ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สมุดของเบล

    ลำดับตอนที่ #12 : คุณหมอ x ผู้จัดการดารา[Yaoi]

    • อัปเดตล่าสุด 18 ต.ค. 58



    (ภาพเละๆที่วาดไว้ประกอบ----)

    คุณหมอ x ผู้จัดการดารา[Yaoi]

     

    ณ ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง

    ทำไมช้าจัง....ชายหนุ่มที่เพิ่งเลือกเมนูรายการเครื่องดื่มเสร็จ เงยหน้าเท้าณ ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง

    ทำไมช้าจัง....ชายหนุ่มที่เพิ่งเลือกเมนูรายการเครื่องดื่มเสร็จ เงยหน้าเท้าคางมองนาฬิกาบนฝาพนัง

    อีกด้านหนึ่งที่ไม่ใกล้ไม่ไกลนัก

    อ่า..... ได้เวลาแล้ว ร่างสูงรีบเก็บของลงกระเป๋าหลังจากตรวจคนไข้รายสุดท้ายเสร็จเขาถอดแว่นทรงรีไร้กรอบออกจากใบหน้าพลางนวดขมับด้วยความรู้สึกเหนื่อยล้า การเป็นแพทย์นั้นต้องแบกรับอะไรหลายอย่างรวมถึงเสียสละอะไรหลายอย่างเช่นกันแต่เขาก็มีความสุขกับมันเหมือนได้เห็นรอยยิ้มของคนไข้ที่ผลตรวจออกมาว่าพวกเขาหายเป็นปกติ

    ทุกครั้งหลังเลิกงานเขาจะรีบดิ่งกลับบ้านในทันทีแต่วันนี้ค่อนข้างพิเศษเพราะเขาถูกนัดโดยคนๆนึงมาเจอกันที่ร้านกาแฟหลังเขาเลิกงาน มิโกโตะถอดเสื้อกาวสีขาวออกเก็บเขาไว้ในกระเป๋าพลางมองนาฬิกา เข็มสั้นและเข็มยาวที่เดินไปเรื่อยๆบ่งบอกว่าตอนนี้เขาสายแล้ว เขาจึงไม่รอช้าที่จะรีบเดินทางไปเพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายรอนานมากนัก เป็นไม่กี่ครั้งที่หลังเลิกงานแล้วเขารู้สึกตื่นเต้นมากเช่นนี้ อดใจรอไม่ไหวที่จะได้รู้ว่าอีกฝ่ายเรียกเขามาเพื่ออะไร ซึ่งคงไม่พ้นเรื่องงาน.... แต่นั้นก็ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นน้อยลงเลย

    ร่างสูงเปิดประตูเข้าไปในร้านกาแฟตรงข้ามโรงพยาบาลที่เขาประจำอยู่ดีไซน์ร้านที่เรียบง่าบทำให้รู้สึกไม่อึดอัด เขาเบนสายตามองไปเรื่อยๆจนพบกับร่างบางผมสีม่วงประบ่าที่นั่งมองนาฬิกาอยู่อย่างเฉยชา

    "ขอโทษที่สายนะ เซอิ" ร่างสูงว่ากับ

    ไม่เป็นไรหรอกครับ....ผมรอได้อยู่แล้วเพราะอาชีพหมอมีงานเยอะนิ อีกฝ่ายแซวกับอย่างหยอกๆ เขาแอบหัวเราะในลำคอนิดๆกับคำพูดหยอกล้อของอีกฝ่าย ใช่.. อาชีพหมองานมันเยอะจริงๆนั้นแหลแต่ก็ถือว่าคุ้มค่าหากได้ทำ

       "คงไม่วุ่นเท่าผู้จัดการดาราหรอกมั้ง... ปั้นไอดอลดังๆได้เนี่ยโตขึ้นเยอะเลยนะเซอิ..." เขาตบหัวอีกฝ่ายเบาๆก่อนจะลงไปนั่งในที่นั่งฝั่งตรงข้าม
       “อืม......ก็มีปัญหาเรื่องทาบทามไอดอลอยู่นั้นแหละครับ อ่ะ! พี่มิโคโตะจะสั่งอะไรก่อนหรือเปล่าครับ?”เซอิอีกฝ่ายเอยถามทันทีที่เห็นรุ่นพี่คนสนิทนั่งลง

    "มอคค่าร้อนน่ะ สั่งก่อนเดินมาที่โต๊ะแล้วล่ะ อ่ะ...."

