ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fantasy Network

    ลำดับตอนที่ #1 : 1st Shuffle Day วันแรกในอุดมคติ(ที่วุ่นวาย)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 370
      0
      28 มี.ค. 53

    Fantasy Network



    1st Shuffle Day วันแรกในอุดมคติ(ที่วุ่นวาย)

        ณ โรงเรียนมัยธยมปลายแห่งหนึ่ง บรรยากาศที่อบอวนไปด้วยดอกไม้ที่ผลิบานตามฤดู ยามเช้าที่ดวงอาทิตย์ทอดแสงลงมายังผิวผนังทำลายสีที่เปราะบางบนอาคารเรียนอยู่ตลอดทุกเวลาจนสีที่ดูสดใสในวันวาน ตอนนี้กลายเป็นสีที่ซีดจนเกือบขาวหลงเหลือเค้าของสีเดิมให้บ้างเล็กน้อย สนามฟุตบอลกับสนามบาสฯที่มีเด็กนักเรียนชอบไปเล่นในยามเช้าก่อนเข้าแถวเคารพธงชาติ เพื่อผูกมิตรกับเพื่อน และให้ได้เหงื่อก่อนเข้าเรียน ให้ห้องเรียนที่ตนเรียนนั้นอบอวบไปด้วยกลิ่นตัวและเหงื่อของตัวเอง "แล้วจะเล่นไปทำไม" แน่นอนว่าต้องมีคนคิดอย่างนี้ ไม่งั้นห้องเรียนในยามเช้าก็คงไม่มีนักเรียนมานั่งคุยกันอย่างสนุกสนาน ไม่มีวงไพ่ยามเช้าเล่นเอาฮาก่อนที่ต้องทรมานกับชั่วโมงเรียนที่แสนจะน่าเบื่อ และคงไม่มีกลุ่มเด็กกลุ่มหนึ่ง ที่มักจะมีบทสนทนาแปลกๆอยู่เสมอ เมื่อเด็กหนุ่มคนหนึ่งได้เดิมเข้ามาที่ห้องเรียนห้องนี้พร้อมกับเสียงเปิดประตูที่คนรู้จักกันดี จะบอกได้ว่าเป็นใครที่กำลังเข้ามา
    ???(a) : โอฮาโยะ มินนะ
    ???(b)&???(c)&???(d) : หา!?
        ทุกคนในกลุ่มนั้นกำลังงงๆกับการปรากฏตัวของเด็กหนุ่มที่เพิ่งเข้าห้องเรียนมาพร้อมกับหน้าซื่อๆไร้เดียงสาของเขา ถ้านี่เป็นการ์ตูน ก็คงจะมีเครื่องหมายคำถามอยู่บนหัวของแต่ละคนแล้ว
    ???(a) : อ้าว ทุกคน ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ
    ???(d) : นี่นาย เมื่อกี้นายพูดอะไรออกมาน่ะ
    ???(a) : ก็ "โอฮาโยะ" ไง ภาษาญี่ปุ่นแปลว่า อรุณสวัสดิ์
    ???(d) : หัดทักทายให้เหมือนกับชาวบ้านชาวช่องกันบ้างสิฟะ เจ้าโอตาคุบ้า
        หลังจากที่เด็กหนุ่ม (d) พูดจบก็เสยหมัดขวาเข้าเต็มหน้าของเด็กหนุ่ม (a) อย่างจัง ด้วยความหมั่นไส้บวกกับความรู้สึกส่วนตัวที่เหลืออดกับเพื่อนคนนี้
    ???(a) : โอ้ยๆๆๆ เจ็บนะ ไค ถ้าจะชก ก็หัดบอกกันบ้างสิ
    ไค: แล้วจะให้บอกทำไมล่ะ
    ???(a) : ก็จะได้สวนกลับได้ไง
    ไค : นายนี่นะ น่าจะโดนอีกซักดอก
        ไม่ทันไร ก็ซัดให้อีกหนึ่งที่ คราวนี้โดนไปเต็มๆแก้มชนิดที่ว่าน่าจะได้เห็นเลือด แต่ก็อย่างที่เห็นๆกันอยู่มันเป็นเพียงการยอกล้อกัน มิใช่การทะเลาะกันแต่อย่างใด
    ???(b) : เอาน่าๆ พอแค่นี้ดีกว่า เดี๋ยวเจ้ากานได้เข้าห้องพยาบาลกันพอดี
    ไค : แค่นี้มันไม่ตายหรอกน่า นนท์
    กาน : ใช่ๆ อย่างที่นนท์ว่าแหละ ถ้าเกิดฉันเป็นอะไรไปขึ้นมา จะเดือดร้อน รู้มั้ย
    นนท์ : แล้วที่ว่าเดือดร้อนนี่ จะยังไง
    กาน : ก็ชีวิตของพวกนายจะไม่มีสีสันเหมือนทุกวันนี้ไง ลองคิดดูสิ ถ้าเกิดไม่มีชั้น พวกนายจะมารวมกลุ่มอย่างนี้ได้เหรอ
    นนท์ : ไค ฉันชักจะเห็นด้วยกับนายนิดๆแล้ว ว่าแค่นั้นเจ้านี่มันไม่รู้สึกหลาบจำ
    ไค : งั้นนายจะให้ฉันอัดมันต่อหรอ
    นนท์ : ถ้าไม่ถึงตายก็ไม่ว่า
    ไค : งั้นดี... หิหิหิหิ ....
    ???(c) : เงียบๆหน่อยได้มั้ย เดี๋ยวก็โดนอาจารย์มาว่าอีกหรอก
        เสียงของหญิงสาวคนเดียวในกลุ่มร้องห้ามไว้ อาจเป็นเรื่องแปลกเล็กน้อยที่ในกลุ่มที่มีผู้ชายถึง 3 คนกลับมาผู้หญิงอยู่ในกลุ่มด้วยหนึ่งคน
    ไค : เอ้า! งั้นก็ได้ นี่เห็นแก่เมย์น่ะ สำนึกซะด้วยล่ะ
    กาน : ขอบคุณมากน่ะ เมย์
    เมย์ : ไม่เป็นไรหรอกแค่รำคาญ ทะเลาะกันอยู่ได้ ฉันกำลังอยากนั่งอ่านนิยายเงียบๆเท่านั้นเอง

