ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : Chapter1 : แม่มด&หนี
Chapter 1
กาลครั้งหนึ่งที่อาจจะนานมาแล้ว ในสมัยที่มนุษย์ยังมีจิตใจดีกว่านี้ โลกยังสวยงามกว่านี้ น้ำมันยังไม่แพงขนาดนี้ ยังมีอาณาจักรที่แสนสงบสุข มั่งคั่ง ร่ำรวยอยู่อาณาจักรหนึ่ง ประชาชนมีความสุขและไม่เคยมีสงครามมานานมาแล้ว ทุกอย่างดูสมบูรณ์แบบไปหมด แต่ปัญหามันอยู่ตรงที่พระราชาที่ทรงปกครองเมืองด้วยความเป็นธรรมทรงมีพระโอรสอยู่พระองค์หนึ่ง...
พระโอรสที่แม้จะมีพระชนมายุครบ 20 ชันษาแล้ว ยังไม่ทรงอภิเษก
ตามกฎมลเทียรบาลของอาณาจักรเจ้าชายทุกพระองค์จะต้องอภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงที่คู่ควรเมื่ออายุครบ 18 ปี
และนี่....คือปัญหาใหญ่เพียงปัญหาเดียวของอาณาจักรนี้......
..............................................................
"อะไรนะเสด็จพ่อ ลูกทูลไปเป็นร้อยหนได้แล้วนะ ว่าลูกจะไม่อภิเษก!!!"
เสียงเจ้าชายรัชทายาทตัวปัญหาดังกึกก้องไปทั่วทั้งห้องทรงงานของพระราชา
"แต่เจ้าต้องเข้าใจ มันเป็นประเพณี ถ้าเจ้ายังยืนยันจะไม่อภิเษก พวกขุนนางก็จะเตรียมการเสนอเรื่องปลดเจ้าออกจากตำแหน่งรัชทายาท"
พระราชาทรงตรัสด้วยน้ำเสียงนึ่งๆแต่หนักแน่น
"ช่างหัวบิดาขุนนางพวกนั้นเถอะ!!! ดูแม่เจ้าหญิงแต่ละคนที่เสด็จพ่อเสด็จแม่ทรงหามาให้สิ ไม่โง่จนน่าถีบ ก็เอาแต่ใจจนน่ารำคาญ"
เจ้าชายตรัสด้วยคำพูดที่ไม่สมกับเป็นราชนิกูลก่อนที่จะนั่งลงบนโซฟาด้วยความหงุดหงิด พระราชบิดาเริ่มต้นบทสนทนาอีกครั้ง...
"จะโทษใครไม่ได้หรอก ก็ในเมื่อเจ้าหญิงดีๆเขา...."
"....ไม่อยากแต่งงานกับลูก"
เจ้าชายต่อประโยคให้จนจบ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่สองพ่อลูกคุยกันเรื่องนี้ ส่วนเหตุผลที่ไม่มีเจ้าหญิงดีๆองค์ไหนอยากแต่งงานกับเจ้าชายแห่งอาณาจักรอันยิ่งใหญ่ก็เพราะ...
เจ้าชายพระองค์นี้ทรงสูงเพียง 160 เซนติเมตร..
ไม่มีเจ้าหญิงฉลาดๆที่ไหนอยากแต่งงานกับชายที่ตนต้องโน้มตัวลงมาจุมพิตหรอก...
หน้าตา.........เขาคือเจ้าชายที่รูปงามที่สุดพระองค์หนึ่ง ผมสีทอง ตาสีฟ้า ใบหน้าขาวหมดจด เขาถูกทาบทามจะโมเดลลิ่งชื่อดังของอาณาจักรตั้งแต่อายุยังไม่ถึง10ขวบ
ความสามารถ.....ไม่มีใครกล้าคัดค้านความสามารถของเขาผู้ล้มมังกรไฟได้ตั้งแต่อายุ 7 ปีแน่นอน
คุณธรรม.......เขาคือเจ้าชายที่ใจบุญ ชอบช่วยเหลือผู้อื่น ล่าสุดเพิ่งช่วยเด็กน้อยขายไม้ขีดไฟให้ไม่หนาวตาย ทำให้ชื่อเสียงด้านความดีเลี่ยงลือไปทั่วอาณาจักร
ที่ขาดก็เพียง.........ส่วนสูง
160 เซนติเมตร อาจจะดูไม่เตี้ยนัก แต่ถ้าเทียบกับเจ้าชายอาณาจักรอื่นๆที่สูงกับ 180-190 เซนฯ เขาจะกลายเป็นคนแคระไปในทันที
เฮ้อ...ไม่ว่าจะใช้เวทมนต์เพิ่มความสูงอย่างไรก็ไม่เป็นผลสำเร็จ เขาก็ยังไม่สูงขึ้นแม้แต่น้อย
"เอาล่ะไม่ต้องพูดมาก พรุ่งนี้เจ้าจะต้องดูตัวกับเจ้าหญิงโรเซีย แห่งเมืองทะเลสาบสีฟ้า ถึงจะเป็นเพียงเมืองเล็กๆ แต่ก็เป็นเมืองที่สวยงามมาก เพราะฉะนั้น แต่งๆกับเขาไปเถอะ"
เจ้าชายตัวปัญหาไม่พูดอะไรแต่บิดขี้เกียจแล้วเดินหาวออกไปจากห้อง
กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ช่างน่าเบื่อ
ไม่มีเจ้าหญิงดีๆหลงเหลืออยู่แล้วรึไงเนี่ย มีแต่พวกสมองกลวง วันๆเอาแต่เย็บปักกับปั้นหน้าไร้เดียงสาซึ่งไม่ได้มีความน่ารักเอาซะเลย
น่าเบื่อ..น่าเบื่อ..
