ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF TVXQ] The Story of Shim Changmin

    ลำดับตอนที่ #1 : [SF] Unvaluable Love :: Kiss

    • อัปเดตล่าสุด 13 ต.ค. 52


    Unvaluable Love..,

     

                                    ผมไม่รู้ว่าผมเก็บความรู้สึกนี้มานานเท่าไหร่

                    ผมไม่รู้ว่าผมรักเขาตั้งแต่เวลาไหน

                    ผมไม่รู้ว่าผมรักคนอย่างเขาไปได้อย่างไร

                                    ผมรู้แค่ว่า พอผมลืมตาขึ้นมา..

                    ทุกครั้งที่เห็นหน้า หัวใจผมก็เต้นแรงจนจุกที่อกด้านซ้าย

                    ทุกครั้งที่เขาพูดด้วย ผมจะรู้สึกเกร็งไปหมด

                    ทุกครั้งที่เขาดีด้วย ผมจะยิ่งคิดไปไกล..แค่คิดไปเอง

                                    ทั้ง ๆ ที่ผมก็รู้ว่า เขาไม่เคยคิดกับผมไปมากกว่า 'เพื่อน'

                    เพื่อนที่เปรียบเสมือนน้องชายในเวลาเดียวกัน...

     

     

    มหาวิทยาลัยคยองฮี:

                    ผมยังจำที่แห่งนี้ได้ดี วันแรกที่ผมกับเขาได้เจอกัน ผมยังจำมันได้ดี ผมเป็นเด็กที่เพิ่งสอบเทียบเข้ามาใหม่ เขาเป็นคนแรกที่เข้ามาคุยกับผม..พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน และอบอุ่น เขาทำให้ผมหัวใจเต้นแรง ตั้งแต่ครั้งแรกที่ผมเห็นเขา นี่สินะ คงเป็นพรหมลิขิตของผม แต่โชคชะตามันคงไม่ใจดีอย่างนั้นหรอกใช่มั้ย.. ทั้ง ๆ ที่ผมกับเขาอยู่ใกล้กันแค่เพียงเอื้อม แต่ผมกลับรู้สึกว่าช่องว่างระหว่างผมกับเขา มันห่างออกมาเรื่อย ๆ เหมือนผมกำลังวิ่งตามเขาไปยังถนนสายยาวอย่างไร้จุดหมาย ผมวิ่ง..แต่กลับวิ่งไม่ทันเขาที่กำลังเดินอยู่อย่างช้า ๆ

                    "ชางมิน~ ช่วยติวให้หน่อยสิ พรุ่งนี้ก็สอบแล้วนะ ขอร้องหละ" เขามาขอร้องผมอย่างเคย ผมก็ชักสีหน้าไม่พอใจออกไปหน่อย ๆ เหมือนกับทุกครั้ง แต่สุดท้าย ผมก็ต้องติวหนังสือให้เขาอยู่ดี

                    "เมื่อไหร่พี่จะยอมอ่านหนังสือเองซักทีเนี่ย แล้วเลิกมาให้ผมติวให้ เรียนก็ดี ไม่เข้าใจเลยจริงๆ" ผมส่ายหน้าน้อย ๆ อย่างเอือมระอากับการออดอ้อนเป็นเด็ก ๆ ของคนที่มีศักดิ์เป็นพี่ชาย

                    "พี่รู้ว่านายไม่ใจร้ายขนาดนั้นหรอกน่า ยังไงนายก็ช่วยพี่อยู่แล้ว"

                    "...." ผมมองพี่ยูชอนด้วยสายตาขวาง ๆ ทำให้เขาจ๋อยลงไปได้เหมือนกัน

                    "งั้นสอบเสร็จคราวนี้พี่พานายไปเลี้ยงมื้อนึงก็ได้ เลือกเองตามสบายเลย ของร้องหละนะ" มืออุ่น ๆ ของพี่เขาคว้าหมับที่แขนของผม พลางเขย่าไปมาเพื่อเซ้าซี้ให้ผมติวหนังสือให้

