ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    永遠に

    ลำดับตอนที่ #1 : b i r d c a g e

    • อัปเดตล่าสุด 21 เม.ย. 63



    [ birdcage ]


    ในกรงนกสีทองแสนสวย มีอาหารเเละน้ำให้ดื่มอยู่เสมอ

    โลกที่สร้างขึ้นมาเพื่อเธอ ทุกสิ่งที่ได้รับและไม่จำเป็นต้องขวนขวายเอามา

    "พ่อให้ลูกได้ทุกอย่าง"

    คำสัญญาของผู้ชายคนนั้น..คำสัญญาที่แลกด้วยบางสิ่ง

    "เพราะถ้าลูกเป็นลูกสาวที่น่าภาคภูมิใจ ลูกก็คู่ควรกับทุกสิ่ง"

    โลกที่เปรียบเสมือนกรงนก กว้างไกล, หากแต่ก็คับเเคบเสียเหลือเกิน..


    ไคโย ทาคาระ คือชื่อของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งอาศัยอยู่ในคฤหาสน์ญี่ปุ่นหลังใหญ่

    เป็นเด็กหญิงหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู ดวงตาของเธอเป็นสีน้ำเงินสดใสเปล่งประกาย ฉายเเววงดงามเฉกเช่นผู้เป็นแม่มาตั้งแต่เด็ก ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเด็กน้อยที่อายุเพียงเจ็ดขวบคนนั้นได้สวมใส่กิโมโนเเสนสวย กรีดรายปรายนิ้วของเธอลงบนเส้นสายของโคโตะ บรรเลงเพลงชั้นยอดออกมาพร้อมริมฝีปากเล็ก ๆ ที่เอื้อนเอ่ยทำนองเพลง ทุกสิ่งทุกอย่างก็ดูเหมือนกับว่า..ได้ต้องมนต์

    เสียงปรบมือดังเกรียวกราวหลังการเเสดงจบลง งานวันเกิดเริ่มต้นได้อย่างสวยงามด้วยการแสดงของเจ้าของงาน เด็กหญิงโค้งกายเคารพผู้ชม ก่อนที่เธอจะเร้นตัวหายไปเบื้องหลังฉาก ทิ้งเสียงพูดคุยสนุกสนานเอาไว้เพียงเบื้องหลัง

    "พี่ทาคาระเก่งที่สุดเลย!"

    ด้านหลังนั้น น้องสาวตัวน้อยกระโดดกอดตัวเธอเสียจนแทบล้มหน้าหงายลงไป หากเจ้าของชื่อ 'ทาคาระ' นั้นก็ได้อ้อมแขนอันอ่อนโยนของใครอีกคนช่วยพยุงเอาไว้เสียก่อนที่ตัวเธอจะล้มลง เมื่อหันกลับไปมอง ก็พบรอยยิ้มหวานของผู้เป็นมารดา

    "เก่งมากจ้ะ ทาคาระ" รอยจูบสัมผัสลงบนหน้าผากแผ่วเบา มือนุ่มนั้นลูบศีรษะเธอทั้งรอยยิ้มซึ่งแทรกซึมไปถึงดวงตา

    ทาคาระยิ้มตอบผู้เป็นแม่ กอดน้องสาวคนรองไว้แน่นขณะที่หันไปหยอกเย้าเล่นกับน้องสาวคนเล็ก หากแต่เมื่อสังเกตดูอีกครั้ง เธอก็พบว่าไม่มีใครอื่นอีกแล้วที่รออยู่ที่นี่เพื่อมอบรอยยิ้มให้หลังการแสดงจบลง

    "คุณพ่อเขาติดงานน่ะจ้ะ"

    และเพราะรู้ว่าต้องเป็นเช่นนั้น, ดวงตาของเธอจึงไม่เคยไม่สั่นไหวเลยแม้แต่น้อย


    ไคโย ทาคาระ คือชื่อของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่เกิดมาในตระกูลอันแสนร่ำรวย

