    Chapter 1
    ……….
     
                ร่างบางที่เดินออกมาจากห้องเก็บของลากกระเป๋าของตัวเองออกมาด้วยท่าทางอ่อนระโหยโรยแรงก่อนที่จะทรุดตัวนั่งลงบนม้าน่งสีขาวหม่นๆใกล้ตัว นานเท่าไหร่ไม่รู้ที่ร่างบางนั่งเหม่อและคิดเรื่อยเปื่อยเพียงคนเดียว
    “คีย์~”เสียงสดใสดังขึ้นข้างๆตัวทำให้คนที่กำลังนั่งเหม่อสะดุ้งน้อยๆพลางดึงความคิดกลับออกมาจากภวังค์
    “ซองมิน”คีย์เรียกชื่อบุคคลที่เรียกตัวเองก่อนจะยิ้มกว้างให้
    “มานั่งทำไมตรงนี้เนี่ย ไปกินข้าวกัน”ซองมินไม่พูดเปล่าแต่ยังถูลู่ถูกังลากแขนเพื่อนสนิทไปโรงอาหาร
    “ข้าวกับผัดฟักทองฮะ”ซองมินบอกป้าขายข้าวเสียงใสคีย์แย้งมา
    “กินผัดฟักทองอีกแล้ว ไม่เบื่อบ้างรึงัย”คีย์บ่นใส่ซองมินก่อนที่จะหันไปสั่งป้า
    “สปาเก็ตตีไก่ ที่นึงฮะ”เมื่อหันมามองเพื่อนก็เห็นอีกฝ่ายทำหน้ามุ่ยอยู่ก่อนที่จะตามมาด้วยเสียงเถียงของซฮงมิน
    “ตัวเองก็เหมือนกันนั่นแหละ คนอะไรกินแต่ สปาเก็ตตีไก่ กินจนหน้าจะเหมือนไก่อยู่แล้วเนี่ย ไม่เบื่อบ้างหรอ”
    “ใครบอกว่าชั้นหน้าตาเหมือนไก่ ฮยอกต่างหากที่เหมือน”คีย์แย้งมาขำๆ ทั้งสองคนจึงหัวเราะพร้อมกัน
    ลีซองมิน หรือ ซองมิน นักเรียนทุนเรียนดี ได้เข้ามาเรียนโรงเรียนที่ดีและแพงที่สุดในโซลเนื่องจากที่บ้านไม่มีเงินส่งเสีย ซองมินเรียนอยู่ในขั้นดีมาก มีพรสวรรค์ทุกด้านทั้งดนตรี กีฬา และศิลปะ เป็นเพื่อนสนิทกับ อึนฮยอกแจ ลีทงเฮ และ คิมคิบอม
                คิมคิบอม หรือ คีย์ นักเรียนที่มีผลการเรียนอยู่ในระดับดีเกือบดีเยี่ยม ยิ้มแย้มแจ่มใสอยู่เสมอ เป็นที่รักของเพื่อนๆทุกคน
     
                “นี่คีย์ ถ้าอิ่มแล้วก็รีบขึ้นตึกเหอะ วันนี้เป็นเวรทำความสะอาดของพวกเราน๊ะ”ซองมินพูดกับคนตรงหน้าเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าเอาแต่เขี่ยสปาเก็ตตีไก่ในจานของตัวเองอย่างเหม่อๆ
                “อ่ะ นั่นสิเนอะขึ้นตึกกันเหอะ เดี๋ยวต้องไปทำเวรด้วย”คีย์สะดุ้งก่อนเกาท้อยทอยตัวเองแก้เก้อ
                “นี่คีย์”ซองมินเรียก คนถูกเรียกหันมาเป็นเชิงรับรู้ “วันนี้เป็นอะไรไปอ่ะ ทำไมเหม่อๆอ่ะ ไม่สบายรึเปล่า”ซองมินไม่พูดเปล่าแต่ยังเอามือมาแตะหน้าผากของคีย์ด้วยความเป็นห่วงเพื่อน
                “นี่ซองมิน อย่าคิดมากสิ คีย์ไม่ได้เป็นอะไรซักหน่อย เอ้อ จริงสิ สงสัยคีย์ลืมกระเป๋าไว้ที่ม้านั่งตรงห้องเก็บของแน่เลย ไปเร็วไปเร็ว”คีย์พูดอย่างร่าเริงก่อนที่จะลากซองมินให้ไปเอากระเป๋าเป็นเพื่อน
     