    กลุ่มของทั้งสี่คนนี้ มีข่าวลือแปลกๆเยอะแยะมากมาย โดยเฉพาะเจ้าตัวปัญหาที่สุดก็คือเจ้ากาน
    ชื่อจริงๆของเขาก็คือ ภาคภูมิ
    เป็นเด็กหนุ่มหน้าก็ดีระดับหนึ่ง (มั่ง) หล่อก็ไม่ใช่ ไม่หล่อก็ไม่เชิง เอาเป็นว่ากึ่งๆ ก็แล้วกัน นัยย์ตาสีน้ำตาลออกดำ จนหลายครั้งก็เป็นที่ถกเถียงกันว่าตาของเขามีสีน้ำตาลรึเปล่า เพราะมันเข้มจนถ้าไม่สังเกตดีๆก็จะคิดว่าเป็นสีดำ (สรุปว่าเป็นสีน้ำตาลใช่มั้ย) ผมสีดำเข้ม แต่เคยมีคนทักว่ามีบางเส้นสีน้ำตาล บางเส้นสีเทา เขาเองก็เคยสังเกตมาหลายครั้งแต่ก็ไม่เคยเห็นเส้นผมที่ว่าเลย ส่วนสูงก็ประมาณ 6 ฟุต ไม่อ้วนไม่ผอมจนเกินไป เป็นคนที่ดูร่าเริงตลอดเวลาที่สุดในกลุ่ม และเป็นที่รู้ๆกันว่าเจ้าหมอนี้เป็นโอตาคุนั้นเอง น่าแปลกสำหรับคนอื่นๆ ที่เขาเรียนค่อนข้างดีพอสมควร แม้เมื่อเทียบกับคนอื่นๆในห้องยังอยู่ท้ายแถวก็เถอะ แต่ดันมาอยู่ห้องคิงสายวิทย์ เป็นใครก็งงสิครับ มีความสามารถไม่ค่อยมากนัก แต่ถ้าถนัดด้านไหนก็จะเก่งด้านนั้นพอควรเลย เอาไว้รู้ตอนหลังดีกว่า

    ต่อมา ไค ชื่อจริงๆ คือ ไกร แต่เพราะมันชื่อจริงที่สั้นราวกับเป็นชื่อเล่น กานเลยให้ชื่อเล่นให้มันต่างจากชื่อจริง เพื่อให้รู้สึกว่าไม่ห่างเหินกันเกินไป ตอนแรกๆ ไคก็ไม่ค่อยชอบชื่อนี้นักหรอก เพราะไปถามกานดูว่าทำไมถึงให้ชื่อนี้ ก็ได้คำตอบว่า มันจะได้เรียกง่ายกว่า แถมเป็นภาษาญี่ปุ่นนิดหน่อยด้วย มันทำให้รู้สึกอยากเรียกชื่อนี้มากขึ้นอีก ก็เลยทำให้ไคไม่ค่อยถูกใจนักกับชื่อนี้ แต่พอนานๆเข้าก็ยอมรับชื่อนี้ไปโดยไม่รู้ตัว ก็กานมันเอาแต่เรียกชื่อนี้ซะจนชินไปซะแล้วนิ
    สำหรับไคนั้นเป็นคนที่ค่อนข้างเนื้อหอมที่สุดในกลุ่ม เป็นคู่กัดตลอดกับกาน หน้าตาก็ดี นัยย์ตาสีดำเหมือนกับสีผมของเขา แต่กลับเงางามราวกับนัยย์ตาของแมว รูปร่างที่เหมือนกับดาราหรือนายแบบ ทุกอย่างแทบจะเพอร์เฟ็กหมดซะทุกอย่างแต่เสียอยู่ไม่กี่อย่างเท่านั้น อย่างเช่นเรื่องของเทคโนโลยีที่ไม่ค่อยได้เรื่องได้ราวเท่าที่ควร หรือจะเป็น ภาษาอังกฤษ ที่เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย แต่กลับทำให้เป็นที่นิยมซะงั้น เฮ้อ~~~ คนหน้าตาดีทำอะไรก็ดูดีไปหมดจริงๆ หลายคนตั้งข้อสงสัยต่างๆนานาว่าทำไมคนอย่างเขาถึงอยู่กลุ่มเดียวกับกาน ไม่เคยจะรู้คำตอบที่แท้จริงซะที ไคมักจะไปช่วยเหลืองานหรือกิจกรรมต่างๆมากมาย จนเป็นที่รู้จักไปทั่ว แม้แต่อาจารย์ก็รู้จักหมด จนแทบคิดได้ว่า ถ้าไคคิดจะสมัครเป็นประธานนักเรียนล่ะก็... คงได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่แน่ น่าเสียดายน้าไค

