ถ้าผมอ่อนนัก ก็ขอเข้มซะบ้าง! (ลงใหม่ค่ะ) - ถ้าผมอ่อนนัก ก็ขอเข้มซะบ้าง! (ลงใหม่ค่ะ) นิยาย ถ้าผมอ่อนนัก ก็ขอเข้มซะบ้าง! (ลงใหม่ค่ะ) : Dek-D.com - Writer

    ถ้าผมอ่อนนัก ก็ขอเข้มซะบ้าง! (ลงใหม่ค่ะ)

    ผมหลงรักเธอ แต่เธอดันมีแฟนแล้ว T ^ T แล้วความรักของผมจะสมหวังมั้ยนี่ (ติดตามได้ในเรื่องเลยค่ะ)

    ผู้เข้าชมรวม

    436

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    436

    ความคิดเห็น


    3

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  22 มี.ค. 49 / 15:16 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      SherrY WonG

       

      ถ้าผมอ่อนนัก ก็ขอเข้มซะบ้าง!


      โรงเรียนมัธยมต้นแห่งหนึ่งในโตเกียว  ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ผม  ยามาโมโตะ  ทาคุมะ  เรียนอยู่ใชั้ม.3

               “ฮะๆๆๆ  คานะจังอย่าพูดเล่นแบบนั้นสินี่คือเสียงที่ผมมักจะได้ยินบ่อยๆ จากที่นั่งหลังสุดริมหน้าต่าง  ทุกครั้งที่ได้ยินเสียงเธอแว่วมาจากแถวหน้าสุดริมประตู ผมก็อดที่จะมองเธอไม่ได้ เธอเป็นคนร่าเริงสดใส เข้ากับเพื่อนๆทุกคนได้ดีผิดกับผมที่เป็นหนุ่มขี้อาย ไม่ค่อยมีเพื่อน ทำไมผมถึงมองเธอน่ะหรอ ก็เพราะผมหลงรักเธอนะสิ เธอชื่อ  อามาโนะ  เซนะ  แต่ความรักของผมคงเป็นไปได้ยาก ก็เพราะ.............

                  มาซายะคุง  คานะจังชวนไปสวนสนุกวันอาทิตย์นี้แหนะ”  มาซายะที่เธอเรียกนั้นก็คือแฟนของเธอเอง ผมจึงบอกว่าความรักของผมเป็นไปได้ยากไงล่ะ  
      ส่วนคานะก็เป็นเพื่อนสนิทของเธอ

                  เอาล่ะ  นักเรียนนั่งที่ให้เรียบร้อย  วันนี้ครูจะจัดที่นั่งใหม่ให้

                  หวัดดีจ้ะ ยามาโมโตะคุง

                  คะ........ครับ  อามาโนะผมแทบไม่อยากเชื่อ  ขอบคุณอาจารย์  ที่ให้ผมได้มีโอกาสได้นั่งคู่กับ
      อามาโนะ   เซนะ  
      แบบนี้

                  เอ้า เงียบๆหน่อยนักเรียน  ตอนนี้ก็ใกล้จะเรียนจบม.ต้นแล้ว  ครูอยากให้นักเรียนเขียนถึงความฝันของตัวเองหลังเรียนจบ กำหนดส่งก่อนปิดเทอม

                  ครับ / ค่ะ

                  ยามาโมโตะคุง  ความฝันของนายคืออะไรหรอ

                  อ่ะ......เอ่อ.....ช่างภาพครับ”  ผมแทบวางตัวไม่ถูก  
      นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ได้คุยกับเธอแบบนี้

                  อะโห ช่างภาพงั้นหรอ  เป็นความฝันที่ดีนะ แต่ฉันสิฝันว่าอยากเป็นเจ้าสาวที่มีความสุข แหะๆ เหมือนเด็กเลย

                  ไม่หรอก น่ารักจะตาย ความฝันน่ะ มันสำคัญสำหรับทุกๆคน เด็กหรือไม่เด็กน่ะไม่เกี่ยวหรอก เพียงแค่มีความฝันที่ดีก็ดีแล้วล่ะ

                  ขอบใจมากนะ  หึหึ  มีกำลังใจขึ้นมาเยอะเลยล่ะ แล้วนายก็ทำความฝันของนายให้ได้นะ แล้วมาถ่ายชุดเจ้าสาวให้ฉันด้วยล่ะ”  งั้นเจ้าบ่าวของเธอคงเป็น  ซาไค มาซายะ
      สินะ

                  ได้เสมอถึงผมจะไม่ได้เป็นเจ้าบ่าวของเธอ  แต่ขอเพียงเธอมีความสุขก็เพียงพอ T-T 

                  ตรงนั้นคุยอะไรกัน  ออกไปยืนหน้าห้องเดี๋ยวนี้ทั้ง 2 คน

                  โธ่  อาจารย์คะ  หนูแค่ถามเรื่องความฝันเองนะ

                  ผมเป็นคนชวนคุยเองแหละครับ ลงโทษแค่ผมคนเดียวก็พอ

                  ยามาโมโตะคุง  เธอเป็นคนเงียบๆนี่น่า ครูรู้ว่าเธอไม่ได้เป็นคนชวนคุย แต่ครูจำเป็นต้องให้เธอ 2 คน ไปยืนหน้าห้อง

                  ครับ  /  ค่ะ

                  ขอโทษนะที่ต้องทำให้นายถูกทำโทษไปด้วย

                  มะ........ไม่หรอก  ผมก็คุยด้วยนะแหละ เธอไม่ผิด” - -;

                  *-*ช่วงพักกินข้าว*-*

                  เซนะ ไปทานข้าวกันซาไค มาชวนอามาโนะไปทานข้าวกันประสาแฟนกัน  
      ทำเอาใจผมเจ็บเหมือนโดนหนามแทง

                  จ๊ะ.... ยามาโมโตะคุงไปด้วยกันมั้ย

                  อ่า......ไม่ล่ะ

                  งั้นเหรอ ฉันไปก่อนล่ะนะ
      จากนั้นเธอกับซาไคก้เดินตรงข้างหน้าไปทางโรงอาหาร

                  เซนะ ความฝันเธอคืออะไรน่ะ
      ซาไคถามขึ้น

                  เป็นเจ้าสาวที่มีความสุขจ๊ะ

                  หา อะไร ฮะๆๆ เด็กชะมัดยาด ต้องแบบคานะจังสิ ฝันอยากเป็นนักบันเล่โหเจ้าซาไค ช่างไม่มีหัวใจ หัวเราะแฟนตัวเองแล้วไปชมหญิงอื่น ถ้าเป็นผม
      ผมไม่ทำแบบเจ้านี่แน่

                  “......เด็กงั้นหรอ.....แล้วซาไคล่ะจ๊ะ คงเหมือนเดิมนะ
      สีหน้าของอามาโนะเศร้าขึ้นมาแล้วสิ

                  ใช่อยากเป็นช่างภาพเฮ้ย
      เหมือนผมเปี๊ยบ

                  ยามาโมโตะคุงก็ฝันงั้นเหมือนกันฮะๆ
      แอบดีใจนิดๆในใจ

                  เจ้านั้นน่ะหรอ  อ่อนปวกเปียกแบบนั้นน่ะนะ ฮะๆๆ ยังไงภาพฉันก็ต้องสวยกว่าภาพของมันแน่เฮ่ย มาว่าคนอื่นแบบนี้ได้ไงกันฟะ  ดูถูกกันชัดๆ  
      ชักจะไม่ชอบหน้าไอ้หมอนี่แล้วสิ

                  มาซายะคุงทำไมไปว่า.....

                  อ๊ะ  นั้นคานะแฟนพูดไม่ทันจบดี ก็วิ่งไปหาหญิงอื่น  นายรักแฟนนายหรือเปล่าวะเนี่ย ปล่อยให้แฟน
      เดินตามหน้าเศร้าแบบนี้ น่าเห็นใจอามาโนะจัง

                 ผ่านไปได้ซักพัก

      ซ่า ~ เฮ้ยใครมารดน้ำใส่หัว  
      อึ๋ย นี่มัน ราเมงนี่!

       

      วะฮ่ะๆๆๆ  สมน้ำหน้ามันว่ะเสียงนี้มัน

                  ซาไค!!

                  ไงเจ้า ยามาโมโตะ  โทษทีนะทีทำราเมงรดใส่หัวนาย  แต่ก็เหมาะกับนายดีนี่ ฮะๆๆ

                  แกทำแบบนี้เพื่ออะไร

                  แกคิดจะมาแย่งแฟนชาวบ้านน่ะสิ  โดนแบบนี้จะได้สำนึกซะมั่ง ไอ้อ่อนเอ๊ย
      ตัวผมแทบจะลุกเป็นไฟ ผมกำหมัดแน่น

                  ว่าไง จะชกเหรอ ชกสิถ้าคิดว่าจะรอด

                  แกรักอามาโนะจริงรึเปล่า

                  อะไรวะ  ถามไม มันไม่เกี่ยวกับแก

                  ผมเป็นห่วงอามาโนะ  ผมรักเซนะ!

