จากใจให้เธอ
การบอกรักแบบไม่คาดคิดของหนุ่มนักกีฬา
ผู้เข้าชมรวม
123
ผู้เข้าชมเดือนนี้
2
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
จากใจให้เธอ
“ฮา... ว่ายังไงนะ” คิโยชิ อุทานเสียงหลงราวไม่เชื่อหูตัวเอง “นายจะลงสมัครแข่งร้องเพลงจริง ๆ หรือมาซาโอคุง”
“ใช่” เด็กหนุ่มในชุดนักเรียนมัธยมปลายสีดำ เงยหน้าขึ้นจากอาหารเที่ยงที่รับประทานอยู่ พยักหน้ารับ แทนคำตอบ จนปอยผมสีดำด้านหน้าตกลงมาปรกหน้าผาก “ทำไมเหรอ”
“ก็ไม่ทำไมหรอก” เพื่อนสนิทเอ่ยต่อไป “เพียงแต่ใครจะไปคิดว่า มาซาโอคุง พิตเชอร์ดาวเด่นของทีมเบสบอลโรงเรียนจะลงสมัครแข่งร้องเพลงประจำปีของโรงเรียนด้วย”
“แล้วมันแปลกตรงไหน” มาซาโอ ถามด้วยน้ำเสียงเคือง ๆ พลางจ้องมองคิโยชิ เพื่อนร่วมทีมตำแหน่งแคทเชอร์ตาเขม็ง
“ก็ตั้งแต่รู้จักกับนายมาหลายปี เราไม่เคยเห็นนายมีท่าทีจะชอบร้องเพลงเลยนี่หน่า”
มาซาโอ เพียงยักใหล่แทนคำตอบ และมองเลยใบหน้าของคิโยชิ ไปที่หญิงสาวเพื่อนร่วมห้องที่เพิ่งเดินเข้ามาใน
โรงอาหาร
“มายูมิ...” มาซาโอ ขานเรียก และยกมือขึ้นโบกไปมาเรียกความสนใจหญิงสาว ที่มีรอยยิ้มให้เขาในทันที
“เป็นไงบ้าง มาซาโอคุง คิโยชิคุง...” เธอเอ่ยทักอย่างอารมณ์ดีและเป็นกันเอง
“ไอ้เราน่ะสบายดี” แคทเชอร์ทีมโรงเรียนรีบเอ่ยขึ้น “แต่ท่าทางมาซาโอคุง มันจะไม่ค่อยสบายสักเท่าไหร่”
“อ้าว ทำไมละ” หญิงสาวถามด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกถึงความห่วงใย พลางค่อย ๆ ทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ยาว กลางห้องอาหารที่เต็มไปด้วยเพื่อนนักเรียน “เป็นอะไรมากหรือเปล่า”
“ก็มาซาโอ มันจะสมัครลงแข่งร้องเพลงประจำปีของโรงเรียนน่ะสิ” คิโยชิ เฉลย
“ฮา จริงหรือ” มายูมิ อุทานด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกถึงความแปลกใจ
“เห็นมั้ย ไม่ใช่เราคนเดียวเสียหน่อยที่ว่านายน่ะบ้าไปแล้ว”
“แต่การแข่งขันร้องเพลง มันจริงจังมากเลยนะ” หญิงสาวเอ่ยขึ้นเบา ๆ “ทุกคนที่ลงประกวดมีแต่เก่ง ๆ และเอาจริงเอาจังทั้งนั้น... และนี่ก็อีกแค่สองอาทิตย์จะแข่งขันแล้ว มาซาโอคุงจะเตรียมตัวทันเหรอ”
มายูมิ ทำท่าเหมือนจะพูดอะไรต่อไปอีก แต่เมื่อเห็นความเด็ดเดี่ยวในแววตาของพิทเชอร์หมายเลขหนึ่งของโรงเรียน เธอก็เงียบไป แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่