    คนที่สาม คือ นนท์ ชื่อจริงๆ คือ ชานนท์
    เป็นคนที่เรียนดีพอสมควร อาจจะดีกว่าไคในบางเรื่อง เพียงแต่ว่าเรื่องเนื้อหอมสู้ไม่ได้เลย ขี้หลีพอควร ส่วนอัตราความสำเร็จนี่สิ ถ้าให้พูดเข้าข้างตัวเองหน่อยก็ประมาณ 60 % (เหอะๆ เยอะไปรึเปล่าน่า) เป็นคนที่มีรูปร่างผอมพอควร หน้าตาพอใช้ได้ สีผมดำกับเส้นผมที่ชี้ตั้งกับหนังศรีษะ ทำให้มีทรงผมที่ค่อนข้างแน่นอน อันที่จริงเขาเองก็ไม่ได้เปลี่ยนทรงผมบ่อยนั้นหรอก เป็นคนที่ชอบเล่นเกมส์แนว Fighting หรือเกมส์ที่ไม่ต้องใช้สมองนัก อย่างแนว Action หรืออะไรประมาณนั้น ชอบเล่นเกมส์แนว FPS ด้วย คอ Gamer ตัวยงนี่เอง เพียงแต่ว่าไม่ค่อยได้เล่นเกมส์แนววางแผนการรบ ทั้งแบบ turn-base หรือ real-time ก็ตาม แต่ก็เล่นบ้างบางเกมส์ ส่วนใหญ่จะเน้นจำนวนเข้าว่า ผิดกับกานที่ชอบเล่นเกมส์แนววางแผนการรบมาก และมีแนวการเล่นเป็นพวกใช้กำลังน้อยแต่ดึงประสิทธิภาพอย่างสูงสุด จนหลายครั้งก็ชนะนนท์ได้ โดยที่ใช้กำลังพลไม่ถึงครึ่งของนนท์เลย แต่หลังๆนนท์เองก็จับจุดได้ จนเดี๋ยวนี้กลายเป็นว่าทั้งคู่กินกันไม่ลง

    คนสุดท้าย ดอกไม้หนึ่งเดียวในกลุ่มนี้ เมย์
    เป็นผู้หญิงที่หน้าตาธรรมด้าธรรมดาคนหนึ่ง รูปร่างก็ไม่อ้วนมากเกินไป แต่ก็พูดไม่ออกว่าผอมรึเปล่านะ นัยย์ตาสีดำ แต่ผมสีตาลไหม้ ตอนแรกกานมันก็ดูไม่ออกหรอกว่าสีน้ำตาลตรงไหน จนพอมาสังเกตุชัดๆถึงได้รู้ พออยู่ในกลุ่มนี้ก็เหมือนไม่ได้เป็นคนพิเศษอะไรมากนัก หลายคนในตอนแรกอาจจะเข้าใจว่า 3 หนุ่มที่อยู่ในกลุ่มตั้งใจจะจีบเมย์ แต่พอสังเกตไปนานๆเข้า ก็รู้สึกว่ามันไม่ได้มีอะไรเลย
    สำหรับสาวคนนี้ เป็นที่รู้จักในชุมนุมห้องสมุดเป็นอย่างมาก เพราะเธอชอบอ่านนิยายมากมาย เคยแต่งนิยายเองด้วย หลายครั้งก็เอามาให้คนในกลุ่มอ่าน แต่ได้การตอบกลับไม่ดีพอควร อย่างไคที่มีงานท่วมหัวอยู่ตลอด ก็ไม่ค่อยว่างจะมาอ่านนิยายของเธอ ส่วนกานก็ดันบอกว่าไม่ค่อยชอบอ่านหนังสือที่เต็มไปด้วยตัวหนังสือเต็มหน้ากระดาษ ความจริงต้องบอกว่าเขาชอบอ่านการ์ตูนว่างั้นจะดีกว่า แต่ก็ยังอ่านและวิจารณ์ให้ในตอนที่กำลังเซ็งๆและว่างจัด เพียงแค่คำวิจารณ์ของเขาค่อนข้างจะตรงไปตรงมา และก็นะค่อยรู้ดีกว่า จะมีก็แค่นนท์ที่อ่านนิยายของเธอให้ได้ตลอด แล้ววิจารณ์ให้บ้าง ตามความเหมาะสม แต่อาจจะไม่เกรงใจกันบ้าง ในจุดที่ไม่ดีจริงๆ ก็พอแค่นี้ดีกว่าสำหรับดอกไม้หนึ่งเดียวคนนี้ เพราะเดี๋ยวซักพัก ทุกคนจะเรียกเธอว่าดอกไม้หนึ่งเดียวในกลุ่มไม่ออก

