ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Elenya Of Kalos

    ลำดับตอนที่ #2 : การเริ่มต้นของเรื่องราว

    • อัปเดตล่าสุด 25 เม.ย. 49


    ณ อาณาจักรคาลอส

    แสงอาทิตย์ในยามเช้าสาดส่องเข้ามากระทบบนใบหน้าของหญิงสาวผู้ซึ่งกำลังนอนหลับอยู่ภายใต้ผ้าห่มอันแสนอบอุ่นอย่างมีความสุข เรือนผมสีน้ำตาลแดงปล่อยยาวสยายแผ่อยู่บนหมอนตัดกับใบหน้านวลที่เรียวได้รูป แพรขนตาที่งอนและหนากำลังปิดสนิทชวนให้หลงใหล ปากรูปกระจับสีชมพูที่อวบอิ่มเหมือนกำลังรอคอยผู้ที่จะมาสัมผัส

                    /ก๊อกๆๆๆๆ/

                    /ก๊อกๆๆๆ/

                    /ก๊อกๆๆ/

              /ก๊อกๆ/

    "องค์หญิงเพคะ.....ตื่นได้แล้วนะเพคะ!!!" เสียงของนางกำนัลคนสนิทกำลังตะโกนร้องเรียกหญิงสาวผ่านทางประตูบานใหญ่ เป็นผลทำให้หญิงสาวที่กำลังหลับอยู่นั้นตื่นจากห้วงนิทรา.....

    "รู้แล้วๆ มอรีล....ตื่นแล้วจ้า" เสียงของหญิงสาวที่อยู่ในห้องตะโกนออกมา เพื่อบอกกับนางกำนัล ที่ชื่อ มอรีล

              หลังจากที่หญิงสาวได้อาบน้ำ แต่งองค์ทรงเครื่องด้วยชุดที่เธอโปรดปรานซึ่งก็คือ เสื้อยืดสีขาวที่คลุมด้วยเสื้อเชิ้ตสีน้ำตาลอ่อนและกางเกงที่มีลักษณะเหมือนกับกางเกงขี่ม้าสีดำเรียบร้อยแล้ว เธอก็ได้ออกมาเปิดประตูให้กับนางกำนัลของเธอ

    "ตายแล้ว!!!...." เสียงมอรีลร้องลั่น

    "ยังไม่ตาย...ปากเสียแต่เช้าเลยนะมอรีล" หญิงสาวเอ็ด

    "อย่าพูดแบบนี้สิเพคะ ทรงลืมไปแล้วหรืออย่างไร ว่าวันนี้ท่านฟรานเชสเรียกพบน่ะ....แล้วทรงแต่งกายเช่นนี้ได้อย่างไรกันเพคะ" น้ำเสียงของมอรีลบอกถึงความไม่พอใจเล็กน้อย

    "ไม่เอาน่ามอรีล...ฉันเป็นลูกสาวท่านพ่อนะ แต่งอะไรไปท่านพ่อน่ะไม่ว่าหรอก"

    "ไม่ได้เพคะ...ท่านอาจจะไม่ว่าองค์หญิง แต่หม่อมฉันสิจะแย่นะเพคะ"

    "ใครจะยอมให้ท่านพ่อมาทำอะไรมอรีลที่แสนจะใจดีได้ล่ะ...นะมอรีล ไม่เห็นต้องเปลี่ยนชุดเลย ชุดนี้แหละดีแล้วนะ"หญิงสาวเริ่มส่งสายตาวิงวอน จนทำให้มอรีลยอมใจอ่อนได้ในที่สุด

                    หญิงสาวได้ออกจากห้องของเธอ และไปที่ห้องหนังสือตามคำสั่งของท่านพ่อของเธอ ซึ่งก็คือ คิงฟรานเชส ผู้ที่สามารถทำสัญญากับเมืองเดวิลลัสได้นั่นเอง

