คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : [SF] Precious of Love :: Kiss
ความรักที่งดงาม แม้บางครั้งจะต้องพบกับความเจ็บปวด
แต่มันกลับสามารถสร้างความสุขในบางเวลาได้อย่างประหลาด
แม้บางครั้ง อาจจะไม่ได้จบอย่างสวยหรูนัก
แต่ความรักก็ทำให้ชีวิตของบุคคลสองฝ่ายมีค่า
ทำให้รู้จักถึงคำว่า “การเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน”
.........................................................................
งานแต่งงานหรูหราที่จัดขึ้นระหว่างสองผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทชื่อดัง ห้อมล้อมไปด้วยแขกผู้มาเยือนและญาติมิตรคนสนิทมากมาย รวมถึงนักข่าวมากหน้าหลายตา ที่ถูกรับเชิญมาในงานซึ่งเป็นที่ฮือฮาตั้งแต่มีงานหมั่นระหว่างชายหนุ่มทั้งสอง
ผู้หนึ่งคือชายใบหน้าหล่อเหลา ในตาเรียวคม เป็นที่ดึงดูดของหนุ่มสาวมากมาย จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากอิ่ม ในชุดสูทสีดำสนิท ส่วนอีกผู้หนึ่งคือ ชายรูปร่างบางน่าทะนุถนอม แม้แต่ใบหน้ายังหวานราวกับอิสตรีก็ไม่ปาน นัยน์ตากลมโตที่มีขนตาติดเป็นแพ จมูกรั้นนิดๆ รับกับริมฝีปากบางในชุทสูทสีขาวสะอาด กำลังรับแขกผู้มาร่วมงานอย่างขะมักเขม้น
แต่ไม่มีผู้ใดอาจรู้ได้ว่าการที่ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะแต่งงานกันนั้น เพราะผลประโยชน์ทางธุรกิจทั้งสิ้น โดยที่ไม่ฟังคำค้านของทั้งสองฝ่ายเลยแม้แต่น้อย
ฝ่ายแรก..ที่ไม่มีความรักให้ฝ่ายตรงข้าม ถึงกระนั้น กลับยิ่งเพิ่มความรู้สึกเกลียดชังต่ออีกฝ่ายมากยิ่งขึ้น
อีกฝ่าย...ที่แอบรักอยู่เต็มหัวใจ แต่ในใจก็รู้ดีว่าเขาผู้นี้ไม่มีตัวเองอยู่เลยแม้เพียงเสี้ยว
สายตาที่มองทอดมาด้วยความรังเกียจแทบจะทุกครั้งที่เจอหน้า ถูกส่งผ่านมาที่ร่างบางซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ก็ได้แต่ทน ทนอยู่กับหัวใจที่บีบรัดแน่น พร้อมกับคมมีดที่กรีดลึกลงไปทุกวัน ถึงจะได้แต่งงานกับคนที่ตนรัก แต่ในเมื่ออีกฝ่ายไม่ได้รักตนเอง ก็ไม่อาจจะเกิดความสุขขึ้นมาได้ มีเพียงความสุขจอมปลอม ที่ถูกขีดเขียนขึ้นมาบังหน้าเท่านั้น...
"ผมขอตัวสักครู่นะฮะคุณยูชอน" ร่างบางกล่าวขึ้นขณะรับแขกเสร็จเรียบร้อย ในระหว่างที่งานกำลังใกล้เริ่ม
"อยากไปไหนก็ไปสิ นายไม่จำเป็นต้องมาบอกฉัน เราไม่ได้มีอะไรกันเสียหน่อย" ยูชอนตวัดมองชางมินด้วยหางตา แล้วเปรยด้วยน้ำเสียงเรียบ..เหมือนเช่นทุกครั้ง
"ขอโทษฮะ.."