                “คริสตัล my sister อย่าโง่ไปหน่อยเลยน้องรัก พี่ก็ไม่ได้จริงจิงอะไรกับนายหน้าโง่ คนอะไรรวยก็รวยนะ แต่ stupid ชะมัด”เสียงที่คุ้นหูคีย์ดังขึ้น
                “พี่สาว ชั้นก็แค่สงสัยแค่นั้นน่ะแหละ ถ้าเป็นชั้น ชั้นก็จะไม่เลือกคนนั้นหรอก พี่ก็ คิดว่าชั้นจะแย่งนายหน้าโง่นั่นหรอ so silly”เสียงของคริสตัล คุณหนูประจำโรงเรียนดังขึ้นก่อนจะตามมาด้วยเสียงหัวเราะที่ร้ายกาจของทั้งพี่ทั้งน้อง
                ซองมินทนฟังไม่ได้ จึงเดินเข้ามาหาสองพี่น้องที่กำลังหัวเราะกันอยู่ คริสตัลมองอย่างเหยียดหยาม ก่อนจะหันไปกระซิบกระซาบกับพี่สาว
                “นี่มันมากไปมั้ย?”ซองมินชี้หน้าคริสตัลด้วยความโกรธ เจสสิก้าปรายตาก่อนจะยิ้มร้ายๆ
                “Oh o นี่น้องสาวชั้นยังไม่ได้ว่าอะไรนายเลยนะ อย่ามาร้อนตัวไปหน่อยเถอะ ไม่รวยก็อย่ามาทำตัวกร่างหน่อยเลย”เจสสิก้าพูดจิกๆก่อนจะหัวเราะเสียงแหลม
                “ยัยปากร้าย ยัยไข้หวัดใหญ่เอ๊ย”ซองมินสบถอย่างอารมณ์เสีย”อย่าคิดก็แล้วกันนะว่าไม่มีใครเค้ารู้ว่าเธอกำลังทำอะไรชั่วๆ คนอะไร๊ ที่บอกว่าตัวเองร๊วยรวยมาจากไหน แต่สุดท้ายก็ยังคิดจะปอกลอกคนอื่นอยู่ดี เธอนี่มันเลวเหลือจะประมาณจริงๆ”
                “มากไปแล้วนะ”คริสตัลชี้หน้าซองมิน ซองมินเชิดหน้าอย่างท้าทาย คีย์เห็นท่าไม่ดีจึงรีบดึงเพื่อนของตัวเองออกมาแต่ซองมินก้ยังไม่วายหันไปท้าทายคริสตัล
                “แน่จริงก็ตบเลยเซ่ ตบได้ก็ตบเลยไม่ต้องใช้แสตนอิน ยัยงี่เง่าเอาแต่ร้องกรี๊ดกรี๊ด”
                “ซองมิน พอแล้วหน่า อย่าหาเรื่องใส่ตัวเลย รีบไปกันเหอะ”คีย์รีบลากซองมินออกมาก่อนที่ทั้งสองพี่นิ้งจะเง้อมือขึ้นมาตบหน้าซองมิน
     
                “นี่พี่เจสจะทำยังงัยคะ นายนั่นมันกร่างเกินไปแล้ว”คริสตัลถามพี่สาวอย่างกังวล แต่ได้สายตาและรอยยิ้มอย่างร้ายๆมาแทนคำตอบ
     
