ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [fic knb] Toumei Answer ver.midotaka

    ลำดับตอนที่ #2 : บทจบ

    • อัปเดตล่าสุด 22 มี.ค. 57


    {Fic knb} Toumei Answer ver.midotaka
    บทจบ

    หลังจากงานศพของทาคาโอะคืนนี้จบลง มิโดริมะก็เดินไปเรื่อยเปื่อยเพื่อหวังว่าใจของเขาจะสงบขึ้น...เพียงเล็กน้อยก็ยังดี

    เมื่อตอนเย็นนั้นเขาร้องไห้จนแทบเป็นบ้า ถ้ามิยาจิซังที่บังเอิญยังไม่กลับบ้านนั้นไม่ผ่านมาพอดีล่ะก็คาดว่าเขาคงร้องไห้อยู่อย่างนั้นไม่หยุดทั้งคืนแน่ๆ แถมเขายังถูกว๊ากใส่อีก...ประมาณว่า 'ถ้าเศร้าก็อย่าเก็บไว้คนเดียวสิ! เจ้าบ้า!' ก่อนที่จะลากเขาออกจากโรงเรียนทั้งอย่างนั้นเลย...

    ตลอดเวลาตั้งแต่เขาถูกมิยาจิซังลากออกมายังจบงานศพของทาคาโอะ มีสิ่งหนึ่งที่เขาคิด...เรียกว่าเป็นความปรารถนาเพียงหนึ่งเดียวเลยก็ว่าได้ ถึงแลกด้วยอะไรเขาก็ยอมทั้งนั้น...

    ...ขอเพียงให้ทาคาโอะ คาซึนาริกลับมาหาเขา...ก็เพียงพอแล้ว

     

     

     

     

     

    มิโดริมะ ชินทาโร่เดินไปเรื่อยๆ จนมาหยุดอยู่หน้าร้านๆ หนึ่งเข้า ซึ่งเขาที่เดินเหม่อตลอดทาง ไม่รู้เลยว่าตนมาอยู่หน้าร้านนี้ได้ไงรู้เพียงว่า...ดูเหมือนว่าขาเขาจะก้าวเดินเข้าไปในร้านเองโดยไม่ได้ผ่านสมองเขาสักนิด

    กริ๊ง...

    กระดิ่งหน้าร้านดังขึ้นเบาๆ พร้อมกับภาพเด็กผู้หญิงสองคนปรากฏเขามาสู่สายตาของเขา...

    เด็กสองคนนี้หน้าตาเหมือนกันคาดว่าน่าจะเป็นฝาแฝด คนหนึ่งผมสีชมพูสั้นประบ่า ส่วนอีกคนผมสีฟ้าผูกเป็นแกละยาวระพื้น แต่เด็กทั้งสองกลับมีแววตาที่นิ่งจนเรียกได้ว่าไม่สะท้อนสิ่งใดเลย...

    "มีลูกค้ามาล่ะๆ" เด็กทั้งสองพูดขึ้นมาอย่างร่าเริง พร้อมกับมีเด็กหนุ่มที่คาดว่าอายุน่าจะคราวๆเดียวกับเขาโผล่ออกมา

    "มีอะไรเหรอ? มารุ โมโระ?" เด็กหนุ่มผมดำเอ่ยถาม ก่อนที่ดวงตาสีน้ำเงินหลังแว่นกรอบบางจะเหลือบมองมาที่เขาด้วยสายตาแปลกๆ

    "วาตานุกิๆ...มีลูกค้ามาล่ะๆ!" เด็กสาวทั้งสองที่ชื่อ 'มารุ' กับ 'โมโระ' เอ่ยก่อนที่จะจับแขนเขาคนละข้างและลากเขาเข้าไปในร้านอย่างรวดเร็ว โดยมีเด็กหนุ่มผมดำที่ชื่อ 'วาตานุกิ' เดินตามมาติดๆ มิโดริมะที่จับต้นชนปลายไม่ถูกทำได้เพียงพูดออกมาว่า

    "ด...เดี๋ยวก่อนสิ!" แต่ก็ไม่มีใครสนใจเลยนอกจากวาตานุกิที่ส่งยิ้มแห้งๆมาให้

    วาตานุกิมองคนผมเขียวที่ถูกมารุกับโมโระลากไปพร้อมกับ...ร่างอันเลือนลางที่เป็นตัวบ่งบอกว่าไม่ใช่มนุษย์ที่ตามไปไม่ห่าง

    ร่างอันเลือนรางนั้นเป็นเด็กหนุ่มผมดำ ดวงตาสีฟ้าอมเทา อายุน่าจเใกล้เคียงกับเขา อยู่ในชุดเดียวกับเด็กหนุ่มผมเขียวซึ่งเป็นลูกค้า

    ปกติวาตานุกิจะเห็นและได้ยินเสียงของพวกสิ่งลี้ลับได้อย่างชัดเจน แต่สำหรับร่างเลือนร่างนี้แล้วเขากลับไม่สามารถได้ยินสิ่งที่อีกฝ่ายพูดได้ชัด เขาได้ยินเพียงคำว่า 'ชินจัง...อย่าร้องไห้เลยนะ...'

