คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : [นาฏศิลป์] การรำฉุยฉาย
การรำฉุยฉาย
"ฉุยฉาย" ในทางนาฏศิลป หมายถึง การร่ายรำเมื่อตัวละครเกิดความภาคภูมิใจ ที่สามารถแปลงกาย หรือแต่งตัวได้อย่างสวยสดงดงาม พระยาอนุมานราชธนได้กล่าวไว้ในหนังสืออธิบายนาฏศิลปไทยว่า "การรำฉุยฉายเป็นการแสดงภาษานาฏศิลปที่มีคุณค่าทางนาฏศิลปอย่างเลิศ นิยมกันว่าตัวละครสามารถแสดงอารมณ์ความภาคภูมิใจออกมาทางท่ารำได้ดีกว่าที่จะพูดออกมาทางปาก"
ประวัติฉุยฉายสมัยโบราณ
การเล่นฉุยฉายในสมัยก่อน นิยมเล่นกันเมื่อขับเสภาเสร็จแล้ว ส่วนการเล่นขับเสภานั้น เป็นการร้องลำนำ เดินเรื่องขับเสภาเรื่องขุนช้างขุนแผน เมื่อเลิกเล่นขับเสภาแล้วจึงเล่นฉุยฉาย
สถานที่ | ใช้เวทียกพื้นหรือลานกว้างๆก็ได้ |
ดนตรี | มีเครื่องพิณพาทย์ และกรับไม้ชิงชัน อย่างเช่นการเล่นเสภา |
การแต่งกาย | ต้องแต่งให้สุภาพเรียบร้อยถูกต้อง ตามรัฐนิยม และวัฒนธรรม เช่น ชายนุ่งกางเกงสากล หญิงสวมกระโปรง และทั้งชาย และหญิงสวมเสื้อเชิ้ต สวมหมวก และใส่รองเท้า |
วิธีเล่น | การเล่นมี 2 อย่าง คือ การเล่นฉุยฉายในพระนครหรือที่เรียกว่าฉุยฉายบรรดาศักดิ์ อีกชนิดหนึ่งเป็นการเล่นทั่วๆไ จะแบ่งผู้เล่นออกเป็นฝ่ายชาย ฝ่ายหญิงก็ได้ หรือจะเล่นเฉพาะหมู่ผู้ชายล้วนหรือหญิงล้วนก็ได้ |
การเล่นฉุยฉายบรรดาศักดิ์ แรกจะขับเสภาก่อน ใช้พิณพาทย์เป็นเครื่องรับแล้วก็รำฟ้อน เรียกว่า "ฟ้อนฉุยฉาย" ตามจังหวะดนตรีหรือกรับ มีเนื้อเพลงโดยเฉพาะ ส่วนฉุยฉายที่เล่นกันอยู่ทั่วๆไปนั้น คือ การเล่นตามประเพณีพื้นเมืองมาแต่ก่อน ทั้งสองฝ่ายร่ายรำไปโดยมีลูกคู่ร้องให้จังหวะ ผู้รำเพียงแต่รำท่าทางตามทำนอง และเนื้อเพลงให้ถูกต้องกับการร้อง ผู้รำไม่ต้องร้อง แต่ต้องมีท่าทางกรีดกราย ทำชม้อยชม้ายตามทำนอง
ตัวอย่างบทร้อง | |
ฉุยฉายเอย | เจ้าไปไหนหน่อยก็ลอยชาย |
เยื้องย่างช่างกราย | ลอยชายไปในสวน |
ยื่นเล็บเล็มดอกกุหลาบ | ดอกแก้วอังกาบดอกลำดวนเอย ฯลฯ |
การบรรเลงดนตรีในเพลงฉุยฉาย
ฉุยฉายเป็นเพลงในอัตราจังหวะ 2 ชั้น มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา แต่เดิมการร้องเพลงฉุยฉาย ใช้ดนตรีรับ 1 - 2 เที่ยวทุกๆท่อน แต่ปัจจุบันนิยมใช้ปี่รับเพียงเที่ยวเดียว ตามปกติเพลงฉุยฉายจะมีเพลง 2 เพลงรวมอยู่ด้วยกัน คือเพลงฉุยฉาย และเพลงแม่ศรี โดยที่ในตอนแรกจะร้องเพลงฉุยฉายก่อน ร้องหมดท่อนหนึ่งก็มีปี่เป่าเลียนทำนอง และเสียงร้องเพียงชิ้นเดียวก่อน แล้วจึงบรรเลงรับต่อด้วยเพลงแม่ศรีติดต่อกันไป การที่ต้องร้องเพลงฉุยฉาย และเพลงแม่ศรีติดต่อกันนั้น เพราะถือว่า เพลงฉุยฉายเป็นเพลงช้า เพลงแม่ศรีเป็นเพลงเร็วซึ่งเป็นเพลง 2 ชั้น เรียกตามหน้าทับว่า "สองไม้" การบรรเลงดนตรีจะเริ่มด้วยเพลงรัว ร้องเพลงฉุยฉาย และเพลงแม่ศรี จบด้วยเพลงเร็ว - ลา ซึ่งเป็นลักษณะที่นิยมโดยทั่วไป
ที่มา : " วิพิธทัศนา " โดย สถาบันนาฏดุริยางคศิลป์ : กรมศิลปากรจัดพิมพ์เผยแพร่
"DANCE, DRAMA AND THEATRE IN THAILAND" by Mattani Mojdara Rutnin
"ฉุยฉาย" โดย สุมิตร เทพวงษ์ ภาควิชานาฏศิลป์ วิทยาลัยครูพระนครศรีอยุธยา
http://www.anurakthai.com/
ความคิดเห็น