     
                “อนยูคะ เจสเจ็บไปหมดเลยค่ะ”เจสสิก้าถลาเข้าไปหาอนยูด้วยสภาพมีรอยแดงและฟกช้ำตามตัวก่อนที่จะทิ้งตัวลงบนพื้นอย่างมารยา
                “เจส นี่มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย?”อนยูถามด้วยความเป็นห่วงก่อนจะพยุงเจสสิก้าขึ้นมานั่งตัก เจสสิก้ายิ้มมุมปาก ก่อนหันไปตอบด้วยน้ำเสียงชวนให้สงสาร
                “ก็คีย์น่ะสิคะ คงจะโกรธเจสที่เจสให้ถือของเมื่อเช้า เลยพาเพื่อนมาตบเจส คนที่ชื่อซองมิน ลีซองมินน่ะค่ะ”อนยูนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจับหน้าเจสอย่างเบามือ
                “ไม่เป็นไรนะ เรื่องนี้เดี๋ยวอนจัดการให้เอง เจสไปทำแผลที่ห้องพยาบาลก่อนเถอะ”เจสสิก้าพยักหน้าอย่างว่าง่ายก่อนจะเดินออกไป
    ..
     
     
                “ซองมิน นายอยากเก่งกับชั้นเองนะ say goodbye , little rabbit”
     
     
     
                ซองมินทำหน้าอารมณ์เสียตลอดเวลาที่ทำเวรจนเพื่อนรักอย่างดงแฮอดที่จะถามอีกฝ่ายไม่ได้
                “นี่ไอ้กระต่าย เป็นอะไรเนี่ย ทำหน้าหักเหมือนยัยฮโยยอนหลังห้อง”ดงแฮไม่พูดปล่าวแต่ยังดึงแก้มซองมินไปด้วย
                “โอ๊ยยยยยยย เจ็บนะเว่ย แล้วก็ไม่ได้เป็นอะไรด้วย ทำเวรไปเล้ยไป๊”ซองมินเถียงกลับ
                “โห่ ไม่ยุ่งก็ได้ ชิส์”ดงแฮแลบลิ้นให้ซองมินก่อนจะเดินไปนั่งที่ของตัวเอง
                “นี่ ไอปลาทอง อย่ากินแรงดิ”ไก่ส่งเสียงประท้วงมา
                “อย่ามาบ่น ไอไก่ ทำเวรไปอย่าพูดมาก”ซองมินตวาดมาทุกคนจึงเงียบกันไปตามระเบียบ
                “คีย์ คีย์ เฮ้ย คีย์”ฮยอกแจเรียกพลางเอามือโบกผ่านหน้าคีย์ทำเอาคีย์สะดุ้ง
                “หา? มีอะไร?”คีย์ตอบอย่างมึนๆ
                “ไม่มีอะไรหรอก เห็นนั่งเหม่ออยู่”ฮยอกตอบทำสีหน้าจริงจัง คีย์ยิ้มแหยๆไปให้
                “เฮ้ย นี่มันจะเก้าโมงเช้าแล้ว ตายแล้ว”คีย์โวยวายเสียงดังก่อนจะหอบตระกร้าที่วางอยู่ข้างๆโต๊ะออกไปด้วย
                ทุกคนเห็นจนชินตา ภาพของคิมคิบอมวิ่งกระหืดกระหอบไปรอบๆโรงเรียน เพื่อหาบุคคลที่ร่างบางเรียกว่าเจ้านายให้ทันเวลาน้ำชา
                “เจ้านาย ขอโทษที่ผมมาช้า”คีย์เดินเข้าไปบริเวณสวนหลังโรงเรียนก้มหัวเป็นเชิงขอโทษคนตรงหน้าเป็นการใหญ่
                “รู้ว่าช้าก็รีบๆทำงานสิ”เหมือนทุกๆวันที่คนที่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้านายจะพูดกับคิมคิบอมเพียงไม่กี่คำและคำพูดแต่ละคำก็เย็นชาทั้งนั้น ร่างบางได้ยินคำสั่งจึงรีบรินน้ำชาให้เจ้านายทันที ร่างบางยื่นถ้วยชาที่ชงเสร็จแล้วไปให้เจ้านาย
                “เพล้งง”อนยูปัดถ้วยชานั้นลงบนพื้น ถ้วยแตก คีย์มองอย่างตกใจ
                “ยืนเซ่ออะไรอยู่เล่า รีบเก็บสิ!”เมื่อได้ยินดังนั้นร่างบางรีบกระวีกระวาดเก็บเศษแก้วที่แตกทันที
                “โอ๊ย”คีย์ร้องออกมาด้วยความเจ็บ เพราะความรีบร้อนทำให้โดนเศษแก้วบาดจนเลือดไหล อนยูรีบดึงมือคีย์ขึ้นมาดู ก่อนจะถาม
                “เจ็บมากมั้ย?”
     
