ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ทะลุฟ้า ป่วนยุทธภพ (สถานะ จบไตรภาคแรก)

    ลำดับตอนที่ #7 : ไล่ล่า

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 30.62K
      1.37K
      6 ม.ค. 61

    ในเงามืดห่างจากแก๊งลูกไก่ไปเล็กน้อย  ยี่ฟงเร้นกายเฝ้าสังเกตการณ์เพื่อรอโอกาสในการชิงทรัพย์  เขาส่งเสียง หึ เมื่อได้ยินดาบโลกันต์ประกาศกร้าว      ทว่าในตอนนี้พวกมันทั้งห้าจำต้องฝืนร่างกายอันบอบช้ำลุกขึ้นยืนเนื่องจากความตายกำลังคืบคลานใกล้เข้ามาทุกที ๆ แล้ว      เหตุผลที่ยี่ฟงไม่ลงมือสังหารแก๊งลูกไก่อย่างเด็ดขาดแต่เลือกที่จะสร้างสถานการณ์เฉกเช่นในตอนนี้ขึ้นมาแทนก็เพราะต้องการจะให้พวกมันได้จดจำช่วงเวลาอันเลวร้ายเอาไว้

    หากดาบโลกันต์กับสมุนไม่ยอมแพ้และยังคิดจะไล่ล่าเขาอีก    จิตใต้สำนึกของพวกมันก็จะคอยย้ำเตือนว่าท้ายที่สุดแล้วผลลัพธ์มันเคยจบลงอย่างไร

    อีกประการหนึ่ง  ภายใต้ความกดดันเช่นนี้จะช่วยผลักดันให้แก๊งลูกไก่แตกหักกันรวดเร็วมากกว่าที่ควรจะเป็น

    เฮ้ย!  รอฉันด้วยสิโว้ย”  ดาบโลกันต์ตะโกนเรียกเหล่าสมุน  ก่อนหน้านี้ตัวมันตายมาครั้งหนึ่งแล้ว        เลเวลจึงน้อยกว่าสมุนทุกคนในปกครองเสียอีก

    ช้าไม่ได้หรอกหัวหน้า  สัตว์อสูรฝูงใหญ่มันไล่มาถึงแล้ว!

    คำตอบที่ได้รับกลับมาทำให้ใบหน้าของดาบโลกันต์แดงก่ำอย่างโกรธเคือง       ไม่นานตัวมันก็ถูกทิ้งไว้เบื้องหลังก่อนจะปรากฏเงาร่างนับไม่ถ้วนกระโจนเข้าใส่จากทุกทิศทาง     ดาบโลกันต์ทราบในทันทีว่ามันไม่มีทางรอดแน่นอนแล้ว

    ไอ้พวก…!  เสียงของดาบโลกันต์ขาดหายไปเสียก่อนจะได้สบถคำสุดท้ายออกมา

    สัตว์อสูรที่โถมมาเรื่อย ๆ พากันไล่ล่าเหยื่อที่เหลือรอดอย่างต่อเนื่อง     เลือดที่เปรอะอยู่ตามร่างของเหยื่อคล้ายเป็นดั่งตัวชี้เป้า   พริบตาก็บังเกิดเสียงร้องโหยหวนจากเพลเยอร์กลุ่มสุดท้ายขึ้นมาเป็นการบอกกล่าวให้ยี่ฟงทราบว่าไม่มีผู้รอดชีวิตจากเซอร์ไววัลเกมแม้แต่คนเดียว

    ทางสะดวก  ฮ่า ฮ่า

    ยี่ฟงเผยตัวจากที่ซ่อนและทะยานร่างกลับไปยังจุดที่เขาได้ปะทะกับแก๊งลูกไก่อีกครั้ง            บนพื้นยังคงปรากฏศัสตราที่ศัตรูเผลอทำหล่นเอาไว้อยู่เช่นเดิม  แม้ไอเทมจะร่วงหล่นจากตัวเพลเยอร์แล้วก็ตาม        ทว่าคนอื่นก็ยังไม่มีสิทธิ์ครอบครองจนกว่าเจ้าของมันจะพลาดตายเสียก่อน     แน่นอนว่ากระบี่ทั้งสาม หนึ่งหอก และสุดท้ายคือดาบอีกหนึ่งเล่มได้ตกเป็นของยี่ฟงแต่เพียงผู้เดียว

