ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {fic gintama } รักวุ่นๆยกกำลังสอง!

    ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่สอง:เด็กๆควรจะกินให้ครบห้าหมู่นะ!!!

    • อัปเดตล่าสุด 19 ต.ค. 57



    ตอนที่สาม:เด็กๆควรจะกินอาหารให้ครบห้าหมู่นะ!!!

     

     

     

              “เอาละ!สรุปพวกเธอไม่โดนความผิดอะไรเพราะไม่มีอะไรในโรงเรียนที่เสียหาย(?)แต่วันหลังก็อย่าไปทะเลาะกันอีกละ ถ้าเกลียดขี้หน้ากันก็ทนๆไปหน่อยละกันเพราะพวกเธอพึ่งอยู่พี่สองกันเองต้องอยู่ด้วยกันสองปีเลยนะ งั้นไม่มีอะไรแล้ว ไปได้ละ เออ!! คางุระจังถ้าเธอโดดพิธีการไม่ว่าจะอะไรก็แล้วแต่ฉันจะรายงานเจ้าเหม่งนะ ส่วนเธอ โอคิตะคุง ถึงเธอเป็นหนึ่งในสภานักเรียนแต่ก็ไม่มีสิทธิ์โดดไปนะ ดูอย่างฉันสิ!!อยากโดดแทบตายแต่ก็ทำไม่ได้ เซ็งจะตาย เฮ้ออออ”สิ้นเสียงถอนหายใจอย่างเบื่อโลกของอาจารย์ซากาตะ กินโทกิ ร่างหน้าและร่างบางก็เดินออกจากห้องพักครูด้วยสภาพที่ไม่ดีเท่าไหร่ สภาพของร่างบางได้รับรอยม่วงๆที่ใบหน้าเล็กนั้นเป็นจุดๆตามตัวก็มีรอยถลอกและรอยขีดข่วนเล็กๆน้อยๆสภาพชุดนักเรียนก็ดำคล้ำเป็นที่ๆเช่นกัน ผ้าพันคอก็หลุดหลุยออกมาที่ดูปกติทีสุดก็คงเป็นกางเกงวอร์มของเธอและแน่นอนสภาพหัวของเธอก็ไม่ค่อยต่างกันเท่าไหร่ หวงที่เคยมีซาลาเปาสองลูกอยู่บนหัวตอนนี้เธอต้องรวบเป็นหางหมาม้าเพราะมันยุ่งมากทำให้เธอขี้เกียจทำผมใหม่เลยมัดซะอย่างนั้น

               สภาพของร่างสูงก็ไม่ต่างกันใบหน้าที่เคยหล่อเหลาจะสะอาดสะอ้านบัดนี้มีรอยเขียวๆที่ดวงตาข้างซ้ายและมุมปาก ตามตัวก็มีรอยถลอกไม่ต่างจากร่างเล็กเท่าไหร่แต่ที่มากก็คือเสื้อเชิตที่เคยความสะอาดก็ได้เปลี่ยนสภาพมาเป็นผ้าเน่าเรียบร้อย เสื้อยืดตัวเอสซุปเปอร์แมนที่ใหม่เอี่ยมก็มีสภาพคอย้วยและยืดอย่างเห็นได้ชัด สภาพหัวที่เคยเรียบร้อยเป็นทรงดีๆตอนนี้มีสภาพไม่ต่างจากรังนกกระจอกเลยแม้แต่น้อย...

     

     

              “ฝากไว้ก่อนเธอ ยัยหมวยตัวแสบ..”โอคิตะบ่นเบาๆระหว่างเดินไปห้องเรียน เขาเดินมาโดยไม่สนใจอีกคนเลยแม้แต่น้อย เขายกนาฬิกาสีน้ำเงินขึ้นมาดูก็ปราฏกว่านี้ยังไม่โฮมรูมเลยเขาจึงตัดสินใจไปนอนเล่นที่สวนย่อมของโรงเรียนก่อนค่อยเข้าห้องเรียน...