    …ถามเพราะอะไร?
                ร่างบางไม่ทันพูดอะไร อีกฝ่ายก็รีบลุกออกไปก่อนโดยไม่ได้พูดะไรซักคำ
    .
                อนยูนั่งเรื่อยเปื่อยอยู่หลายชั่วโมงแล้ว ทั้งๆที่รู้ว่านี่เป็นเวลาที่ควรจะไปเข้าเรียนได้แล้ว แต่ใครจะว่าเพื่อนของลูกเจ้าของโรงเรียน ผู้สนับสนุนและบริจาคเงินให้โรงเรียนมากที่สุด มากยิ่งกว่านักเรียนทั้งโรงเรียนรวมกัน ลูกชายคนเดียวของ ลี กรุ๊ป อุตสาหกรรมโทรคมนาคมที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลีในตอนนี้ อนยูเหลือบดูเวลาที่ข้อมือของตน
    …แปลก
    ทำไมต้องรู้สึกดี เวลาใกล้อาหารกลางวัน หรือเวลาพัก??
                อนยูขำกับความคิดของตัวเอง เราไม่ใช่คนเห็นแก่กินขนาดนั้นนี่ แล้วทำไมถึงรู้สึกดี
     …หรือเพราะคนที่คอยเอาอาหารมาให้??
              อนยูไล่ความคิดของตัวเอง เราไม่ชอบหน้าคนนั้นจะตาย ถ้าไม่มีนายชีวิตของชั้นคงไม่ต้องอยู่ในกรอบอย่างนี้หรอก อนยูคิดถึงวันแรกที่เจอ
    …เด็กอะไร หนี ออกจากบ้าน เป็นเด็กมีปัญหาหรือไงนะ
     
                เด็กผู้ชายวัย 12 ปี กำลังเดินเอื่อยเฉี่อยริมทางรถไฟ พลางยิ้มอยู่ในใจ เขาอุตส่าห์หนีพี่เลี้ยงมาได้แล้ว คงไม่มีใครคิดว่าลูกชายของ ลี กรุ๊ปจะมาเดินเพ่นพ่านอยู่แถวนี้แน่ๆ เด็กคนนั้นเดินมาเรื่อยเปื่อยสายตาสะดุดไปที่เด็กผู้ชายคนหนึ่ง เดินลับๆล่อๆอยู่ไม่ไกลจากเขามากนัก ความคิดแบบเด็กๆแฝงเข้ามาในหัว เด็กคนนั้นอาจจะเป็นขโมยก็ได้ หรืออาจจะเป็นคนค้ายาเสพติด ว่าแล้วก็แอบเดินตามอยู่ห่างๆ
                เด็กผู้ชายวัย 9 ปีกว่าๆ สวมเสื้อผ้ามอมแมม เดินอย่างอ่อนแรงด้วยความหิว เขาหนีออกจากบ้านมาเป็นเวลาเกือบอาทิตย์แล้ว นอกบ้าน ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่เขาคิด ตอนนี้ สิ่งที่เลวร้ายสำหรับเขาคือการได้กลับไปบ้านและความหิวต่างหาก เขาเดินอย่างอ่อนแรงมาริมรางรถไฟ ความรู้สึกของเขาบอกได้ว่า มีคนเดินตามเขาอยู่ ความกลัวผุดขึ้นมาทันที กลัวการกลับบ้าน กลังบ้านที่ตัวเองอาศัยอยู่ จึงรวบรวมเรียวแรงที่พอมีเหลือออกวิ่ง จนไม่ได้สังเกตุรอบตัวเลย
                รถไฟวิ่งมาด้วยความเร็วไม่มากนักเพราะอยู่ไกล้สถานีมากแล้วแต่ถ้าชนก็สามารถทำให้เด็กตัวเล็กๆคนหนึ่งตายได้ ถ้าไม่เป็นเพราะเด็กผู้ชายอายุ 12 ขวบที่เดินตามมาด้านหลัง
     
