คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Direction 02
Direction 02
ทั้งสามคนมาถึงโรงพยาบาลที่แจ้งไว้ผ่านข้อความของเซน
หน้าห้องฉุกเฉินทั้งสามเห็นแฮรี่นั่งอยู่เพียงลำพังคนเดียวใบหน้าหวานมีน้ำตานองหน้าเรียวปากบางที่เคยอวบอิ่มบัดนี้ซีดลงอย่างเห็นได้ชัด ที่มือเรียวมีเลือดเปรอะอยู่บ้าง เลือด..ที่ไม่ใช่ของเขา ทั้งสามเข้าใจสถานการณ์ทันทีเมื่อมองลอดผ่านไปยังห้องสีขาวห้องนั้น ภาพของลูอิสที่นอนอยู่บนเตียง ใส่เครื่องช่วยหายใจมีสายห้อยระโยงระยาง เลือดเปรอะเต็มตัวไปหมด หน้าตาซีดที่ราวกับไม่มีโลหิตไหลเวียนอยู่และภาพของหมอ-พยาบาลหลายคนพยายามช่วยชีวิตเขาไว้ให้ได้ ทันทีที่เห็นพวกเซนเข้ามาแฮรี่โผเข้ากอดร่างสูงที่เดินเข้ามา ปากกระซิบอยู่แต่จับใจความไม่ได้
“ลูอี้...ช่วย ”
“แฮซ?” ไนออลเห็นท่าทางของคนตัวสูงแล้วจึงเข้าไปกอดปลอบเพื่อนรักทันที “ช่วย ฉัน”
ลูอี้ ... ช่วยฉัน .... และแฮรี่ก็ปล่อยโฮออกมาอย่างเก็บไว้ไม่อยู่ เลียมและไนออลยังไม่เข้าใจสถานการณ์เท่าไรนัก จึงทำได้แค่ยืนภาวนาในใจ ขอให้พระผู้เป็นเจ้ายังไม่พรากเพื่อนรักไปจากพวกเขาด้วยเถิด..
“Oh..my..god… ” เสียงที่เปล่งออกมาจากลำคอช่างฝืดและเจ็บเหลือเกิน
.
..
แฮรี่ใจเย็นลง ปาดน้ำตาออกจากใบหน้าอย่างลวกๆเซนเห็นอย่างนั้นจึงยิ้มบางๆให้ในการกระทำของคนหัวหยิกแล้วพาเจ้าตัวมานั่งที่เก้าอี้หน้าห้องฉุกเฉิน “เรื่องเป็นยังไง” เลียมยิงคำถามใส่เจ้าของนัยน์ตาสีมรกตสุกใสทันที
“ฉัน...” แฮรี่เริ่มเล่า
-------------------------------------
ร่างบางวิ่งหนีออกมาจากบ้านแล้ววิ่งไปเรื่อยๆอย่างไม่รู้จุดหมาย ในใจก็มัวแต่คิดเรื่อง’จูบ’ของลูอิส ทำเอาหนุ่มน้อยหน้าหวานหน้าแดงอีกรอบซะแล้วสิ..
“พวกมันทำแบบนี้เพื่ออะไรเนี่ย ” ก่อนจะทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ไม้เก่าๆสีขมุกขมัวแล้วจัดเสื้อผ้าให้หนากว่าเดิม “ฝนจะตก”
ร่างบางพึมพำเบาๆ แหงนหน้ามองท้องนภาที่ทำท่าจะอารมณ์ไม่ดีขึ้นมาเสียแล้ว ...อย่าเพิ่งตกเลย... แฮรี่คิด และมองดูทางที่ตนวิ่งออกมา ซึ่งคำตอบคือ.. ที่นี่คือที่ไหน... แฮรี่เริ่มใจไม่ดี เขาไม่ได้หยิบอะไรติดมือมาเลย เงิน โทรศัพท์สุดรัก ของกินเล็กน้อย
-0-! แย่แล้ว... ร่างบางคิดได้แค่นั้นจริงๆ แล้วเริ่มรวบรวมสติก่อนที่แกนสมองภายใต้เรือนผมหยิกหยองนั่นจะคิดมากไปกว่านี้ เขาเริ่มเดินออกมาจากม้านั่ง ผ่านสวนสาธารณะ ผ่านร้านค้าเล็กๆ สนามหญ้าอีกครั้ง
.
.
.
.
.
.
.
