ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF TVXQ] The Story of Shim Changmin

    ลำดับตอนที่ #8 : [SF] Short Time :: Kiss

    • อัปเดตล่าสุด 4 ม.ค. 54


    Special Days

    Short Time….

     

     

     


                                วันคริสต์มาส..

                วันที่ทุกปีจะต้องปกคลุมด้วยสีขาวโพลนของหิมะ

                วันที่เคยได้อยู่กับคนรักพร้อมกับรอยยิ้มที่แต้มบนใบหน้า

                วันที่ได้กอดเพื่อมอบไออุ่นให้แก่กันและกัน

                วันที่ได้ใส่เสื้อตัวหนา ๆ และพันผ้าพันคอผืนเดียวกันเดินไปตามถนนสายยาว

                วันที่ได้มอบรสจูบเร่าร้อนเพื่อทำลายบรรยากาศหนาวเหน็บ

                            .....ผมเองก็ไม่เคยรู้

                ว่าความอบอุ่นที่เคยอยู่กับผม บัดนี้มันหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่

                ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ทำให้ผมรู้สึกเดียวดาย

                ต้องทนอยู่กับความหนาวเหน็บเพียงลำพัง...

     

                   

                    ค่ำคืนที่พลุกพล่านไปด้วยผู้คนจากถิ่นต่าง ๆ แสงไฟทั้งจากตัวอาคารบ้านเรือนและจากการจราจรที่คับคั่งกำลังส่องสว่างไปทั่วค่ำคืนที่ใครหลาย ๆ คนต่างก็กำลังรอคอย..คืนวันคริสต์มาส อากาศเย็นจัดหอบพัดไปตามถนนสายกว้าง ทำให้ได้เห็นผู้คนมากมายในแฟชั่นชุดฤดูหนาวที่ไม่ได้เห็นกันบ่อยนัก เสียงเพลงต้อนรับเทศกาลเปิดคลอดังไปทั่วเมืองยิ่งสร้างบรรยากาศคึกคักกว่าเก่า

                    คู่รักมากมายเดินจูงมือกันไปบนทางเดินยาวที่ปูด้วยก้อนบล็อกอย่างดี บ้างก็โอบกอดกัน จูบกัน..เป็นเรื่องที่ดูปกติธรรมดาไปแล้วสำหรับยุคปัจจุบัน เว้นเสียแต่ชายหนุ่มสองร่างที่นั่งอยู่ในร้านกาแฟเล็ก ๆ ริมทางเดิน

                    ร่างทั้งสองที่นั่งอยู่ภายในร้านกาแฟที่ถูกตกแต่งด้วยสีโทนไม้อย่างลงตัว แสงไฟสีส้มสว่างยิ่งช่วยปรับให้บรรยากาศในร้านยิ่งทวีความอบอุ่นให้กับยามที่อากาศหนาวเช่นนี้ได้อย่างดี ร่างทั้งสองยังคงนั่งอยู่ที่เก้าอี้ติดกับกระจกบานใหญ่ แล้วยกกาแฟขึ้นจิบอย่างเงียบ ๆ

                    “ชางมิน..จำได้มั้ย พรุ่งนี้หนะวันอะไร” ชายหนุ่มเสียงทุ้มเจ้าของริมฝีปากหยักทรงเสน่ห์เอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มน้อย ๆ มือข้างที่ไม่ได้ถือถ้วยกาแฟอยู่ยกขึ้นลูบศีรษะน้องเล็กเบา ๆ

                    “เจ็ดปีแล้วสินะครับ...เร็วจังเลยเนอะ” การสนทนาด้วยบรรยากาศเงียบเหงาเริ่มเปิดขึ้นจากคำกล่าวของพี่ชายคนสนิท ชางมินยิ้มน้อย ๆ ก่อนที่จะจิบน้ำสีเข้มที่มีรสขมปร่าลงลำคอไป

                    “รู้สึกแปลก ๆ ใช่มั้ยหละ ที่ปกติพวกเราก็ต้องฉลองด้วยกันทุกปี” สายตาคมทอดมองออกไปนอนกระจกบานใหญ่เพื่อซึมซับบรรยากาศของคริสต์มาสที่แปลกไปจากเดิม

                    “ไม่หรอกครับ เพราะยังไงซะ เราอาจจะต้องอยู่กันแบบนี้อีกหลายปีเลยก็ได้” น้ำเสียงหวานที่ฟังดูแหบลงไปบ้างจากอากาศที่หนาวเย็นเอ่ยตอบพร้อมกับรอยยิ้มฝืน ๆ เป็นอีกครั้งที่ร่างสูงต้องถอนหายใจกับท่าทางของน้องเล็ก

                    “ปากแข็งอีกแล้วนะ”

                    “ก็จะให้ทำยังไงได้หละครับ” ร่างบางหัวเราะเฝื่อน แล้วเสมองที่นอกกระจกบานใหญ่

                    “ในที่สุดก็ตกลงมาแล้ว..” น้ำเสียงหวานเอ่ยราวคนเพ้อ นัยน์ตากลมโตมองเกล็ดเล็ก ๆ สีขาวขุ่นที่ตกลงมาจากผืนฟ้ากว้างด้วยประกายเศร้าหมอง

                    “จริงด้วยสิ” ยุนโฮเหลือบมองใบหน้าหวานก่อนที่จะหันออกไปมองนอกกระจกบานใหญ่บ้าง

                    “มันจะจริงรึเปล่านะ...ที่หิมะแรกจะนำความสุขมาให้” ชางมินเบนหน้าออกจากกระจกบานใหญ่ แล้วเอ่ยกับตนเองเบา ๆ นัยน์ตาที่ถูกบังด้วยแว่นกันแดดสีเข้มเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงจาง ๆ พร้อมม่านน้ำตาที่เข้าบดบังตาคู่กลมโต