    …หนี้บุญคุญ
     
                อนยูเสยผมรับลมเย็นที่พัดเข้ามาเบาๆ ก่อนจะนั่งคิดอะไรเงียบๆคนเดียวไปซักพัก
                “เฮ้ย ไอ้อน ขึ้นมาทำอะไรอยู่ตรงนี้ตั้งนานวะ จะเที่ยงแล้ว ไปกินข้าวด้วยกันเดะ”จงฮยอน เพื่อนสนิทที่สุดของอนยูเดินขึ้นมาบนดาดฟ้าก่อนจะพยายามลากอนยูให้ลงไปกินข้าว
                “ก็ไปกินกับไอคยูมันก่อนดิ”อนยูตอบเรียบๆเป็นการยืนยันว่าตัวเองจะไม่ลงไปกินข้าวพร้อมกัยคนชาวแน่ๆ
                “ก็ไอคยูมันช่วยแกจัดการเรื่องอยู่”จงฮยอนตอบก่อนจะพูดทิ้งท้าย”อยากกินอาหารจากเด็กของแกก็ว่ามาเหอะ”
                อนยูไม่ได้ใส่ใจคำพูดของเพื่อนรักมากนักเพราะรู้อยู่แล้วว่านิสัยส่วนตัวของเพื่อนคนนี้คือการจิกกัดคนอื่นไปทั่ว หากแต่ว่ากำลังนึกถึงงานที่เขาฝากเพื่อนรักอีกคนจัดการให้ตั้งแต่เมื่อเช้า
                “คยู แกรู้จักนักเรียนทุนที่ชื่อซองมินมั้ย?”อนยูถามคยูเสียงเรียบหลังจากที่เจสสิก้าเดินออกจากห้องไป
                “ซองมิน…ลีซองมิน คุ้นๆนะ คนนี้โรงเรียนให้ทุนมาหลายปีแล้ว เรียนเก่งขั้นเทพเลยหว่ะ”คยูฮยอนตอบขณะที่กำลังพิจารณาขนมตรงหน้า
                “มันทำร้ายเจส จัดการให้ที”อนยูฝากเพื่อนรัก คยูฮยอนได้ตอบอะไรนอกจากยักไหล่ เรื่องนี้มันหมูๆสำหรับเค้าอยู่แล้ว
                ลูกผู้อำนวยการโรงเรียนที่ดีที่สุดในโซลและแน่นอนต้องดีที่สุดในเกาหลีอย่าง โจวคยูฮยอน คนที่ชี้นกเป็นนกชี้ไม้เป็นไม้ เป็นผู้ที่มีอำนาจรองจากพ่อของเค้าทั้งภายในโรงเรียนและพื้นที่การศึกษาโดยรอบ ทุกคนต่างก็รู้ดีว่า ถ้าโจวคยูฮยอนคนนี้ต้องการอะไร จะต้องได้ทุกอย่าง
     