       "มอคค่าร้อนได้แล้วคะ" สาวเสริฟ์วางเครื่องดื่มได้ตรงหน้าของร่างสูงก่อนจะโค้งศีรษะเล็กน้อยตามมารยาท

       "ขอบคุณครับ" มิโกโตะยิ้มรับก่อนจะยกกาแฟขึ้นมาจิบเล็กน้อย "เซอิมีธุระอะไรกับผมงั้นหรือ" เขาว่าอย่างสงสัย

       “เออ.....ก็ธุระเรื่องงานตามเคยนั้นแหละครับ.....แต่ว่า ผมมีคนๆคนหนึ่งที่อยากให้มาเป็นไอดอลแต่เธอเขาดื้อมากเลยล่ะ เลยไม่รู้ทำไงดี......” เซอิทำสีหน้าเศร้าๆก่อนจะเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มเล็กๆที่เหมือนกับให้วางใจว่ายังสบายดีอยู่  ก่อนจะเห็นสีหน้าอีกฝ่ายแล้วพูดต่อ

    ผมถามเรื่องที่ยากไปหรือเปล่าครับ!? งั้นขอโทษนะครับ....

       มิโกโตะผงะเล็กน้อย ปกติแล้วเซอิจะไม่ค่อยมีปัญหามากนักเกี่ยวกับการทาบทามเด็กๆมาปั้นเป็นไอดอล ส่วนใหญ่เวลาเขาโดนเรียกมาเพื่อปรึกษาส่วนใหญ่จะเป็นปัญหาเล็กๆน้อยๆเสียมากกว่า แสดงว่าสาวน้อยคนนั้นคงมีอะไรพิเศษอยู่ในตัวแน่ๆ

       เขาทำหน้าครุ่นคิดอยู่ครู่นึงจนเมื่อได้ยินอีกฝ่ายร้องทักเขาจึงโบกมือเป็นเชิงไม่เป็นไร

       "ไม่เป็นไร ว่าแต่นะเซอิ.... ทำไมเธอถึงอยากให้เด็กคนนั้นมาเป็นไอดอลล่ะ"
       “ก็เด็กคนนั้น.......เขาดูเปล่งประกายมากเลยนิ แถมยังดึงดูดความสนใจได้เป็นอย่างดีมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ..... เออยังดูไม่ได้หมดนักหรอกครับเพราะเพิ่งพบกันแค่2วันเอง....” เซอิหัวเหราะเล็กน้อยทำเหมือนตัวเองใช้ไม่ได้เรื่อง ขนาดแค่ทาบทามไอดอลยังจับรายละเอียดไม่หมดเลย

    "ถ้าพบคนมีความสามารถก็คงจะ..... ไม่อยากปล่อยไปสินะ" มิโคโตะถามอีกฝ่ายพลางเท้าคางมองอย่างพินิจพอเคราะห์

     “ครับ....” เซอิตอบรับสั้นๆ แล้วก็ทำท่าจะพูดต่อ “รู้สึกว่าที่เขามาเป็นไอดอลไม่ได้เพราะติดธุระทางบ้านด้วย....แถมยังบอกว่าไม่เหมาะกับเขาอีก....

    "อืม...." เขาว่าพลางมองออกไปนอกหน้าต่างที่มีคนพลุกพล่าน การจะบังคับใครให้ทำในสิ่งที่ไม่อยากทำนับเป็นเรื่องยากมากที่เดียว แต่กระนั้นเมื่อได้ฟังสิ่งที่อีกฝ่ายพูดเขาสัมผัสได้เลยว่าเด็กคนนั้นต้องสุดยอดมากแน่ๆ สายตาของเซอิไม่เคยผิดพลาดเลบสักครั้งเขามั่นใจแบบนั้น.....

