ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ทะลุฟ้า ป่วนยุทธภพ (สถานะ จบไตรภาคแรก)

    ลำดับตอนที่ #4 : เป้าหมาย

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 36.4K
      1.6K
      6 ม.ค. 61

    ชายหนุ่มพยักหน้าตอบรับ  ในขณะที่มังกรเฒ่าชิงเดินไปนั่งลงก่อนหญิงชราจะกล่าวจบคำเสียอีก

    มานั่งสักทีสิวะ  จะยืนค้ำหัวคนแก่อีกนานไหม!?

    ยี่ฟงกระตุกยิ้มก่อนจะขานรับเสียงยาน       เมื่อเขาตามไปนั่งลงข้าง ๆ ชายแก่กวนประสาทเรียบร้อยแล้วจึงเพิ่งสังเกตเห็นข้ารับใช้สาวที่นำถ้วยชาเข้ามาวางต้อนรับผู้มาเยือน     ก่อนจะเป็นหลันอี้ซึ่งอาสารินน้ำชาให้แก่คนทั้งสองด้วยตัวเอง

    ท่านพร้อมสำหรับการเดินทางแล้วหรือมังกรเฒ่า  หลันอี้กล่าวถาม

    เมื่อรับถ้วยชาจากอีกฝ่ายมาแล้วมังกรเฒ่าจึงค่อยตอบกลับไปว่า  “แน่นอน  ตอนนี้ข้าเลเวล 20 แล้ว

    หลันอี้เพียงยิ้มบางขณะส่งถ้วยชาอีกใบให้ชายหนุ่มพลางถาม  แล้วเจ้าล่ะหนุ่มน้อย

    ยี่ฟงชั่งใจอยู่ว่าจะสนทนากับฝ่ายตรงข้ามด้วยสำนวนแบบไหนดี  สุดท้ายจึงตอบกลับไปตามที่ตัวเองถนัด

    ผมเลเวล 30 ครับ

    นี่ไอ้หนุ่ม!  จะเกทับกันรึไง

    มังกรเฒ่าแทรกขึ้นมาอย่างไม่พอใจ  ตามที่คาดเดาแล้วยี่ฟงสมควรเลเวลไม่เกิน 15 ด้วยซ้ำ

    เอาล่ะ เอาล่ะ  ในเมื่อมาถึงนี่กันแล้วข้าเองก็ไม่อาจปฏิเสธอะไรได้

    หลันอี้ยกฝ่ามือห้ามปรามก่อนจะนำถ้วยชาขึ้นจิบ     เมื่อผู้มาเยือนสงบลงแล้วนางจึงเกริ่นเข้าเรื่องด้วยน้ำเสียงเรียบเฉื่อยว่า  นานมาแล้วเมื่อยามที่ข้ายังเยาว์วัย  ข้าหาได้เป็นราษฎรของเมืองจงหยางแห่งนี้ไม่

    ยี่ฟงเอนหลังพิงพนักเก้าอี้พลางกอดอกตั้งใจฟัง  ส่วนมังกรเฒ่าเท้าศอกข้างหนึ่งบนโต๊ะ  ฝ่ามือก็เท้าคางเอาไว้

    ในจังหวะที่หลันอี้หลับตาคล้ายกำลังเรียบเรียงความทรงจำในอดีตอยู่นั้น    เพลเยอร์ทั้งสองพลันได้รับตัวเลือก  มันคือการสคริปต์เพื่อข้ามขั้นตอนสำหรับคนที่ไม่ชอบรอคอย       แน่นอนว่ามันจะช่วยสรุปเรื่องราวและเป้าหมายให้อย่างรวบรัดในทันที

    แต่ยี่ฟงและมังกรเฒ่ากลับนิ่งเฉย  กระทั่งตัวเลือกของพวกเขาเลือนหายไปพร้อมกับที่หลันอี้ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง

    แต่เดิมแล้วถิ่นกำเนิดข้าตั้งอยู่ในป่าใหญ่ห่างไกลจงหยางนับร้อยลี้      ด้วยสภาพแวดล้อมที่อันตรายท่ามกลางสัตว์อสูรดุร้ายและพฤกษาปีศาจ        ผืนป่าแห่งนั้นจึงได้รับการเรียกขานว่าเป็นอาณาเขตกลืนวิญญาณสำหรับผู้คนภายนอกที่สัญจรผ่านไปมาเช่นพวกเจ้าทั้งสอง     หญิงชราเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะเผยยิ้มเปี่ยมสุขพลางกล่าวต่อว่า  แม้จะเป็นเช่นนั้นจริง  ทว่าผู้คนที่อาศัยอยู่ภายในกลับมองเห็นผืนป่าเป็นบ้าน     พวกเขานอกจากไม่ลำบากแล้วยังสามารถดำเนินชีวิตสืบต่อกันมาได้รุ่นต่อรุ่น

