คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #19 : ปะทะเดือด
เมื่อเป็นเช่นนี้ยี่ฟงจึงอยู่เฉยเนียนปะปนไปกับเหล่าชาวบ้านที่มามุงดู แน่นอนว่าหากกลุ่มเหนือฟ้าและมังกรเฒ่ามีอันตราย เขาย่อมยื่นมือเข้าช่วยเหลือในทันที
แต่ก่อนอื่นสมควรปล่อยให้พวกหมาบ้ามันกัดกันเองทอนพลังกายไปเรื่อย ๆ จะดีกว่า
“คิดว่าเป็นฝีมือของยี่ฟงหรือเปล่าคะลุง!?”
มุกทิวาถามเสียงเบา
ความวุ่นวายภายในป่าดูแล้วคนคนเดียวไม่สมควรกระทำได้
“จะมีใครอื่นอีกหรือ แม้ข้าจะไม่รู้ยี่ฟงมันใช้วิธีไหนถึงป่วนไปทั่วป่าได้พร้อม
ๆ กันก็เถอะ”
มังกรเฒ่าตอบอย่างมั่นใจ
“ถ้าเป็นฝีมือของยี่ฟงจริง ก็นับว่าเขาเป็นคนที่สุดยอดไปเลยนะครับ”
เหนือฟ้าเอ่ยขึ้นมาแววตาดูตื่นเต้น
ส่วนหยกราตรีไม่ได้กล่าวอะไร เธอเพียงจ้องเข้าไปภายในป่ามืดมิดอย่างคาดหวัง
“พวกเอ็งอย่าเพิ่งย่ามใจ เตรียมตัวให้พร้อมไว้จะดีกว่าเพราะบางทีไอ้ตัวแสบมันอาจกำลังหาวิธีช่วยเราอยู่ก็ได้”
มังกรเฒ่าแนะนำ สายตาก็จับจ้องอยู่ที่สถานการณ์อึดอัดตรงหน้า
ขณะนี้หัวหน้าโจรตัวจริงหรือเทียนไห่ได้ตัดสินใจก้าวเดินเข้าไปหาไอ้หอกหักแล้ว แม้น้องเล็กของมันจะอยู่ในกำมือฝ่ายตรงข้ามก็ดูท่าทางจะไม่เป็นปัญหาสำหรับมันแต่อย่างใด
“หยุดเดี๋ยวนี้!
ถ้าแกเข้ามาอีกก้าวเดียวฉันลงมือแน่!!”
หอกหักคำรามข่มขู่
แต่พริบตานั้นเทียนหยุนที่คล้ายสิ้นท่าไปแล้วกลับดิ้นรนขัดขืน มันเหวี่ยงศีรษะตัวเองกระแทกใส่ปลายคางไอ้หอกหักจนเกิดเสียงดังกึก แม้ต้องแลกมาด้วยการถูกคมอาวุธเฉือนลำคอแต่แผลก็ไม่ลึกพอจะปลิดชีพมันได้
เห็นดังนั้นหัวหน้าโจรเทียนไห่ก็กระโจนเข้าใส่ราวพยัคฆ์คลั่งอย่างรวดเร็ว หอกหักแทบไม่มีเวลาให้ตั้งตัวเพราะต้องรับมือกับการโหมบุกโจมตีของอีกฝ่าย ส่วนคู่หูนรกเห็นท่าไม่ดีพวกมันก็เตรียมจะหลบหนีแต่เพราะความโลภทำให้เปลี่ยนทิศทางหวังจะไปสังหารเทียนหยุนที่บาดเจ็บสาหัสอยู่อีกด้านเสียก่อน
“พวกแกสองตัวมาช่วยกันก่อนสิโว้ย!”
หอกหักที่สังเกตเห็นรีบตะโกนออกไป
“อย่าหวังจะแตะต้องน้องเล็กข้าได้อีกเป็นครั้งที่สอง!”
หัวหน้าโจรเทียนไห่ระเบิดพลังปราณผลักดันคู่ต่อสู้ออกไป จากนั้นถีบเท้าทะยานร่างเข้าไปขัดขวางคู่หูนรกไว้อย่างทันท่วงทีจนพวกมันทั้งสองต้องเบรกจนตัวโก่ง
“ฮึ!
เป็นแค่จอมยุทธ์ที่ยังไม่ทันได้ฟักตัวก็โอหังถึงเพียงนี้ ตายซะ!!”
เทียนไห่ไม่รีรอ มันฟาดฟันกระบี่หวังผ่าร่างคนทั้งสองให้ขาดเป็นชิ้นแต่คู่หูนรกไม่ยอมง่าย
ๆ จึงบังเกิดการปะทะพัวพันอยู่ครู่หนึ่ง
ทว่าเพียงไม่นานหัวหน้าโจนเทียนไห่ก็มีเปรียบอย่างเห็นได้ชัด ด้วยเลเวลที่มากถึง 35 ทำให้มันปลดล็อคระบบพลังลมปราณจนอยู่เหนือไปอีกขั้น จนแม้แต่ไอ้หอกหักเลเวล 32 ก็ยังห่างชั้น!