    กระบี่คลาส D!  มีของดีเหมือนกันนี่หว่า

    ยี่ฟงกล่าวพลางเก็บศัสตราคลาส E และ F ที่เหลือซึ่งไม่ต่างจากขยะลงในช่องเก็บของ   ส่วนกระบี่คลาส D เขาย่อมไม่พลาดที่จะนำมันมาใช้แก้ขัดไปก่อน

    ลุงจะนำหน้าไปไกลเท่าไรแล้วเนี่ย  เอาวะ  ได้โอกาสทดสอบพลังกายของตัวเองจริง ๆ ดูสักครั้งก็ดีเหมือนกัน

    ชายหนุ่มสะบัดศีรษะและข้อเท้าคล้ายกำลังเตรียมตัว     จากนั้นเขาจึงถีบเท้าส่งร่างพุ่งทะยานออกไปด้านหน้าสุดแรงเป็นครั้งแรก  การเคลื่อนที่ของยี่ฟงราวกับนกที่ถลาเรียดผิวน้ำ       ทุกก้าวที่ดีดออกล้วนทำให้ร่างของเขาลอยเหนือพื้นไปได้ครู่หนึ่งเลยทีเดียว  ไม่ถึงสองนาทีชายหนุ่มก็กลับเข้าสู่เส้นทางสัญจรหลักอีกครั้ง    พอไม่มีต้นไม้ขวางหน้าเหมือนตอนอยู่ในป่ายิ่งส่งให้ยี่ฟงเคลื่อนที่ได้รวดเร็วมากขึ้นกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด

    สุดยอดเลยโว้ย!  นี่แค่วิชาตัวเบาขั้นพื้นฐานเองนะเนี่ย

    ยี่ฟงกล่าวอย่างลิงโลด   ชั่วครู่เดียวเขาก็ตัดสินใจบางสิ่งได้

    คัมภีร์วิชาตัวเบา  ฉันจะต้องได้มันมาเพิ่มความเทพของตัวเองให้มากขึ้นอีก     นี่ฉันจะบินได้เลยรึเปล่าวะเนี่ย  ฮ่า ฮ่า ฮ่า

    ขณะกำลังเพ้อฝันกับตัวเอง  ยี่ฟงก็ถูกสัตว์อสูรตามทางพุ่งเข้าโจมตีเป็นระยะ      แต่ไม่มีตัวใดสามารถขัดขวางหรือรั้งเขาเอาไว้ได้เลย   ทุกอย่างภายในเขตจงหยางแห่งนี้อ่อนแอเกินไปสำหรับยี่ฟงที่แม้จะเป็นเพียงยอดฝีมือระดับต่ำก็ตาม

     

    ทางด้านของมังกรเฒ่า  เนื่องจากเส้นทางที่ผ่านมายังไม่ปรากฏพื้นที่ซึ่งเหมาะแก่การตั้งแคมป์พักแรม   เขาจึงต้องเดินทางต่อไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะมั่นใจถึงความปลอดภัยของตัวเอง         สำหรับเพลเยอร์ที่คิดจะพักแรมกลางป่ากลางเขาล้วนแต่ต้องคำนึงและท่องให้ขึ้นใจอยู่เสมอว่าพวกเขามีโอกาสที่จะถูกสัตว์อสูรบุกโจมตีแคมป์ที่พักได้   การเลือกสถานที่พักแรมจึงต้องให้มีความเสี่ยงน้อยที่สุดเข้าไว้

    ขืนยังเดินต่อไปมีหวังยี่ฟงมันตามมาไม่ทันแน่  ข้าคงต้องหยุดรอมันอยู่แถวนี้ไปสักพัก  มังกรเฒ่าคิดในใจ

    เมื่อตัดสินใจได้แล้วเขาจึงเลี้ยวเข้าไปนั่งพักพิงใต้ต้นไม้ข้างทางพร้อมกับนำขวดน้ำออกมาดื่ม     แต่ในจังหวะที่ชายแก่ผ่อนคลายและลดการป้องกันตัวลงก็พลันได้ยินเสียงพุ่มไม้ด้านขวาขยับไหว        เขาเร่งดีดร่างลุกขึ้นยืนอย่างตกใจพลางเพ่งสายตามองไปยังพุ่มไม้ที่ว่า

