ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ทะลุฟ้า ป่วนยุทธภพ (สถานะ จบไตรภาคแรก)

    ลำดับตอนที่ #11 : ไส้ศึก

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 26.52K
      1.23K
      6 ม.ค. 61

    แกมีสิทธิ์ออกคำสั่งตั้งแต่เมื่อไรวะไอ้แก่  

    จอมทัพกระบี่ดำสวนขึ้นมาโดยไม่สนเรื่องอาวุโสแม้แต่น้อย  

    มันกับขุนพลทะเลเพลิงพากันพุ่งออกไปปะทะราวเสียสติ  เปิดช่องให้ศัตรูส่งคนออกมาประกบถ่วงเวลาพวกมันเอาไว้  ส่วนอีกแปดคนที่เป็นกำลังหลักยังคงทะยานเข้าโจมตีกลุ่มของเหนือฟ้าตามเดิม

    หือ!?  ไอ้ยักษ์โง่สองตัวนั่นทำไมถึงไม่ตกเป็นเป้าหมาย  ยี่ฟงหรี่ตาพลางตั้งข้อสงสัยในใจ  ศัตรูเลือกทุ่มกำลังมาทางนี้ทั้งที่มีโอกาสสังหารคนแตกกลุ่มได้ง่าย ๆ ก่อนเนี่ยนะ!?

    เนื่องจากยี่ฟงสวมใส่ชุดเริ่มต้นจึงไม่อยู่ในสายตาของศัตรู  กลายเป็นว่าเหนือฟ้า มุกทิวา หยกราตรี   และมังกรเฒ่าล้วนถูกกลุ้มรุมสองต่อหนึ่ง  เหลือแต่ยี่ฟงซึ่งไม่ต้องปะทะกับใคร   เขาจึงสามารถแยกตัวออกไปเฝ้าสังเกตการณ์ได้โดยง่าย  ขณะเดียวกันก็ก้มลงเก็บเศษหินติดมือมาด้วยท่าทางสบาย ๆ

    ศัตรูกลุ่มนี้คงเป็นศิษย์ระดับต่ำจากวังจักรพรรดิ  ฝีมือคงไม่สูงไปกว่ากลุ่มของเรานัก    ยี่ฟงคาดเดาพลางโยนหินในมือเล่น      ส่งให้มังกรเฒ่าที่เหลือบมองชายหนุ่มเป็นระยะ ๆ ต้องย่นคิ้วลำบากใจ         ศัตรูเองก็เริ่มจะหมั่นไส้พฤติกรรมที่ว่าจนอยากจะเปลี่ยนเป้าหมายเข้าไปซัดหน้ายี่ฟงซะเดี๋ยวนั้น

    เอ็งไม่คิดจะช่วยกันเลยรึไงวะไอ้ตัวแสบ!

    มังกรเฒ่าบ่นขึ้นมาในใจ

    การปะทะดุเดือดมาก  ผู้ที่พลาดพลั้งต่างก็ได้รับบาดแผลไปไม่น้อย     ทว่ายี่ฟงแทบจะเงยหน้าหัวเราะเมื่อจ้องไปทางคู่หูนรกที่แตกกลุ่มออกไปแต่แรก  การต่อสู้ของคนทั้งสองแม้จะดูหนักหน่วงทุกกระบวนท่า    แต่หากวิเคราะห์อย่างใจเย็นจะพบว่า  ทั้งสองฝ่ายต่างก็จู่โจมอย่างเรียบง่ายจนแทบไม่ต้องลำบากในการหลบเลี่ยงหรือต้านรับเอาไว้เลย

    ขณะที่กลุ่มหนึ่งเริ่มปรากฏบาดแผลสาหัสถึงตาย  กลับกัน  กลุ่มสองแทบไม่ได้รับบาดเจ็บเลยด้วยซ้ำ

    แต่ทำไมศัตรูถึงเปิดเผยตัวตนออกมาเร็วนัก…?