    ..

    ...

    ....

    ทางด้านคางุระ
     

              เจ้าตัววิ่งขึ้นมาบนดาดฟ้าอีกครั้งเพื่อมาเอากระเป๋าของตนที่ดันทำหล่น(?)ตอนที่กำลังไฝว้กับโอคิตะ เธอเปิดประตูขึ้นมาก็พบกระเป๋านักเรียนของเธอนอนตายอยู่ เธอจึงเดินไปหยิบอย่างไม่รีบร้อน สิ่งแรกที่เธอที่ทำเมื่อหยิบกระเป๋าได้แล้วก็คือหาโทรศัพย์ เธอหยิบโทรศัพท์สมาร์ทโฟนและกดเปิดหน้าจอก็พบว่า พี่ชายตัวดีของเธอโทรเข้ามาต้อง 15 สาย..จริงๆเธอก็ไม่อยากโทรกลับหรอกนะแต่เพื่อมารยาทของกุลสตรีเธอที่ไม่มีก็เลยต้องโทรกลับ เธอเอาโทรศัพท์แนบหูเพื่อรอพี่ชายรับสาย

     

     

              “ฮัลโหล..อั๊วเองน่อ โทรมาลื้อมีอะไรน่อ...อั๊วมีเรื่องนิดหน่อยน่อ..ไม่ใช่เรื่องแบบนั้นน่อ!..ลื้อรีบๆบอกมาซักที่ ลื้อมีอะไรน่อ....แล้วลื้อจะโทรมาทำไมน่อ..อาเฮียบ้า....อื้มๆ.....เคๆ...งั้นแค่นี้น่อ.... อั๊วจะเข้าเรียนแล้วน่อ.....เข้าใจแล้วน่อ...แค่นี้นะ...”คางุระชิงตัดสายก่อน เธอโกหกไปงั้นแหละที่ว่าจะเข้าเรียนนะแต่เธอขี้เกียจคุยกับพี่ชายเธอเท่านั้นเองอีกอย่างเธอไม่อยากเล่าเรื่องที่เธอทะเลาะกับโอคิตะให้พี่ชายฟัง ถ้าพี่เธอรู้ละก็โอคิตะได้ไส้ทะลักแน่แต่นั้นไม่ปัญหา เธออยากเป็นคนจัดการเจ้าตี๋โรคจิตด้วยตัวเธอเอง..

    ....

    ....

    ....

    ผ่านไป 35 นาที..

     

     

               เนื่องจากคางุระลืมไปว่าเธอยังไม่รู้ว่าเธออยู่ห้องไหนทำให้เธอต้องเดินไปห้องพักครูอีกครั้งเพื่อไปหาพ่อบุญธรรมของเธอโชคดี(?)ที่เธอได้อยู่ในห้องที่อยู่ใต้การดูแลของกินโทกิ

     

     

             “เธอยืนรอข้างนอกก่อนละกัน อย่าคิดหนีไปไหนเชียวนะ”อาจารย์ซากาตะพูดเสียงเรียบๆแต่แอบแฝงเสียงดุๆไว้เพียเล็กน้อยกันคางุระไม่รู้ด้วยซ้ำ เธอทำหน้าตาไม่รู้ไม่ชี้มองออกไปนอกหน้าต่างของทางเดิน กินโทกิทำหน้าเอื้อมละอายก่อนจะส่ายหน้าไปมานิดๆก่อนจะเดินเข้าไปที่มีป้ายแขวนไว้ว่า”2-Z”

     

     

              “ชิ!พูกเหมือนอั๊วเป็งเด็งมีปัญหาเลยน่อ”ร่างบางบ่นพึมพำเบาๆกับตัวเองก่อนที่เธอจะได้ยินเสียงเก้าอี้ดังมาจากข้างในห้องไม่นานประตูห้งก็เปิดพร้อมกับร่างของกินโทกิ

     

     

