ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ทะลุฟ้า ป่วนยุทธภพ (สถานะ จบไตรภาคแรก)

    ลำดับตอนที่ #128 : เสือพึ่งป่าฉันใด ศิษย์ก็ต้องพึ่งอาจารย์ฉันนั้น

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 10.19K
      1.06K
      2 ก.ย. 61

    เกือบครึ่งชั่วโมง กลุ่มของยี่ฟงก็เข้าประชิดตัวนครฉางอานแล้ว  ก่อนหน้านี้พวกเขาตกเป็นเป้าสายตาเหล่าเพลเยอร์มาตลอด กระทั่งการบุกเข้าสู่อาณาเขตมหานครฉางอานเริ่มขึ้น จึงเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์เซ็งแซ่  ส่วนใหญ่จะไปในทิศทางเดียวกันคือเหยียดหยามดูแคลนสติปัญญากลุ่มของยี่ฟง  ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะช่วงเวลาค่ำคืน  อาณาเขตนครฉางอานจะทวีความอันตรายมากขึ้นอย่างเทียบกันไม่ได้ในตอนกลางวัน  เหล่าผู้รุกรานจะตกเป็นเป้าหมายของฝูงนักรบตายซากทันทีตั้งแต่ก้าวแรก  แน่นอนว่าเผ่าอันเดดจะแข็งแกร่งขึ้นอีกเมื่อฟ้ามืด   เพียงเหตุผลเท่านี้ก็ไม่ควรแล้วที่จะบุกเข้าไปในช่วงเวลาที่ว่า

    แต่ทั้งหมดคือแผนการฝึกหฤโหดจากยี่ฟง  ซึ่งเขาย่อมไม่คิดจะไปสนใจเสียงนกเสียงกา

    จากนี้พวกนายสามคนจะไปด้วยกันยังเส้นทางหนึ่งของดันเจี้ยน  ส่วนพวกลุงมารต้องแยกไปฝึกกันคนเดียว  และลุงกรไปกับฉัน ยี่ฟงสั่งการกลุ่มตามที่ตั้งใจไว้อย่างไม่ติดขัด

    พวกเหนือฟ้ารู้สึกเบาใจลงไปบ้างที่ยังได้เกาะกลุ่มกันไว้  แต่ความยากของดันเจี้ยนใต้นครฉางอานเป็นที่เล่าลือไม่น้อย  พวกเขาจึงรู้สึกไม่ค่อยแน่ใจ  ซึ่งยี่ฟงก็สังเกตเห็นจึงรีบกล่าวต่อไปว่า

    ฉันจะช่วยสนับสนุนในด้านข้อมูลต่าง ๆ เชิงลึกให้เอง  รับรองว่าละเอียดจนใครที่ไหนก็สามารถผ่านไปได้ง่าย ๆ เชียวล่ะ

    ทำไมมารเฒ่าอย่างพวกข้าต้องเข้าร่วมฝึกในครั้งนี้ด้วยวะภูผาเพลิงตั้งคำถาม

    ฉันรู้พวกลุงเก่งเทพมากอยู่แล้ว  แต่การผ่านดันเจี้ยนนี้จะช่วยให้ตัวละครของพวกลุงเก่งขึ้นไปอีกยี่ฟงตอบอย่างจริงจัง  สามมารเฒ่าจึงไม่สงสัยอะไรอีก

    ดันเจี้ยนใต้นครฉางอาน  ประกอบไปด้วยสิบเอ็ดด่านค่ายกลและสองห้องโถงสุสานยี่ฟงเริ่มต้นอธิบาย  สองห้องโถงอันเป็นที่เก็บซากนักรบไม่มีอะไรมากนัก  เพียงต้องใช้กำลังฝ่าไปตรง ๆ  รายละเอียดส่วนใหญ่จึงจะไปอยู่กับสิบเอ็ดด่านค่ายกลนรกแตกให้หลังต่างหาก  เมื่อชายหนุ่มบอกเล่าถึงความอันตรายและวิธีแก้ปัญหาเอาตัวรอดในแต่ละด่าน  ทำให้เพื่อน ๆ รู้สึกว่ามันยากกว่าที่จินตนาการไว้หลายเท่าตัว  กระทั่งยี่ฟงชำแหละดันเจี้ยนนี้จนละเอียด  ส่งผลให้ทุกคนเริ่มมีความมั่นใจมากขึ้นที่จะสามารถผ่านมันไปได้