ไม่กี่กระบวนท่าจากนั้นคู่หูนรกก็ถูกฟันไปคนละแผล โลหิตสาดกระจายไปตามวิถีกระบี่ ตามติดมาด้วยเสียงร้องเจ็บปวดก่อนที่เทียนไห่จะกระโดดหมุนตัวกลางอากาศฟาดฝ่าเท้ากระแทกเข้าใส่ใบหน้าของพวกมันทั้งสองจนร่างสะบัดล้มคะมำไปกับพื้น
“พวกเจ้าผิดสัญญาคิดทรยศหักหลัง ก็จงตายอย่างน่าสมเพชเสีย!!”
หัวหน้าโจรเทียนไห่กล่าวอย่างเย็นชา
แต่มันยังไม่ทันจะได้ลงมือก็พลันถูกขัดขวางโดยหอกหักที่ทะยานร่างกลับเข้ามาอีกครั้ง
หอกหักได้รับแรงหนุนเสริมจากการพุ่งเข้ามาจึงมีเปรียบในช่วงแรกกระทั่งสามารถผลักดันศัตรูให้ล่าถอยไปได้หลายก้าว แต่เมื่อเท้าของมันสัมผัสพื้นอีกครั้งสถานการณ์ก็พลิกกลับอย่างที่ควรจะเป็น หัวหน้าโจรเทียนไห่วาดกระบี่ทิ่มแทงอย่างลื่นไหลต่อเนื่อง ความชำนาญในด้านวรยุทธเริ่มแสดงผลให้เห็นชัดเจนขึ้นเรื่อย
ๆ แม้เพลเยอร์จะได้รับอานิสงส์จากระบบช่วยให้ตอบสนองได้รวดเร็วว่องไวขึ้นก็ตาม แต่มันก็ขึ้นอยู่ที่ตัวบุคคลด้วยว่าจะมีฝีมือเก่งฉกาจเพียงไร
ไม่ใช่ใครก็สามารถขึ้นสู่จุดสูงสุดภายในเกมนี้ได้เพียงเพราะได้รับความช่วยเหลือเล็ก
ๆ น้อย ๆ ของระบบ…
“จิตใจทะเยอทะยานเอาแต่ได้ของเจ้า มันช่างน่าหัวร่อนัก!”
เทียนไห่กล่าวอย่างสมเพชเวทนา
เปรียบเทียบกับตัวมันแล้วกว่าจะมายืนในจุดนี้ได้ต้องใช้เวลาแสนนาน แม้มันต้องการแผ่ขยายอำนาจมากเท่าไรยังต้องสะกดระงับเอาไว้ การที่มันนำพากองโจรมาปักหลักภายในป่าลึกกันดารเช่นนี้ก็เพียงเพื่อบ่มเพาะพลังให้แข็งแกร่งจนมากพอให้มันสามารถอาละวาดได้ตามใจในภายภาคหน้า
เห็นไอ้หอกหักที่กำลังสิ้นท่าใต้คมกระบี่ของมันแล้วก็อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้
“แผนของเจ้านับว่ารัดกุมยิ่ง แต่โลกนี้ไม่มีอะไรที่แน่นอนหรอกจำไว้…ไอ้ขยะเหม็นเน่า!”
เทียนไห่ถือโอกาสสั่งสอน
ซึ่งนับเป็นการหยามหยันอย่างถึงที่สุดเท่าที่มันจะมอบให้ศัตรูได้!
“ไอ้เชี่ย!
เป็นแค่มอนสเตอร์ในเกมอย่ามาปากดีให้มันมากนัก”
หอกหักตวาดลั่น ใบหน้าของมันปรากฏเส้นเลือดปูดโปน
แต่ไม่ว่าจะร้อนรุ่มและโกรธแค้นเท่าไรไอ้หอกหักก็ยังคงไม่อาจเปลี่ยนแปลงผลลัพธ์ใด
ๆ ได้
ขณะที่หัวหน้าโจรเทียนไห่ระเบิดพลังปราณออกมาอีกครั้งจนศัตรูของมันเสียหลักเซถลา จากนั้นตามติดเข้าไปไม่ให้ตั้งตัวพร้อมทิ่มแทงกระบี่ไปทั่วร่างอย่างอำมหิต แต่เพียงสร้างได้แค่แผลเดียวก็พลันถูกคู่หูนรกขัดขวางอย่างน่ารำคาญ
เทียนไห่จำต้องถีบร่างไอ้หอกหักออกไปก่อนและหันมารับมือกับมดปลวกสองตัวอีกทาง มันเคลื่อนร่างว่องไวปะทะสวนคู่หูนรกกลับไปอย่างไม่เกรงกลัว ด้วยเลเวลที่สูงกว่ารวมถึงมีวิชาตัวเบาขั้นพื้นฐานหนุนเสริม พริบตาผลลัพธ์ก็ปรากฏ
อ๊ากกก!
