คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #21 : ร่างจริง =_=
‘วิชายุทธ์วิหคอหังการหลงเหลือเวลาอีก 5 วินาที’
ถ้านับเรื่องความอึดแล้วยี่ฟงแทบไม่น้อยหน้าไปกว่าใครหรืออาจจะอึดมากกว่าคนปกติทั่วไปด้วยซ้ำ สิ่งที่ชายหนุ่มยังขาดไปก็คือทักษะการต่อสู้ แต่เกมนี้ก็พยายามทดแทนให้โดยการดึงศักยภาพของคลื่นสมองออกมาเป็นระดับขั้นตามเลเวลที่เพิ่มสูงขึ้นของตัวละคร
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเหล่าคนที่เรียนศิลปะป้องกันตัวหรือศาสตร์การต่อสู้มาจนช่ำชองเมื่อก้าวสู่โลกลำนำจ้าวยุทธจักรแล้วย่อมไม่พ้นต้องเป็นปีศาจและเทพเซียนอย่างแน่นอน
“โดนขนาดนี้ยังไม่ยอมตายอีกหรือ”
ยี่ฟงกล่าวอย่างแปลกใจ
เนื่องจากหัวหน้าโจรเทียนไห่ถูกอัดจนเละเทะ ร่างของมันก็จมลึกเข้าไปในก้อนหินที่แตกร้าว ถึงขนาดนี้แล้วแต่มันกลับยังมีลมหายใจอยู่ กระทั่งเวลาของการทะลวงขีดจำกัดหมดลง
“ข้า…จะไม่ยอมตาย…เพียงลำพัง!!”
เทียนไห่ที่คล้ายก้มหน้าหมดสติไปกลับคำรามลั่นออกมา
ยี่ฟงซึ่งกำลังก้มลงเก็บกระบี่ของตัวเองจำต้องถอยออกห่างอย่างระวัง สายตาจ้องอยู่ที่ศัตรูแน่นิ่งก่อนจะสังเกตเห็นมันรวบกำกระบี่แน่นขึ้น จากนั้นร่างที่ฝังติดอยู่ในก้อนหินพลันปรากฏไอพลังสีขาวหมุนไปรวมกันอยู่ที่กระบี่เพียงจุดเดียว โดยไม่ต้องให้สัญชาตญาณเตือนอะไร ยี่ฟงก็ตระหนักถึงอันตรายร้ายแรงได้แทบจะทันที!
“โธ่เว้ย! ตายยากเหลือเกิน”
ยี่ฟงตัดสินใจเลือกที่จะหันคมกระบี่พุ่งเข้าหาแทนที่จะหลีกหนีออกห่าง ที่เป็นเช่นนี้เพราะเขาไม่ทราบว่าจะหนีพ้นหรือไม่ แต่หากปลิดชีพมันได้ก่อนที่มันจะทันได้ลงมือทำอะไรย่อมแน่นอนกว่า จะอย่างไรเทียนไห่มันก็เป็นแค่เป้านิ่ง ๆ
“หนึ่งกระบี่ทัวร์นรก!
ย๊ากกก!!”
ยี่ฟงกล่าวชื่อท่าให้มันดูเท่
ๆ ไปอย่างนั้นพลางร้องตะโกนข่มขวัญไปด้วย
กระทั่งชายหนุ่มบรรลุเป้าหมาย คมกระบี่เสียบแทงกลางทรวงอกของหัวน้าโจรเทียนไห่จนทะลุไปกระทบหิน มันกระอักโลหิตคำโตทว่ายังคงเหลือลมหายใจสุดท้าย
“ตายซะไอ้บัดซบ
พยัคฆ์ขาวทวงแค้น!!”
