คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ยังไม่ได้ตั้งชื่อ
“อ่ะ...อ้าว อย่างงี้นี่เอง"
บทที่เลือก : 10. ลูกหาบ
ชื่อ-นามสกุล : จิรภัทร์ เครือสาร Jirapart Krersarn
ชื่อเล่น : จิระ Jira
ความหมายของชื่อ : -
อายุ : ๑๙ ปี (เขาอาจอายุน้อยสุดในคณะ เเละเดือนหน้าเขาถึง20)
เพศ : ชาย
รูปร่างลักษณะ : ถึงเเม้ว่าใบหน้าของเขาจะคล้ายกับสตรี จนบางทีอาจทำให้ชายลุ่มหลง เเต่ทว่าจิระเป็นผู้ชายผิวสีขาว มีนัยน์ตาคมสีเเดง ซึ่งก็ไม่ทราบเช่นกันว่าทำไมมันเป็นเช่นนั้น จิระมีเรือนผมสีสนิท ใส่เชิ้ตดูสุภาพสีขาว เเละทับอีกชั้นด้วยเสื้อคลุมดำสนิท
อุปนิสัย : จิระชอบในการเเหย่คนอื่น ทำให้คนอื่นหวาดกลัว จิระมักมีอารมณ์ขันตลอดเวลาถึงเเม้จะอยู่ในสถานการณ์จริงจังเช่นไร ้เขามักโดนว่าจากการกระทำเช่นนี้อยู่ตลอด เขาไม่ค่อยชอบด่าใครสักเท่าไร ถึงเเม้ตนจะเกลียดผู้นั้นก็ตาม
ประวัติ : เขานั้นไม่ได้พิเศษพิสงอะไรเหมือนคนอื่น พ่อเขาเป็นเเค่พรานป่า ส่วนเเม่ก็ขายของหาบเร่ จิระมัััเดินทางไปตามพ่อทุกครั้งเพราะเเม่ไม่อยู่บ้าน เมื่อพ่อหาของป่าหรือล่าสัตว์ได้ จะเเบ่งกินเเละเเบ่งขาย บางครั้งไม่ได้เพราะว่าสัตว์รู้ทัน จิระอยากเป็นเหมือนพ่อจึงหัดยิงปืน เเละบางครั้งก็ทำขนมไทยไปขายช่วยเหลือครอบครัว จิระทำอาหารเก่งเเละอร่อยมาก วันหนึ่งพ่อเขาได้เสียชีวจากการที่ไปล่าสัตว์ป่าเเละมีช้างตกมันของชาวบ้านกระทืบจนตาย เเม่ก็เเต่งงานใหม่กับมหาเศรษฐี เเละมีลูกสาวสองคน ทั้งสองกลั่นเเกล้งจิระเพราะไม่รู้ว่าเป็นชาย เเละคิดว่าจิระสวย(?)กว่าตนทั้งสอง จิระจึงหนีออกมาอยู่ในป่าที่อันเงียบสงบเหมือนที่ตนเคยมากับพ่อ เเต่เขาดันพบพรานร่างกายกำยำผู้หนึ่ง ทั้งสองได้ทำความรู้จักกัน เเละจิระติดใจชายคนนั้น จึงขอเดินทางด้วยในสถานะ'พี่ชาย'จากนั้นมา เเละจิระได้รับการฝึกการกระทำหลายๆอย่างเป็นยิ่งขึ้น
ความสามารถพิเศษ : ทำอาหาร,ยิงปืน,การต่อสู้ระยะประชิด
อุปกรณ์คู่ใจ : ปืนลูกซอง(ไม่ค่อยใช้) มีดเดินป่า(ใช้ตลอด)
สิ่งที่ชอบ : สัตว์ป่า,ธรรมชาติ,นายพราน
สิ่งที่ไม่ชอบ : สุนักจรจัด,คนหลอกลวง,ทะเล
โรคประจำตัว/แพ้ : อาหารทะเล
งานอดิเรก :---(อยู่เเต่ป่า)
ลักษณะการพูด :อองตองจะเเทนตัวเองว่า ฉัน,ผม เเละเรียกคนอื่นว่า นาย เธอ เรียกนายพรานว่า พี่ชาย
เช่น
"สวัสดีพี่ชาย" พูดเมื่อเจอนายพราน
"วันนีอากาศดีจัง ฟ้าส้วยยยยสวย" พูดเเล้วมองไปดูท้องฟ้า เมื่ออากาศเเจ่มใส
"เเอร่...โทษที พอดีไม่ตั้งใจ" พูดเมื่อทำผิดพร้อมเเลบลิ้น