     

     

     

     

     

    เวลานี้มิโดริมะที่ถูกลากมานั่งอยู่บนเก้าอี้กลางห้องๆหนึ่ง ซึ่งตอนนี้เด็กทั้งสองที่ลากเขามาก็หายไปไหนไม่รู้ เหลือเพียงเด็กหนุ่มผมดำที่ยืนอยู่ข้างๆเขาเท่านั้น

    "เอ่อ...ขอถามหน่อยได้ไหมว่านี้มันร้านอะไรกัน?" มิโดริมะถามพลางมองไปรอบๆ ห้อง

    "เอ่อ...คือ..." วาตานุกิก็ไม่รู้ว่าจะบอกยังไง ถ้าบอกตามตรงเลยจะโดนหาว่าเป็นนักต้มตุ๋นหรือว่าเป็นคนบ้าไหมเนี่ย และแน่นอนคนปกติย่อมคิดอย่างนั้น โดยไม่รู้เลยว่ามิโดริมะ ชินทาโร่นั่นห่างจากคำว่าปกติมากโข่งเลยล่ะ

    "นี่เป็นร้านที่ทำให้สมความปรารถนาไง" เสียงๆ หนึ่งดึงความสนใจของมิโดริมะจากวาตานุกิที่กำลังทำท่าเมื่อไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไง

    ผู้ที่เดินเข้ามาเป็นหญิงสาวคนหนึ่งที่มีผมยาวระพื้น นัยน์ตาสีน้ำตาลแดง...ถึงจะเป็นผู้หญิงที่จัดว่าสวยคนหนึ่ง แต่ด้วยบรรยากาศรอบตัวหญิงคนนั้นกลับทำให้เขาไม่อยากเข้าใกล้สักเท่าไหร่นัก

    "ยูโกะซัง" วาตานุกิเรียกอีกฝ่ายพร้อมส่งสายตาประมาณว่า 'เล่นบอกตรงๆเลยนะครับ'

    "ทำให้...สมปรารถนางั้นเหรอ?" มิโดริมะถามออกมาเบาๆ

    "ใช่ แต่ต้องแลกสิ่งที่มีค่าเท่าเทียมกันมาเป็นสิ่งแลกเปลี่ยน...สำหรับเธอนั้นเป็นกรณีพิเศษไม่ต้องมีสิ่งแลกเปลี่ยนก็ได้" ยูโกะอธิบายโดยมีสายตางงๆ ของวาตานุกิมองที่ยูโกะอย่างไม่วางตา

    ส่วนมิโดริมะกำลังคิดว่า...นี่เป็นเรื่องจริงหรือ? ถ้าจะให้เชื่อมันก็ขัดกับหลักความจริงไปหน่อย แต่ว่า...ถ้ามันทำให้ทาคาโอะกลับมาล่ะก็ เขาก็พร้อมที่จะโยนหลักการนั้นทิ้งโดยไม่ต้องคิดอะไรมากเลย...

    "ถ้างั้น...ผมอยากให้ทาคาโอะ...เพื่อนของผมกลับมาจะได้ไหมครับ?"

    "แน่นอนว่าได้...ว่าแต่เธอช่วยแนะนำตัวเองก่อนได้ไหม?"

    "ผมมิโดริมะ ชินทาโร่ครับ..."

    "ฉันยูโกะ และนี้..." ยูโกะพูดพลางชี้นิ้วไปที่วาตานุกิ "หมอนี่ชื่อวาตานุกิ คิมิฮิโระ ส่วนที่เธอขอน่ะมี แต่ของมันเหลือแต่ที่ย้อนเวลากลับไปวันสองวันเท่านั้น ถ้าอยากได้แบบอื่นคงต้องรอสักพัก...มิโดริมะคุงเธอจะเอาเลยไหมล่ะ?" ยูโกะบอกพลางหยิบนาฬิกาพกออกมา ในขณะที่วาตานุกิบ่นงึมงำอยู่คนเดียวว่า 'ที่เหลืออยู่อย่างเดียวเพราะคุณเอาแต่จับยัดทุกอย่างเข้าไปในห้องเก็บของจนหาไม่เจอไม่ใช่หรือไง?'

    "ครับ..." มิโดริมะตอบรับทันทีโดยไม่ต้องใช้เวลาคิดสักนิด

    ยูโกะยื่นนาฬิกาพกอันนั้นให้มิโดริมะ ซึ่งเจ้าตัวก็รับมาแต่โดยดี พร้อมพิจารณานาฬิกาอันนี้อย่างละเอียด

    นาฬิกาพกอันนี้เป็นนาฬิกาขนาดใหญ่เท่าฝ่ามือของเขาพอดี ตัวเรือนนาฬิกาถูกทาด้วยสีเขียวกับดำ นอกจากนั้นก็ไม่มีอะไรต่างจากนาฬิกาปกติเพียงแต่นาฬิกานี้เข็มของมันได้หยุดเดินไปแล้ว คาดว่าคงไม่ได้ใช้มานาน

    "วิธีใช้คือวางไว้ข้างหมอนก่อนนอนก็พอ...แต่จำไว้นะว่าใช้ได้ครั้งเดียวเท่านั้น ยังไงก็ขอให้โชคดีแล้วกันนะ มิโดริมะคุง" ยูโกะกำชับ "ตอนนี้ก็ดึกแล้วเธอควรกลับบ้านได้แล้วนะ"

    "ครับ" มิโดริมะตอบก่อนที่วาตานุกิจะเดินนำพาเขาออกจากร้าน...

    และเขาก็รีบกลับบ้านทันที เนื่องจากมันดึกแล้วอย่างที่ยูโกะบอก รวมทั้งตัวเขารู้สึกว่าร้านนี้มันแปลกๆ นั้นเอง...

     

     

     

     

     

    "คุณเห็นใช่ไหมครับ...วิญญาณที่อยู่กับเขาคนนั้น" หลังจากที่ส่งมิโดริมะแล้ววาตานุกิกลับมาถามยูโกะถึงสิ่งที่เขาเห็น

    "อืม เห็นสิ...เธอไม่ต้องห่วงไปหรอกนะ ดวงวิญญาณนั้นคือเพื่อนที่มิโดริมะคุงอยากให้กลับมาไงล่ะ แค่เห็นมิโดริมะคุงเศร้าเลยเป็นห่วงแล้วตามมาเฉยๆ ไม่มีอะไรมากนักหรอก"

    "งั้นเหรอครับ ว่าแต่ยูโกะซังครับ...ทำไมถึงได้ให้เขาฟรีๆล่ะครับ?" แล้ววาตานุกิก็ถามในสิ่งที่คาใจที่สุดออกมา