                    ความเงียบเริ่มปกคลุมทันทีที่ร่างบางเอ่ยปาก ทั้งสองร่างต่างก็อยู่ในอารมณ์ที่ไม่ต่างกัน..นัยน์ตาที่นาน ๆ ครั้งจะแสดงถึงความอ่อนแอให้เห็น บัดนี้กลับแสดงมันออกมาอย่างไม่ปิดบัง ชางมินปิดเปลือกตาลงครู่หนึ่งก่อนที่จะลืมตาขึ้นแล้วตัดสินใจพูดบางสิ่งออกมาทำลายความเงียบ

                    “ผมคิดว่า ที่ผมได้มาอยู่กับพี่สองคนแบบนี้..มันคงจะดีเหมือนกัน มันทำให้ผมได้รู้จักพี่มากขึ้น เข้าใจในตัวพี่มากขึ้น มีพี่ยุนโฮในหลาย ๆ ด้าน ที่ผมยังไม่เคยเห็นเมื่อตอนที่เราอยู่กันครบ 5 คน...” ชางมินระบายยิ้ม แล้วเอนตัวพิงกับเก้าอี้ตัวนุ่ม

                    “พี่เองก็เห็นว่าชางมินเปลี่ยนไปมากเหมือนกัน.. เก็บอาการเก่งขึ้น ปากร้ายขึ้น แถมยังโตขึ้นมากด้วย แต่ก็ยังมีอีกหลาย ๆ เรื่องที่พี่ไม่เข้าใจในตัวเรานะ” ร่างสูงว่าจบก็หัวเราะแห้ง ซึ่งนั่นก็พอที่จะเรียกรอยยิ้มให้กับร่างตรงข้ามได้บ้าง

                    “ไม่รู้สิครับ...”

                    “แต่เรื่องที่พี่ไม่ชอบเรื่องนึง...ก็ไม่ได้ไม่ชอบหรอกนะ แต่พี่แค่ไม่อยากให้นายเก็บความรู้สึกไว้คนเดียว..ตอนนี้เราก็อยู่กันแค่สองคน..เจ้านั่น.....มันก็ไม่ได้มาอยู่ปลอบนายเหมือนแต่ก่อน มันก็ทำให้พี่ลำบากใจอยู่เหมือนกันที่บางทีเห็นเราเงียบไป แล้วพี่ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร”

                    “ก็มันช่วยไม่ได้หนิครับ ผมเปลี่ยนมันได้ซะที่ไหน” ชางมินหัวเราะร่วน มือบางยกขึ้นกระชับผ้าพันคอผืนหนา

                    “ไปกันเถอะ ไปดูหิมะแรกหน่อยเป็นไง” ร่างสูงวางเงินไว้บนโต๊ะกระจกเนื้อหนา ก่อนที่จะดึงตัวน้องชายร่างบางให้ลุกขึ้นจากเก้าอี้ตัวใหญ่

     

                    ทั้งสองร่างเดินออกจากร้านกาแฟมารับอากาศหนาวเหน็บภายนอก ยุนโฮโอบเอวบางของชางมินเพื่อแบ่งความอบอุ่นให้ ถึงแม้ว่ามันจะไม่อุ่นเท่ากับของใครอีกคนก็ตาม

                    สายลมยังคงพัดมาเป็นระรอก พร้อมกับเกล็ดหิมะที่เริ่มโรยตัวหนักขึ้นตามลำดับ พื้นที่ถูกปูด้วยบล็อกบัดนี้เริ่มเปียกชื้นจากการละลายตัวของหิมะ เกล็ดสีขาวงดงามเริ่มจับไปทั่วเมือง ขายาวสองคู่ก้าวไปตามทางเดินผ่านร้านไอศกรีมสีส้มร้านใหญ่ ชางมินอดที่จะเหลียวหันไปมองไม่ได้ เมื่อเห็นรถคันคุ้นตาจอดอยู่ด้านหน้า แต่ก็จำต้องสลัดความคิดไร้สาระของตนทิ้งลง

                    “คิดถึงเจ้านั่นมากสินะ” ยุนโฮระบายยิ้ม แล้วกระชับอ้อมแขนเพื่อปลอบร่างบาง

                    “ไม่หรอกครับ..ผมลืมมันไปแล้วหละ” ก้อนเนื้อในอกซ้ายกระตุกวูบ ชางมินระบายยิ้มอ่อนอีกครั้ง นัยน์ตากลมโตมองภาพของคู่รักมากมายที่กอดกันท่ามกลางอากาศที่หนาวเหน็บ แล้วเลื่อนขึ้นไปมองดวงดาวบนฟากฟ้าที่บัดนี้ทอแสงเป็นประกายชัดเจนยิ่งกว่าวันไหน ๆ

     

                                    ...ผมอยากให้พี่มาดูด้วยจัง..ดาวที่นี่หนะ สวยมากเลยหละ

     

                    “อยากไปไหนมั้ย” ร่างสูงเอ่ยถามคนตัวบางกว่า ชางมินสบตากับคนตัวโตอย่างแปลกใจ ริมฝีปากอิ่มเหมือนกำลังจะเอ่ยอะไรบางอย่าง แต่ศีรษะกลมกลับส่ายไปมาเป็นการปฏิเสธ

                    “กลับเถอะครับ อากาศชักเย็นแล้ว”

                    ร่างทั้งสองเดินผ่านถนนสายเดิมที่คุ้นเคยไปตามทางที่แสงไฟเริ่มลดน้อยลงอย่างช้า ๆ หิมะโปรยตัวหนักขึ้นจนพื้นอิฐบล็อกเริ่มเปลี่ยนเป็นสีขาวโพลน