'นี่พี่คงจำผมไม่ได้เลยสินะครับ เด็กผู้ชายคนนั้น ที่พี่เคยบอกว่าจะแต่งงานด้วย พี่คงลืมไปแล้วสินะ'
"ไม่จำเป็นต้องมาขอโทษ คำขอโทษของนายมันไม่สำคัญสำหรับฉัน แล้วก็รีบมาด้วย เดี๋ยวฉ้นจะโดนหาว่าไม่ดูแลเมีย" น้ำเสียงกดต่ำเน้นลงคำสุดท้ายของประโยคเป็นพิเศษ ขาเรียวก้าวยาว ๆ เพื่อหนีออกมาจากบริเวณงานเพื่อสงบอารมณ์พุ่งพล่านของตัวเอง มือบางยกขึ้นเช็ดน้ำตาที่ไหลลงมาจากดวงตาคู่สวย
กี่ครั้งแล้ว ที่เขาต้องทนกับพฤติกรรมเย็นชาของร่างสูง
ต้องทำเป็นไม่ใส่ใจ ไม่ให้ร่างสูงเห็นความอ่อนแอตรงหน้า
กี่ครั้งแล้ว ที่ต้องสะกดกลั้นอารมณ์และความรู้สึกเหล่านี้ไว้
ชางมินชะเง้อมองนาฬิกาที่หอใหญ่สักพัก แล้วสลัดความคิดฟุ้งซ่านทิ้ง พร้อมทั้งรีบวิ่งกลับเข้าไปในงาน เพียงเหตุผลที่ว่า ถ้าหากตัวเองมาช้ากว่านี้ ร่างสูงพาลจะยิ่งหงุดหงิดมากขึ้นกว่าเดิม.. พิธีมงคลสมรสที่ถูกจัดขึ้นอย่างเอิกเกริก พร้อมด้วยแขกคนดังมากหน้าหลายตา แม้งานจะดำเนินไปได้อย่างราบรื่นจนจบ แต่ความรู้สึกของบุคคลทั้งสองฝ่ายกลับไม่ดีขึ้นกว่าเดิม
.......................................................................
รถสปอร์ตสีแดงสดคันหรูแล่นด้วยความเร็วคงที่ไปตามเมืองในยามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยแสงไฟจากอาคารต่าง ๆ ภายในมีร่างสองร่างที่ไม่ปริปากใด ๆ ราวกับด้านในรถไม่มีคนโดยสารอยู่เลย... หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่ รถคันงามก็จอดเทียบกับหน้าประตูบ้านหลังใหญ่หรูหรา ที่อาจจะเรียกได้ว่าเป็นคฤหาสน์เสียด้วยซ้ำ
"ลงไปจากรถฉันได้แล้ว เดี๋ยวความสกปรกโสมมของนายมันจะมาติดตัวกับรถของฉัน อ่อ แล้วก็จำไว้ด้วยนะ ว่าที่นายได้ดิบได้ดีมา นี่ก็เพราะพ่อแม่ฉัน เพราะฉะนั้น นายได้มาอยู่ที่บ้านหลังนี้ในฐานะไหนก็ทำให้มันสมฐานะด้วย" น้ำเสียงระคนรำคาญออกปากไล่ร่างบางอย่างไม่เห็นอกเห็นใจ แต่เจ้าตัวก็ยังคงทำตามโดยไม่มีปากมีเสียง กระเป๋าสำภาระใบใหญ่ถูกคนออกจากรถอย่างทุลักทุเล
ร่างบางเดินเข้าไปในตัวบ้านที่ดูไร้ความอบอุ่น แม่บ้านคนหนึ่งได้เข้ามาหวังว่าจะช่วยถือของให้นายคนใหม่ แต่ก็ถูกบอกปัดปฏิเสธ เธอจึงเดินนำร่างบางไปยังห้องที่ร่างบางจะพักตั้งแต่คืนนี้เป็นต้นไป
"ขอบคุณมากนะฮะคุณป้า" ชางมินโค้งศีรษะน้อย ๆ อย่างมีมรรยาท แล้วรีบจัดของเข้าที่ของตน
"ไง ไปโปรยเสน่ห์ให้ป้าหรอ ท่านถึงได้ชมนักชมหนา มารยาเยอะจริงนะ ชิม ชางมิน" ร่างสูงเปิดประตูโดยไม่ขออนุญาตจากร่างภายในห้อง ด้วยอภิสิทธิ์ที่ตัวเองเป็นเจ้าของบ้าน
"นี่ คุณยูชอน ผมไม่ได้ไปทำอะไรน่าเกลียดอย่างที่คุณว่านะ ถึงบ้านผมจะไม่ได้รวยมากมายเหมือนกับคุณ แต่ก็ไม่ทำกิริยาต่ำ ๆ แบบที่คุณทำอยู่ตอนนี้หรอก" ชางมินละจากของที่เตรียมไว้ ริมฝีปากบางพูดกับยูชอนด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ
"คนต่ำ ๆ อย่างนายไม่มีสิทธิ์มาว่าคนอย่างปาร์ค ยูชอน แค่ฉันหาที่นอนให้นายอยู่ยังดีสักแค่ไหนแล้ว อย่ามาดูถูกกันให้มากนักนะ แล้วจะหาว่าฉันไม่เตือน!" แววตาของร่างสูงเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ ร่างสูงเข้ามากระชากแขนร่างบางอย่างไม่เกรงกลัว
"ถึงผมจะว่าแล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณ ถ้าคุณไม่ได้เป็นอย่างที่พูดแล้วจะร้อนตัวทำไม คิดว่าตัวเองประเสริฐแค่ไหนกันห๊ะ คุณก็มีดีอยู่แค่นี้หละ..อุ๊บ" ร่างสูงไม่เปิดโอกาสให้ชางมินพูดต่อ ริมฝีปากอิ่มเข้าบดขยี้ปากบางอย่างช่ำชองด้วยแรงโทสะ พลางพยายามส่งลิ้นร้อนเข้าไปชิมความหวานในโพรงปากหวาน แต่ร่างบางกลับเม้มริมฝีปากไว้แน่น
'ไม่ใช่ นี่ไม่ใช่จูบที่ผมคิดไว้ ผมไม่ต้องการแบบนี้'
น้ำตาสายอุ่นไหลลงมาจากดวงตาคู่สวยไม่หยุด แต่ยูชอนกลับไม่รู้สึกถึงมัน ยังคงพยายามบดเบียดริมฝีปากบางจนขึ้นห้อเลือดช้ำ จนในที่สุดร้างบางก็ยอมเปิดปากออก ลิ้นร้อนเข้าไปสำรวจโพรงปากหวานตามความต้องการของตนอย่างไม่แยแสคนที่ถูกกระทำ มือบางพยายามผลักอกแกร่งให้ไปไกลตัว ผิดกับลิ้นร้อนยังคงกระวัดกระเวียดอยู่ในโพรงปากหวานอย่างพอใจ น้ำสีใสค่อย ๆ ไหลลงมาจากขอบปากบางช้า ๆ ความหอมหวานรัญจวนใจทำให้เขาไม่อาจถอดถอนไปจากริมฝีปากตรงหน้าได้ ร่างบางใช้แรงเฮือกสุดท้ายผลักอกแกร่งออก ร่างสูงเซถลาไปเล็กน้อย แต่ก็ผละออกจากร่างบางได้ในที่สุด
ยูชอนมีสีหน้าไม่พอใจอย่างมากที่ชางมินผลักไสตนเองออกมา แต่เมื่อเห็นน้ำตาไหลออกมาจากนัยน์ตาสีน้ำตาลคู่สวย สิ่งที่อยากจะพูด อยากจะต่อว่า กลับพูดไม่ออก ร่างสูงได้แต่สบตาร่างบางด้วยแววตาที่สื่อออกมาว่าขอโทษ แต่สายตาที่ร่างบางส่งกลับมาให้นั้น กลับเป็นสายตาที่เต็มไปด้วยความผิดหวัง
หัวใจสูบฉีดระรัวเสียจนยูชอนรู้สึกเจ็บที่หน้าอก นัยน์ตาหุบลงต่ำด้วยความสำนึกผิด แม้ไม่หวังให้ร่างบางให้อภัยตน แต่ความรู้สึกสับสนก็เกิดขึ้นพร้อมกันในจิตใจ
'นี่น่าจะสะใจนายสิ ยูชอน แต่ทำไมไม่รู้สึกอย่างนั้น เจ็บอีกแล้วสิ'
"ชางมิน คือฉัน..ฉันขอโทษ ฉันขอ.."
"ไม่ต้องมาพูด ผมไม่อยากฟัง ออกไป..อึก...ออกไปจากห้องผม...ฮึก..อย่ามายุ่งกับผม.." น้ำเสียงตัดพ้อตวาดลั่น ในอกของยูชอนร้อนรุ่มยิ่งกว่าไฟที่แผดเผา แต่ตนก็ต้องจำยอมทำในอย่างที่ร่างบางว่า
'นายควรจะดีใจไม่ใช่หรอ ยูชอน...ที่ทำให้เด็กนั่นเจ็บปวด
แต่ทำไม...ถึงรู้สึกเจ็บแบบนี้ เวลาที่เห็นน้ำตาของมัน'
ขายาวก้าวออกจากห้องอย่างเชื่องช้า พร้อมความรู้สึกสับสนที่หลั่งไหลออกมา แผ่นหลังกว้างพิงประตูห้องนอนของชางมิน ร่างสูงค่อย ๆ ทรุดกายลงช้า ๆ มือใหญ่ยกขึ้นมากุมที่ขมับศีรษะ...