    "ทำไมน่ะเหรอ..." ยูโกะเริ่มยิ้มเหี้ยมออกมา จนวาตานุกิถึงกับเดินถอยออกมาเล็กน้อย "ก็เพราะว่า...ยัยคนเขียนบังคับไงล่ะยะ! บอกว่าถ้าไม่ทำตามที่บอกจะเขียนให้ฉันพบแต่เรื่องซวยๆ และทำให้ร้านพังอีก! แถมยังบอกอีกนะว่าหลงเข้ามาแล้วไม่ยอมให้กลับเรื่องเดิมง่ายๆ หรอก! โอ๊ย! ไม่น่าแพ้พนันยัยนั่นเลยยย ไม่งั้นคงไม่ถูกจับยัดลงมาที่นี่หรอก! ที่นี่ยัยนั่นเปรียบเหมือนพระเจ้าเลยก็ว่าได้...จะเขียนให้เป็นไงก็ได้อีก โอ๊ย! จะบ้าตาย!"

    วาตานุกิที่ได้ฟังยูโกะที่บ่นเป็นหมีกินผึ้งก็ได้แต่ยิ้มเท่านั้นเพราะพูดอะไรไม่ออกนั้นเอง...

     

     

     

     

     

    ขณะนี้มิโดริมะกำลังนอนมองนาฬิกาพกที่ได้มาอยู่บนเตียง และก็เพิ่งจะมาคิดได่เอาตอนนี้ว่า 'มันจะใช้ได้จริงๆ เหรอ?' แต่ก็ช่วยไม่ได้ในเมื่อรับมาแล้ว ลองดูก็คงไม่เสียหาย...มั้ง?

    ว่าแล้วมิโดริมะก็วางนาฬิกาพกไว้ข้างหมอนพร้อมกับปิดไฟเข้านอนทันที และทิ้งความเหนื่อยล้าและความจริงทั้งหมดสู่นิทราอันสงบในค่ำคืนนี้

     

     

     

     

     

    จิ๊บ จิ๊บ จิ๊บ

    เสียงนกร้องตอนรับยามเช้า ทำให้เด็กหนุ่มผมเขียวตื่นขึ้นมาจากนิทรา และทำให้เด็กหนุ่มอยากจับนกมาย่างกินครั้งแรกในชีวิต...

    เพราะเขาไม่อยากตื่นขึ้นมาพบความจริงที่ไม่มีทาคาโอะอยู่...

    มิโดริมะหยิบแว่นขึ้นมาสวมตามปกติ ก่อนที่จะลองหยิบนาฬิกาพกที่เขาได้มาขึ้นมาดู และก็พบว่านาฬิกาที่เมื่อวานเข็มของมันไม่เดินนั้น วันนี้กลับเดินตามปกติแถมยังตรงตามเวลาจริงอีกต่างหาก ทั้งๆ ที่เขาไม่ได้ตั้งอะไรเลยแท้ๆ...หรือว่า!

    เจ้าตัวลองหยิบมือถือขึ้นมาดู ก็ถึงกับเบิกตากว้างเมื่อวันเดือนปีที่ปรากฎในมือถือคือ...วันที่ทาคาโอะฆ่าตัวตาย!

    เขาลองหยิกแก้มตัวเองจนแทบหลุดออกมาจากหน้า ความเจ็บแสบบนผิวนี่ถือเป็นข้อพิสูจน์ว่านี้เป็นเรื่องจริง...

    มิโดริมะไม่รอช้ารีบอาบน้ำแต่งตัวแล้วหยิบตุ๊กตาแมวยักษ์ลักกี้ไอเทมของวันนี้ (ลืมไม่ได้เลยนะ) พร้อมกับหยิบนาฬิกาพกใส่กระเป๋ากางเกง และคงรีบออกจากบ้านเลย ถ้าไม่ติดว่าแม่ของเขาบอกให้กินข้าวเช้าก่อน ทำให้เขานึกออกว่าถ้าเขาทำตัวแปลกจากเดิมหรือบอกคนอื่นสงสัยจะโดนจับไปโรง'บาล เพราะคิดว่าเขาป่วยแน่ๆ

    สุดท้ายเขาก็ยืนรอทาคาโอะเหมือนเดิม...และหวังว่าทาคาโอะจะมารับเขาตามปกติ ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกว่าทาคาโอะวันนี้จะมาช้ากว่าปกติประมาณสิบนาทีสินะ

    และแล้วคนที่เขารอก็มาถึง...คนที่เขาอยากเจอมากที่สุด

    "ขอโทษทีนะชินจัง พอดีตื่นสายไปหน่อย...อ่ะ ชินจัง! ร้องไห้ทำไมอ่ะ!?" น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าไหลออกมาจากนัยน์ตาสีมรกตอย่างไม่อาจห้ามได้ เล่นซะทาคาโอะซึ่งไม่เคยเจอสถานการณ์นี้จากมิโดริมะมาก่อนถึงกับทำอะไรไม่ถูก

    "ม...ไม่ได้ร้องสักหน่อย! แค่ฟุ่นเข้าตาน่า..." มิโดริมะแก้ตัวน้ำขุ่นๆ และแน่นอนมันดูไม่ค่อยน่าเชื่อถือเท่าไหร่

    "แน่ใจนะ? ชินจัง?" ทาคาโอะถามเพื่อความแน่ใจ ก็นะ เขาไม่เคยเห็นอีกฝ่ายเป็นอย่างนี้นิ

    "แน่สิ เอ๊า! รีบไปได้แล้ว ถ้าไปซ้อมสายฉันจะบอกว่านายมัวโอ้เอ้" มิโดริมะพูดเพื่อเบนความสนใจของทาคาโอะ พร้อมขึ้นนั่งบนรถพวง

    "ง่า...ชินจังอ่ะ!" และเนื่องจากทาคาโอะไม่อยากโดนรองกัปตันทีมตนไล่งับหัวจึงรีบปั่นรถ (ซาเล้ง) แบบด่วนจี๋ ถึงแม้ในใจจะสงสัยท่าทีแปลกๆของอีกฝ่ายก็เถอะ

    โดยหารู้ไม่ว่าตอนนี้คนที่นั่งข้างหลังตนกำลังคิดเรื่องของตนจนหัวแทบเปลี่ยนเป็นสีขาวแทนอยู่รอมร่ออยู่แล้ว...