เทียนไห่กล่าวเสียงสั่นก่อนจะตายลงในที่สุด ทว่าไอพลังสีขาวกลับยังคงไม่สลายไปอย่างที่คิด กลับกัน
มันพวยพุ่งขึ้นมาจนดูคล้ายเป็นพยัคฆ์ก่อนกระแทกผ่านร่างของยี่ฟงไปราวกับหมอกควันอย่างรวดเร็ว
อ๊ากกก!
ยี่ฟงส่งเสียงร้องเจ็บปวด ร่างเขากระเด็นถอยหลังกลับออกไปไกลเกือบห้าเมตร โลหิตพุ่งจากปากเป็นสายอย่างน่ากลัว จากนั้นยังกลิ้งไถลไปกับพื้นอีกหลายตลบเลยทีเดียว กลุ่มเหนือฟ้าที่สังเกตการณ์อยู่ไม่ห่างพากันตกใจ พวกเขารีบวิ่งเข้าไปดูอาการของยี่ฟงในทันที
“ตายหรือยังวะไอ้หนุ่ม!”
มังกรเฒ่าเอ่ยปากขึ้นมาเป็นคนแรก
“ดูเหมือนเขาจะหมดสติไปนะคะ”
มุกทิวากล่าวขึ้น
“เมื่อกี้มันอะไรน่ะ วิชายุทธ์หรือ!?”
หยกราตรีกวาดสายตามองไปทางที่ไอพลังสีขาวเพิ่งสลายหายไปอย่างระแวดระวัง
“เรื่องอื่นเอาไว้ก่อนเถอะ รีบพายี่ฟงเขาไปพักฟื้นยังที่ปลอดภัยจะเป็นการดีกว่า”
เหนือฟ้าแนะนำทุกคนอย่างมีสติ มังกรเฒ่าจึงอาสาพยุงร่างของชายหนุ่มกลับเข้าไปที่ตัวหมู่บ้าน ส่วนหยกราตรีขอแยกไปจัดการปลิดชีพคู่หูนรกให้สิ้นเรื่องสิ้นราวไป หลังจากทรมานพวกมันทั้งสองมาสักพักหนึ่งจนพึงพอใจกันแล้ว
“ได้เวลาตายของพวกแกแล้วไอ้นกสองหัว”
หยกราตรีกล่าวขึ้น
“น…น้องหยก
ไว้ชีวิตพี่เถอะ
ตายแต่ละครั้งเลเวลลดตั้งห้าเชียวนะ”
จอมทัพกระบี่ดำเอ่ยคร่ำครวญ
“มีปากก็พูดไปเรื่อยจริง ๆ น่าสมเพช!”
หยกราตรีเมินเฉยไม่มีความรู้สึกสงสารใด
ๆ เธอจัดการแทงหัวใจคนทั้งสองส่งพวกมันกลับไปเกิดใหม่อย่างไม่ลังเล
หนึ่งชั่วโมงต่อมา
ยี่ฟงลืมตาตื่นพร้อมร้องครางเพราะปวดระบมไปทั่วร่าง เวลานี้เขานอนอยู่บนเตียงภายในบ้านหลังหนึ่ง
“หือ
ความรู้สึกนี้มัน…พลังลมปราณนี่”
หลังจากลุกขึ้นนั่งได้ครู่หนึ่งยี่ฟงก็พึมพำออกมา สัมผัสในตอนนี้แทบไม่มีอะไรแตกต่างจากตอนที่เขาทะลวงขีดจำกัดแม้แต่น้อย พลังลมปราณยังคงอยู่เพียงแต่ความแข็งแกร่งของเขาลดลงมาเท่านั้น
ยี่ฟงรีบเปิดดูข้อมูลทักษะวิชายุทธ์ของตัวเองอย่างประหลาดใจ กระทั่งพบเห็นทักษะระเบิดพลังปราณยังคงเดิม