                “ซองมินๆ ท่านผู้อำนวยการเรียกไปพบน่ะ”อึนโซฮีบอกซองมินเสียงใส ซองมินยิ้มแล้วผงกหัวน้อยๆเป็นเชิงขอบคุณ
                “นี่ๆๆๆๆๆ” ซองมินเรียกเพื่อนรักทั้ง 3 คนก่อนจะฝากวาน”ผอ. เรียกชั้นไปหาน่ะ ฝากช่วยส่งงานด้วยน๊ะ”
                “คร๊าบบบบบบบบบบบบบ”ดงแฮขานรับเสียงดังก่อนจะหยิบรายงานของซองมินขึ้นมา”รายงานฉบับนี้จะถูกส่งถึงมือของคุณครู ปาร์คยูชอน แน่นอนคร๊าบ”พอดงแฮพูดเสร็จอึนฮยอกก็ไม่ยอมน้อยหน้า
                “นี่ๆ”ฮยอกขวานหาสมุดจดของซองมินใต้โต๊ะก่อนจะเอาออกมาพรีเซ็นท์
                “โหววว เดี๋ยวจะหาว่าเราไม่รักเพื่อนๆ นี่เลยเราจะให้คีย์ช่วยจดให้ซองมิน ฮ่าฮ่าฮ่า”คนถูกโบ้ยทำหน้าเหลอหลา ดงแฮเคาะหัวฮยอกดังป๊อก
                “นี่! คิดว่าจะจดให้ซองมินเอง ที่แท้ก็ใช้คีย์”คีย์หัวเราะ”ไม่เป็นไรหรอกๆ เดี๋ยวจดให้ได้ ซองมินรีบไปเหอะ เดี๋ยวผอ.จะรอนาน”ซองมินยิ้มกว้างก่อนจะรีบวิ่งออกไป
     
                “ลีซองมิน ซองมิน อืม…ผลการเรียนเทอมที่แล้วนี่ ดูแย่ลงนะ”ผู้อำนวยการพูดอย่างพินิจพิเคราะห์”อ่ะ ใช่ เมื่อคราวที่แล้ว งานแข่งขันตอบปัญหาวิทยศาสตร์ระดับประเทศ เธอก็แพ้กลับมาอีก เธอทำให้โรงเรียนของเราที่เคยชนะมาทุกๆปี เสียชื่อเสียงมากนะ ท่าทางคราวนี้น่าจะไม่มีทุนสำหรับเธอแล้วหล่ะลีซองมิน”
                ซองมินหน้าสลดลง”ไม่มีเหลือซักทุนเลยหรอครับ ท่านผู้อำนวยการ”ผู้อำนวยการทำหน้าฉงน”ไม่มีไม่มี เธอก็รู้ การสนับสนุนเด็กคนนึงให้เรียนในโรงเรียนที่ดีที่สุดในเกาหลีอย่างนี้ ไม่ได้ใช้งบประมาณเพียงไม่กี่วอนนะ ยังงัยครูก็ต้องขอแสดงความเสียใจกับเธอด้วยก็แล้วกัน  เทอมหน้าเธอจะต้องจ่ายค่าเล่าเรียนเหมือนนักเรียนคนอื่นๆ ไม่อย่างนั้นเธอก็เตรียมหาโรงเรียนใหม่ได้เลย”
     
               ซองมินเดินคอตกออกมาจากห้องผู้อำนวยการ พลงนึกถึงคำพูดของผู้อำนวยการ
     
    …เทอมหน้าเธอจะต้องจ่ายค่าเล่าเรียนเหมือนนักเรียนคนอื่นๆ ไม่อย่างนั้นเธอก็เตรียมหาโรงเรียนใหม่ได้เลย
     
              “เฮ้ออ แล้วเราจะหาค่าเรียนมาจากไหนเนี่ย ตอนนี้เวลาที่ว่างๆก็ทำงานพิเศษจนไม่มีเวลาจะนอนแล้ว แค่เงินค่ารักษาพี่จองซูยังไม่มีเลย”ซองมินรำพึงออกมาเบาๆ
                คิมจองซู หรือ ลีทึก เป็นพี่ชายไม่แท้เพียงคนเดียวของซองมินเนื่องจากพ่อของซองมินได้แต่งงานใหม่กับแม่ของจองซู พ่อของซองมินเปลี่ยนชื่อจากคิมจองซูเป็นลีทึกต่อมาไม่นานแม่ของลีทึกก็เสียชีวิตเนื่องจากอุบัติเหตุ พ่อของซองมินเสียใจมาก เอาแต่กินเหล้าไม่สนใจการงานเหมือนเมื่อก่อน เมื่อหลายปีก่อนจองซูป่วยหนัก ตัวร้อน ไข้ขึ้นสูง หมอวินิฉัยไม่ได้ว่าเป็นโรคอะไร ได้แต่ช่วยพยุงอาการไม่ให้จองซูทรุดลงไปมากกว่านี้ นั่นก็เป็นเหตุผลที่ซองมิน ต้องทำงานหนักแทบไม่มีเวลานอน
     