       "แล้วเซอิคิดจะทำยังไงกันล่ะ...." เขาถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง การทาบทามไอดอลนับเป็นบททดสอบที่สำคัญสำหรับผู้จัดการ เขาจะต้องก้าวผ่านมันด้วยตัวเอง

      “ผมน่ะ....คิดว่าจะพยายามจนกว่าจะถึงนาทีสุดท้ายนั้นแหละ! แต่ถ้าเขายืนยันที่จะไม่เป็นผมคงจำเป็นต้องปล่อยเขาไปล่ะ.. . คิดว่าผมเหมือนจะมาระบายอารมส์มากกว่าล่ะนะ ฮ่าๆ มิโคโตะเห็นอีกฝ่ายพูดบอกก่อนจะยกน้ำที่ตัวเองสั่งมาดื่มแก้กระหายเสียก่อน

      เขาส่ายหน้าเบาๆ ก่อนจะเผยยิ้มบางพร้อมยื่นมือไปลูบหัวอีกฝ่ายเหมือนให้กำลังใจ

       "ถ้าเป็นเซอิล่ะก็ทำได้อยู่แล้วนี้เนอะ"
       “แล้วพี่มิโคโตะมีธุระที่ไหนต่อหรือเปล่าฮะ?” เซอิเริ่มเอยถามก่อนจะเอียงคออย่างนึกสงสัย

       “ อืม.... ว่าจะไปซื้อของน่ะ มีบางคนฝากให้ซื้อกลับไปด้วย เซอิไปด้วยกันไหม?” เขาว่า ก่อนจะเรียกพนักงานมาเก็บเงินแล้วจ่ายเงินทั้งของตัวเองและเซอิ

      “ครับ! ผมว่าจะไปซื้อของระหว่างกลับด้วย”
      “งั้นไปพร้อมกันเลยไหม?”

      “ครับ!” เซอิตอบรับก่อนจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่ตัวเองนั่ง มิโกโตะได้แต่พยักหน้ายิ้มๆก่อนจะเอยถามต่อ

      “เซอิจะซื้ออะไรเหรอ?”
      “ก็ไม่มีนอกจากพวกของกินหรอกครับ เบลเขาค่อนข้างยุ่งเลยฝากผมซื้อตอนขากลับ”

      “มีคนอยู่ด้วยกันเยอะๆสนุกดีจังนะ.... ทางฉันน่ะมิโฮะก็ไปอยู่อเมริกา ซึอากิคุงก็ย้ายไปอยู่ที่พักแถวที่ทำงาน มาโฮะเองก็นานๆกว่าจะกลับที บ้านฉันเลยกลายเป็นบ้านร้างเลยล่ะ บ้านหลังใหญ่จะตายแต่ฉันอยู่คนเดียว ฮะๆ”
      “อืม นั้นสินะ เหมือนพี่มิเรนเลย.....” เซอิตอบรับก่อนจะรุ่งคิดถึงญาติๆของพี่มิโคโตะ “แล้วเราจะไปแถวไหนกันเหรอครับ?”

      “แถวๆตลาดหลักในเมืองน่ะ”

    “พี่มิโคโตะครับ วันนี้วันอะไรนะครับพอทราบหรือเปล่า?” ร่างบางเริ่มเป็นฝ่ายชักถามอีกครั้ง
    “วาเลนไทน์น่ะถามทำไมเหรอ”

    “วาเลนไทน์.....?” ร่างบางฉงกไปเมื่อร่าสูงพูดพร้มพยักหน้าให้กับคำที่ร่างบางหวนกลับ “ผมลืมไปได้ยังไงนะ”

    “เมื่อเช้าน่ะทั้งมิโฮะแล้วก็มาโฮะส่งช็อคโกแลคมาให้เพียบเลยล่ะ กินหมดนั้นฉันเบาหวานตายกันพอดี....”มิโคโตะว่าทำให้ร่างบางนึกขำ

     “ฮ่าๆ แล้วตอนนี้ทานหมดหรือยังล่ะครับ?

     “คิดว่าหมดไหมล่ะ กองเป็นภูเขาอยู่ที่บ้านนั้นล่ะ...”