เจ้าชายเดินไปตามทางของปราสาทพลางคิดอะไรเพลินๆไปเรื่อย เขาผ่านอุทยานหลวงอย่างไม่ใส่ใจนัก โดยไม่รู้ตัวเจ้าชายก็ได้พบกับอุโมงค์ท้ายวัง
เป็นอุโมงค์ที่เขาไม่เคยเห็นเลยสักครั้ง ซึ่งมันก็ไม่แปลก เพราะในปราสาทแห่งนี้มีห้องเป็นพันๆห้อง มีทางลับอีกเป็นร้อย
แต่เขารู้สึกอยากเข้าไปในอุโมงค์นั้น
เจ้าชายผลักประตูไม่เก่าๆตรงหน้าอุโมงค์แล้วก้าวเดินเข้าไป ภายในเป็นห้องๆหนึ่งที่ในห้องมีแต่ฝุ่นหยากไย่เต็มไปหมด ตรงกลางห้องมีเครื่องปั่นด้ายและหญิงชรานางหนึ่ง
หญิงชรานางนั้นเงยหน้าขึ้นมามองเขาพร้อมเปล่งเสียงแหบพร่าออกมา
"จ..เจ้า...เป็น..ใคร"
เจ้าชายทรุดตัวลงนั่งตรงข้ามกับหญิงชราแล้วส่งน้ำที่พกติดตัวมาให้
"เอ้ายาย ดื่มน้ำก่อน"
หญิงชรารับไปแต่ไม่ดื่ม แต่กลับมองหน้าเขาอย่างสงสัย
"เจ้าเป็นใคร"
หญิงชราถามอีกครั้ง แต่แปลกที่เป็นน้ำเสียงปกติที่ไม่แหบพร่าอีกต่อไป
"ฉันก็เป็นเจ้าชายของเมืองนี้ไง อ้าว..ยายก็พูดธรรมดาได้นี่ ทำไมต้องทำเสียงแหบด้วยล่ะ"
หญิงชรายิ้มยิงเหงือก เพราะฟันหมดปากแล้ว
"ก็มันเป็นบทน่ะสิ หญิงแก่ในนิทานต้องพูดเสียงแบบนั้นทุกคนนั่นแหละ"
เจ้าชายขมวดคิ้วแบบงงๆ แต่ก็ไม่ทันได้พูดอะไร หญิงชราก็ลุกยืนพร้อมไม้เท้าเก่าๆอันหนึ่ง เธอโบกไม้นั้นหนึ่งที ห้องทั้งห้องก็สว่างไสวและสะอาดขึ้นทันที
"เอ้า มานั่งคุยกันก่อน นานแล้วนะเนี่ยที่ไม่มีใครมาหาข้า"
เจ้าชายขมวดคิ้วอย่างสงสัยแล้วถามไปว่า
"แล้วยายเป็นใครล่ะเนี่ย"
หญิงชรานั่งลงหลังเครื่องปั่นด้าย
"เจ้ารู้จักเรื่องของเจ้าหญิงนิทรามั้ย"
เจ้าชายพยักหน้า "รู้จักสิ เรื่องที่มีเจ้าหญิงโดนแม่มดสาปให้ตายเพราะเข็มปั่นด้ายตอนอายุ15 เพราะไม่ยอมเชิญนางไปงานเลี้ยงวันเกิด แต่นางก็แค่หลับไปแล้วสุดท้ายก็มีเจ้าชายมาจุมพิตใช่มั้ย ไม่อยากจะคุย เมืองฉันเนี่ยแหละ
ต้นตำรับของนิทานเจ้าหญิงนิทราเชียวนะ ทวดของยายทวดของทวดของน้องของอาฉันนั่นแหละเจ้าหญิงนิทราตัวจริง" ไม่พูดเปล่า ยังยืดอกอย่างภูมิใจอีกด้วย
หญิงชราถอนหายใจแล้วพูดว่า
"เฮ้ออ ก็เพราะอย่างนี้แหละ ข้าถึงต้องขังตัวเองอยู่นี่ ข้าน่ะเป็นลูกของหลานของเหลนของโหลนของแม่มดคนที่สาปทวดของยายทวดของทวดของน้องอาเจ้าให้เป็นเจ้าหญิงนิทราไงล่ะ"
หญิงชราเคาะไม้สองสามที โต๊ะก็โผล่มาอยู่กลางห้องแล้วมีน้ำชาและขนมเค้กสองที่อยู่บนโต๊ะ