    ยิ่งบอกเล่าออกมาเท่าไรรอยยิ้มของนางยิ่งเลือนหาย  แววตาสะท้อนความเศร้าหมองเจือคั่งแค้น

    ทว่ารุ่นของข้ากลับบังเกิดโศกนาฏกรรมขึ้น  ผืนป่าลุกเป็นไฟ  สัตว์อสูรชั้นสูงอาละวาดคลั่งอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนนับแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน  ความผิดแผกนี้ชักนำให้เหล่าบุรุษกล้าออกค้นหาที่มาของความวุ่นวายบนผืนป่า  บิดาของข้าซึ่งเป็นผู้นำเมื่อครานั้นในที่สุดก็สืบทราบถึงปัญหา

    หลันอี้สูดลมหายใจเข้าลึก  คล้ายกับว่าบาดแผลในอดีตกำลังสร้างความปวดร้าวให้นางอีกครั้ง

    แท้จริงแล้วมีกลุ่มคนรุกล้ำสู่เขตแดนผู้ปกปักรักษา วิหคเทวะ        เป้าหมายของศัตรูชัดเจนและแสดงให้เห็นว่าประสงค์ที่จะยึดกุมพลังอำนาจของท่าน  บิดาข้าเมื่อทราบเรื่องราวย่อมไม่อาจนิ่งนอนใจอยู่ได้

    ท้ายที่สุดแล้วจึงบังเกิดการต่อสู้ขึ้น  ฝ่ายหนึ่งประสงค์ในพลังอำนาจ  ขณะที่อีกฝ่ายประสงค์จะปกป้อง

    เมื่อเห็นว่าหลันอี้เงียบงันไป  ยี่ฟงจึงกล่าวขึ้นมาบ้าง

    ช่วงเวลาที่ท่านว่าคงเป็นไปไม่ได้ที่กลุ่มคนเหล่านั้นจะเป็นเพลเยอร์อย่างพวกเรา     ถ้างั้นพวกมันก็สมควรเป็นคนจากสำนักใดสำนักหนึ่งในยุทธภพนี้

    ถูกอย่างที่เจ้าว่า  หลังจากข้ามีเวลาได้ไตร่ตรองจึงเข้าใจว่าเหตุการณ์ในอดีตเพียงเป็นรอยต่อซึ่งจะนำไปสู่เนื้อเรื่องหลักในอนาคต   เพราะจนถึงบัดนี้ข้าเองยังไม่ทราบแน่ชัดด้วยซ้ำว่าพวกมันคือฐานอำนาจจากที่ใดกัน     ทว่ามีเรื่องหนึ่งที่ข้ามั่นใจอย่างยิ่ง        ศัตรูเมื่อครานั้นแข็งแกร่งมากจนแม้แต่วิหคเทวะที่เป็นตัวตนอันสูงส่งก็ยังถูกพวกมันกำราบสิ้น

    ได้ฟังแล้วทั้งยี่ฟงและมังกรเฒ่าจำต้องขมวดคิ้วเคร่งเครียด

    หลันอี้ซึ่งอ่านคนทั้งสองออกจึงรีบกล่าวขึ้นเพื่อคลายความกังวลให้   อย่าเพิ่งคิดมากจนเกินไป  ไม่มีทางที่พวกเจ้าจะได้เผชิญหน้ากับศัตรูปริศนาจากอดีตในเร็ววันเป็นแน่    หลังเหตุการณ์ครานั้นพวกมันก็หายสาบสูญไปราวกับไม่เคยมีตัวตนมาก่อน  ทว่านั่นก็สมเหตุสมผลที่สุดแล้วเพราะหากพวกมันปรากฏตัวออกมาในยามนี้ล่ะก็  แม้กระทั่งเพลเยอร์อันดับหนึ่งในยุทธภพก็ยังไม่อาจสร้างความลำบากให้แก่พวกมันได้ด้วยซ้ำ

    ยี่ฟงได้แต่ยิ้มแห้ง      จากที่ฟังแล้วแสดงว่าทางเกมได้ซุกซ่อนมอนสเตอร์มหาโหดโคตรเทพเอาไว้เพื่อรอวันที่จะปล่อยพวกมันออกมาไล่กระทืบเพลเยอร์อย่างไม่ต้องสงสัย