                    ร่างบางเหลือบมองสวนสาธารณะเล็ก ๆ ที่เป็นทางผ่านในการกลับอพาร์ทเมนต์ ผู้คนจำนวนไม่น้อยที่มาพักผ่อนอยู่บริเวณนี้ เสียงของเด็กเล็กหัวเราะกันเซ็งแซ่ ทำให้ชางมินระบายยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว

                    ร่างทั้งสองเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าบานประตูอันเป็นทางเข้าไปสู่ภายในห้องที่อบอุ่นกว่าด้านนอกหลายเท่าตัว ยุนโฮล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงก่อนจะหยิบกุญแจสีเงินดอกหนึ่งออกมาไขบานประตูออก แล้วรอให้น้องเล็กเดินเข้าไป ก่อนที่ตนจะตามเข้าไปภายหลัง

                    มือหนาเอื้อมไปเปิดไฟภายในห้องกว้าง ก่อนที่ร่างกายแข็งแรงจะทรุดลงบนโซฟาตัวยาวที่ตั้งอยู่ด้านหน้า ยุนโฮถอดเสื้อหนาวตัวใหญ่ออกจากกายท่อนบน

                    “ชางมิน ไปอาบน้ำก่อนไป เดี๋ยวพี่ค่อยตามไปนะ”

                    “ครับ ๆ” ร่างบางตอบอย่างว่าง่าย ก่อนเดินเข้าห้องประจำของตนไป

                    เสื้อโค้ทตัวหนาถูกถอดออกจากลาดไหล่บางแล้ววางลงบนเตียงตัวกว้างอย่างเป็นระเบียบ ชางมินเดินไปคว้าผ้าเช็ดตัวผืนเล็กมาพาดไว้บนบ่าของตน แล้วเดินเข้าห้องน้ำไป

                    มือบางดันประตูปิดลง ชางมินจัดแจงถอดเครื่องแต่งกายท่อนบนออก นัยน์ตากลมโตมองร่างของตัวเองแล้วถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

     

                    ผอมลงอีกแล้วนะ..ชางมิน

     

                    ถ้าเป็นยูชอน..ชางมินเชื่อได้เลยว่าเขาต้องพูดคำ ๆ นี้กับชางมินเป็นแน่ ร่างบางเดินเข้าไปในห้องอาบน้ำแล้วทำการเปิดธารน้ำสายอุ่นให้ชำระกายเย็น

                    เวลาไม่นานนักที่ชางมินใช้ในการอาบน้ำ เพราะในฤดูหนาวแบบนี้ จะให้ทนอาบน้ำนาน ๆ ตัวเขาเองก็ทนไม่ไหวเช่นกัน ร่างบางกลับออกมาพร้อมเสื้อนอนตัวหนาและกางเกงขายาวที่ช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้กายของตน ขายาวก้าวออกไปที่โถงกว้าง เพื่อปลุกพี่ชายคนตนที่นอนหลับอยู่

                    “พี่ยุน คิวพี่อาบน้ำแล้วนะ” มือบางตีที่ท่อนแขนใหญ่ไม่เบานัก ทำเอาคนร่างสูงหน้ายู่แล้วยอมที่จะลุกขึ้นจากโซฟาตัวกว้าง ท่อนแขนเล็กยื่นผ้าขนหนูให้ร่างสูง

                    “อืม..หรอ..ขอบคุณนะ” รอยยิ้มบางของยุนโฮปรากฏขึ้นบนใบหน้าคมเข้ม ยุนโฮรับผ้าขนหนูผืนเล็กมาจากมือของอีกฝ่าย ร่างสูงยันกายลุกขึ้นก่อนเกาศีรษะกลมของตนเองไปมาด้วยความงุนงง ยุนโฮเดินไปจนแผ่นหลังลับสายตา

                    ร่างบางรีบตรงไปที่โต๊ะคอมขนาดกลาง ก่อนที่จะเปิดโน้ตบุคของตนขึ้นมา นิ้วเรียวยาวไล่ไปตามแป้นพิมพ์อย่างชำนาญไปยังเว็บไซต์ที่ตนเข้าอยู่ทุกวัน..ทวิตเตอร์ ชางมินมองดูข้อความมากมายที่แฟน ๆ ส่งให้กับคนรักของตนแล้วระบายยิ้ม ก่อนที่นิ้วเรียวจะพิมพ์อะไรบางอย่างลงไปเช่นกัน

     

                                    เมอร์รี่ คริสต์มาสนะครับ..พรุ่งนี้ก็จะครบ 7 ปีแล้ว ผมรักพี่นะ ^^

     

                    ข้อความสั้น ๆ ที่เหมือนกับแฟนคลับคนอื่น ๆ ส่งให้ เปลือกตาบางถูกปิดลงเพื่อกลั้นไม่ให้น้ำตากลิ้งไหลออกมาจากนัยน์ตาของตน ใบหน้าหวานฟุบลงกับโต๊ะไม้เนื้อแข็ง

                    ใบหน้าหวานเงยขึ้นมองที่หน้าจอสี่เหลี่ยม โดยหวังว่าคนรักจะตอบกลับมา แขนยาวเอื้อมไปคว้าตุ๊กตามิกกี้เมาส์ตัวใหญ่มากอดเอาไว้ แล้วซุกใบหน้าลงบนตัวนิ่ม

     

     

     

                “ชางมิน.. พี่ซื้อมาให้ นายชอบมั้ย” น้ำเสียงทุ้มนุ่มเอ่ยกับคนรัก พร้อมชูตุ๊กตามิกกี้เมาส์และมินนี่เมาส์ขึ้นมา

                “พี่ยูชอนซื้ออะไรเป็นเด็ก ๆ ไปได้ ทำตัวอย่างกับเด็กผู้หญิงแหนะ” ชางมินตอบพลางทำหน้าตาขนลุกขนพอง

                “เอ๊ะ พูดแบบนี้ได้ยังไงครับ..ถึงพี่จะเป็นยังไง ชางมินเองไม่ใช่หรอที่เป็นคนให้พี่กดหนะ” ยูชอนกระซิบข้างใบหูนิ่ม ทำเอาคนตัวบางถึงกับหน้าขึ้นสีเรื่อ

                “พูดอะไร น่าเกลียด ใครจะไปยอมพี่กันหละ!

