คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #28 : ตกเป็นรอง
เหล่าสมุนด้านหลังของซานจื่อพากันกระจายออกโอบล้อมพื้นที่เอาไว้ตามคำสั่ง การเคลื่อนไหวของพวกมันเงียบเชียบราวสายลมพัดผ่าน กลุ่มคนปริศนานี้ล้วนสวมใส่ชุดรัดรูปสีทึบกลืนไปกับความมืด มีต่างอยู่คนเดียวก็คือซานจื่อที่ชุดดูมีราคาแต่มันสวมผ้าคลุมตัวยาวสีทึบสยายอยู่เบื้องหลัง
“จงโทษตัวเองที่ประมาทเลินเล่อเสียเถิด ตายซะ!”
ซานจื่อเตะกองไฟจนเศษไม้กระเด็นใส่เต็นท์พร้อมทิ่มแทงกระบี่โดยกะตำแหน่งทรวงอกของยี่ฟงคร่าว
ๆ ไม่ช้าเต็นท์ก็เริ่มลุกไหม้ ตามติดมาด้วยเสียงร้องเจ็บปวดของยี่ฟง
ภายในเต็นท์
“เชี่ยไรวะเนี่ย!”
ยี่ฟงสบถอย่างหัวเสีย เมื่อปรับสายตาได้แล้วจึงทราบว่าตนถูกลอบโจมตี แต่โชคยังดีเพราะคมกระบี่สังหารไม่อาจคร่าชีวิตของยี่ฟงได้ มันทิ่มแทงเข้ามาตรงทรวงอกอย่างแม่นยำแล้วทว่ากับถูกขวางไว้ด้วยปลอกแขนทำให้แผลไม่ลึกพอ
“เต็นท์ที่เพิ่งซื้อของฉัน บัดซบ!”
ยี่ฟงสะบัดแขนผลักคมกระบี่และรีบลุกออกไปจากเต็นท์
“ดวงแข็งจริงนะ”
ซานจื่อยืนรออยู่ก่อนแล้ว พอมันเห็นยี่ฟงมุดออกมาก็หวดขาเตะใส่เต็มแรง ตูม!
แม้ยี่ฟงจะไขว้สองแขนรับไว้ได้ทันแต่ร่างของเขาก็ปลิวกระเด็นเพราะแรงมหาศาลอย่างไม่เคยพบเจอ เต็นท์ที่ลุกไหม้ถึงกับขาดกระจาย ส่วนยี่ฟงลอยทะลุออกไปกระแทกเข้ากับต้นไม้จนโลหิตในกายพุ่งออกจากปาก
‘หัวหน้ากลุ่มนักฆ่ารับจ้าง มัจจุราชเมืองร้างซานจื่อเลเวล 45 โจมตี’
ยี่ฟงสะอึก สองแขนยังสั่นและเจ็บแปลบไม่หาย เขาสบจ้องกลับไปพร้อมถามขึ้นอย่างตื่นตระหนก
“พวกแกมาอยู่แถวนี้ได้ไงกัน!?”
ซานจื่อเงยหน้าหัวเราะ มันไม่มีท่าทางรีบเร่งจะเข้ามาสังหารแต่อย่างใด
“พวกข้าคือนักฆ่ารับจ้าง เมื่อเป้าหมายอยู่ที่ใดพวกข้าย่อมต้องอยู่ที่นั่น”
“ข้าตกเป็นเป้าหมายงั้นหรือ ใครต้องการจะสังหารข้ากัน!”
ยี่ฟงถามต่อและพยายามดันตัวเองลุกขึ้น เขารู้สึกเหมือนถูกอสรพิษจ้องมาจากทุกทิศทาง แรงกดดันของยอดฝีมือระดับกลางเองก็หนักหนาสาหัสยิ่ง
“เจ้าไปทำอะไรมายังไม่รู้ตัวอีกหรือ…เอาเถิด ข้าจะบอกให้เป็นรางวัลก่อนตายแล้วกัน”
ซานจื่อกล่าวอย่างผู้เหนือกว่า
“ไม่กี่วันก่อนเจ้าสำนักพยัคฆ์หมอบและคนของมันอีกสองถูกลอบสังหารในพริบตา แต่ยังดี
ข้ารับใช้ที่บังเอิญอยู่ในเหตุการณ์ครั้งนั้นไม่ตายและมันยังจดจำผู้ลอบสังหารได้เป็นอย่างดี ซึ่งก็คือเจ้าอย่างไรไอ้โง่!!”
