คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #32 : Page 1113 : อยากนอนกอดพี่
ถ้าไม่ติดว่าวันนี้มีนัดสำคัญกับใครบางคน
ฮวังมินฮยอนคงไม่พาตัวเองมายืนข้างถนนตากอากาศเย็น
ๆ ตอนใกล้เช้าแบบนี้หรอก
รถที่เขาจำได้ขึ้นใจจอดเทียบลงตรงหน้า
ก่อนคนด้านใจจะกดเปิดกระจก ยื่นหน้าออกมายิ้มตาหยีให้
“เท่าไหร่อะเรา”
มินฮยอนดีดหน้าผากเด็กแก่แดดไปหนึ่งทีด้วยความหมั่นไส้
ควอนฮยอนบินลูบส่วนที่โดนลอบทำร้ายป้อย
ๆ ทำตาลูกหมาน่าสงสารใส่ ล่อลวงให้พี่เข้ามาปลอบ
“ฝันเถอะ
เปิดประตูรถ”
มินฮยอนลอบมองสารถีจำเป็นที่เอาแต่ทำหน้านิ่งตั้งแต่ที่เขาขึ้นมานั่งในรถ
แล้วก็ต้องถอนหายใจ
เขาต้องเป็นคนง้อใช่ไหมเนี่ย
“เป็นอะไร”
“เปล่านี่ครับ”
เป็นชัด ๆ
“เปิดเพลงใหม่นายดีมั้ย”
“แล้วแต่พี่สิ”
เนี่ยเหรอที่บอกไม่เป็นอะไร
“ก็มันรถนาย”
“ของพี่ของผมมันก็เหมือนกัน”
เอาแต่ใจจริง
ๆ
“นายโกรธอะไร
เรื่องเมื่อกี้?”
“เปล่า
ทำไมผมต้องโกรธ”
ก็โกรธอยู่เนี่ย
“นี่
อย่าเป็นแบบนี้ได้มั้ย นาน ๆ จะเธอกันที”
มินฮยอนยกมือขึ้นนวดขมับ
ตอนนี้รู้สึกว่าหัวมันจะเริ่มมีอาการปวดขึ้นมานิด ๆ แล้วล่ะ
“ไม่สบายเหรอครับ”
ฮยอนบินเลิกแกล้งทำเมินอีกคน
ใบหน้าที่ยังมีเครื่องสำอางติดอยู่หันมามองพี่ด้วยความเป็นห่วง
“ขับรถไปเถอะ
พี่อยากถึงเร็ว ๆ”
●
ฮยอนบินนั่งมองหน้าคนที่กำลังอยู่ในห้วงนิทราด้วยความคิดถึง
ร่องรอยความอิดโรยจากการทำงานหนักยังมีให้เห็นจนอดที่จะเป็นห่วงไม่ได้
ฮวังมินฮยอนน่ะ
ชอบบอกว่าตัวเองไม่เป็นไร
ทั้งที่บางครั้งมันเห็นชัด
ๆ อยู่ว่า ... ตัวเองกำลังไม่ไหว
กี่เดือนแล้วที่พวกเขาสองคนมีตารางงานชนกันจนหาเวลาออกมาเจอกันไม่ได้
เปลือกตาสีอ่อนค่อย ๆ
เปิดขึ้น เมื่อรับรู้ถึงสัมผัสอุ่น ๆ บนหน้าผาก
“หายโกรธแล้วเหรอ”
มินฮยอนส่งยิ้มบาง ๆ ให้อีกฝ่าย หลังจากพูดประโยคนั้นจบ
“ผมเคยโกรธพี่ที่ไหน”
ริมฝีปากหนาย้ายตำแหน่งลงมากดบนส่วนเดียวกันของอีกคน
เป็นแค่จูบธรรมดาแบบปากแตะกัน
ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น
แต่กลับทำให้ทั้งสองคนรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก
“พรุ่งนี้นายมีงานไม่ใช่เหรอ”
“ครับ
แค่อยากนอนกอดพี่ ชั่วโมงนึงก็ยังดี”
ฮยอนบินเอื้อมมือมาปลดเข็มขัดนิรภัยให้อีกฝ่าย
ใบหน้าของพี่อยู่ห่างกับเขาไม่ถึงคืบ ร่างสูงใหญ่ค่อย ๆ ลดระยะนั้นลงเรื่อย ๆ