                “ไม่ยอมได้ยังไงครับ ก็บอกพี่เองไม่ใช่หรอไงว่าไม่ให้หยุด ฮึ” ยูชอนระบายยิ้มแป้นแล้น ทำให้ใบหน้าหวานยิ่งงอง้ำกว่าแต่ก่อน

                “ไม่คุยด้วยแล้ว” น้ำเสียงหวานกระชากอย่างไม่ปิดบัง ชางมินพองลมที่แก้มป่อง ๆ จนดูน่ารัก

                “ครับ ๆ ไม่แกล้งก็ได้ งั้นถ้าไม่เอา พี่จะเอาไปให้คนอื่นแล้วนะ” ยูชอนลูบศีรษะกลมทุยพลางแสร้งตีใบหน้าเศร้า แล้วทำท่าจะเดินกลับไปจริง ๆ

                “เดี๋ยวสิ” ชางมินรีบดึงชายเสื้อคนรักเอาไว้ ยูชอนหันกลับมาพลางเลิกคิ้วขึ้น

                “ทำไมหรอ”

                “ก็ซื้อมาแล้วไม่ใช่หรอไง ผมเก็บไว้ก็ได้” ชางมินก้มหน้าลงต่ำเพื่อซ้อนสีแดงเรื่อที่วิ่งขึ้นใบหน้าหวานของตน ยูชอนระบายยิ้มกว้าง

                “อยากได้ก็บอกอยากได้สิ จะวางฟอร์มทำไมนักหนา” ยูชอนขำน้อย ๆ กับท่าทางของน้องเล็ก

                “ก็ไม่ได้วางฟ..อ....อื้อ...” ริมฝีปากหนาเข้าบดเบียดอีกฝ่ายอย่างไม่รีรอ มือแกร่งใช้ช้อนเอวคนตัวบางก่อนที่ขายาวจะล้มพับลงไปเสียก่อน ชางมินดึงรั้งทั้งตัวเสื้อของร่างสูงเพื่อค้ำกายตัวเองไว้เช่นกัน

                ลิ้นร้อนเริ่มบดเบียดเข้าแทรกไปในโพรงปากหวานอย่างอ้อยอิ่ง แล้วกวาดต้อนความหอมหวานในโพรงปากอย่างเพลิดเพลินจนน้ำหวานข้นไหลออกมาจากขอบปากบาง

                “อือ...” ร่างบางยกแขนขึ้นพาดไว้บนลำคอแกร่งเพื่อรับรสจูบหอมหวานได้ถนัดขึ้น มือข้างหนึ่งของยูชอนเองก็กดลงบนท้ายทอยของอีกฝ่ายเพื่อปรับองศาให้เหมาะสมเช่นกัน

                เสียงครางหวานดังระงมอยู่ในลำคอยาว เปลือกตาบางค่อย ๆ ปิดลงช้า ๆ จนแนบสนิท ยูชอนรั้งเอวบางของอีกฝ่ายให้แนบกับกายของตนเองมากขึ้นจนได้ยินเสียงก้อนเนื้อที่เต้นประสานเป็นจังหวะเดียวกัน

                “อือ...ฮ.....ฮ้า...” ริมฝีปากอิ่มของอีกฝ่ายถูกถอนออกมา ยูชอนมองใบหน้าแดงก่ำแล้วยกยิ้มขึ้นอย่างพอใจ

                “ไหนบอกว่าพี่เหมือนผู้หญิงไงครับ ผู้ชายที่ไหนเค้ายอมให้ผู้หญิงจูบกัน” ยูชอนยังคงนำคำพูดเก่ามาล้อคนหน้าแดงไม่เลิก ชางมินถึงกับเลิกลัก จะกลืนก็ไม่เข้า จะคายก็ไม่ออก

                “ก...ก็ผมไม่ได้พูดซะหน่อยหนิ..ก็แค่บอกว่าเหมือน....แต่แค่นี้ไม่เห็นต้องแกล้งกันเลยนี่!!” ชางมินยู่หน้าที่ยังคงแดงจัด

                “ครับ ๆ พี่ไปก็ได้” ยูชอนเอ่ยด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ แววตาเศร้าสลดลงชั่วขณะหนึ่ง

                “ค..ใครบอกให้ไปเล่า! อยู่เป็นเพื่อนก่อนสิ”

                “ขออยู่เป็นสามีแทนไม่ได้หรอครับ ฮ่าๆ” ใบหน้าหวานยิ่งขึ้นสีแดงก่ำ ผิดกับยูชอนที่หัวเราะชอบใจอย่างเปิดเผย

                “โหย ไปไหนก็ไปเลย ไม่ต้องอยู่มันแล้ว” ชางมินยกมือขึ้นกอดอกแล้วทรุดกายลงที่โซฟาตัวใหญ่

                “โอ๋ ไม่เอาน่า อย่างอนสิครับคุณภรรยา” ยูชอนทรุดกายลงข้าง ๆ ร่างบอบบาง ก่อนเอ่ยด้วยรอยยิ้ม

                “พี่ยูชอน! ผมเป็นผู้ชายนะ”

     

     

                    ชางมินสูดกินหอมจาง ๆ ที่ยังคงติดอยู่บนตัวตุ๊กตาอย่างคิดถึง แล้วปล่อยให้เจ้ามิกกี้เมาส์ตัวโตเป็นที่ซับน้ำตาของตนที่ห้ามเอาไว้ไม่อยู่

