คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : โรงเรียนไอซ์เบิร์น
รถม้าของเอเลนยาค่อยๆเคลื่อนๆตัวตามขบวนรถคันอื่นๆไปอย่างช้าๆ เนื่องจากว่ามีผู้คนมาสมัครสอบเพื่อเข้าเรียนโรงเรียนนี้เยอะมาก ทำให้การจราจรค่อนข้างติดขัด สาวน้อยผมสีน้ำตาลแดงกำลังนั่งอยู่ในรถอย่างเบื่อหน่าย
"เฮ้อ...เมื่อไหร่จะถึงซะทีนะ จะได้สอบให้มันเสร็จๆไป" เอเลนยาบ่น
"ไม่เอาสิเพคะองค์หญิง...นี่ก็ใกล้จะถึงตัวปราสาทแล้วล่ะเพคะ หม่อนฉันว่าทรงสวมแหวนเพลิงภาคีได้แล้วนะเพคะ" มอรีลนางกำนัลคนสนิทบอกเอเลนยา เธอจึงหยิบแหวนเพลิงภาคีขึ้นมาสวม
/วาบ!!!/
เกิดแสงสว่างขึ้นภายในรถม้า และทันใดนั้นจากร่างบางของหญิงสาวก็ได้กลายเป็นร่างของชายหนุ่มที่มีร่างกายใหญ่ขึ้น ผมสีน้ำตาลแดงที่เคยปล่อยยาวสยาย บัดนี้กลับถูกทำให้สั้นลงเหลือแค่เพียงความยาวในระดับระต้นคอ ใบหน้าที่เคยนวลใส บัดนี้กลับหยาบกร้านขึ้นจากเดิม และจากหญิงสาวที่เคยอยู่ตรงนี้กลับแปลเปลี่ยนมาเป็นชายหนุ่มหน้าตาดีภายในทันที
"ว้าว! เหลือเชื่อเลยแฮะ มอรีล" เอเลนยาในคราบของชายหนุ่มกำลังตะลึงกับร่างกายของตนเองที่เปลี่ยนแปลงไป
"เพคะ.. เสียงขององค์หญิงก็เปลี่ยนไปเช่นกันนะเพคะ " มอรีลมองดูชายหนุ่มตรงหน้าอย่างเอ็นดู
"ความจริงอยู่ในร่างนี้ก็ดีเหมือนกันนะมอรีล"
"ได้ยังไงกันเพคะองค์หญิง....ทรงอย่าลืมสิว่าท่านน่ะเป็นผู้หญิงนะ แล้วก็ในตอนนี้ทรงกลายเป็นชายไปแล้ว ท่าทางหรือการพูดจาก็ควรจะต้องปรับเปลี่ยนด้วยนะเพคะ ไม่อย่างนั้นคนเขาจะมองว่าองค์หญิงน่ะเป็นพวกวิปริตนะเพคะ..." มอรีลขำเล็กน้อยๆ แต่เอเลนยากลับหน้าบูดบึ้ง
"ฉันรู้แล้วล่ะน่ามอรีลก็.....ไม่สิ ฉันรู้แล้วมอรีล" เอเลนยารีบเปลี่ยนท่าทีการพูดทันที ทำให้มอรีลยิ้มอย่างเอ็นดู เธอเลี้ยงองค์หญิงของเธอมาตั้งแต่เล็ก ไม่น่าเลยที่องค์หญิงจะต้องมาเจอที่หนักถึงเพียงนี้
รถม้าเดินทางมาถึงหน้าปราสาทของโรงเรียนไอซ์เบิร์นในที่สุด เอเลนยาจึงลงจากรถมาดูสิ่งต่างๆภายนอก และภาพที่ได้เห็นนั้น ก็ทำให้เธอตกตะลึงไปในทันที
ตัวปราสาทนั้นทำจาหินอ่อนสีขาวทั้งหมด และเป็นปราสาทที่ใหญ่มาก ด้านบนของปราสาทเป็นหอคอยทั้ง 4 หอที่ต่างก็ประดับธงค์เอาไว้เป็นสัญลักษณ์ ด้านซ้ายเป็นธงก์สีเขียว ตรงกลางมีรูปเหยี่ยวกำลังกางปีกเป็นสัญลักษณ์อยู่ ถัดมาเป็นธงก์สีเหลือง ตรงกลางมีรูปมังกรพ่นไฟเป็นสัญลักษณ์ ถัดมาอีกคือธงก์สีน้ำเงิน มีรูปหงส์เป็นสัญลักษณ์ และท้ายสุดทางด้านขวาสุดเป็นธงก์สีแดง ตรงกลางเป็นรูปของสิงโตกำลังคำรามอยู่ เธอคิดว่าธงก์ทั้งหมดคงเป็นสัญลักษณ์ของหอทั้ง 4 แน่ๆ และจุดเด่นที่สุดก็คือธงก์ที่อยู่ตรงกลางของธงก์ทั้ง4 และอยู่บนยอดสุดของปราสาทเป็นธงค์สีทองขอบเป็นสีเงิน ตรงกลางเป็นรูปของสัตว์ทั้ง 4 นี่คงจะเป็นธงค์ประจำโรงเรียนนี้
เมื่อมองต่อมาทางด้านข้างของปราสาท มีสวนดอกไม้ขนาบข้าง เหล่าพรรณไม้ ดอกไม้กำลังแข่งกันออกดอกสีสวย ต้นไม้ต่างพากันผลิใบเขียวขจี เหล่านกน้อยกำลังบินโฉบไปมาพร้อมกับส่งเสียงร้องเพลงอย่างไพเราะ หมู่แมลงต่างพากันบินเข้าหามวลดอกไม้กลิ่นหอม ชวนให้น่ามองยิ่งนัก นี่หรือคือโรงเรียน มันน่าจะเป็นสวรรค์ซะมากกว่านะ ไม่พอแค่นั้น เบื้องหน้าของเธอเป็นประตูบานใหญ่สีทองที่กำลังส่องแสงวาววับเมื่อกระทบกับแสงอาทิตย์ที่กำลังสาดส่องมา เธอชักจะชอบที่นี่เข้าแล้วสิ ..