*************
ชายหนุ่มยืนนิ่งอยู่บนพิทเชอร์เพลทบนกองดิน จุดขว้างเบสบอล กลางสนาม
เขาจัดหมวกแก๊ปให้เข้าที่ สูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ และเพ่งมองไปที่คิโยชิ เพื่อนซี้ ซึ่งนั่งยอง ๆ อยู่หลังผู้ตีฝ่าย
ตรงข้าม ที่พยายามส่งสัญญาณมือให้กับเขาว่าต้องการให้ขว้างลูกแบบไหน
พิทเชอร์ดาวเด่นใช้มือขวาจับลูกอยู่ในมือซ้ายที่สวมโกรฟอยู่
มาซาโอ พยักหน้ารับเมื่อได้สัญญาณที่พอใจ
เสียงกองเชียร์จากข้างสนามเงียบกริบในจังหวะที่ มาซาโอ เอนตัวไปข้างหลังเล็กน้อยเพื่อรวมน้ำหนักไว้ที่เท้าหลัง ก่อนที่จะถ่ายน้ำหนักมาที่เท้าหน้า พร้อมยกขาซ้ายขึ้นสูงเลยเอวขึ้นไปนิดหนึ่ง บิดสะโพกหมุนลำตัว จนลำตัวตั้งฉากกับพื้น
ให้น้ำหนักมาตกที่เท้าขวา
ก่อนที่จะเริ่มถ่ายน้ำหนักไปข้างหน้า ด้วยการทิ้งสะโพกไปหาแคทเชอร์ และบิดส่วนขา สะโพก เอว และตามด้วยลำตัว ดึงแขนซ้ายมาช่วยเพิ่มแรง มือขวาที่กำลูกเบสบอลแน่นและเหนี่ยวไปอยู่ด้านหลังเริ่มเคลื่อน ไหวออกมาด้านหน้าในจังหวะที่
รวดเร็ว และปล่อยลูกเบสบอลสีขาวออกไปจากปลายนิ้วมือจากเหนือหัวใหล่
ลูกฟาสบอลพุ่งทะยานไปข้างหน้าด้วยความเร็วและแรง
สายตาของมาซาโอ จับจ้องอยู่ที่มิทท์สีน้ำตาลของคิโยชิ เพื่อนรัก
ก่อนที่จะเคลื่อนมามองฮิตเตอร์ของคู่แข่งที่กำลังตั้งท่า และเหวี่ยงไม้เบสบอลสุดแรงเกิด ด้วยความหวังจะหวดลูกพิทช์ของเขา
หัวใจของมาซาโอ เต้นแรงรัว ด้วยความตื่นเต้นและความลุ้นระทึก
“สไตรค์ทรี!”กรรมการในชุดดำ ตะโกนเสียงดัง และทำท่าบ่งบอกว่าคู่แข่งตีไม่ถูกลูก และลูกเบสบอลได้ไปอยู่ในมิทท์ของคิโยชิอย่างปลอดภัย
ทำให้มาซาโอ กระโดดสุดตัวด้วยความดีใจ
“ชนะแล้ว ๆ” คิโยชิ รีบลุกขึ้นยืนและวิ่งมาทางมาซาโอ ท่ามกลางเสียงโห่ร้องของเพื่อนร่วมทีมและกองเชียร์ “เจ๋งมาก เพื่อนเอ๋ย”
มาซาโอ โอบกอดกับเพื่อนร่วมทีมตัวกลม ตระหนักดีว่าชัยชนะในค่ำคืนนี้ ทำให้โอกาสในการเข้าไปแข่งขันทัวนาเมนต์ระดับประเทศของทีมโรงเรียนของเขาเริ่มมีความหวังขึ้นอีกครั้ง
*************
“เมื่อวานนี้ มาซาโอคุงพิทช์ได้ดีมากเลยนะ” มายูมิบอกด้วยน้ำเสียงชื่นชม ขณะเงยหน้าขึ้นมองดูนักกีฬาทีมโรงเรียนที่กำลังเดินกลับบ้านเคียงข้างเธอ