“แบบนี้ฉันก็ปะทะกับพวกเลเวล 34 ได้สบาย ๆ เลยมั้งเนี่ย”
ขณะที่ยี่ฟงกล่าวปนหัวเราะกับตัวเอง เหนือฟ้าและมังกรเฒ่าก็เปิดประตูเข้ามา
“รู้สึกตัวแล้วนี่หว่า”
มังกรเฒ่าทักขึ้นมา
“เป็นยังไงบ้างครับ นี่ไอเทมที่ดรอปมาจากหัวหน้าโจร พวกเราเก็บมาให้เรียบร้อยแล้ว”
เหนือฟ้ากล่าวพลางวางไอเทมที่ว่าลงบนโต๊ะตัวหนึ่ง เห็นดังนั้นยี่ฟงจึงเอ่ยขอบคุณก่อนจะถามขึ้นว่า
“ฉันพลาดไปโดนอะไรเข้าถึงได้หมดสภาพขนาดนี้กัน”
“นี่ไงล่ะ
วิชายุทธ์คลาส C พยัคฆ์ขาวทวงแค้น”
มังกรเฒ่าคว้าคัมภีร์สีขาวขึ้นมาโบกไปมาตรงหน้า พอเห็นสีหน้าฉงนของชายหนุ่มจึงอธิบายให้ฟังว่า
“มันก็คือวิชายุทธ์ก้นหีบของหัวหน้าโจรนั่นแหละ ความเสียหายที่ได้รับมาจะถูกลดทอนลงกึ่งหนึ่งไปกักเก็บไว้ มันถึงได้ตายยากยังไงล่ะ แถมยังปลดปล่อยพลังที่กักเอาไว้โจมตีออกไปในทีเดียวได้อีกด้วย”
“โกงจังวะครับ”
ยี่ฟงอุทาน แต่มังกรเฒ่าส่ายศีรษะแย้งขึ้นว่า
“ถ้าการต่อสู้จบลงโดยที่เจ้าของวิชายุทธ์นี้ไม่ได้เรียกใช้ออกไป พลังที่กักเก็บไว้มันก็จะสลายไปเองโว้ย เพราะงั้นเมื่อเริ่มการต่อสู้ใหม่ก็ต้องรับตีนเพื่อกักพลังใหม่เช่นเดียวกัน”
“แต่มันก็ได้เปรียบคู่ต่อสู้อยู่ดีอะลุง ความเสียหายที่ได้รับลดลงกึ่งหนึ่งนี่ ถึกเชี่ย ๆ”
ยี่ฟงยังคงคิดว่ามันเป็นวิชายุทธ์ที่สุดยอดเกินกว่าจะอยู่แค่คลาส
C
“อ้อ
ข้าลืมบอกเงื่อนไขอีกอย่างไป…จริง ๆ มันต้องรอให้พลังชีวิตเจ้าของวิชาเหลือต่ำกว่า 2%
ถึงจะปล่อยพลังที่กักเก็บไว้โจมตีออกไปได้”
มังกรเฒ่ากล่าวอย่างเสียดาย เพราะในการต่อสู้ระดับสูงมันเป็นเรื่องยากที่จะรักษาชีวิตไว้จนเข้าเงื่อนไข
“ฉันยกให้ลุงแล้วกัน”
ยี่ฟงเอ่ยปากอย่างไม่ใส่ใจ กระทั่งเหนือฟ้ายังต้องอึ้งไปเหมือนกัน
“ไอ้ตัวแสบ
ข้าไม่ใช่เพื่อนที่เอ็งจะมาล้อเล่นแบบนี้นะโว้ย”
มังกรเฒ่ามีสีหน้าไม่เชื่อถือโดยสิ้นเชิง
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า
ฉันไม่ได้ล้อเล่นนะ แต่วิชายุทธ์เล่มนี้ไม่เหมาะกับฉัน”
ยี่ฟงตอบท่าทางขบขัน
“มีอะไรไม่เหมาะวะ!?”