"หาาา ยายเนี่ยนะ แต่ฉันก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไมยายมาอยู่ที่นี่"
เจ้าชายมุ่นคิ้วอย่างสงสัย
หญิงชรายกน้ำชาขึ้นจิบ แล้วตักเค้กเข้าปากหนึ่งคำ แล้วจึงพูดต่อไปว่า
"ข้าน่ะต้องไปสาปเจ้าหญิงออโรร่าที่26ให้เป็นเจ้าหญิงนิทรา ในวันเกิดของเจ้าหญิงนั่นมีข่าวแจ้งมาว่าจะจัดงานวันเกิดให้ยัยเจ้าหญิงนั่นโดยเชิญแม่มดแค่หกคน ข้าเป็นแม่มดคนที่เจ็ดตามลำดับพอดี แต่ข้าก็ไม่ได้รับเชิญ จริงๆแล้ว
ข้าก็ไม่ได้อยากไปงานหรอกนะ ข้าอยากจะนอนอยู่บ้านกินคุกกี้กับอ่านการ์ตูนเกย์มากกว่า แต่ข้าต้องไปงานเพื่อสาปเจ้าหญิงนั่นตามคำสอนของบรรพบุรุษ"
หญิงชราจิบน้ำชาอีกครั้งราวกับต้องการยั่วต่อมอยากรู้ของเจ้าชาย ซึ่งมันก็ได้ผล
"เล่าต่อสิยาย"
เจ้าชายเร่ง
หญิงชรากระแอมพอเป็นพิธี
"ทีนี้ ข้าก็เลยไปที่งานเลี้ยงนั่น แต่ข้าก็ไม่ได้สาปเจ้าหญิง นั่นเป็นเพราะ..เอ่อ..อะ..คือ.."
หญิงชราหน้าแดง
"เพราะอะไรล่ะยาย"
เจ้าชายถาม
"เพราะข้ามัวแต่กินอาหารในงานและเต้นรำกับพระเจ้าอาของเจ้าหญิงคนนั้นจนเพลินเลยลืมสาปน่ะสิ"
เจ้าชายหัวเราะพรวด
"ฮะ ฮ่าๆๆๆ ยายเนี่ยเหมือนฉันเลย ฉันเองก็เผลอแบบนั้นอยู่บ่อยๆเหมือนกัน"
"เออ นั่นแหละ เพราะข้าไม่ได้สาป วันต่อมาข้าเลยไปที่วังอีกครั้ง ตามประเพณีตอนนั้นเจ้าหญิงที่ไม่ถูกสาปจะเป็นเจ้าหญิงที่ดีไม่ได้ พระราชาเลยเชิญข้าไปสาปนางอีกครั้ง แต่ก็เป็นความผิดพลาดของข้าอีกนั่นแหละ นางถูกสาปให้ตายเพราะเข็มปั่นด้ายทิ่มตอนอายุ20แทนที่จะเป็น15เพราะข้าจำคำสาปผิด"
หญิงชราตัดเค้กเข้าปากอีกคำแล้วเล่าต่อว่า
"ตามบทแล้วแม่มดจะต้องปลอมตัวเป็นช่างปั่นด้ายอยู่ที่อุโมงค์หลังวังแห่งนี้ ข้าก็มาตามหน้าที่ของข้า แต่ยัยเจ้าหญิงนั่นไม่มาซักที ข้าก็เลยต้องอยู่ในนี้ตามหน้าที่ต่อไปไงล่ะ"
ถึงตอนนี้เจ้าชายเข้าใจแล้วว่าทำไม เขายิ้มแล้วบอกหญิงชราว่า
"ก็แหงล่ะนางจะมาได้ยังไง เมืองนี้มีกฎว่าเจ้าหญิงเจ้าชายทุกพระองค์ต้องแต่งงานตอนอายุ18 แต่ยายดันไปสาปให้นางโดนเข็มทิ่มตอนอายุ20 นางก็เลยไม่มาที่นี่ตอนอายุ20 นี่ถ้ายายสาปถูกต้องนางก็จะโดนเข็มทิ่มก่อนที่จะอภิเษกน่ะสิ"
แม่มดชราพยักหน้าอย่างเข้าใจ
"กฎอะไรไม่รู้งี่เง่าดีแท้ เพราะงี้สิข้าถึงต้องอยู่ที่นี่มาตั้งเกือบพันปี"