    ตั้งแต่ลืมตาเกิดขึ้นมา ชื่อของ ไคโย ก็ถูกสลักเข้าไปในจิตวิญญาณ เด็กหญิงตัวน้อยที่เติบโตมาท่ามกลางความเพียบพร้อม เงินทองคือสิ่งใกล้ตัว โอกาสคือสิ่งที่ถูกหยิบยื่นให้เสมอ เมื่อทาคาระเอ่ยปากบอกกับผู้เป็นแม่ว่า เธออยากเรียนเขียนพู่กัน เธอก็จะได้เรียนตามนั้น

    ทาคาระสามารถทำทุกอย่างที่ตัวเองปรารถนาได้ ขอเพียงแค่มันออกมาดีล่ะก็

    "ลูกจะได้รับสิ่งต่าง ๆ เมื่อลูกคู่ควรกับมัน" 

    และนั่นคือคำพูดของคนเป็นพ่อที่เธอจำได้แม่นที่สุด เพราะมันเป็นประโยคที่เขาพูดกับเธอบ่อยเสียยิ่งกว่าคำว่า 'อรุณสวัสดิ์'

    เพราะบ้านหลังนั้นมักมีเพียงแค่เสียงไคโตะที่เล่นไปคลอเคลียกับคำร้องจากเด็กหญิง เสียงปรบมือจากผู้เป็นแม่ น้องสาวคนหนึ่งหัวเราะชอบใจ อาโออิชื่นชอบในบทบรรเลงที่ทาคาระขับขาน เช่นเดียวกับนัทสึโกะ, น้องสาวคนเล็กที่แม้จะนิ่งเฉยเสมอ ก็มีดวงตาเป็นประกายตอนที่ได้ยินเสียงร้องเพลงนั้น

    ขาดเพียงเสียงเอ่ยชมจากบิดา หากแต่มันก็เป็นแบบนั้นมานานมากแล้ว..ทาคาระไม่แน่ใจว่ามันเริ่มต้นตั้งแต่เมื่อไหร่ ตอนที่ห้าเธออายุห้าขวบงั้นเหรอ? นั่นสินะ จำไม่ได้เลยว่าตั้งแต่ตอนไหนกันที่พ่อเริ่มจะไม่กลับมาที่บ้านของเราเเล้ว

    บางที..อาจจะเป็นตอนที่แม่คลอดน้องสาวคนสุดท้องออกมา และหมอบอกกับเราว่าเเม่ไม่สามารถตั้งครรภ์ได้อีกเเล้ว

    "คุณพ่อมีงานให้ทำเยอะมากเลยน่ะจ้ะ" นั่นคือคำตอบจากแม่ของเธอเมื่อทาคาระเอ่ยถามถึงผู้เป็นพ่อ "แต่ถึงอย่างนั้นคุณพ่อก็รักพวกเรามากนะ เพราะฉะนั้น ทาคาระก็ไม่ควรไปงอแงให้คุณพ่อเหนื่อยมากกว่าเดิมนะจ้ะ เข้าใจไหม?"

    ถ้อยคำพวกนั้นทำให้เธอเรียนรู้เเละซึมซับ

    แม่ไม่ได้สอนให้ทาคาระโตมาเป็นสาวน้อยบอบบาง และพ่อก็ต้องการให้เธอโตขึ้นมาเก่งกาจมากพอให้รู้สึกภาคภูมิ

    "เพราะถ้าเป็นลูกสาว ถ้าไม่เก่งแล้วก็จะไม่มีค่าอะไรให้สนใจอีก" ใครสักคนพูดออกมาแบบนั้น

    ทาคาระจำไม่ได้ว่ามันเป็นเสียงของใคร ญาติ ๆ มากมายในงานเลี้ยงวันเกิดต่างพากันพูดซุบซิบถึงเรื่องมากมาย แต่ก็มีแค่ประโยคนั้นเท่านั้นที่ติดหูมากยิ่งกว่าคำไหน ๆ เด็กอายุเจ็ดขวบไม่สามารถทำความเข้าใจคำมุ่งร้ายสาดเสียเทเสียพวกนั้นได้ทั้งหมด แต่เพราะทาคาระเป็นเด็กที่ฉลาดกว่าเด็กคนอื่น ๆ เธอถึงรู้ว่า 'ลูกสาว' ที่ว่านั่นก็คือพวกเธอสามพี่น้องนั่นแหละ

    เป็นอย่างนั้นหรือ? ถ้าเกิดว่าเธอไม่เก่งแล้วก็จะไม่มีค่าอะไรอีกเลยจริง ๆ น่ะเหรอ?