    แล้วเรื่องที่เจ้าอยากจะให้พวกเราช่วยเหลือคืออะไรกันแน่  มังกรเฒ่าอดที่จะถามขึ้นมาไม่ได้

    เมื่อทราบว่าตนกำลังทำให้ผู้มาเยือนเสียเวลา  หลันอี้จึงกล่าวเข้าเรื่องในที่สุดว่า

    หมู่บ้านของข้าถูกทำลายย่อยยับ  ภายใต้สถานการณ์สับสนวุ่นวายผู้คนจึงลี้ภัยไปยังทิศทางที่แตกต่าง  ทว่ามีเพียงข้าซึ่งได้รับความช่วยเหลือจนเดินทางมาถึงเมืองจงหยางแห่งนี้ได้อย่างปลอดภัย    แต่บาดแผลที่ข้าได้รับส่งผลให้ขาคู่นี้ต้องพิการถาวร  แม้ประสงค์อยากจะออกค้นหาเหล่าพี่น้องและสหายก็ไม่อาจกระทำได้

    หญิงชราทอดถอนหายใจ  แม้จะกล่าวถึงปมด้อยของตัวเองนางก็ยังคงแววตาเด็ดเดี่ยวไม่ยอมแพ้อยู่ได้

    ภายหลังข้าสืบทราบมาว่า        อาณาเขตกลืนวิญญาณในยามนี้ได้ปรากฏกองโจรเข้ายึดกุมพื้นที่ส่วนหนึ่งเอาไว้ยังมีข่าวคราวเกี่ยวกับหมู่บ้านปริศนาซึ่งตกอยู่ใต้อาณัติของกองโจรที่ว่าอยู่ด้วย

    ม่านตาของยี่ฟงหรี่เล็กลงก่อนจะกล่าวหยั่งเชิงออกไปว่า

    หมู่บ้านที่ว่าหรือจะเป็นเหล่าพี่น้องของท่านที่ยังรอดชีวิตมาจากโศกนาฏกรรมในอดีต      แต่พวกเขาเลือกที่จะปักหลักอยู่ภายในป่าเช่นเดิม!?

    หลันอี้สบจ้องไปยังยี่ฟง  ดูเหมือนว่าชายหนุ่มจะเอ่ยคาดการณ์ขึ้นมาได้อย่างตรงประเด็นทีเดียว

    นั่นคือเป้าหมายของพวกเจ้าอย่างไรล่ะ   จวบจนบัดนี้ก็ยังไม่มีความกระจ่างใด ๆ ให้แก่ข้าแม้แต่น้อย  หลันอี้เอนหลังพิงด้วยท่าทางอ่อนล้า  ไม่ว่าพวกเขาจะใช่คนของข้าหรือไม่ก็ตาม  ทว่าการได้ช่วยเหลือผู้คนที่กำลังตกที่นั่งลำบากย่อมไม่มีใดเสียเปล่าอย่างแน่นอน

    ได้ฟังมาถึงตรงนี้แล้วมังกรเฒ่าก็พลันถอนหายใจหนักหน่วงออกมา     ขณะเดียวกันก็ปรากฏเสียงแจ้งเตือนขึ้นมาจากหน้าต่างภารกิจ        เมื่อเพลเยอร์ทั้งสองเปิดมันขึ้นมาเพื่อไล่สายตาพินิจดูแล้วจึงเป็นมังกรเฒ่าที่กล่าวขึ้นมาก่อนว่า

    กำจัดกองโจรภายในอาณาเขตกลืนวิญญาณและระบุข้อเท็จจริงให้แก่หลันอี้ได้รู้  สาหัสอยู่เหมือนกันนะเนี่ย

    ชายแก่ไม่พูดเปล่าแต่ยังชำเลืองมองชายหนุ่มคล้ายต้องการจะกล่าวอะไรบางอย่างกันเพียงแค่สองคน   ผิดกับยี่ฟงซึ่งกำลังอ่านข้อมูลภารกิจโดยละเอียด  กระทั่งสายตาของเขาจับจ้องไปยังประโยคหนึ่งที่ระบุว่า หัวหน้ากองโจรเลเวล 22

