คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #39 : พบเจอปัญหา
เนื่องจากโอกาสมีแค่ครั้งเดียวยี่ฟงจึงต้องคิดให้รอบคอบ ครู่หนึ่งเขาก็ตัดสวนสมุนไพรออกจากตัวเลือกเป็นลำดำแรกเพราะปัจจุบันยี่ฟงไม่มีความรู้เกี่ยวกับสมุนไพรแม้แต่น้อย เกรงว่าเมื่อเข้าไปแล้วรางวัลที่ได้คงไม่คุ้มค่าสักเท่าไร
“ฉันต้องหาจังหวะศึกษาเรื่องสมุนไพรไว้บ้างแล้วสินะ”
ยี่ฟงเตือนตัวเอง จากนั้นหันไปมองคลังสมบัติและหอคัมภีร์วิชายุทธ์
ถ้าให้เลือกย่อมไม่พ้นเป็นหอคัมภีร์แน่
ๆ ทว่ามีบางอย่างกวนใจเขาอยู่ แต่ยี่ฟงก็พยายามสลัดความรู้สึกลังเลออกไป เขารีบก้าวเดินไปยังหอคัมภีร์ตรงกลางอย่างรวดเร็วกระทั่งปลายเท้าหยุดชะงักลงที่ขอบประตูพอดิบพอดีนั่นเพราะยี่ฟงคล้ายสำนึกอะไรขึ้นมาได้กะทันหัน
“วิชายุทธ์กับสมุนไพรบนยุทธภพก็นับเป็นสมบัติอย่างหนึ่งเหมือนกันนี่หว่า”
ยี่ฟงเหลือบมองไปยังคลังสมบัติ หากเขาคิดถูกเรื่องนี้ผลลัพธ์จะต่างออกไปทันที
สวนสมุนไพรก็ต้องอุดมไปด้วยสมุนไพรหลากหลายชนิดให้เพลเยอร์ได้เลือกจนหัวหมุน
ส่วนหอคัมภีร์วิชายุทธ์ยิ่งแล้วใหญ่ จะต้องใช้เวลานานแค่ไหนคนผู้หนึ่งถึงจะตรวจสอบคัมภีร์ได้ครบทุกเล่ม
แต่ที่สุดแล้วทั้งสองห้องนี้แสดงรางวัลอย่างชัดเจนต่างจากคลังสมบัติที่จะเป็นอะไรก็ได้ สิ่งที่รบกวนยี่ฟงอยู่ก็คือทำไมคลังสมบัติไม่ระบุรางวัลให้ชัดเจนเหมือนอีกสองห้อง!? นั่นยิ่งดึงดูดความสนใจยี่ฟงมากเข้าไปอีก
“เอาวะ”
ยี่ฟงตัดสินใจเปลี่ยนทิศทางเดินเข้าไปในคลังสมบัติแทนเพราะความอยากรู้ล้วน
ๆ
ภายในนั้นปูพื้นด้วยตำลึงทอง ยี่ฟงต้องเหยียบย่ำผ่านไปอย่างช่วยไม่ได้ ที่ด้านในสุดติดกำแพงปรากฏเสาหินสูงระดับอกอยู่สามเสา
เสาแรกมีต้นหญ้าหรือดอกไม้ประหลาดอะไรสักอย่างวางอยู่
เสาตรงกลางมีคัมภีร์เล่มหนึ่ง
แต่เสาสุดท้ายกลับว่างเปล่า
ยี่ฟงเงยหน้าอ่านคำอธิบายบนป้ายติดผนัง
ซึ่งมันระบุไว้ว่า
นับว่าท่านเป็นผู้มีปัญญาเฉียบแหลมไม่เบาที่เลือกเข้ามายังคลังสมบัติ รางวัลของท่านมีอยู่ด้วยกันสามสิ่งคือ หนึ่งสมุนไพร หนึ่งคัมภีร์ และหนึ่งสิ่งที่ท่านปรารถนาจะครอบครองในคลังสมบัติแห่งนี้
ยี่ฟงเผยยิ้มกว้าง เขากวาดสายตาไปทั่วพบเห็นชุดเกราะและศัสตราหลากหลายชนิดแขวนติดผนังอยู่ทุกด้าน บนพื้นก็มากล้นไปด้วยตำลึงทอง พริบตายี่ฟงก็เลือกได้แล้วจะเอาอะไรจากห้องนี้ เขาทดลองเก็บตำลึงทองขึ้นมากำหนึ่ง เสียงระบบก็แจ้งขึ้นว่า