                    "พี่ยูชอน!! ผมไม่ได้เป็นคนเห็นแก่กินนะ" ผมพูดอย่างงอน ๆ แต่ความจริง ไม่มีข้อเสนอนั่นผมก็ยอมติวให้เขาอยู่แล้ว

                    "คร้าบ ๆ แต่ช่วยพี่หน่อยนะ ขอร้อง ไปติวที่บ้านนายก็ได้ นายจะได้ไม่ลำบากตอนเดินทางไง"

                    "พอแล้ว พี่ยูชอนอ่ะ ผมติวให้อยู่แล้วน่า ไม่ต้องมาอ้อนเลย"

                    "งั้นเริ่มวันนี้เลยนะ!!" พี่ยูชอนพูดด้วยน้ำเสียงดีใจจนผมเองก็อดแปลกใจไม่ได้

                    "อย่าลืมสัญญาด้วย บอกผมเองนะ ว่าจะเลี้ยงข้าวผมอ่ะ ถ้าเบี้ยวสองเท่าด้วย!!" ผมพูดเสียงเขียว ว่าแล้วก็หันไปสนใจกับหนังสือเล่มโตในมือต่อ

                    "คร้าบ ไม่ลืมหรอกครับน้องรัก งั้นกลับบ้านกัน จะได้ไปติว" พี่ยูชอนกระชากหนังสือในมือผมยัดลงในกระเป๋าเป้ใบโต แล้วลากผมกลับบ้านโดยไม่ฟังคำค้านของผมแม้แต่นิดเดียว

     

                                    มือของพี่ยูชอนอบอุ่นมากจริง ๆ ผมอยากกอดพี่จัง..

                                    พี่ทำให้ผมหวั่นไหว แม้ผมจะอยู่ในฐานะ 'น้องชาย' ก็ตาม

     

     

                    ผมกับพี่ยูชอนติวหนังสือกันจนดึก ข้าวก็ยังไม่ตกถึงท้องของผมแม้แต่เม็ดเดียว มีแต่เสียงของผมและพี่ยูชอนโต้ตอบกันในห้องนอนเล็ก ๆ ห้องนี้ มีเพียงขวดน้ำสองขวด ที่วางเป็นของประทังท้องของผมกับพี่ยูชอนไว้ ผมรู้สึกคอแห้งเล็กน้อย เพราะผมพูดคนเดียวอยู่ร่วมสี่ชั่วโมง แต่พี่ยูชอนก็ฟังผมอย่างตั้งใจ

                    "พอเข้าใจมั้ยฮะ" ผมเงยหน้าจากกระดาษแผ่นสุดท้ายที่เพิ่งอ่านให้เขาฟังจบ แล้วถามตามปกติ

                    "แล้วมีครั้งไหนที่พี่ไม่เข้าใจที่ชางมินสอนมั้ยหละครับ" พี่ยูชอนลุกขึ้นบิดขี้เกียจเพื่อคลายความล้า แล้วก็เดินไปทรุดอยู่บนเตียงของผมแทน

                    "ก็เข้าใจหนิฮะ แล้วมาให้ผมติวให้ทำไมเนี่ย หาเรื่องเสียเงินเปล่า ๆ" ผมคว้าหนังสือกองโตขึ้นมากองไว้บนโต๊ะ

                    "ชางมิน ไหน ๆ มันก็ดึกแล้วอ่า งั้นคืนนี้พี่ค้างนี่นะ" พี่ยูชอนไม่รอคำตอบของผม ก็ล้มลงนอนทันควัน

                    "พี่ยูชอนนน ลุกเดี๋ยวนี้นะ ยังไม่อาบน้ำเลย มานอนเตียงผมได้ไงอ่ะ" ผมเขย่าพี่ยูชอนสุดแรงจนตัวโคลนไปมา

                    "นายก็ไปอาบน้ำก่อนสิ เสร็จแล้วค่อยมาเรียกพี่ก็ได้" พี่ยูชอนพูดด้วยเสียงอ่อน ผมเลยทำตามอย่างที่เขาบอก...