ซานจื่อตวาดลั่นในตอนท้ายก่อนพุ่งเข้าหากะทันหัน ยี่ฟงที่กำลังย่อยข้อมูลจำต้องละเอาไว้ก่อน เขาไม่มีความคิดที่จะสู้แม้แต่น้อยเพราะเลเวลของมัจจุราชตนนี้มากเกินไป ยี่ฟงไม่มีเวลาให้คิดหาทางหนีอย่างรอบคอบ เขาตัดสินใจพริบตาเลือกถีบเท้าทะยานหนีไปด้านหลังสุดตัว แต่ยังไปได้ไม่ถึงห้าเมตรก็ปรากฏนักฆ่าโผล่เข้ามาขัดขวางเสียแล้ว
‘นักฆ่ารับจ้างเลเวล 35 โจมตี’
ยี่ฟงกัดฟันกรอดรีบเรียกใช้วิชายุทธ์ก้นหีบเพราะเขาต้องมั่นใจว่าจะหนีรอดไปได้
“วิหคอหังการ!”
เปลวไฟลุกไหม้ จากนั้นพุ่งเป็นดวงอยู่เหนือศีรษะของยี่ฟง มันเปลี่ยนรูปคล้ายนกเพลิงก่อนจะแผดเสียงคำรามข่มขวัญศัตรู นักฆ่ารับจ้างที่ขวางทางอยู่เหมือนได้รับผลกระทบไปเต็ม
ๆ มันตกใจไปชั่วครู่จึงถูกยี่ฟงฟาดฝ่ามือกระแทกจนล้มกลิ้งคะมำไปกับพื้นโดยไม่ทันได้ปัดป้อง
ตอนนี้เลเวลของชายหนุ่มทะลวงขึ้นเป็น
37 ความเร็วจึงเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
ทางด้านของซานจื่อได้ทำการผิวปากส่งสัญญาณบางอย่าง เหล่าสมุนที่โอบล้อมไว้ก็พากันดักทางบีบบังคับให้ยี่ฟงต้องเคลื่อนไหวหลบหลีกไปยังทิศทางที่พวกมันหวังเอาไว้ เมื่อทราบว่าเป็นการยากที่จะหยุดยั้งเป้าหมาย พวกมันจึงไม่คิดจะเปลืองแรงเข้าปะทะขัดขวางให้เหนื่อยเปล่า แต่เลือกจะล่อลวงเป้าหมายอย่างใจเย็นให้ไปติดกับดักจนหมดหนทางหลบหนีในท้ายที่สุด
จะอย่างไรกลุ่มนักฆ่าที่อาศัยอยู่แถบนี้ย่อมชำนาญพื้นที่มากกว่า
เพียงเห็นแวบเดียวก็ทราบแล้วว่ายี่ฟงจะมุ่งไปที่ใด
‘เวรเอ๊ย! พวกมันฉลาดถึงขั้นวางกับดักล่อลวงเลยรึ’
ยี่ฟงรู้ทัน เขาถึงกับเคร่งเครียดและพยายามดิ้นรนหาวิธีรอด วิชายุทธ์ก้นหีบก็เหมือนกับใช้เปล่าไปแล้ว
เสียงระบบก็แจ้งระรัว นักฆ่ารับจ้างล้วนมีเลเวลอยู่ที่ 35-37 ไม่น้อยหรือมากไปกว่านี้ แต่จำนวนของมันกลับยิ่งทวีเพิ่มขึ้นตามระยะทางที่ยี่ฟงพุ่งผ่านไป ชัดเจนแล้วว่าเขากำลังมุ่งหน้าไปจนมุมซึ่งขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น
“ต้องฝ่าออกไปสักครั้ง”
ยี่ฟงตัดสินใจ เวลาของวิชายุทธ์วิหคอหังการหลงเหลืออีกแค่สองนาทีเท่านั้น
ยี่ฟงไม่ทราบตนอยู่จุดไหนของป่า แต่แน่นอนแล้วว่าเขาถูกต้อนเข้ามาลึกห่างไกลจากเส้นทางกลับเมืองขึ้นเรื่อย
ๆ กระทั่งยี่ฟงพบเห็นนักฆ่ารับจ้างสี่คนยืนขวางเฉกเช่นเดิม แต่รอบนี้เขาทะยานฝ่าไปตรง ๆ ไม่หลบเลี่ยงอีก เพลงกระบี่ใบไม้ไหวถูกเรียกใช้เปิดทาง พร้อมกับที่ชายหนุ่มเข้าปะทะกวาดกระบี่ผลักดันศัตรูอย่างบ้าคลั่งจนสามารถผ่านไปได้
ไม่กี่อึดใจต่อมามัจจุราชซานจื่อก็เพิ่งทะยานร่างมาถึงจุดเกิดเหตุ มันทอดสายตามองไกลออกไปยังปลายทาง
“เลือกที่ตายได้ดี ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
ทางด้านยี่ฟงขณะนี้กำลังสำนึกเสียใจ
เนื่องจากทิศทางที่เขาฝ่าออกมามันถูกบีบแคบลงเรื่อย ๆ โดยแนวเทือกเขาสูงชันไร้หนทางให้หลบหนี ตามรายทางก็ปรากฏซากปรักหักพังของสถาปัตยกรรมเก่าแก่ รากไม้ที่เลื้อยพันไปตามซากหินบ่งชี้ให้เห็นถึงกาลเวลาอันยาวนาน
“ฉิบหายแล้วไง!”
