ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    fanfic knb by shiko

    ลำดับตอนที่ #3 : [AkaFuri] Cruel Clocks

    • อัปเดตล่าสุด 28 มิ.ย. 57


    Title : Cruel Clocks

    Fandom : Kuroko no Basket

    Paring : Akashi x Furihata

    Notes : อันนี้เอามาจากเพลงนี้นะจ๊ะ http://www.youtube.com/watch?v=TWWG1KQKSTo

    .....................................................................................

    Cruel Clocks

     

    ในเมืองๆ หนึ่งซึ่งเต็มไปด้วยผู้คนต่างไขว่คว้าซึ่งอำนาจและชื่อเสียง ได้มีร้านนาฬิกาเล็กๆ แห่งหนึ่ง ซึ่งไม่เคยที่จะต้องการอำนาจหรือชื่อเสียงเลย เป็นเพียงครอบครัวที่แสนเรียบง่ายครอบครัวหนึ่ง

    ผู้เป็นพ่อเป็นช่างทำนาฬิกา ผู้เป็นแม่ก็เป็นเพียงแม่บ้านคนหนึ่ง ส่วนลูกชายเพียงคนเดียวของทั้งสองก็เป็นเพียงเด็กธรรมดาคนหนึ่ง

    จนกระทั่งวันหนึ่งครอบครัวนี้ประสบอุบัติเหตุ ทำให้ผู้เป็นพ่อและแม่เสียชีวิต เหลือเพียงลูกชายวัยสิบขวบอยู่เพียงคนเดียว...

    เด็กชายผู้สูญเสียครอบครัวไปทำได้เพียงร่ำไห้ แต่ยังคงต้องสืบสานกิจการของครอบครัวต่อไปเพื่อความทรงจำในครั้งที่อยู่ด้วยกันจะไม่หายไป...

    หลังงานศพเด็กชายเดินเข้าไปยังห้องเก็บของ และเดินไปที่นาฬิกาเรือนหนึ่ง ซึ่งสำหรับเขามันคือนาฬิกาที่คล้ายกับโลงศพมาก และเขาคงไม่เข้ามาใกล้เลยถ้าพ่อแม่ของเขาไม่เคยบอกไว้ว่า 'ถ้าพ่อแม่ไม่อยู่แล้วให้ใช้กุญแจดอกนี้เปิดมาซะ นี้คือสมบัติโบราณตั้งแต่บรรพบุรุษของเรา แต่ไม่มีใครสามารถเปิดได้เลย พ่อแม่เชื่อว่าลูกจะสามารถเปิดมันได้...' ซึ่งเขาต้องทำตามคำกล่าวเหล่านั้น อย่างน้อยเพื่อพ่อแม่ของเขาเป็นครั้งสุดท้าย

    เด็กชายนำกุญแจดอกน้อยไขตรงประตูนาฬิกาจนมีเสียงดังคลิก เขาเปิดประตูนาฬิกาและพบกับ...

    ...ตุ๊กตา

    ในนั้นมีตุ๊กตาผู้ชายที่เหมือนมนุษย์มากจนแทบแยกไม่ออก สูงราว 170 ซม. ผมสีแดงชาด ใบหน้าหล่อเหลาเกินมนุษย์

    เด็กชายลองเอื้อมมือไปสัมพัสแล้วก็ถึงกับสะดุ้ง! เมื่อจู่ๆ ดวงตาของตุ๊กตาตรงหน้าก็ลืมตาโพลกขึ้นมา!

    "นาย...คือคนที่ปลุกฉันขึ้นมาสินะ?" นัยน์ตาสองสีของตุ๊กตาจับจ้องไปที่คนตรงหน้าที่เริ่มสั่นด้วยความกลัว

    "อ...อืม ใช่" เด็กชายตอบพลางเหลือบดวงตาสีน้ำตาลของตนมองอีกฝ่ายอย่างหวั่นๆ เมื่อเห็นอย่างนั้นคน เอ้ย! ตุ๊กตาผมแดงก็ยกมือลูบผมสีน้ำตาลนุ่มมือเชิงปลอบ

    "งั้นเหรอ...เข้าใจล่ะ แล้วนายชื่ออะไรล่ะ"

    "ฉันฟุริฮาตะ โคกิ..."

