ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ทะลุฟ้า ป่วนยุทธภพ (สถานะ จบไตรภาคแรก)

    ลำดับตอนที่ #27 : ฟาร์มเลเวล

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 25.93K
      1.2K
      27 ธ.ค. 60

    ยี่ฟงแทบจะหงายหลังตกเก้าอี้  พอตั้งสติได้แล้วจึงรีบถามกลับไปว่า

    เจ้าหมายความเช่นไร

    ตามที่ข้าได้กล่าว  เจ้ามีคุณสมบัติที่จะครอบครองข้าหรือไม่ก็ได้หลังจากทำภารกิจสำเร็จ

    หญิงสาวขยายความพลางป้องปากหัวเราะขบขัน

    ภารกิจ!?  ภารกิจแบบใดกัน

    ยี่ฟงถามต่อ

    หญิงสาวไม่ตอบ  นางเลือกจะก้มลงไปคว้าม้วนกระดาษขึ้นมายื่นให้แทน  ยี่ฟงก็รับมาเปิดอ่านในทันที


    ภารกิจแบบมีเงื่อนไข : เพลเยอร์ต้องทำความรู้จักกับมู่เฟิงที่เมืองจงหยางเสียก่อนจึงจะได้รับ

    รายละเอียดภารกิจ : กำราบสำนักพยัคฆ์หมอบและช่วยมารดาของมู่ฟาง

    เงื่อนไขอัพเดท : ค้นหาเจ้าสำนักพยัคฆ์หมอบและทำลายแผนการร้ายของมันให้ได้

    รางวัลภารกิจ : ???


    การกระทำของเพลเยอร์มีผลกระทบต่อรายละเอียดภารกิจด้วยหรือ

    ยี่ฟงคิดในใจก่อนจะเงยหน้าถามหญิงสาว

    เจ้าชื่อมู่ฟางสินะ

    นางพยักหน้าตอบรับ

    ว่าแต่พวกมันจับมารดาของเจ้าไปเพราะเหตุใด

    ยี่ฟงพยายามรวบรวมข้อมูล

    มันต้องการบีบบังคับให้ข้าตบแต่งกับนายน้อยของเจ้าสำนักพยัคฆ์หมอบ

    มู่ฟางกัดฟันกล่าว

    ยี่ฟงเท้าคางไตร่ตรองอยู่ชั่วครู่จึงค่อยกล่าวหนักแน่นขึ้นว่า

    ข้าจะช่วยมารดาของเจ้ากลับมาให้เอง

    ได้ฟังแล้วมู่ฟางก็สบจ้องชายหนุ่มด้วยแววตาสั่นไหว

    หากทำสำเร็จข้าก็ยินดีจะเป็นภรรยาเจ้า

    เอ่อเรื่องนี้ข้าคิดว่ามันไม่ถูกต้อง  หากเจ้าจะตอบแทนในลักษณะนี้แล้วมันจะมีประโยชน์อะไรที่ข้าช่วยปลดปล่อยพวกเจ้าสองแม่ลูกกัน!?

    ยี่ฟงคิดไว้แล้ว  ในเมื่อรางวัลภารกิจยังไม่ชัดเจน  นั่นแสดงว่ามันจะเป็นอะไรก็ได้ทั้งนั้น

    ขณะเดียวกันมู่ฟางก็กำลังอึ้ง  ชายตรงหน้านี้พยายามปฏิเสธที่จะได้ครอบครองนางงั้นหรือ  ทั้งที่ไม่ว่าชายใดต่างก็หลงใหลและถูกครอบงำด้วยความรู้สึกอันแรงกล้าที่ยากจะถอนตัวด้วยกันทั้งสิ้น

    คนผู้นี้

    มู่ฟางคล้ายมีบางอย่างปักลงกลางใจ  ใบหน้าร้อนผ่าวจนต้องรีบกล่าวขึ้นว่า

    เข้าใจแล้ว  มู่ฟางจะไม่เสียสละตัวเองโง่ ๆ อีก  ท่านโปรดวางใจ

    ยี่ฟงขมวดคิ้วสงสัย  จู่ ๆ นางก็เปลี่ยนสรรพนามทั้งตัวเองและเขาไปเสียเฉย ๆ  แต่ยี่ฟงก็ไม่คิดจะถามให้วุ่นวาย

    เจ้าคิดได้เช่นนั้นก็ดี  แล้วข้าจะรีบกลับมาพร้อมกับมารดาของเจ้า

    ชายหนุ่มเอ่ยทิ้งท้ายและลุกขึ้นเดินออกไปจากอาคารนักผจญภัย  โชคดีที่ไม่มีเพลเยอร์อยู่ในอาคารเมื่อครู่นี้เลย  ไม่เช่นนั้นคงได้วุ่นวายกันอีกยกใหญ่เป็นแน่

