คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : เราลืมได้ยังไง_1/2
คอนโดที่มีขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ไม่ไกลจากเมืองมาก แต่ติดกับสถานีรถไฟฟ้า มีขนส่งสาธารณะที่ค่อนข้างสะดวก ชิคที่กลับมาถึงห้องแล้วก็กินข้าวโดยใช้เวลาไม่นานก่อนจะอาบน้ำแต่งตัวเพื่อมาดูละครช่วงดึกที่ช่วงนี้ติดมากๆ เอาไว้เมาส์กับแซนดี้แล้วก็ลดาที่ทำงาน
ใจของเธอไม่ได้นึกถึงเรื่องของร่างสูงแล้วด้วยซ้ำ เขาน่าจะคิดว่าคืนนั้นเป็นผู้หญิงคนอื่นที่ไม่ใช่เธอ และก็วางเธอไว้ในฐานะเพื่อนร่วมงานเหมือนที่ผ่านๆ มา
พอนึกถึงตรงนี้เธอก็สบายใจขึ้นมาเล็กน้อย ระหว่างที่รอละครหลังข่าวมา เธอไม่ลืมที่จะโทรหาแม่ที่อยู่ที่เชียงใหม่ การสนทนาเลยเต็มไปด้วยคำเมือง แต่เพราะชิคอยู่กรุงเทพมาหลายปีเลยมีคำกลางปะปนอยู่บ้าง ประโยคสนทนาแม้จะมีประโยคเดิมๆ แต่มันก็ทำให้คนเป็นแม่ที่อยู่ปลายสายวางใจ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก!
“น้องวางก่อนสายก่อนเน้อแม่” เธอพูดกับแม่เสร็จก็วางสายโทรศัพท์ก่อนจะเดินไปที่ประตู
ร่างกายเล็กของชิคส่องตาแมวที่หน้าประตูก็พบกับคนที่ไม่คิดว่าจะมาหา เขาคือเยนที่ยังอยู่ในชุดทำงาน ทั้งที่เขาน่าจะออกจากออฟฟิศก่อนเธอแต่ทำไมเขาถึงอยู่ในชุดนี้ ด้วยความไม่ระวังตัวเห็นว่าเป็นคนรู้จักมือบางเอื้อมไปเปิดประตูออโต้ล็อกพร้อมกับมองหน้าชายหนุ่มด้วยรอยยิ้มมุมปาก แต่ก็ไม่ได้เชิญเข้าห้อง
เยนที่รีบขับรถมาที่นี่ขึ้นมาที่ห้องนี้เพราะเคยมาก่อนเมื่อคราวก่อนและขอมาเข้าห้องน้ำเลยรู้ว่าคนตัวเล็กพักอยู่ห้องไหน พอเห็นว่าประตูเปิด เขาจ้องหน้าผู้หญิงตัวเล็กที่ใบหน้าไร้เครื่องสำอาง เธอดูน่ารักอย่างบอกไม่ถูก ไม่เหมือนคนอายุยี่สิบหกสักนิด แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น เขาจับไหล่คนตัวเล็กดันเข้าไปในห้องแล้วพาตัวเองเข้าไปด้วยท่ามกลางความตกใจของอีกฝ่าย
“พะ พี่เยน ทำอะไรคะ”
ร่างบางถามอย่างตกใจ นอกจากที่เขาจะดันตัวเธอเข้ามาในห้องพร้อมกัน ตอนนี้เธออยู่ในชุดนอน สภาพร่างกายที่ไม่ได้ปรุงแต่ง ทั้งหน้าทั้งผมต่างก็ดูเหมือนป้า หน้าสด ผมยุ่งมัดลวกๆ เสื้อเองก็ใส่เสื้อยืดตัวใหญ่ กางเกงขาสั้น ที่สำคัญ เธอไม่ได้ใส่เสื้อชั้นในด้วยเพราะมันห้องเธอแล้วเธอก็จะนอนแล้ว
“พี่เข้ามาทำไม” พอนึกได้ก็รู้สึกตัวว่า เยนกำลังบุกรุกห้องของเธอ แบบนี้มันคุกคามความเป็นส่วนตัวไม่ใช่หรือ
ในขณะที่ร่างบางกำลังทั้งตกใจ และสับสน ร่างสูงมองร่างบางที่อยู่ในโหมดเตรียมนอน แต่อีกฝ่ายยังดูสวยทั้งที่ไม่ได้แต่งหน้านั่นแหละ ทำให้เขาชะงักไปครู่หนึ่ง
“ชิค”
ไม่เรียกเปล่า เขายกมือขึ้นจับแขนบอบบางให้หันหน้ามาสนใจเขา ส่วนเขาหรือ ขมวดคิ้วแน่น ดวงตาจ้องอีกฝ่ายจนคนโดนจ้องหน้าเห่อร้อน พร้อมกับสงสัยว่ามันต้องใกล้ขนาดนี้ไหม!
“พี่เยน จับชิคทำไม ชิคเจ็บ!”