    หญิงสาวเปิดประตูเข้าไป และก็ต้องพบกับชายวัยกลางคนผู้ซึ่งกำลังนั่งอยู่ที่โต๊หนังสือ ใบหน้าบ่งบอกได้ว่าชายผู้นี้อายุราว 40 ต้นๆ  เรือนผมสีดำปลิวไสวเล็กน้อย นัยน์ตาสีเขียวมรกตกำลังมองมาที่หญิงสาวผู้ซึ่งมีนัยน์ตาสีเดียวกัน หากแต่ผมนั้นคนละสี

    "มาแล้วหรือ เอเลนยาลูกรัก" ชายผู้นั้นกล่าว

    "เพคะ...ท่านพ่อเรียกลูกมาที่นี่มีธุระอะไรอย่างนั้นหรือ เห็นทุกทีไม่เคยจะเรียก แม้แต่ทานข้าวด้วยกันก็แทบจะไม่มีเวลา" หญิงสาวผู้ที่มีนามว่าเอเลยนาถามอย่างประชดผู้เป็นบิดาเล็กน้อย

    "ไม่เอาสิเอเลนยา พ่อมีเรื่องที่จะต้องพูดกับลูกนะ มันเป็นเรื่องที่สำคัญมาก...." คิงฟรานเชส เงียบไป

    "เรื่องอะไรหรือท่านพ่อ ที่ว่าสำคัญน่ะ"

    "พ่อเคยบอกลูกแล้วใช่มั๊ยเกี่ยวกับเรื่องคำสาปที่อยู่ในร่างกายของลูก"

    "เพคะ..แต่ถึงลูกจะเป็นแบบนี้ มันก้อไม่ได้เป็นปัญหากับลูกนี่  แล้วท่านพ่อจะมาบอกลูกอีกทำไม"

    "มีเรื่องหนึ่งที่พ่อยังไม่ได้บอกลูกนะเอเลนยา การที่ลูกเป็นแบบนี้ มันจะทำให้พลังเวทของลูกลดลงไปเรื่อยๆ พลังชีวิตก็เช่นกัน แล้วถ้าพ่อปล่อยให้ลูกเป็นแบบนี้ต่อไป ลูกอาจจะมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ได้อีกไม่นาน...."

    "แต่นี่ลูกอยู่มาได้ถึง 16 ปีแล้วนะเพคะ ไม่เห็นลูกจะเป็นอะไรเลย พลังเวทของลูกลดลงก็จริง แต่ก็เป็นเฉพาะตอนที่ลูกกลายเป็นชายเท่านั้นนี่"

    "ลูกไม่รู้อะไรเอเลนยา เมื่อลูกอายุเกิน 15 ไป พลังเวทและพลังชีวิตของลูกจะลดลงเรื่อยๆ อย่างรวดเร็ว พ่อยอมให้ลูกหายไปจากโลกนี้ดังเช่นแม่ของลูกไม่ได้หรอก พ่อจะไม่ยอมให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกครั้ง ลูกเป็นลูกสาวคนเดียวพี่พ่อรักมากนะเอเลนยา"

    "แล้วจะให้ลูกทำอย่างไรล่ะเพคะ ที่จะสามารถทำลายคำสาปนี้ได้น่ะ การเป็นหญิงในตอนกลางวัน และเป็นชายในตอนกลางคืน....ท่านพ่อเคยบอกลูกแล้วนี่ว่าไม่มีผู้ใดสามารถทำลายคำสาปของลูกได้"

    "ตอนนี้มีแล้วเอเลนยา แต่ลูกจะต้องเดินทางไปหามัน มันเป็นของสิ่งหนึ่งที่จะสามารถช่วยลูกให้พ้นจากคำสาปนี้ได้...."