เวลาผ่านไปนานกว่า2 ชั่วโมง
เขาเริ่มปวดขาสุดๆไปเลย! “ไม่ไหวแล้ว!!” ... ก่อนจะล้มตัวลงพิงต้นไม้ใหญ่ สภาพอากาศดันไม่เป็นใจซะงั้นสิ..
หลงทางเป็นเด็กไปได้ ... แฮรี่เอามือก่ายหน้าผาก ปิดเปลือกตาลงช้าๆ ..หิวด้วย..
ซ่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
ฝนเม็ดใหญ่ก็สาดลงมาจนได้...
ร่างบางรีบวิ่งไปหลบบริเวณร้านค้าใกล้ๆ และแล้ว สถานที่ก็เริ่มคุ้นตา เมื่อเขาคิดว่ามันเริ่มเข้าใกล้ละแวกบ้านของเขาแล้ว แฮรี่ยิ้มกว้าง ในใจคิดถึงเพื่อนๆทั้งหลาย ป่านนี้คงกินอาหารกันหมดบ้านแล้วมั้ง คิดในใจอย่างน้อยใจนิดๆ แต่ตอนนี้เขากลับไม่มีเรี่ยวแรงจะเดินไปไหนแล้วน่ะสิ .... คิดได้ดังนั้น เขาจึงนั่งลงบนพื้นแล้วมองดูเม็ดฝนที่สาดใส่อย่างไม่ยอมลดละ เรียวปากบางอดไม่ได้ที่จะฮัมเพลงคลอเบาๆ
“Raining day was coming agian~”
“Where are you ~ hmm my dear ”
“Where are you ~ hmm my dear ”
“where are you ~ why you don’t hear me ”
“I just wanna tell that ..”
“raining day was coming again ”
เสียงหวานใสก้องกังวานไปทั่วบริเวณนั้น ด้วยความที่เป็นนักร้องอยู่การใช้เสียงดังๆจึงเป็นเรื่องปกติไปโดยไม่รู้ตัวสำหรับพวกเขา แฮรี่ยิ้มรับในบทเพลง เพลงนี้น่ะ เขากับบูแบร์เป็นคนร้องและแต่งกันเองไงละ จริงๆมันมีเนื้อต่อจากนั้นนะ แต่ไม่บอกดีกว่า ^^
.
.
.
ทางด้านลูอิสที่รีบร้อนออกมาจากบ้านเพราะอะไรน่ะเหรอ .... แฮรี่ สไตลส์ยังไม่กลับบ้านไงล่ะ
ในหัวชายหนุ่มตอนนี้มีแต่เรื่องของคนหัวหยองเต็มไปหมด ทั้งที่ว่าออกจากบ้านไปแล้วไม่ยอมกลับก็เพราะจูบของตน แฮรี่อาจจะโกรธ หรือ อาจจะไปทำเรืองสติหลุดที่ไหนโดยที่พวกเขาไม่รู้หรือเปล่า... ในวินาทีนี้ลูอิสคิดได้เพียงแค่ว่าเจ้าหัวหยิกของเขาต้องปลอดภัยแต่ลากตัวกลับบ้านด้วยกันก็พอ
แต่ดูเหมือนคำวิงวอนของเขาจะส่งไปไม่ถึง..เมื่อเขาขับรถมาเป็นชั่วโมงแล้วกลับไม่เห็นแม้เงาของแฮรี่..โทรศัพท์ก็ติดต่อไม่ได้
“shit…” คนตัวเล็กพูดในลำคอ สายตาทอดมองไปตามพื้นถนนเส้นยาว นัยน์ตาสีฟ้าหม่นฉายแววกังวลอยู่อย่างชัดเจน .. .แฮรี่อาจจะกลับถึงบ้านแล้วก็ได้..... ลูอิสคิด เหลือบสายตามองโทรศัพท์ที่มีข้อความจากคนๆหนึ่งส่งมาอย่างไม่ขาดสาย ทั้งโทรเข้า ทั้งวอทแอปมาหาแล้วเบนความสนใจมาเช่นเดิมภาวนาให้ความจริงเป็นเช่นนั้น เขาจึงตัดสินใจหลังจากที่วนรถหามาเป็นเวลานาน เลี้ยวกลับเข้าไปในหมู่บ้าน สายตาคมยังคงกวาดตาหาคนคนนั้น จนไปสะดุดกับสิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆที่นอนแผ่หลาให้คนได้ลูบอย่างเอ็นดู
“เหมียววว ” ลูอิสไม่ได้สนใจแมวตัวนั้นแต่กลับจดจ้องไปที่เจ้าของข้อมือเรียวที่ลูบแมวน้อยอย่างรักใคร่ ริมฝีปากบางแย้มยิ้มสรวล ร่างเล็กเห็นดังนั้นจึงขับรถไปใกล้ๆก่อนจะตะโกนออกมาอย่างห้ามไว้ไม่อยู่
“Harry!!!”