    คงต้องเพิ่มเลเวลก่อนเป็นลำดับแรก  ขืนบุกเข้าสำนักไปตอนนี้ได้จมกองตีนศัตรูแน่ ๆ

    ยี่ฟงพึมพำกับตัวเอง  ดูเหมือนในหัวเขาไม่มีความคิดที่จะตั้งกลุ่มไปบุกเลยแม้แต่น้อย

    จากข้อมูลแล้วสำนักพยัคฆ์หมอบตั้งอยู่ทางทิศตะวันตก  ยี่ฟงจึงตั้งใจจะไปเก็บเลเวลแถวนั้น  ก่อนจะออกจากเมืองจงหยางมาเขาก็ไปรับรางวัลภารกิจแล้วเช่นกัน  ตอนนี้ยี่ฟงจึงมีวิชายุทธ์สายโจมตีอยู่หนึ่งวิชาซึ่งก็คือ เพลงกระบี่ใบไม้ไหว

    หลังออกจากเมืองมาทางทิศตะวันตก  ยี่ฟงก็มุ่งหน้าเข้าป่าทันทีพร้อมกับเปิดแผนที่ขึ้นมาตรวจสอบไปด้วย  บริเวณรอบ ๆ เมืองดาบมังกรจะมีมอนสเตอร์ตั้งแต่เลเวล 29 ขึ้นไป  ยิ่งออกห่างเท่าไรมอนสเตอร์ก็ยิ่งมีเลเวลสูงขึ้นเรื่อย ๆ  โชคดีที่เวลานี้แทบจะหลงเหลือยี่ฟงอยู่คนเดียวเพราะคนอื่นต่างพากันเตรียมตัวเพื่อจะย้อนกลับไปจงหยางเสียหมด

    มนุษย์หินเลเวล 30 โจมตี

    มอนสเตอร์รูปร่างคล้ายมนุษย์รวมตัวขึ้นมาจากก้อนหินดินทรายจนมีความสูงสองเมตร  มันไม่พูดพร่ำให้เสียเวลาแต่พุ่งเข้าหาผู้บุกรุกทันที

    ยี่ฟงก็ตอบสนองได้รวดเร็วเช่นเดิม  เขากวาดกระบี่ในมือลงพื้นพร้อมเรียกใช้วิชายุทธ์เพลงกระบี่ใบไม้ไหว  ไม่ช้าเศษใบไม้โดยรอบก็ถูกสายลมหอบขึ้นมาหมุนวนอยู่ที่ตัวกระบี่  ยี่ฟงทิ่มแทงกระบี่ใส่มวลอากาศเบื้องหน้าปลดปล่อยการโจมตี  แต่ดูเหมือนมนุษย์หินจะไม่เกรงกลัว  มันวิ่งเข้าปะทะตรง ๆ และพยายามเหวี่ยงแขนทำลายกองใบไม้ที่พุ่งเข้ามา  ตูม!  วิชายุทธ์คลาสต่ำทว่าเมื่อใช้โดยยอดฝีมือกลับแสดงผลลัพธ์รุนแรงอย่างไม่น่าเชื่อ  แขนข้างที่มนุษย์หินเหวี่ยงออกมาถึงกับแตกละเอียดไม่หลงเหลือ

    ฮ่า ฮ่า  มนุษย์หินมันเจ็บเป็นด้วยหรือวะ

    ยี่ฟงกล่าวเมื่อเห็นศัตรูหยุดงะชักไป

    แต่ห้าวินาทีจากนั้นแขนของมนุษย์หินก็ซ่อมแซมได้ใหม่โดยแรกกับขนาดตัวที่เล็กลงมา  ยี่ฟงหุบยิ้มและรีบพุ่งเข้าไปตีมันในขณะที่ยังมีโอกาส  เขาฟันกระบี่ผ่าลงกลางศีรษะทว่าสัมผัสที่ได้รับแทบไม่ต่างอะไรจากฟันก้อนหินจริง ๆ  ยี่ฟงดีดเท้าทะยานถอยหลังหลบหมัดของมนุษย์หินไปได้ฉิวเฉียด  ก่อนจะเรียกใช้เพลงกระบี่ใบไม้ไหวขึ้นมาอีกครั้ง  มนุษย์หินเหมือนไม่ได้สร้างสมองมาด้วย  มันถึงได้เหวี่ยงแขนคิดจะทำลายวิชายุทธ์ที่พุ่งเข้ามาไม่ต่างจากเดิม  ตูม!  ผลลัพธ์ไม่มีอะไรเปลี่ยน  แขนของมันแตกกระจายเว้าแหว่งอีกครั้ง

    รอบนี้ยี่ฟงไม่เปิดโอกาสให้มันได้ซ่อมแซมตัวเองอีก  เขาทะยานเข้าทิ่มแทงกระบี่ใส่รัว ๆ ทว่าคมกระบี่ทั้งหมดไม่สามารถทะลุผ่านผิวอันแข็งแกร่งของมันไปได้  แต่ว่าหนึ่งในการโจมตีนับไม่ถ้วนเหล่านั้นกลับทะลุผ่านไปได้ตรงตำแหน่งข้อต่อที่ประกอบขึ้นมาจากดินทราย!