    "แล้วมันคืออะไรหรือท่านพ่อ"

    "อัญมณีวารีริน.....มันเป็นอัญมณีศักดิ์ศิษย์ ที่ตั้งอยู่ในอาณาจักรเดวิลลัส"

    "ล้อเล่นน่าท่านพ่อ ท่านอย่าบอกนะว่าจะให้ลูกไปหาอัญมณีอะไรนั่นในนั้นน่ะ มีแต่พวกปีศาจทั้งนั้น ลูกขอตายที่นี่ดีกว่าไปโดนพวกนั้นฆ่าตายดีกว่าท่านพ่อ"

    "นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นนะเอเลนยา! มันคือชีวิตของลูก มันอันตรายจริงอย่างที่ลูกว่า แต่นี่เป็นทางเดียวที่จะสามารถช่วยลูกได้ ดังนั้นพ่อจึงจะส่งลูกไปเรียนวิชาเพื่อที่จะสามารถปกป้องตัวเองได้…"

    "อะไรนะท่านพ่อ!!! จะส่งลูกไปเรียนงั้นหรือ....ไม่มีทางเพคะ ท่านจ้างคนมาสอนลูกก็ได้นี่นา ไม่เห็นต้องให้ลูกไปเรียนเลย"

    "ไม่ได้! โรงเรียนไอซ์เบิร์นเป็นโรงเรียนที่ดีและเก่งที่สุดในโลกนี้แล้ว เมื่อลูกไปเรียนที่นั่น ลูกจะเก่งขึ้น หัดใช้ชีวิตภายนอกคนเดียวซะบ้างเอเลนยา ลูกจะได้เข้มแข็ง เข้าใจมั๊ย?"

    "ท่านพ่อ....ทรงลืมอะไรไปหรือป่าว ถ้าลูกออกข้างนอกผู้คนเขาก็จะรู้ว่าลูกเป็นยังไง หญิงครึ่งชายครึ่ง ท่านอยากให้เป็นอย่างนั้นหรือเพคะ"

    คิงฟรานเชสยิ้มอย่างรู้ทันลูกสาว

    "เรื่องนี้ไม่ต้องห่วงเอเลนยา พ่อเตรียมการไว้เรียบร้อยแล้ว....มหาปราชญ์วอเรสแห่งโรงเรียนไอซ์เบิร์นได้ส่งของสิ่งหนึ่งมาให้ลูกแล้ว และเมื่อลูกไปอยู่ที่นั่น เขาจะคอยช่วยเหลือลูกเป็นอย่างดี"

    "ของอะไรอีกล่ะเพคะ?"

    "แหวนเพลิงภาคี"

    "แหวนในตำนานนี่ท่านพ่อ...ท่านจะให้ลูกสวมมันอย่างนั้นหรือ"

    "ถูกต้องแล้วเอเลนยา แหวนนี้จะทำให้ลูกเป็นชายตลอดไม่ว่าจะกลางวันหรือกลางคืน ลูกจะปลอดภัยแน่นอน....แต่จงรักษามันไว้ให้ดีล่ะเอเลนยา มันจะช่วยให้พลังเวทและพลังชีวิตของลูกคงอยู่ แต่....มันก็มีข้อจำกัดของมัน หากใช้มันนานเกินไปลูกอาจจะกลายเป็นชายตลอดไป อีกอย่างแหวนนี้มันเป็นแหวนในตำนาน และแน่นอนว่ามีคนคอยที่จะครอบครองมันอยู่ ดังนั้นมันจะมีอันตรายอยู่รอบตัวลูกเสมอ จงระวังด้วยล่ะเอเลนยา"

    "เป็นชายตลอดไปดีซะอีกนะท่านพ่อ แค่มีแหวนนี้คำสาปอะไรนั่นก็ปล่อยมันไปเถอะ....