หญิงสาว รู้สึกตัวเองตัวเล็กลงถนัดตาเวลาที่อยู่เคียงข้างมาซาโอ เพราะเธอสูงเพียงแค่ไหล่ของเขา เท่านั้น เธอแอบมองดวงตาที่กลมโตสีน้ำตาลเข้มของชายหนุ่ม และรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก
มาซาโอหัวเราะเขิน ๆ
“เธอไปดูด้วยหรือ” เขาถาม
ทำให้หญิงสาวชักหน้าเบ้ในทันที
“เราก็ไปดูนายแข่งทุกครั้งนั่นแหละ” มายูมิเอ่ยด้วยน้ำเสียงน้อยใจในที
ทำเอาชายหนุ่มหัวเราะครื่นอย่างอารมณ์ดี
“เราแหย่เล่นหรอก”
มายูมิ ทำท่าดุอย่างทีเล่นทีจริง และแกล้งวิ่งหนีชายหนุ่มไปข้างหน้า
เธอปฏิเสธไม่ได้ว่า เธอมีความสุขมากเวลาที่ได้ใกล้ชิดกับมาซาโอคุง ที่เธอรู้จักมาตั้งแต่สมัยย้ายมาเข้าเรียนโรงเรียนแห่งนี้เมื่อช่วงมัธยมต้นพร้อม ๆ กัน และการที่บ้านอยู่ใกล้ ๆ กัน ก็ทำให้เขาเดินกลับบ้านเป็นเพื่อนเธอบ่อยครั้ง แม้ในช่วงเย็น
ที่เขาซ้อมเบสบอล เธอก็จะนั่งรอ เช่นเดียวกับที่เขานั่งรอเธอในวันที่เธอมีซ้อมไวโอลิน
แต่ความสนิทสนมระหว่างเขากับเธอ ก็ไม่เคยเกินเลยไปกว่าคำว่าเพื่อน
ไม่ว่าในใจเธอจะเรียกร้อง หรืออยากจะให้มันพัฒนาไปมากกว่านั้น มากแค่ไหนก็ตาม
แต่เขาก็ไม่เคยเอ่ย หรือมีทีท่าที่จะอยากเป็นแฟนกับเธอ
เธอจึงพึงพอใจกับการได้ใกล้ชิดกับเขาในฐานะเพื่อนสนิท
อย่างน้อย มันก็ดีกว่าการต้องแอบมองคนที่ตัวเองหลงรักจากระยะที่ห่างไกล
แต่เธอมักแอบสงสัยเสมอว่า มาซาโอ ที่อยู่ในสนามแข่งขันเบสบอล ซึ่งดูมีความเชื่อมั่นในตนเอง และเปี่ยมไปด้วยความเป็นผู้นำ เหมือนแทบจะเป็นคนละคนกับมาซาโอ ที่อยู่เคียงข้างเธอ ที่แม้จะดูมีความสุข แต่ก็พูดน้อย และมักดูเขอะเขิน
เก้ ๆ กัง ๆ
“นี่ เรายังไม่เห็นมาซาโอคุงไปซ้อมร้องเพลงบ้างเลยนะ” มายูมิ เอ่ยขึ้น เมื่อชายหนุ่มวิ่งตามมาทัน
แต่พิทเชอร์ดาวเด่นของโรงเรียนเพียงแค่ยักใหล่
“ตกลงนี่นายมั่นใจมาก หรือไม่ใส่ใจกับมันกันแน่” หญิงสาวซัก
แต่ก็ไม่ได้คำตอบอะไรมากไปกว่ารอยยิ้มที่จริงใจ
*************
เด็กหนุ่มเดินเข้าไปในห้องพักอาจารย์ และเดินมาหยุดที่โต๊ะของนาโอโกะเซ็นเซ ซึ่งอยู่มุมสุดด้านใน
เขาโค้งคำนับอาจารย์อย่างนอบน้อม
“เซ็นเซ เรียกให้ผมมาพบหรือครับ” มาซาโอเอ่ยถามเบา ๆ ด้วยความเกรงใจ ราวไม่อยากรบกวนอาจารย์ท่านอื่นที่นั่ง
พักผ่อน หรือนั่งตรวจงานอยู่
อาจารย์สาว เงยหน้าขึ้นมาจากกองโน๊ตเพลงที่อยู่บนโต๊ะทำงาน
“อ้อ มาซาโอ...”