     

     

     

     

     

    วันนี้มิโดริมะรู้สึกได้ว่าวันนี้ทั้งวันทาคาโอะชวนเขาคุยมากกว่าปกติ สงสัยว่าเมื่อเช้าเขาจะดูผิดปกติมากเกินไปจริงๆ ...ก็มันอดไม่ได้จริงๆ นี้นา จนถึงตอนนี้เขาก็ยังคิดไม่ออกเลยว่าทำไมทาคาโอะถึงฆ่าตัวตาย...แต่ไม่ว่าหย่างไรเขาก็ไม่ยอมให้ทาคาโอะตายหรอก...

    "นี่ชินจัง...คิดว่าผลสอบเมื่อวานจะได้เท่าไหร่อ่ะ?" ทาคาโอะ เริ่มถามคำถามเดิมนี้อีกครั้ง...ในการคุยครั้งสุดท้ายในตอนนั้น

    "นายจะอยากรู้ไปทำไม ในเมื่อเดี๋ยวอาจารย์ก็แจกข้อสอบคืนแล้ว..." มิโดริมะพยายามทวนคำพูดเดิมอีกครั้งเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายผิดสังเกต

    "ชินจังก็...ไม่อยากรู้บ้างหรือไง" ทาคาโอะยังคงยิ้มอย่างอารมณ์ดีเหมือนเดิมจนเขาคิดไม่ออกจริงๆ ว่าทำไม...ทาคาโอะถึงฆ่าตัวตาย

    "แล้ว...ตกลงชินจังคิดว่าทำได้ไหมอ่ะ"

    "ทำได้ประมาณ 89 คะแนน" มิโดริมะตอบตรงๆ จากเท่าที่จำได้

    "เห~~ ทำไมคิดงั้นอ่ะ"

    "ไม่บอก"

    "ชินจังอ่ะ!"

    "เอ๊า! ทุกคน! เงียบหน่อย! ครูจะแจกข้อสอบคืนแล้วน้า! แล้วใครทำได้ต่ำกว่า50คะแนน อยู่เรียนเสริมเย็นนี้ด้วยล่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะให้สอบใหม่อีกครั้ง" ครูสาวเดินเข้ามาแจกข้อสอบคืนทุกคนพร้อมกับสั่งนักเรียนทุกคนแยกย้ายกลับบ้าน

    "นี่ชินจัง ได้เท่าไหร่อ่ะ"

    "89 คะแนน..."

    "www ชินจังทายแม่นจังแฮะ~ น่าจะไปเป็นหมอดูนะเนี่ย...ว้า~~  แย่จัง ฉันได้แค่45คะแนนเอง...เช็งชะมัดเลย~~ วันนี้อุตสาห์ไม่มีซ้อม แต่ดันต้องมาเรียนเสริม เฮ้อ~~" ทาคาโอะบ่นด้วยท่าทางเซ็งสุดกู่

    "ก็สมควรแล้วนี่..."

    "แหม~ ชินจังก็~ อ่ะ! ชินจังกลับไปก่อนเลยแล้วกันน้า~ แล้วเจอกันวันพรุ่งนี้" ทาคาโอะบอกด้วยท่าทางร่าเริงเหมือนเคยว่าแต่...คนแบบนี้เหรอที่จะฆ่าตัวตาย? ไม่เห็นมีแววเลยสักนิด

    "ฉันว่าเดี๋ยวฉันรอกลับพร้อมนายดีกว่า..."

    "เอ๋?" ทาคาโอะส่งเสียงออกมาอย่างงงๆ ปกติแล้วอีกฝ่ายจะบอกประมาณ 'ไม่ต้องบอกก็ไม่รอนายหรอก' ซะมากกว่า แต่เจ้าตัวก็ไม่คิดอะไรมากเนื่องจากเซ็งที่ถูกจับเรียนเสริม

    "งั้นชินจังไปรอที่ห้องสมุดก่อนก็แล้วกันนะ ไม่งั้นเดี๋ยวโดน'จารย์โวยเอาไม่รู้ด้วยน้า" ไม่ทันขาดคำครูสาวก็กลับเข้ามาในห้องอีกครั้ง พร้อมกับหันมามองที่มิโดริมะ

    "นี่มิโดริมะ ถ้าเธอจะรอกลับพร้อมทาคาโอะล่ะก็ช่วยไปรอที่อื่นก่อนแล้วกันนะ ไม่งั้นถามแต่ล่ะทีสงสัยทาคาโอะจะเอาคำตอบจากเธอมาตอบแน่" ถึงมิโดริมะไม่อยากจะคลาดสายตาจากทาคาโอะ แต่เมื่อเป็นคำสั่งของผู้เป็นครูของตนก็ทำได้แต่ทำตามอย่างช่วยไม่ได้

    "งั้นถ้าเลิกแล้วมาหาฉันทันทีเลยนะ...เข้าใจไหม?" มิโดริมะอดกำชับทาคาโอะไม่ได้

    "อืม! เข้าใจแล้วน่าชินจัง..." ทาคาโอะตอบรับอย่างแปลกใจเล็กน้อย...วันนี้ในสายตาเขาอีกฝ่ายดูแปลกจากเดิมไปมากเลย

    และแล้วมิโดริมะ ชินทาโร่ก็เดินออกจากห้องไป...