เอเลนยากำลังเข้าสู่ห้วงภวังค์ได้ไม่นานเธอก้อต้อง.....
/ ผลั่ก /
ร่างของเอเลนยาเซไปด้านข้างในทันที พร้อมกับคนที่กำลังเดินผ่านเธอไป
"นี่!!....นายน่ะ " เอเลนยาตะโกนเรียกชายหนุ่มที่ชนเธอเมื่อกี้และกำลังเดินผ่านเธอไปอย่างไม่สนใจ แต่เมื่อชายหนุ่มไม่ยอมหันกลับมาตามเสียงที่เธอเรียก เธอก็เริ่มฉุนขึ้นมาในทันที....
"นี่นาย! ฉันเรียกไม่ได้ยินหรือไง" เธอวิ่งเข้าไปขวางทางเขาเอาไว้ ชายหนุ่มผู้นั้นหยุดเดินและจ้องมาที่เธอ เขาเป็นชายหนุ่มที่จัดได้ว่ารูปหล่อทีเดียว ไม่สิหล่อมากๆด้วย เรือนผมสีน้ำเงินเข้มที่ยาวระต้นคอกำลังปลิวเล็กน้อยกับนัยน์ตาสีฟ้าครามที่ดูเย็นชากำลังจ้องมาที่เธอมันชวนให้หลงใหลยิ่งนัก และรูปร่างที่ใหญ่และสูงโปร่ง ทำให้เขาดูน่าเกรงขามทีเดียว แต่....
"หูหนวกรึไง! ไม่ได้ยินที่ฉันเรียกนายหรอ??? "
"ได้ยิน...." เป็นคำตอบที่สั้นมาก ชวนให้อารมณ์ของเธอขาดสะบั้น
"ได้ยินแล้วทำไมถึงไม่หยุดยะ นายชนฉันเมื่อกี้นะ ยังไม่รู้จักขอโทษอีก" และแล้วสาวเจ้าที่อยู่ในคราบของชายหนุ่มก็หลุดท่าทางการพูดแบบผู้หญิงออกมา เป็นผลทำให้ชายหนุ่มเลิกคิ้วน้อยๆ อย่างงงๆ....
"ฉันไม่จำเป็นต้องหยุด และไม่จำเป็นต้องขอโทษด้วย...." คำตอบที่เย็นชาถูกส่งกลับมาจากชายหนุ่มที่นัยน์ตาดูไร้อารมณ์เป็นอย่างมาก
"นายพูดแบบนี้ได้ยังไงหะ! เป็นผู้ชายภาษาอะไร ทำกับผู้หญิงอย่างงี้อ่ะหรอ " อุ๊บ! ลืมตัวไปซะแล้ว แย่ละสิ! พลันเอเลนยาก็มองหน้าของชายหนุ่มที่เธอเพิ่งหลุดปากคำว่าผู้หญิงออกไป ทั้งๆที่ตอนนี้เธออยู่ในร่างของผู้ชาย ชายหนุ่มอึ้งกับคำพูดเล็กน้อย แต่ไม่ถึง 1 วิสีหน้าที่ไร้อารมณ์ของเขาก็กลับมาอยู่สภาพเดิม เหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเมื่อกี้....
"ช่างเหอะๆ ฉันไม่ติดใจอะไร แต่ฝากไว้ก่อนนะ" ว่าแล้วเอเลนยาก็รีบวิ่งหนีไปที่รถม้าของเธอในทันที ก่อนที่เขาจะคิดว่าเธอเป็นพวกจิตวิปริต
เมื่อเธอกลับเข้ามาในรถ
"องค์หญิงทรงหายไปไหนมาตั้งนานเพคะ หม่อนฉันจะบอกว่าเขาเรียกตัวเข้าไปในปราสาทแล้วนะเพคะ ทรงไปได้แล้ว..."มอรีลบอกอย่างเร่งรีบ
"จริงหรอมอรีล....งั้นฉันไปก่อนนะ" เอเลนยารีบหยิบกระเป๋าของเธอและวิ่งเข้าไปปราสาทไปในทันที ก่อนที่มอรีลจะได้บอกอะไร....
