ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    #HwangAndTheKwon [minhyunbin: h x m]

    ลำดับตอนที่ #30 : OS: I wish I was special

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.75K
      30
      14 ธ.ค. 61



    I wish I was special


    “I wish I was special

    You’re so very special”

                              Creep - Radiohead

     

     

     

     

     

    -- วันจันทร์พี่มินฮยอนมีเรียนตอนเก้าโมงเช้า --

          

    ควอนฮยอนบินถอดแว่นสายตาทรงกลมออกมาเช็ดละอองน้ำฝนที่เกาะเป็นฝ้าอยู่บนเลนส์แก้วใส ขณะรอการมาถึงของใครบางคน

          

    ใครบางคนที่กำลังเดินยิ้มมาแต่ไกลพร้อมกลุ่มเพื่อนตอนนี้

     

           ฮวังมินฮยอน

     

           ร่างสูงใหญ่ที่ยืนหลบมุมอยู่รีบหันหลังจ้ำหนีคนคนเดิมเหมือนกับทุกครั้ง

     

           -- ให้ตายเถอะ ไม่กล้าจะมองพี่เขาใกล้ ๆ สักที –

     

     

     

           “น้องครับ” มือขาวที่ถือวิสาสะจับข้อมือของน้องคณะเดียวกัน ค่อย ๆ คลายออกเมื่ออีกฝ่ายหยุดเดิน

     

           “น้องทำผ้าเช็ดหน้าหล่น” ฮยอนบินหันไปรับของใช้ส่วนตัวจากมือรุ่นพี่ โค้งเร็ว ๆ ก่อนจะรีบวิ่งหนีสถาณการณ์ที่อันตรายต่อหัวใจเหลือเกิน

     

     

     

           -- ถ้าผมหัวใจวายขึ้นมา พี่จะรับผิดชอบยังไง –

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

           -- วันอังคารพี่มินฮยอนชอบมาทานข้าวกลางวันที่โรงอาหารกลาง --

     

    “เหม่ออะไรของมึงอีกเนี่ย” คิมดงฮันโบกมือไปมาตรงหน้าเพื่อนสนิท หวังเรียกสติที่หลุดลอยหายไปให้กลับเข้าร่าง

     

           “หมี กูว่า --” ดวงตาเล็กเรียวเบิกกว้างเหมือนคนเห็นสิ่งลี้ลับ ก่อนจะรีบซุกหน้าลงกระเป๋าทำทีเป็นหลับ

     

           “ว่าอะไร เอ๊า ไอ้นี่” เจ้าของฉายาหมีคีบข้าวเข้าปาก เอาตะเกียบเคาะหัวเพื่อนด้วยความรำคาญ

     

           “พวกพี่นั่งด้วยได้ป่ะ” รุ่นพี่ตัวเล็กคนดังของมหาวิทยาลัยยิ้มตาปิดให้คนที่นั่งทำหน้าเหรอหรา

     

           -- รู้แล้วว่ามันเป็นอะไร --

          

    “ได้ครับพี่จงฮยอน”

     

           “พี่มากันห้าคน นั่งได้อยู่ใช่ไหม”

     

           “ได้ ๆ พี่ พวกผมนั่งกันแค่สองคน”

     

           “ขอบคุณนะ”

     

           “มึง ฮยอนบิน ไอ้นี่มาหลับอะไรตอนนี้ เขยิบให้พี่มินฮยอนนั่งหน่อย” คนถูกเรียกชื่อไถตัวเองไปนั่งริมสุด แต่ไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมามองคนที่นั่งลงข้าง ๆ ตัวเอง

     

           “เพื่อนน้องไม่สบายเหรอ” เสียงที่ฮยอนบินจำได้ดีเอ่ยถามดงฮัน

     

           -- พี่จะใจดีแบบนี้กับใครไปเรื่อยไม่ได้นะ –

     

           “พี่มียานะเอาไว้ไหม”

     

           -- เนี่ย เพราะพี่เป็นแบบนี้ไง –

     

           “เปล่าพี่ มันเขิน”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    -- วันพุธพี่มินฮยอนจะนั่งรถเมล์กลับบ้าน --

     

    ฮยอนบินแทบจะเป็นลมล้มพับอยู่ตรงป้ายรถเมล์ -- จะอะไรเสียอีก -- ก็วันนี้หัวใจเขาทำงานหนักเกินอัตราที่จะรับไหวแล้วน่ะสิ