    เด็กน้อยก็แค่เพียงสั่นกลัว ไม่อยากถูกทิ้ง ไม่อยากให้ความรักจากผู้ให้กำเนิดจะกลายเป็นความผิดหวัง

    "หนูจะพยายามค่ะ"

    เอ่ยบอกออกไปด้วยแววตามุ่งมั่น คาดหวังไว้ว่าหากเก่งขึ้นกว่านี้ ฉลาดกว่านี้ เป็นเด็กดีมากกว่านี้ เธอก็จะคู่ควรมากพอกับคำชมของผู้เป็นพ่อ

    หากแต่ถึงอย่างนั้น..ความคาดหวังของเธอก็ยังคงแผ่วเบาเเละเเสนเจือจางอยู่เสมอ..

    ทาคาระมองเห็นแค่เพียงแผ่นหลังของผู้เป็นพ่อ

    ต่อให้ได้รับเกียรติบัตรมากมายแค่ไหน หรือกลายเป็นคนที่เก่งกาจไปเสียทุกด้านยังไง — พ่อก็ไม่เคยกอดเธอเลยสักครั้ง


    ไคโย ทาคาระ คือชื่อของเด็กสาวที่แสนสมบูรณ์แบบคนหนึ่ง

    ทาคาระเคยอาศัยอยู่ที่ฮอกไกโด ก่อนจะย้ายมายังบ้านเก่าของคุณพ่อในเกียวโต ที่นั่นบ้านของเราใหญ่โตกว้างขวางมากขึ้นซะจนน่าประหลาดใจ หากก็ยังเงียบเหงา ดังนั้นทาคาระจึงไม่เคยดีใจที่ได้ห้องนอนที่ใหญ่มากขึ้น หรือดีใจกับการได้มีสวนญี่ปุ่นกว้าง ๆ ให้เธอไปนั่งแช่ขาในลำธารเล็ก ๆ เพื่อพักผ่อนหย่อนใจเหมือนอย่างที่เธอเคยคิดว่าอยากจะมี..ว่าไงดีล่ะ? คงเพราะมันเงียบเหงาไปหมดล่ะมั้ง

    ชีวิตวัยมัธยมของเธอเริ่มต้นขึ้นที่นั่น เมื่อตอนที่เธออายุสิบสาม และเเม้ว่าเด็กสาวที่แสนจริงจังคนนี้จะมีเพื่อนน้อยนิดสักแค่ไหน เธอก็ยังพอมีเพื่อนที่สนิทกันมากถึงขนาดว่าสามารถร้องไห้ให้กันได้ในวันพิธีจบการศึกษา

    ดังนั้นในช่วงหนึ่ง, ทาคาระถึงรู้สึกเศร้าเมื่อต้องแยกจากกับคนสำคัญของตนเอง และใช้ชีวิตในโรงเรียนได้ไม่เต็มที่สักเท่าไหร่ จนกระทั่งเวลาผ่านไปเรื่อย ๆ เธอก็พบว่าผลการเรียนของตัวเองออกมาน้อยกว่าที่เคยเป็น ทาคาระรู้สึกใจหาย แต่ก็ไม่ได้รู้สึกแย่มากเท่ากับตอนที่พ่อกลับบ้านมาในรอบเดือนวันนั้น

    "การที่ฉันปล่อยให้เธอเลี้ยงลูก มันหมายความว่าเธอจะปล่อยปละละเลยลูกยังไงก็ได้อย่างนั้นเหรอ?"