    เพียงเท่านั้นรอยยิ้มกระชากใจก็พลันปรากฏอยู่บนใบหน้าหล่อลากตีนขึ้นมาแทบจะทันที

    เข้าใจแล้ว!  พวกเราจะออกเดินทางในทันที  ยี่ฟงกล่าวอย่างไม่ยี่หระ

    เดี๋ยวก่อนสิวะ!  ลูกไก่อย่างเอ็งไปเอาความกล้าผิด ๆ แบบนี้มาจากไหนกัน      แค่สองคนจะไปจัดการเรื่องราวทั้งหมดได้ยังไง  อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลารวบรวมคนให้พร้อมที่จะปะทะกับกองโจรก่อนไม่ใช่เรอะหัดรอบคอบกว่านี้หน่อยสิวะไอ้หนุ่ม

    มังกรเฒ่าเผลอตัวกล่าวความในใจออกมาเสียหมด       แถมยังเน้นเสียงคำว่ากองโจรเพื่อเตือนสติไอ้หนุ่มเลือดร้อนอีกด้วย

    ลุงจะกลัวอะไรเนี่ย  ไปกับมหาเทพอย่างฉันรับรองจะดีเอง”  ยี่ฟงคุยโม้พร้อมกับเสยผมในท่าที่คิดว่าเท่ที่สุด

    เหอะ!  ข้ากลัวมหาเทพยาจกอย่างเอ็งจะพาไปจมตีนกองโจรสิไม่ว่า    มังกรเฒ่าเถียงพร้อมกับไล่สายตามองชายหนุ่มตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าอย่างอ่อนใจ  เขายอมรับไอ้หนุ่มนี่มันหล่อจริง      แต่ทุกครั้งที่มองหน้ามันแล้วมังกรเฒ่าจะรู้สึกมีบางอย่างรบกวนส้นเท้าให้ต้องคันอยู่ตลอดเวลา!?

    ขณะเดียวกันหลันอี้ซึ่งเฝ้ามองคนทั้งสองอยู่ก็ได้กล่าวแทรกขึ้นมาด้วยรอยยิ้มบาง

    หากจะรวบรวมพรรคพวกแล้วล่ะก็  ข้าแนะนำให้เร่งออกเดินทางในทันที    เพราะก่อนหน้านี้ได้มีเพลเยอร์กลุ่มหนึ่งมาหาข้าด้วยเป้าหมายเดียวกับพวกเจ้าทั้งสอง  ยามนี้พวกเขาจึงสมควรนำหน้าไปได้ไม่ไกลนัก

    เมื่อมีคนช่วยชี้ทางให้อีกเสียงยี่ฟงจึงรีบประสานฝ่ามือคารวะ

    ผมจะกลับมาพร้อมกับความจริงทุกอย่าง  ท่านเองโปรดรักษาตัวด้วย

    มาถึงขนาดนี้แล้วมังกรเฒ่าก็ไม่อาจแย้งอะไรได้อีก  เขาเพียงล่ำลาหลันอี้ด้วยท่าทางคล้ายกับยี่ฟง

    ข้าเพียงแต่หวังว่าเวลานั้นจะมาถึงในเร็ววัน

     

    ยี่ฟงและมังกรเฒ่ากลับมาก้าวเดินอยู่บนเส้นทางสัญจรภายในจงหยางอีกครั้ง

    ข้าไม่ค่อยแปลกใจเลยว่าทำไมเพลเยอร์มากมายถึงพากันเมินภารกิจของหลันอี้

    มังกรเฒ่าเอ่ยขณะจดจ้องรายละเอียดรางวัลภารกิจ  มันระบุอยู่แค่สองอย่างเท่านั้น  หนึ่งคือค่าประสบการณ์ที่ใช้ยกระดับเลเวล  อีกหนึ่งเป็นคัมภีร์วิชายุทธ์เพลงกระบี่ใบไม้ไหว

    วิชายุทธ์ที่สามารถกล่าวได้ว่า  มีกันเกลื่อนยุทธภพ

    อย่าไปใส่ใจกับรางวัลหรือผลตอบแทนมากนักเลยลุง  เดี๋ยวจะเล่นเกมไม่สนุกเอาหรอก

    ยี่ฟงแนะนำ  สายตาก็กวาดมองไปทั่วอย่างสนอกสนใจไปเสียทั้งหมด

    เอ็งนี่ประหลาดคน  เด็กรุ่นเดียวกับเอ็งนับไม่ถ้วนแทบจะแข่งขันแย่งชิงกันเองด้วยซ้ำ           ไม่ว่าใครในเกมนี้ก็อยากจะเป็นที่หนึ่งด้วยกันทั้งนั้น