‘ท่านได้รับรางวัลเป็นเงินจำนวน 10,000,000 ตำลึงทอง’
“เหมือนถูกหวยเลย
ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
ยี่ฟงเงยหน้าหัวเราะก่อนจะเดินเข้าไปคว้าสมุนไพรและคัมภีร์บนเสาทั้งสอง
‘ท่านได้รับรางวัลเป็น รากชีพจรด่านกษัตริย์’
‘ท่านได้รับรางวัลเป็น คัมภีร์คลาส B ขุนศึกคำราม’
ยี่ฟงเผยยิ้มแห้ง เขาไม่ทราบสมุนไพรที่ได้มามีสรรพคุณด้านอะไรจึงเก็บเข้ากรุไปก่อนยาว
ๆ ส่วนวิชายุทธ์คลาส B ที่ว่ามีความสามารถอะไรนั้นยี่ฟงแทบไม่ต้องเปิดอ่านก็พอจะเดาได้แล้ว
วิชายุทธ์คลาส
B ขุนศึกคำราม
เพลเยอร์เลเวล
40 ที่ได้ร่ำเรียนวิชานี้เมื่อตะโกนออกไปจะบังเกิดคลื่นเสียงช่วยลดความสามารถของเป้าหมายในด้านวิชาตัวเบาลง
เพลเยอร์เลเวล50 ที่ได้ร่ำเรียนวิชานี้เมื่อตะโกนออกไปจะบังเกิดคลื่นพลังทำลายล้างเป็นบริเวณกว้างด้านหน้า
ยี่ฟงไม่เรื่องมาก เขาประทับฝ่ามือร่ำเรียนวิชายุทธ์เล่มนี้เพื่อเสริมความสามารถให้ตัวเองก่อนจะเก็บเข้าช่องเก็บของไป ยี่ฟงกลับออกมาจากคลังสมบัติและเร่งเดินทางต่อในทันที
หลายวันก่อนหน้านี้
ทางด้านของกิลด์ใหญ่ทั้งห้าหลังจากผ่านห้องโถงที่สองไปได้ พวกเขาก็ต้องเสียเวลาอีกครั้งบริเวณทางขาดที่มีความยากกว่าเดิมหลายเท่าตัว สมาชิกหลายคนที่ติดตามจ้าววังทั้งห้ามาพลาดพลั้งตกตายลงที่นี่จำนวนหนึ่ง
พอผ่านกันมาได้ รางวัลปลอบใจก็รอคอยพวกเขาอยู่ซึ่งไม่ต่างอะไรจากที่ยี่ฟงได้พบเจอ
“นายจะเลือกห้องไหนพิชิตหล้า”
จักรพรรดิมังกรเอ่ยถาม เทพกลยุทธ์พิชิตหล้าที่ยืนไตร่ตรองอยู่จึงตอบกลับไปว่า
“ต้องเลือกหอคัมภีร์อยู่แล้วสิ ในนั้นอาจจะมีคัมภีร์คลาสสูงซ่อนอยู่ก็ได้”
“นายมั่นใจหรือ”
จักรพรรดิมังกรถามย้ำ
“หรือนายอยากจะเลือกสวนสมุนไพรไม่ก็คลังสมบัติล่ะ แต่ฉันไม่แนะนำหรอกนะ”
พิชิตหล้าถามกลับง่าย
ๆ
“เอาตามนายว่าแล้วกัน ทุกคนเข้าไปช่วยกันหาคัมภีร์คลาสสูงเร็วเข้า!”
จักรพรรดิมังกรสั่งการเสียงเข้ม
ไม่นานหลังจากพวกเขาเลือกเข้าไปยังหอคัมภีร์ จากที่คิดว่าจะพบเจอคัมภีร์คลาสสูงให้ชื่นใจบ้างแต่ผ่านมาห้านาทีแล้วก็ยังเจอแต่คลาสต่ำ
ๆ ตั้งแต่ E-F
ทั้งยังถูกกำหนดให้เลือกได้แค่คนละหนึ่งเล่มอีกด้วย
“นี่มันไม่ได้เรื่อง!”