มังกรเฒ่าจี้ถาม ส่วนเหนือฟ้าเองก็อดที่จะกล่าวขึ้นมาไม่ได้ว่า
“วิชายุทธ์คลาส C ความสามารถหายากแบบนี้นายไม่ควรทิ้งขว้างนะ”
ยี่ฟงฉีกยิ้มไม่ยี่หระพลางเสยผมอย่างวางท่าพร้อมตอบกลับทั้งสองคนไปว่า
“ฉันไม่ใช่สายแทงค์รับตีนอะ หล่อ ๆ เท่ ๆ อย่างฉันมันต้องวิชายุทธ์สายโจมตีอลังการ สาว ๆ เห็นก็ต้องกรี๊ด”
“ถุย!
กรีดร้องผวาสิไม่ว่า…สรุปเอ็งไม่เปลี่ยนใจแน่นะ!?”
มังกรเฒ่าประชดและถามยืนยันดูอีกครั้ง ส่วนเหนือฟ้ายังคงอึ้งในความมั่นหน้าที่ยี่ฟงแสดงออกมาไม่หาย
ยี่ฟงพยักหน้ายืนยันก่อนจะกวาดสายตามองดูไอเทมอื่น
ๆ บนโต๊ะ แต่นอกจากเงินแล้วเขาก็ตัดสินใจยกให้กลุ่มเหนือฟ้าไปทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นกระบี่คลาส D ชุดเกราะเบาคลาส E และอื่น ๆ
ยี่ฟงคิดว่าของพวกนี้ไม่ค่อยมีประโยชน์กับเขาเท่าไรนัก สู้ใช้มันซื้อใจเพื่อน ๆ กลุ่มแรกนี้ยังดีกว่า
จากนั้นเหนือฟ้าก็เล่าสถานการณ์ในตอนนี้ให้ยี่ฟงได้ทราบ หลังหัวหน้าโจรเทียนไห่และน้องเล็กเทียนหยุนของมันถูกสังหาร เหล่าสมุนโจรที่เหลือรอดก็พากันหนีหายแตกกระเจิง ชื่อของกองโจรภูเขาเองย่อมหายไปแล้วเช่นกัน
สำหรับมอนสเตอร์ที่ตายก็จะถูกรีเซ็ตเป็นค่าเริ่มต้น ทั้งพลังและความทรงจำล้วนสาบสูญไม่หลงเหลือ
เช้าวันใหม่ ยี่ฟงกับเพื่อน ๆ รวมถึงชาวบ้านส่วนหนึ่งก็ออกเดินทางตรงไปยังผาเทวะวิญญาณเพื่อแจ้งเรื่องราวให้กลุ่มชาวบ้านที่ลี้ภัยอยู่ได้ทราบ การเดินทางปลอดภัยมากขึ้นแทบไม่ต้องปะทะกับมอนสเตอร์เท่าไรนัก ต่างจากช่วงแรกที่พวกเขาเพิ่งมาถึงป่าแห่งนี้ได้อย่างไม่น่าเชื่อ
ซึ่งก็ต้องกราบดอกไม้หมาป่าราตรีอันลี้ลับ ผู้อยู่เบื้องหลังความสะดวกสบายของคนทั้งหมดในเวลานี้
จนกระทั่งเที่ยงวันยี่ฟงก็นำทุกคนมาถึงผาเทวะวิญญาณ
ครอบครัวที่แยกจากกันมาเป็นเวลาช่วงหนึ่งต่างพากันวิ่งเข้าโอบกอดอย่างโล่งอก รอบบริเวณเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะปนร่ำไห้ บรรยากาศภายในป่าทึบพลันผ่อนคลายและมีแต่ความยินดีตลบอวลไปทั่ว