     “ กองเป็นภูเขา...” ร่างบางนึกแล้วแทบจะสำลักเพราะนิสัยที่ไม่ค่อยจะชอบของหวานมากเท่าไหร่เจอแบบนั้นแล้วแทบจะไม่แตะต้องเลยก็ว่าได้

    “อ่า.... มิโฮะน่ะไม่เท่าไร แต่มาโฮะน่ะเหมือนเอามาให้ฉันกินสักชาตินึงยังไงยังงั้นแต่ ฉันก็ไม่ค่อยเข้าใจเธอเท่าหรอก จะว่าไป.... เซอิเคยเจอมาโฮะหรือเปล่า”

    “ครับ พอเคยรู้จักอยู่”
    “งั้นเหรอ... ยัยนั้นเองก็ทำงานอยู่วงการบันเทิงเหมือนกับเซอิล่ะนะ”  มิโกโตะหันมามองก่อนจะพูดต่อ “ฉันโดนยัยมาโฮะให้ซื้อของแวะเข้าไปให้ที่ทำงานน่ะนะ”

    “จะว่าไปร้านขานเบเกอรี่อยู่ไหนกันหนอ?” จู่ๆร่างบางก็เอยขึ้น ก่อนจะมองหาร้านที่กำลังตามหา

    “เอ.... ตรงนั้นน่ะตามมาสิ” มิโกโตะว่าก่อนจะจับมืออีกฝ่ายแล้วเดินไป เซอิได้แต่มองอีกฝ่ายพลางเลื่อนสายตามองมือที่จับก่อนจะไม่พูดอะไรแล้วเดินตามไป

    “ร้านนี้น่ะอร่อยมากเลยนะฉันซื้อไปทานบ่อยๆ” ร่างสูงเดินมาหยุดตรงที่ร้านเบเกอรี่ร้านหนึ่ง ร่างบางมองอย่างพิจารณาก่อนจะพึมพำอะไรเล็กน้อย “ร้านนี้เหรอ... งั้นผมว่ารีบเข้าไปดีกว่านะครับวันเทศกาลแบบนี้ของมักหมดเร็วด้วย”

      ร่างสูงพยักหน้ารับก่อนจะเป็นฝ่ายนำเดินเข้าไปในร้าน ทำให้ร่างบางต้องฉุดคิดอีกนิดเมื่อเพิ่งให้ความรู้สึกลงบริเวณฝ่ามือ

    “จริงสิพี่มิโคโตะครับ พี่จะปล่อยมือผมได้หรือยังครับ?” เซอิว่า คำพูดนั้นทำให้มิโกโตะถึงกับสะดุ้งแล้วรีบปล่อยมืออีกฝ่ายทันที

    “ขอโทษนะนายคงไม่ชอบให้ใครจับมือสินะ ฮะๆ”

    “ถ้าผมไม่ชอบผมคงสะบัดตั้งแต่พี่จับแล้วล่ะครับ” เซอิว่ายิ้มๆ ก่อนจะเดินมาเลือกขนมที่วางเรียงอยู่ในร้าน ก่อนจะไม่ได้สังเกตร่าสูงที่กำลังแอบยิ้มอย่างดีใจ ก่อนจะเดินตามมา

    “พีเบลนี้ชอบทานขนมจังเลยนะ”

    “แทบจะได้วันหนึ่งติดต่อกันเลยล่ะครับ” เซอิว่าก่อนจะมองกระดาษเน้นแนวยาวที่เขียนด้วยรายการขนมที่ต้องการ

    “ขืนฉันทานขนาดนี้แล้วท้องคงเสียแย่แน่เลย” มิโคโตะมองกระดาษอย่างอึ้งๆหลังจากที่เห็นรายการกระดาษในมือของเซอิ

    “ผมก็ว่า...” ร่างบางตอบรับก่อนจะถือถาดขนมที่คีบมาไปคิดเงิน ก่อนร่างสูงจะเดินตามมาติดๆ

     

    “นี้ๆเธอคู่นั้นใช่แฟนกันไหมนะ” หญิงสาวคนหนึ่งที่ดูพวกเซอิอยู่ห่างๆ ก่อนจะหันไปพูดกับเพื่อนคนหนึ่งของเธอ
    “ใช่แน่เลยแก ดูสิตามแฟนมาซื้อขนมด้วยถ้าเป็นฉันซื้อขนาดนั้นโดนแฟนบ่นตายเลย!”เพื่อนสาวอีกคนต่อ

    “นั้นสิ แต่ยัยผู้หญิงนั้นดูห้าวๆแหะฉันว่าใส่สูทสะเหมือนผู้ชายเลย”หญิงสาวที่เริ่มทักพูดต่อขึ้นเมื่อสังเกตเห็นชุดทำงานที่เซอิใส่