เขารีบกระโดดลงจากรถคันโปรดแล้วรีบข้ามถนนไปยังอีกฝั่งเพื่อที่จะไปหาคนตัวสูง พลันแฮรี่เหลือบมองมาทางนี้พอดีจึงยิ้มกว้างแล้วโบกมือให้ก่อนจะหุบยิ้ม สีหน้าแปรเปลี่ยนเป็นตกใจอย่างสุดขีดเมื่อเขาเห็นรถสปอร์ตสีแดงสดคันหนึ่งพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว ...แต่ทำไมโชคชะตาจึงทำแบบนี้คือลูอี้ไม่มองสิ่งที่แฮรี่จะส่งให้รู้เลยเลยกลับรีบวิ่งมาหาเขาซะอีก.. พอคิดถึงตรงนี้หน้าของร่างสูงเริ่มซีด ใจเต้นแรง ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันพร้อมๆกับลูกแมวน้อยในอ้อมแขนเขาที่ซนไม่รู้เวลากระโดดออกไปพอดี ร่างสูงเลยทำตามสัญชาตญาณคือกระโดดออกไปรับลูกแมว ลูอิสเห็นดังนั้นจึงรีบกระโจนออกไปรับลูกแมวแทนแฮรี่แล้วส่งสายตาว่ามันปลอดภัยแล้วเป็นจังหวะเดียวกับที่รถสปอร์ตหรูคันนั้นชนเขาพอดี...
โครมมม!!
“Lou!!!!!!!”
เสียงกระทบกันอย่างรุนแรงก้องอยู่ในหูของแฮรี่ หยาดโลหิตที่สาดกระเซ็นไปทั่วบริเวณ เสียงกรีดร้องของผู้คนที่เห็นเหตุการณ์ เสียงไซเรน รถพยาบาล ทุกอย่างตีกันมั่วไปหมด
...เรื่องมันเกิดขึ้นเร็วมาก จริงๆ …
แฮรี่คิดได้แค่นั้นก่อนจะรีบวิ่งไปหาลูอิสที่มีแมวน้อยสีขาวนวลอยู่ในอ้อมแขน มันเลียใบหน้าที่เปื้อนเลือดของผู้ที่ช่วยชีวิตก่อนจะวิ่งหายไปในซอย แฮรี่ทำอะไรไม่ถูกได้แต่กุมมือลูอิส สะอื้นติดๆขัดๆอยู่ครู่หนึ่งก่อนเสียงสะอื้นจะแปรเปลี่ยนเป็นเสียงร้องไห้อย่างหนักที่ถูกปล่อยออกมาจากดวงตาคู่สวย
....ภาวนาเงียบๆว่าเมื่อเขาตื่นมา ขอให้มันเป็นแค่ฝันร้ายๆเรื่องหนึ่งเถอะ...
ในตอนท้ายแฮรี่เล่าเสียงสั่นมาก
ภาพที่เขาพุ่งออกมาหาฉัน และกระเด็นออกไป...” แฮรี่เบิกตากว้างโผเข้ากอดเซนทันที ทำท่าจะปล่อยโฮอีกรอบ ...ยังไงเขาก็อายุน้อยที่สุดละนะ... ตอนนี้ในใจเซนว้าวุ่นใจอย่างมากเจ็บใจสุดๆที่เห็นน้ำตาของคนตัวสูง ในใจนึกโทษลูอิสที่ทำให้แฮรี่เป็นแบบนี้ ส่วนเลียมและไนออลพยายามควบคุมอารมณ์ไม่ให้วิตกหรือสถานการณ์แย่ไปกว่านี้แต่ก็ทำได้เพียงปลอบใจ...และ รอ...