ใบหน้าสวยแสดงท่าทีที่เหมือนจะร้องไห้เต็มที่ เขาเองจนถึงตอนนี้ก็ไม่อยากจะเชื่อว่าผู้หญิงที่อยู่ใต้ร่างของเขาวันนั้นที่คอยปลอบเขาอย่างกล้าหาญจะคือผู้หญิงที่กำลังจะร้องไห้อยู่ตอนนี้
แต่พอนึกถึงการกระทำหลายๆ อย่างที่ผ่านมาก็ทำให้นึกออกว่าถ้าเป็นเรื่องของคนอื่น เธอก็กล้าหาญเสมอ โดยเฉพาะ... เรื่องของเขา อันที่จริงเขาแค่สงสัยเท่านั้น ตัวเองในสภาพเมาภาพตัดไปตั้งแต่ร้านเหล้า วันนั้นเขาออกมาจากร้านกี่โมง กับใคร ไปไหนต่อเขาจำอะไรแทบจะไม่ได้เลยด้วยซ้ำ หากรู้ว่าเขาเมาแล้วมันจะทำให้เขาล่วงเกินผู้หญิงคนนึงที่หวังดีกับเขามากๆ แถมยังรู้สึกดีกับเขาพอที่จะทนเห็นเขาทุกข์ไม่ได้ เขาคงไม่เข้าไปทักตั้งแต่แรก แล้วไปจบที่ผู้หญิงคนอื่นที่ไม่ใช่คนตรงหน้าเสียดีกว่า
“พี่เยน! ชิคเจ็บ!”
ชิคพยายามขัดขืนให้เขาปล่อยแขนเธอ ทั้งที่เขารู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันคงเป็นเรื่องที่ทำให้อีกคนรู้สึกแย่ไม่น้อย แต่ใจเขากลับรู้สึกโล่งใจอย่างประหลาดที่เป็นอีกฝ่าย เมื่อรู้ว่าคนที่ปลอบเขาในคืนนั้นเธอเป็นคนเดียวกันกับคนที่ช่วยดึงเขาขึ้นมา แม้จะน้อยนิด แต่มันก็จริงใจจนเขารู้สึกยินดีอยู่ลึก ที่น่าขัดใจก็มีเพียงท่าทีที่ดิ้นรนตรงหน้านี่แหละ
“ทำไมต้องโกหกพี่ด้วย...” เยนทำหน้าจริงจังสายตาแสดงออกถึงความไม่เข้าใจ ทำไมเธอตรงหน้าถึงพยายามทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกินขึ้น
“โกหก? ชิคโกหกอะไรพี่เยนคะ?”
ชิคถามอีกฝ่ายอย่างหัวเสียเล็กน้อย ชอบแค่ไหนก็ตาม มาคุกคามกันแบบนี้ก็ใช่ว่าเธอจะยอม ไม่ใช่รู้ว่าเธอชอบแล้วจะทำอะไรก็ได้เสียเมื่อไหร่ ถ้าเกิดเรื่องนี้หลุดออกไปเธอจะตอบคนอื่นว่ายังไงกัน
เยนที่เห็นท่าทีที่ขัดขืนก็จับรวบตัวคนตัวเล็กแล้วลากไปนั่งที่โซฟา โดยที่เขานั่งอยู่ข้างล่างให้คนตัวเล็กคร่อมบนตัก เขาใช้แขนทั้งสองข้างกอดรวบอีกฝ่ายแน่น ไม่ให้ขยับไปไหนทั้งนั้น เขาคิดว่าเรื่องคืนนั้นสำหรับผู้หญิงอย่างชิค มันก็น่าจะเป็นการทำร้ายจิตใจกันอยู่ไม่ใช่หรอ ทำไมถึงไม่โวยวาย ไม่ต่อว่าเขา แถมเขายังรู้แล้ว แล้วจะแสร้งว่าไม่รู้ก็คงจะไม่ไหว สู้คุยกันตรงๆ ดีกว่า
“ปล่อยนะ!”
“หยุดดิ้นแล้วพี่จะปล่อย!” ร่างสูงเสียงดังกว่าเดิมเล็กน้อยจนคนตัวเล็กหน้างอ แต่ก็หยุดจริงๆ เขาจึงคลายอ้อมแขนลงเล็กน้อย แต่เมื่ออีกฝ่ายทำท่าจะลงจากตัวเขา เขาก็ล็อกเอวไว้ไม่ให้เธอหนีไปไหน
“โกหกพี่ ว่าคืนนั้นมันไม่มีอะไรได้ยังไง” เสียงที่ผ่อนลงถามคนตรงหน้าตรงๆ ดวงตาโตของอีกฝ่ายเหลือบมามองเขาเล็กน้อยก่อนจะก้มหน้าเม้มปาก
“จะให้ชิคพูดว่ายังไงล่ะคะ” เสียงหวานพูดเบาๆ ด้วยความสับสนน้อยใจ “ชิคไม่ได้รู้สึกว่าพี่ต้องมารับผิดชอบอะไร ยังไง ชิคก็...” ไม่ได้ขัดขืน เธออยากพูดต่อแต่ก็พูดมันไม่ออก เยนเองก็ไม่สนใจ แค่อีกฝ่ายสารภาพว่าเป็นตัวเองก็พอแล้ว
“แล้วเราลืมได้หรอชิค เรื่องคืนนั้น เราลืมได้หรอ”
... ... ...
ฝากคอมเมนต์ กดให้กำลังใจด้วยนะคะ
.
พูดคุย ติดตามที่ twitter @yuehan_691
ความคิดเห็น