                  ไอ้นี่  วอนหาที่ตายซะแล้วแก
      จากนั้นซาไคก็เข้ามาต่อยหน้าแบบไม่ยั้งมือ กะจะให้ผมตายซะแบบนั้น

                  เฮ่ยๆๆ อาจารย์ มาโว้ย เผ่นเถอะว่ะ

                  เอ่อว่ะ  เดี๋ยวคราวหน้าจะมาสานต่อ

                  หนีไวจริง เจ้าพวกนั้น  เอ้า  เธอไปห้องพยาบาลเถอะ
      อาจารย์เข้ามาพยุงตัวผม

                  ฮะ ขอบคุณมากฮะ อาจารย์

                      โอ๊ย!โยยๆ......มือหนักเป็นบ้าเลย หน้าเบี้ยวบูดบวม แหง๋มๆ คิดแล้วแค้น > <

                  ทาคุมะคุง! ใครทำเธอน่ะ จะทำแผลให้นะฮ้า  นางฟ้าของผมมาช่วยแล้วล่ะ  แต่ดูแล้วผมช่างไม่เท่เอาเสียเลย  
      อ่อนแอซะขนาดนี้

                  ใครกันนะที่ใจร้าย  เลวทราม  นิสัยเสียเธอบ่นขณะใส่ยาที่แก้มผม ก็แฟนเธอน่ะแหละที่เป็นคนชกผมจนมีสภาพหน้าบวม  
      เสียหล่อหมด อิอิ

                  อามาโนะซัง

                   จ๊ะเฮ้ย! เงยหน้าขึ้นมาทำไม  อ๊าก  หน้าใกล้มาก  ตึกตัก  ตึกตัก  ไม่ๆอย่าทำอะไรบ้าๆนะเรา  สงบจิตสงบใจไว้ก่อน  --- /|\ --- นะโมนะโมนะโม   ก้นหน้าดีกว่า (_  _)  หงึก 

                  ทำไมเธอถึงได้ชอบ ซาไค

                  หา?”

                  อ่ะ  ขอโทษ ถ้าเป็นเรื่องที่บอกไม่ได้ก็ไม่เป็นไร

                  ไม่ใช่คือตกใจน่ะ ก็อยู่ๆ ก็ถามขึ้นมานี่นา  ส่วนเหตุผลที่ชอบมาซายะคุง ก็คือ เมื่อตอน ป.6”


                  ฮื่อๆๆๆ  มีความฝันที่อยากจะเป็นเจ้าสาวที่ มีความสุขมันเด็กตรงไหนกันนะ

                     โรงเรียนประถมที่ฉัน  อามาโนะ เซนะ  เรียนอยู่  ฉันนี่แหล่ะ  ที่เป็นคนร้องไห้  อย่าเห็นฉันเป็นคนร่าเริงตลอดเวลานะ  เมื่อก่อนน่ะ ฉันขี้แยจะตายไป  
      แต่คนที่ทำให้ฉันเป็นคนสดใสแบบนี้ได้ ก็คือเขานี่แหละ

                  อย่าร้องสิ  ความฝันทุกความฝันเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับแต่ละคน  ถ้าเราท้อถอยก็ทำความฝันไม่สำเร็จ เพราะฉะนั้นอย่าเสียใจกับแค่คำพูดลอยๆนั้น  เพียงแค่เรารักความฝันของเราและมุ่งหวังว่าจะทำให้สำเร็จก็ยิ่งใหญ่ น่านับถือแล้วล่ะ”  เขาที่ฉันในตอนนั้นไม่รู้ว่าเขาคือใครเดินมาจากด้านหลังแล้วเอามือมาปิดตาฉันแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนกับข้อความที่ทำให้ฉันหยุดน้ำตาได้ทันที  เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่มีคนพูดกับฉันแบบนี้ ทำให้ฉันอยากจะสู้ต่อไปกับความฝันของตัวเองและจะไม่ใส่ใจกับคำพูดสบประมาทของเพื่อนๆอีก     ในตอนนั้นเขาได้ให้รูปถ่ายใบนึงกับฉัน  ทิ้งไว้ให้เป็นของดูต่างหน้า  ใบนั้นถ่ายได้สวยงามมากจนฉันประทับใจตั้งแต่แรกเห็น  ฉันอยากขอบคุณผู้ชายคนนี้มาก  แต่พอหันหลังกลับไปก็ไม่เจอใครซะแล้ว  ฉันมองดูรูปอีกที  เป็นรูปพระอาทิตย์ขึ้นดวงโตอยู่บนเส้นขอบทะเลที่ไร้สิ้นสุดมีคู่บ่าวสาวเปี่ยมด้วยรอยยิ้มยืนอยู่ท่ามกลางตะวันที่สวยงาม  ทะเลส่องแสงระยิบระยับ  
      ใครเป็นคนถ่ายกันนะ

                    หลังจากนั้นไม่นาน  เพื่อนร่วมห้องเดียวกันของฉัน ชื่อ ซาไค  มาซายะ  เขาถ่ายรูปพระอาทิตย์ขึ้นตรงชายหาดทะเลตอนไปทัศนศึกษากัน  
      ฉันไปเห็นเข้าโดยบังเอิญ

                  มาซายะคุง  ทำอะไรหรอจ๊ะ

                  เซนะจัง  ตื่นเช้าจัง  ถ่ายรูปพระอาทิตย์ขึ้นนะ

                  นี่ไงล่ะ  สวยมั้ยรูปถ่ายที่เขายื่นให้ มันคล้ายกับรูปของเด็กคนนั้นมากเลย  
      ฉันเลยมั่นใจว่าเขานี่แหละคือคนที่มาปลอบโยนให้กำลังใจฉันในตอนนั้น

                  เซนะจัง  คือ รูปนี้ผมให้นะ  แล้วก็ ผมๆ ผมรักเซนะ!

                  มาซายะคุง ฉัน ฉันน่ะ ฉัน

                  เธอไม่รักผมสินะ

                  ไม่นะ!  ฉันรักมาซายะคุงเหมือนกันจ๊ะ



                  จากนั้นพวกเราก็คบกันมาตลอดจนถึงตอนนี้”  เธอเล่าให้ผมฟังหมดแล้ว

                  เธอแน่ใจหรอว่าเด็กคนนั้นคือซาไค

                  แน่ใจสิ

                  ทั้งที่เจ้าซาไคมันล้อว่าความฝันของเธอเด็กน่ะเหรอ

                  ฉันไม่รู้

                  ขอโทษนะ  ที่ทำให้เธอเครียดนะ  ร่าเริงเข้าไว้ เดี๋ยวเป็นเจ้าสาวแล้วไม่สวยนะ

      ห๊ะ! ยามาโมโตะคุง เดี๋ยวนี้พูดมากขึ้นนะ ว่าคนเป็นแล้วหรอฮ้า ดีจังที่เธอกลับมาเป็นคนเดิมที่ร่าเริงของผม ( ซะที่ไหนล่ะ  
      ฮ่าๆ )

                  อามาโนะที่ร่าเริงแบบนี้สิถึงจะน่ารัก
      อ๊าก หน้าแดงแล้วน่ารักยิ่งขึ้นอีก

                  อย่าพูดแบบนั้นสิ  เดี๋ยวนี้ก็ปากหวานขึ้นนะ เดี๋ยวสาวๆก็หลงกันหรอกฮะๆ แก้เขิน  แก้เขิน  
      หน้ารักเกินไปแล้ว

                  เอ้า ฮึบ  เรียบร้อยเธอเก็บกล่องยาเข้าตู้พยาบาล  แต่แล้วก็เกิดเหตุ  เมื่อเธอเผลอดึงตู้พยาบาลอันมหึมาจนตู้โซเซจะมาทับตัวเธอ  ยังงี้ต้องมีพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยซะแล้ว  ม้าขาวอยู่ไหนนะ อยู่ไหน  เอ๊ย! ไม่ใช่  
      ต้องวิ่งไปกันตู้ให้ตางหากล่ะ

      ผลึบ  
      ปัง!

                  “ save – เฮ้อเฮ้อ  นึกว่าจะไม่รอดแล้วเรา  อะฮ้า  นึกว่าจะไม่มีแรงเสียงอีก  ที่แท้ก็แข็งแรงซะไม่มี  (
      ยอตัวเองซ้า )

                  ทาคุมะคุง  เป็นอะไรหรือเปล่า”  
      หา เธอเรียกชื่อผมแล้ว

                  ฮ่าๆ ไม่เป็นไรครับผม

                  ไม่เป็นไรจริงๆนะ  ไหนขอดูหน่อยจ้าก....โป๊ก  โอย  คราวนี้เจ็บตัวอีกแล้ว  หัวผมชนโดนตู้ซะแล้ว  โอ  มึน ก็เพราะอามาโนะ อยู่ดีๆก็ถลาเข้ามาชนผมน่ะสิ จนหัวผมไปชนโดนตู้ไง
      ผมลงไปทรุดกับพื้นเลยล่ะ

                  ว้าย ขอโทษๆๆ

                  ไม่เป็นไรหรอก  เฮ้ย!จุ๊บ


      นี่อยู่ในสถานการณ์อะไร  ช่วยบอกหน่อย  นี่เราจูบกันงั้นหรอ! อ๊ากก!

      ป.ล.ค่ะ อามาโนะเหยียบโดนขวดยาจนเซล้มลงมาปากชนกับทาคุมะน่ะซี้

                  กรี๊ดดดดด!!!เหวอ ~ ละจากริมฝีปากของเธอได้แล้ว  แต่เธอสิตะโกนใส่ดังลั่น จนแก้วหูแทบแตก

                  ขอโทษนะ  ฉันมันคนซุ่มซ่ามก็เลย.......ฮือ........จูบแรกของฉัน”  หา  
      จูบแรกงั้นหรอ.......