     

     

     

     

     

    เวลานี้มิโดริมะ ชินทาโร่ยังคงนั่งอยู่ในห้องสมุดตามลำพัง สายตามองออกนอกหน้าเป็นระยะๆ จนตอนนี้ได้ล่วงเลยมาถึงห้าโมงเย็น นักเรียนที่เสริมทั้งหมดก็ทะยอยออกมากันจนหมดแล้ว...เหลือเพียงทาคาโอะที่ยังคงไม่เห็นแม้แต่เงา ลองโทรไปหาก็ปรากฏว่าโทรไม่ติดซะงั้น

    จนเขาเริ่มเป็นห่วงแล้วว่าเหตุการณ์ที่ทาคาโอะตายนั้นจะเกิดขึ้นอีกครั้ง ยิ่งตอนนี้ใกล้เวลานั้นเข้ามาทุกที...เวลาที่เป็นดังยมฑูตที่มาคร่าชีวิตของคนสำคัญของเขา

    มิโดริมะลุกขึ้นพร้อมคว้ากระเป๋าเพื่อจะออกไปหาอีกฝ่ายแทน และคงเดินออกจากห้องสมุดไปแล้วถ้าไม่ติดเสียงคุ้นหูที่รั้งเขาไว้ก่อน...

    "อ้าว? มิโดริมะยังไม่กลับอีกหรอ?"

    "มิยาจิซัง..." ใช่ เจ้าของเสียงนั้นคือมิยาจิ คิโยชิรองกัปตันทีมบาสซุโตคุนั้นเอง "แล้วทำไมมิยาจิซังยังไม่กลับล่ะครับ?"

    "เพื่อนฉันที่เป็นเวรห้องสมุดติดธุระเลยให้ฉันมาทำแทน แล้วนายล่ะ?"

    "มารอทาคาโอะครับ ทาคาโอะสอบคะแนนไม่ถึงครึ่งเลยต้องเรียนเสริม...แต่ปานนี้แล้ว ยังไม่มาเลยไม่รู้ไปอยู่ไหน..."

    "จริงๆ เลยน้า คงไม่ได้ไปแอบหลับไหนจนโดนขังอีกนะ..." เนื่องจากมีครั้งหนึ่งตอนหลังจากที่คัดผู้เล่นตัวจริงของทีม วันต่อมาตอนซ้อมหลังเลิกเรียน อยู่ๆ ทาคาโอะหายไปไหนไม่รู้ จนทาคาโอะโทรมาบอกมิโดริมะว่าแอบมานอนบนดาดฟ้าแล้วพอถึงเวลาซ้อมกำลังจะลงไป ก็ปรากฏว่าประตูเปิดไม่ออก เมื่อขึ้นไปดูก็พบว่ามีใครไม่รู้เอาไม้มาขัดประตูไว้เลยเปิดไม่ออก สุดท้ายแล้วคนทำก็คือรุ่นพี่ปีสามคนหนึ่งที่ไม่พอใจที่ถูกแย่งตำแหน่งตัวจริง และรุ่นพี่ปีสามคนนั้นก็โดนมิยาจิจัดการตามระเบียบ

    "ผมก็กำลังจะเดินไปดูนี้แหละ..."

    "งั้นก็ไปด้วยกันเลยแล้วกัน...เพื่อเกิดเรื่องอีก เจ้านั่นยิ่งซวยๆ อยู่"

    มิโดริมะไม่ได้ตอบมิยาจิแต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธเช่นกัน แล้วทั้งสองก็เดินไปหาทาคาโอะด้วยกัน...

     

     

     

     

     

    ในห้องเรียนอันวางเปล่าดูไร้ผู้คน กลับมีร่างๆ หนึ่งฟุบอยู่กับโต๊ะแถมยังเอาหนังสือตั้งบังไว้อีกต่างหาก ร่างนั้นขยับดุกดิ๊กบ่งบอกว่าร่างนั้นเริ่มตื่นจากนิทราแล้ว

    "อืม~~" ทาคาโอะ คาซึนาริส่งเสียงออกมาเบาๆ หลังจากตื่นขึ้นมาพร้อมกระดกหัวขึ้น มองไปรอบๆ ห้อง ซึ่งแน่นอนไม่พบใครเลย

    ก็เจ้าตัวเล่นหลับตั้งแต่มิโดริมะเดินออกจากห้องไม่ถึงสิบนาทีด้วยซ้ำ แถมหลับสนิทอีกต่างหาก ไม่งั้นคงตื่นตั้งแต่ตอนที่เพื่อนที่เรียนเสริมด้วยกันมาปลุกแล้ว...แต่ด้วยเหตุที่ว่าเจ้าตัวไม่ยอมตื่นเสียทีก็เลยปล่อยให้ตื่นเองซะเลย

    'อืม เลิกเรียนมานานแล้วสินะ ว่าแต่กี่โมงแล้วเนี่ย...' ทาคาโอะเหลือบนาฬิกาแล้วก็ยิ้มแห้งๆ สงสัยเขาโดนอีกฝ่ายโกธจแน่ๆ เลยแหะ ก็เขาเล่นซะให้รอจนเกือบห้าโมงครึ่งอยู่ร่อมร่อแล้ว...

    ว่าแล้วทาคาโอะก็ลุกขึ้นหมายจะเดินไปดูว่ามิโดริมะยังอยู่ที่ห้องสมุดหรือเปล่า ถ้าไม่ได้ยินเสียงของใครบ้างคนคุยกันเข้าเสียก่อน

    'แน่ใจเหรอว่าจะไม่มีใครเจอ?' เสียงแรกถามอย่างไม่แน่ใจ

    'แน่สิ ปานนี้แล้วไม่มีใครอยู่หรอก...' เสียงที่สองตอบพร้อมเปิดประตูห้องออก

    ครืน...