เวลาผ่านล่วงเลยไปจนเกือบค่ำ ยูชอนยังคงนั่งรอให้ชางมินเดินออกมาจากห้องนอนอย่างใจจดใจจ่อ แต่กลับไม่มีวี่แววของคนตัวบางเลยสักนิด ถึงจะนึกโกรธ แต่กลับเป็นห่วงเสียมากกว่า ร่างสูงเดินขึ้นไปยืนอยู่ที่หน้าห้องอีกครั้ง มือใหญ่ตัดสินใจเคาะประตูบานหนาเป็นการขออนุญาต
"คุณป้าหรอฮะ.. รอสักครู่นะฮะ" เสียงฝีเท้าเดินเข้ามาใกล้ประตูบานใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ลูกบิดประตูถูกเปิดออก เผยให้เห็นใบหน้าหวานของบุคคลภายในห้องที่มีสีหน้าตกใจปนหวาดกลัว นัยน์ตาสวยและจมูกเล็ก ๆ ยังคงเป็นสีแดงระเรื่อมาจากการร้องไห้อย่างหนัก มือบางรีบดันประตูกลับทันทีที่เห็นว่าบุคคลภายนอกเป็นใคร แต่ร่างสูงกลับใช้แรงที่มากกว่าดันประตูจนเปิดออก ชางมินถอยกรูดออกไปแทบจะทันที
"ค..คุณยูชอน...อย่าเข้ามา..อึก...ผมกลัวแล้ว..ปล่อยผมไปเถอะฮะ..ฮึก....ปล่อยผ.." คำพูดถูกกลืนหายไปทันทีจากการกระทำของร่างสูง ยูชอนคว้าชางมินมากอดแน่น
"ฉ..ฉัน ฉัน...ไม่ได้ตั้งใจ ยกโทษให้ฉันได้มั้ย...ชางมิน" น้ำเสียงอบอุ่นบอกราวกับย้ำเตือนว่าเป็นคำขอโทษที่มาจากหัวใจ
"...คุณยูชอน..ย...หยุดหลอกผมสักที..ผมขอร้อง..ผมเจ็บพอแล้ว!!" น้ำตาสายงามไหลออกมาจากดวงตากลมโตอีกครั้ง ร่างกายบอบบางอ่อนยวบลงไปในทันที แต่ยังมีร่างสูงคอยช่วยประคองไว้
...ผมรู้แล้ว ว่าทำไมผมถึงต้องเจ็บปวดเวลาที่เห็นน้ำตาของเด็กคนนี้
...ทำไมผมถึงไม่รู้สึกดีใจเวลาที่ทำผิดต่อเขา
เพราะผมโดนเขาขโมยหัวใจไปตั้งแต่แรกแล้ว
แต่ผมยังไม่รู้ตัว...มารู้ตอนนี้ มันจะสายไปอีกรึเปล่า
ผมแค่อยากบอกเขา ว่าผมขอโทษ
และพร้อมจะเริ่มต้นใหม่ในทุกสิ่ง...ขอโอกาสแค่อีกครั้งเดียว จริงๆ...
"ไม่ ฉันทำไม่ได้ชางมิน...ฉันขาดนายไม่ได้..ฉันร..."
"หยุด! พอแล้ว..อึก...ไม่เอาแล้ว คุณเลิกโกหกผมสักที ผมไม่อยากฟังอะไรทั้งนั้น..ฮึก...." มือบางพยายามที่จะดันแผ่นอกแกร่งออกห่างตัว แต่เมื่อชางมินยิ่งดัน กลับเหมือนยูชอนยิ่งรัดแน่นขึ้นเข้าไปอีก
"ฉันขอร้อง.."