                  คือ  เอ่อ  มันเป็นอุบัติเหตุน่ะนะ   คิดซะว่าจูบกับแมวละกันนะ”  จะทำยังไงดีล่ะเนี่ย  จูบแรกของเธอแท้ๆ  แต่ว่า  หรือนี่จะเป็นโชคดีของเรา  เฮ้ย  บ้าน่า  
      คิดบ้าๆ

                  เซนะ! จะเข้าเรียนแล้วไปกันเถอะไอ้นายซาไค  แกมันคนตีสองหน้า  อยู่ที่โรงอาหารวางก้ามเป็นกุ๊ยข้างถนน  พอมาอยู่ต่อหน้าแฟนก็เปลี่ยนท่าทีซะสุภาพบุรุษ  
      หมั่นใส้

                  ไปก่อนนะจ๊ะ  ทาคุมะคุง”   

                  ครับ  เซนะจัง”  ชักอยากควักลูกตาของไอ้หมอนี่จริงๆเลย  มองค้อนนัก  จะเดินออกจากห้องไป ยังจะมองค้อนอยู่อีก  เดียวสักวันจะค้อนกับบ้าง  เอาค้อนจริงๆนี่แหละ  ทุบให้ตาทะลักเลย.....นี่ผมกลายเป็นคนแบบนี่ไปเมื่อไหร่กันเนี้ย     หลังจากที่ทั้งคู่เดินออกจากห้องพยาบาลไป  ผมก็เดินตามออกมาพร้อมที่จะเข้าเรียน  แต่แล้วไม่ทันได้ก้าวออกพ้นประตู _ _!!!

                  โอ๊ย!”  ผมรู้สึกจุกที่ท้องขึ้นมาทันที  เพราะผมโดนชกเต็มๆน่ะสิ  
      แถมยังโดนคนเอาผ้ามาปิดปากปิดจมูกเอาไว้ซะอีก

                  อุ๊บ! ฮึ  อึก........”  ไม่ไหวแล้วหัวผมมึนไปหมด  ทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้ามามันหมุนไปหมุนมา  
      แล้วก็รู้สึกว่าตัวผมลอยขึ้น

                  เฮ้ย  ‘จารย์มาว่ะ / ไรวะ มาอีกละ  ไปทางหน้าต่างนั่น”  นี่คือสิ่งที่ผมได้ยินก่อนที่จะสลบไสลไปอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว  ทุกสิ่งมืดมัวไปหมด  
      ผมจะตายมั้ยเนี่ย

                  ~ ในห้องเรียน ~

                        มุมหนึ่งของห้อง  หญิงสาวผู้ร่าเริงที่ตอนนี้กลับนั่งหงอย  เหม่อลอย  และใช้ปลายนิ้วแตะที่ริมฝีปากตนเองเบาๆ

                  ฉันจูบเขางั้นหรอหญิงสาวนามเซนะ  นั่งคิดทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้น  
      และหน้าแดงขึ้นซะตื้อๆ

                  “(> <  ) (  > <)  ( ส่ายหน้า ) ไม่น่าอุบัติเหตุเองน่า.....แล้วทำไมตอนนี้ยังไม่กลับมาสักทีนะเซนะ  หันรีหันขวางหา หนุ่มที่ถูกตนเองจูบ ( โดยบังเอิญ ) โดยมีสายตาของหนุ่มผู้หึงหวงและชอบใช้กำลัง ( ซึ่งเซนะไม่รู้ว่าเขาน่ะ อารมณ์ร้ายมาก )  
      มองสังเกตุจากด้านหลังที่นั่งคู่กับคานะเพื่อนสนิทของเซนะ

                      ท่าทางของเซนะนั้น  ทำให้ซาไค มาซายะผู้นี้หงุดหงิดมากๆ  เพราะท่าทางที่เหม่อลอย ฝันถึงใครคนนึงและจู่ๆ หน้าก็แดงขึ้นมานั้นเอง  ทำให้ซาไคเกิดแรงหึง  และซาไคก็รู้ว่าเธอเหม่อหาคนๆนั้นอยู่

                      ++มุมหนึ่งของโรงเรียน++


                     
      ซ่าๆ
      แค๊กๆๆโอ๊ย น้ำอะไรวะ น้ำเปล่านี่ โชคดีไม่ใช่เส้นราเมง แต่ตอนนี้โล่งอกไม่ได้หรอกนะเรา นี่มันที่ไหนฟะเนี่ย สกปรกจริงเลย


                     
      ไง ตื่นแล้วเหรอ เจ้าหัวขโมย นี่มันไอ้พวกซาไคนี่


                 
      ขโมยอะไรของนายวะ


                 
      โห กล้าย้อนเหรอวะ ไอ้อ่อน! อ่อนแล้วยังโง่อีก ก็ขโมยจูบไงล่ะ


                 
      นายเห็นเหรอ....แต่มันเป็นอุบัติเหตุ


                 
      ไม่ต้องมาแก้ตัว ฉันเห็นจะๆสองตานี่เลยว่า นายจูบกับเซนะ


                 
      ก็ไง! มันเป็นอุบัติเหตุ เข้าใจมั้ย!”


                 
      เฮ้ย เตรียมของมาครบตามที่ลูกพี่สั่งแล้วเว้ย ฮ่าๆๆๆๆ หัวเราะได้น่าเกลียดมากเลยหมอนี่ - -;


                 
      ไหนมีอะไรบ้าง ok ครบถ้วน ฮึๆๆๆ จับมัดมันไว้ แล้วราดน้ำนี่ซะ เข้าใจ๋ว้าก! นั่นมันน้ำมัน มันกะจะเผาผมให้ตายเหรอเนี่ย ><โอ้พระเจ้า ฮึ๋ย! ใครจะยอมให้มัดง่ายๆกันเล่า ย้ากกกกก!!!


                 
      โอ้ย!” ฮู้ โชคดีที่ให้ท่านปูสอนยูโดให้ ทุ่มได้สวยจนเจ้านั่นนอนหงายตายตาค้างอยู่ตรงพื้น (แค่สลบต่างหาก)


                     
      มันเป็นยูโดเมื่อไหร่กันฟะ


                 
      นี่แก อยากโดนเหมือนเพื่อนแกรึเปล่า ถ้าไม่อยากก็ออกไปจากที่นี่ซะ


                 
      ไอ้อ่อน!ไม่ต้องมาวางท่า ฉันไม่กลัวแกหรอกดูท่าทางจะกลัวจริงแฮะ ถึงได้จะไปซะตื้อๆ แถมยังลากเพื่อนที่โดนผมทุ่มซะหมดมาดกลับไปด้วย


                     
      กลับซะละ นี่เราก็ร้ายไม่เบาเหมือนกันนี่ ขอบคุณ คุณปู่ฮะ ที่สอนผมเล่นยูโด ถึงจะเล่นเป็นก็เถอะ แต่ไม่ค่อยใช้หรอก...ไปดีกว่าเดี๋ยวครูจับได้ว่าอยู่นี่ซวยเลยก็ที่นี่ครูห้ามเข้ามานี่ อ้อ ผมเพิ่งไปเรียนยูโดตอนที่เจ้าซาไคมาหาเรื่องครั้งแรกน่ะ


                 
      หลังจากนั้นสักพัก ผมก็ถึงห้องเรียนปผมอย่างปลอดภัยหายห่วง แต่ต้องโกหกครูซะยาวเลย กว่าจะได้นั่งเข้าที่


                     
      เออ....เอ๋อ~” เซนะร้องเอ๋อเมื่อเห็นหน้าผม - -;; นี่ผมเหมือนคนเอ๋องั้นเหรอ (ที่จริงเซนะไม่รู้ทำไงดี เมื่อเจอหน้าทาคุมะ จึงได้รีบละสายตาจากเขา แล้วหลุดคำว่าเอ๋อออกมาต่างหากเล่า) (ปล.เป็นคำอุทานน่ะ)


                     
      ตอนนี้คู่นี้ไม่ได้สนใจอย่างอื่นไปมากกว่าการเรียน แต่ซาไคนั้นไม่ใช่ เขามองทาคุมะด้วยสายตาอันน่ากลัว แล้วพึมพำออกมาเบาๆว่า
      ไอ้ 2 ตัวนั้นมันทำไมสำเร็จเรหอวะ ฮึ๋ม


                 
      คานะสังเกตุซาไคมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้วก็เห็นใบหน้าที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน ทำให้เธอเริ่มชักสังหรใจไม่ดีเสียแล้วสิ


                     
      @เวลากลางดึก ณ สวนสาธารณะ@


                 
      นี่พวกแกทำไมไม่จัดการมันซะทีวะเสียงซาไคลอยมาแต่ไกลเชียว


                     
      พะ...พะ...พะ...พวกผมก็จะจัดการอยู่นะครับ แต่มันโครตเก่งอ่ะ จะ ... จริงมะสาวกคนที่ 1 พูดตะกุกตะกักเมื่อลูกพี่ตัวเองเรียกมากลางดึกแบบนี้ ต้องมีเรื่องไม่ดีชัวๆ


                     
      จริงครับ จริงที่สุด สาวกคนที่ 2 ตอบ


                     
      ไอ้อ่อนนั่น มันจะเก่งอะไรได้ไงวะ ท่าทางอ่อนปวกเปียกอย่างงั้น


                 
      มันเป็นยูโดนะคร้าบ นี่แผลตรงนี้และหลังของผมกระเทกจนกระดูกจะหักแล้วสาวกคนที่ 1 ชี้บาดแผลร่องรอยบนแก้มตัวเองให้ซาไคดูเป็นขวัญตา ดูสิเป็นรอยช้ำเลย


                     
      อะไรจะขนาดนั้น แกไปล้มอีท่าไหนมาก็บอกมาเถอะ แล้วยอมรับว่าไม่ได้ทำงานที่ฉันมอบหมายให้ทำ


                 
      ไอ้เจ้านี่มันพูดจริงนะครับ ลูกพี่ ผมเห็นมาจะๆ 2 ตากลมแป๋วแหว๋วของผมเลยนะครับ มันเป็นยูโดสาวกคนที่ 2 พูดช่วยเพื่อนจนเอง