เจ้าชายรีบเสริมว่า
"ใช่ๆ เพราะไอ้กฎบ้านี่แหละทำให้ฉันถูกจับแต่งงานกับเจ้าหญิงปัญญาอ่อนพวกนั้น เฮอะ พวกเจ้าหญิงดีๆนี่หายไปไหนหมดนะ"
หญิงชราได้ยินดังนั้นก็ทำหน้าตกใจ
"หา เจ้าอายุถึง18แล้วเรอะ ข้านึกว่ายัง14-15อยู่เลยเชียว ก็เห็น..เอ่อ..ตัวไม่สูงขนาดนี้"
เจ้าชายถอนหายใจแล้วทำหน้าจริงจัง
"เฮ้อ ก็อย่างที่เห็นแหละยาย ฉันออกจะเตี้ยขนาดนี้ เจ้าชายที่ดีควรจะสูงกว่านี้อีกซักหน่อย ก็เลยไม่มีเจ้าหญิงดีๆที่ไหนอยากจะแต่งงานด้วยไงล่ะ"
หญิงชราเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ
"เจ้าไม่อยากแต่งงานงั้นรึ"
เจ้าชายถอนหายใจอีกครั้ง
"ไม่ใช่ไม่อยาก แต่ตอนนี้มันยังเร็วเกินไป ทำไมเสด็จพ่อกับพวกขุนนางต้องบังคับแต่งงานด้วยวะ ชายไม่ปลื้มม"
หญิงชราเคาะไม่เท้าอีกทีแล้วชาบนโต๊ะก็หายไปแต่มีไอศครีมซักเดย์โผล่ขึ้นมาแทน หญิงชราหยิบเชอรี่ขึ้นมากินแล้วพูดอย่างไม่ใส่ใจว่า
"เจ้าก็หนีไปซะสิ"
เจ้าชายมองหญิงชราที่กำลังเอาช้อนเขี่ยไอศครีมเข้าปากอย่างตกใจ
"ห๊ะ หนีหรอยาย"
หญิงชราดูดช้อนหนึ่งทีแล้วตอบว่า
"ใช่ เจ้าก็หนีออกจากอาณาจักรนี้ไปซักพัก รอให้ท่านพ่อของเจ้าและบรรดาขุนนางในวังทั้งหลายเห็นว่าการเป็นเจ้าชายที่ดีไม่จำเป็นจะต้องอภิเษก การหายหน้าไปซักพักจะทำให้พวกนั้นเห็นความสำคัญของเจ้าไงล่ะ"
เจ้าชายทำหน้าเหมือนลังเลใจ
"แต่..การหนีไม่ใช่ทางออกที่ดีเลยนะ"
หญิงชราตักสตอเบอรี่เข้าปากแล้วพูดอย่างเคร่งขรึมว่า
"ใช่ การหนีไม่ใช่ทางออกที่ดี แต่บางทีมันก็จำเป็น บางเหตุการณ์หนีซะยังจะดีกว่าอยู่ตายอย่างไม่ฉลาด เป็นไง ข้าพูดคมมั้ยล่ะ ประโยคนี้ข้าคิดตั้งสองปีเชียวนะ ว่ะฮ่าๆๆ"
ว่าจบก็หัวเราะจนเห็นเหงือกทั้งปาก ในขณะที่เจ้าชายลอบคิดอยู่ในใจว่า
กูจะเชื่อคนแบบนี้ดีมั้ยวะ?
จริงอยู่การหนีไม่ใช่ทางออกที่ดูเท่เอาเสียเลย แต่เขามีทางเลือกอื่นด้วยหรือ
เขาไม่อยากแต่งงานเพราะถูกบังคับ เขาอยากจะรู้ว่าจริงๆแล้วคนที่แต่งงานกันเพราะความรักนั้นรู้สึกอย่างไร การแต่งงานไม่ใช่เรื่องของความถูกต้องเหมาะสม หรือตามประเพณีใดๆ แต่การแต่งงานคือการอยู่ด้วยกันและเข้าใจซึ่งกันและกันบนความรักต่างหาก...นี่คือสิ่งที่เขาเชื่อมาตลอด
เขาจะไม่มีวันยอมเป็นตุ๊กตายัดนุ่นที่โดนบังคับจิตใจเด็ดขาด
เขาตัดใจแล้ว….