ยี่ฟงอุทานอย่างหนักใจ
แต่เขาไม่มีทางเลือกนอกจากเสี่ยงวัดดวงมุ่งหน้าไปให้สุดทาง ยี่ฟงเริ่มพบเห็นรูปปั้นนักรบในท่วงท่าแตกต่างกันไป กระทั่งสองข้างทางปรากฏภาพชวนอ้วก มันมีไม้ปักอยู่กับดิน ตรงปลายเสียบประจานไว้ด้วยศีรษะของมนุษย์และสัตว์ป่าหลายชนิด แน่นอนว่าพื้นที่ส่วนนี้เต็มไปด้วยการเสียบหัวประจานละลานตา แม้แต่ขึงทั้งร่างติดอยู่กับเสาก็มีให้เห็นไม่ละเว้น แต่ส่วนมากจะกร่อนสลายหลงเหลือแต่กระดูกไปนานแล้ว
“ฐานของนักฆ่ารับจ้างหรือวะ ไม่น่าใช่! นี่มันสุสานเมืองร้างชัด
ๆ ต่อให้เป็นนักฆ่าเลือดเย็นแค่ไหนก็คงไม่มีทางอาศัยอยู่ที่นี่แน่
ๆ”
ยี่ฟงหน้าซีด แต่พอขบคิดดูใหม่แล้วเขาคงฝ่าเข้ามายังสุสานแห่งนี้โดยบังเอิญ
ฐานของเหล่านักฆ่าสมควรตั้งอยู่อีกทิศทางหนึ่งที่พวกมันต้องการจะไล่ต้อนเขาไปเมื่อครู่นี้มากกว่า บางทีอาจจะมีเส้นทางให้ไปต่อหรือใช้หลบซ่อนอยู่บ้างก็ได้สำหรับทิศทางนี้
แต่แล้วความหวังของยี่ฟงก็พลันสาบสูญ
“อ๊าก! ทางตัน”
ตอนนี้เขาหยุดยืนหายใจหอบ วิชาหนุนเสริมก็หมดเวลาทำงานไปแล้ว บริเวณโดยรอบเต็มไปด้วยซากตึกเก่าที่หักโค่นพังทลาย กระดูกมนุษย์ที่ขาดหายไปบางส่วนกระจัดกระจายไปทั่วพื้นที่ ทุกอย่างดูไร้ซึ่งความหวังที่จะหนีรอด
“ข้าต้องชมเจ้าทีเดียว ที่สามารถเลือกสถานที่ฝังศพตัวเองได้ยิ่งใหญ่เพียงนี้”
มัจจุราชซานจื่อพร้อมด้วยเหล่าสมุนทะยานร่างตามมาหยุดอยู่ไม่ไกล พวกมันพากันแผดเสียงหัวเราะขบขัน
“ที่นี่เรียกว่าอะไร!?”
ยี่ฟงระงับโทสะพลางกล่าวถาม
“มหานครฉางอานอันรุ่งโรจน์จากเมื่อ 500 ปีก่อนอย่างไร เป็นสถานที่สงบสุขชั่วนิรันดร์สมกับชื่อเสียจริง
ๆ เจ้าว่าอย่างนั้นไหม ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
มัจจุราชซานจื่อตอบคำถามด้วยท่าทางสำราญใจ
“แกโรคจิตหรือ
เห็นแวบแรกก็รู้แล้วว่าเมืองนี้เกิดสงครามจนล่มสลาย แบบนี้จะเรียกว่าสงบสุขได้เช่นไร”
ยี่ฟงแซะด่ากลับไปเสียงเรียบ
“หุบปาก! จากนี้เจ้าจะเป็นดวงวิญญาณสงบอยู่ที่นี่หรืออาฆาตแค้นก็ตามใจ ตาย!!”
มัจจุราชซานจื่อพุ่งเข้าโจมตีอีกครั้ง
ยี่ฟงที่ไม่มีหนทางจะต่อต้านจำต้องทะยานร่างหนีไปรอบ
ๆ ซากปรักหักพัง
เขาไม่ยอมแพ้และรอคอยโอกาสที่จะหลบหนีออกไป แต่ถึงอย่างนั้นความเร็วของเขาก็ช้ากว่าอีกฝ่ายอยู่หลายก้าว แม้จะมีท่าเท้าเมฆาซ่อนมังกรหนุนเสริมยังยากที่จะหลุดพ้นเงื้อมมือของยอดฝีมือระดับกลางไปได้
“สายลมผ่าวิญญาณ!”