     

                    "พี่ยูชอนฮะ พี่ยูชอน ผมอาบเสร็จแล้ว ไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้เลย เหม็น!" ผมเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยชุดนอนสีสะอาดตา ผ้าขนหนูยังคงคลุมอยู่บนศีรษะ หยาดน้ำหยดลงมาจากกลุ่มผมไปที่เสื้อเป็นวงกว้าง

                    "รู้แล้ว ๆ ขออีกห้านาทีไม่ได้หรอ" พี่ยูชอนพูดด้วยเสียงงัวเงีย แต่ตอนนี้ผมก็ง่วงไม่แพ้กันหรอก

                    "ไม่เอาแล้ว ขี้โกงมาหลับก่อนผมแล้วยังไม่ไปอาบน้ำอีก เหม็นจะตายอยู่แล้ว ไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้เลย ไม่งั้นคราวหน้าผมไม่ติวให้แล้วด้วย" พี่ยูชอนก็ยังคงนิ่ง ไม่ยอมลุกจากเตียง

                    "งั้นคราวหน้าไม่ต้องมาคุยกับผมเลย ไม่ยุ่งด้วยแล้ว!!" ผมพูดด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด แล้วล้มลงนอนทับร่างสูงโปร่ง

                    "โอ๊ย ชางมินอ่ะ มานอนทับทำไมเนี่ย พี่ไปแล้วก็ได้" สุดท้ายผมก็ทำให้พี่เขาไปอาบน้ำได้ซักที ผมเองก็อยากนอนจะแย่แล้ว

                    "เสื้อผ้าผมเตรียมไว้ให้แล้วนะฮะ ฝันดีฮะพี่ยูชอน" ผมเข้าสู่ห้วงนิทราอย่างง่ายดายเพราะล้ามาทั้งวัน...

     

     

                    "ชางมิน!! ตื่นได้แล้ว สายแล้วนะ เดี๋ยวไปสอบไม่ทัน"...

     

                    "อา โชคดีนะเนี่ยที่พี่ยูชอนตื่นทัน ไม่งั้นผมพลาดสอบแน่เลย แหะ ๆ" ผมพูดระหว่างที่กึ่งเดินกึ่งวิ่งไปมหา'ลัยอย่างเร่งรีบ

                    "ดูซิเนี่ย ยังไม่ได้กินอะไรเลยอ่ะ พี่หิวนะชางมิน"

                    "ไม่เห็นเป็นไรหนิฮะ เดี๋ยวเย็นนี้ก็ไปหาอะไรกินกันไง ฮ่า ๆ" ผมพูดพลางหัวเราะอย่างอารมณ์ดี

                    "ทีเรื่องแบบนี้หละ จำได้ดีเชียวนะ" พี่ยูชอนขยี้หัวผมเล่น อาจจะเพราะเอ็นดูผมก็ได้ แต่การกระทำของพี่ยูชอนกำลังทำให้หัวใจผมเต้นแรงแทบจับจุดไม่ได้

                    "พอแล้ว ทุกทีอ่ะพี่ยูชอน เดี๋ยวขอให้ทำข้อสอบไม่ได้เลย"

                    "อ่ะ พี่ขอโทษน้า~ รีบไปเร็ว โรงเรียนจะเข้าแล้ว" ผมกับพี่ยูชอนรีบเร่งฝีเท้าให้ไวขึ้น พวกเราถึงโรงเรียนทันอย่างฉิวเฉียด การสอบก็ยังคงดำเนินการไปอย่างรวดเร็วจนผมเองก็แปลกใจ ทั้ง ๆ ที่ผ่านไปนาน แต่ผมกลับรู้สึกว่าใช้เวลาไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

