ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Elements Crystal คริสตัลเอกภาพปราบอธรรม(รับสมัคร)

    ลำดับตอนที่ #3 : บทนำ

    • อัปเดตล่าสุด 12 มี.ค. 57


    quality

    ซ่า....ซ่า....

    เสียงฝนตกกระทบกับหลังคาวัดบนเชิงเขงเขาทำลายความสงบของหญิงสาวผู้ที่กำลังกวาดลานวัดจนทำให้เธออดที่จะบ่นไม่ได้

    “ตกอีกแล้วหรอ...เจ็ดวันติดแล้วนะ...อย่างนี้พืชผักของเหล่าชาวบ้านก็เหี่ยวเฉากันหมดน่ะสิ...

    เธอส่ายหน้าพลางเก็บไม้กวาดและเข้าไปหลบฝนในวัด

    -แกร๊กๆ-
     

    “คัลเลอร์ อยู่มั๊ย? เปิดประตูให้ผมเข้าไปหน่อยสิ...”เสียงทุ้มนุ่มหูของชายคนหนึ่งดังขึ้นหน้าประตู

    ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากนักปราชญ์เจ้าของวัดหลังนี้นี่เอง
     

    “ค่ะ...ทำไมท่านไม่หัดพกกุญแจซะบ้างละคะ?”คัลเลอร์เดินไปเปิดประตูให้แก่เจ้าของวัดด้วยสีหน้าเอือมเล็กน้อย

    “ฮะๆ ผมจะได้คอยใช้ให้สาวน้อยน่ารักอย่างเธอมาเปิดประตูให้ผมยังไงล่ะ”นักปราชญ์พูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้มพลางลูบหัวคัลเลอร์ ศิษย์ของเขาอย่างเอ็นดู

    “ไม่ตลกนะคะ ว่าแต่วันนี้ที่หมู่บ้านเป็นอย่างไรบ้างคะ?”เธอถามนักปราชญ์พลางหยิบผ้าขนหนูมาเพื่อให้เขาได้เช็ดตัวจากฝนที่เปรอะเปื้อนไปทั่วร่างกาย

     

    “แย่หน่อยนะ....วันนี้ไม่มีใครใส่บาตรเลย เพราะอาหารไม่พอน่ะ ฝนตกทุกวันแบบนี้ทำให้เหล่าพ่อค้าแม่ค้าไม่ทำธุรกิจกัน พวกขโมยพอฝนตกก็พากันมาแย่งพืชผลการเกษตรไปกันหมดเลย ไร่ที่ไม่โดนพวกขโมยก็มีนะ แต่มันเหี่ยวเฉากินไม่ได้เพราะชุ่มน้ำมากเกินไป”

    “แย่จัง...ทำไมธรรมชาติถึงได้ทารุณอย่างนี้ พวกคนชั่วก็เพิ่มมากขึ้นทุกที”คัลเลอร์พูดพลางถอนหายใจ

    “รู้มั๊ยเป็นเพราะใคร....บอสไงล่ะ”สายตาของนักปราชญ์หรี่ลงเล็กน้อย แววตาเปลี่ยนไป จากที่ก่อนหน้านี้เป็นชายหนุ่มผู้ใจดี ตอนนี้ได้เปลี่ยนเป็นคนที่สุขุมและจริงจังทันที

    “ใครคะ???”คัลเลอร์เอียงคออย่างสงสัย เธอคงยังไม่ได้รู้เรื่องนี้เลยสินะ แน่นอน เธอเพิ่งเกิดได้เพียง 7 วันเองนี่นา... นักปราชญ์มองคัลเลอร์ด้วยแววตาที่เปี่ยมไปด้วยความอ่อนโยน

    “รู้มั๊ยว่าเธอเกิดมาได้ยังไง”เขามองคัลเลอร์พลางถามคำถามที่แม้แต่คัลเลอร์เองก็ยังต้องสงสัย

    “คุณเก็บฉันมาเลี้ยงจาก...เอ่อ...ใต้ต้นไทรยักษ์ในเขตวัด?”คัลเลอร์ทำท่าคิดเล็กน้อยก่อนตอบ

    “ใช่ แล้วเธออายุเท่าไร?”

    “เอ่อ...15 ปี???”

    “ใช่ แล้วรู้หรือไม่ว่าเธอเพิ่งเกิดมาได้แค่ 7 วันเอง”

    “ทราบค่ะ...และนั่นคือสิ่งที่ฉันสงสัยมาตลอด 7 วันที่ฉันได้เกิดมา แล้วคุณก็ไม่ยอมบอกฉันเลยว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น คุณบอกว่าจะบอกฉันเมื่อถึงเวลาอันสมควร แต่เมื่อไรล่ะคะ อีกนานแค่ไหน? คุณไม่บอกอะไรฉันเลยนอกจากสอนเวทย์มนต์เล็กๆน้อยให้ฉัน แล้วตอนนี้คุณก็ไม่ยอมบอกว่าบอสคือใคร แล้วฉันคือใคร!?!”เธอเริ่มขึ้นเสียง หน้าแดงด้วยอารมณ์ที่หงุดหงิดเต็มที แม้จะเกิดมาได้เพียง 7 วัน แต่สติปัญญาของเธอนั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าเด็ก 15 ปีทั่วไปเลย เผลอๆอาจจะสูงกว่าด้วยซ้ำ!