    "ฉันอาคาชิ เซย์จูโร่ จะมาอยู่กับนายตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป...ยินดีที่ได้รู้จักนะ โคกิ"

    "อ...อืม ยินดีที่ได้รู้จักนะ อาคาชิ"

     

     

     

     

     

    ตั้งแต่วันนั้นที่ฟุริฮาตะ โคกิพบกับอาคาชิ เซย์จูโร่นั้นได้ผ่านมาห้าปีแล้ว กิจการร้านของฟุริฮาตะก็ดำเนินมาด้วยดี และฟุริฮาตะกับอาคาชิก็สนิกกันมากขึ้นไม่เหมือนตอนแรกที่ฟุริฮาตะกลัวอีกฝ่ายจนแทบไม่กล้าที่จะคุยด้วยเลย

    บัดนี้เด็กชายได้กลายเป็นเด็กหนุ่ม ตอนนี้ก็สูงใกล้เคียงกับอาคาชิแล้วด้วย แม้อาคาชิจะไม่เปลี่ยนไปเลยก็ตาม...

    พวกเขาต่างใช้ชีวิตสงบมาตลอด จนกระทั่งวันหนึ่งมีเศษฐีผู้ร่ำรวยคนหนึ่งจ้างให้ฟุริฮาตะสร้างกลไกนาฬิการของหอคอยนาฬิกาขึ้น ซึ่งฟุริฮาตะก็รับงานนี้มาเพราะมันไม่ได้เกินความสามารถเขานัก...

    ...โดยไม่รู้เลยว่านี้เป็นสิ่งที่ทำให้เขาไม่สามารถกลับมาได้อีกเลยตลอดกาล

     

     

     

     

     

    การสร้างกลไกหอคอยนาฬิกาของฟุริฮาตะ โคกิดำเนินมาเป็นเวลา 5 วัน เพราะเป็นนาฬิกาขนาดใหญ่เลยทำให้ทำงานได้อย่างลำบากเล็กน้อย เขากับอาคาชิช่วยกันสร้างมันขึ้น ซึ่งวันนี้เป็นวันที่พวกเขาทำงานเสร็จเรียบร้อยแล้ว

    "เสร็จซะทีเนอะอาคาชิ จะได้กลับบ้านซะที" ฟุริฮาตะพูดพลางบิดขี้เกียจจากการทำงานเป็นเวลานาน

    "อืม...นั้นสินะ" อาคาชิตอบก่อนที่จะสังเกตสิ่งผิดปกติที่พุ่งเขามา เขาพลักอีกฝ่ายให้พ้นจากวิถีของสิ่งนั้น "โคกิ!!!"

    ฉับ!

    วัตถุลักษณะคล้ายหอกด้ามยาว จากกลุ่มคนที่พยายามที่จะทำร้ายบุคคลทั้งสอง พุ่งเข้าใส่ทั้งคู่ พวกเขาพยายามหลบเต็มที่ และพยายามที่จะหนีออกไปจากที่นี่

    ฟุริฮาตะกับอาคาชิวิ่งหนีออกมาใกล้ถึงประตูทางออก แต่กลับมีสิ่งไม่คาดฝันเกิดขึ้นเมื่อหนึ่งในคนกลุ่มนั้นจับขาฟุริฮาตะไว้ได้ และเงื้องหอกขึ้นหมายจะฟันใส่คนตรงหน้า!!!

    "โคกิ!!!" อาคาชิพุ่งเข้าไปหมายคว้าตัวอีกฝ่ายกลับมา แต่...

    "อ้ากกกก!!!" หอกที่ถูกฟันลงมาเร็วเกินกว่าอาคาชิจะช่วยได้ทัน ถึงฟุริฮาตะจะหลบทันจึงรอดจากความตายมาได้ แต่เขาได้สูญเสียดวงตาที่มองเห็นไปเสียแล้ว

    อาคาชิถีบเจ้าคนที่ทำร้ายฟุริฮาตะจนกระเด็น และคว้าตัวฟุริฮาตะแบกขึ้นบ่าพร้อมวิ่งกลับไปที่ร้านทันที...