    เมื่อรู้คำตอบของทุกปัญหาแล้ว  ทุกอย่างย่อมง่ายดายขึ้นไม่มากก็น้อย

    เอาล่ะ  ปัจจุบันเลเวลของพวกเหนือฟ้ารวมถึงลุงกรยังไม่แตะห้าสิบเลย  ฉะนั้นการฝึกครั้งนี้จงรีบพัฒนาตัวละครให้ขึ้นไปแตะเลเวล 60 ซะถ้าเป็นไปได้ยี่ฟงกล่าวสรุปในตอนท้ายพลางตีกรอบสร้างมาตรฐานให้เพื่อเป็นแรงผลักดัน

    หวังสูงเกินไปไหม ในเวลากระชั้นสั้นแบบนี้เนี่ยนะหยกราตรีขัดขึ้นหลังจากทำตัวสงบเสงี่ยมมานาน  ขณะที่คนอื่น ๆ ก็มีอาการเห็นด้วยนิด ๆ

    ฉันถึงได้บอกไงล่ะว่า ถ้าเป็นไปได้ยี่ฟงสวนกลับเสียงเรียบ  แสดงท่าทีราวกับไม่ได้คาดหวังอะไรนัก

    นี่ย่อมสร้างความไม่พอใจให้หยกราตรี  ส่วนคนอื่น ๆ รู้สึกแปลกใจตามสัญชาตญาณ

    เกิดอะไรขึ้นกับยี่ฟง?

    พวกเราจะสละเวลาอยู่กับตรงนี้ประมาณสี่วันครึ่งโลกจริง  และจะเหลือเวลาให้อีกเพียงสองวันเกือบสามวันเพื่อใช้ในการบุกเบิกวิหารว่างเปล่า  แยกย้ายไปได้ยี่ฟงไม่แยแสว่าใครจะคิดอะไรยังไงอยู่  เขากำหนดเวลาและสั่งเริ่มปฏิบัติการในทันที

    หยกราตรีที่กำลังฉุนเฉียวย่อมไม่ถามไถ่ให้มากความ  เธอหันหลังเหินทะยานนำออกไปเป็นคนแรก  เหนือฟ้ากับมุกทิวาไม่มีทางเลือกจึงต้องรีบไล่ตามเพื่อนสาวไป  ด้านสามมารเฒ่าก็ไม่รั้งรอให้เสียเวลาอีก  หลังทราบว่ายี่ฟงจะใช้เวลาแค่สองสามวันในการเคลียร์หนึ่งในเสาหลักทั้งห้า  บีบให้เวลาทุกวินาทีจากนี้มีค่ามหาศาลยิ่ง  เมื่อทุกคนไปกันหมดแล้วมังกรเฒ่าถึงค่อยหันมากล่าวกับชายหนุ่มว่า

    ไม่เห็นต้องโหดกับสาว ๆ ขนาดนั้นเลยนี่ไอ้ตัวแสบ

    โธ่ลุง  ที่ฉันสร้างแรงกดดันเกินควรก็เพื่อให้พวกเหนือฟ้ารู้สึกว่าถูกต้อนจนมุม  ฉันก็ได้แต่หวังว่าพวกนั้นจะพยายามกันอย่างหนัก ถึงเวลาที่ต้องทะลวงขีดจำกัดกันบ้างแล้ว” ยี่ฟงตอบขณะทอดสายตามองออกไปอย่างลึกล้ำ

