คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ก็แค่บทนำ เอาสั้นๆก็พอแล้ว!!
ณ คฤหาสน์ยาโตะ..
"ทำไมอั๊วต้องย้ายโรงเรียนล้วยน่อ!!!!!"เสียงแหลมๆของเด็กสาวใบหน้าจิ้มลิ้ม ผมสีส้มมัดผมเป็นซาลาเปาสองลูกอยู่บนตัวทำใบหน้าโกรธเคืองอย่างเห็นได้ชัด ร่างบางที่ตอนนี้ทั้งตัวอยู่บนโต๊ะอาหารแก้วทอดยาวตรงหน้าของตาลุงหัวล้านที่ตอนนี้ก็ยังคงกินอากหารตรงหน้าอย่างเยือกเย็นโดยไม่สนใจเลยว่าลูกสาวตนตอนนี้เดือดแค่ไหน
"ก็เพราะป๊าต้องไปทำงานที่อื่นเป็นพักใหญ่ๆยังไงละแล้วที่นั่นค่อนข้างอันตรายนะ เลยอยากให้คางุระไปอยู่กับเจ้ากินโทกิก่อนนะ คางุระเข้าใจป๊านะ"ตาลุงหัวล้านหรืออุมิโบสึ เจ้าพ่อมาเฟียฮ่องกงขายักใหญ่ที่เข้ามาอาศัยให้ญี่ปุ่นได้พักใหญ่ๆต้องย้ายกลับไปที่ฮ่องกงสักพักใหญ่ๆเช่นกันเพราะอะไรนะหรอ เพราะว่าที่สำนักงานใหญ่ดันมีปัญหาที่ใหญ่ๆพอๆกันเข้ามาได้นะสิ พ่อคิดแบบนั้น เจ้าหัวล้านก็ถอนหายไจเสียงดังแต่นั้นก็ไม่ได้ทำให้คางุระ ลูกสาวคนเล็กของเขาใจเย็นลงได้เลยแม้แต่น้อย
"นี้ลื้อคิคจะหาข้ออ้างแล้วทิ้งอั๊วไว้กับตาลุงผมหงอกนั้นอีกแล้วหรอน่อ!"คางุระพูดเสียงดังกว่าเดิมจนลั่นบ้านแต่พวกคนใช้ คนสวน บอดี้การ์ดชินเสียแล้วเพราะพ่อลูกตระกูลนี้ก็เป็นแบบนี้แหละแต่ลูกคนเล็กไม่เท่าไหร่ถ้าเป็นลูกคนโตละก็คงมีนองเลือดเป็นแน่แท้
"ก็คุณพ่อบอกไปแล้วนิคะ คางุระจังว่าคุณพ่อห่วงคางุระจังนะถ้าขืนพาคางุระจังไปด้วย ลูกคงถูกลักพาตัวไปแน่ๆเลย คุณพ่อเป้นห่วงลูกนะ!"อุมิโบสีพูดเสียงเข้มและมองหน้าลูกอันเป็นที่รักจนคางุระต้องหลบสายตาและถอนหายไปออกมากช้าๆและยอมลงจากโต๊ะอาหารและกินอาหารตรงหน้าดีๆ
"แล้วลื้อจะไปทำเรื่องเมื่อไหร่น่อ"คางุระถามขึ้นเมื่อเห็นอุมิโบสึเริ่มเช็ดคราบที่ติดตามริมฝีปาก
"ป๊าทำเรื่องให้แล้วละ ส่วนเรื่องที่อยู่ลูกก็ที่เดียวกับอาเฮียละกันนะ ไหนๆโรงเรียนก็ใกล้ๆกัน"เมื่ออุมิโบสึพูดขึ้นแบบนั้นคางุระถึงกับชะงักและมองหน้าอุมิโบสึด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจทำให้ร่างเล็กหยุดการกินเนื้อตรงหน้าแล้วลุกขึ้นแบบปุปปับและไม่ยอมเช็ดคราบที่ติดตามปากออก