     

     

     

     

     

    เมื่อพวกเขากลับมาถึงร้าน และได้เข้าไปแอบในห้องเก็บของแล้ว อาคาชิก็รีบทำแผลให้อีกฝ่ายทันทีถึงแม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายไม่อาจมองเห็นได้อีกแล้วก็เถอะ

    "ขอโทษนะ...ที่ฉันช่วยนายไม่ได้..." อาคาชิพูดออกมาขณะทำแผลให้อีกฝ่าย...เขาเจ็บใจที่ตนเองไม่สามารถทำอะไรได้เลย แม้แต่จะช่วยอีกฝ่าย

    "ไม่เป็นไรหรอกอาคาชิ ในเมืองนี้เป็นแบบนี้ประจำอยู่แล้ว..." ฟุริฮาตะส่งยิ้มให้อาคาชิ ซึ่งตอนนี้เริ่มคิ้วขมวดอย่างไม่เข้าใจ

    "ประจำ...นั้นเหรอ?" อาคาชิไม่เข้าว่าที่อีกฝ่ายพูดหมายความว่าไง...

    "อืม ใช่แล้วล่ะ เมืองนี้ผู้คนจะแก่งแย่งชื่อเสียงกับอำนาจกัน ฉันเดาว่าคงเพราะไม่อยากให้ฉันได้หน้าเรื่องการทำกลไกนี่และอยากได้ชื่อว่าเป็นคนสร้างหอนาฬิกานั้นคนเดียว เลยหาทางกำจัดฉันเหมือนพ่อแม่ฉันนั้นแหละ" ฟุริฮาตะเข้าใจเรื่องนี้ดี เพราะตลอดมามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งในเมืองนี้ ราวกับไม่อาจหนีพ้นได้เลยถ้ายังอยู่ในเมืองนี้

    "งั้นหมายความว่าพวกนั้นจะมาอีกสินะ?" ฟุริฮาตะพยักหน้าตอบอาคาชิ "งั้นเรารีบหนีเถอะ!" อาคาชิดึงแขนอีกฝ่ายเป็นเชิงว่าให้หนี

    แต่ฟุริฮาตะกลับส่ายหน้าพร้อมพาอีกฝ่ายไปที่หน้านาฬิกาซึ่งเป็นที่ที่เขาเจออาคาชิครั้งแรก พร้อมเปิดประตูของนาฬิกาและผลักอีกฝ่ายเข้าไปในนั่น แล้วเอาตัวดันประตูไว้ไม่ให้อีกฝ่ายออกมา

    "จะทำอะไรน่ะ!?! โคกิ!!!" อาคาชิทุบประตู พยายามที่จะออก

    "ขอโทษนะ อาคาชิ" ฟุริฮาตะพูดด้วยเสียงที่สั่นเครือ "พวกเราหนีไม่ทันแล้วล่ะ พวกน้นคงมาถึงแล้ว... ฉันคงจะปล่อยให้นายรับเคราะห์ไปด้วยไม่ได้หรอก ขอโทษนะ"

    ตึงๆๆ

    เมื่อพูดจบฟุริฮาตะก็ได้ยินเสียงคนวิ่งมาที่ห้องนี้ และเพียงไม่นานเสียงนั้นก็หยุดลงตรงหน้าเขา เขาพร้อมที่จะรับซะตากรรมของเขาแล้ว

    "ลาก่อน..." ฟุริฮาตะพึมพำออกมาเบาๆ เพราะเขารู้ว่าภายในนาฬิกานั้นได้ยินเสียงจากภายนอกชัดเจนแค่ไหน "...และขอบคุณมากนะ อาคาชิ"

    "อย่านะ! โคกิ!" อาคาชิพยายามตะโกนเรียกอีกฝ่าย แม้รู้ว่าจากถายในนี้เสียงที่ออกไปจะเบามากแค่ไหนก็ตาม

    ฉับ!