                ร่างโปร่งของคยูฮยอนมองบุตตลที่ชื่อซองมินอยู่ห่างๆ ความรู้สึกผิดก่อตัวขึ้นในจิตใต้สำนึก แต่ความรักเพื่อนก็แย้งขึ้นมาอีก ในที่สุดคยูฮยอนก็ตัดสินใจเดินไปหาซองมิน    
                “นาย ลีซองมิน ใช่มั้ย?”คยูฮยอนถามเรียบๆ ซองมินไม่ได้ตอบแต่พยักหน้ารับ
                “ได้ข่าวว่านายถูกถอดรายชื่ออกจากนักเรียนทุนนี่”คยูฮยอนพูดต่อ ซองมินได้แต่ก้มหน้านิ่งอย่างยอมรับ
                “อยากรู้มั้ย…ว่าเพราะอะไร?”คยูฮยอนถามอีกครั้งพร้อมรอยยิ้มที่มุมปาก ซองมินเงยหน้าขึ้นมา
                “เพราะอะไร? ทำไมชั้นถึงถูกถอดรายชื่อ ชั้นเรียนแย่ลงงั้นหรอ?”ซองมินถามเป็นชุดก่อนทำหน้าจะร้องไห้ คยูฮยอนปั้นหน้านิ่งๆ
                “เพราะนายไปทำร้ายเจสสิก้าไงล่ะ”คยูฮยอนเฉลยให้เรียบๆ ความจริงเขาก็ไม่ค่อยเชื่อหรอกว่า คนตัวเล็กๆอย่างซองมินเนี่ยนะ จะไปกล้าตบเจสสิก้าได้ อาจจะมีเถียงบ้างขึ้นเสียงบ้างอวดดีบ้างแต่คงไม่ถึงขั้นลงไม่ลงมือหรอก
                “นายเอาอะไรมาพูด ชั้นไปตบยัยนั่นตอนไหน โถ่เว้ย! มารยาชัดๆ”ซองมินพูดด้วยความโมโห
                “เพื่อนของนายน่ะ โง่จนลืมหูลืมตาไม่ขึ้นแล้วรู้มั้ย? คิดว่ายัยนั่นดีอย่างนู้น ขี้อ้อนอย่างนี้ ยัยนั่นก็ไม่ได้ดีไปกว่าผู้หญิงขายตัวหรอก”ซองมินตะคอกด้วยความโมโห
                “มากไปมั้ยซองมิน ไปว่าเจสสิก้าอย่างนั้น ไม่รู้ว่าบ้านนายเลี้ยงลูกมายังงัย ถึงได้นิสัยกิริยาท่าทางเป็นพวก…”คยูฮยอนสั่งสอนซองมินเรียบๆ เท่านั้นเองความอดทนอดกลั้นของซองมินก็หมดลง
                “นายคิดว่าเป็นลูกเจ้าของโรงเรียนแล้วเข้าข้างใครแล้วคนนั้นก็จะไม่ผิดใช่มั้ย? เอาสิ นายกับชั้นลองมาแข่งกันดูมั้ยล่ะ ระหว่างลีซองมิน คนที่บ้านไม่มีอันจะกินทำงานหามรุ่งหามค่ำเพื่อเศษเงินเอามาเป็นค่าใช่จ่ายของครอบครัว กับ โจวคยูฮยอนคุณชายที่กินๆนอนๆอยู่บนกองเงินกองทอง มีคนใช้เป็นร้อยมาสลอนอยู่รายรอบ ดูซิว่าใครมันจะแน่กว่ากัน”คยูฮยอนยิ้มมุมปาก
                “เอาสิ ถ้าเทอมหน้า ชั้นเห็นนายมาโรงเรียนถือว่าชั้นแพ้ ถ้านายย้ายโณงเรียนหรือว่าไม่มีเงินหล่ะก็ นายแพ้ชั้น ถ้าชั้นแพ้ ชั้นจะให้นายแห่ประจานชั้นสามรอบสนามเลเอาสิ”ซอมมินยิ้มร้ายตอบ
                “เอาสิ ชั้นก็ให้นายแห่ประจานเหมือนกัน”
     