    เวลาล่วงเลยไปอย่างรวดเร็ว คาบวิชาในช่วงเช้าก็ผ่านไปเรื่อยๆ จนมาถึงพักเที่ยง

    นนท์ : กานๆ ตื่นได้แล้ว พักเที่ยงแล้ว
    กาน : อืออ.. ห่ะ! พักเที่ยงแล้วเหรอ?
    ไค : ก็เออน่ะสิ ให้ตายเหอะ หลับได้ตลอดชั่วโมงเรียนเลยนะ
    กาน : หะๆๆๆ ก็ทำไงได้ คนมันนอนดึกนี่นา ไคเองก็มีแอบหลับในชั่วโมงเรียนเลย
    ไค : แต่ฉันนอนดึกเพราะทำกิจกรรมนี่นา ส่วนนายนอนดึกเพราะมัวแต่เล่นเกมส์ไม่ก็ดูการ์ตูนนี่ อย่าเหมารวมกันได้มั้ย
    เมย์ : แต่กานนี่เก่งแหะ นอนหลับได้ไงอ่ะ นั่งไงนะเหมือนไม่หลับ ดูคอก็ตั้ง ก้มหน้าเหมือนกำลังจด เนียนไปแล้วนะ
    กาน : ก็ทำไงได้ มันเป็นหนึ่งในความสามารถพิเศษของฉันนี่นา

    ขออธิบายครับ ท่าหลับของกานมีได้หลายแบบ ไม่ว่านั่ง,ยืน หรือในบางครั้งเดินๆอยู่ก็ยังหลับได้ เจ้ากานมันให้ชื่อความสามารถนี้ว่า "นิทราเทพ" เพราะมันใช้ความสามารถนี้ได้ทุกสถานะจริงๆ
    โดยหลักๆก็คือสร้างสมดุลของร่างกายให้คงที่ ทั้งการทรงตัวและอื่นๆอีกมากมาย (กานมันว่ามาอย่างนั้น) ในท่าที่เหมือนกับตอนที่ยังไม่หลับ ทำให้ตัวเองรู้สึกเหมือนเป็นหนึ่งเดียวกับสภาวะแวดล้อม
    จะนึกว่าตัวเองเป็นหินก้อนหนึ่งก็ยังได้ แล้วค่อยๆปิดประสาทรับรู้ทีละอย่างออกไป โดยเริ่มจากเสียง กลิ่น (แต่ไม่ได้หมายถึงไม่หายใจเลยนะ) สัมผัสต่างๆ เว้นแต่ต้องอยู่ในท่าที่ต้องสัมผัสอะไรบางอย่างจริงๆ สุดท้ายก็เป็นการมองเห็น หลังจากนั้น หากยังไม่สามารถหลับได้ก็พยายามให้ใจรู้สึกเหนื่อย แล้วร่างกายจะรู้สึกเหนื่อยตามจริงๆ แล้วจะหลับได้ง่ายขึ้น แล้วร่างกายจะอยู่ในสมดุลที่สร้างไว้ ทำให้หากอยู่ในท่านั่งก็สามารถให้หัวเงยขึ้นมาในระดับหนึ่งได้ แต่ดูยังไงก็ยังก้มอยู่นั้นแหละ เพียงแต่ว่ามันจะดูเหมือนคนหลับตาฟังอาจารย์สอนมากกว่า
    ขอสิ้นสุดการอธิบาย
    by Kai
    ไค : เอาเถอะ ลงไปกินข้าวได้แล้ว เดี๋ยวก็หมดเวลาพักเที่ยงพอดี
    กาน : จ้าๆๆ

    ที่โรงอาหารที่เต็มไปด้วยนักเรียนเข้าแถวซื้ออาหารกลางวันมาทานอย่างไม่ค่อยเป็นระเบียบนัก แต่อย่างน้อยก็ไม่ค่อยมีการแซงคิวให้เห็นกัน จะมีก็แต่ว่าฝากคนที่เข้าแถวอยู่ซื้อ (ไม่ขอเรียกว่าเป็นการแซงนะ)

    ??? : โอ๊ส L
    กาน : "โคะนิชิวา" กร อาม                * ภาษาญี่ปุ่น แปลว่า สวัสดีตอนบ่าย
    กร : โคะนิชิวา ภาค
    กาน : เออ รู้ยัง "พระเจ้า" โดน "LC" แล้วนะ
    อาม : อูโซะ!? ใครได้ไปฟะ                * ภาษาญี่ปุ่นอีก ขึ้เกียจอธิบายล่ะ เข้าใจเอาเองล่ะกัน
    กร : RO$E ไง เป็นค่ายที่ไม่น่าประทับใจที่สุดสำหรับฉันเลย
    กาน : โสโสะ มาร่วมไว้อาลัยกันเถอะ
    กร&อาม&กาน : ฮือๆๆๆ

    ในขณะที่มีบทสนทนาแปลกๆของกลุ่มโอตาค่วง (ออกเสียงผิดๆจากโอตาคุ) หรือเรียกอย่างเป็นทางการว่าชุมนุม Hobby (สำหรับคนในจะเรียกว่า ชุมนุมจับฉ่าย) เหล่า2หนุ่ม 1สาวที่มากับกานในตอนแรกก็สุ่มหัวกันนินทาเจ้ากานกับบทสนทนาแปลกๆนั้น