จนปลายจมูกชนกัน
“อย่าโวยวายนะ
ถ้าเห็นว่าผมพามาที่ไหน”
มินฮยอนหันออกไปมองด้านนอกทันทีที่อีกฝ่ายพูดจบ
ดวงตาเรียวเล็กเบิกกว้างขึ้น ก่อนจะหันมาทำตาเขียวใส่ตัวต้นเหตุ
●
แค่ประตูเปิดออก
มินฮยอนก็แทบลมจับกับสภาพทางเข้าห้องพักเจบีเจ
รองเท้าไม่ต่ำกว่าสิบคู่วางระเกะระกะขวางทางเดินจนเขาต้องก้มลงจัดมันให้อยู่ในที่ที่ควรอยู่แบบลวก
ๆ
นี่มันห้องรับแขกหรือร้านซักอบรีด
ราวตากผ้าที่มีเสื้อกับกางเกงพาดอยู่หลายตัว
แทบจะยึดพื้นที่ด้านข้างของห้องไปเกือบหมด
เห็นแล้วคันไม้คันมืออยากจัดการให้เสร็จ
ๆ
“แค่นี้พี่ยังเริ่มอารมณ์เสีย
ไม่ต้องเข้าไปดูในครัวหรอกเนอะ” ฮยอนบินหัวเราะแห้ง ๆ
รุนหลังให้อีกคนเข้าไปอยู่ในห้องนอนตัวเอง
เมี้ยว
เมี้ยว
แมวสองตัวของรูมเมทฮยอนบินส่งเสียงร้องทักขึ้นทันที่ที่ได้ยินเสียงประตูเปิด
“แมวยงกุกน่ารักจัง”
มินฮยอนนั่งยอง ๆ ส่งมือไปลูบหัวเกาคางเจ้าสองตัวอย่างเอ็นดู
“คนอื่นไปไหนล่ะ”
เหมือนเจ้าตัวเล็กสองตัวจะรู้หน้าที่ของมันดี
ตัวนึงเลือกจะเดินไปคลอเคลียที่ขาของฮยอนบิน
ส่วนอีกตัวก็ซุกหน้าเข้าหาฝ่ามือนุ่มของคนแปลกหน้าอย่างออดอ้อน
“กำลังกลับครับ
ผมกลับมาก่อนเพราะเอารถไป” คนตัวสูงอุ้มลูกแมวขึ้นแนบอก จับฟัดสองสามที
ก่อนจะปล่อยเจ้าเหมียวลงพื้น
“อ๋อ”
“พี่เช็ดเมคอัพออกให้หน่อยดิ”
“เอาสิ”
“ขอถอดคอนแทคเลนส์แป๊บ”
มือขาวเทเมคอัพ
รีมูฟเวอร์ลงบนสำลีแผ่นกลม ค่อย ๆ เช็ดไปตามโครงหน้าของคนที่นอนหนุนตักตัวเองอยู่
เริ่มจากหน้าผากก่อนจะไล่ลงมาที่คิ้ว
ตา จมูก แก้ม คาง ปาก หลังใบหู และลำคอ
“ปากนายที่ต้องเสียลิปกี่แท่ง”
นิ้วเรียวตีปากตุ่ย ๆ นั่นสองที ก่อนจะโดนมือใหญ่กว่ารวบเอาไว้
“พี่ก็ลองทาให้ผมสิ”
“แล้วจะเอาลิปมาจากไหน”
“ไม่จำเป็นต้องใช้ลิปแพง
ๆ พวกนั้นหรอกครับ”
“เอ๊า”
“ทาลิปแบบธรรมชาติดีกว่า”
ฮยอนบินโน้มคออีกคนให้ลงมารับลิปสีที่เขาภูมิใจนำเสนอนักหนา
ลิปสีควอนฮยอนบิน
คนตัวสูงที่นอนหนุนตักอยู่เป็นฝ่ายถอนจูบออกมาก่อน
เพราะอะไรน่ะเหรอ
เมี้ยว
เมี้ยว
เจ้าสองตัวที่เข้ามาซุกหัวเขาบนขาขาว
ๆ ของพี่มินฮยอนยังไงล่ะ
●
มินฮยอนมองภาพเจ้าเด็กยักษ์หอมหัวแมวทั้งสองตัวสลับไปมาก็ได้แต่ท้อใจ
เขาบอกจนปากเปียกปากแฉะแล้วว่าแมวอยู่ก็นอนได้ แต่อีกฝ่ายก็ยังไม่ยอมอยู่ดี
ทั้งที่คนดูเหมือนจะขาดใจตายให้ได้