"ยาย ถ้าจะหนีควรจะทำยังไง"
กาลครั้งหนึ่งที่อาจจะนานมาแล้ว ในสมัยที่มนุษย์ยังมีจิตใจดีกว่านี้ โลกยังสวยงามกว่านี้ น้ำมันยังไม่แพงขนาดนี้ ยังมีอาณาจักรที่แสนสงบสุข มั่งคั่ง ร่ำรวยอยู่อาณาจักรหนึ่ง ประชาชนมีความสุขและไม่เคยมีสงครามมานานมาแล้ว ทุกอย่างดูสมบูรณ์แบบไปหมด แต่ปัญหามันอยู่ตรงที่พระราชาที่ทรงปกครองเมืองด้วยความเป็นธรรมทรงมีพระโอรสอยู่พระองค์หนึ่ง...
พระโอรสที่แม้จะมีพระชนมายุครบ 20 ชันษาแล้ว ยังไม่ทรงอภิเษก
ตามกฎมลเทียรบาลของอาณาจักรเจ้าชายทุกพระองค์จะต้องอภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงที่คู่ควรเมื่ออายุครบ 18 ปี
และนี่....คือปัญหาใหญ่เพียงปัญหาเดียวของอาณาจักรนี้......
..............................................................
"อะไรนะเสด็จพ่อ ลูกทูลไปเป็นร้อยหนได้แล้วนะ ว่าลูกจะไม่อภิเษก!!!"
เสียงเจ้าชายรัชทายาทตัวปัญหาดังกึกก้องไปทั่วทั้งห้องทรงงานของพระราชา
"แต่เจ้าต้องเข้าใจ มันเป็นประเพณี ถ้าเจ้ายังยืนยันจะไม่อภิเษก พวกขุนนางก็จะเตรียมการเสนอเรื่องปลดเจ้าออกจากตำแหน่งรัชทายาท"
พระราชาทรงตรัสด้วยน้ำเสียงนึ่งๆแต่หนักแน่น
"ช่างหัวบิดาขุนนางพวกนั้นเถอะ!!! ดูแม่เจ้าหญิงแต่ละคนที่เสด็จพ่อเสด็จแม่ทรงหามาให้สิ ไม่โง่จนน่าถีบ ก็เอาแต่ใจจนน่ารำคาญ"
เจ้าชายตรัสด้วยคำพูดที่ไม่สมกับเป็นราชนิกูลก่อนที่จะนั่งลงบนโซฟาด้วยความหงุดหงิด พระราชบิดาเริ่มต้นบทสนทนาอีกครั้ง...
"จะโทษใครไม่ได้หรอก ก็ในเมื่อเจ้าหญิงดีๆเขา...."
"....ไม่อยากแต่งงานกับลูก"
เจ้าชายต่อประโยคให้จนจบ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่สองพ่อลูกคุยกันเรื่องนี้ ส่วนเหตุผลที่ไม่มีเจ้าหญิงดีๆองค์ไหนอยากแต่งงานกับเจ้าชายแห่งอาณาจักรอันยิ่งใหญ่ก็เพราะ...
เจ้าชายพระองค์นี้ทรงสูงเพียง 160 เซนติเมตร..
ไม่มีเจ้าหญิงฉลาดๆที่ไหนอยากแต่งงานกับชายที่ตนต้องโน้มตัวลงมาจุมพิตหรอก...
หน้าตา.........เขาคือเจ้าชายที่รูปงามที่สุดพระองค์หนึ่ง ผมสีทอง ตาสีฟ้า ใบหน้าขาวหมดจด เขาถูกทาบทามจะโมเดลลิ่งชื่อดังของอาณาจักรตั้งแต่อายุยังไม่ถึง10ขวบ
ความสามารถ.....ไม่มีใครกล้าคัดค้านความสามารถของเขาผู้ล้มมังกรไฟได้ตั้งแต่อายุ 7 ปีแน่นอน
คุณธรรม.......เขาคือเจ้าชายที่ใจบุญ ชอบช่วยเหลือผู้อื่น ล่าสุดเพิ่งช่วยเด็กน้อยขายไม้ขีดไฟให้ไม่หนาวตาย ทำให้ชื่อเสียงด้านความดีเลี่ยงลือไปทั่วอาณาจักร
ที่ขาดก็เพียง.........ส่วนสูง
160 เซนติเมตร อาจจะดูไม่เตี้ยนัก แต่ถ้าเทียบกับเจ้าชายอาณาจักรอื่นๆที่สูงกับ 180-190 เซนฯ เขาจะกลายเป็นคนแคระไปในทันที
เฮ้อ...ไม่ว่าจะใช้เวทมนต์เพิ่มความสูงอย่างไรก็ไม่เป็นผลสำเร็จ เขาก็ยังไม่สูงขึ้นแม้แต่น้อย
"เอาล่ะไม่ต้องพูดมาก พรุ่งนี้เจ้าจะต้องดูตัวกับเจ้าหญิงโรเซีย แห่งเมืองทะเลสาบสีฟ้า ถึงจะเป็นเพียงเมืองเล็กๆ แต่ก็เป็นเมืองที่สวยงามมาก เพราะฉะนั้น แต่งๆกับเขาไปเถอะ"
เจ้าชายตัวปัญหาไม่พูดอะไรแต่บิดขี้เกียจแล้วเดินหาวออกไปจากห้อง
กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ช่างน่าเบื่อ
ไม่มีเจ้าหญิงดีๆหลงเหลืออยู่แล้วรึไงเนี่ย มีแต่พวกสมองกลวง วันๆเอาแต่เย็บปักกับปั้นหน้าไร้เดียงสาซึ่งไม่ได้มีความน่ารักเอาซะเลย
น่าเบื่อ..น่าเบื่อ..