“ข้าลู่เหวินขอเป็นตัวแทนชาวบ้านทั้งหมด พวกเราซาบซึ้งและสำนึกบุญคุณอันยิ่งใหญ่ของท่านยิ่งนัก แน่นอนว่าพวกเราจะไม่มีวันลืมบุญคุณครั้งนี้เด็ดขาด หากมีวาสนาได้ทดแทน ข้าและชาวบ้านทุกคนจะไม่มีวันปฏิเสธท่าน”
ลู่เหวินชายร่างใหญ่กล่าวเสียงดังชัดเจน แววตาของชาวบ้านทั้งหมดเองก็มุ่งมั่นและหวังว่าสักวันจะได้ทดแทนบุญคุณ
“หวังว่าพวกเจ้าคงไม่ต้องมาลำบากเพื่อข้าเช่นนั้น”
ยี่ฟงกล่าวด้วยรอยยิ้มจริงใจ
“การทดแทนบุญคุณไม่นับเป็นเรื่องลำบากอะไร”
ลู่เหวินรีบกล่าวขึ้นอย่างเคารพ
ยี่ฟงได้แต่ส่ายศีรษะจนปัญญาจึงเลือกจะเอ่ยตัดบทขึ้นว่า
“พวกเจ้าจงกลับไปที่หมู่บ้านเถิด ทางพวกข้าเองก็จะเดินทางกลับเมืองจงหยางแล้วเช่นกัน…อ้อ! อย่างที่ข้าได้บอกไว้
หลานเหอและมารดาของนางยังต้องร่วมเดินทางไปกับพวกข้าด้วย”
ซวงหลานเหอจูงมารดาของนางก้าวออกมาเบื้องหน้าโดยไม่ปฏิเสธอะไร
เด็กสาวสบจ้องตากับยี่ฟงครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวขึ้นว่า
“ข้าอยากจะให้พวกท่านผู้มีพระคุณได้ยลโฉมร่างแท้จริงของพวกข้าก่อนจะจากลา”
“ร่างแท้จริง!?”
หยกราตรีเอ่ยอย่างแปลกใจ
ชาวบ้านพากันแสดงสีหน้าวิตกกังวลอยู่ชั่วครู่ แต่ไม่ช้าพวกเขาก็ตัดสินใจเชื่อมั่นในเทพวิหค จากนั้นร่างของทุกคนก็ปรากฏละอองแสงฟุ้งออกมา จากความรู้สึกของกลุ่มเพลเยอร์แล้วมันงดงามมากจนยากจะละสายตา ละอองแสงหลากสีเมื่อลอยสูงขึ้นจนถึงระยะหนึ่งแล้วจึงค่อย
ๆ สลายไป กลับกลายเป็นว่ารูปลักษณ์ของชาวบ้านเบื้องหน้าเปลี่ยนแปลงไม่เหมือนเดิม แม้บางส่วนจะยังคงเป็นมนุษย์อยู่ก็ตาม
หูของพวกเขาไปโผล่อยู่บนศีรษะและหางยาวต่างสีกันออกไป บนแก้มทั้งสองเองยังมีหนวดยื่น มันดูคล้ายกับว่า…
“ห…หูแมว!? แถมหางแมวนั่นอีก!!”
หยกราตรีผู้ตกเป็นทาสแมวสามารถมองออกได้ในแวบเดียว
“เอิ่ม…นี่มันเรื่องอะไรกันวะ!?”
มังกรเฒ่าเกาหัวอย่างสับสนมึนงง ชายแก่ไตร่ตรองซ้ำดูแล้วจึงมั่นใจมากว่าตัวเองไม่ได้กำลังเล่นเกมน่ารักแนวโมเอะ
ๆ อะไรเทือกนั้นแน่นอน
ผิดกับยี่ฟงซึ่งเผยยิ้มบาง ขณะเอ่ยขึ้นว่า
“คิดแล้วไม่ผิด
มันจะเป็นไปได้ไงที่มนุษย์จะอาศัยอยู่ท่ามกลางป่าเขาอันตรายแบบนี้ได้ ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
ความคิดเห็น