    จุดอ่อนของแกสินะ

    ยี่ฟงกล่าวข่ม

    แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะโจมตีให้โดนจุดอ่อนของมนุษย์หิน  รอยต่อที่เกิดขึ้นจากดินทรายมีขนาดเล็กมากและยังมีหลายส่วนด้วยกัน

    ยี่ฟงโยกตัวหลบหมัดที่กระแทกเข้ามาก่อนจะยกฝ่าเท้ายันโครมออกไป  ทุกความเสียหายที่เกิดขึ้นมีผลทำให้เศษดินทรายกระจายออก  ร่างของมนุษย์หินก็ลดขนาดลงมาเรื่อย ๆ  กระทั่งยี่ฟงตัดสินใจเก็บกระบี่เปลี่ยนมาใช้หมัดเท้าเพื่อง่ายต่อการเคลื่อนไหวในระยะประชิด  จะอย่างไรยี่ฟงก็ไม่ได้เชี่ยวชาญการใช้อาวุธมีคมอยู่แล้ว

    ยี่ฟงพุ่งเข้าประชิดอีกครั้ง  พอหลบหมัดอีกฝ่ายได้แล้วจึงสวนหมัดกระแทกกลับไปบ้าง  จากนั้นดีดเท้าส่งตัวเองหลบออกข้างพร้อมกระโดดกลับเข้าไปถีบใส่อย่างรวดเร็ว  การเคลื่อนไหวเข้าออกของยี่ฟงไม่ธรรมดา  เหตุผลหนึ่งก็มาจากท่าเท้าเมฆาซ่อนมังกร  มนุษย์หินแทบไม่อาจสัมผัสตัวชายหนุ่มได้เลย  ตั้งแต่เริ่มการต่อสู้มันก็ถูกอัดอยู่ฝ่ายเดียวจนเตี้ยกว่ายี่ฟงเข้าไปแล้ว

    จวบกระทั่งผิวของมนุษย์หินเริ่มปรากฏร่องรอยแตกร้าวไปทั่ว  มันปล่อยหมัดเข้าโจมตีแต่ทว่ายี่ฟงไม่กลัวอีกต่อไป  เขาเหวี่ยงหมัดกระแทกกลับไปตรง ๆ  ตูม!  แขนทั้งข้างของมนุษย์หินถูกบดขยี้จนแหลก  มันถึงกับถอยหลังไปหลายก้าวพร้อมกับแผ่นหินตามร่างกายหลุดร่วงไปทีละนิด  ยี่ฟงไม่รอช้ากระโดดถีบใส่มันอย่างต่อเนื่องส่งให้ร่างนั้นแยกกระจายร่วงกลับลงพื้นตามเดิม

    เพลเยอร์ยี่ฟงทำการสังหารมนุษย์หินเลเวล 30 สำเร็จ  ได้รับเงิน

    ยังไม่ทันจะให้ยี่ฟงได้เก็บไอเทมที่ดรอป  เสียงของระบบก็แจ้งต่อเนื่องขึ้นว่า

    มนุษย์หินเลเวล 30 โจมตี

    มนุษย์หินเลเวล 30 โจมตี

    มนุษย์หินเลเวล 30 โจมตี

    มนุษย์หินเลเวล 30 โจมตี

    ศัตรูโผล่มาจากทุกทิศทางและพุ่งเข้าโจมตีอย่างพร้อมเพรียง  ยี่ฟงถึงกับตลกไม่ออกเพราะเขาไม่มีวิชายุทธ์สายโจมตีแรง ๆ อยู่เลย  แต่เขาไม่มีทางเลือกนอกจากปักหลักสู้ยิบตา  ตอนนี้ยี่ฟงรู้สึกเหมือนกำลังโดนหินบี้จึงรีบระเบิดพลังปราณผลักดันพวกมันออกไปก่อน  แต่เหล่ามนุษย์หินเพียงไถลครูดไปกับพื้นเล็กน้อยเท่านั้นก่อนจะพุ่งกลับเข้ามาอีกครั้ง

    โซโล่เพลเยอร์มันงานหนักจริงวุ้ย!