    ยี่ฟงขมวดคิ้วคิดไม่ตก

    หากเป็นเขาที่คิดจะเปิดฉากลอบโจมตีศัตรูล่ะก็  ย่อมต้องใช้อาณาเขตป่ากลืนวิญญาณให้เป็นประโยชน์ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งอย่างแน่นอน

    พวกเราถอย!!

    ยี่ฟงหลุดจากห้วงความคิดหลังได้ยินศัตรูตะโกนสั่งการ   ทั้งที่พวกมันกำลังมีเปรียบและสามารถกวาดล้างกลุ่มของเหนือฟ้าได้ทั้งหมดแน่ ๆ  แต่กลายเป็นว่าศัตรูเลือกที่จะล่าถอยกลับไปเสียอย่างนั้น

    หึ  จะมีแผนอะไรก็ช่างเถอะแต่คิดหนีไปง่าย ๆ แบบนี้จะไม่ดูถูกกันไปหน่อยรึไง

    ยี่ฟงกล่าวเสียงเบา     พริบตาที่ศัตรูทิ้งระยะห่างออกไปเขาก็ลอบซัดหินเข้าใส่หนึ่งในพวกมันที่รั้งอยู่ท้ายสุดเอาไว้ก่อน    เพียะ! โอ้ย!   เสียงร้องเจ็บปวดดังขึ้นมาพร้อม ๆ กับที่ร่างของชายในชุดจอมยุทธ์สีเขียวล้มไถลลงไปกับพื้น

    ลุง!  จับมันมาให้ได้  ยี่ฟงตะโกนสั่งการ

    ศัตรูคนอื่นชะงักหันกลับมาด้วยสีหน้าตกใจ  ทว่ายี่ฟงซัดหินขัดขวางเอาไว้ไม่ให้พวกมันกลับมาช่วยเหลือเพื่อนได้ทัน  ขณะเดียวกันมังกรเฒ่าก็พุ่งออกไปโดยไม่ต้องเสียเวลาคิดไตร่ตรอง  กระทั่งบรรลุเป้าหมายจับกุมหนึ่งในศัตรูกลับมาได้ในที่สุด  ยี่ฟงเองก็หยุดโจมตีปล่อยให้ศัตรูที่เหลือจ้องกลับมาด้วยสีหน้าอาฆาต      แต่ดูเหมือนพวกมันจะถอดใจถึงได้พากันวิ่งหายเข้าไปในป่าเสียหมด

    ไม่น่าเชื่อว่านายจะมีวิชายุทธ์

    หยกราตรีเดินเข้ามากล่าวด้วยความประหลาดใจ

    วิชายุทธ์!?  ฮ่า ฮ่า ฮ่า  ฉันก็แค่ขว้างหินที่เก็บขึ้นมาจากพื้นเท่านั้น

    หญิงสาวแสดงสีหน้าเบื่อโลก  เธอไม่เชื่อยี่ฟงแม้แต่น้อย

    ฝ่ายเขาคนที่บาดเจ็บหนักที่สุดคือมุกทิวาแต่เธอก็ยังไม่ตาย            แม้ต้องรับมือสองต่อหนึ่งก็ยังไม่เพลี่ยงพล้ำ  ในสายตาของยี่ฟงแล้วคนทั้งสี่มีศักยภาพเพียงพอที่จะเป็นยอดฝีมือไม่น้อยไปกว่ากัน    เมื่อเลเวลของพวกเขาอยู่ในระดับสูงย่อมต้องสร้างชื่อเสียงขจรไกลได้ไม่ยากนัก

    เอ็งจะเอายังไงกับเชลยของเราดี

    มังกรเฒ่าที่เสียเวลามัดมือเท้าศัตรูอยู่เมื่อครู่เดินเข้ามาถาม

    ก็ต้องเค้นความลับมาให้ได้มากที่สุดอยู่แล้วลุง

    ยี่ฟงตอบพร้อมเผยยิ้มเจ้าเล่ห์

    ความลับ!  เรื่องอะไรวะ

    ฉัวะ!  อ๊ากกก!

