ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ทะลุฟ้า ป่วนยุทธภพ (สถานะ จบไตรภาคแรก)

    ลำดับตอนที่ #143 : พิชิตเสาหลัก (3)

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 10.31K
      1.07K
      16 ก.ย. 61

    ยี่ฟงไม่ได้ตอบกลับในทันที เขายกไหสุราขึ้นกรอกปากตัวเองก่อนถึงค่อยกล่าวว่า ถ่วงเวลาไว้หน่อย  แขนขวาฉันเกือบจะใช้การได้แล้ว

    ไม่ต้องรอให้บอกซ้ำอีกเป็นครั้งที่สอง  สามมารเฒ่าก็ลงมือเข้าไปถ่วงรั้งบอสเอาไว้ให้ตามคำขอ ส่วนยี่ฟงคลายฝ่ามือซ้ายออกจากแขนขวาที่กำลังฟื้นฟูบิดกลับเข้ารูปอย่างเชื่องช้า  ซึ่งความจริงแล้วขั้นตอนรักษาคืนสภาพมันควรที่จะเร็วกว่านี้ แต่เป็นเพราะจี้สร้อยคอพยัคฆ์มังกรที่ยี่ฟงสวมใส่อยู่ คุณสมบัติของเครื่องประดับชิ้นนี้คอยกดข่มอัตราความเร็วการฟื้นฟูไว้เท่าตัว แลกมาด้วยประโยชน์ใช้สอยที่ค่อนข้างคุ้มค่า เมื่อยี่ฟงแตะสัมผัสจี้สร้อยคอ เขาสามารถที่จะปลดปล่อยสถานะร่างแดงได้อย่างบอสเป็นเวลา 30 วินาที  หมายความว่าค่าความผิดปกติทั้งหมดที่ได้รับจะไม่แสดงผล  ค่าความเสียหายจากพลังโจมตีของศัตรูเองก็จะลดน้อยเบาลงอีกด้วย

    จี้สร้อยคอพยัคฆ์มังกรยังเพิ่มค่าพลังชีวิตสูงสุด  ค่าพลังป้องกัน  และอัตราฟื้นฟูพลังชีวิตให้อีกเล็กน้อย

    หากไม่ใช่เพราะตัวละครยี่ฟงมีอันตราการฟื้นฟูรักษาสูงและความรู้สึกเจ็บปวดที่เกิดขึ้นยังได้อานิสงส์ร่างอมตะกับกระบวนท่าหน้าด้านไร้ยางอายคอยช่วยลดทอนลงล่ะก็  เครื่องประดับชิ้นนี้จะกลายเป็นห่วยแตกสำหรับเขารวมถึงเพลเยอร์ทั่ว ๆ ไปที่ไม่ค่อยได้สวมใส่ไอเท็มที่เน้นสำคัญในค่าพลังการฟื้นฟูรักษาทันที

    ยี่ฟงยังมีแหวนอีกสองวงสวมใส่อยู่ที่นิ้วนางทั้งสองข้าง  ซึ่งเป็นเครื่องประดับอย่างเดียวกันที่ช่วยเพิ่มพลังชีวิตสูงสุด  ค่าพลังป้องกัน  และอัตราฟื้นฟูพลังชีวิตให้กับตัวละครไม่ต่างกัน  ยี่ฟงจงใจเลือกมาเพื่อใช้ลดผลเสียของจี้สร้อยคอพยัคฆ์มังกรโดยเฉพาะ  นั่นรวมถึงรัดเกล้าเงินบนศีรษะด้วย  เพียงแต่รัดเกล้าชิ้นนี้ยังมีคุณสมบัติเพิ่มเติมอีกอย่างหนึ่งคือ ไอเท็มทั้งหมดที่สวมใส่อยู่บนร่างหลังจากเปิดใช้งานแล้วจะได้รับค่าลดคูลดาวน์ 10%  ยามนี้สถานะร่างแดงที่ต้องเปิดใช้งานผ่านจี้สร้อยคอพยัคฆ์มังกรจึงคูลดาวน์เร็วขึ้นกว่าพื้นฐานเดิมเป็น 2.7 นาที