    มังกรเฒ่าส่ายศีรษะก่อนถามจริง ๆ จัง ๆ ขึ้นว่า เอ็งมีความมั่นใจแค่ไหน  ที่ไอ้หนูพวกนั้นจะต้องเก็บเลเวลให้ถึง 60 ภายใต้เวลาที่กำหนด

    ไม่มีสักนิด  แต่ฉันหวังกับลุงไว้มากเลยนะยี่ฟงตอบยิ้ม ๆ และเริ่มออกนำไปยังหนึ่งในเส้นทางลับใต้ดินของมหานครฉางอาน

    ในตัวเมืองฉางอานเต็มไปด้วยนักรบโครงกระดูกคอยเฝ้าอยู่ตามทางเข้าดันเจี้ยน  พวกสามมารเฒ่าที่เลเวลสูงถึงกับแตะ 75 ย่อมไม่มีปัญหา  พริบตาก็ทะลวงฝ่าแยกย้ายกันลงไปคนละเส้นทาง  ตามติดด้วยยี่ฟงกับมังกรเฒ่าที่เกาะกลุ่มไปด้วยกัน ส่วนกลุ่มเหนือฟ้าค่อนข้างหนักตั้งแต่ยังไม่ทันได้ก้าวลงไปภายในดันเจี้ยนใต้ดินด้วยซ้ำ พวกเขาบุกไปข้างหน้าได้อย่างเชื่องช้า  โชคดีเท่าไรแล้วที่ยังไม่ถูกบดขยี้ลงแทบเท้าฝูงนักรบโครงกระดูก  เมื่อผ่านไปห้านาที  กลุ่มเหนือฟ้าถึงเพิ่งจะไขว่คว้าเอาเส้นทางหนึ่งของดันเจี้ยนมาได้   ทำให้สลัดหลุดฝูงมอนสเตอร์ได้เป็นกลุ่มสุดท้ายอย่างหน้าอับอาย  ทั้ง ๆ ที่พวกตนเป็นกลุ่มแรกซึ่งเริ่มเคลื่อนไหวก่อนแท้ ๆ

     

    ค่ำคืนแรกผ่านไปด้วยเรื่องราวอันเข้มข้นสุดจะบรรยาย  ต้อนรับเช้าวันใหม่ด้วยกระทู้ข่าวใหญ่แห่งเมืองหังโจว  ขณะเดียวกันแสงแดดในช่วงนี้ก็ริบหรี่แทบไม่เหลือไอความร้อน  และเหล่าเพลเยอร์ยังคงต้องเผชิญท้องฟ้ามืดสลัวกับสายลมเย็นสะท้านผิวกายอย่างต่อเนื่อง  แม้ขณะนี้ฝนจะหยุดตกไปหลายชั่วโมงแล้วก็ตาม

    ข่าวใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับสามมารเฒ่า  ส่งผลให้ทางกิลด์ใหญ่ทั้งหลายอยู่ไม่สุข  พวกเขาช้าไปอีกก้าว  ไม่ทราบตอนนี้เป็นฝ่ายไหนที่ชิงลงมือก่อนจนได้ตัวสามมารเฒ่าหังโจวไป  สายข่าวจากกิลด์ใหญ่นับไม่ถ้วนต้องวิ่งเต้นสืบความไม่ได้หยุดหย่อน  ผลกระทบนี้ร้ายแรงมากจริง ๆ เพราะใกล้จะถึงวันเปิดงานเทศกาลประจำปีเข้าไปทุกทีแล้ว  ไม่ว่าขั้วอำนาจใดที่เป็นผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้จะต้องกลายมาเป็นม้ามืดอย่างไม่ต้องสงสัย  ซึ่งหากเป็นหนึ่งในห้ากิลด์ใหญ่ขึ้นมาล่ะก็  ย่อมต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงตารางอันดับในรอบสามปีเลยทีเดียว