                “ไม่เอาหน่าซองมิน ใจเย็นๆซี่ เดี๋ยวพวกชั้นช่วย ชั้นไม่ยอมให้เพื่อนรักของชั้นต้องย้ายโรงเรียนหรอกหน่า”อึกฮยอกปลอบใจซองมินที่ทำหน้าโมโห
                “ไม่ต้องห่วงหรอกหน่าซองมิน รีบกินข้าวก่อนเหอะเด๋วเย็นหมด นี่ฝัดฟักทองของโปรดนายเลยนะ”ดงแฮพยายามเอาน้ำเย็นเข้าลูบด้วยอีกคน คีย์ได้แค่นั่งมองเพื่อนรัก กำลังง้องอนกันอย่างขำๆ พลางเหลือบดูนาฬิกาข้อมือ
                “เที่ยงแล้ว ชั้นไปก่อนนะฎคีย์บอกเพื่อนรักทั้งสามคนก่อนจะรีบวิ่งออกไป
                “ชั้นว่าคีย์เหมือนตกนรกเลยว่ามั้ย?”ฮยอกพูดออกมาเบาๆ ดงแฮพยักหน้าเบาๆเป็นเชิงเห็นด้วย
                “นายจะต้องแพ้คนอย่างลีซองมิน โจวคยูฮยอน!”ซองมินพูดอย่างแค้นๆ
     

            ร่างบางเดินมาเงียบๆก่อนจะเอ่ยขึ้นเบาๆ
                “เจ้านาย…อาหารเที่ยงมาแล้วครับ”คนที่ได้ชื่อว่าเป็นเจ้านายไม่ตอบ คีย์จัดแจงตั้งโต๊ะอาหารให้เจ้านายของตน อนยูมองตามร่างบาง
     
    ไม่ปฏิเสธเลยว่า ร่างบางที่อยู่ตรงหน้านี้สวยแค่ไหน
    แสงแดดอ่อนส่องลงมากระทบใบหน้าหวานนั้น
    เหงื่อที่ซึมออกมาทั่วแผ่นหลังเนี่องจากอากาศร้อน
    ทำให้มองเห็น ผิวขาวที่อยู่ใต้เนื้อผ้าได้ไม่ยาก
    เส้นผมที่แค่ก่อนเคยเป็นสีดำถูกเปลี่ยนให้เป็นสีน้ำตาลและทอง ตามลำดับ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความน่ารักของร่างบางลดลงเลย
    ริมฝีปากบาง อมชมพู ที่ดูน่าหลงไหล
    และก็รู้ดีว่ามัน “หวาน” มากแค่ไหน
    ไม่ปฏิเสธเลยถ้าจะมีใครชมว่าร่างบางตรงหน้านี้น่ารัก
     
     
     
    .
    .
    .
    แต่ตอนนี้ อนยูอยากรู้ว่า
    ร่างบางที่อยู่ตรงหน้า
    จะ”หวาน”เหมือนทุกๆครั้งรึเปล่า…
     
     
    BAIBOON TALK : อ่านที่ตัวเองแต่งไปแล้วร้องกรี๊ดดดดด แว๊ ความจริงใบบุญกะจะยังไม่มีเอ็นซีน๊ะ ไหงเป็นงี๊อ๊ะ! เผอิญว่าต่อมหื่นมันกำเริบ กรี๊สสสสๆๆ อยากอ่านเอ็นซีอนคีย์แต่ไม่มีใครแต่ง เง๊ออออๆๆ เลยแต่งเองซะเลย 55555555555
    บทต่อไป อีส อะ เอ็นซี  > O< ถ้าคิดว่ารับไม่ได้ก็ไม่ต้องคลิกเข้าไปน๊า
     ปอลิง: หายน้อยใจเเล่วๆ ฮ่าฮ่าฮ่า
     
     
               
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×