                    “อ่าว ยังไม่นอนอีกหรอไง ง่วงแล้วก็ไปนอนสิ นอนอย่างงั้นเดี๋ยวคอจะเคล็ดเอานะชางมิน” ร่างสูงของยุนโฮเดินออกมาจากห้องแล้วนั่งมองน้องเล็กที่ซุกหน้าอยู่กับตุ๊กตาตัวนิ่ม

                    “อืม..รู้แล้ว ผมไปเองได้หน่า” ร่างบางเอ่ยด้วยน้ำเสียงอู้อี้ แต่ก็ยังไม่เงยหน้าขึ้นจากหัวกลม ๆ ของตุ๊กตาตัวใหญ่

                    “มันเห็นแล้วหละ ไปนอนเถอะ” ยุนโฮเอ่ยกับน้องชายที่ข้างใบหู ก่อนที่จะเดินกลับเข้าห้องนอนของตนไป เมื่อสิ้นเสียงบานประตูปิดลง ชางมินจึงรีบเงยหน้าขึ้นจากมิกกี้เมาส์ตัวใหญ่ มือยาวเลื่อนเมาส์ไปกดแถบที่โผล่ขึ้นมา

     

                                    1 new tweet

                เมอร์รี่คริสต์มาสเช่นกันครับ..พรุ่งนี้แล้ว~

     

                    เพียงแค่ข้อความสั้น ๆ แต่ชางมินกลับรู้สึกได้ถึงไออุ่นที่ส่งผ่านมาพร้อมกับข้อความ ร่างบางระบายยิ้ม ก่อนที่จะปิดโน้ตบุคลง แล้วถอนกายขึ้นจากเก้าอี้ตัวนุ่ม ร่างบางเดินกลับเข้าไปในห้องของตนเอง เพื่อเข้าสู่ห้วงนิทรา

     

     

                    เช้าวันใหม่ที่อากาศยังคงเย็นเยียบเช่นเคย เปลือกตาบางเปิดขึ้นอย่างช้า ๆ ชางมินมองที่นาฬิกาดิจิตอลซึ่งบอกเวลาปาไปเกือบ 11 โมงแล้ว ก่อนที่จะมองออกไปนอกหน้าต่างบานใหญ่ หิมะสีขาวปกคลุมไปทั่วบริเวณ เห็นแล้วเป็นภาพที่สบายตายิ่งนัก หากแต่หิมะกลับนำความวังเวงที่น่าประหลาดมาให้

                    ชางมินลุกขึ้นไปทำภารกิจจำเป็นยามเช้า ก่อนที่จะสวมเสื้อผ้าตัวหนาออกไปด้านนอกห้อง นัยน์ตาสีน้ำตาลเหลือบมองทางซ้ายที ขวาที แต่กลับไม่พบร่างของพี่ชายตัวสูงเลย ขายาวตัดสินใจก้าวไปยืนอยู่ที่หน้าประตูบานสีขาวสะอาดแล้วเปิดมันออก เผื่อจะพบพี่ชายของตนนอนอยู่ก็เป็นได้

                    “ดีนะที่ยังไม่มีตารางงานเข้ามาหนะ ไม่งั้นทั้งผมทั้งพี่ได้ซวยทั้งคู่แน่” ชางมินบ่นเบา ๆ ก่อนผลักบานประตูไป แต่ผลที่ได้คือ ไม่มีแม้แต่เงาของพี่ชายอยู่ภายใน

                    ขายาวเดินไปที่ครัวเพื่อหาอะไรลองท้อง พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นกระดาษโน้ตสีขาวขุ่นแปะอยู่ที่บานประตูตู้เย็น มือบางดึงมันออกมาเพื่ออ่านให้ชัดเจนขึ้น

     

                                    ชางมิน พี่ต้องออกไปทำธุระนิดหน่อย คงกลับดึกหน่อยนะ

                    นายไม่ต้องรอ หาอะไรกินเองเลย คงอยู่คนเดียวได้นะ

                                                                                                    พี่ยุนโฮ

     

                    ร่างบางมองกระดาษโน้ตแล้วถอนหายใจยาว ทั้ง ๆ ที่เป็นวันสำคัญสำหรับตัวเขาและทุก ๆ คน แต่ยุนโฮกลับปล่อยให้ชางมินอยู่คนเดียว ร่างบางเดินเข้าไปในครัวแล้วหยิบซองราเม็งมาทำแก้หิว

                    ไม่นานราเม็งชามโตก็ส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่วห้อง ชางมินยกชามร้อนไปวางไว้ที่หน้าโต๊ะตัวประจำ มือยาวเอื้อมไปกดสวิตซ์เพื่อเปิดโน้ตบุคทันที

                    นิ้วเรียวพิมพ์เข้าไปในเว็บไซต์เดิมอีกครั้ง ไม่นานนักหน้าจอสีฟ้าก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง ราเม็งชามโตค่อย ๆ หดหายไปเรื่อย ๆ พร้อมกับมือบางที่ยังคงกดเมาส์ไม่หยุด นัยน์ตาสีน้ำตาลเลื่อนไปตามตัวอักษรในข้อความที่เหล่าแฟนคลับพิมพ์ทิ้งเอาไว้ให้กับพวกเขา

                    ชางมินระบายยิ้ม ก่อนที่จะพิมพ์ข้อความสั้น ๆ ส่งให้กับยูชอนเช่นกัน แต่สุดท้ายร่างบางก็ตัดสินใจที่จะปิดหน้าต่างทิ้งไปเสียเอง

                    ร่างบางลุกขึ้นจากหน้าโต๊ะคอมตัวโปรดเพื่อนำชามราเม็งที่เพิ่งทานเสร็จไปล้างแล้วเก็บเข้าที่ ก่อนที่จะเดินไปคว้าเจ้ามิกกี้เมาส์ตัวใหญ่มาหยุดที่หน้าโซฟาตัวยาว ชางมินทิ้งกายลงบนโซฟานุ่ม แล้วหยิบหนังสือเล่มโตขึ้นมาอ่าน

                    เวลาผ่านไปร่วมหลายชั่วโมงจนท้องฟ้าเริ่มสีเข้มขึ้น ยิ่งในฤดูหนาวด้วยแล้ว ก็ไม่แปลกที่ฟ้าจะมืดเร็วกว่าปกติ ชางมินวางหนังสือในมือที่อ่านไปจนจบเล่มลงบนโต๊ะ...