    คลิปวิดีโอฉากการปะทะที่นักข่าวคนหนึ่งอัปโหลดขึ้นเว็บไซต์  ยอดวิวพุ่งกระฉูดใกล้จะแตะถึงหลักสิบล้านวิวภายในไม่กี่ชั่วโมง  ความแข็งแกร่งของสามมารเฒ่าที่แสดงอยู่ในคลิปนั้น  ตอกย้ำให้เหล่ากิลด์ใหญ่ต้องรู้สึกเจ็บปวดทั้งแสนเสียดายเข้าไปอีกคำรบ  ยังมีบุรุษปริศนาสวมใส่หน้ากาก  คนผู้นี้แน่นอนว่าต้องเป็นคนจากกิลด์ใหญ่สักกิลด์ตามการวิเคราะห์ของเสนาธิการหลายต่อหลายคน

    พวกเขาทำได้จริง ๆจ้าววังเซียนหิมะแห่งวังฟีนิกซ์เยือกแข็งกล่าวขึ้น  หลังจากเพิ่งไล่สายตาอ่านข่าวในหน้าต่างระบบ

    ที่เหลือก็คงต้องรอดูกันต่อไปว่าพวกเขาจะเคลียร์ภารกิจเฉพาะของทางวิหารว่างเปล่าได้ทันไหมเสนาธิการเมฆาอัสนีกล่าวสำทับเน้นในเรื่องสำคัญ  จากนั้นเหล่มองจ้าววังที่ยืนเหม่อลอยก่อนจะกล่าวถามออกไปว่า เราควรจะติดต่อไปบอกยี่ฟงสักหน่อยดีหรือเปล่า  ว่าหนึ่งในเสาหลักที่พวกเขาเล็งไว้  ตอนนี้ถูกทางวังจักรพรรดิชิงลงมือไปก่อนแล้ว

    เรื่องนี้เป็นปัญหาคาใจของเซียนหิมะมาสักพักใหญ่เช่นกัน  ไม่คาดคิดเลยจริง ๆ ว่าทางวังจักรพรรดิเองก็เล็งที่จะยึดครองวิหารว่างเปล่าอยู่เหมือนกัน  คนเหล่านี้ก็ช่างเป็นศัตรูคู่แค้นโดยธรรมชาติ­ของวังฟีนิกซ์เยือกแข็งไปซะทุกเรื่องเสียจริง

    ไม่มีประโยชน์หรอก  ถ้าเกิดต้องเปลี่ยนแผนกะทันหัน  เกรงว่ายี่ฟงจะเตรียมตัวไม่ทันแล้ว  เราคงได้แต่ปล่อยให้มันดำเนินไปแบบนี้อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงเซียนหิมะตอบน้ำเสียงปลง ๆ

     

    เวลาผ่านไปเกือบสามวันโลกจริง  ภายในดันเจี้ยนลับใต้ดิน

    จุดประลองวิชาตัวเบา กลุ่มแรกที่มาถึงรวดเร็วที่สุดก็คือสามมารเฒ่า ทิ้งห่างกันไม่นานยี่ฟงกับมังกรเฒ่าก็ตามมาถึง  สุดท้ายผ่านไปเกือบห้าชั่วโมง  กลุ่มของเหนือฟ้าจึงบรรลุถึงเช่นเดียวกัน  ซึ่งก่อนหน้านี้ยี่ฟงไม่ต้องการให้เสียเวลาเปล่า  จึงอาสาช่วยผ่านด่านประลองปัญญาให้ทุกคน

    คารวะท่านอาจารย์ยี่ฟงผละออกจากกลุ่ม  เดินตรงไปประสานฝ่ามือให้กับชายวัยกลางคนนามว่าเหิงอี  เล่นเอาเพื่อนในกลุ่มที่เยื้องอยู่ข้างหลังอึ้งกันไปหมด