                     
      อยากอ้วก ตุ๊ดเหรอวะแก 2 ตากลมแป๋วแหว๋ว พูดมาได้ไง เออ ไอ้อ่อนนั่นเป็นยูโดงั้นเหรอ


                 
      ถูกต้องนะคร้าบสาวกคนที่ 2 ตอบเช่นเดิม แล้วเสริมอีกว่า แล้วผมก็ไม่ได้เป็นตุ๊ดนะครับ.......ผมติดน้องผมมาน่ะ น้องผมเป็นตุ๊ด


                 
      เอ่อๆ พวกแกไม่ต้องพูดมากแล้วนะ ฉันมีแผนต่อไป คราวนี้ฉันจะไม่ให้มันได้รับเลือกในงานประกวดที่ใกล้จะถึงนี้


                     
      งานประกวดอะไรเหรอครับลูกพี่ สาวกคนที่ 1 ถาม


                     
      ไอ้โง่เอ้ย! เดี๋ยวแกก็รู้เอง อย่าห่วงเลย หึๆๆๆฉันจะให้มันรู้โทษฐานที่มาเข้าใกล้สนิทสนมกับแฟนฉันแล้วจะเป็นยังไง ฮะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ซาไคหัวเราะก้องไปทั่วสวนสาธารณะจนหมาเห่าหอนตามกันเป็นแถว


      โอ้ววววววววววว โฮ่งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

       

                  Zณ ห้องเรียนวันรุ่งขึ้นZ


                     
      นักเรียนทุกคนฟัง เดี๋ยวครูจะแจกใบสมัครเข้าชมรม ให้เขียนชมรมที่อยากเข้าแล้วส่งคืนครูนะ เอ้ ชมรมเหรอ จะมีชมรมช่างถาพหรือเปล่าน้า


                     
      ทาคุมะคุง! ทาคุมะอยากเป็นช่างภาพใช่มั้ย เข้าชมรมนี้สิ! หา?นี่เธอ คุยกับผมแล้วเหรอเนี่ย แล้วเรื่องเมื่อวาน  -/////-


                 
      เซ...เซนะจัง เรื่องเมื่อวานลืมไปซะนะ...


                 
      “@ - ///// - @ ระ...เรื่องอะไร เออ...ฉันลืมไปแล้ว ฮะๆฮ่าๆ อ่า... ผมว่าเซนะคงยังไม่ลืมเหตุการณ์เมื่อวานนี้แน่นอน 100% ก็เธอหน้าแดงขนาดนี้อ่ะ ผมจึงต้องรีบหลบสายตาแล้วเปลี่ยนเรื่องคุย


                     
      เรื่องชมรมน่ะ ผมเข้าอยู่แล้วล่ะครับ ไม่ต้องห่วงหรอก


                 
      งั้นเหรอ พยายามเข้านะ อ๊ะ มาซายะคุง!” เซนะพูดด้วยท่าทางที่โลเล พูดจบก็วิ่งไปหาซาไคเฉยเลย ปล่อยให้ผมเหงาหงอยอีกแล้ว ผมไม่รู้ว่าจะทำอะไรดี พอเห็นใบสมัครเลยหยิบมาทันทีเลย แล้วผมก็หยิบปากกาขึ้นเตรียมตัว


                     
      เอาล่ะ ผมรีบลงมือเขียนใบสมัครชมรม รู้กันดีอยู่แล้วนี่ ก็ชมรมช่างภาพไงล่ะ เอ๊ะ มีงานประกวดด้วยนี่ อะฮ้า ผมจะเอาที่หนึ่งมาให้ได้เลย ที่รู้เพราะในใบมันเขียนเอาไว้ว่ามีงานประกวดภาพถ่าย


                     
      วันเวลาก็ผ่านไปผ่านไปเรื่อยๆเรื่อยๆเรื่องชมรมก็ดี เสียอย่างเดียวน่ะสิ
      !


                 
      เฮ้ย ไอ้อ่อน หาเรื่องเหรอวะ ฮึ๋ย ใครหาเรื่องกันแน่ฟะเนี่ย ก็ไอ้เจ้าซาไคน่ะสิ เดินจิ๊กโก๋มาแต่ไกล แถมมาชนคนอื่นจังๆอีก อ๊าก!ไหล่ผมจะฉีกแล้ว


                     
      ขอโทษ ผมก้มหัวขอโทษเจ้านี่ ทั้งที่ผมไม่อยากเลย แต่ถ้าเกิดผมมีเรื่องตอนนี้จะมีเรื่องแย่ๆอะไรเกิดขึ้นก็ไม่รู้นะ หลังจากที่ขอโทษเสร็จ ผมรีบเดินออกมาข้างๆให้ห่างกับหมอนี่มากที่สุด แล้วก็ขอเดินไปให้ไกลๆเท่าที่จะทำได้


                     
      เฮอะ ประสาท เจ้าซาไคแกมองหน้าผมได้เหยียดหยามมาก หมั่นไส้มากเลยอ่ะ ใครกันแน่ที่ประสาท ด่าคนอื่นอยู่ได้สนุกนักหรือไง เอ้ นี่ผมเป็นเอามากนะเนี่ย


                     
      แล้วก็ทุกวันทุกเวลาที่อยู่โรงเรียน ผมต้องโดนเจ้าซาไคมันเล่นงานเกือบทุกที แต่ไม่รู้ทำไม เพื่อนๆถึงได้บอกกันว่าไม่เห็นซาไคจะทำอะไรนายเลย หรือไม่ก็ มาซายะคุงน่ะ เท่ นิสัยดีจะตาย มันดีตรงไหนผมอยากรู้จังแฮะ


                     
      และวันนี้ก็ถึงวันที่จะนำผลงานมาให้คุณครูดูเพื่อส่งเข้าประกวดแล้วล่ะ ตื่นเต้นชะมัด


                     
      อืมถ่ายได้ดีมาก ใช้ได้ๆ อาจารย์ประจำชมรมเดินชมผลงานของทุกคน แล้วเกิดสะดุดภาพถ่ายนึง เป็นภาพถ่ายที่ผมเห็นแล้วถึงกับอึ้ง และเมื่อเห็นชื่อใต้ภาพอีก โอ้ พระเจ้า ไอ้ซาไคบ้าที่ชอบทำตัวเป็นจิ๊กโก๋ข้างถนนนั่นน่ะนะถ่ายภาพนี้ ถึงผมจะเกลียดเจ้านี่แต่ผมก็นับถือเขาจริงๆ


                     
      โฮ้ ภาพนี้พ่ายได้เยี่ยมยอดที่สุด สุดยอดมาก หา? ภาพไหนหว่า ผมรีบเดินไปทางต้นเสียง ห๊า!! นั่นมันผลงานผมนี่


                     
      ต้นซากุระท่างกลางแสงแดดที่อบอุ่น ทางเดินที่โรยด้วยกลีบดอกซากุระที่ร่วงโรยลงมาไม่หยุดสาย ถ่ายได้ดีมาก มันให้ความรู้สึกว่ามันเคลื่อนไหวได้จริงๆ ผมได้ยินแล้วยิ้มไม่หุบเลย ผมถ่ายเก่งขนาดนั้นเลยงั้นเหรอเนี่ย


                     
      ตอนนี้ผมกำลังเดินไปยังห้องเรียนอย่างมีความสุข แต่แล้วก็มีคนวิ่งมาชนผมเต็มๆ


                     
      โอ๊ย!เจ็บ~อ๊ะ ทาคุมะคุง ฉันได้ยินว่านายได้รับเลือกแล้วนี่ใช้ม้า


                 
      ก็ ใช่ครับ ของซาไคก็ด้วย


                 
      จริงง่ะ!” เธอมีความสุขมากที่สุดแน่ๆ แค่ผมเห็นก็รู้ว่าเธอมีความสุขแค่ไหน


                     
      ทาคุมะคุง พรุ่งนี้ไปเที่ยวด้วยกันมั้ย


                 
      ผม?” ไปเที่ยกับเซนะ 2 ต่อ 2 งั้นเหรอ ไปสิไปแน่ ^^


                 
      ใช่แล้ว มีมาซายุคุงกับคานะจังไปด้วยนะ ไม่ไปละ ขอตัว  -   -  ผมช่างไม่มีโชคเอาซะเลย ไม่อยากไปกับได้เจ้าซาไคมันอ่ะ


                 
      Zถึงวันเที่ยวแล้วคร้าบZ


                     
      yes be sha la la la la (เพลง Full House)

                     
      ฮัลโหลจ๊ะ มาซายะคุง ทำไมเหรอ มามาได้งั้นเหรอ อืม ไม่เป็นไรจ้า บาย  จ้า เซนะวางโทรศัพท์เข้ากระเป๋าหลังจากรับสายของซาไค ผมนึกว่ามันจะมาซะอีกเพื่อมาขัดขวาง แปลกแฮะ แล้วครนะจังก็ยังไม่มาอีกด้วย


                     
      อึดอัดจริงโว้ย
      ! นี่มันรถไฟหรือปลากระป๋องเนี่ย อัดเต็มไปหมด ไม่มีที่เหลือแล้ว หือ~โรคจิตเยอะด้วย ต้องจับตาดูเซนะจังให้ดี


                     
      ว้าย!”ห๊ะ! อีตาแก่ชีกอ จับตรงไหนของแกไม่ทราบ


                     
      นี่ ได้แก่ด้านหลัง ผมเรียกเจ้านั่น เจ้านั่นหันมาแล้ว หน้าตานี่ยอมรับได้เลยว่า.....ทุเรศอัปลักษณ์สิ้นดี