“ไม่ต้องห่วง ลูอี้จะปลอดภัย” เลียมหันมาให้กำลังใจเพื่อนๆและตัวเอง “แต่พวกนาย.. ป่านนี้สื่อต่างๆคงรู้เรื่องหมดแล้ว ฉันล่ะปวดหัวจริงๆ ” ไนออลทำท่าจะร้องไห้ตามน้องเล็กไปอีกคน
...แต่เมื่อมีบุคคลที่ห้าเข้ามา ‘คู่กรณีงของเพื่อนเขา.. เธอเป็นผู้หญิง ผมสีน้ำตาลสวยหล่นลงมาปรกหน้าจึงทำให้พวกเขาไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร แต่ไม่ต้องพูดอะไรมากมายสำหรับพวกเขา เซนวางแฮรี่ให้พิงกับเก้าอี้ก่อนจะเข้าไปเงื้อมมืออัดคู่กรณี
“Fuq !! “ เซนตวาดเสียงแข็งแล้วเงยหน้ามองคู่กรณีก่อนจะเบิกตากว้างและชะงักหมัดไว้ทันในขณะเดียวกันกับที่หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมาสบตาสายตาคมของเซน เลียมและไนออลเห็นดังนั้นจึงมองตามเซนก่อนจะสบตามองนัยน์ตาคู่สวยที่พวกเขาเห็นกันจนชินตาแล้วจึงพบว่าคู่กรณีของเขาไม่ใช่ใครที่ไหนเลยแต่กลับเป็นแฟนสาวสุดรักของลูอิส ทอมลินสัน
.. Eleanor Calder..
“อ..เอล” ทุกชีวิตนิ่ง มีแต่ความตกใจเกิดขึ้น ณ ช่วงเวลานั้น “ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้ละ ??” เซนถาม
“เธอคือคนที่ขับรถชนลูอี้” ตำรวจที่ควบคุมหญิงสาวอยู่เอ่ยขึ้นมา ทุกคนมีแต่คำถามเต็มไปหมด
”ฉันไม่ได้ตั้งใจชนลูอี้!!” หญิงสาวตวาดใส่ “มันเป็นอุบัติเหตุ” นัยน์ตากลมโตมีน้ำตาใสๆไหลเอ่ออยู่เตรียมปริ่มเต็มที่ แล้วเธอก็ปล่อยโฮออกมา แฮรี่เดินเข้ามาหาเอลแล้วตบหน้าเรียวไปหนึ่งที
เพี๊ยะ !
ใบหน้าของหญิงสาวหันไปตามแรงตบแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรได้แต่กัดปากจนห้อเลือด
“เธอรู้ตัวบางมั้ย” ร่างสูงถามเสียงเย็น “ถ้าลูตาย เรื่องจะเป็นยังไง!!” เอลเลเนอร์ส่ายหน้าช้าๆ “ฉันไม่ได้ตั้งใจนะแฮซ!! ฉันไม่ได้ตั้งใจ ...ฉันแค่โกรธ” ร่างบางพูดช้าๆ ราวกับจะย้าถึงการกระทำตัวเอง แต่เมื่อทุกคนได้ยินดังนั้นกลับถามหญิงสาวด้วยน้าเสียงโกรธปนตกใจ
“เธอหมายความว่ายังไง เธอโกรธใคร??” แดดดี๊ถาม อาการตะหงิดๆมันเกิดขึ้นอีกครั้ง
“เขาบอกเลิกฉัน” คำตอบของเอลเลเนอร์ทำเอาทุกคนในห้องตะลึงไปพร้อมๆกัน รวมถึงแฮรี่ที่ช็อกไปอีกรอบ
“ลูอี้รักเธอจะตายเอล เธอเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า” เลียมถามย้า เอลเลเนอร์ส่ายหน้า น้าตาไหลเป็นทาง
“เขาส่งข้อความมาบอกเลิกฉัน เขาทิ้งฉัน” ทุกคนไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เธอพูด แต่คงเป็นอย่างนั้นจริงๆเอลเลเนอร์เสียใจขนาดหนัก ถึงขนาดร้องไห้แล้วร้องอีก พร่าเพ้อถึงแต่ว่าทำไมลูอิสถึงทิ้งเธอ แต่เพื่อนๆในวงกลับไม่มีใครรู้เลย เลียมเลยถามอีกครั้ง
“นั่นไม่ใช่เหตุผลที่เธอ..ชนเขาใช่ไหม”