    ทว่าก่อนที่ชายหนุ่มจะได้อธิบาย  จอมทัพกระบี่ดำมันก็ลอบลงมือสังหารเชลยไปเสียแล้ว     คมกระบี่จู่โจมเข้าจุดตายเพียงครั้งเดียวร่างชายชุดเขียวก็สลายเป็นละอองไปทันที

    เฮ้ย!  ทำอะไรของเอ็งวะ

    มังกรเฒ่าถามสีหน้าเอาเรื่อง  ดูเหมือนชายแก่จะหมดความอดทนแล้ว

    แก่แล้วสายตาไม่ดีรึไง!?

    จอมทัพกระบี่ดำสวนกลับอย่างไม่ทุกข์ร้อนโดยมีขุนพลทะเลเพลิงคอยเป็นลูกหาบส่งเสียงหัวเราะตอกย้ำ

    คนในกลุ่มต่างก็มีสีหน้าไม่พอใจก่อนจะเป็นเหนือฟ้าที่กล่าวขึ้นมาบ้างว่า

    พวกนายสองคนกำลังทำให้กลุ่มเราลำบาก

    แกอย่ามาอวดดีหน่อยเลย  ถ้าเกิดศัตรูมันเปลี่ยนใจกลับมาช่วยเพื่อนล่ะก็  มีหวังได้ตายกันหมดแน่

    ฉลาดมาก!  ยี่ฟงเอ่ยแทรกขึ้นมาจนทุกคนจ้องไปที่เขากันหมด  แต่น่าเสียดาย  ฉันกับลุงไม่คิดจะร่วมทางไปด้วยแล้ว  เชิญพวกนายนำหน้าไปก่อนได้เลย

    นายพูดจริงหรือยี่ฟง

    เหนือฟ้าถาม  น้ำเสียงดูไม่ค่อยเห็นด้วย

    เฮอะ!  มีแกก็เหมือนไม่มีแหละว่ะ  เมื่อกี้ฉันเห็นแกหลบออกไปจากการต่อสู้  แทบไม่มีประโยชน์ด้วยซ้ำ

    นายหุบปากไปก่อนได้ไหมจอมทัพ!?  เหนือฟ้าเผลอขึ้นเสียงเป็นครั้งแรก   เพื่อนสาวทั้งสองถึงกับแสดงสีหน้าไม่ถูก  ส่วนจอมทัพกระบี่ดำเลือดขึ้นหน้าแต่ก็ทำได้แค่อดกลั้นความโกรธแค้นเอาไว้

    ยี่ฟงไม่สนใจใครอีก  เขาหันหลังเดินกลับไปนั่งลงบนพื้นหญ้าโดยมีมังกรเฒ่าก้าวตามไปด้วย             เห็นดังนั้นเหนือฟ้าก็ได้แต่เม้มปากแน่นก่อนจะรู้สึกผิดหวังอยู่ในใจ

    พวกเราออกเดินทางกันต่อเถอะ

    เหนือฟ้าก้มหน้ากล่าวไม่ค่อยเต็มเสียงนัก

    แม้เขาจะไม่ต้องการเช่นนี้แต่ก็ไม่อยากเป็นคนเห็นแก่ตัวไปเซ้าซี้บังคับใคร  เหนือฟ้าถอนหายใจพร้อมเดินนำไปก่อนใครเพื่อน  คนอื่น ๆ ก็ทยอยกันเดินตามเข้าไปในป่า  แต่คู่หูนรกก็ไม่วายหันกลับมาชูนิ้วกลางให้

    ทำไมถึงปล่อยไอ้หนูเหนือฟ้ากับสาว ๆ ร่วมทางไปกับคนอันตรายแบบนั้นวะ

    มังกรเฒ่าเปิดปากถาม

    เรื่องนี้ไม่ธรรมดาแล้วลุง  ดูเหมือนไอ้ยักษ์เลวสองตัวนั่นจะเป็นไส้ศึกของทางวังจักรพรรดิ

    ชายแกตกใจจนตาทั้งสองเบิกกว้าง  ฝ่ามือคว้าจับเข้าที่ไหล่ของชายหนุ่ม  เอ็งมั่นใจแค่ไหน!?