    ตัวอะไรวะ”  มังกรเฒ่าเอ่ยเสียงเบา

    หลังจากพินิจอยู่นานก็ยังไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น  ชายแก่จึงคิดว่าตนกังวลมากไปเอง      แต่พริบตาที่เขาทำท่าจะหันกลับไปเจ้านักล่าที่เฝ้ารอจังหวะสังหารก็กระโจนเข้าใส่พร้อมเสียงขู่คำราม               คมเขี้ยวแหลมสะท้อนแสงจันทร์  ร่างกายทุกส่วนของมันปกคลุมไปด้วยขนสีดำจนกลืนไปกับเงามืดในยามราตรี

    มังกรเฒ่าสะดุ้งโหยงได้แต่ยกแขนทั้งสองขึ้นปัดป้องเอาไว้ตามสัญชาตญาณ  คมเขี้ยวจากนักล่าจึงฝังลงที่แขนของเขาอย่างแรงก่อนมันจะพยายามสะบัดศีรษะไปมาเพื่อกระชากเหยื่อให้ล้มลงกับพื้น          หลังจากมันเผยตัวเข้าจู่โจมระบบจึงค่อยรายงานสถานะให้ทราบ

    สัตว์อสูรเสือดำเลเวล 22 โจมตี

    อ๊ากกก!  ซวยฉิบหายเลยโว้ย

    มังกรเฒ่าส่งเสียงร้องขณะยื้อยุดกับเจ้าเสือดำอย่างไม่ยอมแพ้  กระทั่งเขาชำเลืองเห็นต้นไม้ใกล้ตัวจึงฝืนเหวี่ยงแขนส่งร่างของเสือดำกระแทกเข้ากับลำต้นไม้จนมันยอมคลายออก    ส่วนมังกรเฒ่าเสียหลักจนต้องตะเกียกตะกายทิ้งระยะห่างออกไป  จังหวะเดียวกับที่เสือดำกวดฝีเท้าตรงเข้าหาอย่างต่อเนื่องส่งให้ชายแก่ต้องรีบนำกระบี่คู่กายขึ้นมาเพื่อปลดปล่อยวิชายุทธ์โจมตีสวนกลับไป

    เพลงกระบี่ใบไม้ไหว!

    สิ้นเสียงก็บังเกิดคลื่นลมพัดพลิ้วดูดใบไม้ตามพื้นขึ้นมาอัดแน่นรวมกันอย่างว่องไว  เมื่อมังกรเฒ่าทิ่มแทงกระบี่ใส่มวลอากาศจึงส่งผลให้กองใบไม้ทะยานเข้าหาเป้าหมายเบื้องหน้า     เสือดำเมินเฉยต่อวิชายุทธ์ที่ไม่ต่างอะไรจากปาหี่ด้วยการกระโจนเข้าปะทะอย่างไม่กลัวเกรง        ทว่าร่างของมันกลับถูกเชือดเฉือนทันทีเมื่อสัมผัสกองใบไม้ที่ถูกชักนำโดยสายลมหอบหนึ่ง     แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นเพียงเป็นรอยแผลยิบย่อยซึ่งไม่ได้สร้างความลำบากใด ๆ ให้แก่นักล่าเลเวล 22 แม้แต่น้อย

    ใครจะอยู่ให้โดนขย้ำล่ะวะ  ไปแล้วโว้ย!!

    มังกรเฒ่าตัดสินใจโกยแนบสุดฝีเท้าหลังจากที่เห็นเสือดำถูกขัดขวางจนชะงักไปครู่หนึ่ง   แน่นอนว่าเสือดำต้องไล่ล่าไม่ยอมปล่อย  ความเร็วของมันเหนือชั้นกว่าชายแก่มากมายนัก    แต่ทุกครั้งที่ระยะของทั้งคู่หดสั้นลงจนเข้าขั้นอันตราย  มังกรเฒ่าจะหันไปปลดปล่อยเพลงกระบี่ใบไม้ไหวขัดขวางเอาไว้และทิ้งห่างออกไปอีกเหมือนเดิม

    ข้าเกลียดการถูกสัตว์อสูรไล่ตอนกลางคืนซะจริง  กัดไม่ยอมปล่อยเลยไอ้ฉิบหาย!