     

    “ฮะๆ เอาล่ะสาวน้อย อย่าเพิ่งฉุนเฉียว ผมว่ามันคงถึงเวลาแล้วล่ะ งั้นผมจะบอกคุณตอนนี้เลยละกันนะ^_^”นักปราชญ์ยิ้ม

    “...”คัลเลอร์เงียบไป เธอมองนักปราชญ์ด้วยความสนใจขณะที่เขาหยิบผงสีน้ำตาลขุ่นๆขึ้นมาจากย่ามของเขา
     

    “โลกทุกวันนี้ เต็มไปด้วยสิ่งชั่วร้ายและเหล่าอธรรมมากมาย ฝนที่ตกไม่หยุด พายุพัดกระหน่ำทางตอนใต้ ทะเลทรายร้อนระอุเดือดดาล นั่นเป็นเพราะเขา...ผู้นำเหล่าจิตวิญญาณมืด ผู้ที่บังคับและบัญชาการเหล่ามารร้ายทั้งปวง...บอส”นักปราชญ์ท่องอะไรสักอย่าง ก่อนจะโยนผงสีน้ำตาลขุ่นๆขึ้นไปบนอากาศ ผงสีน้ำตาลนั้นลอยไปในอากาศ วกวนไปมา ก่อนจะมารวมกันเป็นภาพของชายหนุ่มผมสีดำที่ใส่หน้ากากสีเทา นั่นน่ะหรอ...บอส?

    “ณ ตอนนี้เขาคือราชาแห่งเหล่าร้ายและต้องการให้โลกทั้งใบเต็มไปด้วยสิ่งชั่วร้าย”

    “ปล่อยให้เขาทำอย่างนั้นไม่ได้นะคะ! ต้องมีใครซักคนหยุดเขา!”คัลเลอร์ขัดขึ้นมา เสียงเธอเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง
     

    “ทำไม่ได้หรอก ไม่มีใครรู้ว่าบอสอาศัยอยู่ที่ไหน”

    “งั้นเราก็ต้องค้นหา! รวบรวมคน ชาวบ้าน ทหาร ใครก็ได้ไปค้นหาและกำจัดเขา!!!

    “ใจเย็นๆก่อนแม่หนู เธอไม่อยากรู้ก่อนหรอว่าเธอเป็นใคร...”นักปราชญ์พูดเบาๆ แต่นั่นก็มากพอที่จะสงบอารมณ์เกรี้ยวกราดของคัลเลอร์ได้

     

    “ในวันที่ 9 เดือนที่ 9 ชะตาลิขิตให้ผู้วิเศษทั้ง 9 กำเนิดขึ้นมาเพื่อที่จะหยุดเขา”

    7 วันที่แล้วที่ฉันเกิด...”คัลเลอร์พึมพำเบาๆ

    “ดิน น้ำ ลม ไฟ ไม้ มืด แสง ไฟฟ้า และผู้รวบรวม พวกเขาทุกคนเกิดพร้อมกัน แต่กระจายไปคนละที่ทั่วโลก 1 ในนั้นเกิดที่ใต้ต้นไทรยักษ์หน้าวัดของผมล่ะ”นักปราชญ์โยนผงสีขึ้นไปบนอากาศอีกปรากฏเป็นภาพของหญิงสาววัย 15 ปีที่หลับไหลอยู่ใต้ต้นไทรของวัดที่ดูคุ้นตา บนใบหน้าของเด็กสาวที่หลับไหลอยู่มีเรือนผมสีขาวสนิท ไม่มีสีใดปนเปื้อนอยู่เลย คลุมด้วยผ้าหนาๆสีสันหลากหลายเพียงผืนเดียว

     

    “....”
    คัลเลอร์เงียบไป พยายามเรียบเรียงเหตุการณ์ จะบอกว่าเธอคือ
    1 ในผู้วิเศษทั้ง 9 อย่างนั้นหรือ?

    “ผมเก็บเธอขึ้นมาดูแลในวัด หาเสื้อผ้าและอาหารให้ เรือนผมสีขาวของเธอ...ผมไม่เคยเห็นผมสีขาวของใครงดงามขนาดนี้มาก่อน มันควรจะถูกแต้มไปด้วยสีสันนะ...นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมเธอถึงชื่อว่า คัลเลอร์...”  นักปราชญ์ใช้มือใหญ่ลูบเส้นผมของคัลเลอร์ไปมาด้วยความหลงใหล

    “ฉะ...ฉันเนี่ยนะผู้วิเศษ??? ต..แต่...ฉันไม่เห็นใช้เวทย์มนต์อะไรได้เลย...”เธอก้มหน้า ไม่พยายามสนใจฝ่ามือของนักปราชญ์ที่เล่นผมเธอไปมา
     

    “แต่เธอก็ควบคุม ครอฟได้นี่ จิตวิญญาณบริสุทธ์ตามธรรมชาติที่ยากจะควบคุมเลยนะ”

    “แต่นั่นคุณสอนฉันนี่ ฉันไม่ได้ใช้มันเป็นด้วยตัวเองนะคะ!”คัลเลอร์แย้ง

    “เป็นกันทุกคนแหละแม่หนู อีก 8 คนก็เป็นเหมือนเธอ พวกเขาไม่สามารถบังคับหรือใช้เวทย์มนต์เฉพาะตัวได้คล่องจนกว่าพวกเขาจะรู้ตัวตนที่แท้จริงของพวกเขา...”