ชายหนุ่มปรับร่างกายยืนตรงหน้าโต๊ะอาจารย์
“ฉันเห็นชื่อเธอ ลงสมัครแข่งร้องเพลงของโรงเรียนด้วย”
“ครับผม”
“...แต่ฉันยังไม่เห็นเธอเลือกเพลง หรือมาซ้อมร้องเพลงเลย” น้ำเสียงอาจารย์ต่อว่าในที
“ฉันรู้ว่าเธอเป็นนักเบสบอลดาวเด่นของโรงเรียน แต่ฉันก็อยากให้เธอรู้ด้วยว่า การแข่งขันร้องเพลงประจำปี มีความสำคัญกับฉันมาก” นาโอโกะเซ็นเซเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ฉันไม่อยากให้เธอเห็นว่ามันเป็นแค่เรื่องเล่น ๆ และหากว่าเธอจะไม่ทุ่มเท หรือจริงจังกับมัน ก็ขอให้เธอถอนชื่ออกไปซะ เพราะฉันไม่ต้องการให้ใครหน้าไหนมาทำให้การแข่งขันนี้กลายเป็นเรื่องตลก”
“ครับผม” มาซาโอ รับคำ และโค้งคำนับ “ผมจะไม่ทำให้เซ็นเซผิดหวังครับ” เขาให้ค่ำมั่นสัญญาอย่างเด็ดเดี่ยว
*************
“นาโอโกะเซ็นเซ ว่ายังไงบ้าง” คิโยชิ ซึ่งยืนรออยู่หน้าห้องรีบเดินเข้ามาถามไถ่สถานการณ์จากเพื่อนซี้ทันทีที่มาซาโอเดินออกมาจากห้องพักอาจารย์
“ก็ไม่ว่าไง บอกให้ฉันจริงจังกับการแข่งขันร้องเพลง หรือไม่ก็ถอนตัวออกไป” พิทเชอร์หนุ่มสรุปให้เพื่อนฟังด้วย
น้ำเสียงที่ราบเรียบ
“ก็สมควรอยู่หรอก นี่ก็จะประกวดอาทิตย์หน้าอยู่แล้ว ยังไม่เห็นนายไปซ้อมซักที”คิโยชิ ตำหนิพลางรีบเดินตาม
เพื่อนผ่านทางเดินของโรงเรียนที่แน่นขนัดไปด้วยนักเรียนที่กำลังเดินไปมา “นายก็รู้อยู่แล้วว่า นาโอโกะซ็นเซ ทุ่มเทกับการ
ประกวดนี้ขนาดไหน ตั้งแต่มาเป็นผู้ควบคุมการประกวด”
มาซาโอ พยักหน้ารับ
“เฮ้ย นายกำลังคิดอะไรกันแน่นะ” คิโยชิถามอย่างหัวเสีย
“เราอาจจะต้องขอความช่วยเหลือจากนาย” มาซาโอเอ่ยในที่สุด
“ขอความช่วยเหลือเรื่องอะไร” แคทเชอร์ทีมโรงเรียนเริ่มสงสัย และถามด้วยน้ำเสียงจริงจังขึ้นมา
“ไว้เดี๋ยวใกล้ ๆ แล้วเราจะบอก”
“บอกเลยไม่ได้หรือ” คิโยชิซักไซ้ “อยากรู้แล้วน่ะ”
“ไว้เดี๋ยวใกล้ ๆ แล้วเราจะบอก” มาซาโอ ย้ำ ก่อนที่จะเดินจากไป
“นายนี่ใจร้ายมาก... ปล่อยให้เราอยากรู้อย่างนี้ได้ยังไง” คิโยชิบ่นพึมพำ พลางคิดไปร้อยแปดพันเก้าว่าเพื่อนซี้ จะขอความช่วยเหลืออะไรจากเขา
*************
“เธอจะไปดูเราประกวดร้องเพลงได้มั้ย...” มาซาโอ เอ่ยถามมายูมิ อย่างเขิน ๆ ในเย็นวันหนึ่ง ด้วยน้ำเสียงเขิน ๆ จนหญิงสาวต้องรีบหันไปมองทางเจ้าของคำถามในทันที
“ได้สิ...” เธอตอบ “ถ้าหากมาซาโอคุง อยากให้เราไปดูนะ” เธอรีบเสริม
“อยากสิ” ชายหนุ่มกล่าว พลางมองไปเบื้องหน้า “แต่เรากลัวว่าเธอจะไปไม่ได้ เพราะวันนั้นเป็นวันเกิดของ...”