    น้ำเสียงที่เย็นเยียบนั่น ถึงไม่ได้เป็นคำที่กล่าวเอ่ยกับเธอ ก็ทำให้รู้สึกชาวาบไปทั่วทั้งหน้า

    ทาคาระทำได้ดีมาตลอด..เธอทำได้ดีเสมอมาอย่างที่พูดจริง ๆ ไม่ว่าจะเรื่องที่พ่อต้องการให้เธอชำนาญ หรือจะเป็นเรื่องที่เธอเลือกเรียนเองด้วยความตั้งใจของเธอเอง ทาคาระก็ไม่เคยผิดพลาด..เว้นแค่ตอนนี้เท่านั้นที่เธอก้าวพลาดไปก้าวเดียวเท่านั้นเอง

    แต่ก็เหมือนว่า..มันจะเป็นการก้าวพลาดที่ใหญ่โตเกินไปสำหรับผู้ชายคนนั้น

    "ทั้งที่ก็ไม่ได้ทำอะไรแท้ ๆ วัน ๆ อยู่แต่บ้าน แต่แค่เลี้ยงลูกให้ดีแค่นี้ทำไมถึงยังทำไม่ได้?"

    ทำไมกันนะ ทั้งที่พ่อก็ไม่ได้พูดถึงเธอ ไม่ได้เป็นคำหยาบอะไรเลยด้วย แต่ทำไมทาคาระถึงได้รู้สึกแย่นัก..

    "ขอโทษค่ะ" ได้ยินเสียงของแม่เอ่ยขึ้นมา "ฉันคงใส่ใจแกได้ไม่ดีพอ"

    ไม่เลย..แม่ดูเเลเธอดีมาซะเสมอ ท่านไม่เคยละเลยเธอสักครั้ง

    ถ้าจะมีคนที่ละเลยไป ก็คงมีแต่พ่อนั่นแหละ

    ทาคาระจำไม่ได้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่เธอเลิกมองแผ่นหลังของผู้เป็นพ่อด้วยความคาดหวัง ว่าเขาจะหันกลับมา กอดเธอเอาไว้ แล้วเอ่ยชมให้แก่ความพยายามทั้งหมดที่เคยผ่านมานี้

    หัวใจเริ่มรู้สึกชาวาบในตอนนั้นเอง..ที่ทาคาระรู้สึกตัวว่าเธอเองก็จำไม่ได้เหมือนกัน ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่เธอมองแผ่นหลังของพ่อด้วยแววตาแตกต่างไปจากเดิมมากมายถึงขนาดนี้

    ความคาดหวังของเธอ..ความรักของเธอ..

    ตอนนี้เป็นเขาเองนั่นที่กลายเป็นความผิดหวังสำหรับเธอ


    ไคโย ทาคาระ คือชื่อของเด็กสาวที่รักครอบครัวมากยิ่งกว่าใครคนหนึ่งจะสามารถรักได้

    "แม่คะ ไปนอนพักก่อนก็ได้นะคะ"

    เสียงของทาคาระในวัยสิบห้าดังขึ้น เธอก้าวเข้าไปในห้องนอนของน้องสาวคนรอง อาโออินอนอยู่บนเตียงและกำลังหลับสนิทจากพิษบาดแผล ขาข้างหนึ่งของเธอใส่เฝือกเอาไว้ เพราะเกิดการผิดพลาดในตอนที่เธอซ้อมกีฬาไอซ์สเก็ตแล้วกระโดดลงมาผิดท่า ความจริงแล้วแม่มักจะคอยไปดูอาโออิซ้อมอยู่เสมอ แต่วันนั้นเเม่ก็แค่ละสายตาออกไปแป๊บเดียว ลูกสาวตัวเเสบของเธอก็ทำใจกล้าทดลองท่าใหม่ทั้งที่คุณครูยังไม่อนุญาตแท้ ๆ

    สุดท้ายผลก็ลงเอยแบบนี้ แล้วก็กลายเป็นหญิงสาวที่ไม่ยอมห่างตัวลูกสาวคนรองอีกเลยตั้งแต่วันนั้น

    "ไม่ได้หรอกจ้ะ" เสียงของแม่ฟังดูแหบ เหนื่อยล้ากว่าที่เคยได้ยินมาตลอด "..แค่แม่เผลอคลาดสายตาจากอาโออิไปนิดเดียว ลูกคนนี้ก็ซนเสียจนได้เรื่อง..ถ้าอย่างนั้นจะให้แม่กล้าละสายตาออกไปอีกได้ยังไงล่ะ"

    หญิงสาวดูโศกเศร้า ใบหน้าอิดโรยจากการไม่ยอมหลับพักผ่อน เอาแต่คอยดูเเลลูกสาวตัวน้อยไว้ไม่ห่าง แถมยังกังวลทุกข์ใจ กินอะไรไม่ลงจนซูบผอม

    ทาคาระรู้ว่าไม่ใช่แค่เพราะความเศร้าที่ปล่อยให้ลูกตัวเองบาดเจ็บ..แต่มันเป็นความกังวลว่าเมื่อตอนที่พ่อกลับมาถึง แม่อาจจะโดนพ่อดุว่าอีก..