     

     

                    "พี่ยูชอนฮะ เร็วเลย ผมหิวจะแย่แล้ว ไปหาอะไรกินกัน ๆ"

     

                    ผมกับพี่ยูชอนเข้ามาในร้านอาหารธรรมดา ๆ แต่บรรยากาศด้านในดูอบอุ่น ผมไล่ดูเมนูอาหารที่อยากกินแล้วก็สั่งไปอย่างไม่กลัวคนจ่ายจะกระเป๋าฉีก แต่ผมก็ไม่ลืมที่จะสั่งเผื่อพี่ยูชอนไว้แล้ว

                    "ทานแล้วนะฮะ~" ช่วงเวลาในการทานอาหารก็หมดไปอย่างรวดเร็ว ทำไมทุกครั้งที่ผมได้อยู่กับพี่ เวลาแห่งความสุขของผมมันเหมือนจะดำเนินไปรวดเร็วเป็นพิเศษ อีกไม่นาน ผมกับพี่ก็ต้องแยกกันอีก...

                    "ชางมิน พรุ่งนี้ไปเที่ยวไหนกันมั้ย ไหน ๆ ก็เป็นวันเสาร์ แล้วก็สอบเสร็จแล้วด้วย" จู่ ๆ พี่ยูชอนก็โพล่งขึ้นมา

                    "อา จะไปไหนหละฮะ ผมได้หมดแหละ"ผมว่าแล้วก็ตักอาหารเข้าปากต่อ

                    "อยากไปทะเลมั้ย พรุ่งนี้เดี๋ยวไปทะเลกัน พี่กับนายไม่ได้ไปด้วยกันมานานแล้วหนิ"

                    "ก็ดีฮะ"

                    "งั้นพรุ่งนี้เดี๋ยวประมาณเก้าโมงพี่จะไปรับที่บ้านนะ เตรียมตัวให้พร้อมแล้วกัน"

     

                                    คำพูดของพี่ช่างอบอุ่น มันทำให้ผมสั่นไปหมด

                                    เหมือนผมไม่เป็นตัวเองเวลาอยู่กับพี่

                                    ทุกครั้งที่ผมได้อยู่กับพี่ เหมือนเวลามันจะผ่านไปเร็วเป็นพิเศษ...

     

     

    เช้าวันเสาร์: 09:00 a.m.

                    เสียงรดกดแตรเรียกผมอยู่ที่หน้าบ้านตอนเวลาเก้าโมงตรงพอดิบพอดี ผมรีบวิ่งออกจากบ้านด้วยเสื้อยืดสีขาวสะอาดที่มีฮูดสีเทาทับอีกชั้น กับกางเกงขาสั้นสีดำขึ้นรถพี่ยูชอนอย่างรวดเร็ว ผ่านไปไม่นานนักพวกเราก็ถึงที่หมาย...

                    ตอนนี้เบื้องหน้าของผมและพี่ยูชอนคือหาดทรายสีขาวสะอาดที่ตัดกับสีฟ้าของน้ำทะเลและท้องฟ้าใส ผมรีบลากพี่ยูชอนไปยังทะเลเบื้องหน้าทันที

                    "ชางมิน!!" ผมหันไปตามเสียงเรียกของพี่ยูชอนอย่างว่าง่าย น้ำทะเลเค็ม ๆ ก็สาดเข้ามาเต็มตัวของผม

                    "พี่ยูชอน มันเปียกหมดแล้วนะ! มาเอาคืนมั่งเลย" ผมรีบวักน้ำสาดกลับไปที่ตัวของพี่ยูชอนทันที เสื้อเชิ้ตตัวบางสีขาวสะอาดของพี่ยูชอนเมือต้องกับน้ำทำให้เห็นแผ่นอกลาง ๆ แต่มันก็มากพอที่จะทำให้หน้าของผมเปลี่ยนเป็นสีแดงเรื่อ