คู่หูนรกส่งเสียงกรีดร้อง
“ดูเหมือนพวกเจ้าจะร่ำเรียนวิชายุทธ์กายาเหล็กมาสินะ แต่เมื่อยืนอยู่ต่อหน้าข้ามันก็ไม่ต่างอะไรจากผ้าบาง
ๆ”
เทียนไห่กล่าว สัมผัสที่มันได้รับจากการโจมตีทำให้พอจะคาดเดาได้
หากไม่ใช่ว่าคู่หูนรกเลเวลต่ำกว่ามากจนเกินไป เทียนไห่มันย่อมไม่พ้นต้องพบเจอความลำบากอย่างแน่นอน
“อย่าเพิ่งรีบฆ่าไอ้สองตัวนั่นนะโว้ย!
ค่อย ๆ ตัดแขนขามันออกให้ข้ารู้สึกสะใจหน่อยเถอะ”
มังกรเฒ่าที่เงียบมาพักใหญ่พลันส่งเสียงอ้อนวอน
“ใช่
โจรอย่างพวกแกน่าจะถนัดเรื่องพวกนี้อยู่แล้วนี่”
หยกราตรีเห็นดีด้วยจึงเอ่ยปากเสริมส่งอีกเสียง
“หุบปาก!!”
เทียนไห่ตวาดและจับจ้องด้วยสีหน้าไม่พอใจ
“พวกเจ้าเป็นแค่เชลยไม่มีสิทธิ์อะไรในที่นี้ อีกอย่างข้ามีสำนึกพอจะตัดสินเรื่องราวเองได้”
เทียนไห่ไม่พูดเปล่าแต่ลงมือฟันขาข้างหนึ่งของจอมทัพกระบี่ดำจนขาดสะบั้น เสียงร้องคร่ำครวญมาพร้อมกับโลหิตเจิ่งนอง
“เยี่ยม!
สะใจข้าเป็นบ้า ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
มังกรเฒ่าเผยยิ้มออกมาได้
จากนั้นไม่กี่อึดใจขุนพลทะเพลิงก็ถูกฟันแขนขาดไปข้างคล้าย
ๆ กัน
“ไอ้ฉิบหาย…เอ๊ย! ไหนแกบอกคิดเองได้วะ”
จอมทัพกระบี่ดำร้องถามพลางใช้สองมือกดบริเวณต้นขาเอาไว้ ส่วนคู่หูมันก็มีสภาพไม่ต่างกัน
หัวหน้าโจรเทียนไห่เมินคนทั้งสอง มันเลือกทะยานร่างเข้าไปประชิดไอ้หอกหักที่ยังคลานอยู่กับพื้น จากนั้นใช้ฝ่าเท้ายกร่างมันขึ้นมานอนหงาย
“ข้าจะมอบความกลัวให้เจ้าจนไม่กล้าที่จะกลับมาที่นี่อีก”
เทียนไห่กล่าวอย่างไม่รีบเร่งก่อนที่มันจะลงมือทิ่มแทงกระบี่ใส่ร่างไอ้หอกหักนับครั้งไม่ถ้วน
ทว่าอีกด้านหนึ่ง ยี่ฟงก้าวออกมาจากกลุ่มชาวบ้านอย่างเชื่องช้าโดยมีเป้าหมายอยู่ที่การปลดพันธนาการให้แก่พวกเหนือฟ้า แน่นอนว่าไม่มีใครกล้าส่งเสียงแม้จะสังเกตเห็นยี่ฟงแล้วก็ตาม ท่ามกลางเสียงร้องโหยหวนของไอ้หอกหักจนเมื่อเสียงนั้นสาบสูญไปจนสิ้น เชลยทั้งสี่จึงถูกปล่อยเป็นอิสระในเวลาไล่เลี่ยกัน
“รีบฟื้นฟูร่างกายเร็วเข้า จากนี้ฉันต้องการให้พวกนายช่วย”
ยี่ฟงสั่งการเสียงเข้ม
“จะให้พวกฉันช่วยอะไรหรือคะ”
มุกทิวาเอ่ยถามด้วยสีหน้าสำนึกขอบคุณ
“ไม่ยาก ๆ
ก็แค่รอรับมือกับสมุนโจรภูเขาที่ไม่รู้ว่าจะกลับมาที่นี่อีกเมื่อไรเท่านั้น”
ยี่ฟงตอบกลับยิ้ม
ๆ
“นายจะบ้าหรือ! สมุนโจรภูเขามีกันครึ่งร้อยเชียวนะ”
หยกราตรีท้วงขึ้นมา
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า