    .อีกอย่างถ้าเรารักษามันดีๆ ไม่มีใครเอาไปได้หรอกท่านพ่อ"

    "ไม่ได้เอเลนยา ลูกเป็นหญิงนะไม่ใช่ชาย และลูกอย่าประมาทต่อพวกที่คอยจะแย่งแหวนนี้ไป ความจริงใช่ว่าพ่ออยากให้ลูกสวมมันหรอก แต่เพราะมันเป็นของเพียงสิ่งเดียวที่จะช่วยลูกในตอนนี้ได้ก่อนที่ลูกจะเดินทางไปทำลายคำสาป และที่ลูกต้องใส่เอาไว้ก็เพื่อป้องกันตัวเอง พ่อจะให้ลูกไปเรียนที่นั่นไม่นานหรอก ให้ลูกฝึกพลังเวทให้เก่งแล้วลูกถึงจะออกเดินทางไปทำลายคำสาปได้ เอาล่ะ...ไปได้แล้วเอเลนยา พ่อมีงานต้องทำ อาทิตย์หน้าลูกจะต้องไปสอบเพื่อเข้าเรียนที่นั่นนะ..."

    "ท่านพ่อ!" เอเลนยาเดินหน้ามุ่ยออกจากห้องไป พร้อมกับแหวนเพลิงภาคี

                    หลังจากที่เอเลนยาได้ทราบข่าวการที่จะต้องไปเรียนที่โรงเรียนไอซ์เบิร์นแล้ว หลังจากนั้นผ่านไปอีก 6 วัน เธอก็ต้องเตรียมตัวที่จะไปสอบที่นั่น ซึ่งเอเลนยาไม่ชอบเลยซักนิดเดียว เธอรู้สึกตัวเองโชคร้ายอยู่เสมอ ที่เกิดมาแล้วต้องถูกสาปตั้งแต่เล็กๆ เธอเป็นหญิงในตอนกลางวันและเป็นชายในตอนกลางคืนมาแบบนี้ตั้งแต่จำความได้แล้ว.....เธอเคยถามท่านพ่อของเธอว่าทำไมเธอต้องถูกสาปและใครกันที่เป็นผู้ที่สาปเธอ และเขาผู้นั้นทำไปทำไม และที่สำคัญวันที่เธอถูกสาปนั้นเป็นวันเดียวกับที่ท่านแม่ของเธอถูกสังหารด้วย.....แต่ท่านพ่อก็ไม่ยอมบอกอะไรกับเธอเลย และปล่อยให้เธอเป็นแบบนี้นับตั้งแต่นั้นมา แต่มาตอนนี้ท่านกลับบอกให้เธอเดินทางไปเรียนที่โรงเรียนไอซ์เบิร์น และเดินทางไปทำลายคำสาปบ้าอะไรนั่น! เธอไม่รู้เลยว่าเธอจะเดินทางไปคนเดียวได้อย่างไร และต้องทำอะไรบ้าง ท่านพ่อไม่เคยเข้าใจความรู้สึกของเธอเลย.....

                    เอเลนยาล้มตัวลงนอนบนเตียงของเธอและมองแหวนนั้นอย่างพินิจพิจารณา แหวนในตำนาน ทำไมต้องเป็นแหวนในตำนานด้วย มันน่าจะมีสิ่งอื่นที่ช่วยเธอได้นอกจากแหวนนี้สิ ขึ้นชื่อว่าแหวนในตำนานที่ใครๆก็ต้องการแล้ว ฉันจะรักษามันได้อย่างไรกัน....แหวนในตำนาน

    / เพราะฉันไม่เคยไปเผชิญกับโลกภายนอกตัวคนเดียว เพราะฉันถูกสาปให้ไม่เหมือนผู้อื่น และเพราะฉันมีเจ้า เจ้าเป็นแหวนในตำนานที่หลายคนต้องการครอบครอง แต่ไม่ใช่ฉัน มันต้องมีปัญหามากมายที่อาจจะเกิดขึ้น แล้วฉันจะรับมันได้หรือ ฉันจะต่อสู้กับสิ่งต่างๆได้หรือ ทำไมท่านพ่อไม่เข้าใจความรู้สึกของฉันบ้าง ท่านไม่ห่วงฉันเลยหรืออย่างไร...../

                    พลันความคิดทั้งหมดก็ดับวูบลงเมื่อร่างบางเข้าสู่ห้วงนิทรา........

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×