    ยี่ฟงเผยยิ้มบาง  จากนั้นอธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้อีกฝ่ายฟังด้วยท่าทางเรื่อยเฉื่อยไม่รีบเร่งอะไรนัก      กระทั่งมังกรเฒ่าคล้ายได้รับความกระจ่าง  แต่ก็ต้องรู้สึกเคร่งเครียดและคิดหนักพอสมควร

    เออว่ะ!  มาคิดดูแล้วข้าก็ยังสงสัยอยู่เหมือนกัน  จู่ ๆ ศัตรูก็หยุดโจมตีพวกเราซะงั้น

    ชายหนุ่มแววตาทอประกายลึกล้ำพลางเอ่ยว่า

    ที่ฉันแยกกลุ่มออกมาก็เพื่อจะได้เคลื่อนไหวสะดวกยังไงล่ะ  อีกอย่างลุงคงเชื่อแล้วสินะว่าฉันเป็นยอดฝีมือจริง ๆ ถึงได้ยอมตามมาด้วยง่าย ๆ แบบนี้  อิอิ

    ข้าก็ไม่อยากจะเชื่อนักหรอกว่ะ

    มังกรเฒ่ากล่าวอย่างวางท่าส่งให้ยี่ฟงเงยหน้าหัวเราะผ่อนคลายออกมาได้

    แล้วเอ็งจะเคลื่อนไหวยังไงต่อ  ขืนปล่อยไปนานกว่านี้ข้าว่าเหนือฟ้ากับสาว ๆ คงไม่รอด

    อันดับแรกพวกเราคงต้องค้นหาที่ตั้งของหมู่บ้านซะก่อน          ฉันมั่นใจมากว่าศิษย์วังจักรพรรดิจะต้องมีความเกี่ยวข้องกับกองโจรในพื้นที่แถบนี้แน่ ๆ  ส่วนเรื่องที่ลุงกังวลมันไม่เกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้หรอก

    เอ็งมั่นใจได้ยังไงวะ

    ก็ถ้ามันต้องการจะสังหารพวกเราจริง  มีเหตุผลอะไรจะต้องถอนตัวกลับไปด้วยล่ะ

    มังกรเฒ่าคิดตามและไม่ได้กล่าวอะไรออกมาอีก

    ส่วนยี่ฟงกำลังเปิดหน้าต่างข้อมูลภารกิจขึ้นมาพินิจอีกครั้ง    กระทั่งสายตาดุดันของชายหนุ่มหยุดลงที่ประโยคหนึ่งหลังข้อมูลของหัวหน้ากองโจร      มันกำกับเอาไว้ว่ามอนสเตอร์หัวหน้าโจรตัวนี้ยังไม่เคยถูกสังหารมาก่อนแม้แต่ครั้งเดียว!

    ป่ากว้างขนาดนี้งั้นพวกเราเลือกไปคนละทิศกับกลุ่มแรกก็แล้วกัน  ไปกันเถอะลุง

    เมื่อมังกรเฒ่าไม่ได้แย้งอะไร  คนทั้งสองจึงออกเดินทางในที่สุด

    แม้อาณาเขตแห่งนี้จะเป็นป่ารกชัฏทว่ามันก็ยังหลงเหลือเส้นทางให้ก้าวผ่านไปได้อย่างไม่จบสิ้น   ยังดีที่เกมนี้มีระบบแผนที่ให้แก่เพลเยอร์  แต่ส่วนใหญ่แล้วแผนที่ในหน้าต่างระบบของยี่ฟงยังคงเป็นสีดำมืด          ส่วนที่แสดงรายละเอียดล้วนแต่เป็นเส้นทางที่ชายหนุ่มเคยผ่านมาก่อนทั้งนั้น

    ยี่ฟง  ข้างหน้านั่น

    หลังจากเดินทางมาได้ยี่สิบนาทีมังกรเฒ่าก็ชี้ให้ชายหนุ่มสังเกตดู  เบื้องหน้าห่างออกไปเกือบ 10 เมตร  ปรากฏร่างของกระทิงป่าล้มอยู่กับพื้นท่าทางใกล้ตาย

    เพลเยอร์พบกระทิงเขาปีศาจเลเวล 25

    เสียงแจ้งของระบบถึงกับทำให้มังกรเฒ่าตาลุกวาวและชิงพุ่งตัวออกไปโดยไม่ทันคิด    หวังจะชุบมือเปิบสังหารกระทิงเขาปีศาจอย่างรวดเร็ว     ยี่ฟงที่กำลังกวาดสายตาพินิจรอบข้างเพื่อความปลอดภัยเลยต้องรีบร้องเตือนขึ้นว่า

    เดี๋ยวก่อนลุง!