"องค์หญิงเพคะ! หม่อมฉันยังไม่ได้บอกชื่อที่ท่านต้องใช้เวลาอยู่ที่นี่เลย....."มอรีลเอ่ยไม่ทันซะแล้ว
เมื่อเอเลนยาเดินเข้าไปในปราสาทเธอก็ต้องเกิดอาการตกตะลึงอีกครั้ง เธอคิดว่าภายนอกสวยมากๆแล้ว ภายในปราสาทนี่ก็ใช่ย่อยรอบๆผนังของปราสาทถูกประดับประดาไปด้วยรูปภาพต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็นภาพวิว บุคคลสำคัญ และรูปอื่นๆอีก ส่วนเพดานถูกตกแต่งด้วยโคมไฟระย้าที่ห้อยลงมาอย่างสวยงาม ภายในปราสาทถูกทาด้วยสีทองอ่อนๆ
ข้างในนั้นมีผู้คนมากมาย มากหน้าหลายตากำลังพูดคุยกันถึงเรื่องการสอบอย่างตื่นเต้น เธอคงต้องมองหาเพื่อนซะแล้วล่ะ และเธอก็เหลือบไปเห็นผู้หญิงคนหนึ่งกำลังเดินเข้ามา เจ้าหล่อนมีเรือนผมสีม่วงที่ถูกรวบไว้ข้างหลังอย่างเรียบร้อย และมีนัยน์ตาสีทองอร่ามสวยงามยิ่งรัก ใบหน้าเรียวงามกำลังมองหาเพื่อนอยู่เหมือนกัน เธอจึงถือโอกาสตีซี้กับเจ้าหล่อนเลยทันที
"เอ่อ..หวัดดีค่ะ" อุ๊บ!!O_Oเผลอไปอีกแล้ว...ทำไงดีล่ะเนี่ย
"หา....อะไรนะ เมื่อกี้นายว่าอะไรนะ" เจ้าหล่อนถามอีกรอบเพราะได้ยินไม่ชัด
"อ๋อ....ฉันบอกว่าหวัดดีอ่ะครับ แหะๆ" เอเลนยาเหงื่อตกไปในทันที เกือบไปแล้วมั๊ยล่ะ....
"อ่อค่ะ...หวัดดี" เจ้าหล่อนก็ยังคงแคลงใจอยู่อีกนิดหน่อยอยู่ดี ดังนั้นเอเลนยาจึงชวนเธอคุยต่ออีกเพื่อให้หายแคลงใจ
"เธอชื่ออะไรหรือครับ....ผมชื่อ- - - -เอ่อๆๆๆ - - - ชื่อ..." ให้ตายเหอะ ลืมนึกชื่อตอนเป็นผู้ชายไปซะสนิทเลย ซวยแล้วมั๊ยล่ะ-_-
"ไม่ต้องพูดสุภาพก็ได้....ฉันชื่อซินเทีย มิสทรีจ๊ะ เอ่อ...แล้วตกลงนายชื่ออะไรน่ะ" ซินเทียดูเหมือนว่าจะลดความแคลงใจลงไปได้บ้างแล้ว แต่...จะใช้ชื่ออะไรดีล่ะเนี่ย!
"อ้อ..ผม - - เอ๊ย! ฉันชื่อเอเรส เกรเนสเทอร์น่ะ ยินดีที่ได้รู้นักนะ"
"เอ๊ะ! ตระกูลเกรเนสเทอร์...เธอเป็นอะไรกับเจ้าหญิงเอเลนยาหรือป่าว นามสกุลเหมือนกันเลย"
"เอ่อ...พอดีว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องกันน่ะ ฉันไม่ค่อยจะมีชื่อเสียงหรอก" เจ้าตัวดีตอบอย่างราบรื่น โกหกเป็นชุดๆ แต่ก็ดีแล้วที่ซินเทียไม่สงสัยอะไรอีก และเธอก็ได้เพื่อนใหม่ในที่สุด
เมื่อเอเลนยาหรือตอนนี้คือเอเรสกับซินเทียก็เดินเข้าไปในห้องห้องนึง ซึ่งเป็นห้องสำหรับรอการสอบ การสอบจะแบ่งเป็น 2 ชุด คือชุดทฏษดีกับชุดปฏิบัติ และเมื่อทั้ง 2 นั่งประจำที่ ท่านมหาปราชญ์วอเรสก็ออกมากล่าวเกี่ยวกับการสอบในครั้งนี้ เขาเป็นผู้ที่น่าเกรงขามเป็นอย่างมาก นัยน์ตาสีอำพันหันมาสบกับนัยน์ตาของเอเลนยาเข้า ทำให้เธอสะดุ้งเฮือก แต่ไม่นานมหาปราชญ์วอเรสก็หันกลับไปและเริ่มกล่าวรายงาน
"สวัสดีเหล่านักเรียนผู้มีความสามารถ....วันนี้พวกเธอจะต้องทำการสอบคัดเลือกเพื่อเข้าเรียนในโรงเรียนแห่งนี้ ดังนั้นจงมั่นในใจพลังและความสามารถของพวกเธอ การสอบนั้นจะมีด้วยกัน 2 ชุด ชุดแรกนั้นว่าด้วยทฏษดี พวกเธอมีความรู้ทางด้านนี้มากแค่ไหน และชุดที่ 2 ว่าด้วยการปฏิบัติในชุดนี้จะเป็นการตรวจหาพลังพิเศษทางด้านต่างๆของพวกเธอในแต่ละคน ซึ่งแน่นอนว่าทุกคนจะต้องมีกันทั้งหมด และเมื่อพบแล้วก็จะเป็นการฝึกว่าพวกเธอมีความสามารถในการควบคุมและจัดการกับพลังพิเศษมากแค่ไหนของพวกเธอมากแค่ไหน ขอย้ำว่าชุดนี้พวกเธอต้องมีสตินะ....เอาล่ะเริ่มการสอบได้!"