    ยี่ฟงบ่น

    ไม่กี่อึดใจต่อมาการปะทะก็เริ่มขึ้น  ยี่ฟงถูกรุมมาจากทุกด้าน  แต่ยังดีที่มนุษย์หินไม่มีท่าโจมตีอื่นอีกนอกจากชกต่อยธรรมดา  ซึ่งแพทเทิร์นการโจมตีก็คล้าย ๆ เดิมทำให้ยี่ฟงพอจะฝืนสังขารหลบหลีกไปได้

    ชายหนุ่มใช้เวลาอยู่เกือบสิบนาทีจึงทำลายมนุษย์หินทั้งหมดลงได้  เขาถึงกับหอบลิ้นห้อยและเสียเวลาพักฟื้นฟูพลังกายไปอีกห้านาทีกว่า

    เมื่อพร้อมยี่ฟงก็ฟาร์มต่อเพื่อจะอัพเลเวลให้ได้  นอกจากมนุษย์หินแล้วเขายังได้เผชิญหน้ากับเหยี่ยวคลั่งที่โฉบลงมาสู้บนภาคพื้นอีกด้วย  มันมีเลเวลอยู่ที่ 32 เท่ากับยี่ฟง  แพทเทิร์นการโจมตีก็คาดเดายากกว่ามนุษย์หินอยู่อีกระดับหนึ่ง  มันถึงกับสร้างบาดแผลให้ยี่ฟงได้เลยด้วยซ้ำ  แต่ไม่ว่าจะลำบากอย่างไรยี่ฟงก็ยังคงผ่านไปได้

    ยี่ฟงใช้เวลาช่วงสายจวบจนถึงช่วงเย็นสลับระหว่างพักฟื้นฟูและต่อสู้  เขาวนอยู่ในบริเวณที่สามารถพบมนุษย์หินและเหยี่ยวคลั่งได้เท่านั้น  เพราะแค่นี้ก็ตึงมือแทบจะไม่ไหวแล้ว  แม้แต่น้ำยาเพิ่มเลือดที่ดองไว้มาตลอดยังถูกใช้ไปครึ่งหนึ่ง  ผลลัพธ์ที่ได้กลับมาก็คือเลเวลที่เลื่อนขึ้นเป็น 34 และไม่มีท่าทีว่ามันจะทะลวงผ่านเป็น 35 ได้สักทีจนยี่ฟงต้องหยุดพักยาว

    ถ้ายังสู้อยู่กับพวกมนุษย์หินและเหยี่ยวคลั่งคงต้องฆ่าพวกมันเป็นสองเท่าจากวันนี้เลยมั้งเนี่ยเลเวลถึงจะอัพ

    ยี่ฟงเอ่ยสันนิษฐานด้วยสภาพร่างกายอ่อนเพลีย  อาหารง่าย ๆ ถูกซัดจนเกลี้ยงและโยนซากไว้ข้างตัว

    เนื่องจากชายหนุ่มรั้งอยู่ในป่า  แสงตะวันยามเย็นจึงไม่อาจส่องผ่านลงมาได้ดีนัก  รอบข้างจึงค่อนข้างจะมืดลงเร็วมากหากเปรียบเทียบในที่โล่งกว้าง  ยี่ฟงเลิกคิดให้ปวดหัวแต่นำเอากองไฟออกมาก่อและรีบตั้งเต็นท์เพื่อจะพักเอาแรงโดยไม่สนอะไรอีก

    กระทั่งชายหนุ่มมุดเข้าไปในเต็นท์และหลับลงอย่างรวดเร็ว

     

    แสงจากกองไฟวูบไหว  สะท้อนเงาของคนกลุ่มหนึ่งพาดผ่านเต็นท์ของยี่ฟงไป  เป็นเวลาเกือบห้าชั่วโมงแล้วที่ยี่ฟงได้สลบไป  บริเวณโดยรอบจึงมีแต่แสงของกองไฟที่เป็นจุดเด่นท่ามกลางความมืดสลัว

    ใช่มันแน่นะ

    ชายผมสั้นเกรียนเอ่ยถามเสียงเบา

    ขอรับ  ข้ารับใช้จากสำนักพยัคฆ์หมอบยืนยันมาแล้ว  เป็นมันแน่ ๆ

    เจ้าทำดีมากที่ยอมเสียเวลาไปตามข้ามา  จะได้ลงมือให้เสร็จงานไปเสียที

    เป็นหน้าที่ของข้าอยู่แล้วขอรับท่านซานจื่อ

    ชายผมสั้นเกรียนที่ถูกเรียกว่าซานจื่อยกฝ่ามือคล้ายเป็นการสั่งให้สมุนหุบปาก  จากนั้นมันสั่งการเสียงเยียบเย็นขึ้นว่า

    ล้อมพื้นที่นี้เอาไว้  อย่าให้มันหลุดรอดไปได้

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×