    หญิงสาวคนนั้นรักสามีของเธอมาก

    มากพอจะยกโทษให้กับทุกการหมางเมิน และมากพอจะเสียใจกับทุกคำว่าร้ายที่เขาเอ่ยให้เธอได้ยิน

    หากทาคาระไม่ใช่ผู้หญิงคนนั้น เธอไม่ได้รักพ่อมากถึงขนาดจะทนมองพฤติกรรมต่าง ๆ ของเขาที่เธอเพิ่งเริ่มมาเข้าใจว่ามันเลวร้ายแค่ไหนให้เป็นเพียงเรื่องธรรมดา และคนที่ทาคาระรักมากจนไม่อยากให้เจ็บก็ไม่ใช่พ่อ..แต่เป็นแม่และน้องสาวทั้งสองของเธอเอง

    "เดี๋ยวหนูดูน้องให้เองนะคะ แม่ไปพักเถอะ"

    "ไม่ได้จ้ะ แม่ไปรบกวนเวลาของทาคาระไม่ได้หรอก"

    แต่แม่ก็ไม่เคยรู้หรอก ว่าตอนนี้ความรักของเเม่ที่มีต่อผู้ชายคนนั้นกำลังทำให้เธอตายทั้งเป็น

    และแม่ก็ไม่เคยรู้..ว่าทาคาระเสียใจเเค่ไหน ที่ไม่กล้ามาพอจะเรียกสติแม่ของเธอเองให้หันกลับมามองความเป็นจริงได้แล้ว

    'คน ๆ นั้นเขาไม่กลับมาหรอก เขาไม่มีวันจะรักเราเหมือนอย่างที่แม่หวัง'

    ให้ตายยังไงเธอก็ไม่มีวันกล้าพูดถ้อยคำที่ทำร้ายน้ำใจผู้เป็นแม่ได้ลง

    สุดท้ายเเล้วทาคาระก็ยังได้แต่นิ่งเฉยกับความบิดเบี้ยวของความรักที่เห็น เธอทำได้เพียงแค่มองผู้เป็นที่รักคนหนึ่งผุพังแตกสลายลง และมองคนที่ครั้งหนึ่งก็คือความรัก แต่กลายเป็นความผิดหวังที่กำลังกัดกินทั้งเเม่และตัวเธอเงียบ ๆ

    เพราะพ่อไม่เคยหันมา แต่แม่ก็ไม่เคยเลิกรอความรักจากเขา

    ความอดทนของทาคาระเองก็คงอยู่ได้เพราะเเม่ยังคงหวัง ยังคงรอว่าวันหนึ่งจะสามารถได้ยินคำว่ารักจากปากของผู้เป็นสามี

    หากแต่แล้วความอดทนทั้งหมดก็ขาดสะบั้น 

    "ฉันกำลังจะแต่งงานใหม่"

    นั่นคือคำที่เขาพูดออกมาหลังจากที่ครอบครัวเราไม่ได้เจออยู่กันพร้อมหน้ามาเกือบครึ่งปีเต็ม


    ไคโย ทาคาระ คือชื่อของเด็กสาวที่เจ็บปวดกับความโง่งมของเธอเอง

    กลิ่นกำยานลอยฉุนกึกอยู่ในจมูก ดวงตาสีน้ำเงินคู่สวยเคยเปล่งประกายมากกว่าที่เป็นอยู่ หากวันนี้กลับดูหม่นหมองและเจ็บปวด ร่างกายสวมใส่กิโมโนสีดำสำหรับพิธีศพสุภาพเรียบร้อย ทาคาระทำพิธีทำความเคารพศพด้วยใบหน้านิ่งสนิทราวกับหุ่นกระบอก