    โธ่ไอ้หนุ่ม  ของแบบนี้มันใครดีใครได้โว้ย  ฮ่า ฮ่า”  มังกรเฒ่าหัวเราะชอบใจ  พอเข้าประชิดกระทิงเขาปีศาจได้แล้วเขาก็รีบใช้กระบี่โจมตีใส่ทันที   แต่พริบตาก่อนที่คมกระบี่จะได้สัมผัสร่างกระทิงตัวนั้นก็พลันปรากฏรากไม้พุ่งขึ้นมาจากใต้พื้นเข้ารัดข้อมือของมังกรเฒ่าเอาไว้เสียก่อน

    กับดัก!  ยี่ฟงอุทาน

    ต้นไม้ปีศาจสังหารเลเวล 27 โจมตี

    ยี่ฟงและมังกรเฒ่าตาโต  นี่แทบจะเป็นมอนสเตอร์ที่เลเวลเยอะที่สุดตั้งแต่พวกเขาออกเดินทางมาเลยก็ว่าได้

    ยี่ฟง  อย่ายืนเฉยสิโว้ย  มาช่วยกันเร็วเข้า!

    ชายแก่ร้องเสียงแหบแห้ง  มือข้างที่ถือกระบี่อยู่ถูกพันธนาการไว้เสียแน่นหนาจนยากที่จะต่อต้าน

    อยู่เฉย ๆ ลุง!  ดูเหมือนยิ่งขัดขืนมันก็จะยิ่งกลืนกินเหยื่อเร็วขึ้นเท่านั้น

    ยี่ฟงรีบชักกระบี่คลาส D ออกมาเตรียมพร้อม เขารู้สึกสยองมากเมื่อพบว่าที่ลำต้นไม้กำลังแยกออกกว้างคล้ายเป็นปากของสัตว์อสูรชนิดนี้  โชคดีที่มันเคลื่อนไหวช้ามาก  ไม่เช่นนั้นมังกรเฒ่าคงถูกมันกระชากเข้าปากไปนานแล้ว

    โอ้ย!!  มันรัดแน่นขึ้นจนข้อมือข้าจะหักแล้ว

    ชายแก่ส่งเสียงร้องเจ็บปวด

    ยี่ฟงไม่รอช้ารีบทะยานเข้าช่วยเหลือ      กระบี่ในมือถูกตวัดฟันใส่รากไม้สุดแรง   ฉัวะ!    รากไม้ขาดสะบั้นปลดปล่อยมังกรเฒ่าเป็นอิสระ  ยี่ฟงจึงฉวยโอกาสลากชายแก่ออกห่างต้นไม้ปีศาจสังหารอย่างรวดเร็ว  ขณะเดียวกันรากไม้ก็เลื้อยกลับลงไปใต้ดินตามเดิม  ปากตรงลำต้นก็ค่อย ๆ หุบสมานติดกันอย่างแนบเนียนจนดูไม่ออกว่าที่แท้มันคือมอนสเตอร์ตัวหนึ่ง

    เกือบได้เป็นปุ๋ยให้ต้นไม้แล้วไหมล่ะ

    ยี่ฟงกล่าวติดตลก

    เฮอ  ใครจะไปรู้วะ  มันเล่นใช้เหยื่อล่อเหยื่ออีกทีหนึ่งเนี่ยนะ  เป็นแค่ต้นไม้จะล้ำเกินไปไหม!

    มังกรเฒ่าปาดเหงื่อ  สีหน้าตกใจไม่หาย

    ลุงรอนี่แปป  เดี๋ยวฉันขอลองบ้าง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×