จักรพรรดิมังกรทนไม่ไหวตวาดลั่นออกมา
“นายใจเย็น ๆ สิวะ พวกเรายังค้นไปได้ไม่ถึงครึ่งห้องเลย บางทีคัมภีร์คลาสสูงอาจจะซ่อนอยู่สักที่ก็ได้”
พิชิตหล้าพยายามเชื่ออย่างนั้นและให้ความหวังจ้าววังอารมณ์ร้ายไปด้วยในตัว
อีกเส้นทางหนึ่งบริเวณหน้าห้องรางวัลทั้งสาม
“เธอคิดว่ายังไงลวงภพ”
นภาเอ่ยถามท่าทางสบาย
ๆ
“ฉันเลือกสวนสมุนไพร”
ลวงภพตอบชัดเจน ขณะที่เพลิงพิษแย้งขึ้นมาว่า
“เธอคิดว่าจะได้อะไรจากที่นั่นหรือ ฉันว่าคงมีแต่หญ้าแห้งไม่ก็สมุนไพรเกรดต่ำแน่ ๆ”
“ทำไมเธอคิดแบบนั้นล่ะเพลิงพิษ”
นภาหันไปถามคล้ายต้องการคำอธิบาย
“ก็ที่นี่คงไม่มีคนดูแล สวนสมุนไพรย่อมไม่มีทางอยู่ในสภาพดีรอให้ใครมาเก็บเกี่ยวไปหรอกนะ”
เพลิงพิษตอบตามที่คิด
“ที่เธอพูดก็มีเหตุผล แล้วเธอล่ะลวงภพ ยังคิดจะเลือกสวนสมุนไพรอยู่อีกไหม”
นภากล่าวเห็นด้วยและหันไปถามเพื่อนสาวตัวเล็กอีกครั้ง
“ขอเปลี่ยนเป็นหอคัมภีร์แทนแล้วกัน เมื่อกี้ฉันมัวแต่คิดถึงสมุนไพรหายากจนลืมไตร่ตรองให้ดีก่อน”
ลวงภพกล่าวโทษตัวเอง
“อย่าคิดมากเลย
เธอมีสายรองเป็นนักปรุงยาจะอยากเลือกสวนสมุนไพรย่อมไม่แปลก”
นภากล่าวน้ำเสียงอ่อนโยนพลางยิ้มแย้มทำลายบรรยากาศอึดอัด
“แล้วจ้าววังเลือกห้องไหนหรือคะ”
สมาชิกหญิงคนหนึ่งเอ่ยถาม ลวงภพกับเพลิงพิษก็เงี่ยหูรอฟังอย่างสนใจ
“แน่นอนว่าต้องเลือกคลังสมบัติอยู่แล้วสิ ฮิฮิ”
นภาตอบพลางหัวเราะคิกคักเพราะสีหน้าของสมาชิกรอบกายเธอมันดูเหวอมาก
“ทำไมถึงเลือกคลังสมบัติล่ะ”
ลวงภพถามอย่างไม่เข้าใจ
“ก็คลังสมบัติเป็นห้องเดียวที่ไม่ได้ระบุรางวัลให้ชัดเจนนี่ หมายความว่าภายในนั้นจะมีทั้งคัมภีร์วิชายุทธ์
สมุนไพร หรือเงินและยังรวมไปถึงกองอาวุธก็ย่อมได้เช่นกัน”
“สมเป็นควีนของพวกเราจริง ๆ”
สมาชิกหญิงหลายคนกล่าวเทิดทูน แต่เพลิงพิษยังสงสัยจึงอดถามขึ้นมาไม่ได้ว่า
“พวกเราเลือกหอคัมภีร์ไปเลยไม่แน่นอนและคุ้มค่ากว่าหรือ”
“เธอคิดว่าเกมนี้จะยัดคัมภีร์คลาสสูงเป็นตั้ง ๆ
เอาไว้ภายในห้องเดียวหรือเพลิงพิษ ถ้าเราเลือกหอคัมภีร์ก็คงเสียเวลาเพื่อค้นหาคัมภีร์คลาสสูงที่ไม่แน่ว่าจะมีอยู่จริงหรือเปล่า ฉันว่าเรายอมเสี่ยงดวงไปกับคลังสมบัติและรีบมุ่งหน้าต่อไปให้เร็วจะคุ้มค่ามากกว่านะ”
นภาอธิบายอย่างชัดเจน พอทุกคนได้คิดตามแล้วก็เห็นตรงกันในที่สุด
“กลุ่มไหนโลภมากและไม่ทันได้คิดให้ถี่ถ้วนแล้วล่ะก็ พวกเขาคงเลือกหอคัมภีร์แน่ ๆ”