“เราจะไปดูนายประกวดร้องเพลง...” มายูมิตัดบท รับคำอย่างมาดมั่น
ชายหนุ่มพยักหน้ารับแทนคำขอบคุณ
*************
“ฮา ว่ายังไงนะ” คิโยชิอุทานเสียงหลงเมื่อได้ฟังคำขอร้องจากเพื่อน “นายจะให้ฉัน...”
“ใช่” มาซาโอ เอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“เอาไปให้...”
“ใช่”
“ที่หอประชุม ในระหว่างการประกวดนี่นะ”
“ใช่”
“นายจะบ้า และเหรอ” คิโยชิถามอย่างจริงจัง
“นายสัญญาแล้ว ว่าจะช่วยเรา”
“แต่เราไม่นึกว่า....” คิโยชิถอนหายใจเสียงดัง เมื่อรู้ตัวว่าเถียงมาซาโอต่อไปก็คงไม่เป็นผล
“แน่ใจนะ เพื่อน” เขาถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ ด้วยความหวังริบหรี่ว่ามาซาโอ อาจเปลี่ยนใจ
“เราไม่เคยแน่ใจอะไรเท่านี้มาก่อน” มาซาโอ อมยิ้มอย่างมีความสุข
*************
หอประชุมโรงเรียนแน่นขนัดไปด้วยนักเรียนมากมาย ทั้งที่มาชมการประกวดร้องเพลง และที่มาดูมาซาโอ พิทเชอร์ดาวเด่นของโรงเรียนที่ลงประกวดร้องเพลงเป็นครั้งแรก
และแม้ว่ามาซาโอจะผ่านการแข่งขันเบสบอลทั้งระดับโรงเรียน และระดับจังหวัดมานับครั้งไม่ถ้วน แต่เขาก็พบว่าตัวเองเดินวนไปมาอยู่ด้านหลังเวทีด้วยความกังวล และตื่นกลัว และเริ่มหวั่นใจกับการตัดสินใจในครั้งนี้
เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นจากกระเป๋ากางเกงของมาซาโอ ทำให้สายตาของผู้เข้าประกวดร้องเพลงคนอื่น ๆ หันมาจับจ้องอยู่ที่เขาเป็นจุดเดียว
ชายหนุ่มรีบล้วงมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาและกดรับสาย
“เฮ้ย มาซาโอคุง” เสียงที่คุ้นหูของคิโยชิดังขึ้น “ทุกอย่างเรียบร้องแล้วนะ ตามที่นายกำชับ เรานั่งอยู่แถวหน้าเลย”
“โอเค ขอบใจมาก” มาซาโอ เอ่ยอย่างโล่งอก “แล้วมายูมิจัง มามั้ย”
“มา ๆ” คิโยชิ บอก “นั่งอยู่ข้าง ๆ เรานี่แหละ”
“เฮ้ย” มาซาโอ อุทานด้วยความตกใจ และรู้สึกถึงหัวใจที่เต้นรัว
เสียงหัวเราะอย่างสะใจของคิโยชิดังกังวาลในลำโพงโทรศัพท์
“ล้อเล่น ๆ” คิโยชิ พยายามระงับเสียงหัวเราะ “มายูมิ นั่งอยู่แถวหน้าเหมือนกัน แต่กลาง ๆ หอประชุม เราเลยนั่งอยู่ปลายแถว”
“โอเค” มาซาโอ ถอนหายใจ “ขอบใจมากเพื่อน เดี๋ยวเจอกัน”
พิทเชอร์หนุ่มทีมโรงเรียนกดปุ่มปิดเครื่องโทรศัพท์มือถือ และกลืนน้ำลายลงคอเสียงดัง
เขาพยายามควบคุมความตื่นเต้น แต่รู้สึกราวหัวใจเต้นเสียงดังพอ ๆ กับเสียงกลองสงคราม