                    ผมกับพี่ยูชอนไล่สาดน้ำกันจนถึงบ่าย ตัวของพวกเราเปียกชุ่มไปดัวยน้ำเค็ม ๆ ของทะเลผืนใหญ่ ตามมาด้วยเสียงหัวเราะของความสุขที่มีมาอย่างไม่ขาดสาย แม้มันจะไม่ได้ดังก้องทั้งหาดทราย แต่มันก็ดังเต็มหัวใจของผม

     

                                    แต่ก็อย่างที่บอก เวลาแห่งความสุขมักจะผ่านไปเร็วเสมอ

     

                    ผมกับพี่ยูชอนหาอะไรจุกจิกกินง่าย ๆ ตลอดเวลา มันพอที่จะประทังท้องของผมให้อยู่ได้ทั้งวัน แต่ตอนนี้ก็เย็นมากแล้ว ท้องฟ้าสีฟ้าใสได้ถูกย้อมให้เป็นสีส้มสด ผมรู้สึกถึงความเงียบที่ค่อย ๆ คืบคลานมาช้า ๆ

                    "ชางมิน ขึ้นรถได้แล้ว ต้องกลับกันแล้วนะ เดี๋ยวจะไม่สบาย เร็วเข้า" พี่ยูชอนตะโกนมาไกล ๆ ผมได้ยินดังนั้นก็รีบวิ่งไปหาด้วยกลัวว่าพี่เขาต้องเสียเวลารอผมนาน

                    ขากลับพี่ยูชอนไม่ได้เปิดแอร์ ด้วยเหตุผลที่ว่ากลัวผมหนาว นั่นก็เป็นเหตุผลเล็ก ๆ ที่สามารถสร้างความสุขให้ผมจนชุ่มหัวใจ แต่อากาศรอบนอกก็หนาวเกินกว่าผมจะทน เพราะผมเป็นคนบอกให้พี่ยูชอนเปิดกระจกรถเอาไว้ ผมเลยนั่งกอดอกหลวม ๆ ไว้แทน... พี่ยูชอนมาส่งผมถึงหน้าประตูบ้าน ความจริงแล้ว เขาจะไปส่งผมถึงบนห้องเลยด้วยซ้ำ ถ้าไม่ติดว่าดึกมากแล้ว ผมก็คงยอมหรอก

                    "รีบกลับเถอะฮะพี่ยูชอน เสื้อผ้าก็เปียก เดี๋ยวจะไม่สบายนะ" ผมพูดทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็รู้สึกหนาว ๆ ร้อน ๆ

                    "ครับ งั้นเดี๋ยวพี่จะโทรไปหานะ รอรับโทรศัพท์ด้วย" พี่ยูชอนว่าเสร็จก็เดินกลับไปขึ้นรถ ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้ง.. เป็นอีกครั้งแล้ว ที่ผมต้องอยู่คนเดียว

     

                    ผมขึ้นไปที่ห้องนอนด้วยความเหนื่อยล้า ร่างกายแทบจะสั่งให้ขยับทำงานไม่ได้เมื่อผมล้มตัวลงนอนบนเตียง...

     

    Rrrrrrr...

     

     

                    "ชางมิน เป็นอะไรรึเปล่า เมื่อคืนทำไมไม่รับโทรศัพท์พี่" ตอนสายของวันใหม่ พี่ยูชอนลองโทรมาหาผมอีกครั้งเพราะเมื่อคืนผมไม่ได้รับโทรศัพท์ที่โทรมาหา

                    "ไม่มีอะไรหรอกฮะ พอดีผมเหนื่อยเลยรับไม่ไหว แหะ ๆ" ผมกรอกเสียงลงไปในโทรศัพท์อย่างอ่อนแรง คงเป็นเพราะเมื่อวานเล่นน้ำนานไปหน่อย ไข้ผมคงจะขึ้นแล้ว..