     

     

                    แกร๊ก.. เสียงประตูบานใหญ่ถูกเปิดออกทำให้ชางมินเบนดวงหน้าไปจ้องที่บานประตูแทน เสียงดังคุ้นหูทำให้คิ้วเข้มต้องเลิกขึ้นสูง

                    “เฮ้ย เบาหน่อย ๆ” เสียงทุ้มของยุนโฮดังขึ้นภายนอกที่ชางมินได้ยินชัดเจนดีก็ยังไม่ช่วยให้ชางมินคลายความสงสัยลงไปได้ ขายาวก้าวลงจากโซฟาตัวใหญ่ แล้วเดินไปหน้าบานประตูก่อนจะเอ่ยกับพี่ใหญ่ด้วยเสียงขุ่น

                    “พี่ยุน จะเข้าห้องก็....” น้ำเสียงหวานถูกกลืนลงใบในลำคอจนหมด เมื่อเปิดบานประตูออกมาแล้วไม่ได้เจอแค่พี่ใหญ่เพียงคนเดียว นัยน์ตากลมเบิกโพลงอย่างไม่เชื่อสายตา

                    “ชอบมั้ย” ยุนโฮเอ่ยถามน้องเล็กที่ไร้ซึ่งเสียงใด ๆ เล็ดลอดออกมาจากปากบาง

                    “พ..พี่ยูชอน” ชางมินเอ่ยราวคนเพ้อ นัยน์ตาหวานเริ่มแดงก่ำ ตามมาด้วยน้ำตาสายเล็กที่ไหลลงมาเปรอะพวงแก้มเนียน ชางมินโผเข้ากอดผู้ที่เป็นเจ้าของหัวใจอย่างไม่อายใคร ใบหน้าหวานซุกลงบนบ่าหนา

                    “ฮึก..พี่ยูชอน....พี่ยูชอน..อึก...” ยูชอนโอบกอดคนรักกลับไป แล้วลูบที่แผ่นหลังบางเบา ๆ

                    “ครับ คนดี” น้ำเสียงอบอุ่นที่คนตัวบางโหยหาเอ่ยขึ้นที่ข้างใบหูเบา ๆ

                    “โอ้ย จะมากอดรัดฟัดเหวี่ยงกันทำไมตรงนี้..ไป! เข้าห้อง ๆ” ยุนโฮเดินถือขนมเค้กถุงใหญ่ฝีมือพี่โตสุดแล้วโอบเอวคอดของแจจุงเข้าบ้านอย่างสบายอารมณ์

                    ยูชอนพาร่างของน้องเล็กมานั่งที่โซฟาตัวยาวแล้วลูบศีรษะกลมไปมา ดวงหน้าหล่อยกยิ้มอ่อนขึ้นในขณะที่ทอดมองคนรักของคน

                    “ไม่ร้องแล้วนะ”

                    “อึก..อะไรเล่า! ไม่ได้..ฮึก...ร้องสักหน่อย” คนปากแข็งเอ่ยออกมาทั้ง ๆ ที่มือก็ยังคงยกขึ้นเช็ดน้ำตาของตน

                    “เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าร้อง ยังจะไม่ยอมรับอีก” ยูชอนคว้าคนตัวบางเข้ามากอดรัดแน่นด้วยความโหยหา

                    “ก็คนมันคิดถึงหนิ..ทั้งตกใจ ทั้งดีใจ ใครจะไปทำตัวถูกเล่า!” น้องเล็กเกิดอาการงอแงขึ้นมา แต่ยูชอนก็ยังคงระบายยิ้ม

                    “ผอมลงอีกแล้วใช่มั้ย” ชางมินผละตัวออกจากร่างกายอุ่นแล้วยู่หน้า

                    “ก็พี่ยุนทำอาหารได้เรื่องซะที่ไหน แล้วก็...ไม่มีคนกินมื้อดึกเป็นเพื่อนแล้วหนิ” ชางมินเอ่ยเสียงเบาราวเด็กกำลังโดนจับผิด

                    “แล้วไม่หิวหรอไง” ยูชอนเอ่ยเสียงดุ ชางมินก้มหน้าลงต่ำ

                    “ตอนแรกก็หิวครับ...แต่ตอนนี้ผมชินแล้ว”

                    “ดูซิเนี่ย เอวเหลือนิดเดียวเอง..งั้นวันนี้ชางมินต้องกินเยอะ ๆ นะครับ เข้าใจมั้ย”

                    “ปกติผมก็ไม่ได้กินน้อยซะหน่อ...พ..พี่ยูชอนนนน” เสียงหวานลากขึ้นสูงทันทีที่จู่ ๆ ยูชอนก็ช้อนกายบางของชางมินขึ้นจากโซฟานุ่ม

                    “ไปกินกัน ป่านนี้พวกนั้นคงเตรียมกันเสร็จแล้วหละ”

                    “ไม่เอา พี่ยูชอนวางผมลงนะ ผมไม่ใช่ผู้หญิงซะหน่อย” เสียงหวานยังคงโวยวายไม่หยุด แต่มีหรือที่ยูชอนจะยอมปล่อยร่างบางลงง่าย ๆ