เมื่อมหาปราชญ์วอเรสกล่าวจบ ศ.คนหนึ่งก็ออกมากอ่านรายชื่อผู้สอบ เขาเป็นชายวัยกลางคนที่หน้าตาบูดบึ้งอยู่ตลอดเวลาเห็นจะได้ เวลาอ่านชื่อไปเขาจะไม่มีการยิ้มแย้มเลย เรือนผมสีดำพันกันยุ่งอยู่บนหัวเขา แต่เขาดูเหมือนจะไม่สน นัยน์จาสีเหลืองกำลังอ่านรายชื่อผู้เข้าสอบอย่างขมักเขม่น
เวลาผ่านไป 2 ชม.ได้ เอเลนยาได้ยินเสียงของบางคนที่ร้องโหยหวนดังออกมาจากห้องสอบตลอดเวลา ทำเอาเธอเริ่มใจเสีย ถ้าเธอสอบไม่ผ่าน แผนการในการเดินทางไปทำลายคำสาปก็คงจะไม่เกิด แล้วท่านพ่อจะฆ่าเธอหรือไม่? คิดแล้วก็สยอง....
"ไวล์ พรินส์วิล" รายชื่อถูกประกาศ แล้วชายหนุ่มผมสีน้ำเงินเข้ม นัยน์ตาสีฟ้าครามก็ยืนขึ้นและเดินเข้าไปในห้องสอบอย่างไร้อารมณ์ เอเลนยาจำได้ในทันทีเลยว่าเขาคือคนที่เดินชนเธอแล้วไม่ใส่ใจ ทำให้เธอต้องวีนแตก ทำให้เธอเกือบจะปล่อยความเป็นหญิงออกมา ถึงแม้จะออกมานิดหน่อยแล้วก้อเถอะ เธอเพิ่งรู้นะเนี่ย ว่าหมอนี่ชื่อไวล์ พรินส์วิล ชื่อเพราะดีเหมือนกัน.....ท่าทางทำเป็นหยิ่งนัก ถ้าไม่ได้ล่ะก็เธอจะสมน้ำน่าให้ แต่เมื่อไวล์เข้าไปเพียงมาถึง 5 นาทีเขาก้อออกมาและมีสีหน้าที่ไร้อารมณ์ตามเคย....
/ เหลือชื่อเลยแฮะ....หมอนี่เป็นคนแรกที่ใช้เวลาในการสอบน้อยที่สุด เอ...หรือว่าหมอนี่มันกลัว เลยขอถอนตัวนะ / คิดแล้วเอเลนยาก็นึกสมน้ำน่าอยู่ในใจ ทำตัวหยิ่งดีนักที่ไหนได้ก็ขี้ขลาดนี่เอง
แต่เอเลนยาก็คิดได้ไม่นานเมื่อศ.คนนี้ประกาศรายชื่อต่อมา....