    เสียงของมีคมตัดผ่านประตูนาฬิกาทำให้เกิดเป็นว่างเล็กๆ พร้อมกับที่อาคาชิเห็นร่างของอีกฝ่ายล้มลง หยาดโลหิตสีแดงชาดสาดกระเซ็นราวกับสายฝน อาคาชิหยุดนิ่งอย่างตกตะลึงมองชายสองที่น่าจะเป็นเดียวกับที่ทำร้ายพวกเขาวิ่งหนีออกไป

    เมื่อคนพวกนั้นออกไปแล้วได้สักพัก อาคาชิก็ออกมาจากนาฬิกา และก้มลงไปประคองร่างที่ตอนนี้เริ่มเย็นไว้ในอ้อมกอด

    "โคกิ...ตื่นสิ! ลุกขึ้นมาสิ! ขอร้องล่ะ!" อาคาชิตะโกนใส่ร่างของอีกฝ่ายอย่างบ้าคลั่ง ทั้งที่รู้...รู้ว่าอีกฝ่ายไม่วันลืมตาตื่นขึ้นมาแล้วก็ตาม

    "โคกิ..." หยาดน้ำใสเริ่มหลั่งไหลออกมาจากในตาสองสี

    อาคาชิยังคงไม่เข้าใจ ทั้งที่เขาเป็นเพียงสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเท่านั้น ไม่ควรมีทั้งความรู้สึกทั้งน้ำตาแท้ๆ

    เขาเป็นเพียงตุ๊กตาที่ถูกสร้างเลียนแบบคนคนหนึ่งเท่านั้น เลียนแบบเพื่อนสนิกของคนที่สร้างเขาขึ้นมาทั้งชื่อและนามสกุล เป็นเพียงสิ่งของเท่านั้น...

    ...ทั้งที่เป็นอย่างนั้น แล้วทำไมกันเขาถึงเจ็บขนาดนี้?

    ตอนที่ผู้ที่สร้างเขาจะตายและได้ขังเขาไว้ยังไม่รู้สึกอะไรเลย ไม่สิ ต้องพูดไม่มีเยื้อไยเลยดีกว่า

    แต่เมื่อถึงคราวของฟุริฮาตะ โคกิกลับต่างออกไป ทั้งรอยยิ้มทั้งสัมพัสทั้งความอ่อนโยนที่ได้รับจากอีกฝ่าย ทุกอย่างนั้นตรึงในใจเขา ถึงตอนนี้เขายังไม่เข้าใจ...ทำไมเขาถึง 'รัก' อีกฝ่ายขนาดนี้

    อาคาชิวางร่างไร้วิญญาณลง เขียนบางอย่างและทิ้งสิ่งนั้นไว้ข้างร่างของอีกฝ่าย สิ่ง...เขาไม่ยอมให้อีกฝ่ายตายอย่างไร้ความเป็นธรรมอย่างนี้เด็ดขาด!

    แล้วเด็กหนุ่มผมแดงก็ได้เดินออกไปยังที่ที่หนึ่ง...ที่ที่เป็นสาเหตุทำให้คนที่เขารักจากไป

    "ไม่ต้องห่วง..." อาคาชิเดินจากไปด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตา "ฉันจะเป็นคนจบทุกอย่างเองนะ...โคกิ"

     

     

     

     

     

    ท่ามกลางซากปรักปัดพัง และซากศพมากมาย ได้มีร่างของเด็กหนุ่มผมสีแดงยืนอยู่ตรงกลาง ตามร่างกายเปอะเปื้อนด้วยสีของโลหิต ในมือนั้นถือหอกด้ามยาวไว้คาดว่าแย่งมาจากศพไหนสักศพ

    "ก...แก ต้องการอะไร" เบื้องหน้าของเด็กหนุ่มคือคนที่เขาจำได้ดี...คนที่ทำลายทุกอย่างของเขา

    เมื่อตอนที่เขามาถึงที่นี่ก็เผลอได้ยินที่คนพวกนี้พูดพอดี ทุกอย่างรวมทั้งเรื่องที่คนคนนี้ส่งคนไปฆ่าคนที่สำคัญที่สุดของเขา...ด้วยเหตุผลแค่ว่าอยากได้ชื่อเสียงเพียงคนเดียวเท่านั้น...เพียงแค่นั้นกลับทำถึงขนาดนี้!