    กล่าวจบมังกรเฒ่าก็ปิดหน้าต่างภารกิจไป  พวกเขาเดินมาถึงทางออกของเมืองจงหยางแล้ว         ซึ่งเวลานี้ได้มีกลุ่มชายหนุ่มจำนวน 6 คน   หยัดยืนขวางเส้นทางอย่างไม่กลัวเกรง           พอหนึ่งในพวกมันสังเกตเห็นมังกรเฒ่าจึงกระซิบกระซาบกันครู่หนึ่งก่อนจะพากันเปิดทางให้แต่โดยดี

    ว่าไงลุง  อีกไม่กี่ชั่วโมงฟ้าก็จะมืดแล้วยังจะออกไปนอกเมืองอีกหรือ

    มังกรเฒ่ามองหน้าผู้ที่กล่าวทักทายอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์นักจึงตอบกวนบาทากลับไปว่า

    ระดับข้าไม่ต้องให้เด็กระยำอย่างพวกเอ็งมาคอยเป็นห่วงหรอกว่ะ

    กลุ่มเด็กระยำที่ว่าพากันชักสีหน้าไม่พอใจ  แต่พวกมันก็ไม่อาจทำอย่างไรได้นอกจากก่นด่าชายแก่อยู่ภายในใจ

    กระทั่งมังกรเฒ่าก้าวผ่านคนทั้งหกไปโดยไม่ทันได้สังเกตผู้ร่วมทางแม้แต่น้อย         ซึ่งเวลานี้ยี่ฟงมัวแต่ให้ความสนใจสิ่งรอบข้างจนทิ้งระยะห่างกับชายแก่พอสมควร       เมื่อเขาเดินมาถึงจุดที่ชายหกคนกำลังหงุดหงิดอยู่จึงถูกขัดขวางไม่ให้ผ่านไปดี ๆ อย่างเมื่อครู่อีก

    พ่อเป็นคนสร้างทางหรือไงวะ  หลบหน่อยโว้ย!  ยี่ฟงแหกปากโวยวายแทบจะทันที  แถมยังก้าวเดินต่อเนื่องไม่คิดจะหยุดชะงักอย่างที่ใครคิด  จนแทรกกลางผ่านชายทั้งหกคนไปได้หน้าตาเฉย

    แต่เมื่อพวกมันพากันได้สติแล้วเลือดลมจึงสูดฉีดรุนแรง  ก่อนจะเป็นชายคนเดิมที่คล้ายกับเป็นผู้นำฝูงพุ่งฝ่ามือออกไปหวังจะรั้งร่างของยี่ฟงเอาไว้อย่างเดือดดาลสุดขีด

    พวกฉันเป็นเพื่อนเล่นแกหรือไงวะไอ้ฉิบหาย!!”  มันตะคอกลั่นไม่ไว้หน้าใครแม้แต่น้อย

    เฮ้ยนั่นคนของข้า ถอยไปไอ้เด็กเวร!”  มังกรเฒ่าเองก็เพิ่งจะรู้ตัวจึงพยายามเอ่ยห้ามปรามเต็มที่

    กระทั่งฝ่ามือที่ว่าบีบลงยังไหล่ข้างหนึ่งของยี่ฟง    แต่พริบตาหลังจากนั้นฝ่ามือขวาของยี่ฟงกลับบีบลงที่ใบหน้าของอีกฝ่ายเฉกเช่นเดียวกัน  แรงมหาศาลซึ่งต่างกันราวฟ้ากับเหวกดดันให้ผู้ที่เข้ามาหาเรื่องต้องเบิกตากว้าง

    ฉันโว้ยที่ต้องเป็นคนถาม  พวกแกคิดว่าฉันเป็นเพื่อนเล่นหรือไงวะไอ้ลูกไก่!?

    ตูม!!

    ยี่ฟงผลักดันฝ่ามือกดกระแทกศีรษะของอีกฝ่ายเข้ากับกำแพงเมืองได้ราวกับเหวี่ยงตุ๊กตาไร้น้ำหนัก          ความรุนแรงจากการปะทะส่งผลให้ใบหน้าของชายอับโชคจมหายเข้าไปในกำแพงเมืองเกือบทั้งหมด  ท่ามกลางเศษซากที่แตกหักร่วงกราว  ผู้คนภายในบริเวณพากันยืนสงบเงียบคล้ายเป็นการไว้อาลัยอย่างไรอย่างนั้น

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×