"เอเรส เกรเนสเทอร์" เจ้าตัวดีสะดุ้งเฮือกขึ้นมาทันที ร่างกายเริ่มมีเหงื่อซึม ความกลัวเริ่มเข้ามาซะแล้วซิ ท่านพ่อ....งานที่ถ้าเธอสอบไม่ผ่านก็อย่าว่ากันเลยนะ
"สู้เขานะจ๊ะเอเรส! นายต้องทำได้แน่นอนเลย...." ซินเทียให้กำลังใจเธอ ทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นหน่อย
เมื่อเอเลนยาเตรียมทำใจเรียบร้อยแล้วเธอก้อตัดสินใจเดินเข้าไปในห้องสอบ...... _______________________________________________________________
รถม้าของเอเลนยาค่อยๆเคลื่อนๆตัวตามขบวนรถคันอื่นๆไปอย่างช้าๆ เนื่องจากว่ามีผู้คนมาสมัครสอบเพื่อเข้าเรียนโรงเรียนนี้เยอะมาก ทำให้การจราจรค่อนข้างติดขัด สาวน้อยผมสีน้ำตาลแดงกำลังนั่งอยู่ในรถอย่างเบื่อหน่าย
"เฮ้อ...เมื่อไหร่จะถึงซะทีนะ จะได้สอบให้มันเสร็จๆไป" เอเลนยาบ่น
"ไม่เอาสิเพคะองค์หญิง...นี่ก็ใกล้จะถึงตัวปราสาทแล้วล่ะเพคะ หม่อนฉันว่าทรงสวมแหวนเพลิงภาคีได้แล้วนะเพคะ" มอรีลนางกำนัลคนสนิทบอกเอเลนยา เธอจึงหยิบแหวนเพลิงภาคีขึ้นมาสวม
/วาบ!!!/
เกิดแสงสว่างขึ้นภายในรถม้า และทันใดนั้นจากร่างบางของหญิงสาวก็ได้กลายเป็นร่างของชายหนุ่มที่มีร่างกายใหญ่ขึ้น ผมสีน้ำตาลแดงที่เคยปล่อยยาวสยาย บัดนี้กลับถูกทำให้สั้นลงเหลือแค่เพียงความยาวในระดับระต้นคอ ใบหน้าที่เคยนวลใส บัดนี้กลับหยาบกร้านขึ้นจากเดิม และจากหญิงสาวที่เคยอยู่ตรงนี้กลับแปลเปลี่ยนมาเป็นชายหนุ่มหน้าตาดีภายในทันที
"ว้าว! เหลือเชื่อเลยแฮะ มอรีล" เอเลนยาในคราบของชายหนุ่มกำลังตะลึงกับร่างกายของตนเองที่เปลี่ยนแปลงไป
"เพคะ.. เสียงขององค์หญิงก็เปลี่ยนไปเช่นกันนะเพคะ " มอรีลมองดูชายหนุ่มตรงหน้าอย่างเอ็นดู
"ความจริงอยู่ในร่างนี้ก็ดีเหมือนกันนะมอรีล"
"ได้ยังไงกันเพคะองค์หญิง....ทรงอย่าลืมสิว่าท่านน่ะเป็นผู้หญิงนะ แล้วก็ในตอนนี้ทรงกลายเป็นชายไปแล้ว ท่าทางหรือการพูดจาก็ควรจะต้องปรับเปลี่ยนด้วยนะเพคะ ไม่อย่างนั้นคนเขาจะมองว่าองค์หญิงน่ะเป็นพวกวิปริตนะเพคะ..." มอรีลขำเล็กน้อยๆ แต่เอเลนยากลับหน้าบูดบึ้ง
"ฉันรู้แล้วล่ะน่ามอรีลก็.....ไม่สิ ฉันรู้แล้วมอรีล" เอเลนยารีบเปลี่ยนท่าทีการพูดทันที ทำให้มอรีลยิ้มอย่างเอ็นดู เธอเลี้ยงองค์หญิงของเธอมาตั้งแต่เล็ก ไม่น่าเลยที่องค์หญิงจะต้องมาเจอที่หนักถึงเพียงนี้
รถม้าเดินทางมาถึงหน้าปราสาทของโรงเรียนไอซ์เบิร์นในที่สุด เอเลนยาจึงลงจากรถมาดูสิ่งต่างๆภายนอก และภาพที่ได้เห็นนั้น ก็ทำให้เธอตกตะลึงไปในทันที
ตัวปราสาทนั้นทำจาหินอ่อนสีขาวทั้งหมด และเป็นปราสาทที่ใหญ่มาก ด้านบนของปราสาทเป็นหอคอยทั้ง 4 หอที่ต่างก็ประดับธงค์เอาไว้เป็นสัญลักษณ์ ด้านซ้ายเป็นธงก์สีเขียว ตรงกลางมีรูปเหยี่ยวกำลังกางปีกเป็นสัญลักษณ์อยู่ ถัดมาเป็นธงก์สีเหลือง ตรงกลางมีรูปมังกรพ่นไฟเป็นสัญลักษณ์ ถัดมาอีกคือธงก์สีน้ำเงิน มีรูปหงส์เป็นสัญลักษณ์ และท้ายสุดทางด้านขวาสุดเป็นธงก์สีแดง ตรงกลางเป็นรูปของสิงโตกำลังคำรามอยู่ เธอคิดว่าธงก์ทั้งหมดคงเป็นสัญลักษณ์ของหอทั้ง 4 แน่ๆ และจุดเด่นที่สุดก็คือธงก์ที่อยู่ตรงกลางของธงก์ทั้ง4 และอยู่บนยอดสุดของปราสาทเป็นธงค์สีทองขอบเป็นสีเงิน ตรงกลางเป็นรูปของสัตว์ทั้ง 4 นี่คงจะเป็นธงค์ประจำโรงเรียนนี้
เมื่อมองต่อมาทางด้านข้างของปราสาท มีสวนดอกไม้ขนาบข้าง เหล่าพรรณไม้ ดอกไม้กำลังแข่งกันออกดอกสีสวย ต้นไม้ต่างพากันผลิใบเขียวขจี เหล่านกน้อยกำลังบินโฉบไปมาพร้อมกับส่งเสียงร้องเพลงอย่างไพเราะ หมู่แมลงต่างพากันบินเข้าหามวลดอกไม้กลิ่นหอม ชวนให้น่ามองยิ่งนัก นี่หรือคือโรงเรียน มันน่าจะเป็นสวรรค์ซะมากกว่านะ ไม่พอแค่นั้น เบื้องหน้าของเธอเป็นประตูบานใหญ่สีทองที่กำลังส่องแสงวาววับเมื่อกระทบกับแสงอาทิตย์ที่กำลังสาดส่องมา เธอชักจะชอบที่นี่เข้าแล้วสิ ..