"อิ่มแล้วน่อ"เมื่อพูดจบร่างเล็กก็เดินขึ้นห้องไปโดยไม่สนใจสายตาของบุพการีเลย จริงๆเขาเองก็ไม่ได้อยากให้ลูกสาวสุดที่รักไปอยู่กับลูกชายบ้าเลือดแบบนั้นหรอกแต่ดูเหมือนว่าเป็นวิธีที่ปลอดภัยกว่าที่จะให้คางุระอยู่ห้องคนเดียวแล้วทำไมถึงไม่ได้ไปอยู่กับกินโทกินะหรอ ก็เพราะเจ้าบ้านั้นห้องโสโครกสุดๆไม่รู้ว่านอนตรงไหนแถมห้องก็เล็กไม่พอให้ยัยหมวยอยู่หรอก ตอนนี้เขาก็ยังนั่งคิดอยู่ว่าทำไมเจ้าโง่อย่างปีศาลหัวขาวกินโรคเบาหวานเป็นอาหารอย่างเจ้านั้นถึงได้เป็นอาจารย์แห่งศุนย์ศึกษา'โรงเรียนกินทามะวิทยา'ได้นะ..คิดยังไงก็คิดไม่ออก..แต่ช่างมันเถอะ ไม่เกี่ยวกันนิ#เอ็งจะบรรยายทำไมฟ่ะ..
เมื่อเห็นอย่างนั้นอุมิโบสึก็ถอนหายใจออกมาเบาๆกับความเอาแต่ใจของลูกสาวคนเล็กแต่เขาก็ไม่อาจไปโทษใครได้เพราะด้วยความที่รักลูกสาวของตนมากเกินไปทำให้เด็กสาวเสียคนจนกลายเป็นเด็กสาวที่เอาแต่ใจเป็นที่หนึ่งและยังเจ้าอารมณ์ไม่ค่อยมีเหตุผลแต่หลังจากที่สามปีที่คางุระกับอุมิโบสึได้มีปากเสียงกันยกใหญ่ด้วยตนเหตุที่อุมิโบสึไม่มีเวลาให้คางุระเลยทำให้คางุระน้อยใจและคิดหนีออกจากบ้านทำให้อุมิโบสึโกรธเป็นอย่างมากจนเกือบลงมือใช้กำลังกับลูกสาวแต่สุดท้ายเธอก็หนีออกจากบ้านจริงๆตอนนั้นเขาจำได้เลยว่าความรู้สึกในตอนนั้นเป็นยังไงกับการที่สูญเสียสิ่งสำคัญไป เหมือนกับตอนที่เขาลงมือใช้กำลังกลับลูกชายคนโตทำให้กลายเป็นเด็กนิสัยเสียและยังเป็นพวกชอบการตบตี ในตอนนั้นเขาแทบพลิกแผ่นดินหาลูกสาวคนนั้นแต่พอรู้ว่าไปอยู่กับตัวผู้ที่ไม่รู้หัวนอนปลายเท้าทำให้เขาทวีคูณความโกรธมากขึ้นจนแทบจะลงมือฆ่าเจ้าหมอนั่นแต่โชคดีที่เจ้านั้นเป็นกินโทกิผู้ชายที่ไม่รู้จะมีชีวิตไปเพื่ออะไรและโชคดีอีกเด้งก็คือกินโทกิเองก็เห็นคางุระเป็นเหมือนลูกสาวจนทำให้ร่างเล็กไม่ยอมจะกลับไปหาพ่อแท้ๆอย่างเขาแต่กลับไปอยู่กับกินโทกิ1ปีเต็มๆ!!!แต่เจ้าปีศาจขาวนั้นก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรเพราะเมื่ออุมิโบสึรู้ว่าอยู่กับเจ้าหัวที่ขัดหมอนี้ก็ส่งเงินมาให้ทุกอาทิตย์ถึงแม้จะไม่มากนักแต่ก็พอให้กินโทกิและคางุระอยู่ได้ เอ่อ..จะว่าไปบรรยายมากเกินไปหรือเปล่าเนี๊ยงั้นตัดออกไปเลยละกัน