    “แต่ถ้ามีผู้ชายมาคบด้วยฉันว่าจะใส่สูทก็ไม่เห็นเป็นอะไรเลย”เพื่อนสาวบอกก่อนจะชักชวนเลือกของหวานในร้านต่อ

    คำพูดที่ทั้งสองสาวได้พูดมานี้แน่นอนว่าไม่ได้เข้าหูทั้งสองคนที่กำลังเดินมาที่เคาน์เตอร์ให้ได้ยินแม้แต่น้อย

    “นี้พี่มิโคโตะฮะ แล้วพี่จะไปซื้ออะไรงั้นเหรอ?” เซอิถามขณะที่กำลังรอคิว

    “ก็.... เออ “ อีกฝ่ายลังเลนิดหน่อย “เทียนกับผ้ายันต์อะไร.... สักอย่างที่มาโฮะฝากซื้อน่ะ ฮะๆ”

    “ทะ...ทะ...เทียนกับผ้ายันต์=[]=;” ร่างบางผวาไปเล็กน้อย

    “เห็นยัยนั้นว่าจะทำพิธีไล่ผี....ล่ะมั้งนะ”มิโคโตว่า ก่อนเซอิจะยื่นถาดให้คนที่เคาน์เตอร์แล้วหันมาถามร่างสูงต่อ

    “จะว่าไปพี่รีบกลับหรือเปล่า?

    “ไม่หรอก” มิโกโตะส่ายหน้าน้อยๆ

    “งั้นช่วย....เออ...ไปเที่ยวกับผมหน่อยสิ จะกลับบ้านเบลเขาก็บอกว่าจะกลับดึกด้วย.......ก็เลยเหงาๆน่ะ” ร่างบางว่าก่อนจะก้มหน้าลง ความจริงเขาเป็นพวกขี้กลัวอยู่แล้ว

    “ด้วยความยินดี” มิโกโตะยิ้มกว้างเหมือนดีใจที่ร่างบางเป็นฝ่ายชวนเขาไปเดินเที่ยวแบบนี้

    “ขอบคุณมากนะครับ...” เซอิยิ้มให้กลบเกลือนความหวาดๆ “งั้นเราไปซื้อของให้พี่มาโฮะกันก่อนแล้วกันนะครับ”

     มิโกโตะส่ายหน้า “ของๆมาโฮะช่างมันเถอะร้านที่ยัยนั้นบอกมากว่าจะเปิดก็ดึกสะด้วยสิ เซอิอยากไปเที่ยวที่ไหนก่อนไหม?”

    “นั้นสิ....อืม....ลองเดินๆแถวนี้ดูดีไหมครับ ผมก็ไม่ค่อยรู้เรื่องสถานที่มากด้วย”

    “ได้สิ” มิโกโตะว่ายิ้มๆ

    “งั้นไปกันเถอะครับ!”รับห่อขนมที่แพ็กมาแล้วจูงมือพี่มิโกโตะออกจากร้าน “ถึงจะพูดไปงั้นๆแต่จะไปที่ไหนดีนะ( ‘ ‘)”

      ร่างบางที่พึมพำออกมาทำให้มิโกโตะถึงกับยิ้มให้กับท่าทีของอีกฝ่ายพลางกระชับมือที่กุมกันอยู่ให้แน่นขึ้น “งั้น....ไปที่ๆฉันอยากไปได้หรือเปล่า”

    “ที่ไหนงั้นเหรอครับ?

    “เดียวเธอก็รู้เอง...” เดินจูงมืออีกฝ่ายไปก่อนร่างบางจะเดินตามไปอย่างว่าง่าย ก่อนจะเดินมาหยุดอยู่ที่เรือนเพาะชำที่นึงที่ค่อนข้างอยู่ห่างจากตัวเมืองหลักนิดหน่อย

    “แถวนี้มันที่ไหนเหรอฮะ?” เซอิว่าก่อนจะกวาดตามองรอบๆ

    “เป็นสถานที่ลับของฉันน่ะ... บอกกับเซอิคนแรกเลยนะ” ยิ้มบาง

    “ที่ลับงั้นเหรอ.....”