    ร่างทั้งสองที่ปรากฏตรงหน้าของทาคาโอะคือผู้ชายสองคนที่ไม่เคยเห็นหน้า ซึ่งจากที่ทาคาโอะเห็นขีดบนปกเสื้อเครื่องแบบน่าจะอยู่ปีสอง เดินเข้ามาพร้อมกับห่อกระดาษแปลกๆ สีฟ้าๆ แถมทำท่าเหมือนที่อยู่ในมือเป็นระเบิดอย่างนั้นแหละ เพราะท่าทางกลัวจะมีคนมาเห็นซะเหลือเกิน...

    "เฮ้ย! ไหงมีคนอยู่ได้ล่ะเนี่ย?!" หนึ่งในรุ่นพี่สองคนเอ่ยขึ้นอย่างตกใจ

    "...หรือที่พูดเมื่อกี้หมอนี้ได้ยินหมดแล้ว" รุ่นพี่อีกคนพูดพร้อมเดินเข้าไปหาทาคาโอะที่ยังงงๆ กับที่รุ่นพี่สองคนนี้พูด "งั้นก็ช่วยไม่ได้ล่ะนะ!"

    "เอ๋?"

    พลันมือแกร่งนั้นก็ผลักทาคาโอะออกนอกหน้าต่างที่เปิดทิ้งไว้!

    ในหัวของทาคาโอะในตอนนี้มีเพียงคำๆ เดียวเท่านั้น...

    ...ช่วยด้วย! ชินจัง!!

    "ทาคาโอะ!!!"

     

     

     

     

     

    ขณะที่มิโดริมะกับมิยาจิเดินมาถึงหน้าห้องเรียนชั้นปีหนึ่ง พวกเขาก็ได้ยินเสียงแว่วๆ ดังมาจากห้องเรียนของมิโดริมะนั้นเอง...

    เมื่อเดินมาดู เขาเห็นผู้ชายคนหนึ่งยืนอยู่แถวๆ ประตู เมื่อมองลึกเข้าไปอีกเขาก็พบกับภาพที่ทำให้หัวใจเขาแทบหยุดเต้น...เมื่อเห็นทาคาโอะกำลังจะถูกผลักลงไปจากหน้าต่าง!

    "ทาคาโอะ!!!" ไวเท่าความคิด มิโดริมะวิ่งเข้าไปผลักทุกอย่างที่ขวางหน้าออก เอื้อมมือไปคว้าข้อมือของทาคาโอะ...ทันแบบเส้นยาแดงผ่าแปดเลยล่ะ

    มิโดริมะพยายามดึงทาคาโอะขึ้นมา โดยไม่ทันระวังคนที่ผลักทาคาโอะเมื่อกี้ก็หมายจะผลักมิโดริมะลงไปด้วย ถ้าไม่ติดว่ามีมิยาจิอยู่อีกคนอ่ะนะ

    มิยาจิซึ่งจัดการคนที่ยืนแถวๆ ประตูห้องสลบเมือกไปเมื่อไหร่ไม่รู้ โยนกระเป๋าใส่หน้า ทำให้มิโดริมะสบโอกาสดึงทาคาโอะเข้ามาในห้องเรียนได้สำเร็จ

    มิโดริมะประคองทาคาโอะที่ถึงกับขาอ่อน ด้วยความซ็อกเหตุการณ์เฉียดตายเมื่อครู่ ก่อนที่จะมองคนที่ตอนนี้มิยาจิรวบตัวไว้อย่างรู้สึก...สยองแทน

    คนดวงซวยที่ทำร้ายหมายทำร้ายพวกเขาถึงกับดิ้นพล่านๆ เหมือนกุ้งถูกน้ำร้อน เมื่อถูกมิยาจิซังจับล็อกคอไว้แถมดูรัดแน่นขึ้นเรื่อยๆอีกต่างหาก จนได้ยินเสียงดังกร๊อบ มิยาจิจึงปล่อยมือพร้อมกับที่ร่างชายผู้แสนดวงซวยลงไปกองกับพื้น

    'ตายมั้ยล่ะนั้น' ถึงตอนแรกเขากะจะอัดซะให้อ่วม แต่เมื่อเห็นอย่างนี้แล้ว...รู้สึกสงสารปนสยองมากกว่า

    และในตอนนั้นเองที่มิโดริมะบอกตัวเองว่า...ให้ตายยังไงก็จะไม่วันมีเรื่องกับมิยาจิซังเด็ดขาด

    "พวกนายไม่เป็นไรนะ?" หลังจากจัดการคนไปสองคน มิยาจิหันมาถามโดยไม่คิดเลยว่า...สิ่งที่ทำเมื่อครู่นั้นถ้าคนอื่นรู้ล่ะก็ ได้เป็นที่เกรงกลัวของรุ่นน้องยิ่งกว่าเดิมแน่

    "ผมไม่เป็นไรครับ..." มิโดริมะบอกพลางดูทาคาโอะที่เงียบจนผิดปกติ

    "...แล้วนายล่ะทาคาโอะ?" มิยาจิละความสนใจจากมิโดริมะมาทางทาคาโอะแต่...ยังคงไม่มีเสียงตอบรับกลับมา

    "ทาคาโอะ?" มิโดริมะเรียกทาคาโอะด้วยความเป็นห่วง เท่านั่นแหละเด็กหนุ่มผมดำก็พุ่งเข้ากอดหมับ ร้องไห้อย่างคนเสียขวัญ

    "ฮือๆๆ ชินจัง ฮือๆ นึกว่า อึก จะตายแล้วซะอีกง่ะ ฮือๆ"

    "ไม่เป็นไรแล้วน่า ไม่เป็นไรแล้ว" มิโดริมะพยายามปลอบอีกฝ่ายให้หยุดร้อง ที่จริงก็สมควรร้องอยู่หรอก เล่นเจอซะขนาดนี้ ต่อให้ลั้ลล้าหรือใจเย็นแค่ไหนก็กลัวกันทั้งนั้นแหละ ถ้าไม่ร้องก็แปลกล่ะ

    "ฮือๆๆๆ คิดว่าจะไม่ได้เจอชินแล้วซะอีกง่ะ แง~~"

    และแล้วทาคาโอะก็ยิ่งร้องห่มร้องไห้หนัก จนทั้งมิโดริมะทั้งมิยาจิต้องปลอบอยู่สักพักถึงจะทำให้ทาคาโอะหยุดร้องได้ โดยที่มิโดริมะไม่ทันรู้ตัวนาฬิกาพกที่ได้จากยูโกะก็ค่อยๆ สลสายหายไปราวกับไม่ได้มีอยู่มาตั้งแต่แรกแล้ว...