แต่ไท่ทันที่จะเรียกสติกลับมา ก็รู้สึกหวาดหวั่นขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อหันมาพบว่า เพื่อนนักเรียนที่ควบคุมเวที เดินมาเรียกผู้ประกวดร้องเพลงคนแรกให้เตรียมตัวไปขึ้นเวทีได้แล้ว
ความกดดันของการรอคอยแทบทำให้ชายหนุ่มคลั่ง เขาจึงเดินไปนั่งลงที่เก้าอี้พับที่มุมห้อง และนึกภาพตัวเองกำลังยืนอยู่บนพิทเชอร์เพลทบนกองดิน กลางสนามเบสบอล พร้อมที่จะพิทช์ลูกเบสบอลในการแข่งขัน
แล้วเขาก็ได้ยินเสียงใส ๆ หรือทุ้ม ๆ ของนักร้องคนแล้วคนเล่าแว่วกังวาลมาจากด้านหน้าเวที ตามด้วยเสียงปรบมือที่ดังสนั่นจากนักเรียนและอาจารย์ที่ชมการประกวดอยู่ แต่ละคนร้องเพลงกันได้อย่างดีเยี่ยมจริง ๆ และยิ่งทำให้มาซาโอตื่นเต้นและหวาดกลัว
“นายต้องเข้มแข็ง” เขาบอกกับตัวเอง “นายตัดสินใจแล้ว นายต้องทำให้ได้”
แต่ไม่ทันที่เขาจะสงบสติตัวเอง ผู้คุมเวทีก็ยื่นหน้ามาเข้ามาและกวักมือส่งสัญญาณเรียกเขา “มาซาโอคุง... ถึงตานายแล้ว”
มาซาโอ พยักหน้ารับ เขาสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ และดันตัวเองลุกขึ้นยืน
ก่อนที่จะก้าวเดินไปข้างหน้าช้า ๆ
และจินตนาการเห็นแผ่นไม้บนพื้นหลังเวที เป็นสนามหญ้าของสนามเบสบอลที่เขาคุ้นเคย
เขามาหยุดยืนอยู่ด้านหลังผ้าม่านผืนใหญ่ที่กั้นด้านหน้าและด้านหลังเวทีไว้ เพื่อรอจังหวะจากผู้คุมเวที
เสียงปรบมือดังสนั่นขึ้นอีกครั้ง เป็นกำลังใจให้กับผู้ประกวดที่เพิ่งจะร้องเพลงจบลงไป
“โอเค มาซาโอคุง พร้อมนะ”
เขาได้ยินเสียงผู้ดำเนินรายการ ประกาศชื่อของเขา กับบทเพลงที่เขาเลือกไว้
และเมื่อผู้ประกวดก่อนหน้าเขาเดินกลับเข้ามา เขาจึงแหวกผ้าม่านและเดินขึ้นเวทีไป
แสงสปอตไลท์ที่สาดส่องมาที่เขาทำให้เขาหยุดชะงักอยู่กลางเวทีครู่หนึ่ง และทำให้เขาแทบมองไม่เห็นว่าผู้ชมการประกวดมีมากมายขนาดไหน
และคิโยชิ หรือมายูมิ นั่งกันอยู่ตรงไหน
เขาเห็นเพียงไมโครโฟนที่พักอยู่บนเสา ที่ตั้งเด่นตระหง่านอยู่กลางเวที
เขารวบรวมสติ มือขวาขยับไปมาเหมือนกำลังคลึงลูกเบสบอลล่องหน
และเดินผ่านวงดนตรี ที่มีนักดนตรีโรงเรียนยืนประจำที่อยู่ ทั้งมือกีตาร์ มือกลอง มือคีย์บอร์ด
ก่อนที่จะวกเดินกลับไปหามือกีตาร์ ผู้เป็นหัวหน้าวง และกระซิบกระซาบอะไรบางอย่าง ซึ่งทำให้มือกีตาร์มีสีหน้าสับสน
“ขอร้องนะ” มาซาโอโค้งแทนคำขอบคุณ และเดินมุ่งหน้าไปยังไมโครโฟนด้วยความมั่นใจขึ้น
แม้จะไม่สามารถเห็นได้ถนัดตา แต่เขาก็รู้สึกถึงสายตาทุกคู่ในห้องประชุมใหญ่นั้น ที่มาจับจ้องอยู่ที่เขาเป็นจุดเดียว
ทุกอย่างเงียบสงัด
เขากวาดสายตาไปยังที่นั่งแถวหน้า มองหาคิโยชิ...