"ออกไป..ฮึก...ออกไปเดี๋ยวนี้..เลิกมายุ่งกับผมสักที!.." ยูชอนหมดโอกาสที่จะรั้งร่างบางในอ้อมอกไว้ เขาตัดสินใจปล่อยคนตัวเล็กออก ร่างบางในอ้อมกอดทรุดลงไปกับพื้นแทบจะทันที..อยากคว้าเอาไว้ แต่รู้ดีว่าคงทำไม่ได้
"ฉันขอโทษนะชางมิน...แต่ฉันอยากให้นายรู้ไว้ว่าฉันรักนาย" คำพูดแผ่วเบาราวกับสายลม ที่เจ้าตัวคิดว่าไม่อาจส่งผ่านไปถึงอีกฝ่ายถูกถ่ายทอดออกมาจนหมดสิ้น ขายาวก้าวออกมาจากห้องนอนใหญ่ ประตูถูกกระชากปิดลง พร้อมมือหยาบที่กำแน่นแล้วชกลงที่ผนังข้างห้องจนเลือดซึม น้ำตาลูกผู้ชายไหลออกมาอย่างไม่อายใคร แต่เขาจะรู้บ้างไหม ว่าคำพูดทุกคำ ร่างบางสามารถได้ยินอย่างชัดเจน
.....................................................................................
รถสปอร์ตคันหรูขับเคลื่อนออกจากคฤหาสน์หลังใหญ่ภายใต้การเฝ้ามองของร่างบางจากบนห้องด้วยความเป็นห่วง คันเร่งถูกเหยีบจนเกือบมิดเหมือนอารมณ์ที่พุ่งพล่านไปตามเส้นทางอย่างไร้จุดมุ่งหมาย
-เอี๊ยด!!-
เสียงยางเสียดสีกับพื้นถนนดังก้องไปทั่วบริเวณ รถสปอร์ตหยุดชะงักลงเมื่อขับรถมาถึงสะพานข้ามแม่น้ำสายหนึ่ง ประตูรถถูกเปิดออกช้า ๆ ตามด้วยร่างสูงที่ก้าวออกมาจากตัวรถอย่างช้า ๆ สายตาเหม่อลอยทอดไปยังแม่น้ำสายยาวที่เป็นประกายระยับ ขายาวก้าวลงไปทางบันไดด้านข้างที่ทอดยาวไปยังแม่น้ำด้านล่าง แล้วทรุดกายลง
สงสัยฉันคงต้องขอโทษนายยกใหญ่ซะแล้วหละ
หวังว่านายจะยอมใจอ่อนนะ..ชางมิน
ร่างบางเดินลงจากห้องมารอร่างสูงที่ขับรถออกไปอย่างไม่ดูเวลาอยู่บนโซฟาตัวยาว จนตอนนี้เข็มสั้นเกือบชี้ไปที่เลข 1 แล้ว เปลือกตาบางปิดลงจากความเหนื่อยล้ามาทั้งวัน ประตูบานใหญ่ค่อย ๆ แง้มออก ตามตัวเจ้าของร่างสูงที่เดินเข้ามาอย่างเหนื่อยอ่อน พลางนัยน์ตาก็เหลือบไปเห็นร่างบางที่นอนอยู่บนโซฟา ขายาวก้าวเข้าไปหาร่างบางอย่างเชื่องช้า มือหยาบเลื่อนไปลูบศีรษะกลมเบา ๆ ด้วยความรัก แล้วค่อย ๆ ช้อนตัวร่างบางขึ้น
"อ..อืม..." ร่างบางขมวดคิ้วเข้าหากันเล็กน้อยแล้วค่อย ๆ เปิดเปลือกตาขึ้น นัยน์ตาเบิกโพลงจนไม่เหมือนคนเพิ่งตื่น
"ขอโทษนะที่ทำให้ตื่น" เสียงนุ่มพูดเบา ๆ กับชางมิน
"ค...คุณยูชอน วางผมลงเถอะ"
"ช...ชางมิน คือฉัน..ขอโทษ แต่ขอร้อง ขอโอกาสให้ฉันหน่อยได้มั้ย..แค่สักครั้ง ก็พอ" เสียงนุ่มสั่นเสียจนก้อนเนื้อด้านซ้ายของชางมินกระตุกวูบ ขอบตาบางร้อนผ่าวขึ้นอย่างไร้สาเหตุ
"ผ..ผมยังมีสิทธิ์เรียกร้องอะไรจากคุณด้วยหรอไง" ชางมินพูดเสียงแผ่วอย่างขาดความมั่นใจ
"มีสิ เพราะฉันรักนายไง ขอร้องหละนะชางมิน ให้โอกาสฉันเถอะ" น้ำตาของชางมินไหลออกมาจากดวงตากลมโตช้า ๆ
ผมคงต้องยอมคุณอีกแล้วสินะ...ยูชอน
..........................The End.........................
ความคิดเห็น