ฉันเคยบอกเธอไปแล้วไงหยกราตรี
เธอต้องคิดให้มากกว่านี้”
หญิงสาวมีสีหน้าบึ้งตึงทันทีเมื่อได้ฟังยี่ฟงตอบมาง่าย
ๆ แถมยังกวนตีนไม่รู้เวลาอีกต่างหาก
“แล้วเอ็งจะไหวแน่หรือ ไหนบอกเลเวลแค่ 30 ไง
ไอ้บอสตัวนั้นเลเวลตั้ง 35 เชียวนะโว้ยเดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน”
มังกรเฒ่ากล่าวขึ้นมาบ้างหลังจากทำการกระดกน้ำยาเพิ่มเลือดไปหลายขวด
คนอื่น
ๆ ที่เงี่ยหูฟังอยู่ตลอดพากันตาโตเท่าไข่ห่าน
“อีตาเนี่ยน่ะนะเลเวล 30 สารรูปดูไม่มีแววจะเป็นยอดฝีมือได้เลยอะลุง”
หยกราตรีสำลักน้ำยาเพิ่มเลือดจนหมดสวย
แต่ทว่าการสนทนาที่คล้ายพวกเขากำลังมาพักร้อนก็ต้องหยุดลง หัวหน้าโจรเทียนไห่เมื่อสังหารไอ้หอกหักไปแล้วมันก็กวาดสายตาจ้องมาทางนี้ทันที
“กล้าดีอย่างไรถึงปลดเชลยของข้าลงมา!?”
เทียนไห่กล่าวถามเสียงเหี้ยม
“โทษทีว่ะ
ฉันเห็นแกกำลังยุ่งเลยไม่อยากรบกวนน่ะ”
ยี่ฟงตอบกลับไปน้ำเสียงยียวน
“ไอ้ตัวแสบ!
ข้าพูดจริงนะโว้ย
อย่าได้ประมาทซะล่ะ”
มังกรเฒ่าอดไม่ได้ที่จะต้องเตือนขึ้นมาอีกครั้ง
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า
เดี๋ยวฉันจัดการมันเอง
ส่วนลุงไปเอาคืนไอ้ยักษ์โง่สองตัวนั่นดีกว่าไหม”
ยี่ฟงชี้ทางให้คนทั้งสี่พร้อม
ๆ กัน ส่งให้คู่หูนรกที่ทำเนียนหุบปากเงียบพากันสะดุ้งโหยง
ขณะเดียวกันหัวหน้าโจรเทียนไห่พลันรู้สึกเสียหน้าเพราะถูกเมิน มันแยกเขี้ยวพุ่งทะยานเข้าหายี่ฟงราวพยัคฆ์คลั่งเสียสติ สัญชาตญาณบ่งชี้ว่าชายหนุ่มแปลกหน้านี้อ่อนแอกว่ามันอยู่ขั้นหนึ่ง!
ทว่ายี่ฟงซึ่งหยัดยืนอยู่ด้านหน้ากลุ่มเพื่อนไม่ได้กดดันอะไรนัก เขาเพียงเอ่ยเรียกใช้วิชายุทธ์แรกของตัวเองสั้น ๆ
“วิหคอหังการ”
ไม่ช้าคลื่นพลังลี้ลับก็พวยพุ่งออกมาจากร่างของยี่ฟง ก่อนหน้านี้เขาสังหารสมุนโจรภูเขาไปกว่าครึ่งรวมถึงสัตว์อสูรยิบย่อยตามรายทาง อีกทั้งชายหนุ่มยังลอบไปปลิดชีพเทียนหยุนที่เป็นมอนสเตอร์เลเวล
27 มาเป็นลำดับแรกโดยไม่มีใครทันได้สังเกตเห็น ก่อนจะกลับมาช่วยเชลยเสียอีก
บัดนี้เลเวลของเขาจึงเลื่อนเป็น
32 พอได้รับการหนุนเสริมด้วยวิชายุทธ์ขีดจำกัดก็พลันถูกทำลาย
ยี่ฟงมีเวลา
5 นาที ด้วยระดับเลเวล
35 เท่ากับอีกฝ่าย
การเปลี่ยนแปลงกะทันหันนี้ดึงดูดสายตาผู้คนทั้งหมด กระทั่งหัวหน้าโจรเทียนไห่ยังต้องหยุดชะงักงัน
‘เพลเยอร์ยี่ฟงสำเร็จในการเลื่อนเลเวลขึ้นเป็น 35 ระบบพลังลมปราณจึงได้รับการปลดล็อค’
‘เพลเยอร์ยี่ฟงได้รับทักษะระเบิดพลังปราณ’
ความคิดเห็น