    นอกจากจี้สร้อยคอที่เป็นถึงไอเท็มเครื่องประดับคลาส A แล้ว  แหวนกับรัดเกล้าก็ล้วนเป็นคลาส B ทั้งสิ้น

    ซึ่งการจะหาเสื้อผ้าเครื่องประดับที่มีการบวกเพิ่มพลังกายอยู่แล้วถือว่ายากมาก  เช่นก่อนหน้านี้ที่ชายหนุ่มคัดกรองไอเท็มจากขุมสมบัติแห่งฉางอาน  ก็แทบจะไม่พบเห็นเลยด้วยซ้ำ  ที่เจอก็บวกเพิ่มพลังกายเพียงแค่อย่างเดียว  อีกทั้งยังบวกขึ้นมาไม่มากไปกว่า 2% ที่ถือเป็นค่าสถานะที่ต่ำเตี้ย

    ระหว่างสามมารเฒ่ากำลังปะทะพัวพันอยู่กับบอสแม่ทัพเทพมังกร  ยี่ฟงก็ไม่คิดจะยืนรอเฉย ๆ ถึงได้นำเอากระบี่คลาส A ออกมาเตรียมลอบโจมตีบอส  รอคอยไม่นานโอกาสของเขาก็มาถึง  พลังวิชาปราณเก้ากระบี่เวหาจึงปรากฏขึ้นมารอบกายและโหมทะยานเข้าใส่บอสที่อยู่ในสถานะร่างแดง  เป็นจังหวะที่พวกชายชราทิ้งระยะถอยห่างออกไปพอดี  จากนั้นยี่ฟงยังเรียกใช้คุณสมบัติแฝงของตัวกระบี่  ปลดปล่อยวิชาปราณเก้ากระบี่เวหาโจมตีซ้ำเข้าไปอย่างต่อเนื่องจนเกิดการระเบิดเสียงดังถี่ยิบ

    บอสย่อมไม่อ่อนแอ  มันรีบฟาดกระบี่ยักษ์ผ่ามวลอากาศเฉียงกลับมาทางผู้ลอบโจมตีในพริบตา  ส่งคลื่นพลังอันแหลมคมฉีกกระชากพื้นห้องจนแตกออกเป็นเส้นตรงยาวพุ่งเข้าหายี่ฟง  แน่นอนว่ายี่ฟงไม่มีทางตั้งรับอีกเป็นหนที่สองจึงรีบกระโดดหลบหลีกไปด้านข้างอย่างว่องไว  ในขณะคลื่นพลังจากคมกระบี่ยักษ์ยังคงลากทำลายไปจรดผนังห้องอีกฟากและระเบิดออกส่งแรงสั่นสะเทือนไปทั้งชั้น

    บอสไม่หยุดลงเพียงการโจมตีเดียว  มันถีบเท้าทะยานเข้าหาสามมารเฒ่าต่อเนื่อง เมื่ออยู่ในระยะหวังผลก็ตวัดกระบี่แทงขึ้นฟ้าแฝงกระบวนท่าระบำกระบี่มังกรทะยาน  มารตะกละที่ค่อนข้างเคลื่อนไหวช้ากว่าเพื่อนจึงพลาดพลั้งหลบออกมาจากระยะการโจมตีของบอสไม่ทัน สุดท้ายถูกเกี่ยวงัดติดขึ้นไปกลางอากาศพร้อมกับบอส  โลหิตพุ่งสาดกระจายร่วงหล่นเป็นหยาดฝน ทว่าบอสยังคงสร้างค่าความเสียหายใส่อย่างไม่หยุดยั้ง มันฟาดกระบี่ยักษ์ที่มีร่างของมารตะกละติดอยู่จนหลุดร่วงกลับลงมา และปลดปล่อยคลื่นปราณมังกรฟ้าไล่ล่าตามกระชั้นชิด  พวกมารเฒ่ามีหรือจะยินยอมให้เพื่อนตกอยู่ในสถานะลำบาก  ยามนี้จึงรีบร้อนโจมตีสกัดกั้นใส่พลังปราณมังกรฟ้าเอาไว้เต็มกำลัง แต่ก็เพียงช่วยลดทอนค่าความเสียหายได้ไม่มากก่อนที่ร่างของมารตะกละจะตกถึงพื้นและโดนระเบิดจากปราณมังกรฟ้าถล่มซ้ำจนบริเวณนั้นยุบเป็นหลุมลึก  เศษหินน้อยใหญ่ปลิวฟุ้งไปทั่ว