                    "เสียงดูอ่อน ๆ นะ เป็นอะไรรึเปล่า ให้พี่ไปหามั้ย" พี่ยูชอนพูดด้วยเสียงห่วงใยจนผมรู้สึกอุ่นไปถึงขั้วหัวใจ

                    "ไม่เป็นไรฮะ ผมสบายดี ไม่ได้เป็นอะไรซักหน่อย ไม่เห็นต้องมาหาเลย" ผมปฏิเสธอย่างรู้หน้าที่ ถ้าพี่ยูชอนมาหาผมตอนนี้ผมต้องโดนดุแน่ ๆ เลย

                    "แต่เมื่อวานพี่ก็เห็นสีหน้าเราไม่ค่อยดีเลยนะ ไม่เป็นไรจริง ๆ หรอ" พี่ยูชอนเซ้าซี้ผมด้วยคำถามเดิม ๆ แต่ผมก็ยังคงปฏิเสธ

                    "ก็ผมไม่เป็นไรหนิ แค่นี้ก่อนแล้วกันนะฮะ" ผมรีบตัดสายทิ้งเพราะตอนนี้ผมอยากพักผ่อนเต็มแก่...

     

     

    Rrrrrrrrrr...

                    "ชางมิน เป็นอะไร ทำไมไม่มาเรียน" ผมจะรู้สึกไปเองรึเปล่าว่าพี่ยูชอนพูดด้วยน้ำเสียงกังวลแปลก ๆ

                    "อ่อ พอดีผมตื่นไม่ทันหนะฮะ เลยหยุดเลย"

                    "แต่ปกติเราไม่ใช่คนแบบนี้นะ ไม่สบายใช่มั้ย บอกพี่มา" พี่ยูชอนพูดแล้วกดเสียงลงต่ำจนผมก็ยังกลัวเลย ปกติพี่ยูชอนเป็นคนอบอุ่น ใจดี ไม่เคยใช้น้ำเสียงแบบนี้พูดกับผมเลยซักครั้ง

                    "ก็ผมตื่นสายจริง ๆ หนิฮะ แล้วไปไม่ทัน พี่ยูชอนไม่เชื่อผมหรอ" ผมพูดด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ หวังว่าพี่ยูชอนจะเลิกเซ้าซี้ผมซักที  ผมจะได้นอนต่อให้เต็มอิ่มกว่านี้ซักหน่อย อีกอย่าง ผมแทบจะไม่มีแรงพูดแล้วด้วย

                    "ใช่ พี่ไม่เชื่อ" น้ำเสียงกระแทกกระทั้นหลุดออกมาจากปากของพี่ยูชอน ทำให้ผมใจสั่น แต่สติของผมก็ไม่พอที่จะเก็บไว้คิดเรื่องพวกนี้ ผมล้าเกินกว่าจะทำอะไรแล้วจริง ๆ...

     

                    "อ..อือ...." ผมรู้สึกถึงความเย็นที่มาสัมผัสบริเวณใบหน้าผม จึงค่อย ๆ ขยับเปลือกตาขึ้นช้า ๆ

                    "พ..พี่ยูชอน มาทำอะไรฮะ"

                    "ไม่สบายทำไมไม่บอกห๊ะ! ไข้สูงอย่างงนี้ใครจะดูแล ไม่ไว้ใจพี่ใช่มั้ย ทำไมต้องโกหกด้วยชางมิน" พี่ยูชอนกึ่งพูดกึ่งตะคอก พี่เค้าคงจะโกรธผมมากจริง ๆ เพราะตั้งแต่ผมอยู่กับพี่เค้ามา ยังไม่เคยเห็นพี่เค้าโกรธใครเท่านี้มาก่อนเลย

                    "ผมไม่เป็นอะไรซักหน่อย พี่กลับบ้านไปเถอะฮะ" ผมออกปากพูดหวังว่าพี่เค้าจะได้ไม่ต้องมาเสียเวลาดูแลคนที่เป็นได้แค่เพียงน้องชายอย่างผม