              “เข้ามาเลย”เสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของเจ้าตัวกล่าวขึ้น ไม่ต้องรอให้พูดซ้ำสอง คางุระก็เดินตามร่างสูงเข้าไปในห้อง

     

     

              “เอาละทุกคน นี้เด็กใหม่ที่เข้ามาปีนี้ เธอมีชื่อว่าคางุระ ยาโตะ เธอย้ายมาที่นี้เพราะพ่อเธอมีงานนะ สนิทๆกันไว้นะ”อาจารย์กินโทกิกล่าว

     

               “ยินดีที่ได้รู้จักน่อ!ฝากเนื้อฝากตัวล้วยน่อ!”เมื่อพูดจบคางุระก็โค้งเล็กน้อยก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาพร้อมยิ้มแฉ่งแต่เหมือนคนในห้องจะไม่ยิ้มตอบเธอเท่าไหร่ ทำไมนะหรอ..ก็เพราะสภาพเธอตอนนี้ไง..แต่เธอไม่อยากพูดเรื่องเมื่อเช้าหรอกนะเพราะมันทำให้เธอรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาพอนึกถึงไอ้ใบหน้ากวนๆของเจ้านั้น..

    ใบหน้ากวนๆ..

    ใบหน้ากวนๆ..ของหมอนั้น...

     

              “อั้ยหย่า~!!!!!!!ทำมายยยยยยลื้ออออออออออ!!!!!!”คางุระไม่แทบจะตะโกนลั่นห้องเมื่อเห็นเจ้าของใบหน้ากวนๆที่เธอพึงคิดเมื่อกี้ เจ้านั้นนั่งอยู่หลังห้องตรงแถวแรกพอดี โอคิตะเองก็มองมายังเธอด้วยสายที่ประมาณว่า”หล่อนอีกแล้วหรอ” พอคางุระตะโกนเสียงกดังแบบนั้นแถมยังชี้ไปทางโอคิตะทำให้ทั้งห้องมองไปยังโอคิตะที่มีสภาพไม่ต่างจากคางุระเท่าไหร่

     

     

              “อะ..เอ่อ คือ.. โอคิตะคุงไปรู้จักกับคางุระจังตอนไหนละจ้ะ?”สาวเกล้าผมม้าสูงหน้าห้องยกมือขึ้นเล็กน้อยแล้วกล่าวเสียงเบาๆด้วยสีหน้ามึนงง ดวงตาสีน้ำเข้มบ่งบอกถึงความมึนงงเป็นอย่างมากเพราะอะไรนะหรอ..เพราะคางุระคือผู้หญิง”คนแรก”ที่มีปฎิกิริยากับโอคิตะแบบนี้...

     

     

              “ช่างพวกเขาเถอะน่า โอทาเอะจั---“ไม่ทันทีอาจารย์ประจำจะพูดจบ รองเท้านักเรียนปริศนาก็บินมาแตะ(?)เต็มๆหน้าของกินโทกิพร้อมกับเสียงหักนิ้วดังมาจากทางเด็กสาวเมื่อครู่

     

     

              “แหม่ๆ อาจารย์ซากาตะละก็~ต้องให้บอกอยู่เรื่อยว่าฉันชื่อ”ทาเอะ”ต่างหากละคะ~”เสียงหวานของเด็กสาวดังขึ้นพร้อมกับทำท่าทางเอียงคออย่างไร้เดียงสาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น กล่าวคือ เหมือนเมื่อครู่ไม่ใช่ฝีมือตนเอง...

     

     

               “อะ..เออ..อะ..อาจารย์ขอ..โทษละกันนะ..ทะ..ทาเอะจัง..”อาจารย์กินโทกิพูดขึ้นหลังจากเอารองเท้าคู่งามออกจากใบหน้าของเขา บนใบหน้าของเขามีรอบปราฏกขึ้นเป็นรอบรูปรองเท้าแล้วยังมีเลือดกำเดาเป็นเอฟเฟคแถม..แว่นที่เคยมีสภาพดีได้มีรอยแตกเกิดยขึ้นเล็กๆ

              “เอาละ คางุระจัง เธอไปนั่งตรงนั้นนะ ว่างพอดี”ซากาตะชี้ไปยังแถวที่สองโต๊ะสุดท้ายที่ไม่มีใครมานั่งบกบอกว่าเธอต้องไปนั่งตรงนั้นแต่ประเด็นคือ..เธอต้องนั่งข้างๆเจ้าอาตี๋บ้าเลือดนั้นหรา!!!!!!!!!!!