     

           เหตุผลก็เพราะ

     

    คนที่กำลังวิ่งตากฝนมายืนหลบอยู่ข้าง ๆ เขาตอนนี้

     

    กลิ่นพีชอ่อน ๆ นี่

     

    หอมจนหัวใจสั่น

     

    -- ใกล้เกินไปแล้ว --

     

     

     

    “ติดอยู่ตรงป้ายรถเมล์หน้ามอ” ฮยอนบินเหลือบมองคนที่กำลังคุยโทรศัพท์ไปยิ้มไป

    “ไม่เป็นไร ฝนใกล้ซาแล้วทำงานไปเถอะ”

     

    -- โคตรอิจฉาคนที่ได้ยินเสียงพี่ทุกวันเลย –

     

    “อื้อ รู้แล้วน่า”

     

    “ครับ ๆ จำได้”

     

    “รักเหมือนกันครับ”

     

     

     

    -- เรามาทำอะไรตรงนี้วะ –

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

           -- วันศุกร์พี่มินฮยอนมีซ้อมร้องเพลงที่ชมรม –

     

           สุดท้ายฮยอนบินก็มาเดินเตร่อยู่แถวชมรมดนตรีตอนสี่โมงเย็น หนึ่งวันที่ผ่านมาโคตรทรมานเลยที่ฝืนใจตัวเองไม่ให้มาเจอหน้าพี่เขา

     

           “ประสาทมึงกลับถูกไหม”

     

           เมื่อวานเขาได้ยินดงฮันพูดประโยคนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก

     

           “มึงทนไม่ไหวหรอก”

     

    เพื่อนเขาพูดไม่ผิดเลยสักนิด ก็เขามานั่งตบยุงรออีกคนแล้วนี่ ตอนนี้น่ะ

     

     

     

    ฮยอนบินกำลังนั่งสัปปะหงกอยู่หน้าชมรมดนตรี เวลาตอนนี้ก็ปาไปสามทุ่มแล้ว

     

    -- ซ้อมอะไรนักหนาวะ --

     

     

          

           “เพิ่งซ้อมเสร็จ” ฮยอนบินรีบเด้งตัวขึ้นไปยืนหลบหลังเสาต้นใหญ่ คนที่เขานั่งรอมากว่าสี่ชั่วโมง เปิดประตูออกมาด้วยสีหน้าหงุดหงิด และน้ำเสียงที่ใช้กับปลายสายก็ดูห้วนผิดวิสัยคนพูดสุภาพอย่างพี่เขา

     

           “อืม รู้แล้ว”

     

           “แค่นี้นะ”

     

           -- ทะเลาะอะไรกันรึเปล่าวะ –

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

           ฮยอนบินนั่งมองคนที่กระดกเบียร์เข้าปากเป็นกระป๋องที่สาม ส่วนเขาน่ะ เพิ่งจะได้เริ่มกระป๋องที่สองเอง

          

           หลังจากอีกคนกดวางสายโทรศัพท์ และทรุดนั่งแหมะลงกับพื้น ฮยอนบินก็เดินออกจากเงามืดมานั่งลงข้าง ๆ รุ่นพี่โดยไม่พูดอะไร

     

    ไม่รู้มีใครดลใจให้เขามีความกล้าพอที่จะเอ่ยปากชวนรุ่นพี่มาดื่มด้วยกัน

     

    ไม่รู้มีใครดลใจให้เขามีความอดทนพอที่จะฟังเรื่องราวความสัมพันธ์ห่วย ๆ ของคนตรงหน้า

     

           “ผมว่าพี่ดื่มเยอะไปแล้วนะ” มือหนาดึงกระป๋องเบียร์ออกจากปากอีกคนมาดื่มเสียเอง

     

    “พี่ยังไหว” ฮยอนบินมองคนที่เอาแต่จ้องปลายเท้าตัวเอง ก็ได้แต่ส่ายหน้า 

     

    -- นี่คือไหว --

          

    “ไม่ไหวก็บอกไม่ไหวดิพี่”

     

           -- พี่ไม่ไหวหรอก --

          

    “ไหวที่จะอยู่ พี่ยังไหวที่จะอยู่กับเขา” คนตัวขาวพูดเสียงเครือก่อนจะเอามือปิดหน้าตัวเอง

     

    -- ร้องไห้สินะ --

          

           “หรือพี่ –ไม่ไหววะ”