                    “ถึงจะไม่ใช่ผู้หญิงก็เป็นภรรยาพี่อยู่ดีนั่นแหละครับ” ยูชอนว่าแล้วก็พาร่างบางไปนั่งที่โต๊ะอาหารตัวใหญ่ที่บัดนี้ดูคับแคบไปถนัดตา

                    “เจ้าเด็กเปรต ยูชอนมาหน่อยนี่ถึงกับไม่มีแรงเดินเลยหรอไง” ไม่ใช่เสียงใครที่ไหนนอกเสียจากเสียงแหลมสูงของจุนซูที่คอยกัดน้องเล็กอยู่ร่ำไป

                    “พี่จุนซูเงียบไปเลย!” ชางมินเถียงกลับด้วยสีหน้าแดงซ่าน

                    “เอ้ออ ลืมไป ๆ สามีอยู่ พูดไม่ได้หนิเนอะ อิยะฮ่าๆๆๆ”

                    “พูดไปเลย ผมจะกินแล้ว อย่าหาว่าไม่เตือนแล้วกัน” ชางมินเอ่ยด้วยเสียงงอน ๆ ก่อนที่จะหันไปสนใจอาหารตรงหน้าที่วางเรี่ยรายอยู่เต็มพื้นที่..

                    เป็นอย่างที่ใครหลาย ๆ คนได้พูดไว้ ช่วงเวลาแห่งความสุขมักจะผ่านไปอย่างรวดเร็ว แต่เสียงของชายหนุ่มทั้งห้าก็ยังคงร้องเพลงคลอกันไม่หยุด เสียงหัวเราะยังคงดังก้อง เมื่อยุนโฮ จุนซู และยูชอน ลุกขึ้นเต้นท่าทางประหลาด ๆ แม้อากาศภายนอกจะหนาวสักเท่าไร แต่บรรยากาศภายในก็ยังคงอบอุ่นไม่เปลี่ยน

     

     

                    “โอ้ย ไม่เอาแล้ว อิยะฮ่าๆ เหนื่อยยย” จุนซูหัวเราะไปพูดไปกับการดูยุนโฮเต้นส่ายไปมา

                    “ไม่เอาน่า มีคืนเดียวก็ต้องเต็มที่หน่อยสิ ใช่มั้ยครับที่รัก” เสียงทุ้ม ๆ ของยุนโฮ เอ่ยกับร่างบางที่ยังยืนหัวเราะไม่หยุด

                    “ฮะๆ เอาเลย~” นี่คงเป็นครั้งแรกที่แจจุงไม่มีการโวยวายแต่อย่างใด ทั้ง ๆ ที่ปกติจะเป็นคนบอกให้พอเพียงคนแรก เรียกรอยยิ้มได้จากทุก ๆ คนเป็นอย่างดี...เพราะเวลาไม่เคยหยุดรอใคร

                    เว้นเสียแต่ชางมินที่เงียบลงไปเสียเฉย ๆ...

     

                    “มีคืนเดียว....”

     

                    “ชางมิน เป็นอะไรรึเปล่า” ยูชอนเดินเข้าไปถามคนรักที่นิ่งงันลงไป

                    “ไปอยู่กับผมหน่อยได้มั้ย” น้ำเสียงสั่นเครือเอ่ยขึ้นกับชายร่างสมส่วน ยูชอนทำสัญญาณให้ทุกคนสนุกกันไปก่อน แล้วพาคนรักของตนไปนั่งที่ระเบียงด้านนอก

                    ทั้งสองร่างออกมานั่งอยู่ที่ริมระเบียงด้านนอก ลมหนาวแล่นมาปะทะผิวกายบางที่แม้จะมีเสื้อตัวหนาคลุมทับ แต่ความเย็นก็ยังคงแทรกซึมผ่านเนื้อผ้าเข้ามา นัยน์ตาสีเข้มของยูชอนเหลือบมองใบหน้าหวานที่ดูเศร้าหมองไปถนัดตา

                    “ชางมิน...”

                    “พี่ยูชอน...จะอยู่แค่วันนี้จริง ๆ หรอ” น้ำเสียงสั่นคร้ามเอ่ยถามขึ้น นัยน์ตาแดงก่ำเชยขึ้นจ้องที่ดวงหน้าหล่อ

                    “...แล้วคืนนี้ชางมินมีความสุขรึเปล่า” ชายหนุ่มเลี่ยงที่จะตอบคำถามของอีกฝ่าย เพราะรู้ว่าชางมินไม่ใช่เด็กที่เข้าใจอะไรยาก เพียงแค่นี้ ร่างตรงหน้าของเขาก็เข้าใจทุกอย่าง

                    “ครับ...แต่ผมไม่อยากให้พี่ยูชอนไป” น้ำตาไหลออกมาจากดวงตากลมลงไปตามพวงแก้มเนียน ยูชอนใช้นิ้วไล้เช็ดมันออกเบา ๆ แล้วลำแขนแกร่งก็ดึงตัวร่างบางเข้าไปกอดทันที

                    “พี่เอง...ก็ไม่อยากไป” น้ำเสียงทุ้มเริ่มสั่นขึ้น ทำให้ชางมินต้องผละขึ้นมองใบหน้าหล่อ ตอนนี้แววตาของยูชอนที่ทอดมองไปยังร่างบางล้วนเปี่ยมไปด้วยความเจ็บปวดที่ฉายชัด

                    “พี่ยูชอน...” ร่างสมสวนกระชับอ้อมกอดจนแน่น แต่ชางมินก็ไม่มีทีท่าจะขัดขืนแต่อย่างใด

                    “แต่เวลาของเรามันมีแค่นี้ ให้ทำยังไงได้หละ..” ยูชอนคุมเสียงของตนไม่ให้สั่น แล้วลูบศีรษะกลม ก่อนที่ตนจะระบายยิ้มบาง ๆ ออกมา