     

     

              “อากินจัง!!!ลื้อคื้อยังไงให้สาวน้อยบอบบางอย่างอั๊วไปนั่งข้างๆอาตี๋สมองเน่านั้งล้วยน่อ!!!”คางุระโวยวายขึ้นทันทีที่กินโทกิให้เธอไปนั่งกับคนที่พึ่งทะเลาะกันมา

     

     

              “หน็อยยย!!!หล่อนเป็นใครยะ กล้าดียังไงเรียกอาจารย์ของฉันอย่างสนิทสนมแบบนั้----“ยังไม่ทันทีสาวแว่นแดงผมสีม่วงปล่อยยาวสลวยจะพูดจบแปลงลบกระดานก็พุ่งเข้าหน้าเธอแบบจังๆจนทำให้แว่นสี่แดงของเธอแตก ซึ่งแน่นอนนั้นไม่ใช่ฝีมือใครนอกจาก..

     

     

     

              “ก็มันเหลืออยุ่ที่เดียวนี่น่าคางุระจัง..อย่าเรื่องมากนั่งๆไปเธอยัยหมวยสาหร่ายดอง..”ประโยคหลังๆเป็นประโยคที่กินโทกิพูดเสียงเบาๆพอที่จะได้ยินกันสองกันทำให้คางุระถึงกับหันหาควับไปทางกินโทกิก่อนจะทำหน้าบึ้งใส่ กินโทกิขยับปากแบบไม่ออกเสียงออกมาแต่เธอก็พอที่จะจับใจความได้เธอจึงยอมเธอไปนั่งยังที่ของเธอ

              หน๊อยยยย ลื้อกล้ามากที่มาขู่อั๊วว่าจะจับย้ายไปที่เดียวกับพี่บ้านั้น ฝากไว้ก่อนเธอ อากินจัง!!!! คางุระได้แต่คิดในใจพร้อมทำหน้าเหมือนหมาสุนัขกำลังขู่

     

     

              “มานั่งข้างๆฉันแล้วสงบปากสงบคำหน่อยละกันยัยหมูตัวเมีย”ไม่ต้องอธิบายเลยว่าเสียงใครดังขึ้นมา..ใช่ เสียงของคู่อริใหม่ของเธอดังมากจากด้านข้างของเธอทำให้เธอหันควับไปยังโอคิตะ

     

     

              “นังมังเป็งคำพูกของอั๊วมากกว่าน่อ!!อาตี๋ไม่ล้ายความ..”คางุระเองก็ไม่ยอมให้อีกฝ่ายยิงมาฝ่ายเดียวหรอก เธอเองก็จะต้องสวนกลับเช่นกัน

     

     

              “นี้เธอโง่ขนาดคิดคำพูดของตัวเองไม่ได้หรือไงนะ ยัยโง่”

     

     

              “ทำไมอั๊วต้องใช้สมองอังมีค่าของอั๊วไปใช้เพื่อคิดคำด่ามาพูกกับลื้อละ อาตี๋ไม่มีสมอง”

     

     

              “นั้นมันน่าจะเป็นแค่ข้ออ้างมากกว่านั้น คิดคำพูดไม่ออกก็บอกมาน่า ยัยหมวยไม่สมประกอบ”

     

     

              “เก็บปากลื้อไว้เจี๊อยข้าวลีกว่าน่อ อาตี๋พิการทางความคิด”

     

     