“เฮ้อ~”เสียงถอนหายใจดังลั่นของอุมิโบสึดังขึ้นช่วงนี้เขาถอนหายใจมากจนเหมือนกับเส้นผมที่เสียไปบนหัว เขาลุกขึ้นและตัดสินใจเดินไปอธิบายเหตุผลให้เจ้าตัวเล็กฟังว่าทำไมเขาถึงให้คางุระไปอยู่กับเจ้าลูกชายหัวรุนแรงและหวงน้องแบบนั้น ระหว่างที่เขาเดินอยู่บนบันไดปูด้วยพรมแดงราวทองสลักเป็นลายมังกรนั้นก็พลางคิดว่าไปเรื่อยว่าคางุระจะยอมฟังไหมแล้วตอนนี้จะอารมณ์แบบไหน สลัดที่อยู่ในตู้เย็นเสียหรือยัง พรุ่งนี้ตอนเย็นจะมีอะไรกิน ฯลฯ..จนถึงหน้าห้องของลูกสาวตัวดีประตูไม้อย่างดีสีขาวพร้อมกับป้ายที่แขวนหน้าห้องว่า’ห้องเจ้าหญิง’ อุมิโบสึเคาะประตูไปสองสามทีแต่ก็ยังคงนิ่งเงียบ..เขาจึงลงมือเคาะอีกแต่ครั้งนี้ทวีความแรงเข้าไปอีกตอนนี้เขาได้ยินเสียงโวยวายเล็กๆดังมาจากด้านในก็คงไม่พ้นคำพูดประมาณว่า’เจ้าหัวเหม่ง!อั๊วไม่ได้หูลอกคราบ(?)น่อ!!’แน่ๆเลย
“มีอารายน่อ”คำแรกที่หลุดออกมาจากปากเด็กสาวเมื่อเปิดประตูออกมา ตอนนี้คางุระอยู่ในชุดนอนกระโปรงยาวสีชมพูติดโบว์เล็กๆตรงชายแขนเสื้อและตรงชายกระโปรง เจ้าตัวถือโทรศัพย์ที่มีพวงกุญแจกระต่ายน้อยตัวยักษ์ห้อยอยู่ สีหน้าของเด็กสาวไม่ค่อยดีนักเพราะยังคงเคืองๆที่ผู้เป็นพ่อปล่อยไปอยู่กับพี่ตัวแสบ
“อย่าทำหน้าแบบนั้นสิคางุระ ป๊าก็แค่จะมาพูดเรื่องที่ให้ลูกไปอยู่กับเฮียนะ อย่าปิดประตูนะ!”เจ้าเหม่งพูดเสียงแข็งเมื่อเห็นลูกสาวทำท่าจะปิดประตูใส่หน้าเขา”ที่ป๊าให้ไปอยู่กับเจ้าเฮียบ้านั้นก็เพราะป๊าคิดว่าให้ลูกไปอยู่กับอาเฮียคงปลอดภัยกว่าให้ลูกอยู่คนเดียวนะ อย่าพึ่งโกรธนะคางุระจังงง”
“อั๊วรู้แล้วน่อ มีอะไรอีกไหมน่อ อั๊วจะนอนแล้วน่อ”คางุระพูดเสียงเซ็งๆออกมาแต่ที่เธอบอกว่าเข้าใจน่ะ เธอเข้าใจจริงๆแต่แค่ไม่ค่อยพอใจที่พ่อเธอตัดหางปล่อยวัดแบบนี้...
“เอางั้นก็ได้..ราตรีสวัสดิ์นะลูก ฝันดี”
“ฝังลีน่อ อาเหม่ง..”
###############
ก็บอกไปแล้วว่าบทนำเอาสั้นๆก็พอ!!
//หลบตรีนน
เม้นเยอะะะะะ งานเดินๆๆๆๆๆ
แจกๆ
ความคิดเห็น