    เมื่อก้มลงกราบเคารพ และเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง — เธอสบตาเข้ากับหญิงสาวในกรอบภาพถ่าย

    เธอคนนั้นเคยงดงาม เคยมีรอยยิ้มที่เปล่งประกายนัก

    กระทั่งวันนั้น..วันที่ชายผู้ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีกลับมาที่บ้าน เพื่อบอกให้เธอรู้ว่า เขานั้นกำลังจะเเต่งงานใหม่กับหญิงสาวอีกคนหนึ่ง

    หญิงสาวผู้รอคอยความรัก หญิงสาวผู้หวาดกลัวว่าจะถูกสามีเกลียดชัง เธอไม่สามารถโต้เเย้งอะไรได้เลย วันนั้นเเม่นั่งเงียบตลอดมื้ออาหาร เข้านอนไปเหมือนกับทุก ๆ วัน เเล้วตื่นขึ้นมาเพื่อรับรู้ว่าสามีของเธอได้ออกไปจากบ้านหลังใหญ่นี้แล้วโดยไม่มีแม้แต่คำลา

    ทาคาระไม่ได้ยินเเม่พูดอะไรอีกเลยตั้งแต่วันนั้น..เธอไม่เห็นแม่แตะอาหารหรือน้ำ ไม่เลยสักอย่างแม้ว่าเธอจะอ้อนวอนขอให้หญิงสาวกินมันเข้าไปก็ตาม

    ร่างกายของแม่ผ่ายผอมลงเรื่อย ๆ มากจนเห็นกระดูก ไม่สะสวยเหมือนอย่างเดิม หากก็ยังเป็นแม่ของเธอ

    เป็นแม่ที่เธอและน้อง ๆ นอนกอดอยู่ข้าง ๆ เพื่อหวังให้กำลังใจ — แต่เมื่อตื่นเช้าขึ้นมา ก็เหลือเพียงแค่กายเปล่าไร้วิญญาณ

    แม่ตายเพราะตรอมใจ

    เจ็บปวดเพราะผู้ชายคนนั้นจนกระทั่งวินาทีสุดท้ายของลมหายใจเเม่เอง

    "ทาคาระ"

    เธอได้ยินเสียงเรียกชื่อของเธอ ทาคาระเห็นใบหน้านั้น เเต่เธอนึกไม่ออกว่าเขาเป็นใคร

    ชายคนนั้น เรือนผมสีดำแซมดอกเลา ดวงตานิ่งสงบที่ไม่เคยฉายความรักใด ๆ ต่อทั้งเธอ น้อง ๆ หรือกระทั่งกับแม่ ฝ่ามือหยาบจากการทำงานของเขาไม่อบอุ่นเอาเสียในตอนที่เขาวางมือลงบนกลุ่มผมของเธอ

    "อยากไปอยู่กับพ่อรึเปล่า"

    ร่างกายของเธอรู้สึกเหมือนเย็นเฉียบ

    "แค่ลูกที่พ่อรู้ว่ามีค่ายิ่งกว่าใคร ๆ"

    รู้สึกเหมือนโดนมีดกรีดซ้ำ ๆ ลงบนอก ทรมานจนแทบหายใจไม่ออก

    "..พอเถอะค่ะ.."

    น้ำตาไหลออกมาในท้ายสุด เสียงของเธอที่เอ่ยออกไปนั้นสั่นระริก ทั่วทั้งร่างสั่นไหว ทาคาระไม่เหลือแรงมากพอจะขยับถอยหนีฝ่ามือที่ทำให้เธอรู้สึกหนาววาบไปทั้งตัวนั้นด้วยซ้ำ เธอทำได้แค่ก้มหน้ายืนร้องไห้อยู่เเบบนั้น ขยุ้มชายกิโมโนจนมันยับยู่ไปหมด

    "ปล่อยพวกเราไปสักที"

    คำขอสุดท้ายของเธอ ต่อเจ้าของกรงนกสีทองนี้

    "อย่าให้เราต้องเสียใจเพราะความใจร้ายของคุณอีกเลยนะคะ.."