              “เหอะ เพราะในหัวหล่อนมีแต่เรื่องกินไงหล่อนถึงได้ไม่มีทรวดทรงกับชาวบ้านเขานะ ยัยหมวยไร้เสน่ห์”

     

     

              “หน็อยย!!เมื่อกี้ลื้อว่างายน่า!!!!!!”ฟิวขาดเลยทีเดียว..คำพูดของโอคิตะถึงกับทำให้คางุระฟิวขาดทันที เธอลุกขึ้นตบโต๊ะดังลั่นพร้อมกับมองหน้าโอคิตะอย่างกินเลือดกินเนื้อ

     

     

              “ด้านหลังนะเบาๆลงหน่อย เดี๋ยวจับไปยืนหน้าห้องเลยนะเหวยย”เสียงเบื่อโลกของอาจารย์กินโทกิที่ออกแนวตะคอกดังมากจากหน้าห้องเพราะตอนนี้เป็นคาบแรกที่ห้อง2-zได้เวลาเรียนแล้ว

     

    ..0-1..

     

              เมื่อคางุระได้ยินดังนั้นจึงนั่งลงแล้วพยายามนับหนึ่งถึงสิบในใจเพื่อข่มอารมณ์เดือดของเธอไว้ เธอหยิบสมุดสีชมพูหวานของเธอขึ้นมาพร้อมกับกระเป๋าดินสอกระต่ายน้อยของเธอขึ้นมาแล้วจึงค่อยรูดซิปเอาดินสอกดที่มีพวงกุญแจกระต่ายเล็กๆห้อยอยู่ เธอเปิดมันพร้อมกับจดตามที่อาจารย์กินโทกิเขียนพร้อมกับพยายามไม่มองไปทางโอคิตะ ส่วนทางด้านร่างหนา ตอนนี้ก็ได้เอาผ้าปิดตาอันเก่งและกวนเบื่อล่างขึ้นมาพร้อมกับใส่มันและฟุบลงกับโต๊ะไม้

     

     

              ถึงจะพยายามไม่มองแต่สุดท้ายเธอก็อดจะแบบหันทางร่างสูงไม่ได้ เธอมองไปยังร่างที่ตอนนี้ไม่หลับลงฟุบกับโต๊ะเป็นที่เรียบร้อย เห็นแบบนั้นเธอก็อด..ที่จะแกล้งไม่ได้..

     

     

              “อาจารย์ค่า~~~โอคิตะคุงหลับในห้องเรียนค่า~~~~”คางุระยกมือขึ้นพร้อมกับตระโกนเสียงดัง ทำให้อาจารย์กินโทกิที่เขียนกระดานอยู่นั้นหันมามองทางคางุระทันทีและค่อยๆกวาดสายตาไปมองที่ร่างของโอคิตะที่ตอนนี้เข้าสู่ห้วงนิทราไปเรียบร้อย

     

     

              กินโทกิถอนหายใจออกมาเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆเดินมาทางโอคิตะ ห้องที่ก่อนหน้าเงียบบัดนี้เงียบลงไปอีกเหมือนกับทุกคนพยายามไม่ให้เกิดเสียงขึ้น

     

     

              กินโทกิเดินมาหยุดที่โต๊ะของโอคิตะพร้อมกับอุปกรณ์ในมือนั้นก็คือ..โทรโข่งอันเล็กขนาดเหมาะมือ กินโทกิเอาสำลีสีขาวขึ้นมาอุดหูทั้งสองข้างของเขาและทุกคนในห้องก็เอามือมาปิดหูทำให้คางุระเองก็ทำพร้อมกับเดาในใจว่ากินโทกิจะทำอะไร..

     

     

    เจ้าโง่โอคิตะ ออกไปยืนนอกห้อง~!!!!!!!!!!!!!!