    เมื่อรู้สึกตัวอีกทีเขาก็ได้สังหาร กลุ่มคนที่ทำร้ายคนคนนั้นไปเรียบร้อยแล้ว...

    ร่างของอาคาชิ เซย์จูโร่ย่างสามขุมไปยังอดีตลูกค้าคนสุดท้าย...ในชีวิตของคนคนนั้น

    "แกต้องเงินใช้ไหม! ฉันให้แกได้นะ! ได้โปรดอย่าฆ่าฉันเลย!" ร่างตรงหน้าอาคาชิสั่นเท่าด้วยความหวาดกลัว แต่ก็ไม่ได้เรียกความสงสารจากอาคาชิเลยแม้แต่น้อย ภายในหัวเขามีเพียงคำว่า 'อภัยให้ไม่ได้' กับ 'ต้องแก้แค้น' อยู่เต็มไปหมด

    "ของพรรค์นั้นฉันไม่ต้องการหรอก..." อาคาชิพูดเสียงเย็นจนน่าขนลุก และเงื้องหอกในมือขึ้น...

    "เพราะสิ่งสำคัญของฉันแกได้พรากมันไปแล้ว!" ...แล้วคนตรงหน้าอาคาชิก็ถูกปลิดชีพอย่างเลือดเย็น เหมือนกับสิ่งที่เคยทำไว้

    เมื่อความแค้นทั้งหมดได้ถูกชำระแล้ว เหลือเพียงสิ่งเดียวที่เขาต้องทำ...นั้นคือทำร้ายหอนาฬิกานี่

    เหลือเวลาอีกสองนาทีก่อนที่ระเบิดที่เขาติดตั้งไว้จะทำงาน...เขาไม่เสียดายเลยที่ต้องตายที่นี่ เพราะเขาไม่ที่ให้กลับไปอีกแล้ว

    "หยุด! ยอมให้จับซะดีๆ !" พวกหน่วยรักษาความสงบที่มาถึงได้รายล้อมหอนาฬิกาด้านนอกไว้

    "หึ..." อาคาชิหัวเราะเบาๆ พร้อมกับที่ระเบิดทำงาน...

    ตู้ม!!!

    เหล่าหน่วยรักษาความสงบต่างวิ่งหนีตายกันอลมาน กับระเบิดและหอคอยที่พังลงมา...

    อาคาชิยืนนิ่งอยู่ท่ามกลางสิ่งต่างๆ ที่พังลงมาอย่างไม่กลัวอะไรทั้งสิ้น เพียงแค่ถาวนาสิ่งหนึ่งเท่านั้น...ถึงมันเป็นไปไม่ได้แต่เขาก็ยังขอที่จะเชื่อในสิ่งนั้น

    ขอในสักวันเราจะได้พบกันอีกนะ โคกิ...

    เพียงไม่นานทุกสิ่งทุกอย่างก็หายไปกับซากของสิ่งที่เป็นหอคอย ซึ่งพังลงมาอย่างไม่มีชิ้นดี

    ต่อมาหน่วยรักษาความสงบก็ไปพบร่างไร้วิญญาณของฟุริฮาตะ โคกิพร้อมจดหมายฉบับหนึ่งซึ่งเขียนเรื่องราวทั้งหมดไว้ ถึงได้ทราบถึงเหตุของโศกนาฏกรรมทั้งหมด...

    ...และโศกนาฏกรรมนี้ทำให้มีการปฏิวัตบ้านเมืองขึ้นใหม่ ทำให้ไม่มีใครต้องพบโศกนาฏกรรมแบบนี้อีก แล้วเรื่องราวของทั้งสองนี้ก็ได้หายไปตามกาลเวลา

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    เฮือก!!!