เจ้าชายเดินไปตามทางของปราสาทพลางคิดอะไรเพลินๆไปเรื่อย เขาผ่านอุทยานหลวงอย่างไม่ใส่ใจนัก โดยไม่รู้ตัวเจ้าชายก็ได้พบกับอุโมงค์ท้ายวัง
เป็นอุโมงค์ที่เขาไม่เคยเห็นเลยสักครั้ง ซึ่งมันก็ไม่แปลก เพราะในปราสาทแห่งนี้มีห้องเป็นพันๆห้อง มีทางลับอีกเป็นร้อย
แต่เขารู้สึกอยากเข้าไปในอุโมงค์นั้น
เจ้าชายผลักประตูไม่เก่าๆตรงหน้าอุโมงค์แล้วก้าวเดินเข้าไป ภายในเป็นห้องๆหนึ่งที่ในห้องมีแต่ฝุ่นหยากไย่เต็มไปหมด ตรงกลางห้องมีเครื่องปั่นด้ายและหญิงชรานางหนึ่ง
หญิงชรานางนั้นเงยหน้าขึ้นมามองเขาพร้อมเปล่งเสียงแหบพร่าออกมา
"จ..เจ้า...เป็น..ใคร"
เจ้าชายทรุดตัวลงนั่งตรงข้ามกับหญิงชราแล้วส่งน้ำที่พกติดตัวมาให้
"เอ้ายาย ดื่มน้ำก่อน"
หญิงชรารับไปแต่ไม่ดื่ม แต่กลับมองหน้าเขาอย่างสงสัย
"เจ้าเป็นใคร"
หญิงชราถามอีกครั้ง แต่แปลกที่เป็นน้ำเสียงปกติที่ไม่แหบพร่าอีกต่อไป
"ฉันก็เป็นเจ้าชายของเมืองนี้ไง อ้าว..ยายก็พูดธรรมดาได้นี่ ทำไมต้องทำเสียงแหบด้วยล่ะ"
หญิงชรายิ้มยิงเหงือก เพราะฟันหมดปากแล้ว
"ก็มันเป็นบทน่ะสิ หญิงแก่ในนิทานต้องพูดเสียงแบบนั้นทุกคนนั่นแหละ"
เจ้าชายขมวดคิ้วแบบงงๆ แต่ก็ไม่ทันได้พูดอะไร หญิงชราก็ลุกยืนพร้อมไม้เท้าเก่าๆอันหนึ่ง เธอโบกไม้นั้นหนึ่งที ห้องทั้งห้องก็สว่างไสวและสะอาดขึ้นทันที
"เอ้า มานั่งคุยกันก่อน นานแล้วนะเนี่ยที่ไม่มีใครมาหาข้า"
เจ้าชายขมวดคิ้วอย่างสงสัยแล้วถามไปว่า
"แล้วยายเป็นใครล่ะเนี่ย"
หญิงชรานั่งลงหลังเครื่องปั่นด้าย
"เจ้ารู้จักเรื่องของเจ้าหญิงนิทรามั้ย"
เจ้าชายพยักหน้า "รู้จักสิ เรื่องที่มีเจ้าหญิงโดนแม่มดสาปให้ตายเพราะเข็มปั่นด้ายตอนอายุ15 เพราะไม่ยอมเชิญนางไปงานเลี้ยงวันเกิด แต่นางก็แค่หลับไปแล้วสุดท้ายก็มีเจ้าชายมาจุมพิตใช่มั้ย ไม่อยากจะคุย เมืองฉันเนี่ยแหละ
ต้นตำรับของนิทานเจ้าหญิงนิทราเชียวนะ ทวดของยายทวดของทวดของน้องของอาฉันนั่นแหละเจ้าหญิงนิทราตัวจริง" ไม่พูดเปล่า ยังยืดอกอย่างภูมิใจอีกด้วย
หญิงชราถอนหายใจแล้วพูดว่า
"เฮ้ออ ก็เพราะอย่างนี้แหละ ข้าถึงต้องขังตัวเองอยู่นี่ ข้าน่ะเป็นลูกของหลานของเหลนของโหลนของแม่มดคนที่สาปทวดของยายทวดของทวดของน้องอาเจ้าให้เป็นเจ้าหญิงนิทราไงล่ะ"
หญิงชราเคาะไม้สองสามที โต๊ะก็โผล่มาอยู่กลางห้องแล้วมีน้ำชาและขนมเค้กสองที่อยู่บนโต๊ะ