              อย่างที่เธอคิด...กินโทกิเอาโทรโข่งอันนั้นไปแนบหูของโอคิตะแล้วเปิดเสียงดังกล่าวที่คาดว่าน่าจะอัดไว้โดยเฉพาะเลยละน่า สงสัยเจ้าบ้านี้คงหลับแบบนี้บ่อยๆ

     

     

              แต่ดูเหมือจะได้ผลเกินคาด พอปิดเสียงโอคิตะแทบลงไปชักกับพื้นเพราะเสียงของเจ้าโทรโข่งอันนี้คงเกิน18ปรอทแหงๆ .. คงต้องเปลี่ยนจากคำว่าแทบลงไปชักกับพื้นเป็นเกือบจะหัวแตกดีกว่า ทำไมนะหรอเพราะเจ้าตัวตกเก้าอี้เลยไงละแต่ดีที่เอาศอกรับไว้ก่อนหัวทำให้หัวไม่แตก..

     

     

              ร่างหนาลุกขึ้นเดินออกจากห้องพร้อมกับหันมามองหน้าคางุระอย่างเอาเรื่องก่อนจะเดินออกไปพร้อมกับถังน้ำสองใบ หลังจากนั้นบรรยากาศภายในห้องก็สงบขึ้น..หรอ??

     

    ....1-1...

    30นาทีผ่านไป...

     

     

              ดูเหมือนเมื่อคืนเธอจะนอนดึกไปหน่อย เพราะเจ้าพี่บ้านั้นชวนเล่นเกมจะดึกเลย!!ทำให้ในคาบสองเธอรู้สึกสลึมสลือนิดๆ นิดๆจริงๆนะถึงแม้ตอนนี้ได้ฟุบลงไปแล้วก็ตาม ในหัวของเธอมีตัวเลือกสองข้อผุด 1.แอบหลับสักนิดก็ได้น่า ยังไงซะเจ้าหงอกนั้นไม่เห็นหรอกแค่เอาหนังสือมาปิดไว้ 2.ไม่ได้นะ!!การแอบหลับในห้องเรียนแบบนี้มันไม่ดี!!อีกอย่างถ้าหงอกจับได้ละก็เธอต้องออกไปยืนด้านนอกกับเจ้าตี๋สมองเหลวนั้นแน่

    แต่ว่า..ดูเหมือน..สมองของเธอจะเลือก..ข้อแรกนะ..

              น่าๆแค่แปปเดียวเองง~~ไม่ต้องคิดอีกนานร่างเล็กของเอาหนังสือเรียนขึ้นมาตั้งแล้วจึงยกแขนทั้งสองข้างขึ้นมาก่อนจะเอาหน้าเนียนๆฟุบลงไปยังโต๊ะไม้ก่อนจะเข้าสู่ห้วงนิทราเป็นรายต่อไป...

     

     

              ....อ่า...ที่นี้ที่ไหนกันน่า โอ๊ะ~~~ คุณกระต่ายเต็มไปหมดเลยยยยยยยยยย....ว้าววววว กระต่ายกับทุงหญ้แล้วก็ลมเย็นๆ..มันชั่งมีความสุข..หึหึหึหึ.....

     

     

    ปังงงงงงงงงงงง~!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

     

     

              “จ้ากกกก ฟ้าบึ้มมๆๆๆๆๆ”คางุระสะดุ้งขึ้นมาก่อนจะตะโกนเสียงดังลั่นขึ้นมา ก็แหม่~~ เสียงดังแบบนั้นใครมันจะไม่ตื่นล่า จะว่าไป..เมื่อกี้..เสียงอะไรละ..??

     

     

              “คางุระจัง ถังน้ำอยู่ข้างนอกนั้นนะ..”

     

    อัยย่า~!!!

     

    ##########

    จบไปอีกตอนแบ้ววว
    จำได้ไหมว่าไรท์..
    ดอง กี่ วันนน//หลบเท้า
    มาต่อให้แล้วน่าาาถ้ามีความผิดพลาดก็ขอโทษ ณ ที่นี้ด้วยนะจ้ะ 
    ก่อนไปแจกๆ


     

     

            

             

     

     

     

             

     

     

     
    。SYDNEY♔
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×