     

           ฮยอนบินดึงอีกคนมาซบตรงไหล่ เสื้อเชิ้ตที่เขาใส่อยู่เปียกน้ำตาของรุ่นพี่ตัวขาว แขนยาวโอบรอบไหล่สั่น ๆ ไว้หลวม ๆ

     

           -- พี่รักเขาขนาดนี้ ทำไมเขาถึงกล้าทำร้ายพี่วะ --

     

           ให้ตายเถอะ อุตส่าห์ได้มาอยู่ด้วยกันสองคน แต่ต้องมานั่งฟังเสียงร้องไห้ของคนที่ตัวเองชอบเนี่ยนะ –โคตรไม่แฟร์เลย

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

           “นี่ --นายเคยชอบใครมาก ๆ ป่ะ” ลมหายใจร้อน ๆ ของคนเมาคลอเคลียอยู่ที่ข้างหู      

     

    อาจจะเป็นภาพที่ประหลาดสักหน่อยถ้ามีคนผ่านมาเจอ ก็ผู้ชายตัวสูงสองคนมาขี่หลังกันแบบนี้ –คงดูแปลกพิกล แต่มันเป็นทางเดียวที่จะแบกรุ่นพี่ของเขากลับบ้านได้เนี่ยสิเลยต้องทำ

     

    “ถามอะไรของพี่เนี่ย”

     

    “ไม่มีเหรอ ไม่เคยชอบใครเลยเหรอ”

     

    --ให้ตอบว่าอะไรล่ะพี่ ชอบคนที่ผมแบกอยู่นี่แหล่ะครับ อย่างนี้เหรอ--

          

    “เหนื่อยเนอะ ชอบใครมาก ๆ เนี่ย”

     

           “พี่เหนื่อยเหรอ ผมไม่เคยเหนื่อยเลย”

     

           “...”

     

           “ชอบมาสามปี แค่เห็นเขายิ้มผมก็มีความสุขแล้ว”

     

           “...”

     

           “เคยท้ออยู่ครั้งนึง เมื่อไม่กี่วันนี้เอง”

     

           “...”

     

           “เพิ่งรู้ว่าเขามีคนคุยด้วยอยู่แล้ว”

     

           “...”

     

           “เหมือนโลกทั้งใบพังลงต่อหน้าเลยครับ”

     

           “...”

     

           “แต่ไม่เห็นหน้าเขาทรมานกว่าเยอะ”

     

           “...”

     

           “ยิ่งเห็นเขาร้องไห้ –พี่”

     

           “...”

     

           “อ่าว หลับซะงั้น แล้วก็ปล่อยให้ผมพูดอะไรไม่รู้คนเดียวเนี่ยนะ” ร่างสูงหัวเราะเบา ๆ กับความเปิ่นของตัวเอง

     

    --พูดคนเดียวเป็นตุเป็นตะ ไอ้บ้าเอ๊ย--

     

    ควอนฮยอนบินระบายยิ้มจาง ๆ ตอนเห็นเนื้อแก้มขาวของคนที่หลับเกยไหล่เขาอยู่ล้นออกมา

     

    --น่ารัก--

     

     

     

           --ผมจะไม่เหนื่อย เรื่องของพี่น่ะ ผมจะไม่ยอมเหนื่อยเด็ดขาด ฮวังมินฮยอน--

          

     

     

     

     

    “ขอบคุณนะฮยอนบิน”

     

           แขนเรียวที่กอดคอเขาไว้กระชับแน่นขึ้น

     

           “ขอบคุณที่ชอบพี่”

     

           คนบนหลังกว้างหันหน้าหนีจากซอกคอเขา

     

           “แล้วก็ –ขอโทษนะ

     

           ฮยอนบินแหงนหน้าขึ้นมองฟ้า มีคนเคยบอกไว้ว่า –ถ้าไม่อยากให้น้ำตาไหล ให้แหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้า

     

           “ขอโทษจริง ๆ”

     

           น้ำตาที่คิดว่ากลั้นมันได้แล้วไหลเปียกแก้มตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้

           ที่มีคนเคยบอกไว้เรื่องซ่อนน้ำตาอะไรนั่น –สุดท้ายมันก็แค่เรื่องโกหก

     

     

     

     

     

           “ไม่เป็นไรครับพี่ –ผมไม่เป็นไร

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    #HwangAndTheKwon

    @daisieelady

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×