                     
      แก่ไรของเองฟะ ข้าอายุ 24 เองนะเฟ้ย แกรู้มั้ยว่าข้าเป็นใครมาจากไหนมันเดินมาทางผม แล้วยื่นหน้าแก่ๆนั้นมา ปากเหม็นด้วยนะเจ้านี่ ถ้าไม่บอกอายุคงไม่รู้หรอกว่าอายุเท่าไหร่ (เหมือนคนแก่อายุ50ขึ้น)


                     
      นายก็เป็นคนน่ะสิ มาจากสถานรับเลี้ยงคนแก่ลามกใช่รึเปล่าล่ะครับผมทำหน้ายียวนใส่หน้าเป็นตุ่มนั่น


                     
      ทาคุมะคุง อย่ามีเรื่องเลยนะ นายไม่มีแรงสู้คนพรรณนี้ได้หรอก เซนะเข้ามาจับตัวผมไว้


                     
      แม่สาวน้อย มามะ มาหาพี่ร็ว ถ้าไม่มาแฟนเธอเป็นไรไม่รู้ด้วยนะอ๊ากกก!! ฟะ .....แฟน พวกผมดูเหมือนแฟนกัน


                     
      ไม่ไป


                 
      หนอย! ไม่ไปใช่มั้ย ได้เลย ได้เจ้านี่ตาย!” ไอ้ร่างยักษ์หน้าแก่กระชากคอเสื้ผมแล้วดึงตัวผมขึ้นมาจนขาลอยขึ้นไม่แตะพื้นแล้ว รอบๆตัวพวกผมตอนนี้แต่ละคนเริ่มหนีห่างกันไปหมอ ถ้าเพื่อเซนะผมยอมได้ทุกอย่าง แต่ผมไม่ใช่คนอ่อนแอเหมือนเมื่อก่อนแล้วนะครับ


       

                      ปัง!! (เสียงโดนต่อย) ตึง ไอ้หน้าแก่นั่นชกหน้าผมจนผมล้มลงไปชนกับกำแพงอย่างแรง(ในรถไฟ)


                 
      กรี๊ด! ทาคุมะคุง!”


                     
      ซีด ไอ้แก่แรงเยอะนี่ ผมเช็ดขอบปากตัวเองที่เลือดไหลออกมานิดๆ ส่วนแก้มนี่ปวดเป็นบ้าเลย


                     
      มานี่” !!

                 
      ไม่

                  ไอ้แก่นหน้าโง่ แกทำให้ฉันโกรธแล้วนะเฟ้ย มากระชากผูเหญิงที่บอบบาง แถมยังเป็นผู้หญิงที่ผมชอบ แก....แกไปลงนรกซะ!” ย้ากกกก ผมกระโดดขึ้นแล้วใช้ขาข้างหนึ่งฟาดกับใบหน้าของไอ้แก่นั่นด้วยวิชาที่เรียนกับคุณปู่ของผมอีกนั่นแหละครับ คราวนี้เป็นเทควันโดด้วย ^^


                 
      ไปกันเถอะเซนะจัง ตอนนี้ผมกำลังเตรียมตัวลงจากรถไฟขบวนนี้เพื่อที่จะไปสถานที่ๆพวกผมจะไปเที่ยวกัน แล้วเหตุผลอีกอย่างก็คือ ผมอยากจะไปให้พ้นจากไอ้หน้าแก่โรคจิตหน้าเห่ยนี่เต็มทนแล้ว


                     
      ((ตัดไปทางด้านของซาไคที่อยู่ในห้องชมรม))


                     
      ลูกพี่ทำแบบนี้มันจะดีเหรอครับ สาวกคนที่ 2 ถามซาไคลูกพี่ตัวเอง ขณะที่ซาไคนั้นทำอะไรสักอย่างในห้องชมรม


                     
      ดีสิ แกไม่ต้องปากโป้งไปบอกใครนะเว้ย ไม่งั้นฉันจะใช้นี่กรีดแกให้แหลกกระจุยแน่


                 
      ครับ ลูกพี่.....สาวกคนที่ 2 เริ่มหดเหลือจิ๊ดเดียวแล้ว


                 
      ถ้าฉันบอกล่ะ จะกรีดฉันให้แหลกเหมือนกับภาพที่นายกรีดไม่เหลือชิ้นดีนี้มั้ย


                 
      คะ....คานะจังซาไคหน้าซีดเผือดลงทันทีเมื่อคานะเพื่อนซี้ตนเองถามแบบนั้นเข้า แถมยังมาเห็นตอนที่ทำเรื่องไม่ดีเข้าอีก


                     
      คานะจัง ฉันไม่ทำเธอหรอก เธอเป็นเพื่อนฉันนี่ เธออย่าบอกใครเรื่องนี้เลยนะ


                 
      ถ้าฉันบอกว่าไม่ล่ะ


                 
      คานะอย่าบอกใครนะ เธอเป็นเพื่อนฉันนี่ เรื่องแค่นี้เอง


                 
      ไม่ ฉันจะแฉเรื่องนี้ และฉันก็ไม่คิดจะเป็ฯเพื่อนกับคนเลวขี้อิจฉาชอบใช้กำลังอย่างนาย คนที่ฉันอยากเป็นเพื่อนด้วย...ฮึก....ก็คือมาซายะที่ใจดีอย่างเมื่อก่อน....คนอย่างนายในตอนนี้ฉันไม่รู้จัก! ฉันเกลียดนายในตอนนี้ที่สุด...ฮือๆๆๆน้ำตาเริ่มไหลเอ่อล้นออกมาจากดวงตาของคานะอย่างไม่หยุดสาย เธอพูดจบแล้ววิ่งออกไปนอกประตู น้ำตาหยดหนึ่งได้กระเด็นไปโดนแก้มมาซายะ เขาเริ่มรู้สึกเจ็บแปล๊บในใจขึ้นมา


                     
      คานะจัง!” เขาวิ่งตามคานะไป แต่วิ่งตามไปเท่าไหร่ก็ไม่ทัน เพราะคานะนั้นเป็นถึง นักกรีฑาอันดับหนึ่งของโรงเรียน จนกระทั่งวิ่งไปถึงริมแม่น้ำใต้สะพาน


                     
      คานะจัง ฟังฉันก่อนสิ มาซายะฉุดแขนคานะจังไว้ทัน แต่ทั้งคู่ก็ก้าวพลาดตกลงไปในแม่น้ำ ด้วยเหตุที่คานะจังนั้นว่ายน้ำไม่เป็นจึงได้แต่ร้องเรียกช่วยด้วย (เมื่อก่อนคานะเกือบจะจมน้ำเลยเกลียดการว่ายน้ำไปเลย)


                     
      เอ้า เกาะแน่นๆนะ ตอนนี้ทั้งคู่ได้นั่งอยู่ตรงริมแม่น้ำเมื่อขึ้นจากแม่น้ำเสร็จ


                     
      มาช่วยฉันทำไม ในเมื่อ...ฉันจะแฉเรื่องของนายให้ทุกคนรู้


                 
      .......คำว่าเพื่อนไง.......


                 
      นายยังคิดกับฉันเป็นเพื่อนอีเหรอ....ฮึก ฮือ.....น้ำตาเริ่มเอ่อล้นออกมาอีกครั้ง มาซายะมองตามมาด้วยสายตาที่รู้สึกผิด


                     
      ทำไมนายต้องทำเรื่องไม่ดีแบบนั้นด้วย


                 
      เออ........


                 
      เรื่อง เซนะจังใช่มั้ย


                 
      อ่า.....อืม


                 
      นายรู้มั้ยว่าถ้าเซนะมาเห็นนายทำแบบนี้ เซนะเขาจะคิดยังไง เซนะต้องเสียใจแน่ๆ


                 
      มะ...ไม่รู้ ฉันไม่ทันคิด ก็เจ้าทาคุมะนั่นมันมาทำสนิทสนมกับเซนะ ฉันก็เลยหึง...แค่นั้นเอง


                 
      รักเซนะมากเลยเหรอ


                 
      อืม...ใช่


                 
      ฉันก็เหมือนกันรักเซนะมากซะจนฉันไม่สามารถที่จะบอกความจริงบางอย่าง อืม.....ฉันว่านายน่าจะไปทำทุกอย่างให้เรียบร้อยเกี่ยวกับเรื่องของ 2 คนนั้น เช่นเรื่องรูปถ่ายนั่น ไปขอโทษทาคุมะเขาโดยตรงซะ ถ้านายรักเซนะจริงๆ...เฮ้อ...ฮึก...อืม ไปกันเถอะ คานะปาดน้ำตาหยดสุดท้ายแล้วลุกขึ้นยืนพร้อมยื่นมือออกไปหามาซายะ แล้วยิ้มด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน


                     
      ขอโทษนะ คานะจัง มาซายะยิ้มตอบและจับมือคานะแล้วยันตัวขึ้นยิน เขาจ้องตาคานะจังเขม่ง ส่วยคานะก็มองตาเขา สายลมพัดผ่านใบหญ้าพริ้วไหว (บรรยากาษเป็นใจแบบนี้รับๆพูดออกมาเลย!)


                     
      มาซายะคุง


                 
      หืม อะไรเหรอ


                 
      ฉันน่ะ..........


                 
      หา


                 
      ฮะ....ฮัดเช้ยยย ฉันหนาวแล้ว รีบกลับกันเถอะ(โธ่อุตส่าห์สร้างบรรยากาศดีๆให้แล้วอ่ะ)

                     
      อืม....ฉันขอนั่งอยู่ตรงนี้สักพักดีกว่า

                  หรอ....หนาวแย่สิ


                 
      ไม่เป็นไร แค่นี้เอง ไม่หนักหนาสำหรับมาซายะสุดเท่คนนี้หรอกน่า ฮะๆๆ


                 
      แหวะ หลงตัวเองชมัด ฉันไปก่อนนะคานะเดินตรงขึ้นไปยังถนนขอบแม่น้ำ แล้วตะโกนคำที่ไม่คาดคิดขึ้นว่า ฉันรักนายนะ มาซายะคุง ฉันก็แค่อยากบอกแค่นี้แหละ บายจากนั้นเธอก็วิ่งหนีไปด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ


                     
      ห๊ะ!?”