    ไอ้อ้วน!เฒ่าทารกเรียกอย่างเป็นกังวล  ภูผาเพลิงเองก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันนัก

    แต่พริบตาต่อมาบอสแม่ทัพเทพมังกรที่ทุกคนละสายตาไปก็พลันโถมทะยานดิ่งตามกลับลงมาอีกอย่างรวดเร็ว  สร้างความตกใจให้ทางฝ่ายเพลเยอร์ทุกคนที่ยังรอด  กระบี่ยักษ์ถูกง้างไปข้างหลังสุดแขนเตรียมพร้อมจะผ่าแยกฟ้าดิน!  กลายเป็นการบุกโจมตีเพื่อทำฮิตคอมโบเพิ่มค่าความเสียหายต่อเป้าหมายในจำนวนมหาศาลรวดเดียว

    ทางด้านยี่ฟงซึ่งอยู่ในตำแหน่งดีกว่าใคร  รีบเร่งผลักกระแทกหนึ่งฝ่ามือสามลักษณ์โจมตีขัดขวางดักเส้นทางบอสเอาไว้  พลังปราณพยัคฆ์เหล็กก่อตัวม้วนขึ้นมาเหินทะยานไปข้างหน้าดุจพายุคลั่ง  และทันเวลาหวุดหวิดพอดีก่อนที่กระบี่แยกฟ้าดินของบอสจะพิพากษามารตะกละ  ทำให้ร่างของบอสถูกปราณพยัคฆ์เหล็กโหม่งปะทะอย่างถนัดถนี่และลากติดออกไปกระแทกใส่ผนังห้องดังตูม

    เยี่ยมมาก!” เฒ่าทารกกล่าวชมเชย  ในขณะภูผาเพลิงกระโดดลงไปในหลุมเพื่อช่วยพยุงมารตะกละถอยห่างออกมาจากจุดอันตราย

    เกือบไปเกิดใหม่แล้วไหมล่ะไอ้อ้วน  ฮ่า ฮ่า ฮ่าภูผาเพลิงเอ่ยหยอกล้อเพื่อคลายแรงกดดัน

    ส่วนยี่ฟงเวลานี้กำลังสะบัดแขนขวาไปมาให้เข้าที่เข้าทาง  จากนั้นเปิดใช้หมัดพายุเหล็กพุ่งทะยานฟ้าเป็นเส้นแสงเงาเลือนรางเข้าปะทะบอสแม่ทัพเทพมังกรอย่างอุกอาจดุดัน  บอสที่ยังยืนเกาะชิดผนังอยู่เกือบมุมห้องส่งเสียงหัวเราะเย้ยหยัน กระบี่ยักษ์พลันถูกยกขึ้นตวัดผ่าขวางลำตัวออกไปแสดงให้เห็นว่ามันสามารถตามทันความเร็วได้ไม่ยากทั้งที่ยังเสียหลักอยู่ก็ตาม กระนั้นยี่ฟงไม่เผยอาการหวาดหวั่นใด ๆ ทั้งสิ้น  หลังจากเอื้อมไปแตะจี้สร้อยคอพยัคฆ์มังกรเพื่อเข้าสู่สถานะร่างแดงเรียบร้อยแล้วก็ไม่มีชะลอช้าลง ตามร่างปรากฏไอพลังสีแดงลอยวนรอบกายไม่ต่างกับบอสนัก  กระทั่งคมกระบี่ปะทะเข้ากับหมัดเพลิงเสียงดังกระหึ่ม  คลื่นพลังจากการประสานครั้งนี้กระจายออกเป็นวงพร้อมสายลมโหมกระโชก  ซึ่งเป็นฝ่ายบอสที่เซถลาถอยไปติดผนังห้องดังตึง