"หาาา ยายเนี่ยนะ แต่ฉันก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไมยายมาอยู่ที่นี่"
เจ้าชายมุ่นคิ้วอย่างสงสัย
หญิงชรายกน้ำชาขึ้นจิบ แล้วตักเค้กเข้าปากหนึ่งคำ แล้วจึงพูดต่อไปว่า
"ข้าน่ะต้องไปสาปเจ้าหญิงออโรร่าที่26ให้เป็นเจ้าหญิงนิทรา ในวันเกิดของเจ้าหญิงนั่นมีข่าวแจ้งมาว่าจะจัดงานวันเกิดให้ยัยเจ้าหญิงนั่นโดยเชิญแม่มดแค่หกคน ข้าเป็นแม่มดคนที่เจ็ดตามลำดับพอดี แต่ข้าก็ไม่ได้รับเชิญ จริงๆแล้ว
ข้าก็ไม่ได้อยากไปงานหรอกนะ ข้าอยากจะนอนอยู่บ้านกินคุกกี้กับอ่านการ์ตูนเกย์มากกว่า แต่ข้าต้องไปงานเพื่อสาปเจ้าหญิงนั่นตามคำสอนของบรรพบุรุษ"
หญิงชราจิบน้ำชาอีกครั้งราวกับต้องการยั่วต่อมอยากรู้ของเจ้าชาย ซึ่งมันก็ได้ผล
"เล่าต่อสิยาย"
เจ้าชายเร่ง
หญิงชรากระแอมพอเป็นพิธี
"ทีนี้ ข้าก็เลยไปที่งานเลี้ยงนั่น แต่ข้าก็ไม่ได้สาปเจ้าหญิง นั่นเป็นเพราะ..เอ่อ..อะ..คือ.."
หญิงชราหน้าแดง
"เพราะอะไรล่ะยาย"
เจ้าชายถาม
"เพราะข้ามัวแต่กินอาหารในงานและเต้นรำกับพระเจ้าอาของเจ้าหญิงคนนั้นจนเพลินเลยลืมสาปน่ะสิ"
เจ้าชายหัวเราะพรวด
"ฮะ ฮ่าๆๆๆ ยายเนี่ยเหมือนฉันเลย ฉันเองก็เผลอแบบนั้นอยู่บ่อยๆเหมือนกัน"
"เออ นั่นแหละ เพราะข้าไม่ได้สาป วันต่อมาข้าเลยไปที่วังอีกครั้ง ตามประเพณีตอนนั้นเจ้าหญิงที่ไม่ถูกสาปจะเป็นเจ้าหญิงที่ดีไม่ได้ พระราชาเลยเชิญข้าไปสาปนางอีกครั้ง แต่ก็เป็นความผิดพลาดของข้าอีกนั่นแหละ นางถูกสาปให้ตายเพราะเข็มปั่นด้ายทิ่มตอนอายุ20แทนที่จะเป็น15เพราะข้าจำคำสาปผิด"
หญิงชราตัดเค้กเข้าปากอีกคำแล้วเล่าต่อว่า
"ตามบทแล้วแม่มดจะต้องปลอมตัวเป็นช่างปั่นด้ายอยู่ที่อุโมงค์หลังวังแห่งนี้ ข้าก็มาตามหน้าที่ของข้า แต่ยัยเจ้าหญิงนั่นไม่มาซักที ข้าก็เลยต้องอยู่ในนี้ตามหน้าที่ต่อไปไงล่ะ"
ถึงตอนนี้เจ้าชายเข้าใจแล้วว่าทำไม เขายิ้มแล้วบอกหญิงชราว่า
"ก็แหงล่ะนางจะมาได้ยังไง เมืองนี้มีกฎว่าเจ้าหญิงเจ้าชายทุกพระองค์ต้องแต่งงานตอนอายุ18 แต่ยายดันไปสาปให้นางโดนเข็มทิ่มตอนอายุ20 นางก็เลยไม่มาที่นี่ตอนอายุ20 นี่ถ้ายายสาปถูกต้องนางก็จะโดนเข็มทิ่มก่อนที่จะอภิเษกน่ะสิ"
แม่มดชราพยักหน้าอย่างเข้าใจ
"กฎอะไรไม่รู้งี่เง่าดีแท้ เพราะงี้สิข้าถึงต้องอยู่ที่นี่มาตั้งเกือบพันปี"
เจ้าชายรีบเสริมว่า