    เธอจำไม่ได้ว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอคือใคร

    เขามีใบหน้าที่คุ้นเคย มีน้ำเสียงที่เธอเคยได้ยินบ่อย ๆ หากแต่เขาก็ไม่ใช่คน ๆ นั้น

    เพราะพ่อของเธอ..ตายไปตั้งแต่วันที่เขาเลือกหันหลังให้กับพวกเราในตอนที่เธออายุห้าขวบเเล้ว


    ไคโย ทาคาระ คือชื่อของผู้หญิงคนหนึ่ง

    เป็นแค่ผู้หญิงธรรมดา ๆ ที่บังเอิญเกิดมาในครอบครัวร่ำรวย เป็นแค่ผู้หญิงที่จริงจังไปกับทุกเรื่อง มีดวงตาสีน้ำเงินคู่สวย และมันมักเป็นประกายระยิบระยับงดงามเสมอเมื่อได้อยู่กับของที่เธอชื่นชอบยิ่งกว่าอะไรอย่างดนตรีหรือโคโตะเครื่องนั้น

    เธอเป็นผู้หญิงธรรมดา ๆ..ที่ตอนนี้อาศัยอยู่ภายในบ้านหลังโตพร้อมกับน้องสาวอีกสองคน

    "อาโออิ นัทสึโกะ ได้เวลาตื่นนอนแล้วนะคะ"

    ทำหน้าที่แทนเธอคนนั้นที่จากไปแล้ว และจะพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุดเสมอต่อไปในชีวิตของเธอเพื่อไม่ให้ผู้เป็นแม่เสียใจอยู่บนนั้น


    ทาคาระเป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่งที่มองเห็นความเจ็บปวดของความรัก

    เพราะแบบนั้นจึงหวาดกลัวในความผิดหวังจากรัก..หากแต่ก็ปรารถนาจะได้รับความรักที่สมบูรณ์พร้อมที่สุด

    ความรักที่เราทั้งสองเป็นที่หนึ่งของกันเเละกัน ความรักที่จะอยู่ด้วยกันไปให้นานตราบนานเท่านาน..


    "ฉันจะสามารถคาดหวังกับชมรมนัดบอดได้จริง ๆ น่ะเหรอคะ อาคาชิคุง"

    เด็กสาวนั้นเอ่ยถามออกไปต่อรุ่นน้องมากความสามารถตรงหน้า ภายในห้องเรียนยามเย็น ตัวโชงิถูกเคลื่อนด้วยปลายนิ้วของเขา ดวงตาที่หลบซ่อนอยู่หลังเส้นผมสีแดงวาวระยับขึ้นมาชั่วขณะ พร้อมกับรอยยิ้มอ่านยากของเขาที่ยกแย้มขึ้นประดับ

    "ทาคาระซังเชื่อในเรื่องโชคชะตารึเปล่า?"

    ปลายคิ้วขยับขมวดเข้าหากัน ทาคาระหรี่ตาลงเล็กน้อยราวกับกำลังจับผิดคนตรงหน้า

    "ไม่ได้เชื่อ แต่ก็ไม่ได้คิดว่าไร้สาระหรอกค่ะ"

    และคำตอบของเธอก็ทำให้เขายิ้มออกมา อาคาชิ เซย์จูโร่ วางหมากตัวหนึ่งลงบนหน้ากระดาน และเมื่อเธอหลุบตาลง ทาคาระก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาเมื่อพบว่าตัวเองแพ้เกมกระดานหมากนี้อีกแล้ว

    "ผมรู้จักคน ๆ หนึ่งที่ดูจะเข้ากับคุณได้ดี" 

    เด็กหนุ่มเอ่ยออกมาพลางเงยขึ้นสบตากับเธอ หากตั้งแต่วันนั้นจนถึงตอนนี้..ทาคาระก็ไม่ได้เข้าใจในสิ่งที่อีกฝ่ายพูดออกมาในตอนหลังนั้นอยู่ดี

    "..แต่ว่าเขาจะเป็นโชคชะตาของทาคาระซังรึเปล่า..เรื่องนั้นก็คงบอกไม่ได้หรอกนะ"


    __TBC?__

    B
    E
    R
    L
    I
    N
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×