                    “พี่อยู่กับผม..ได้มั้ย”

                    “ครับผม” ท่อนแขนแกร่งเลื่อนไปโอบกอดเอวบางไว้แน่น

                    “วันนี้ดาวสวยมากเลยเนอะพี่ยูชอน” ชางมินว่าแล้วเอนศีรษะกลมมาซบลงบนไหล่กว้าง มือบางยกขึ้นกอบกุมมือกร้านของอีกฝ่ายอย่างแน่นหนา

                    “แต่พี่ว่าคนที่นอนบนบ่าพี่ตอนนี้สวยกว่าอีกนะ” ยูชอนระบายยิ้มกว้าง

                    “อย่างงั้นหรอครับ..ผมว่าคนที่ผมนอนอยู่ก็หล่อมากเหมือนกัน” ชางมินหัวเราะเสียงเบาด้วยสีหน้าแดงจัด

                    “เอ...ครั้งนี้ไม่เถียงแล้วแฮะ” ยูชอนเอ่ยเสียงเบา ก่อนซบทับลงบนศีรษะกลมของอีกฝ่าย มืออุ่นกระชับฝ่ามือบางของอีกฝ่ายอย่างแน่นหนา

     

     

                            ...ไม่ต้องมีช่วงเวลาดี ๆ ให้กันทุกวัน

                ไม่ต้องเจอหน้ากันทุกวินาที

                ไม่ต้องกอดปลอบกันทุกช่วงเวลา

                            ขอแค่รู้ว่ายังรักกัน

                มีความจริงใจต่อกัน

                แค่ยังเชื่อมันในตัวของอีกฝ่าย

                ไม่ต้องมีคำใดที่มากกว่าคำว่ารัก

     

                            แค่รู้ว่ายัง “รัก” กัน..เท่านั้นก็เพียงพอ


    .................................................................................................

    ในที่สุดฟิคเรื่องนี่ก็จบ.. หลังจากความพยายามในการแต่งที่ยาวนานมาก
    ยอมรับว่ามันสั้นค่ะ แต่งตั้งแต่หลังสอบเสร็จยันจะปีใหม่
    สุดท้ายก็ได้แค่นี้ 5555

    มันอาจจะดูงงไปซักหน่อย เรื่องนี้เราเองก็ยังรู้สึกว่าเรียบเรียงไม่ค่อยถูกเลย
    ถ้าอ่านไม่รู้เรื่องต้องขอโทษด้วยนะคะ TT

    มาตอบเมนต์ให้ชื่นใจกันดีกว่าเนอะ!



    MuMPlE ไม่ว่าจะยังไง คู่คิสก็ยังเป็นคู่ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นเสมอเลยเนอะ ไม่ว่าจะในฟิค หรือจากการกระทำจริง ๆ ของยูชอนที่ทำให้น้องก็ตาม น่ารักมากเลยเนอะ ^^ ขอบคุณที่ติดตามเสมอเลยนะคะ สวัสดีปีใหม่ค่า

    ...+555+...
    ช่วงนี้ก็ต้องอารมณ์แบบนี้หละนะคะ แต่ยังไงทั้งยูชอนทั้งชางมินก็ยังน่ารักเหมือนเดิมเนอะ XD สวัสดีปีใหม่ด้วยนะคะ

    jejungmylove ชอบรึเปล่าเอ่ย หวังว่าจะสนุกกับฟิคของเราน้า ขอบคุณที่ติดตาม แล้วก็สวัสดีปีใหม่ค่ะ :)))

    {Queen}*,,[คิมแจ]๕๕+ จะทำยังไงก็ไม่หายจิตตกซักที TT ยิ่งช่วงวันสำคัญอย่างงี้ด้วยเนอะ ช่วงนี้ก็เป็นอะไรกับฟิคแนวนี้มากรึเปล่า เขียนได้แค่นี้ 555 แต่ก็ขอบคุณที่ติดตามมาตลอดนะคะ สวัสดีปีใหม่ค่า XD

    michu สวัสดีปีใหม่ค่าชิน ช่วงนี้อากาศก็เริ่มเย็นขึ้นนิดนึงแล้วเนอะ ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่พวกเค้าจะได้กอดกันกลม ๆ อีก เรื่องนี้มันแต่งได้มั่วจริง ๆ เลยเนอะ 555 หวังว่าจะรับไหวนะคะ ขอบคุณมาก ๆ เลยที่ติดตามมาตลอด รักษาสุขภาพด้วยนะคะ !!

    PRINce☆Cassiopeia ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะ หายไปนาน คิดถึงกันมั้ยเอ่ย (ไม่!!) คิดถึงบรรยากาศอบอุ่นเก่า ๆ จังเนอะ สวัสดีปีใหม่นะคะ ติดตามต่อไปด้วยน้า

    too ว้าว ได้รีดเดอร์เพิ่มอีกคนรึเปล่าเนี่ย หรือเดี๋ยวก็หายไป 5555 ขอบคุณที่มาอ่านฟิคของเรานะ ดีใจมากมาย ;DD สวัสดีปีใหม่ค่า

    prince ชอบมั้ยคะ ^^ สำหรับเรื่องนี้.... มันคงไม่ค่อยน่าประทับใจเท่าไหร่ TT แต่ก็ขอบคุณสำหรับกำลังใจแล้วก็คอมเมนต์น้า ช่วยติดตามต่อด้วยนะคะ สวัสดีปีใหม่ค่า



    แอบดีใจที่คอมเมนต์เยอะขึ้นนิดนึง 555 ขอบคุณสำหรับทุกวิวแล้วก็ทุกคอมเมนต์นะคะ
    ไปจริง ๆ แล้ว ปีใหม่กำลังจะมาถึงละนะ !!~

    Happy New Year 2011 นะคะ รีดเดอร์ทุกคน มีความสุขมาก ๆ นะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×