เอเลนยากำลังเข้าสู่ห้วงภวังค์ได้ไม่นานเธอก้อต้อง.....
/ ผลั่ก /
ร่างของเอเลนยาเซไปด้านข้างในทันที พร้อมกับคนที่กำลังเดินผ่านเธอไป
"นี่!!....นายน่ะ " เอเลนยาตะโกนเรียกชายหนุ่มที่ชนเธอเมื่อกี้และกำลังเดินผ่านเธอไปอย่างไม่สนใจ แต่เมื่อชายหนุ่มไม่ยอมหันกลับมาตามเสียงที่เธอเรียก เธอก็เริ่มฉุนขึ้นมาในทันที....
"นี่นาย! ฉันเรียกไม่ได้ยินหรือไง" เธอวิ่งเข้าไปขวางทางเขาเอาไว้ ชายหนุ่มผู้นั้นหยุดเดินและจ้องมาที่เธอ เขาเป็นชายหนุ่มที่จัดได้ว่ารูปหล่อทีเดียว ไม่สิหล่อมากๆด้วย เรือนผมสีน้ำเงินเข้มที่ยาวระต้นคอกำลังปลิวเล็กน้อยกับนัยน์ตาสีฟ้าครามที่ดูเย็นชากำลังจ้องมาที่เธอมันชวนให้หลงใหลยิ่งนัก และรูปร่างที่ใหญ่และสูงโปร่ง ทำให้เขาดูน่าเกรงขามทีเดียว แต่....
"หูหนวกรึไง! ไม่ได้ยินที่ฉันเรียกนายหรอ??? "
"ได้ยิน...." เป็นคำตอบที่สั้นมาก ชวนให้อารมณ์ของเธอขาดสะบั้น
"ได้ยินแล้วทำไมถึงมาหยุดยะ นายชนฉันเมื่อกี้นะ ยังไม่รู้จักขอโทษอีก" และแล้วสาวเจ้าที่อยู่ในคราบของชายหนุ่มก็หลุดท่าทางการพูดแบบผู้หญิงออกมา เป็นผลทำให้ชายหนุ่มเลิกคิ้วน้อยๆ อย่างงงๆ....
"ฉันไม่จำเป็นต้องหยุด และไม่จำเป็นต้องขอโทษด้วย...." คำตอบที่เย็นชาถูกส่งกลับมาจากชายหนุ่มที่นัยน์ตาดูไร้อารมณ์เป็นอย่างมาก
"นายพูดแบบนี้ได้ยังไงหะ! เป็นผู้ชายภาษาอะไร ทำกับผู้หญิงอย่างงี้อ่ะหรอ " อุ๊บ! ลืมตัวไปซะแล้ว แย่ละสิ! พลันเอเลนยาก็มองหน้าของชายหนุ่มที่เธอเพิ่งหลุดปากคำว่าผู้หญิงออกไป ทั้งๆที่ตอนนี้เธออยู่ในร่างของผู้ชาย ชายหนุ่มอึ้งกับคำพูดเล็กน้อย แต่ไม่ถึง 1 วิสีหน้าที่ไร้อารมณ์ของเขาก็กลับมาอยู่สภาพเดิม เหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเมื่อกี้....
"ช่างเหอะๆ ฉันไม่ติดใจอะไร แต่ฝากไว้ก่อนนะ" ว่าแล้วเอเลนยาก็รีบวิ่งหนีไปที่รถม้าของเธอในทันที ก่อนที่เขาจะคิดว่าเธอเป็นพวกจิตวิปริต
เมื่อเธอกลับเข้ามาในรถ
"องค์หญิงทรงหายไปไหนมาตั้งนานเพคะ หม่อนฉันจะบอกว่าเขาเรียกตัวเข้าไปในปราสาทแล้วนะเพคะ ทรงไปได้แล้ว..."มอรีลบอกอย่างเร่งรีบ
"จริงหรอมอรีล....งั้นฉันไปก่อนนะ" เอเลนยารีบหยิบกระเป๋าของเธอและวิ่งเข้าไปปราสาทไปในทันที ก่อนที่มอรีลจะได้บอกอะไร....