“มันเป็นอุบัติเหตุ!!!” หญิงสาวจ้องมองคุณพ่อของวงอย่างเสียใจ “ไม่มีใครอยากให้เขาเป็นอะไร”
เอลเลเนอร์กลั้นใจเปิดเผยถึงความจริงคือ จริงๆแล้วเธอต้องการมาคุยกับเขาเรื่องข้อความบอกเลิกนั่นแหละ เธอส่งข้อความและโทรกลับไปเท่าไรๆ ลูอิสกลับไม่ส่งกลับมาเลย เธอไปกินเหล้ากับเพื่อนเพราะคิดว่ามันคือเรื่องจริงแล้วแต่สุดท้ายเธอก็ทนไม่ไหวเธอต้องมาคุยกับเขาให้รู้เรื่องเลยมาหาเขาที่หมู่บ้านของลูอิสแล้วเธอเจอเขาพอดี เลยรีบเร่งเครื่องเข้าไปหาคนตัวดี เป็นเวลาเดียวกับที่ลูอิสกระโจนออกมารับแมวตัวเล็กพอดี ทำให้รถของเธอชนกับร่างของลูอิส... เอลเลเนอร์เศร้ามากเมื่อเล่าจบ
“เธอเมา ” เซนพูดโกรธๆ
“ฉันขอโทษ”
“เธอไปพักเถอะ เอล อีกเดี๋ยวคิดว่านักข่าวน่าจะมาแล้วล่ะ” แฮรี่ลูบไหล่หญิงสาวเบาๆแล้วเกลี่ยน้ำตาออกมาดวงตาคู่นั้น เธอกอดตอบคนตัวสูง “ส่วนเรื่องลู.. ให้เขาตื่นมาก่อน OK? ” เอลเลเนอร์รับครางในลำคอ ก่อนจะลุกขึ้นยืน“เดี๋ยวเจอกันนะ ” เธอยังคงยิ้มให้พวกเขา แม้ดวงตาจะมีน้ำตาเอ่อล้นอยู่
.
.
4หนุ่ม One Direction ทอดสายตามองไปยังข้างนอกโรงพยาบาลที่มีแต่สื่อและนักข่าวเต็มไปหมด ผู้จัดการวงของพวกเขา ผู้ดูแลศิลปิน พี่เลี้ยง ผู้ช่วยทุกฝ่ายของวงกำลังกั้นนักข่าวและสื่อมวลชนอย่างเต็มที่เมื่อรู้ว่ายังไม่มีอะไรคืบหน้าเกี่ยวกับลูอิส . . . ในเว็บบอร์ด เฟซบุค ทวิตเตอร์ หรือโซเชี่ยลแอพต่างๆมีแต่ข่าวของลูอิสกับเอลเลเนอร์เต็มไปหมด แฟนๆที่รู้ข่าวแล้วก็ยังให้กำลังใจหนุ่มๆของพวกเขาเต็มที่ บางคนถึงกับร้องไห้อย่างหนักทันทีเมื่อรู้ข่าว
แฮรี่และไนออลหลับไปแล้ว เพราะทั้งคู่ร้องไห้มานานบวกกับความหิวด้วย เพราะออกนอกโรงพยาบาลไมได้เหลือแต่เซนกับเลียมที่เลื่อนดูและตอบข้อความจากแฟนๆที่ทวิตหาพวกเขา
.
..
.
.
.
.
.
.
.
4 ชั่วโมงผ่านไป
เซนปลุกแฮรี่และไนออลขึ้นมาฟังคำตอบจากปากหมอ คุณหมอชุดกราวน์สีขาวอมเทาเดินออกมาด้วยสีหน้าเหนื่อยหอบ ก่อนจะถามพวกเขา “ญาติใช่ไหมครับ”
“ครับ” แฮรี่ตอบคนแรกโดยไม่ได้ฟังคำถามเลย “เพื่อนผม...”
คุณหมอมองมาทางพวกเขาแล้วเอ่ยเบาๆ
TBC.
เห็นมีบางคอมเม้น –v- บอกว่าทำไมแฮรี่เป็นเคะ || ตอนคนเขียนอ่าน คนเขียนหัวเราะหนักเลยค่ะ (บ้า)555555555
...ก็เค้าเพิ่งรู้อ่า ว่าลูอี้เป็นเคะ =w= เก๊าขอโทษน้า ถ้าหลายๆคนไม่ชอบให้แฮซเป็นเคะ แต่คนเขียนชอบ 55555
เอาเป็นว่ามันก็แปลกใหม่ดีนะคะ ! ♥ 5555 | เฮียลูจะเป็นเช่นไรน้า คำตอบจากปากคุณหมอ เดี๋ยวมาต่อให้นะคะ ^__^ ขอบคุณทุกๆคนที่อ่านจริงๆๆทีแรกคิดว่าคงไม่มีคอมเม้นแล้วล่ะ ;_; อ่านเอาสนุกๆไม่ต้องจริงจังนะคะ เพราะคนเขียนแต่งฟิคไม่เป็น ตามอารมณ์และความรักล้วนๆเลย♥
ขอบคุณคนอ่านทุกคนนะคะ J
ความคิดเห็น