    ร่างของเด็กหนุ่มผมสีแดงชาดตื่นขึ้นมาด้วยใบหน้าที่ชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อ พลางคิดใจใน...

    ...ทำไมฝันแปลกๆ หว่า

    เด็กหนุ่มส่ายหัวปัดเรื่องนี้ทิ้งพร้อมลุกไปอาบน้ำแต่งตัว เพราะวันนี้มีพิธีเปิดการแข่ง wc

    เด็กหนุ่มเดินออกจากบ้านพลางคิดว่าที่ตนฝันแปลกๆ คงเพราะเมื่อวานเขาไปอ่านบันทึกโบราณที่ไม่รู้มาจากไหนเข้า...

    ...ในบันทึกนั้นเขียนถึงเหตุการณ์หนึ่ง

    เป็นเรื่องราวเด็กหนุ่มคนหนึ่งกับตุ๊กตาตัวหนึ่งซึ่งขยับได้ดั่งมนุษย์ เด็กหนุ่มคนนั้นครั้งหนึ่งถูกจ้างไปทำกลไกหอนาฬิกา และเมื่อสร้างเสร็จก็ถูกฆ่าเพราะผู้จ้างต้องการชื่อเสียงในการสร้างแต่เพียงผู้เดียว ตุ๊กตาที่รอดมาได้ไงไม่รู้ก็ไปฆ่าคนที่ฆ่าเด็กหนุ่ม และทำลายหอคอยทิ้งพร้อมกับตนเอง

    ที่น่าขำคือตุ๊กตาตัวนั้นมีชื่อว่าอาคาชิ เซย์จูโร่...

    ...ชื่อเดียวกับเขาพอดี

    แภมมีต่อท้ายๆ อีกว่าสุดท้ายฝาแฝดที่แยกจากกัน เพราะในเมืองนั่นถือว่าฝาแฝดนั้นเป็นตัวอันตรายต้องกำจัด จึงได้แยกฝาแฝดคนหนึ่งให้ญาติที่อยู่ต่างเมืองช่วยเลี้ยงดู ก็มางานศพของฝาแฝดตนและเมื่อจบงานก็ได้หายสาปสูญไป

    เมื่อเขาลองพลิกหาว่าบันทึกเล่มนี้เป็นของใคร เขาก็เจอชื่อเขียนไปที่หน้าท้ายสุดแต่ก็เลอะอะไรไม่รู้จนอ่านไม่ค่อยออก 'ui□□□a masaki'

    เด็กหนุ่มผมแดงคิดว่าหนังสือเล่มนี้คงติดมาอยู่ที่บ้านเขาด้วยเหตุผลบางอย่าง ซึ่งสำหรับเขามันรู้สึกคาใจแปลกๆแฮะ แต่ช่างเถอะตอนนี้เขาต้องเตรียมแข่ง wc มากกว่าสนใจเรื่องพันธ์นี้

    เมื่อมาถึงเขาก็เกิดนึกคึกอะไรไม่รู้ อยากเห็นควมมเปลี่ยนแปลงของเพื่อนสมัยม.ต้นชอบกล เขาจึงส่งเมลเรียกทุกคนมา

    พอเดินไปหาเหล่าเพื่อนสมัยม.ต้นของเขา เขาก็ถึงกับชะงักเมื่อเห็นคนที่มากับคนที่จืดจางที่สุดในเพื่อนตอนม.ต้นของเขา

    เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลที่ยืนตัวสั่นอยู่ข้างๆ เพื่อนร่วมทีมตน นัยน์ตาสีน้ำตาลมองเขาอย่างหวั่นๆ ไม่รู้ทำไมเหมือนกับว่าเขาคุ้นเคยกับอีกฝ่ายเหลือเกิน...

    การเจอกันของพวกเขาในตอนนี้ทำให้ฟันเฟือนแห่งโชคชะตาที่เคยหยุดลง ได้เริ่มหมุนอีกครั้ง และคราวนี่จะไม่มีใครแยกทั้งสองออกจากกันได้อีกแล้ว...ตลอดไป

     

     END






     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×