มัจจุราชซานจื่อกะจังหวะปลดปล่อยวิชายุทธ์โจมตีดักทางไว้ คลื่นคมกระบี่พุ่งฝ่ามวลอากาศตัดผ่านหน้ายี่ฟงไปเพียงคืบ รูปปั้นที่ขวางทางขาดสะบั้นเป็นสามส่วนในพริบตา ยี่ฟงที่ชะงักไปจำต้องรับมืออีกฝ่ายที่พุ่งเข้าประชิดมาในไม่กี่อึดใจ มัจจุราชซานจื่อฟันกระบี่ใส่ตรง ๆ
ไม่มีใดซ่อนเร้น ไม่ว่าอย่างไรยี่ฟงก็มีแต่จะต้องรับเอาไว้ยากจะหลบได้ทัน ฉัวะ! ฝ่ามือของยี่ฟงขาดสะบั้น
เขาตั้งใจจะใช้ปลอกแขนรับทว่าอีกฝ่ายเปลี่ยนทิศทางได้รวดเร็วมากแทบกะพริบตาเดียว
“โลหิตของเจ้าจะช่วยปลุกซากศพที่กระหายอยากล้างแค้นขึ้นมา อย่าหวังจะได้ตายเร็วนัก!”
มัจจุราชซานจื่อยกฝ่าเท้ายันโครม ร่างของยี่ฟงปลิวกระเด็นกลิ้งคะมำไปกับพื้น โลหิตพลันสาดกระจายเป็นสาย ก่อนร่างนั้นจะกระแทกเข้ากับซากกำแพงจนถูกกบฝังอยู่ภายใน
หลงเหลือรูโหว่นับไม่ถ้วนพอให้บางอย่างมุดตามเข้าไป
‘เงื่อนไขสำเร็จ
โลหิตมนุษย์ที่เกิดจากการต่อสู้ช่วยปลุกชีพมหานครฉางอานขึ้นมาอีกครั้ง เหล่าซากศพคนตายฟื้นคืน กลไกทางลับใต้ดินถูกปลดผนึก…ดันเจี้ยนที่มากไปด้วยขุมสมบัติลี้ลับกำลังรอคอยผู้รับการทดสอบเพื่อสืบทอดพลัง’
เสียงแจ้งของระบบดังไปทั้งยุทธภพ แผนที่ของเหล่าเพลเยอร์พากันเด้งขึ้นมาอัตโนมัติแสดงจุดหมายสถานที่ของมหานครฉางอานให้เสร็จสรรพ เพียงไม่ถึงหนึ่งลมหายใจ ทุกอย่างก็วุ่นวายปั่นป่วน
ซากศพที่เหลือแต่โครงกระดูกขยับเคลื่อน ตัวไหนที่แตกหักไม่สมบูรณ์เริ่มซ่อมแซมด้วยการดึงชิ้นส่วนข้างตัวขึ้นมาต่อใหม่
ส่วนกลุ่มนักฆ่าของมัจจุราชซานจื่อได้ทะยานร่างหลบหนีออกไปไกลแล้ว มันมั่นใจมากว่ายี่ฟงไม่มีทางรอดออกไปได้
หากพวกมันไม่รีบหนีออกไปก่อนย่อมตกตายตามกันอย่างไม่ต้องสงสัย
เวลานี้ตามเส้นทางรอบอาณาเขตมหานครฉางอานพลันปรากฏคนตายฟื้นคืนราวกับฝูงมด
บางส่วนทะลวงขึ้นมาจากหลุมด้วยสภาพร่างกายที่เน่าเละน่ากลัว
ขณะเดียวกันด้านยี่ฟงในเวลานี้กำลังกัดฟันฝืนความเจ็บปวด
รูโหว่ตามซากปรักหักพังกำลังถูกฝูงนักรบโครงกระดูกปีนป่ายกันลงมา ยี่ฟงกวาดตามองไปทั่วในความมืดมิดกระทั่งพบเข้ากับเส้นทางบันไดทอดตัวยาวลงไปใต้ดิน แสงจันทร์ได้ช่วยนำทางเขาอย่างถูกจังหวะก่อนที่เมฆจะเลื่อนคล้อยบดบังจนมืดมิดตามเดิม ยี่ฟงไม่รอช้ารีบตะเกียกตะกายจนเสียหลักล้มกลิ้งลงบันไดไป
ความคิดเห็น