                    "พี่เป็นห่วงเรามากแค่ไหน รู้มั้ย ไม่เป็นไรแล้วทำไมไข้สูงแบบนี้" ถึงทำพูดของพี่ยูชอนจะใส่อารมณ์มากแค่ไหน แต่การกระทำของพี่ยูชอนก็ยังอบอุ่นเสมอในความคิดของผม

                    "ขอโทษฮะ แต่พี่ไม่ต้องห่วงผมก็ได้ ผมไม่สำคัญอะไรมากขนาดนั้นหรอกฮะ" ผมพูดเพื่อหวังจะให้พี่ยูชอนกลับบ้านไป

                    "ใครว่าไม่สำคัญ นายรู้มั้ยว่านายสำคัญสำหรับพี่มากแค่ไหนชางมิน นายสำคัญยิ่งกว่าชีวิตของพี่นะ ถ้าไม่มีนายแล้วพี่จะเหลือใคร เคยคิดถึงความรู้สึกของพี่บ้างมั้ย" พี่จะรู้สึกแบบเดียวกับผมรึเปล่า

     

                                    ผมเริ่มเกิดความไม่แน่ใจขึ้นมาให้หัวใจของตัวเอง..

     

                    "พี่หมายความว่ายังไงฮะ ผมไม่เข้าใจ" ผมตัดสินใจรวบรวมความกล้าแล้วถามออกไปในที่สุด

                    "พี่รักนาย ชางมิน รักมากกว่าที่พี่ชายคนนึงจะมอบให้กับน้องชาย รักยิ่งกว่าคนสำคัญ พี่รักนาย อย่าทำให้พี่เป็นห่วงได้มั้ย ขอร้องหละ" น้ำเสียงอ่อนโยนถูกถ่ายทอดมาอีกครั้ง หัวใจของผมที่เคยห่อเหี่ยว ตอนนี้กลับเหมือนได้น้ำมาหล่อเลี้ยงจนเต็มเปี่ยม ผมจ้องเข้าไปในนัยน์ตาที่สื่อความหมายมากมาย

                    "อึก..แล้วใครเขาให้มาบอกตอนนี้กันเล่า!..ฮึก.....ให้ผมรออยู่ตั้งนาน..ใจร้าย..ฮึก.." น้ำตาแห่งความสุขของผมหลั่งออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ เป็นน้ำตาแห่งความสุขแรกในชีวิตของผม

                    "พี่ขอโทษ..ต่อไปนี้พี่จะดูแลนายนะ เพราะฉะนั้นทีหลังมีอะไรต้องบอก เข้าใจมั้ย อย่าทำให้พี่เป็นห่วง มันจะทำให้พี่บ้า" ผมค่อย ๆ ยันตัวขึ้นมากอดพี่ยูชอนอย่างแนบแน่น

     

                                    อ้อมกอดที่ผมรอ สุดท้ายผมก็ได้มันมา

                                    ความรักของเรา มันจะมีค่าก็ต่อเมื่อเป็นรักที่บริสุทธิ์ใจ

                                    ซึ่งผมก็เชื่อว่าผมจะมอบความรักให้ได้มากอย่างที่พี่ยูชอนให้

                                    และผมจะดูแลเค้าอย่างดี

     

                    วันที่ผมต้องนอนป่วยอยู่บ้าน แต่กลับเป็นวันที่หัวใจของผมสดใสที่สุด เพราะในที่สุด ผมก็ได้รับความรักจากคนที่ผมเฝ้ารอมาโดยตลอด คนที่ผมคอยดูแลอยู่ห่าง ๆ ผมมั่นใจว่าพี่ยูชอนจะเป็นรักแรก...และรักสุดท้ายของผม

     

    -END of Unvaluable Love-

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×