Dying message ปริศนาข้อความก่อนตาย
“คุณโอเคมั้ย? มีอะไรให้ผมช่วยบอกได้นะ” เสียงของวศินย์กล่าวปลอบใจ "เมฆินทร์" ที่นั่งอยู่บนโซฟาสีขาวสะอาดที่ห้องรับแขกในบ้านของเขาเอง ซึ่งตอนนี้กลายเป็นสถานที่เกิดเหตุเพราะภรรยาและลูกสาวผู้เป็นดั่งแก้วตาดวงใจของเขา ต้องกลายเป็นเหยื่อสังเวยให้กับฆาตกรต่อเนื่อง ที่เขาและวศินย์ตามสืบมานานร่วมสี่ปี แต่จนแล้วจนรอดทั้งคู่ก็ไม่เคยมีหลักฐานที่จะสามารถเอาผิดไอ้ฆาตกรคนนี้ได้เลย มิหนำซ้ำ ที่แย่ไปกว่านั้นคือเขาทั้งคู่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฆาตกรเป็นใครมาจากไหน และไม่เคยมีพยานที่สามารถบอกรูปพรรณสรรฐานของฆาตกรต่อเนื่องรายนี้ได้เลย จนในที่สุดสิ่งที่เขากลัวที่สุดก็เกิดขึ้นกับเขาจนได้ เมื่อภรรยาและลูกสาวของเขา ถูกพบเป็นศพในบ้าน และมีข้อความที่เขียนด้วยเลือดไว้บนฝาผนังห้องที่พบศพว่า "นี่คือการตอบแทนของคุณธรรมที่แกยึดมั่น...” น้ำตาแห่งความเสียใจบวกหนึ่งกับความแค้นของ “เมฆินทร์” ไหลอาบแก้มอย่างไม่เขินอายเพื่อนสนิทอย่าง “วศินย์” และเจ้าหน้าที่ของกองพิสูจน์หลักฐานเลยแม้แต่น้อย ถึงแม้ว่าทุกคนจะรู้สึกแปลกใจอยู่ไม่น้อยกับภาพที่ “เมฆินทร์”ผู้กองหนุ่มที่ทุกคนขนานนามให้เป็น “น็อก” แห่งกองสืบสวนต้องหลั่งน้ำตาประหนึ่งดั่งคนบ้าคลั่งเช่นนี้ แต่ทว่าทุกคนก็รู้สึกเข้าใจและเห็นใจ โดยเฉพาะ “วศินย์” ที่เป็นทั้งคู่หูและเพื่อนที่สนิทมากเพียงคนเดียว ที่ “เมฆินทร์” ไว้ใจและสามารถที่จะเล่าเรื่องทุกอย่างให้ฟังได้อย่างไม่เคยคิดที่จะปิดบัง...
“เกือบสี่ปี วศินย์ ที่เราสองคนล่าตัวไอ้ฆาตกรรายนี้ เพื่อที่จะจับตัวมันมาลงโทษตามกฎหมาย มาวันนี้...ฉันไม่ต้องการให้กฎหมายลงโทษมันแล้ว ฉันจะเป็นคนพิภากษามันเอง” เมฆินทร์กล่าวด้วยความแค้นที่สุมอยู่ในอกและสายตาที่เข้มขึง จนเพื่อนสนิทอย่าง “วศินย์” ต้องหลบสายตานั้นโดยไม่รู้ตัว...
“นี่นาย...กำลังจะบอกอะไรกันแน่” วศินย์ถามเมฆินทร์ด้วยความแปลกใจ เพราะเขาไม่อยากเชื่อว่าคนที่เถรตรงและรักความยุติธรรมอย่างเมฆินทร์นะหรือจะพูดคำนี้ออกมา...
“ฉันอยากให้นายช่วย” เมฆินทร์พูดขอร้องวศินย์ ทั้งที่แววตายังแฝงความแค้นเต็มประดา
“ได้สิ...นายต้องการให้ฉันช่วยยังไง?” วศินย์ตอบรับคำขอของเพื่อนอย่างไม่ลังเลใจ
เมฆินทร์ก้มหน้าต่ำ ก่อนที่จะพูดกับวศินย์ด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาคล้ายดั่งว่า นั่นคือคำพูดเฮือกสุดท้ายของคนที่กำลังจะสิ้นใจว่า...
“พรุ่งนี้...ฉันจะลาออก”
“อะไรนะ...นายว่าอะไรนะ!” วศินย์อุทานด้วยความตกใจกับคำพูดของเพื่อนที่นั่งก้มหน้านิ่ง โดยไม่สนใจกับอาการที่แปลกไปเพราะคำพูดของเขาเลย
“ฉันรู้ว่านายได้ยิน...ศินย์! นายได้ยินไม่ผิดหรอก” เมฆินทร์พูดพลางยืนขึ้นพรวด ก่อนจะปาดน้ำตาที่ยังคลอเบ้าอยู่ แล้วเดินไปที่ประตูห้องที่พบศพ ซึ่งมีเพื่อนตำรวจจากกองพิสูจน์หลักฐานที่กำลังง่วนอยู่กับการถ่ายรูปสถานที่เกิดเหตุอย่างทุลักทุเล ปล่อยให้วศินย์ต้องงุนงงกับคำพูดนั้นลำพัง...
“นี่...! เดี๋ยวก่อนสิ แล้วที่บอกว่ามีเรื่องให้ช่วย มันคืออะไร...?” วศินย์พูด ก่อนที่จะลุกจากโซฟาและเดินตามเมฆินทร์ไปติดๆ ก่อนจะย้ำคำถามเดิม...
“ไว้ก่อนนะ...ศินย์! ที่นี่ฉันไม่สะดวก พรุ่งนี้หลังจากฉันยื่นใบลาออกแล้ว ฉันจะไปรอนายที่สวนสาธารณะหลังสถานีล่ะกัน นายไปเจอฉันที่นั่นตอนพักเที่ยงแล้วกันนะ” เมฆินทร์พูด
ทั้งที่ในใจแล้วอยากจะรู้แทบคลั่ง ว่าเรื่องอะไรที่เขาต้องการจะพูดกันแน่ คนอย่างเมฆินทร์นะหรือ หากไม่ใช่เรื่องที่หนักจริงๆ หรือถึงแม้ว่ามันจะหนักเกินความสามารถของเขาจริงๆ ถึงอย่างนั้นก็เถอะ เขาไม่เคยยอมที่จะปริปากกล่าวคำว่าขอร้องเลยสักครั้ง นั่นทำให้ความอยากรู้ของวศินย์มีเพิ่มมากขึ้นไปอีกเป็นทวีคูณ แต่ถึงอย่างนั้นวศินย์ก็ไม่ต้องการที่จะคาดคั้นเอาอะไรจากเพื่อนในสถานการณ์แบบนี้ จำต้องเก็บความสงสัยนั้นไว้และตอบเมฆินทร์ไปด้วยน้ำเสียงเรียบๆ...
“ได้...เอางั้นก็ได้!” วศินย์พูด
"น็อก" เป็นการเล่นคำที่เอามาจากคำว่า Non Official Cover หรือเรียกย่อๆว่า "NOC." เป็นองค์กรณ์สายลับของหน่วย CIA ที่ทำหน้าที่แฝงตัวไปตามประเทศต่างๆ เพื่อสืบหาข้อมูลต่างๆ
ผลงานอื่นๆ ของ เจตน์สกฤษธิ์
ผลงานอื่นๆ ของ เจตน์สกฤษธิ์
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้