                 
      (กลับไปทางด้านของทาคุมะกับเซนะกันเถอะ)


                     
      วันนี้สนุกจังเลยเนอะ ทาคุมะคุงตอนนี้ผมกับเซนะกำลังนั่งอยู่ในรถไปเพื่อเตรียมตัวกลับบ้านครับ


                     
      อืม ใช่...อยู่กับเธอแล้วสนุกมากเลยล่ะ


                 
      นี่ไอ้หน้าอ่อน เจอกันอีกแล้วนะกร็อบๆ กึ๋ย นี่มันไอ้หน้าแก่เมื่อเช้านี่หว่า แว๊ก มากับแก๊งมันตรึมเลย ไม่เป็นไรไม่เป็นไร ผมจะใช้กระบวนท่าสุดยอดจัดการพวกมันเอง ย้ากกกก สติแตกแล้ว!

       

                      เวลาผ่านไปเนิ่นนาน นานมาก (18.00น.)


                     
      ผมขอออกจากแก๊งครับ ณ. ที่มั่วสุมของพวกแก๊งกวนประสาท ซึ่งซาไคเป็นคนเอ่ยปากพูดไปอย่างกล้าหาญชาญชัย


                     
      หา~แกว่าอะไรนะ


                 
      ผมขอออกจากแก๊งครับ!!” ซาไคพูดเสียงดังขึ้นกว่าเดิม จนเสียงกึกก้องไปทั่ว


                     
      เพราะอะไร แกป็นหัวโจกของที่นี่นะเว้ย ใครๆก็เรียกแกว่าลูกพี่ (แต่ยกเว้นตู) ต่างก็นับถือแก ฮึๆ แต่นับถือข้ามากกว่าแกละกัน ฮะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อ้าปากจนแมลงวันจะเข้าปากไปวางใข่แล้ว


                     
      ผมไม่อยากเป็นลูกพี่หรือลูกน้องใคร ผมไม่อยากทำให้เพื่อนคนสำคัญที่สุดของผมต้องไปจากผม


                 
      คุกเข่าสิ แล้วข้าจะให้แกออกจากแก๊ง ข้ารึอุตส่าห์เสียแรงไปแก้แค้นให้แกเรื่องที่ไอ้อ่อนนั่นจะมาแย่งแฟนแก แล้วยังโดนมันด่าว่า ไอ้หน้าแก่อีก มันน่านัก ฮึ๋ย!~” ในใจของซาไคคิดว่า สมควรที่โดนด่าแล้วล่ะ เฮ้อ


                     
      ผมไม่อยากแก้แค้นแล้ว แล้วผมจะออกจากแก๊ง ขอลาล่ะครับ....ยูอิจิ โคตะ ไปด้วยกันเถอะซาไค เริ่มเดินออกจากอดีตที่มั่วสุม เพื่อที่จะเริ่มชีวิตใหม่ที่ใสสะอาด แต่แล้ว!!


                 
      ถ้าแกอยากออกจากแก๊ง....ได้เล้ย แล้วแกจะเสียใจ


                 
      ผมไม่เสียใจเด็ดขาด เพราะผมตัดสินใจแล้ว เพื่อนสำคัญต่อผมมากกว่าแก๊งขยะแบบนี้


                 
      แก ไอ้ปากหมา ปากเก่งนักนะแก ขุดหลุมฝังตัวเองชัดๆ แกไม่มีทางรอดกลับไปได้หรอกน่ะ พวกเรากระทืบมัน อย่าให้มันเดินได้อีกเป็นครั้งที่ 2 จากนั้น ไอ้หน้าแก่ที่ทาคุมะพูดถึงนั้น ซึ่งเป็นหัวหน้าของแก๊งนั้นกับพวกของมันได้รุมกันกระทืบ ยกเว้น 2 คนที่ตัวสั่นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น


                     
      นี่พวกแก 2 ตัว เป็นหมาขี้แพ้หรือไง ถ้าแกไม่มากระทืบมัน ฉันจะไปกระทืบพวกแก 2 ตัวเอง จะเอาไงไอ้เจ้าหน้าแก่หนังเหี่ยว เริ่มเดินมาทีละก้าวละก้าว พร้อมฝ่าเท้ามหึมานั่นเดินกระทืบเท้าตึงๆ (อ๊ะๆ นี่ไม่ใช่ความคิดของทาคุมะนะ แต่เป็นของ 2 คนนั้น โคยะกับยูอิจิ+ สาวกคนที่1 กะ 2ไงล่ะ เพิ่งจะมีชื่อโผล่มาก็ตอนนี้แหละ)


                     
      ไม่ครับ พวกผมทำแบบนั้นไม่ได้ ย้ากกกกกกกก!” โคยะ (ส.1)วิ่งมุ่งไปทางเจ้าหน้าแก่นั่นด้วยความเร็วสุดยอด และจับเจ้านั่นเหวี่ยงซะตามันจะทะลักออกมา ลิ้นห้อยเชียวล่ะ


                     
      เอิ๊ก เอ้งๆๆๆๆๆ อ้าว กลายเป็นหมาเสียแล้วสิ เจ้าหน้าแก่นั่นน่ะ ว่าคนอื่นเป็นหมาดีนัก กรรมตามสนอง เป็นไงล่ะ เป็นหมาไปเสียเอง แถมเป็นหมาขี้แพ้ด้วย ตัวงี้มุดลงดินแล้วมั้งน่ะ


                     
      โหหหห แกไปเรียนยูโดจากไหนวะ ยูอิจิถามพร้อมกับเดินไปข้างๆเพื่อนตัวเองและตบบ่าเบาๆ เก่งมากเลยนะเพื่อน เพิ่งจะเห็นเองเก่งก็วันนี้วันแรกแหละ


                     
      นี่แกชมหรือด่าเนี่ย โคยะยิ้มเจื่อนๆให้เพื่อนตัวเอง อ้อ ไปทางด้านซาไคที่โดนกระทืบยำแกงก่อนดีกว่า แน่นอนคนเดียวสู้ไม่ไหวแน่ คนตั้ง 5 คน อ้าวนี่ถือว่าเยอะแล้วนะ นี่มันหมาหมู่นี่ พวกนาย 2 คนจัดการเลย


                     
      ลูกพี่พวกผมไปช่วยเองครับ ทั้ง 2 วิ่งเข้าไปในฝูงสนัขหมู่ใหญ่นั้น แล้วโคยะนั้นหันมาบอกว่า ฉันเรียนยูโดมาจากทาคุมะนั่นแหละ ไอ้คราวที่โดนมันจับทุ่มน่ะ ฉันจำมาหมดแล้ว


                 
      หะ!?”


                     
      โคยะ ซุปเปอร์ยูโดมาช่วยแล้ว ว้าก ย้าก พูดจบ โคยะ นั้นก็ใช้ท่าทุ่ม ทุ่มพวกแก๊งนั้นจนพวกนั้น เผ่นหนีหายไปกันหมด แต่เท่าที่สังเกตมาก็ใช้แค่ท่าเดียวเอง (แล้วท่าเหวี่ยงนั้นนับด้วยดีมั้ย รู้สึกจะไม่ใช่ยูโดนะนั่น) เหตุที่พวกนั้นหนีกันไป (พร้อมหน้าตาบูดบวมเป็นของแถม)นั้น คงเพราะเรี่ยวแรงมหาศาลที่เพิ่งจะมาปรากฎจนเจ้าตัวก็ตกใจนั้นล่ะมั้ง ยูอิจิก็ช่วยเป็นกองหนุนข้างหลังด้วยนะคะ


                     
      เป็นไงมั่งล่ะ ลูกพี่ ยูอิจิ เข้ามาพยุงซาไคขึ้น


                     
      .......ไม่หรอก.......มั้ง......แล้วอย่าเรียกฉันว่าลูกพี่อีกนะ ยูอิจิ


                 
      ฮึๆ ได้เลย เจ้ามาซายะ ยูอิจิ ตบหัวซาไคดังแป๊ะ แต่ทั้งคู่ก็หัวเราะอย่างสนุกสนานพร้อมที่จะปลดปล่อยเรื่องเก่าๆที่เลวร้ายให้หมดสิ้น และทั้งคู่ตอนนี้กำลังจะพ้นจากที่มั่วสุมแล้ว!


                 
      เฮ้ยๆๆ อุตส่าห์ช่วยเป็นคนแรกนะเนี่ย จะทิ้งโคยะผู้เก่งกาจนี่ง่ายๆเหรอ ต้องมีของตอบแทนกันหน่อยเด๊ะ! ได้ยินป่าวเนี่ย โฮ้ยยยย!”