        มิโกโตะพยักหน้าน้อยๆก่อนจะจูงมืออีกฝ่ายเข้าไปข้างใน มวลพฤษาต่างปรากฎแก่สายตาของทั้งคู่ แม้ภายนอกเรือนจะดูเก่าและโทรม แต่ภายในกับถูกจัดอย่างเรียบร้อยพร้อมกับดอกไม้นานาพันธุ์ที่เบ่งบานชูช่ออย่างสวยงาม ซึ่งได้สร้างความประทับใจให้แก่ร่างบางเป็นอย่างมาก

    “โห....”

    “ดอกไม้พวกนี้ฉันเป็นคนปลูกเองน่ะ.....”มิโกโตะเอยขึ้นหลังจากที่เห็นร่างบางให้ความสนใจแก่พวกดอกไม้นานาพันธุ์

    “จริงดิ! แล้วทำไมมาปลูกที่นี่ล่ะครับ”

    “ที่นี้น่ะ ฉันบังเอิญมาเจอเข้า เรือนเพาะชำนี้มีมานานแล้วล่ะแต่มันก็ถูกทิ้งร้างไประแวกนี้ก็ไม่ค่อยมีใส่ใจเรือนเพาะชำเก่าๆแบบนี้หรอก ฉันเสียดายเลยแอบมาปรับปรุงนิดหน่อยน่ะ ก็ได้.... 2 ปีแล้วล่ะมั้ง”ร่างสูงว่ายิ้มๆ ก่อนะจสังเกตเห็นร่างบางได้ย่อตัวลงมองต้นไม้หลากหลายพันธุ์ที่อยู่ตรงหน้าอย่างหลงใหล

    “พี่มิโคโตะเนี่ยเป็นคนดีจังเลยนะครับ...”

    “ไม่ขนาดนั้นหรอก...ฉันตั้งใจไว้ว่าสักวันจะพาคนที่ฉันชอบมาที่นี้”ร่างสูงว่าก่อนจะมองขึ้นไปบนยอดเรือน ทำให้ร่างบางแอบนึกขำกับคำพูด

    “ฮ่าๆ แล้วชวนผมมาเนี่ยนะครับ^^?”

    คนตรงหน้าพยักหน้าให้ในขณะที่ยังเงยหน้าอยู่

    “สักวันก็คือ.... วันนี้ยังไงล่ะ...” กลับมามองใบหน้าของเซอิด้วยแววตาจริงจัง

    “ฉัน.... ชอบนะเซอิ ไม่สิ....ฉันรักเธอนะ....”

    คำพูดที่ไม่รู้ว่าเอาความแน่วแน่มาจากไหน ทำให้เซอิถึงกลับเบิกตากว้างคิดว่าอีกฝ่ายกำลังล้อตัวเองเล่นแต่แววตาแบบนั้นต่อให้เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาก็มองออกว่าไม่ได้พูดเล่นๆ มิโคโตะไม่ได้พูดอะไรต่อนอกจากจะมองร่างบางอยู่นิ่งๆ

    “เอ่อ...คือ....”ทำอะไรไม่ถูกนอกจากจะมองหน้ามิโคโตะสลับกับมองไปทางอื่น “ผมคิดว่า.....มันไม่สมควรนะครับ! ผู้ชายมา...กันเนี่ย...”เบี่ยงสายตาหลบอีกฝ่าย

         คำตอบของเซอิ เป็นคำตอบที่เขารู้มาตั้งแต่ต้น.... ผู้ชายกับผู้ชายมารักกันนั้นย่อมเป็นเรื่องแปลก เป็นสิ่งที่สังคมยังไม่ยอมรับกันมากนัก แต่ทำยังไงได้เมื่อหัวใจมันรักไปแล้ว จะให้เขาปฏิเสธมันได้ยังไง เด็กคนนี้... เซอิ ความที่เป็นตัวของตัวเองเป็นในแบบที่เขาเป็นแบบนี้มันทำให้เขาหลงรัก... เป็นรักจริงๆไม่ใช่เพียงแค่อาการหลงชั่วครั้งชั่วคราว รักในแบบที่อยากจะใช้ชีวิตด้วยกันตลอดไป.... แต่ให้ทำยังไงได้ รักในแบบของเขามันไม่ใช่คนปกติ อย่างน้อยๆก็แค่อยากจะบอกว่ารัก.... อยากจะบอกรักเด็กคนนี้ คนที่เอาหัวใจของเขาไปจนหมด แม้ว่าจะรู้อยู่แก่ใจว่าหากพูดไปความสัมพันธ์ที่เป็นอยู่แบบนี้มันจะพังทลายลงในแบบที่เรื้อฟื้นมันขึ้นมากลับได้ เขากลัว... กลัวเหลือเกินกับคำบอกปฏิเสธแต่..... ก็เหมือนว่าจะทำใจขึ้นมาได้บ้างแล้ว...