    ไค : ฉันสงสัยมาตั้งนานแล้ว ทำไมกรกับอามถึงเรียกกานไม่เหมือนกันเลย
    นนท์ : ที่ฉันรู้มานะ กานมันมีบุคลิกคล้ายกับ L ใน De*th Note  ก็เลยกลายเป็นว่าอามมันเลยเรียกว่า L ไง ส่วนกรมันรู้จักกับกานก่อนที่ De*th Note จะเข้าก็เลยชินกับชื่อ ภาค มากกว่า
    ไค : งั้นเหรอ เหอะๆๆ
    เมย์ : มีอะไรเหรอ ไค
    ไค : เปล่าหรอก แค่รู้สึกแปลกๆกับบทสนทนาของกลุ่มนั้นจริงๆ เหมือนมีคำที่ใช้เฉพาะในกลุ่มยังไงอย่างนั้น
    เมย์ : ไม่ใช่หรอก คำว่า "พระเจ้า" กานที่พูดถึงหมายถึง Har*hi  จากเรื่อง Suzumiya Har*hi No Yuutsu น่ะ
    นนท์ : ส่วนคำว่า LC นี่น่าจะหมายถึง License ที่แปลว่าลิขสิทธิ์น่ะ ซึ่งในที่นี้มักหมายถึงโดนซื้อลิขสิทธิ์แล้ว
    ไค : หืมมมม รู้ดีจังเลยน่ะ
    เมย์ : ก้อแหม เรื่องนี้ก็มีออกเป็นนิยายเหมือนกันนะ ตอนนี้ก็มีคนแปลในเน็ตด้วย เป็นเรื่องที่สนุกใช้ได้เลย กานก็เคยเอาอนิเมะมาให้เราดูด้วย
    นนท์ : ส่วนของฉันนี้ มันเป็นคำที่รู้จักในกลุ่มนักเล่นเกมส์อยู่แล้ว ดังนั้นมันไม่แปลกเท่าไหร่หรอกที่จะรู้

    ในกลุ่มของทั้งสี่คนนี่ มักมีไคเพียงคนเดียวที่เหมือนเป็นคนนอกไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรเลย แต่ไคกลับไม่รู้สึกเหมือนแปลกแยกจากคนในกลุ่มซักเท่าไหร่เลย อาจจะเป็นอย่างที่กานพูดก็ได้ ที่พวกเขามารวมกลุ่มกันได้เป็นเพราะมีเขาอยู่
    ถึงอย่างนั้น กลุ่มของทั้งสี่คนนี้ แต่ละคนก็มีกลุ่มของตัวเองเหมือนกัน หรือจะให้เรียกคนในชุมนุมน่าจะถูกกว่า เพราะแต่ละคนอยู่คนละชุมนุมกัน อย่างกานก็อยู่ชุมนุม Hobby ซึ่งเบื้องหน้าก็กิจกรรมจับฉ่ายทั่วๆไป เบื้องหลังก็เป็นเหล่าโอตาคุเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็มีคนหลายๆแบบอยู่ด้วยกัน ส่วนนนท์ก็มีชุมนุมเหมือนกัน ก็คือ ชุมนุมคอมพิวเตอร์ แต่จริงๆก็เป็นชุมนุมของเหล่านักเล่นเกมส์ทั้งหลายนั้นแหละ ส่วนเมย์ก็อยู่ชุมนุมห้องสมุด หวังว่าคงรู้สินะทำไมอยู่ชุมนุมนี้ ก็เพราะเธอชอบอ่านนิยายนี่ น่าแปลกที่สี่คนที่อยู่ต่างชุมนุมต่างนิสัยมารวมกลุ่มกันได้อย่างลงตัว อ่ะ ลืมไป สำหรับไคนั้น ไม่ได้สังกัดชุมนุมไหน แต่เขาชอบไปช่วยงานไปทั่ว กลายเป็นว่าเหมือนเขาเป็นคนที่รู้จักกันแทบทั้งโรงเรียน