"รู้ไหม ว่านายน่ะ กำลังโดนอะไร" พูดเมื่อโกรธใครบางคน
เพิ่มเติม : อย่าให้เขาโกรธนะ คุณหัวหบุดจากบ่าเเน่ๆ,นายนี่ท่าจะเตี้ยเเละเล็กสุดด้วยเเละ 164 เซนติเมตร หนัก 39 กิโลกรัม
สถานเรือนจำใหญ่ของชายแดนภาคใต้บรรยากาศอึมครึมเต็มไปด้วยความเศร้าโศกลอยอยู่ในมวลอากาศ เมื่อเดินลึกเข้าไปอีกสักหน่อยก็พบกับห้องกระจกคั่นที่มีแสงสว่างเล็ดรอดเข้ามาดูท่าจะหายใจหายคอได้มากขึ้น เจ้าหน้าที่หน่วยหน้านิ่งผู้นำทางยังคงนิ่งแข็งเป็นหินเช่นเดิม เขาโค้งอย่างนอบน้อมและผายมือไปยังห้องกระจกเบื้องหน้า
"ถึงที่แล้วครับ พลโทชัยวัฒน์จะเป็นคนสัมภาษณ์คุณในวันนี้ขอให้โชคดี"
"อือ ๆ ขอบคุณ หวังว่าไม่หลอกนะ"
เมื่อเจ้าหน้าที่คนนั้นเดินกลับไปทางเดิมแล้ว จิระก็พบกับพลโทที่เพิ่งได้ยินชื่อมาหมาดๆ ช่างผิดหูผิดตากับพล.อ.เสียจริงเขาดูองอาจราวกับราชสีห์ แม้จะมีริ้วรอยแห่งวัยขึ้นบนใบหน้าแต่ก็ดูเกรงขามอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง
"นั่งคุยกันเสียก่อนซิคุณณจิระ"
พลโทยิ้มและนั่งลงเอนหลังราวกับ ณ ตอนนี้เป็นเพียงบทสทนาสบายๆไม่มีอะไรที่จะต้องกังวล ทั้งในปัจจุบัน และอนาคต
"ผมถูกขอร้องโดยตรงจากพล.อ.ให้มาสัมภาษณ์พิเศษดูว่าคุณเหมาะสมกับการเดินทางนี้หรือไม่ ถ้ากังวลว่าผมจะบอกอะไรเขาคุณเลิกคิดไปได้เลย ผมมีหน้าที่บอกแค่คุณ ผ่าน หรือ ไม่ เพียงเท่านั้นจะไม่มีอะไรหลุดไปจากห้องนี้ดังนั้นคุณเป็นอิสระในการพูดได้เลย"
"เข้าใจเเล้วครับ..."
"เอาล่ะ เรามาเริ่มกันเถอะ"
พลโทลุกขึ้นนั่งหลังตรงประสานมือกันไว้บนโต๊ะเบื้องหน้า แววตาของเขาบ่งบอกว่ากำลังจะเข้าเรื่องจริงจังแล้ว ณ บัดนี้
"ก่อนอื่นเลย แรงจูงใจเป็นเรื่องที่สำคัญมาก บอกหน่อยซิว่าทำไมคุณถึงตัดสินใจร่วมคณะเดินทาง"
"เเค่ผมอยากอยู่กับพี่ชายตลอดนี่"
รอยยิ้มอ่านยากปรากฏบนใบหน้าของพลโท ท่าทางเขาไม่สามารถบอกได้เลยว่าตกลงจะให้ผ่านหรือไม่ มันทำให้จิระรู้สึกเบื่อนิดๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็พอเข้าใจได้ว่าเขาอาจะทำไปเพียงแค่ให้รู้สึกสบายใจที่จะยังพูดต่อไป
"แล้วความสามารถของคุณล่ะ อะไรที่ทำให้คิดว่าคุณเหมาะสมและเป็นประโยชน์ในการร่วมคณะครั้งนี้"
"ผมก็เเเค่ใช้มีดเก่ง เเละยิงปืนนิดหน่อยเท่านั้นเอง"
"อืม คุณเป็นคนมีความสามารถนะ"
พลโทพูดยกย่องในความสามารถของจิระ ไม่ผิดเลยที่ผู้นี้เป็นหนึ่งในผู้ถูกเลือกให้เข้าร่วมคณะ แต่แล้วฉับพลัน บรรยากาศก็เปลี่ยนไปเป็นเย็นเฉียบด้วยคำถามอันไม่น่าพิศมัย