ตอนพาน้องมาส่งไว้ที่ห้องรับแขกแบบนี้
ก็คือตัวเองนั่นแหละ
“พี่นอนได้จริง ๆ”
“ไม่เอาอะ
เผื่ออยู่ดี ๆ พี่แพ้อะไรขึ้นมาทำไง”
พิธีการเอ่ยลาแมวสองตัวของยงกุกกินเวลาประมาณเกือบสิบนาที
ตอนนี้เขาสองคนกลับมาอยู่ในห้องแล้ว
และกำลังมีละครฉากใหม่เกิดขึ้น
“ผมบอกให้มานอนเตียงกับผมไง”
ฮยอนบินลุกขึ้นเต็มความสูง กอดอดมองคนที่ยืนอยู่ตรงเตียงของยงกุกด้วยสีหน้าไม่พอใจ
“นายกลับมาเหนื่อย ๆ
จะได้นอนสบาย ๆ”
เริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัยขึ้นมานิด
ๆ
“สบายของผมคือนอนกอดพี่”
“เตียงมันเล็ก”
หวังมากกว่ากอดแน่
ๆ ดูจากสายตาแล้ว
“พี่นอนทับผมก็ได้”
“จะบ้าเหรอ”
คิดผิดที่ไหนล่ะ
“มินฮยอนมานี่”
“พี่จะนอนเตียงยงกุก
แล้วเมื่อกี้นายเรียกพี่ว่าอะไรนะ”
ชักจะเหิมเกริมมากไปแล้วเด็กคนนี้
“จะเรียกอะไรก็ช่างเถอะ
บอกให้มานอนกับผม”
“ไม่เอา”
ทำไมดื้อแบบนี้วะ
“เตียงพี่ยงกุกมันมีขนแมว”
“เตียงนายก็มี”
เหตุผลร้อยแปดจริง
ๆ ฮวังมินฮยอน
“ผมปัดออกแล้ว”
“เดี๋ยวพี่ปัดเตียงยงกุกเอง”
ดื้อ
ดื้อเกินไปแล้ว
“มินฮยอน
อย่าให้ผมโมโหนะ”
“ฮยอนบินอ่า เฮ้ย
นายจะทำอะไร”
จับพี่กินยังไงล่ะ
เจ้าของห้องปีนข้ามเตียงตัวเองมาหยุดอยู่ฝั่งตรงข้ามกับมินฮยอน
ตอนนี้มีแค่เตียงของยงกุกที่กั้นระหว่างเราอยู่
และดูเหมือนว่าเจ้าเด็กเอาแต่ใจพร้อมจะวิ่งเข้าชาร์จเขาได้ทุกวินาที
คนตัวขาวตัดสินใจวิ่งอ้อมไปหยุดอีกฝั่งของห้อง
และนั่นกลับกลายเป็นความคิดที่ผิดมหันต์
ที่ ๆ
มินฮยอนวิ่งมาหาดันเป็นฝั่งเตียงของเจ้าเด็กโข่งเสียนี่
ฮยอนบินก้าวไม่ถึงสามก้าวก็คว้าเอวอีกฝ่ายไว้ได้ก่อนจะทุ่มลงเตียงพร้อมเอาตัวขึ้นคร่อม
วงแขนแกร่งกักขังอีกคนไว้ในอ้อมกอด
ให้ตายเถอะ
ฮยอนบินฝังหน้าลงบนซอกคอขาว
ก่อนจะเริ่มซุกไซร้ ขบ กัด สร้างรอยประทับจนไม่เหลือพื้นที่ผิวเนื้อสีธรรมชาติ
“ฮยอนบิน”
เสียงของพี่ไม่สามารถห้ามอะไรเขาได้แล้วตอนนี้
และเขาก็รู้ว่าพี่มินฮยอนแค่เรียกชื่อเขาไปอย่างนั้นแหละ
ไม่ใช่อยากให้หยุดหรอก
ริมฝีปากร้อนไล่ชิมความหวานมาเรื่อย
ๆ จนถึงสาบคอเสื้อเชิ้ตที่ยังมีกระดุมติดไว้อยู่
ฟันคมทำการแกะกระดุมเม็ดแรกออกแทนการใช้มือ
เพราะตอนนี้มือทั้งสองข้างของฮยอนบินกำลังสอดประสานอยู่กับมือนิ่ม
ๆ ของพี่
กระดุมเม็ดที่สองถูกจัดการหลังจากเม็ดแรกไม่นานนัก