    กาน : เอาล่ะมากินข้าวด้วยกันดีกว่า
    หลังจากที่ทุกคนไปซื้ออาหารที่ตัวเองจะทาน ก็มารวมตัวกันที่โต๊ะประจำของทั้งสี่คน ราวกับว่าเป็นที่รู้กันทั้งโรงเรียนว่าที่นั้งตรงนี้เป็นของใคร ก่อนที่จะเริ่มลงมือทานอาหารที่อยู่ตรงหน้า
    กาน : อิตตะนะกิมัส (ออกเสียงถูกรึเปล่าหว่า)
    ไค : อะไรของนายน่ะ
    กาน : ภาษาญี่ปุ่นน่ะ แปลว่า จะทานแล้วน่ะคร้าบ~~
        สิ้นสุดประโยคพร้อมกับเสียงปรบมือเข้าหากันของกาน ช่างเป็นภาพที่เคยเห็นบ่อยๆในการ์ตูนญี่ปุ่น
    ไค : นายนี่นา จะบ้าการ์ตูนก็ให้มันน้อยๆหน่อยเถอะ
    กาน : น่าๆ ไม่เห็นเป็นไรเลย ทางนั้นก็ทำกันเหมือนกัน
        กานชี้ไปข้างหลังไค ซึ่งทางนั้นก็เป็นที่นั่งของชุมนุม Hobby ก็ว่าได้ พวกนั้นเองก็กำลังทำท่าทางเหมือนกับที่กานทำเมื่อกี้นี้ ทำเอาไคหัวเราะแห้งๆ อย่างไม่รู้ว่าจะโต้กานกลับยังไงดี นนท์เองก็รู้สึกแบบเดียวกับไค เพราะมันเป็นวัฒนาธรรมของญี่ปุ่นที่คนน้อยทำนักจะทำตามจริงๆ
    เมย์ : ปล่อยกานไปเหอะ ไค กานมันบ้าอย่างงี้แหละ
    นนท์ : เอาเถอะ กินข้าวกันก่อนดีกว่า เดี๋ยวข้าวเย็นหมด
    กาน : ใช่ๆ เพราะนายไม่ระวังตัวแบบนี้ ดังนั้นชั้นขอเนื้อซัก 2-3 ชิ้นก็แล้วกัน
    ไค : เฮ้ย!! ตั้งแต่เมื่อไร
    กาน : ก็ตอนที่นายหันไปไง
    ไค : เอาคืนมาเดี๋ยวนี้
    กาน : ม่าย~~~~
    ไค : จะคืนมาดีๆ หรือเปล่า
    .
    ..
    ...
    .....
    กาน : คร้าบ~~ คืนก็ได้คร้าบ ดุจัง
        คงไม่ต้องบอกนะครับว่าเกิดอะไรขึ้น บรรยากาศที่ตอนแรกเฮฮา พอเมื่อกี้ราวกับทุกอย่างกดดันให้กานต้องทำตามยังไงอย่างนั้น แววตาของไคมักจะบอกอารมณ์ของเขาได้แน่นอนเสมอ เพราะงั้นพอเขาโกรธแววตาของเขาจะเปลี่ยนเป็นแววตาคล้ายเสือที่กำลังจับจ้องเหยื่ออันโอชะของมันอยู่ หากใครไม่รู้จะเห็นเพียงแค่แววตาที่เงาราวกับตาแมว แต่เพราะแววตาแบบนี้แหละที่มักทำให้ไคมันเป็นที่ชื่นชอบของสาวๆในโรงเรียน แต่ถึงอย่างนั้นไคก็ยังไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตนซะที ถ้าจะถามว่าทำไมต้องโมโหเป็นฝืนเป็นไฟขนาดนั้น ก็คงเพราะเขาไม่ชอบที่จะเห็นเพื่อนตัวเองเป็นพวกขี้ขโมย แต่การสื่อความของเขากลับทำให้เข้าใจไปอย่างอื่นซะได้
        สำหรับเวลาทานอาหารของพวกเขาทั้งสี่ กานมักจะเป็นคนที่ทานอาหารได้เร็วที่สุด ไม่รู้ว่าทำไมถึงเร็วนัก ไคกับนนท์ก็เคยถามว่ารีบกินไปไหน ก็มักได้คำตอบว่า "นี่กินตามปกติแล้วนะ ไม่ได้รีบนิ" แต่เมย์มักจะตอบแทนว่า "มันรีบกินไปตามควายหาย" (แรงนะเนี่ย) หลังจากที่กานทานอาหารกลางวันเสร็จมักจะปลีกตัวไปก่อน ไม่รู้เหมือนกันว่าไปไหน แต่พอทั้งสามคนที่เหลือทานกันเสร็จ กานก็มักจะเดินกลับมาพร้อมกับ Handy Drive ที่แขวนคอของเขาอยู่ไม่ก็Harddisk Notebookที่ถือมากับมือ จริงๆแล้วทั้งสามคนก็อยากรู้เหมือนกันว่าเอาไปทำอะไร แต่ก็ไม่เคยถามซะที เพราะอะไรน่ะหรอ เดี๋ยวก็รู้
     
    เสียงมือถือ : @#!<>?&*
    กาน : อ่ะ
        เสียงเพลงมือถือของกานทำให้ทุกคนตกใจ เพราะมันเป็นเสียงของเพลง Motteke! Sailor Fuku จากการ์ตูนเรื่อง Luck* Star ถึงทุกคนจะเคยได้ยินกันเป็นประจำทุกวันก็เถอะ ก็ยังไงก็ไม่ชินซะที
    กาน : โมชิๆ อืมๆ คราวนี้ที่ไหน อืมๆ โอเคๆ เดี๋ยวไปหา แค่นี้ล่ะ            * แปลว่า 'ฮัลโหล' นั้นแหละ
        กานกดวางสายลง แล้วเก็บมือถือเข้ากระเป๋ากางเกงที่เดิม หากสังเกตดีๆ จะรู้ว่ามือถือของกานนั้นเป็นรุ่น N73 music edition ด้วย แถม memory card มีตั้ง 2 Gb แน่นอนว่าทุกคนต้องสงสัยว่าหมอนี่มันเก็บอะไรในเมมเยอะแยะนัก พอรู้ความจริงก็คงพูดไม่ออกบอกไม่ถูก ซึ่งนั้นก็คือเก็บเพลงอนิเมะไว้แล้วมันก็ตั้งเพลงให้แต่ละคนไม่ซ้ำกันด้วย เพราะงั้นเลยรู้ได้ตลอดว่าใครโทรมาโดยที่ไม่ต้องเสียเวลาดูหน้าจอเลยแม้แต่น้อย อยากรู้จังว่ามันจำได้ยังไง ตั้งกี่ร้อยเพลง ลองคำนวณดูเอาเองสิครับ 2 Gb เพลงๆหนึ่งโดยเฉลี่ยก็ประมาณ 5 Mb ใช้ไปเกินครึ่งกับเพลงอนิเมะ
    กาน : งั้นเราไปก่อนนะ แล้วเจอกันที่ห้อง
    นนท์&เมย์&ไค : อืม แล้วเจอกันที่ห้อง