        มิโกโตะหลุบตาต่ำ แค่คำปฏิเสธไม่กี่คำเขาก็เจ็บได้เพียงนี้เชียวหรือ

        "เข้าใจแล้วล่ะ... ขอโทษนะที่ทำให้เธอลำบากใจ ขอตัว..." เขาทนอยู่ตรงนี้ต่อไปไม่ได้ ไม่รู้ทำไมน้ำตามันเหมือนจะล้นออกมาจากดวงตาอยู่รอมร้อ เขาให้เซอิเห็นสภาพหน้าสมเพชแบบนั้นไม่ได้ จึงเลี่ยงที่จะปลีกตัวไปอยู่คนเดียวอีกกว่า เขาสาวเท้าออกไปโดยไม่ได้เหลียวหลังกลับไปมองร่างเล็กผมสีม่วงคนที่เขารักจนหมดหัวใจอีกเลย

       ร่างบางได้แต่ยืนอยู่เฉยๆโดยที่ไม่ได้ขยับเขยื่อนอะไรแม้แต่น้อย ในใจอยากจะรั้งเขาไว้แต่คงต้องปล่อยไปเพราะร่างกายตอนนี้แทบจะชาได้ทั้งตัวแม้แต่จะขยับมือไปเขย่าโน้นนี้แบบที่ผ่านมาก็เหมือนแทบจะขยับไม่ได้เลย หลังจากที่ได้ยินคำนั้นรู้สึกหัวใจไม่สิจิตใจตอนนี้แทบจะเรียกได้เลยว่าเจ็บ....แต่คงต้องตามเขาให้มาคุยกันให้รู้เรื่องกว่านี้

      เมื่อร่างกายของเซอิเริ่มขยับสติกลับเข้ามาแล้วก็เริ่มหันมาหาคนที่เพิ่งเดินไปแต่ก็ไม่พบ คงนึกว่าเขาคงไปไกลแล้ว.....

         หลังจากที่ร่างสูงเดินผ่านไปได้สักพักหัวใจที่เจ็บปวดนั้นก็ไม่ได้บรรเทาลงเลย มันกลับมากขึ้นด้วยซ้ำ เขาเดินอย่างเหม่อลอยไร้ซึ่งจุดหมายแน่ชัด รู้เพียงแค่ว่าเขาต้องการเดินไปให้ไกลแสนไกล..... เพื่อว่าระยะเวลาจะช่วยสมานแผลใจนี้ให้เจ็บน้อยลง.... สักนิดก็ยังดี.... เขาเดินมาหยุดๆ อยู่ที่หน้าทางม้าลายไฟจราจรบ่งบอกว่าเขาสามารถเดินข้ามได่แล้ว ร่างสูงไม่รอช้าที่จะรีบข้ามถนนก่อนที่ไฟจราจรจะเปลี่ยนเป็นสีแดง ทันกว่าความคิดรถบรรทุกคันใหญ่แล่นผ่านมาโดยไม่ชะลอความเร็วเลยสักนิด....

     

       เอี๊ยดด!!!!! ตู้ม!!!!!!

     

        ร่างสูงลอยปลิวไปตามแรงของรถ เขาจะต้องตายหรอกหรือ......? มิโกโตะนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นด้วยสติที่เลือนลาง เลือดสีแดงสดค่อยไหลออกมาจากศีรษะเริ่มเอ่อล้นเปรอะเปรื้อนไปตามพื้นถนน พร้อมน้ำตาของความเศร้าผสมปนกับความผิดหวัง..... คนเห็นแก่ตัวอย่างเขาอาจสมควรตายก็ได้ เขาคิดเช่นนั้นก่อนที่เปลือกตาแสนหนักอึ้งจะค่อยๆปิดลง

     .

    .

    .

    .

    ((ยังไม่จบบบบ)))

         

     

     

     

    BABY ♥ THEME
    Cute Red Spinning Flower
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×