    ภาพเดิม ๆ วนซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนกระทั่งเป็นฝ่ายมังกรเฒ่าเสียเองที่เริ่มจะหอบเหนื่อยจนตัวโยน   ต่างจากเสือดำลิบลับ  ยิ่งนานเข้ามันยิ่งรู้จักหลบหลีกการโจมตีของชายแก่               สุดท้ายเสือดำก็แทบไม่ถูกขัดขวางอีกเลยจนมันสามารถกระโจนเข้าหาเหยื่อได้ตามที่หวัง

    หมอบลง!

    แต่ในวินาทีเป็นตายพลันปรากฏเสียงสั่งการขึ้นมา   มังกรเฒ่าแทบไม่ต้องเสียเวลาทำตามเพราะร่างของเขาล้าเกินกว่าจะทรงตัวอยู่ได้อีกต่อไป    ช่วงจังหวะพริบตาที่ชายแก่วูบลงกับพื้นจึงเผยให้เห็นร่างชายหนุ่มเจ้าของเสียงพุ่งข้ามเข้าไปขวางหน้าเสือดำเอาไว้ได้อย่างทันท่วงที แกร๊ง! เขายกกระบี่ขวางลำตัวต้านรับทั้งคมเขี้ยวและกรงเล็บ  แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่อาจป้องกันกรงเล็บจากขาหลังของเสือดำไว้ได้จนบังเกิดบาดแผลบริเวณช่วงเข่าขึ้นมา           ส่วนเสือดำดีดร่างถอยหลังกลับออกไปทั้งยังม้วนตัวลงมาหยัดยืนได้อย่างมั่นคงในเวลาอันสั้น

    เลเวล 22 เชียวเหรอ!  ชายหนุ่มกล่าวเสียงเครียด  ในขณะที่เสือดำยังคงขู่คำรามไม่หยุด

    ไอ้หนุ่ม  ช่วยถ่วงเวลาให้ข้าได้พักฟื้นแปปหนึ่ง

    มังกรเฒ่าเอ่ยคำขาด ๆ หาย ๆ และพยายามคลานหาระยะปลอดภัย

    ไม่รู้ผมจะต้านมันเอาไว้ได้นานแค่ไหนนะครับ

    ชายหนุ่มกล่าวยังไม่ทันจบคำดีเจ้าเสือดำก็พุ่งเข้าโจมตีอีกแล้ว     เขาฝืนร่างกายอย่างหักโหมเพื่อปะทะกับมันตรง ๆ อีกครั้ง  จุดประสงค์ก็เพื่อซื้อเวลาให้มังกรเฒ่าพ้นจากระยะอันตราย       การปะทะรอบนี้โชคดีที่เสือดำมันเสียหลักจนชายหนุ่มช่วงชิงโอกาสตวัดคมกระบี่เฉือนร่างของมันกลับไปได้อย่างจังจนโลหิตไหลอาบ  เสือดำส่งเสียงร้องเจ็บปวดก่อนจะหมุนตัววิ่งจากไปในป่าข้างทาง   มังกรเฒ่าที่เห็นดังนั้นกำลังจะพ่นลมหายใจหนักหน่วงอย่างโล่งอก  แต่ทว่าภายในป่ามืดทะมึนกลับบังเกิดเสียงคำรามคล้ายคลึงกับเสือดำตัวเมื่อครู่ขึ้นมาเสียก่อน

    จากที่ได้ยินแล้วมันบ่งชี้ให้เพลเยอร์ทั้งสองทราบว่า

    ไอ้หนุ่มหนีโว้ย!!  แม่มเล่นไปฟ้องฝูงแบบนี้มีกี่ชีวิตก็ไม่พอให้เสีย  มังกรเฒ่าตะโกนเตือนสติผู้มีพระคุณ

    ลุงยังวิ่งไหวใช่มั้ย!?”  ชายหนุ่มหน้าละอ่อนหันกลับไปถามอย่างหวังดี         ทว่าชายแก่ซึ่งรั้งอยู่ข้างหลังเมื่อครู่กลับชิงสับตีนแตกโกยอ้าวไปก่อนเรียบร้อยแล้ว  เห็นแบบนั้นชายผู้หวังดีถึงกับเบ้ปากไม่อยากจะเชื่อ

    รอด้วยดิลุง!!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×