    กลับมาที่ห้องเรียนประจำ
    นนท์ : เชื่อได้ เจ้ากาน พอมันกลับมา มันต้องปล่อยมุกอะไรมาอีกแน่
    ไค : ว่างั้น อย่างเจ้านั้น มันมีเหรอที่จะกลับมาอย่างเงียบๆ
    ครืนนนนน  เสียงประตูเปิดอย่างช้าๆ จนแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเป็นกาน กลับกลายเป็นว่านั้นแหละ ที่เข้ามาคือกานเอง
    เมย์ : อ่ะ!
    ไค : โอ้ เหลือเชื่อแฮะ กานมันเข้าห้องมาเงียบๆเป็นด้วยแฮะ
    นนท์ : ฉันว่ามันแปลกๆนะ
    ไค : หืมมม คงไม่มีอะไรหรอกน่า อย่างเจ้าหมอนี่นะ...
    เมย์ : กานมีอะไรรึเปล่า
        ด้วยความเป็นห่วงเมย์เป็นคนแรกที่สังเกตุสิ่งผิดปกติ กานที่ปกติมักจะร่าเริงตลอด ตอนนี้กลับเงียบก้มหน้าไม่มองใคร เมย์เลยลองเดินเข้ามาใกล้ๆ เพื่อจะได้เห็นหน้ากานชัดๆ
    ไค : เฮ้ยๆๆ เป็นอะไรรึเปล่าเนี่ย
    หมับบบ มือทั้งสองข้างของกานยกขึ้นและวางบนบ่าของไคอย่างหมดแรงราวกับกานมันจะล้มได้ทุกเมื่อยังไงอย่างนั้น
    กาน : ไคคคคคค (หน้าตาคลอนิดๆ)
    นนท์ : เฮ้ยๆ เกิดอะไรขึ้น
    กาน : คนเรามันต้องสู้ชีวิตจริงๆด้วย...
    .
    ..
    ... เงียบไปพักหนึ่ง
    กาน : ทั้งๆที่ฮาร์ดดิสก็ใกล้เต็มอยู่แล้ว Nan*ha Striker ซับไทย 2 วัน ออกมา 5 ตอนรวด Clann*d ตอนล่าสุดก็ออกมา Sh*na second ก็ออกอีก M*self, youself ก็ออกมาพรวดหลายตอน แล้วอย่างนี้จะโหลดเก็บมาได้ไงเนี่ย
    นนท์ : หา!
    ไค : เหอะๆ ว่าแล้ว
    นนท์ : โธ่เอ้ย หลงเป็นห่วง
    เมย์ : โห่ ฉันว่านะคนอย่างกานนี่ ทีหลังไม่ต้องไปห่วงมันเลยดีกว่า ในหัวมันมีแต่เรื่องการ์ตูน ทำเศร้าไม่เข้าท่า
    กาน : แล้วจะไม่ให้เศร้าได้ไงอะ ฮาร์ดดิสของเราตอนนี้มันเหลืออยู่แค่กิกเดียวเอง
    นนท์ : แล้วทำไมนายไม่ไรท์ลงแผ่น CD ล่ะ
    กาน : ปกติฉันไรท์ใส่ DVD ทีเดียวให้ครบเลยไง
    นนท์ : แล้วทำไมไม่ไรท์ใส่ DVD ไปก่อนล่ะ
    กาน : ไม่เอาอ่ะ ไรท์เป็นเรื่องเดียวใส่ DVD ทีเดียวให้ครบเลยดีกว่า มันให้ความรู้สึกที่ดีกว่า
    นนท์ : เหอะๆๆ จริงๆเลยน่า
    ไค : นายนี่ พอเป็นเรื่องการ์ตูนทีไร ก็จริงจังได้ตลอดเลยนะ
     