จนเมื่อกระดุมทุกเม็ดหลุดออกจากรังดุม
และเผยผิวขาว ๆ ที่ฮยอนบินไม่ได้สัมผัสมานาน สติที่มีอยู่น้อยนิดของทั้งคู่ก็ขาดลงทันทีแทบจะพร้อมกัน
“อ่า ฮยอนบิน”
“พี่ ผมขอนะ”
“อือ”
คนตัวสูงจัดการถอดเสื้อยืดของตัวเองออก
ก่อนจะโถมตัวลงมาฟัดพี่อีกครั้งจนจมเตียง
ลิ้นของฮยอนบินกำลังไล้ต่ำลงมาตรงแอ่งสะดือ
ประตูห้องนอนที่ปิดอยู่เปิดออกพร้อมการปรากฏตัวของสมาชิกเจบีเจที่เหลือ
“เฮ้ย”
ผู้ชายห้าคนที่ยืนออกันอยู่ส่งเสียงร้องตกใจขึ้นพร้อมกัน
ก่อนจะรีบปิดประตูเอาไว้เหมือนเดิม
“ต่อมั้ย” เสียงทุ้มแหบพร่า
ดวงตาหยาดเยิ้มด้วยแรงอารมณ์กำลังอ้อนวอนขอความเห็นใจจากเขา
“ต่อบ้าอะไรล่ะ
ลุกจะกลับแล้ว” มินฮยอนดันหน้าอีกฝ่ายออกจากซอกคอตัวเองเบา ๆ ลุกขึ้นกลัดกระดุมเสื้อจนครบทุกเม็ด
“ใจร้ายว่ะ”
“คนมันอายเว้ย”
“พี่อะ”
ฮยอนบินเสยผมขึ้นด้วยความหงุดหงิด
จะกลับมาอะไรกันตอนนี้วะเนี่ย
รู้อย่างนี้พากลับบ้านดีกว่า
“ฮยอนบินอ่า
ไปส่งพี่หน่อย”
“....”
“นะนะ นะครับ”
“พี่แม่ง”
มาโหมดนี้เป็นใครก็ยอมเถอะ
แพ้ทางตลอด
ให้ตายสิ
●
มินฮยอนเดินตามเจ้าของแผ่นหลังกว้างเปลือยเปล่าออกมาจากห้อง
ทำไมไม่ใส่เสื้อดี
ๆ ก็ไม่รู้ ถือโบกไปโบกมาอยู่นั่น
คนตัวขาวแอบมองข้ามไหล่ฮยอนบินไปทางโซฟาตรงห้องรับแขก
สมาชิกในวงกระจายตัวนั่งตามมุมต่าง ๆ ด้วยความเหนื่อยอ่อน
ยงกุกกำลังเคลิ้มหลับ
มีน้องแมวทั้งสองอยู่บนตัว
ซังกยุนกำลังกดรีโมทเปลี่ยนช่องทีวีไปมาเหมือนคนไม่มีสติ
เคนตะกับพี่แทฮยอนกำลังนอนคุยกันอยู่
ส่วนดงฮันกำลังยัดขนมปังเข้าปากอยู่หน้าทีวี
รู้สึกผิดมากกว่าเดิมอีกทีนี้
“ไปส่งพี่มินฮยอนเดี๋ยวมานะครับ”
ฮยอนบินใส่เสื้อปากก็คุยกับพี่ใหญ่ไปด้วย
ส่วนฮวังมินฮยอนได้แต่หลบสายตาเมมเบอร์คนอื่น ๆ
เอ่ยทักทาย
ขอโทษ และกล่าวลาในคราวเดียวกันเสียงเบา
หน้ากับหูต้องแดงมากแน่
ๆ
รู้สึกผิดมากด้วย
“สวัสดีทุกคน”
“ขอโทษที่รบกวน”
“ไปก่อนนะ”
ยังไม่ทันจะเปิดประตูออกไป
เสียงตะโกนของน้องเล็กสุดของวงก็ทำให้หน้ากับหูที่เป็นสีชมพูอ่อนของมินฮยอนกลายเป็นสีแดงเถือกทันที
“ไปส่งที่หอแล้วรีบกลับนะพี่
ไม่ใช่ลงไปอยู่ในรถสองสามชั่วโมง แล้วกลับขึ้นมาพร้อมกันสองคนเหมือนเดิม”
ฮยอนบินมองหน้าเหวอ ๆ
ของมินฮยอนแล้วก็หลุดหัวเราะออกมาเสียงดัง
เขินอะไรขนาดนั้น
●●●
#HwangAndTheKwon
@daisieelady
ความคิดเห็น