                 
      เอ่อๆ แล้วจะเลี้ยงแน่ๆ รีบเดินตามมาสิ คุณโคยะผู้เก่งกาจ เร็วดิ ไม่รอนะ อุตส่าห์จะเลี้ยงโซบะสักหน่อยมาซายะจับยูอิจิวิ่งหนี โคยะด้วยรอยยิ้มที่มีความสุขที่สุด คงเพราะได้เป็นอิสระ แล้วก็ทิ้งใจที่ต่ำทรามนั้นไปพร้อมกับที่มั่วสุมนั่นแล้วล่ะ


                     
      รอด้วยสิ ฉันจะกินโซบะนะ ฟรีๆยิ่งชอบ


                 
      ฮะๆๆๆ จุดหมายคือ ร้านโซบะหน้าสถานีรถไฟ มื้อนี้ฉันเลี้ยง


                 
      ว้ากกก ฮะๆๆๆๆๆ ก๊ากๆๆๆทั้ง 3 ตอนนี้ไม่ใช่ ลูกพี่หรือสาวกอะไรนั้นแล้ว พวกเขาคือนักเรียนธรรมดา ไม่ใช่นักเลงหัวไม้ พวกเขาตอนนี้เป็นเพื่อนตาย ที่ถึงแม้จะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นก็พร้อมที่จะยื่นมือเข้าไปช่วยโดยไม่เกรงกลัวอันตรายใดๆ เพราะนี่คือมิตรภาพของเพื่อนระหว่างพวกเขา 3 คนไงล่ะ

       

                      ทาคุมะหน้านายไปโดนไรมาน่ะ!” นี่คือเพื่อนใหม่ของผมเอง ชื่อยูกิครับ เขาเป้นเพื่อนที่ดีเหมือนกันนะ อ๊ะ ลืมตอบคำถาม


                     
      โดนพวกแก๊งหน้าแก่รุมกระทืบน่ะซี้ แต่เพื่อเซนะฉันไม่กลัวหรอกน่ะ ฮ่าๆๆ เมื่อวานน่ะนะ ตอนที่เจอกับพวกนั้นอีกน่ะ ผมก้ทำเป้นเก่งไปงั้นแหละ โฮ่ ก็มันเป็นหมาหมู่นี่หว่า


                     
      เอ่อ ไอ้อ่อน เอ๊ย! ยามาโมโตะอะไรของเจ้านี่จะมาหาเรื่องอีกอ่ะเดะ แต่ท่าทีของเจ้านี่มันต่างจากเมื่อวันก่อนลิบลับเลยแฮะ


                     
      นี่ เอ้อ ซาไค เมื่อวานน่ะ แกไปนั่งริมแม่น้ำใต้สะพานกับคานะหรอยูกิถามขึ้นมากะทันหัน


                     
      อืมใช่ ทำไมหรอ ซาไคตอบงงๆ ผมก็ได้แต่มองคนนี้ทีคนนู้นที และแล้วเซนะกับคานะก็เข้ามาได้ยินพอดีว่า....


                     
      นายก็ไม่เบานี่ จับปลา 2 มือ นายชอบใครกันแน่เนี่ย


                 
      หา?” เซนะหน้าซีดทันที ของที่ถืออยู่ในมือก็หล่นพื้นแตกกระจัดกระจาย


                     
      พะ...พูดจริงหรอ คานะที่เขาพูดไม่จริงใช่มั้ย บอกสิว่าไม่จริง มาซายะกับคานะแค่เพื่อนกันเท่านั้นนะ


                     
      ไม่จริงหรอก แต่.....


                 
      แต่อะไรเหรอ


                 
      ฉันต่างหากล่ะที่ชอบมาซายะคุง แต่มาซายะชอบเซนะ


                 
      ห๊ะ? แล้วทำไมไม่บอกฉันตั้งแต่แรกล่ะ ทำไมถึงไม่บอก เซนะเขย่าตัวเพื่อนตัวเอง แล้วน้ำตาของทั้งคู่ก็พลางไหลออกมา


                     
      ก็เพราะเซนะเป็นเพื่อนคนสำคัญของฉันน่ะสิ ฉันถึงไม่ได้บอกไงล่ะ


                 
      อ่ะ........


                 
      ไม่ต้องพูดอะไรแล้วนะ เซนะ ฉันก็แค่อยากบอกความจริงเท่านั้นเอง ดีกว่าไม่ได้บอก


                 
      คานะจัง...ฉันขอโทษนะที่ตะคอกใส่เธอน่ะ


                 
      จ๊ะๆเรื่องมันยังไงกันล่ะเนี่ย ตอนนี้ทั้งเซนะและคานะกอดคอกันอย่างรักใคร่(แบบเพื่อน) แต่ไม่น่าเชื่อเลยว่า คานะจะรักเจ้าซาไคเลยนะเนี่ย แล้วเรื่องทั้งหมดก็ยุติลงด้วยความเข้าใจกัน (แล้วทาคุมะกับซาไคก็ลืมเรื่องที่จะพูดคุยกันซะสนิทเลยล่ะ)


                     
      +_+ ชมรม +_+


                 
      อ๊ากกก นั่นมันอะไรกันน่ะภาพที่ผมถ่ายมันๆๆ ขาดยับเยิน แมวตัวไหนมาข่วนฟะเนี่ย พอผมเข้าไปในห้องชมรมเห็นภาพตัวเองขาดไม่เหลือชิ้นดี เป็นใครก็ต้องใจหายสิ แล้วตอนนี้ครูกำลังจะ สอบปากคำพวกนักเรียนแล้วล่ะครับ


                     
      ใครเป็นคนทำยอมรับมาซะอาจารย์เดินไปมาระหว่างนักเรียนทั้งหมด35คน ผมขอทายเลยว่าเมื่อวานเจ้าซาไคมันมาขีดภาพผมแน่ๆ แล้วยังไปจีบเพื่อนแฟนตัวเองอีกแน่ะ เซนะเสียใจนะเฟ้ย ผมว่าซาไคคงไม่ยอมรับง่ายๆว่าตัวเองทำ


                     
      ผมทำเองครับ มีคนๆหนึ่งยกมือสารภาพรัก เอ๊ย สารภาพความจริงว่าเขาทำ จะเป็นใครล่ะที่ทำแบบนี้ มีเจ้าซาไคคนเดียวแหละ


                     
      จากนั้นอาจารย์ก็คุยกับซาไคนานหลายนาที ซักพักซาไคก็มาขอโทษผม เรื่องทั้งหมดที่ทำลงไป  มันออกจากแก๊งมันแล้ว ที่แท้ไอ้หน้าแก่ก็คือลูกพี่มันนี่เอง แถมเจ้าซาไคมันยังนินทาไอ้หน้าแก่ให้ผมฟัง พอผมได้ผังเจ้านี่พูดดีๆ ก้ได้รู้ว่าเจ้าซาไคนี่ก็มีข้อดีเหมือนกันนะ พูดคุยก็ตลกดีด้วย แต่ขออย่างเถอะ อย่าขี้หึงมากเกินไปจะได้มั้ย


                     
      จากนั้นมาจนถึงวันงานประกวดก็ผ่านมา5วันแล้ว งานในวันนี้จะจัดขึ้นที่กลางสนามโรงเรียนในตอนเย็น แล้วก็ทุกอย่างก็ปกติสงบสุขดี ผม เซนะ ซาไค คานะ ยูกิ พวกผมตอนนี้มักจะอยู่ด้วยกันบ่อยๆ จนคนอื่นที่เห็น อิจฉากันเป็นแถว


                     
      แล้ววันนี้ผมพร้อมแล้วที่จะสารภาพความจริงบางอย่าง ในเมื่อทุกคนบอกความจริงกันหมด ยอมเปิดเผยกัน แล้วผมที่เป็นผู้ชายก็ต้องกล้าด้วยสิ แล้วนี่ก็เพื่อไม่ต้องให้ตัวเองเสียใจทีหลังด้วย


                     
      นี่คือผลงานของ ยามาโมโตะ ทาคุมะ ชื่อผลงาน ความรักไร้สิ้นสุด ชนะงานประกวดครั้งนี้เชิญมารับถ้วยรางวัลบนนี้เลยครับและแล้วผมก็ขึ้นไปบนเวทีแล้วรับรางวัลที่ผมภูมิใจที่สุดในชีวิตนี้ และพ่อแม่บนสวรรค์คงจะยินดีกับสิ่งที่ผมทำ


                     
      ขอเชิญกล่าวคำขอบคุณได้เลยครับ พิธีกรรุ่นพี่ยื่นไมค์ให้ผม ผมสูดหายใจลึกๆ..........


                     
      ขอบคุณมากนะครับทุกๆคนที่ให้กำลังใจผมมาตลอด รวมทั้ง มาซายะคุงด้วยนะครับ ถ้าไม่ได้นาย ฉันคงไม่ได้เอาภาพนี้มาชนะงานประกวดหรอก


                 
      โหย ไอ้นี่มัน ซาไคส่ายหัว แต่ก็ยิ้มให้อย่างจริงใจ


                     
      แล้วขอเล่าถึงประวัติของภาพนี้ซักนิดนึงนะครับ ภาพนี้ผมเป็นคนถ่ายเองไว้ตอนเด็กๆและคู่เบ่าสาวตรงกลางนั้นก็เป็นพ่อแม่ของผมเองที่ตอนนี้อยู่ที่สวรรค์อันสุขสบายแล้ว ผมอยากจะบอกกับพ่อแม่ว่าขอบคุณไว้ตรงนี้เลย ที่สอนให้ผมได้รู้จักอะไรหลายๆอย่าง สอนให้ผมรู้จักไขว่คว้าหาความฝันและพยายามทำให้เป็นความจริง อีกแค่นิดเดียว ผมก็จะเป็นช่างภาพแล้ว ขอให้คุณพ่อ คุณแม่มีความสุขนะครับ แล้วอยู่ดูแลผมด้วย แล้วก็ขอบคุณนะครับที่สอนให้ผมรู้จักความรักตอนนี้ผมรู้สึกว่าทั้ง 2 มองดูผมด้วยสายตาอันอ่อนโยนผมรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ ผมคงจะพูดมากเกินไปแน่ๆเลยครับเนี่ย


                 
      ไม่เลย / ไม่หรอกจ๊ะ ซึ้งออกนะ/ ใช่ๆ เล่าต่อสิ จะเอาใจช่วยทุกๆคนที่อยู่ใต้เวทีต่างก็ตะโกนบอกผมแบบนั้น ผมจึงเล่าต่อไป


                     
      แล้วผมก็เคยมอบรูปนี้ให้กับเด็กสาวคนหนึ่งเมื่อตอน ป.6 เธอบอกว่าเธออยากเป็นเจ้าสาวที่มีความสุข ผมน่รักเด็กคนนั้นมาจนถึงตอนนี้เลยล่ะ ผมน่ะอยากเป็นเจ้าบ่าวให้เธอคนนั้นมาก ผมอยากให้เธอมีความสุข ไม่อยากเห็นเธอร้องไห้ แต่พอมาเจอเธออีกที เธอก็มีแฟนซะแล้ว แต่ผมก็ต้องพยายามต่อไปใช่มั้ยล่ะครับ เพราะงั้นให้กำลังใจผมด้วยนะครับผมยื่นไมค์ไปข้างหน้าเวที (เหมือนคอนเสิร์ตเลยล่ะ)


                     
      สู้ๆสู้ๆสู้ตายทุกคนต่างก็เชียร์ผมกันทั้งนั้น ทำให้งานประกวดครั้งนี้มีชีวิตชีวามากเลย


                     
      มะ  ไม่จิรง ทาคุมะเป็นเด็กคนนั้น ไม่ใช่มาซายะ!!”