    “หมายความว่าไงคะ?”คัลเลอร์มองหน้านักปราชญ์ เต็มไปด้วยความสงสัย

    “หมายความว่า พวกเขายังไม่รู้ถึงหน้าที่ที่พวกเขาเกิดมา และเธอจะต้องเป็นคนทำให้พวกเขาได้ตระหนักถึงหน้าที่ของพวกเขา”

    “แล้วยังไงต่อคะ??”

    “ออกเดินทางตามหาพวกเขา ทำให้พวกเขาทราบถึงตัวตนที่แท้จริง และเมื่อ 8 รวมเป็น 1’ บอสจะปรากฏขึ้น จงใช้สิ่งที่เธอได้เรียนรู้มากำจัดเขา”

    “งั้นเราจะออกเดินทางตามหาพวกเขาพรุ่งนี้เลย!

    “ไม่ง่ายอย่างงั้นหรอกนะครับ”นักปราชญ์แย้ง

    “หา???
     

    “ผมไม่ได้บอกเธอหรอว่าผู้วิเศษทั้ง 8 ไม่ต่างอะไรเลยจากเด็กวัย 15 ปีธรรมดาๆ ที่ใช้เวทย์มนต์ได้แค่เพียงการลากเส้นไปตามเส้นประเพียงเท่านั้น”

    “เอิ่ม...แล้วฉันจะรู้ได้ยังไงล่ะคะว่าใครเป็นผู้วิเศษที่แท้จริง...”

    “โป๊ะเช๊ะ!! นั่นล่ะประเด็น สิ่งที่เธอต้องการคือสิ่งนี้”แล้วเขาก็เดินไปหยิบกล้องขนาดเล็กใต้หีบบริจาคของวัดมาก่อนจะยื่นให้คัลเลอร์

    “คริสตัลสีรุ้ง???” เธอหยิบมันขึ้นมา พิจารณาถึงรูปร่างของมัน ลักษณะของมันเป็นเหมือนลูกแก้วสีรุ้งขนาดใหญ่ที่ไม่เบาหรือหนักเกินไป

     

    “มันคือคริสตัลที่ฉันสร้างจากครอฟน่ะ จิตวิญญาณบริสุทธิ์ย่อมรู้ว่าใครคือใคร มันจะช่วยบอกเธอว่าใครคือผู้วิเศษอีก 8 คนที่เหลือ พวกเขาแต่ละคนมีธาตุเฉพาะตัว จงใช้สิ่งนั้นตามหาพวกเขา”

    “เข้าใจละค่ะ...นี่สินะเหตุผลที่ฉันเกิดมา...”เธอยิ้ม เก็บลูกแก้วไว้ในกระเป๋าส่วนตัวของเธอ

    “พรุ่งนี้เราจะออกเดินทางกันตกลงมั๊ย? ฉะนั้น คืนนี้เธอควรหลับได้แล้วนะ ”
     

    “แน่นอนค่ะ...เราจะต้องเดินทางให้เร็วที่สุด หวังว่าอะไรๆจะง่ายอย่างที่ฉันคิดไว้นะ...”

    แล้วทั้งสองก็เข้านอน เตรียมพร้อมสู่การเดินทางครั้งยิ่งใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้น....

     

    เช้าวันต่อมา....

    คัลเลอร์ลืมตาขึ้นมา แสงอาทิตย์สาดส่องลอดผ่านหน้าต่างบนหลังคาเข้ามา มันเผยให้เห็นว่าในวัด ทุกสิ่งทุกอย่างกระจัดกระจาย หิ้งพระที่ตั้งอยู่ล้มระเนระนาด ผ้าม่านฉีกขาด ประตูวัดเปิดอ้าๆทั้งๆที่คัลเลอร์แน่ใจแล้วว่าเธอล็อกไว้แล้ว

    “กะ...เกิดอะไรขึ้น....ท่านนักปราชญ์!!!”เมื่อเธอคิดได้ดังนั้นจึงรีบวิ่งไปยังห้องของนักปราชญ์ซึ่งตอนนี้ ห้องเขาไม่ต่างอะไรเลยกับห้องของพวกที่โดนขโมยบุก ข้าวของกระจัดกระจาย

    มีรอยมีดและของมีคมเต็มห้อง และ....นักปราชญ์หายไป....

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×