และมายูมิ
และเขาก็เห็นเธอนั่งอยู่ตรงแถวหน้า บริเวณกลางหอประชุมอย่างที่คิโยชิบอกจริง ๆ และแม้ในความมืดมิดของหอประชุม เขาก็ยังเห็นแสงสว่างจากแววตาของเธอ ซึ่งเจิดจรัสและทำให้เขาอุ่นใจเหมือนดาวเหนือที่ให้ทิศทางกับนักเดินเรือ
ชายหนุ่มสูดลมหายใจเข้าปอด ก่อนที่จะเอ่ยปากร้องเพลงออกมาจากหัวใจ
“แฮปปี เบิร์ทเดย์ทูยู
แฮปปี เบิร์ทเดย์ทูยู
แฮปปี เบิร์ทเดย์ เดียมายูมิ
แฮปปี้ เบิร์ทเดย์ ทูยู”
มาซาโอ ยืนนิ่งอยู่บนเวที
“โอทันโจบิ โอเมเดโต มายูมิจัง”
ทั้งหอประชุมยังเงียบกริบอยู่ ราวไม่ทันตั้งตัว
และทันใดนั้นมาซาโอก็กึ่งวิ่งกึ่งเดินลงมาข้างเวที มุ่งหน้าไปยังคิโยชิ ที่ดันตัวเองลุกขึ้นยืน และยื่นบางสิ่งบางอย่างมาให้กับเขา อย่างรู้คิว
มาซาโอ รับของที่ได้รับมอบจากคิโยชิมาถือในมือแล้วเดินช้า ๆ มาหยุดอยู่ตรงหน้ามายูมิ
สีแดงสดของกลีบดอกกุหลาบดอกเดียวที่ตัดกับความมืดมิด ถูกมาซาโอ ยื่นมอบให้กับหญิงสาวที่นั่งนิ่งอยู่เบื้องหน้า เหมือนยังอยู่ในความตกใจ
“สุขสันต์วันเกิดนะจ๊ะ มายูมิจัง” พิทเชอร์ดาวเด่นของโรงเรียนเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น แต่ซ่อนเล้นด้วยความ
เขอะเขิน
มายูมิ ค่อย ๆ ดันตัวเองลุกขึ้นยืน และรับดอกกุหลาบของมาซาโอ มาถือไว้ในมือ โค้งรับด้วยความขอบคุณ
และในจังหวะนั้น พวกเขาได้ยินเสียงปรบมืออันโดดเดี่ยวที่ดังขึ้นมาจากปลายแถว
และหันไปเห็นคิโยชิยืนปรบมือยู่
ก่อนที่เสียงปรบมือจะค่อย ๆ ดังขึ้น ทีละน้อย ๆ จนกระทั่งทุกคนในหอประชุมนั้น ปรบมือพร้อมกันจนดังสนั่น
มาซาโอ อมยิ้ม พลางหันไปมองทางอาจารย์นาโอโกะ ที่นั่งอยู่แถวหน้าเช่นกัน
ชายหนุ่มโค้งให้อาจารย์แทนคำขอโทษ แต่เมื่อเงยหน้ากลับขึ้นมาพบรอยยิ้มบนใบหน้าของอาจารย์ เขาก็พอโล่งใจว่า อาจารย์ไม่ถือโทษโกรธเขาแล้ว
“ขอให้มายูมิจัง มีความสุขมาก ๆ และสมปรารถนาทุกประการนะ” มาซาโอ กระซิบ พลางยกมือขึ้นโบกให้เพื่อน ๆ ร่วมโรงเรียน แทนคำขอบคุณ
“ขอบคุณมากจ๊ะ มาซาโอคุง” หญิงสาวกล่าวด้วยความตื้นตันใจ “ความปรารถนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเรา
เป็นจริงแล้ว...” เธอยิ้มอย่างมีความสุข
ท่ามกลางเสียงเพลง แฮปปี เบิร์ทเดย์ จากเพื่อนร่วมโรงเรียนที่ดังสนั่นขึ้นอีกครั้ง
“...โอทันโจบิ โอเมเดโต มายูมิจัง”
***********
ผลงานอื่นๆ ของ ซามูไร พ่อลูกอ่อน ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ซามูไร พ่อลูกอ่อน
ความคิดเห็น