"ใช่ๆ เพราะไอ้กฎบ้านี่แหละทำให้ฉันถูกจับแต่งงานกับเจ้าหญิงปัญญาอ่อนพวกนั้น เฮอะ พวกเจ้าหญิงดีๆนี่หายไปไหนหมดนะ"
หญิงชราได้ยินดังนั้นก็ทำหน้าตกใจ
"หา เจ้าอายุถึง18แล้วเรอะ ข้านึกว่ายัง14-15อยู่เลยเชียว ก็เห็น..เอ่อ..ตัวไม่สูงขนาดนี้"
เจ้าชายถอนหายใจแล้วทำหน้าจริงจัง
"เฮ้อ ก็อย่างที่เห็นแหละยาย ฉันออกจะเตี้ยขนาดนี้ เจ้าชายที่ดีควรจะสูงกว่านี้อีกซักหน่อย ก็เลยไม่มีเจ้าหญิงดีๆที่ไหนอยากจะแต่งงานด้วยไงล่ะ"
หญิงชราเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ
"เจ้าไม่อยากแต่งงานงั้นรึ"
เจ้าชายถอนหายใจอีกครั้ง
"ไม่ใช่ไม่อยาก แต่ตอนนี้มันยังเร็วเกินไป ทำไมเสด็จพ่อกับพวกขุนนางต้องบังคับแต่งงานด้วยวะ ชายไม่ปลื้มม"
หญิงชราเคาะไม่เท้าอีกทีแล้วชาบนโต๊ะก็หายไปแต่มีไอศครีมซักเดย์โผล่ขึ้นมาแทน หญิงชราหยิบเชอรี่ขึ้นมากินแล้วพูดอย่างไม่ใส่ใจว่า
"เจ้าก็หนีไปซะสิ"
เจ้าชายมองหญิงชราที่กำลังเอาช้อนเขี่ยไอศครีมเข้าปากอย่างตกใจ
"ห๊ะ หนีหรอยาย"
หญิงชราดูดช้อนหนึ่งทีแล้วตอบว่า
"ใช่ เจ้าก็หนีออกจากอาณาจักรนี้ไปซักพัก รอให้ท่านพ่อของเจ้าและบรรดาขุนนางในวังทั้งหลายเห็นว่าการเป็นเจ้าชายที่ดีไม่จำเป็นจะต้องอภิเษก การหายหน้าไปซักพักจะทำให้พวกนั้นเห็นความสำคัญของเจ้าไงล่ะ"
เจ้าชายทำหน้าเหมือนลังเลใจ
"แต่..การหนีไม่ใช่ทางออกที่ดีเลยนะ"
หญิงชราตักสตอเบอรี่เข้าปากแล้วพูดอย่างเคร่งขรึมว่า
"ใช่ การหนีไม่ใช่ทางออกที่ดี แต่บางทีมันก็จำเป็น บางเหตุการณ์หนีซะยังจะดีกว่าอยู่ตายอย่างไม่ฉลาด เป็นไง ข้าพูดคมมั้ยล่ะ ประโยคนี้ข้าคิดตั้งสองปีเชียวนะ ว่ะฮ่าๆๆ"
ว่าจบก็หัวเราะจนเห็นเหงือกทั้งปาก ในขณะที่เจ้าชายลอบคิดอยู่ในใจว่า
กูจะเชื่อคนแบบนี้ดีมั้ยวะ?
จริงอยู่การหนีไม่ใช่ทางออกที่ดูเท่เอาเสียเลย แต่เขามีทางเลือกอื่นด้วยหรือ
เขาไม่อยากแต่งงานเพราะถูกบังคับ เขาอยากจะรู้ว่าจริงๆแล้วคนที่แต่งงานกันเพราะความรักนั้นรู้สึกอย่างไร การแต่งงานไม่ใช่เรื่องของความถูกต้องเหมาะสม หรือตามประเพณีใดๆ แต่การแต่งงานคือการอยู่ด้วยกันและเข้าใจซึ่งกันและกันบนความรักต่างหาก...นี่คือสิ่งที่เขาเชื่อมาตลอด
เขาจะไม่มีวันยอมเป็นตุ๊กตายัดนุ่นที่โดนบังคับจิตใจเด็ดขาด
เขาตัดใจแล้ว….
"ยาย ถ้าจะหนีควรจะทำยังไง"
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น