"แล้วถ้าคุณไม่มีโอกาสได้กลับออกมาจากป่าใต้ล่ะ"
"อย่าพึ่งคิดถึงอนาคตสิครับ"
พลโทถอนหายใจเฮือก บรรยากาศผ่อนคลายลงเมื่อเขาเอนหลังและหลับตาสักพักหนึ่งก่อนที่จะพูดขึ้นเป็นเชิงให้กำลังใจ
"เอาเถอะ ยังไงก็ตามผมก็หวังว่าพวกคุณจะกลับมาอย่างปลอดภัย"
"ขอบคุณครับที่ให้กำลังใจผม"
เสียงเคาะประตูกระจกดังขึ้นก่อนที่จะมีเจ้าหน้าที่ท่าทางแข็งเป็นหินคนเดิมเข้ามาเสิร์ฟน้ำส้มให้ด้วยท่าทางนอบน้อม พลโทหยิบแก้วแรกขึ้นดื่มและยื่นอีกแก้วให้ชวนดื่มท่าทางใจดี
"ผมคิดว่าผมหมดคำถามแล้ว ขอบคุณที่ให้ความร่วมมือในการสัมภาษณ์"
เจ้าหน้าที่หน้าประตูพร้อมแก้วน้ำส้มทั้งสองที่บัดนี้ว่างเปล่า ยืนผายมือราวกับอยากจะให้แขกออกไปจากที่นี่ซะเต็มแก่ อองตองลุกขึ้นยืนก่อนที่จะเดินกลับทางที่ผ่านเข้ามา ในขณะนั้น พลโทเองก็เหมือนนึกอะไรขึ้นได้
"เดี๋ยว ผมขอถามคำถามสุดท้าย"
"มีอะไรอีกล่ะคะท่าน"
"มันสำคัญเสียด้วย"
พลโทถอนหายใจราวกับนี่เป็นเรื่องที่เขาหนักใจมากที่สุดเมื่อเทียบกับคำถามที่แล้วมา
"การเดินทางครั้งนี้คุณต้องทำงานร่วมกับคนในหมู่คณะอีกหลายๆคน ถึงแม้คุณอาจะยังไม่พบหน้าพวกเขา แต่พอจะบอกได้ไหมว่าคุณมีความพยายามหรือคาดว่าจะเข้ากับพวกเขาได้มากแค่ไหน"
"ผมมั่นใจว่าเราจะเข้ากันได้ไม่ผิดครับ"
เสียงสูดหายใจลึกของพลโทดังไปรอบห้องในเมื่อห้องนั้นเงียบกริบจนได้ยินเสียงพัดลมบนฝาผนังหมุนรอบ เขายกมือไหว้ลาดังมารยาทไทยควรทำและกล่าวลาด้วยคำพูดที่คาดว่าคัดกรองมาดีที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้
"ไม่ว่ายังไงผมหวังว่าพวกคุณจะเข้ากันได้ดี ความสามัคคีเป็นสำคัญโดยเฉพาะภารกิจอันตรายเช่นนี้ ขอให้คุณโชคดีมีชัย"
"ขอบพระคุณอีกครั้งจากใจกระผม"
สวัสดีค่า เรานักเขียนมือใหม่(หรือเรียกได้ว่ากลับมาใหม่//แหะ) นามปากกาคุณช่างฝันนะคะ คุณล่ะชื่ออะไร?
:ชื่อสมิง นามปากกาชิบะสมิงครับ:
ก่อนอื่นเลยขอบคุณที่มาสมัครเรื่องนี้มากๆ ว่าแต่ทำไมถึงเลือกบทนี้หรือเรื่องนี้ล่ะคะ?
:น่าสนใจน่าติดตามครับ มีความเป็นไทย:
สำนวนเราอาจะยังไม่ดีมากสามารถติได้ ส่วนตลค.ก็ขอคัดและวิจารณ์ตามความเหมาะสม ไม่ว่ากันน้าT_T
:ครับผม:
เรื่องนี้วายนะคะ รับได้นะ? ส่วนจะมีผช.คนนึงคู่กับแหม่มเป็นนอมอลคู่เดียวในเรื่อง ถ้าแจ็คพอตโอเคใช่มั้ยคะ?
:เข้าใจเเล้วครับ ผมว่ามันจะวายเพราคะ.ผมหน้าคล้ายหญิงเเหละครับ:
แค่นี้ล่ะค่ะขอให้โชคดีน้า สุดท้ายมีอะไรจะบอกเราหรือตลค.ของคุณมั้ยเอ่ยย
:ติดตามนะครับ :
ความคิดเห็น