ลวงภพกล่าวเพราะเชื่อว่าเพลเยอร์ทุกคนเห็นวิชายุทธ์มีค่ามากที่สุดในเกมนี้ ยิ่งมีโอกาสที่จะพบคัมภีร์คลาสสูงด้วยแล้วคนยิ่งไม่มีทางปล่อยผ่านไปง่าย ๆ
“และพวกเขาก็จะเสียเวลามากตามไปด้วยเช่นกัน พวกเราเองก็รีบเข้าเถอะ”
นภากล่าวเสริมและออกตัวเดินเข้าสู่คลังสมบัติเป็นคนแรก
เพียงล้ำเข้าไปได้ไม่กี่ก้าวสาว
ๆ ก็ตาโตอมยิ้มกันเป็นแถว ๆ
“เธอคิดถูก
ที่นี่รวบรวมทุกอย่างที่มีราคาเอาไว้ทั้งหมดเลย”
เพลิงพิษเอ่ยด้วยท่าทางโล่งอก นภายิ้มรับน้อย ๆ และตรงเข้าไปอ่านคำอธิบายบนป้ายเหนือเสาทั้งสาม…
ขณะเดียวกันกลุ่มของนทีก็รอบคอบไม่แพ้กลุ่มสาว
ๆ พวกเขาตัดสินใจแบ่งเป็นสองกลุ่มแยกไปคลังสมบัติและสวนสมุนไพร ส่วนหอคัมภีร์ไม่อยู่ในตัวเลือกตั้งแต่ต้นเพราะมีแต่คนโง่และความโลภบังตาเท่านั้นถึงจะเข้าไปงมเข็มในมหาสมุทร
ขณะที่กลุ่มของสังหารเทพมีความโลภอยู่เจือจาง พวกเขาแบ่งเป็นสามกลุ่มเข้ามันทั้งสามห้องไปเลย…
และสุดท้ายคือกลุ่มของเซียนหิมะ พวกเธอตัดสินใจอย่างเรียบง่ายเลือกคลังสมบัติเพราะต้องการทุนด้านเงินตราสนับสนุนกิลด์มากกว่านี้ กลายเป็นว่ากลุ่มของเธอโชคดีโดยบังเอิญอย่างแท้จริงเพราะไม่ต้องเสียเวลางมอยู่กับคัมภีร์คลาสต่ำภายในหอคัมภีร์ และยังรอดไปจากสวนสมุนไพรที่ไม่ทราบว่าจะอยู่ในสภาพดีหรือไม่
ปัจจุบัน
ยี่ฟงใช้เวลาเดินทางครึ่งชั่วโมงก็พบบานประตูหินขวางกั้นเอาไว้ บนผิวของประตูคล้ายมีกลไกบางอย่างให้ปรับแก้
กลไกที่ว่าคือกระดานสี่เหลี่ยมผืนผ้า บนนั้นแสดงตำแหน่งของต้นไม้ ภูเขา แม่น้ำ และฐานบัญชาการระหว่างสองฝ่ายที่ตั้งอยู่คนละฟากกระดาน ยังมีตัวหมากนักรบทั้งพลม้า ทหารเลว และแม่ทัพใหญ่
ยี่ฟงไล่สายตามองหาคำอธิบายก่อนจะหยุดลงทางด้านขวา บนผิวของกำแพง
สองทัพเผชิญหน้า
หนึ่งเดียวที่ชนะ
ฐานบัญชาการสีฟ้าคือข้า สีแดงคือศัตรูผู้รุกราน
หากข้าพ่ายแพ้เจ้าตาย หากชนะย่อมผ่านไปได้
“เหอะ ๆ
ทำไมฉันต้องพยายามในสงครามของคนอื่นด้วยวะ”
ยี่ฟงบ่นอย่างไม่ค่อยชอบใจแต่ก็ไม่มีทางเลือก เขาทรุดร่างนั่งลงกับพื้นพลางใช้ความคิดหาวิธีการอันเป็นไปได้ที่จะนำชัยชนะมาสู่ตัวเองโดยง่ายที่สุด
ก่อนหน้านี้กิลด์ใหญ่ทั้งห้าก็บรรลุถึงประตูกลเจ้าปัญหาเช่นกัน
จักรพรรดิมังกรมาถึงล้าหลังกว่าชาวบ้านเขาอยู่สองวัน ในขณะที่กลุ่มอื่น ๆ เองก็ยังคงติดอยู่ที่ตำแหน่งเดียวกัน ยากจะแก้ไขปัญหาสงครามเพราะไม่มีใครเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้
จวบกระทั่งยี่ฟงไล่มาทันแล้วคนทั้งห้ากลุ่มก็ยังไม่แน่จะผ่านพ้นไปได้โดยไม่มีใครตาย
ความคิดเห็น