"องค์หญิงเพคะ! หม่อมฉันยังไม่ได้บอกชื่อที่ท่านต้องใช้เวลาอยู่ที่นี่เลย....."มอรีลเอ่ยไม่ทันซะแล้ว
เมื่อเอเลนยาเดินเข้าไปในปราสาทเธอก็ต้องเกิดอาการตกตะลึงอีกครั้ง เธอคิดว่าภายนอกสวยมากๆแล้ว ภายในปราสาทนี่ก็ใช่ย่อยรอบๆผนังของปราสาทถูกประดับประดาไปด้วยรูปภาพต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็นภาพวิว บุคคลสำคัญ และรูปอื่นๆอีก ส่วนเพดานถูกตกแต่งด้วยโคมไฟระย้าที่ห้อยลงมาอย่างสวยงาม ภายในปราสาทเป็นสีทองอ่อนๆ
ข้างในนั้นมีผู้คนมากมาย มากหน้าหลายตากำลังพูดคุยกันถึงเรื่องการสอบอย่างตื่นเต้น เธอคงต้องมองหาเพื่อนซะแล้วล่ะ และเธอก็เหลือบไปเห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งกำลังเดินเข้ามา เจ้าหล่อนมีเรือนผมสีม่วงที่ถูกรวบไว้ข้างหลังอย่างเรียบร้อย และมีนัยน์ตาสีทองอร่ามสวยงามยิ่งนัก ใบหน้าเรียวงามกำลังมองหาเพื่อนอยู่เหมือนกัน เธอจึงถือโอกาสตีซี้กับเจ้าหล่อนเลยทันที
"เอ่อ..หวัดดีค่ะ" อุ๊บ!!O_Oเผลอไปอีกแล้ว...ทำไงดีล่ะเนี่ย
"หา....อะไรนะ เมื่อกี้นายว่าอะไรนะ" เจ้าหล่อนถามอีกรอบเพราะได้ยินไม่ชัด
"อ๋อ....ฉันบอกว่าหวัดดีอ่ะครับ แหะๆ" เอเลนยาเหงื่อตกไปในทันที เกือบไปแล้วมั๊ยล่ะ....
"อ่อค่ะ...หวัดดี" เจ้าหล่อนก็ยังคงแคลงใจอยู่อีกนิดหน่อยอยู่ดี ดังนั้นเอเลนยาจึงชวนเธอคุยต่ออีกเพื่อให้หายแคลงใจ
"เธอชื่ออะไรหรือครับ....ผมชื่อ- - - -เอ่อๆๆๆ - - - ชื่อ..." ให้ตายเหอะ ลืมนึกชื่อตอนเป็นผู้ชายไปซะสนิทเลย ซวยแล้วมั๊ยล่ะ-_-
"ไม่ต้องพูดสุภาพก็ได้....ฉันชื่อซินเทีย มิสทรีจ๊ะ เอ่อ...แล้วตกลงนายชื่ออะไรน่ะ" ซินเทียดูเหมือนว่าจะลดความแคลงใจลงไปได้บ้างแล้ว แต่...จะใช้ชื่ออะไรดีล่ะเนี่ย!
"อ้อ..ผม - - เอ๊ย! ฉันชื่อเอเรส เกรเนสเทอร์น่ะ ยินดีที่ได้รู้นักนะ"
"เอ๊ะ! ตระกูลเกรเนสเทอร์...เธอเป็นอะไรกับเจ้าหญิงเอเลนยาหรือป่าว นามสกุลเหมือนกันเลย"
"เอ่อ...พอดีว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องกันน่ะ ฉันไม่ค่อยจะมีชื่อเสียงหรอก" เจ้าตัวดีตอบอย่างราบรื่น โกหกเป็นชุดๆ แต่ก็ดีแล้วที่ซินเทียไม่สงสัยอะไรอีก และเธอก็ได้เพื่อนใหม่ในที่สุด
เมื่อเอเลนยาหรือตอนนี้คือเอเรสกับซินเทียก็เดินเข้าไปในห้องห้องนึง ซึ่งเป็นห้องสำหรับรอการสอบ การสอบจะแบ่งเป็น 2 ชุด คือชุดทฏษดีกับชุดปฏิบัติ และเมื่อทั้ง 2 นั่งประจำที่ ท่านมหาปราชญ์วอเรสก็ออกมากล่าวเกี่ยวกับการสอบในครั้งนี้ เขาเป็นผู้ที่น่าเกรงขามเป็นอย่างมาก นัยน์ตาสีอำพันหันมาสบกับนัยน์ตาของเอเลนยาเข้า ทำให้เธอสะดุ้งเฮือก แต่ไม่นานมหาปราชญ์วอเรสก็หันกลับไปและเริ่มกล่าวรายงาน
"สวัสดีเหล่านักเรียนผู้มีความสามารถ....วันนี้พวกเธอจะต้องทำการสอบคัดเลือกเพื่อเข้าเรียนในโรงเรียนแห่งนี้ ดังนั้นจงมั่นในใจพลังและความสามารถของพวกเธอ การสอบนั้นจะมีด้วยกัน 2 ชุด ชุดแรกนั้นว่าด้วยทฏษดี พวกเธอมีความรู้ทางด้านนี้มากแค่ไหน และชุดที่ 2 ว่าด้วยการปฏิบัติในชุดนี้จะเป็นการตรวจหาพลังพิเศษทางด้านต่างๆของพวกเธอในแต่ละคน ซึ่งแน่นอนว่าทุกคนจะต้องมีกันทั้งหมด และเมื่อพบแล้วก็จะเป็นการฝึกว่าพวกเธอมีความสามารถในการควบคุมและจัดการกับพลังพิเศษมากแค่ไหนของพวกเธอมากแค่ไหน ขอย้ำว่าชุดนี้พวกเธอต้องมีสตินะ....เอาล่ะเริ่มการสอบได้!"