     

     

     

     

     

    "ดีขึ้นหรือยัง?" มิยาจิถามทาคาโอะที่ตอนนี้ยังไม่ยอมปล่อยมิโดริมะเลย

    "อึก ครับ" ทาคาโอะตอบ ถึงจะมีสะอื้นอยู่บ้างแต่ก็ดีขึ้นมากแล้ว

    "ทาคาโอะ" มิโดริมะเรียกชื่ออีกฝ่าย เขาอยากบอกสิ่งหนึ่งให้ทาคาโอะรู้ก่อนที่จะไม่มีโอกาสบอกแบบก่อนหน้านี้

    ทาคาโอะเงยหน้าขึ้นมอง มิโดริมะจึงล้มมากระซิบข้างหูทาคาโอะ "...ไม่ต้องห่วง ต่อจากนี้ฉันจะปกป้องนายเอง ฉันรักนายทาคาโอะ"

    เท่านั้นแหละหน้าของทาคาโอะก็ขึ้นสีแดงสดปานมะเขื่อเทศพันธ์ดี อ้าปากพะงาบๆ อย่างพูดไม่ออกบวกกับสมองเกิดอาการหยุดทำงานชั่วขณะ ด้วยเหตุที่ว่าอยู่ๆ ก็ถูกบอกรักเสียเฉยๆ หลังจากผ่านวิฤตมาได้ จึงพูดได้เพียง "อ...อืม"

    "ทาคาโอะทำไมอยู่หน้าแดงแจ๋งเลยล่ะ?" มิยาจิถามทาคาโอะที่หน้าแดงจนถ้ามันระเบิดออกมาได้คงระเบิดไปแล้ว ซึ่งทาคาโอะก็ส่ายหน้าปฏิเสธทันที เนื่องจากถ้าให้บอกจริงๆ มีหวังเขาได้อายจนแทรกแผ่นดินหนีแน่!

    "ม...ไม่มีอะไรครับ!"

    "งั้นช่างเถอะ แล้ว...จะทำไงกับสองตัวนี้ดีล่ะ?" มิยาจิมองดู 'ซาก' ของคนสองคนที่มิยาจิจัดการอย่างไม่รู้จะทำไงกับสองคนนี้ดี

    "ผมก็ไม่รูเหมือนกะ..." ไม่ทันทีมิโดริมะจะตอบจบ ก็ได้ยินเสียงหนักๆ ของฝีเท้าวิ่งอยู่ในตึก...พลันก็มีตำรวจสองนายเดินเข้ามาในห้องเรียนพร้อมจับ 'ซาก' ที่ไม่รู้ว่าตายยังใส่กุจแกมือและพูดคุยกันอย่างไม่สนใจพวกเขาเลย

    "จับตัวได้แล้ว...เล่นหนีซะไว้กันเชียว" ตำรวจคนที่ผมสีแดงบ่นปนหือหอบเล็กน้อย

    "ของกลางก็มี" ตำรวจผมสีครามพูดอย่างไม่สนใจเพื่อนตนเอง พร้อมเก็บห่อกระดาษสีฟ้าขึ้นมาฉีก...เม็ดยาสีสดไหลลงมาเป็นท่อแตกเลยทีเดียว

    "ว่าแต่ใครจัดการหวา? ตายยังเนี่ย?"

    "นั่นสิน้า...สงสัยต้องเอาไปโรง'บาลก่อนโรงพักแล้วมั้งเนี่ย"

    "ฯลฯ" และอีกมากมายที่ตำรวจทั้งสองคุยกันโดยมองพวกเขาเป็นธาตุอากาศไปเสียแล้ว จนสุดท้ายทาคาโอะทนความอยากรู้ไม่ไหวจึงพูดขึ้นว่า

    "เอ่อ ขอโทษนะครับ...ตกลงนี้มันเรื่องอะไรกัน?"

    "อ้าว? พวกเธอมาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?" นายตำรวจผมแดงดูเหมือนจะเห็นทั้งสามแล้ว

    "เพิ่งเห็นเหรอ..." นายตำรวจผมครามพูดเบาๆ พร้อมกับปลงกับนิสัยไม่ทันสังเกตอะไรของเพื่อนร่วมงานตนจริงๆ

    "ตั้งแต่ต้นแล้วครับ..." ทาคาโอะเริ่มรู้สึกว่าพวกเขาอาจติดเชื้อจืดจางของคุโรโกะมาก็ได้ แต่อย่างน้อยคุณคนผมสีครามก็ยังสังเกตพวกเขาอ่ะนะ

    "แล้วพวกเธอมาทำอะไรที่นี่ล่ะ? นี่มันเย็นมากแล้วนะ เกี่ยวค้องอะไรกับสองคนนี้หรือเปล่า?" นายตำรวจผมแดงถามรัวแบบไม่พักหายใจเลยทีเดียว

    ตำรวจคนนี้ถามรัดเป็นปืนกลเลยวุ้ย...ทาคาโอะคิดในใจ

    "คือเรื่องมันมีอยู่ว่า..." และสุดท้ายมิยาจิก็เป็นเล่าเรื่องทั้งหมดให้ตำรวจทั้งสองนายฟัง ซึ่งทั้งคู่ก็พยักหน้ารับเป็นระยะๆ "เรื่องมันก็เป็นนี้แหละครับ"