    ไอ้ตัวแสบมันคำนับเอไอเป็นอาจารย์?เฒ่าทารกอุทานออกมา

    เรื่องแบบนี้มันเป็นไปได้ด้วยหรือวะภูผาเพลิงก็แสดงสีหน้าไม่เชื่อถือเช่นกัน

    ระหว่างคนข้างหลังซุบซิบนินทา  เหิงอีก็กำลังปลื้มกับศิษย์สายตรงของเขาจนยิ้มกว้างไม่ยอมหุบ

    เจ้าแข็งแกร่งขึ้นมาก  โดยเฉพาะปริมาณโลหิตมังกรที่กลั่นออกมาแล้วถึง 4 ใน 10 ส่วน  ยอดเยี่ยม  ช่างเป็นศิษย์ที่ขยันหมั่นเพียรอะไรเช่นนี้  ฮ่า ฮ่า ฮ่าเหิงอีกล่าวชมเชยไม่หยุดปาก

    ศิษย์ไม่มีทางทำให้อาจารย์ต้องผิดหวัง  จึงได้ฝึกฝนตัวเองอยู่เสมอไม่มีขาดยี่ฟงย่อมไม่พลาดที่จะก้มลงเลียแข้งเลียขาฝ่ายตรงข้าม

    ท่าทีซึ่งพลิกผันราวกับเป็นคนละคนของยี่ฟง  เล่นเอาเพื่อน ๆ ต้องขยี้เบ้าตาอย่างไม่มั่นใจในสิ่งที่พวกตนเห็น  หลายคนลังเลว่าจะเอ่ยแทรกศิษย์อาจารย์ตรงหน้านี้ดีไหม

    แต่น่าเสียดาย ดูเหมือนพลังยุทธ์ของเจ้ากำลังหยุดชะงักการเติบโต  เกิดเรื่องอะไรขึ้น?จู่ ๆ เหิงอีก็ยิงคำถามที่เหลือเชื่อออกมา  กระทั่งยี่ฟงยังอึ้งไปเหมือนกัน  ไม่คาดคิดว่าเอไอตัวนี้จะสามารถมองทะลุปรุโปร่งได้ถึงเพียงนี้

    ศิษย์เผชิญกับกำแพงสูงชัน  เวลานี้ไม่อาจก้าวข้าม  คงต้องพึ่งพาให้ท่านอาจารย์ช่วยชี้แนะแล้วยี่ฟงตีเนียนไปอย่างลื่นไหลไม่ติดขัด  มังกรเฒ่าที่เงี่ยหูฟังอยู่ถึงกับเบ้ปากหมั่นไส้และคงเป็นไปไม่ได้ที่เหิงอีจะช่วยอะไรเกี่ยวกับในเรื่องนี้

    ตัวละครยี่ฟงเจอระบบล็อคการเลื่อนเลเวลโดยตรง  ฉะนั้นเอไอซึ่งก็อยู่ภายใต้ระบบเกมเช่นกันจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้?

    อืมเส้นทางของผู้ฝึกตนบำเพ็ญเพียรก็เป็นเช่นนี้เอง  บางครั้งก็ต้องเผชิญกับอุปสรรคที่ยากจะก้าวข้ามด้วยลำพังตัวคนเดียวเหิงอีกล่าวรำพึงรำพันอย่างผู้อาวุโส แววตาลึกล้ำจรดมองพินิจยี่ฟงเขม็ง กล่าวต่อไปว่า เช่นนั้นให้อาจารย์ได้ลองช่วยเจ้า

    ยี่ฟงเผลอตัวจนยิ้มกว้าง  นี่หรือจะเป็นดังเช่นที่โบราณเขาว่าไว้  รับทรัพย์ในคราวเคราะห์?  คิคิ

    ไม่ต้องสงสัยเลยว่ากลุ่มเพลเยอร์ที่ยืนเป็นหัวหลักหัวตออยู่ข้างหลัง  กำลังตื่นตะลึงกันแค่ไหน  และดูเหมือนว่าผู้ทดสอบด่านประลองตัวเบาจะหลงลืมหน้าที่ของตนเองไปเรียบร้อยแล้วกระมัง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×