    พวกข้าจะแลกชีวิตเพื่อสยบเจ้าลงให้ได้!ยี่ฟงคำรามลั่นเผยเจตจำนงอันแน่วแน่มั่นคง

    ภายในระยะเวลาสามสิบวินาที  ชายหนุ่มระดมหมัดเข้าโจมตีไม่หยุดยั้ง แม้จะถูกบอสสวนกลับมาบ้างแต่ก็ฝืนหลบหลีกรอดไปได้เสียส่วนใหญ่ ซึ่งที่โดนก็ไม่อาจผลักดันให้เขาต้องล่าถอยกลับไปได้  ภาพที่เห็นอยู่นี้ได้สร้างความประหลาดใจให้สามมารเฒ่าชั่วขณะหนึ่งเลยทีเดียว

    สถานะร่างแดง!เฒ่าทารกอุทานเมื่อสังเกตพบ

    เฮ้ย ๆ มันถือเป็นคุณสมบัติที่หายากมากเชียวนะ  แถมข้อจำกัดก็ยุ่งยากอีก  ไม่ใช่ใครก็จะนำมาใช้งานให้เกิดประโยชน์ได้ง่าย ๆภูผาเพลิงกล่าวเสริมด้วยน้ำเสียงและสีหน้าที่อึ้งอยู่บ้าง

    ขณะมารตะตละขอร่วมวงด้วยการฝืนเอ่ยขึ้นว่า ไอ้เด็กนั่นอาจจะได้มาจากขุมสมบัติแห่งฉางอาน แต่คิดไม่ถึง ว่ามันจะเลือกไอเท็มยาก ๆ มาเสริมความแข็งแกร่งให้ตัวละครนะเนี่ย

    เอ็งอย่าเพิ่งพูดมาก!  รีบ ๆ ฟื้นฟูไปก่อนไอ้อ้วนภูผาเพลิงหันกลับมาดุมารตะกละ

    ในจุดปะทะ  ยี่ฟงปลดปล่อยทุกกระบวนท่าพลังวิชาอัดกระแทกใส่บอสเพื่อหวังจะสร้างค่าความเสียหายจนมันต้องเสียศูนย์ กระทั่งสถานะร่างแดงสิ้นสุดลง ส่วนบอสทรุดลงคุกเข่าไปรอบหนึ่งแต่หลังจากหยัดยืนลุกขึ้นมามันก็ส่งเสียงหัวเราะเยาะเย้ยโหมบุกกลับอย่างบ้าคลั่งไม่มีอ่อนกำลังลงให้ได้เห็นสักเศษเสี้ยว!

    ยี่ฟงไม่มีทางเลือกจำต้องยื้อเอาไว้โดยมีเฒ่าทารกกับภูผาเพลิงคอยสนับสนุนอยู่ไม่ห่าง  ส่วนมารตะกละยังคงหลบออกไปพักฟื้นฟูอีกด้านหนึ่ง

    การปะทะดำเนินไปจนเกือบสามนาที  สถานะร่างแดงของยี่ฟงจึงกลับมาใช้งานได้อีกครั้ง  เขาย่อมเป็นหลักให้พวกชายชราโดยการฝืนเข้าไปหวดกับบอสตรง ๆ  หากไม่ใช่ยี่ฟงล่ะก็มีหวังร่างกายฟื้นฟูรักษาไม่ทันไปแล้ว  จำนวนพลังชีวิตสูงสุดที่มีในตอนนี้ก็เป็นอีกหนึ่งแรงที่ช่วยยื้อไม่ให้ชายหนุ่มวูบล้มตายไปแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว  เมื่อยามที่พลาดถูกการโจมตีของบอสเข้าอย่างจนปัญญาที่จะหลบเลี่ยง

    สถานการณ์ระหว่างฝ่ายเพลเยอร์กับบอสแม่ทัพเทพมังกรที่เผชิญหน้าห้ำหั่นกันอย่างดุเดือดเลือดพล่าน  เกิดการวนลูปอยู่อย่างนี้อีกสองสามรอบ  ฝ่ายเพลเยอร์ค่อย ๆ ชินกับความเร็วและกระบวนท่าอันตรายของบอสขึ้นเรื่อย ๆ จนสามารถหลบหลีกได้มากขึ้นก่อนที่สุดท้ายสถานะข้ามเลเวลจากเคล็ดวิหคอหังการครั้งแรกของยี่ฟง  ใกล้จะสิ้นสุดลง  แสดงว่าพวกเขาอยู่ในห้องบอสมาจะครบสิบนาทีแล้วก็ยังไม่อาจล้มมันลงได้!