    "อืม ดีแล้วล่ะที่ปลอดภัยทั้งสามคน...แต่เธอโหดซะมัดเลย" คนผมแดงเมื่อฟังเรื่องทั้งหมดก็พูดออกมาอย่างโล่งอก แต่ประโยคสุดท้ายนายตำรวจบ่นกับตนเองเบาๆ อย่างอดไม่ได้เมื่อฟังวีรกรรมการจัดการสองคนนั้นของมิยาจิ ซึ่งคนผมครามก็คิดอย่างเดียวกันเด๊ะ

    "แล้วคุณจับสองคนนั้นทำไมล่ะครับ" มิโดริมะถามในสิ่งเขาคาใจตั้งแต่ตำรวจสองนายนี้เข้ามา

    "สองคนนี้เป็นผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ที่มักแต่งเครื่องแบบโรงเรียนนี้เพื่อพลางตัวกับนักเรียนคนอื่นน่ะ มีคดีติดตัวหลายคดีเลยล่ะ ก่อนหน้าตอนที่พวกเราขอตรวจค้นจู่ๆสองคนนี้ก็วิ่งหนีเข้ามาในโรงเรียนนี้ แต่ก็พลางสายตาเพระเจ้าหัวแดงนี้มัวยืนเอ๋ออยู่ กว่าจะมาเจอก็อย่างที่พวกเธอเห็นนี้แหละ" นายตำรวจผมครามอธิบายพร้อมแดกดันเพื่อนร่วมงานตนอย่างอดไม่ได้

    "งั้นถ้าไม่มีอะไรแล้วพวกเราก็ขอกลับก่อนล่ะ...พวกเธอก็รีบกลับบ้านได้แล้ว" นายตำรวจผมแดงหันมาบอกพร้อม คิดหาวิธีที่จะพาผู้ต้องหาทั้งสองออกจากโรงเรียนยังไง

    "ครับ..." และแล้วหนุ่มชมรมบาสทั้งสามก็แยกย้ายกันกลับบ้านตามที่คุณตำรวจทั้งสองบอก โดยปล่อยให้ตำรวจทั้งสองหาทางพาผู้ต้องหาไปโรงพักเอง เอ๊ะ หรือไปโรง'บาลหวา...

     

     

     

     

     

    "นี่...ชินจัง ถามหน่อยสิ...ชินจังรู้ได้ไงว่าฉันยังอยู่ที่ห้องอ่ะ" ขณะที่ทาคาโอะปั่นรถ (ซาเล้ง) ก็ได้ถามคำถามนี้ออกมา

    "คิดว่าฉันไม่รู้นิสัยนายหรือไง..." มิโดริมะตอบอย่างนี้ ทั้งๆ ที่ความจริงเพราะก่อนหน้านี้ ทุกคนบอกว่าทาคาโอะโดดจากห้องเรียน เขาเลยเดาได้ว่าทาคาโอะอยู่ที่ห้องเรียน...

    เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ มิโดริมะก็ยังมีเรื่องที่ไม่เข้าใจเรื่องหนึ่ง...ตอนที่พวกเขาแยกกับมิยาจิซัง เขาก็เพิ่งรู้ตัวว่านาฬิกาพกที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงเขาหายไป แต่ดันมีกระดาษทีทเขียนว่า 'ขอบคุณที่ใช้บริการ' มาอยู่แทนที่ได้อย่างน่าพิศวง...แต่ยังไงก็ช่างเถอะ ทาคาโอะไม่ตายเขาก็โอแล้วล่ะ

    "wwwชินจังนี้น้า" ทาคาโอะพูดอย่างอารมณ์ดีจนมิโดริมะอดทึ่งกับความสามารถในการฟื้นสภาพจิตใจของอีกฝ่ายเสียจริง ถ้าเป็นคนอื่นคงยังไม่มาหัวเราะร่าแบบนี้หรอก

    "อ้ะ! ชินจังถึงแล้วจ้า!" ทาคาโอจอดรถที่หน้าบ้านมิโดริมะ เจ้าตัวลงจากรถพวงก่อนที่จะเดินเข้าบ้านไปตามปกติก็...

    มิโดริมะเดินไปจับใบหน้าของอีกฝ่ายให้เงยหน้าขึ้นก่อนที่จะก้มหน้าเข้าไปใกล้จนรู้สึกถึงลมหายใจของอีกฝ่าย โดยไม่ทันตั้งตัวทาคาโอะก็ถูกพลาดจูบแรกไปเสียแล้ว

    "แล้วเจอกันพรุ่งนี้ ทาคาโอะ" มิโดริมะถอยห่างจากทาคาโอะเล็กน้อย และยิ้มน้อยๆ มองใบหน้าทีทแดงก่ำเป์นครั้งที่สองของวันนี้

    "ช...ชินจังคนบ้า!" ว่าแล้วทาคาโอะก็ปั่นรถ (ซาเล้ง) หนีไป มิโดริมะมองท่าน่ารักของอีกฝ่าย ก่อนที่จะเดินเข้าบ้านก็ได้ยินเสียงทาคาโอะลอยมา เมื่อหันไปก็เห็นทาคาโอะจอดรถ เขามองทาคาโอะที่อยู่ห่างจากเขาสงสัยกลัวโดนทำอะไรอีกมั้ง และทาคาโอะก็พูด (ไม่ถึงกับตะโกนนะ) กับเขาว่า

    "แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะชินจัง! ฉ...ฉันก็รักนายนะ!" และแล้วทาคาโอะก็จ้ำอ้าวหนีไปปานโซนิก

    มิโดริมะมองอีกฝ่ายที่ค่อยๆ ห่างออกไปพลางยิ้มกว้างขึ้นอย่างมีความสุข เขาหวังว่าทาคาโอะ คาซึนาริจะอยู่เคียงข้างเขาแบบนี้ตลอดไป...

     

     

     

     

     

     

     

     

    End

     

    จบแล้วจริงๆ น้า~~

    มีของแถมเล็กน้อยด้วยจ้า ติดตามต่อไปนะจ๊ะ


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×