    หลังเลิกเรียน ก็เป็นช่วงเวลาแห่งการ "กระอักเลือด"
    กาน : อ็อก!!
        ร่างของกานทำท่าทางเหมือนกับถูกกระสุนปืนยิงแสกหน้าเข้าอย่างจัง ทันทีที่เดินมาถึงร้านการ์ตูนฝั่งตรงข้ามโรงเรียน
    ไค : อะไรอีกล่ะ
    กาน : ก็ดูสิ เดือนนี้มีการ์ตูนออกมาเยอะเลย มีโคนั* เล่ม 54 ออก ฉอดๆๆๆ (มันเยอะ ขี้เกียจเขียน) แล้วพ่อบ้านฮาย*เตะเล่ม 5 ก็มาออกอีก เงินเดือนของฉันเดือนนี้มันติดลบแล้วเนี่ย
    นนท์ : นายก็ค่อยซื้อวันอื่นก็ได้นิ
    กาน : ไม่เอา
        สีหน้าของกานจริงจังขึ้นอย่างทันที ผิดกับสีหน้าปกติที่เรื่อยๆเฉื่อยๆเฮฮาไปตลอดของเขา
    กาน : เดี๋ยวมันมีคนมาสปอย แล้วมันหมดอารมณ์ แถมมันอยากอ่านซะตอนนี้เลยด้วยอ่ะ
    เมย์ : งั้นอ่านของเราก่อนก็ได้นะ พอดีซื้อมาเหมือนกัน
    กาน : ขอบคุณมากจ๊ะเมย์จ้า....
        แววตาของเจ้ากานพยายามทำเป็นประกายทันทีราวกับลูกหมาที่เพิ่งได้กระดูกจากเจ้าของ
    กาน : แต่ไม่เป็นไรหรอก ยังไงเราก็ต้องซื้อเองอยู่ดี
        ทุกคนก็อยากจะชื่นชมความเป็นสุภาพบุรุษของเขาหรอกน่ะ แต่พอดีมันเป็นเรื่องเกี่ยวกับการ์ตูน มันเลยทำให้ชื่นชมไม่ออก กานเดินเข้าไปในร้านหยิบการ์ตูนที่ว่ามาหลายๆเล่ม พร้อมกับพิจารณาสภาพของหนังสืออย่างละเอียดถี่ถ้วนด้วยความรวดเร็วและความชำนาญ และแล้วก็เลือกมาได้เล่มหนึ่ง ก่อนที่จะวางหนังสือการ์ตูนเล่มนั้นลงโต๊ะของคนเก็บตัง พร้อมกับเสียงของชายหนุ่มที่เป็นคนเก็บตังบอกราคามา
    คนเก็บตัง : 45 บาทครับ
        กานรีบหยิบกระเป๋าตังอย่างทันที พร้อมกับค้นหาธนบัตรและเหรียญเพื่อจ่ายค่าการ์ตูน
    กาน : ทุกคน....     (เงียบไปแปป พร้อมกับน้ำตาซึมๆ) ขอยืมตังซัก 10 บาทได้ป่ะ ไม่มีตังกลับบ้านแล้ว T_T
        สิ้นสุดประโยคพร้อมกับวางเงินที่มีอยู่ทั้งหมด45บาทพอดี ไม่มีขาดไม่มีเกิน ลงบนโต๊ะที่คนเก็บตังนั่งอยู่
    นนท์ : ให้ตายเถอะ มันให้ได้อย่างงี้สิ

    ระหว่างทางกลับบ้านก็แวะเข้าห้างซื้อของ และแล้ว...
    กระอักเลือกอีกครั้ง
    อ็อก ทายสิคราวนี้เสียงของใคร
    .
    ..
    ...
    ..
    .
    ไค : เฮ้ยๆ นนท์ นายก็เป็นไปกับมันด้วยรึไง
    นนท์ : กาน ฉันเริ่มเข้าใจความรู้สึกของนายนิดๆแล้ว
    กาน : อะไรล่ะ
    นนท์ : ก็ช่วงนี้เกมส์ออกใหม่มันกินสเป็คกันสุดๆเลย อย่างไอ้ Crys*s อยากเล่นจะตายชัก แต่สเป็คมันแค่เปิดtextureแบบต่ำสุดก็จะไปไม่รอดอยู่แล้ว ครั้นจะซื้อการ์จอใหม่ก็ไม่ได้ เงินไม่พอ
        แปะ    เสียงตบไหล่ของนนท์ที่กานมันเอามือทั้งสองข้างมาตบด้วยความรู้สึกยินดีหรือรู้สึกว่าตัวเองได้พวกแล้วรึไงกัน
    กาน : นนท์ จงเข้าใจซะเถอะ ว่าชีวิตคนเรามันก็เป็นแบบนี้แหละ
    ไค : เหอะๆ
        ใบหน้าของไคตอนนี้มันดูสับสนเลยเกินกว่าจะบรรยาย จะหัวเราะดี รึจะหมั่นไส้ดี ทำเอาอารมณ์ปั่นปวนหมด ไม่รู้จะจัดการยังไงกับสองคนนี้ดี ไม่ใช่ว่าเดินๆไปอีกยัยเมย์จะเป็นไปกับเจ้าสองคนนี้ตามนะ
    เมย์ : ไม่มีทางย่ะ อย่างฉันไม่บ้าเหมือนพวกนั้นซักหน่อย
    .
    ..
    ...
    เดินๆกันไปอยู่ เมย์ก็ไปสะดุดอยู่หน้าร้านหนังสือที่ดันเอา H*rry potter เล่มใหม่ล่าสุดวางแผงพอดี
    เมย์ : อ่า จาอาวกลับบ้านนนนนอ่าาา
        ใบหน้าของเมย์ตอนนี้ ให้อธิบายได้ง่ายสุดก็คือตอนที่เรย์*ะในเรื่อง Higurashi No N*ku Koro Ni หรือชื่อไทยก็คือ แว่วเสี*งเรไร กำลังเข้าสู่โหมดน่าย้ากที่พอเห็นอะไรน่ารักเข้าแล้วจะคว้าแล้วตะโกนบอกว่า "จาอาวกลับบ้าน"
    ไค : เฮ้ยๆ เวรกรรม ให้ได้อย่างนี้สิ พวกนายนี่
        แต่ก็นะ สุดท้ายเมย์ก็สั่งซื้อมา เพราะอยากได้เล่มดีๆมากกว่า คงไม่มีใครอยู่ๆหยิบซื้อเลยหรอกนะ เพราะมันแสดงถึงความไม่รอบคอบเท่าที่ควร แต่เมย์ก็ยังเคลิ้มไม่หยุดอยู่ เฮ้อ สุดท้ายก็จบไปวันหนึ่ง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×