    ถอยหน่อย!ยี่ฟงเอ่ยปากสั่งการ ซึ่งมารตะกละที่กลับเข้ามาร่วมวงด้วยแล้วพลันถอยออกไปเป็นคนแรกตามด้วยเฒ่าทารกกับภูผาเพลิง  โดยไม่จำเป็นต้องให้เสียเวลาอธิบายสักคำ

    ยี่ฟงไม่รอช้า  ก่อนเลเวลจะลดกลับลงมาเหลือ 65 เขาตั้งใจจะปลดปล่อยกระบวนท่าโจมตีที่รุนแรงที่สุดของตัวเองออกไป  และต้องอยู่ภายใต้สถานะที่ตัวละครแข็งแกร่งที่สุดด้วย  พริบตาที่สามมารเฒ่าอยู่นอกระยะ  พวกเขายังหันกลับมาปลดปล่อยคลื่นปราณมังกรดำเข้ากดดันใส่บอสให้อีกแรง  ขณะที่บอสกวัดแกว่งกระบี่ทำลายปราณมังกรดำทั้งสามสายทิ้ง  ร่างของยี่ฟงก็พลันปรากฏเข้ามาใกล้อย่างกะทันหันโดยที่บอสไม่ทันได้ตั้งตัว  เป็นเพราะเขาอาศัยจังหวะที่ปราณมังกรดำปกปิดมุมมองสายตาของบอสเอาไว้ในเสี้ยววินาทีนั้นเหินทะยานเข้ามา กว่าจะรู้ตัว หมัดขวาที่สว่างเรืองจากยี่ฟงก็เหวี่ยงออกไปจนแนบปะทะลงยังสันจมูกบนใบหน้าที่คลุ้มคลั่งของบอสเรียบร้อยแล้ว

    มวลพลังอันมหาศาลส่องสว่างเป็นสีทอง  กระบวนท่าพิโรธคลั่งในยามนี้ดูจะรุนแรงกว่าทุกทีเมื่อมันถูกใช้ออกโดยตัวละครที่มีพื้นฐานเลเวล 70

    แรงกระทบจากการโจมตีก่อให้เกิดเสียงระเบิดที่ดังสนั่นกึกก้อง  ห้องบอสบนชั้นสูงสุดของวิหารว่างเปล่ากลับกลายเป็นสว่างเจิดจ้าเต็มไปด้วยแสงสีทองส่องทะลุบานกระจกตามจุดต่าง ๆ ออกไปด้านนอกได้เลยทีเดียว  ยังมีการสั่นสะเทือนราวกับแผ่นดินไหวที่แทบจะโยกคลอนตัววิหารทั้งหมด  สุดท้ายเสียงแตกหักนับไม่ถ้วนพลันอุบัติขึ้นพร้อมกัน  ส่งเศษกระจกและเศษหินให้สาดกระจายออกไปจากจุดศูนย์กลางการระเบิดในครั้งนี้

    แต่ทว่า  เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างกลับคืนสู่ความสงบ  ภาพที่สามมารเฒ่าเห็นดันเป็นตัวกระบี่ยักษ์ที่เสียบแทงทะลุร่างของยี่ฟงเอาไว้!  นี่ย่อมไม่ใช่ภาพที่พวกเขาวาดฝันจะได้เห็นโดยสิ้นเชิง  ส่วนเจ้าของกระบี่เล่มนี้อย่างบอสแม่ทัพเทพมังกรกลับยังคงสามารถยืนปักหลักยกกระบี่ที่โดยมีร่างของยี่ฟงค้างคาอยู่ขึ้นมาเบื้องหน้าของตัวเองได้สบาย ๆ ราวกับเมื่อครู่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น  พร้อมกับรอยยิ้มที่เหนือกว่าอย่างไม่เปลี่ยนแปลง!?

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×