เมื่อมหาปราชญ์วอเรสกล่าวจบ ศ.คนหนึ่งก็ออกมากอ่านรายชื่อผู้สอบ เขาเป็นชายวัยกลางคนที่หน้าตาบูดบึ้งอยู่ตลอดเวลาเห็นจะได้ เวลาอ่านชื่อไปเขาจะไม่มีการยิ้มแย้มเลย เรือนผมสีดำพันกันยุ่งอยู่บนหัวเขา แต่เขาดูเหมือนจะไม่สน นัยน์จาสีเหลืองกำลังอ่านรายชื่อผู้เข้าสอบอย่างขมักเขม้น
เวลาผ่านไป 2 ชม.ได้ เอเลนยาได้ยินเสียงของบางคนที่ร้องโหยหวนดังออกมาจากห้องสอบตลอดเวลา ทำเอาเธอเริ่มใจเสีย ถ้าเธอสอบไม่ผ่าน แผนการในการเดินทางไปทำลายคำสาปก็คงจะไม่เกิด แล้วท่านพ่อจะฆ่าเธอหรือไม่? คิดแล้วก็สยอง....
"ไวล์ พรินส์วิล" รายชื่อถูกประกาศ แล้วชายหนุ่มผมสีน้ำเงินเข้ม นัยน์ตาสีฟ้าครามก็ยืนขึ้นและเดินเข้าไปในห้องสอบอย่างไร้อารมณ์ เอเลนยาจำได้ในทันทีเลยว่าเขาคือคนที่เดินชนเธอแล้วไม่ใส่ใจ ทำให้เธอต้องวีนแตก ทำให้เธอเกือบจะปล่อยความเป็นหญิงออกมา ถึงแม้จะออกมานิดหน่อยแล้วก้อเถอะ เธอเพิ่งรู้นะเนี่ย ว่าหมอนี่ชื่อไวล์ พรินส์วิล ชื่อเพราะดีเหมือนกัน.....ท่าทางทำเป็นหยิ่งนัก ถ้าไม่ได้ล่ะก็เธอจะสมน้ำน่าให้ แต่เมื่อไวล์เข้าไปเพียงไม่ถึง 5 นาทีเขาก้อออกมาและมีสีหน้าที่ไร้อารมณ์ตามเคย....
/ เหลือชื่อเลยแฮะ....หมอนี่เป็นคนแรกที่ใช้เวลาในการสอบน้อยที่สุด เอ...หรือว่าหมอนี่มันกลัว เลยขอถอนตัวนะ / คิดแล้วเอเลนยาก็นึกสมน้ำน่าอยู่ในใจ ทำตัวหยิ่งดีนักที่ไหนได้ก็ขี้ขลาดนี่เอง
แต่เอเลนยาก็คิดได้ไม่นานเมื่อศ.คนนี้ประกาศรายชื่อต่อมา....
"เอเรส เกรเนสเทอร์" เจ้าตัวดีสะดุ้งเฮือกขึ้นมาทันที ร่างกายเริ่มมีเหงื่อซึม ความกลัวเริ่มเข้ามาซะแล้วซิ ท่านพ่อ....งานที่ถ้าเธอสอบไม่ผ่านก็อย่าว่ากันเลยนะ แต่เอ...ชื่อเมื่อกี้เธอพึ่งคิดสดๆนี่นาแล้วเขารู้ได้ยังไงว่าเธอใช้ชื่อนี้นะ------ช่างมันเถอะ จะไปสนทำไม
"สู้เขานะจ๊ะเอเรส! นายต้องทำได้แน่นอนเลย...." ซินเทียให้กำลังใจเธอ ทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นหน่อย
เมื่อเอเลนยาเตรียมทำใจเรียบร้อยแล้วเธอก้อตัดสินใจเดินเข้าไปในห้องสอบ......
_______________________________________________________________________
การสอบจะเป็นอย่างไรนั้นต้องติดตามอ่านตอนต่อไปนะคะ
ช่วงนี้จะพยายามมาอัพบ่อยๆน้า ถ้าเราแต่งต่อได้อ่านะ อิอิอิ
ไปแระคร่า.....Krever
ความคิดเห็น