       

                      จากนั้นผมก็ลงมาที่เวที ทั้งเซนะที่ลากมาซายะ และคานะกับยูกิตามมาด้านหลัง ผมรู้แล้วล่ะ ว่ามีเรื่องอะไรจะเกิดขึ้น


                     
      ทาคุมะคุง เรื่องเมื่อกี้มันอะไรกันน่ะ รูปนั้นมันรูปของมาซายะคุงไม่ใช่เหรอ


                 
      เซนะจัง นั่นน่ะ รูปที่ทาคุมะเขาไปถ่ายมาน่ะ ไม่ใช่ฉันหรอก มาซายะพูดความจริงออกมาได้ซะทีนะ


                     
      แล้วทำไม........... เซนะเริ่มงงกับเรื่องที่เกิดขึ้น


                     
      ฉันขอเล่าเรื่องทุกอย่างละกันนะ ผมน่ะในตอนนั้นผมเห็นเจ้านี่มันเอารูปนี้ไปให้เธอ แล้วตอนนั้นฉันชอบเธออยู่ เลยวางแผนอะไรบางอย่างให้เธอคบกับฉันก็แค่นั้นเอง


                 
      งั้นก็หมายความว่านายหลอกเรามาตลอดงั้นสิ


                 
      อืม แต่ความรู้สึกที่มีต่อเธอเป็นความ่จริงนะ แต่เธอต่างหากที่โกหก่ความรู้สึกของตัวเธอเอง เธอน่ะ โหยหาเด็กผู้ชายที่ให้รูปนั้นกับเธอเท่านั้นเองไม่ใช่เหรอ


                 
      หา........เอ่อ.......... เซนะมีท่าทางที่สับสน


                     
      ผมไม่รู้อะไรหรอกนะ แต่ผมว่า เธอน่าจะบอกความรู้สึกของเธอให้ชัดเจนไปเลยยูกิพูดแซก แต่เซนะมักเหม่อหาผมจริงเหรอ


                     
      เออ.......... เซนะเริ่มทบทวนเรื่องต่างๆที่ผ่านมาจนเธอหาคำตอบภายในจิตใจของเธอได้


                     
      ใช่ ฉันน่ะชอบเหม่อเวลานึกถึงทาคุมะคุง แต่........ไม่รู้.........ตั้งแต่เมื่อไหร่


                 
      อืม ฉันก็รู้สึกแบบนั้นนะ เวลาเซนะอยู่กับทาคุมะทีไรก็หน้าแดงเกือบทุกทีเลยคานะพูด


                     
      เออเนอะ ผมก็สังเกตนะ เวบาเซนะอยู่กับซาไค ไม่เคยหน้าแดงเลยแม้แต่นิดอ่ะยูกิเสริม


                     
      พอเลย พอเลย มันทำร้ายจิตใจรู้ป่าว เอ้า รู้ใจตัวเองยังล่ะ


                 
      ก็พอจะรู้นะ แต่ว่า มาซายะคุง.........เซนะเริ่มทำหน้าลำบากใจ


                     
      รู้แล้ว ฉันจะทำไงเหรอ ฉันก็ต้องเลิกกับเธอน่ะสิ ฉันทำใจได้แล้วล่ะ ยังไงพวกเราก็เป็นเพื่อนกันได้นะ


                 
      ขอโทษนะเซนะยิ้มเล็กน้อย พร้มน้ำตาที่เอ่อล้นอยู่ที่ดวงตาคู่สวยของเธอ


                 
      ผมว่าเซนะน่าจะตัดสินใจให้รอบคอบก่อนดีกว่านะ ผมพูดขึ้นมาบ้าง หลังจากที่เงียบมานาน


                     
      อืม.....จ๊ะ ฉันจะกลับไปนอนคิดดู    เซนะ ยิ้มมากขึ้นกว่าเดิม แล้วปาดน้ำตาทิ้ง


                     
      ทีนี้ก็เคลียร์เรื่องทุกอย่างเรียบร้อยแล้วใช่ป่ะ อยู่แบบนี้อึดอัดชะมัด พวกเราไปเล่นเกมช้อนปลาทองกันดีป่าว ยูกิเสนอขึ้น พร้อมทั้งลากพวกเราทั้งหมดออกไปด้านนอกกัน


                     
      เดี๋ยว มาซายะหยุดกระทันหันพวกเราปล่อยให้คุ่บ่าวสาวไปฮันนี่มูนกันเองดิ เอ้อ ไปๆๆ อย่าเป็น กขค. พวกนั้นเลยซาไคมือหนึ่งดันให้พวกคานะยูกิออกไปส่วนอีกมือหนึ่งดันผมกับเซนะเข้าไปที่เดิม


                     
      นี่! อะไรน่ะ เซนะหน้าแดงใหญ่เลยล่ะ เธอกะจะจับแขนคานะจังไว้แต่ไม่ทันซะแล้ว


                     
      ตอนนี้ที่หลังเวทีนี้มีเพียงแค่พวกเราเพียงสองคน แล้วอยู่ๆไฟธรรมดาทั้งหมดก็ดับลง เผยให้เห็นเพียงแค่แสงไฟหลากสีส่องแสงระยิบระยับท่ามกลางความมืดมัวของยามค่ำคืนที่เย็นสบาย


                     
      เซนะ หลับตาลงนะ แล้วรอแป๊ปนึง จนกว่าฉันจะบอกให้ลืมตา ตกลงมั้ย


                 
      ก็ได้จ๊ะ เซนะค่อยๆหลับตาลง ส่วนผมก็จัดการเอาอะไรบางอย่างออกมาใส่ให้เซนะจัง


                     
      ลืมตาได้แล้ว


              “อะไรน่ะ ว้าว นี่อะไรน่ะ ให้ฉัน?” เซนะมองผมอย่างงงๆ สร้อยคอฝังเพช็รรูปหัวใจเล็กๆนั้นช่างเหมาะกับเซนะจริงๆ แถมแสงไฟที่ตกกระทบกับเพช็รเม็ดนั้นก็ยิ่งทำให้ระยิบระยับมากขึ้น แน่นอนเหมาะกับเซนะมากขึ้นด้วย เหมาะกับความร่าเริงสดใส


                     
      ผมรักเซนะเป็นจังหวะบอกรักที่พอดิบพอดีกับเสียงพุที่ลอยขึ้นไปบนฟ้า แล้วแตกกระจายออกเป็นดอกไม้ไฟที่สวยงามอยู่บนฟ้านับไม่ถ้วน


                     
      ฉับพลันนั้นเซนะเดินเข้ามาเขย่งเท้าขึ้นแล้วกระซิบข้างหูผม แล้ววิ่งออกไปด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ แล้วหัวใจผมที่เต้มรัวอยู่แล้วก็ เริ่มเต้นรัวมากขึ้นกว่าเดิม


                     
      นี่เป็นช่วงเวลาที่ผมมีความสุขมากที่สุดจริงๆ ถึงแม้ว่าเซนะจะไม่ได้บอกรักผมก็ตาม แต่ผมจะคิดเข้าข้างตัวเองได้มั้ยว่า เซนะกำลังบอกรักผม


                     
      รออีกสักนิดนะ คราวหลังซื้อแหวนให้ฉันบ้างนะ


                 
      แน่นอนผมจะซื้อให้เธอแน่ แล้วเธฮพร้อมที่จะเป็นเจ้าสาวที่มีความสุขกับผมมั้ยล่ะ


                     
      ในนอนาคตผมคงจะได้เป็นเจ้าบ่างของเธอ และทำให้เธอมีความสุขที่สุด แล้ว...........ถ่ายรูปตรงทะเลท่ามกลางพระอาทิตย์ขึ้นดวงโตบนเส้นขอบทะเลที่ไร้สิ้นสุด แทนความรักที่ไร้สิ้นสุดของพวกเรา 2 คน

       

                      คานะ : “นี่มาซายะคุง นายไม่เสียใจหรอ ต้องเลิกกับเซนะจังน่ะ

                  ซาไค : “ไม่มั้ง.........เฮ้อ ก็เสียใจนะ แต่ไม่เป็นไรหรอก แล้วเธอจะมารักษาแผลใจให้ฉันมั้ยล่ะ

                  คานะ : “@ - ////////// -@”

      The End

       

      SherrY WonG

       

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×